สำหรับคำถามนี้ เฟิ่งเชียนอวี่ได้คิดข้ออ้างไว้นานแล้ว“พวกเราโชคดี ตอนที่กระโดดลงมา ถูกกิ่งไม้ของต้นไม้ต้นหนึ่งเกี่ยวเอาไว้ จึงทำให้พวกเราไม่ได้พบกับจุดจบที่ร่างแหลกเป็นชิ้นเนื้อ”ตงฟางจิ่งมองนาง แล้วมองตัวเอง สีหน้าแปลกๆ “เจ้าแน่ใจนะ?”อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่กระโปรงบนร่างกายเฟิ่งเชียนอวี่ก็ไม่ฉีกขาดเลยสักนิด และถึงขั้นไม่มีฝุ่นติดด้วยซ้ำตกลงมาจากหน้าผาที่สูงเช่นนี้ ต่อให้โชคดีถูกกิ่งไม้เกี่ยวเอาไว้ ด้วยแรงที่ตกลงมา เสื้อผ้าบนร่างกายก็ควรถูกเกี่ยวจนฉีกขาดกระมังเฟิ่งเชียนอวี่ย่อมรู้ว่าข้ออ้างนี้ไม่น่าเชื่อเสียเท่าไร แต่แล้วมันอย่างไรล่ะนางพยักหน้าอย่างหน้าตาย “แน่ใจสิ ไม่เช่นนั้นท่านอ๋องรู้สึกว่า เหตุใดพวกเราสองคนกระโดดลงมาแล้วยังไม่ตกตายล่ะ?”ตงฟางจิ่ง “...”เขาจะไปรู้ได้อย่างไรแต่สติสัมปชัญญะบอกเขาว่า ผู้หญิงคนนี้กำลังโกหกเขา แต่ถ้าหากไม่เชื่อคำพูดที่เหมือนแถไปเรื่อยนี้ เช่นนั้นพวกเขาลงมาอย่างปลอดภัยได้อย่างไรกันแน่?ด้วยความสูงและความชันของหน้าผานี้ ต่อให้เป็นคนที่มีวิชาตัวเบาดีเพียงใดกระโดดลงมา แม้ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัสตงฟางจิ่งคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ เขามองไปทางเฟิ่ง
เจ้าหกคงจะไม่ได้…เขาหลับตา มือที่ไพล่อยู่ข้างหลัง กำหมัดแน่นจนสั่นเล็กน้อย ส่วนเหล่าองค์ชายที่อยู่ข้างล่าง มีสีหน้าที่แตกต่างกันไปรัชทายาทตงฟางหล่างหลุบตา จิบน้ำชาเบาๆ ทีหนึ่ง รู้สึกเพียงเข้าปากแล้วหวาน หอมกลมกล่อม ดื่มจนร่างกายรู้สึกสดชื่นถึงขีดสุดส่วนตงฟางเย่าไม่อยากเชื่อเล็กน้อย ไอ้คนขี้โรคเจ้าหกที่เขาไม่ชอบหน้ามาโดยตลอด คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะตายอย่างง่ายดายทั้งเช่นนี้แล้ว?ในใจเขาแทบกำลังระเบิดเสียงหัวเราะ สวรรค์มีตาจริงๆ เหอะ ไอ้ขี้โรคคนนั้นสมควรตายตั้งนานแล้ว“ไปหาที่ใต้หน้าผา” สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนเย็นชา กล่าวออกมาทีละคำเขารู้สึกผิดต่อเจ้าหกลูกชายคนนี้มาโดยตลอด และอยากชดเชยให้เขามาโดยตลอด แต่คิดไม่ถึงว่าแค่เข้าร่วมพิธีล่าสัตว์ ก็ประสบเคราะห์ร้ายแล้วเป็นถึงองค์ชาย กลับถูกนักฆ่าบีบคั้นจนกระโดดหน้าผาในสนามล่าสัตว์ของตัวเอง นี่มันเป็นการตบหน้าราชวงศ์ เป็นการตบหน้าเขาชัดๆฮ่องเต้เทียนหยวนโกรธจนถึงขีดสุด เขาตบโต๊ะฉับพลัน เผลอใส่กำลังภายในเข้าไปด้วยโดยไม่รู้ตัว เสียงดังตูม โต๊ะแตกเป็นเสี่ยงๆ“อีกอย่าง ตรวจสอบให้ถึงที่สุด เราก็อยากรู้เช่นกันว่าตกลงใครกันแน่ ที่มันกล้าลงม
ตงฟางจิ่งไม่พูดมากอีก หลังจากจัดการเนื้อปลาที่อยู่ในมืออย่างไว แล้วล้างมือด้วยน้ำทะเลสาบ ก็ลุกขึ้นมองนาง“เจ้ารออยู่ที่นี่ อย่าไปไหนล่ะ เดี๋ยวข้ากลับมา”ทันทีที่กล่าวจบ เขากระโดดสองสามที เพียงครู่เดียวก็หายไปแล้วเฟิ่งเชียนอวี่ “...”หมอนี่ทำอะไรของเขานางมองบนทีหนึ่ง ได้แต่นั่งรออยู่ข้างทะเลสาบ หลังจากรอเกือบครึ่งชั่วยาม ตงฟางจิ่งจึงจะกลับมา“รับ” ตงฟางจิ่งโยนห่อผ้าใบหนึ่งมาเฟิ่งเชียนอวี่รีบรับไว้ด้วยความตกใจ ห่อผ้าหนักเล็กน้อย นางเปิดดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น ปรากฏว่าของที่อยู่ข้างในคือพุทราป่าสีเขียวตัดกับสีแดง มีอย่างน้อยสามสิบลูก แต่ละลูกกลมอวบอิ่ม ดูแล้วน่ารักมากนางตะลึงแล้ว “ท่านอ๋อง นี่ท่าน?”ตงฟางจิ่งกล่าวอย่างเรียบเฉย “กินเถอะ”เฟิ่งเชียนอวี่กะพริบตาปริบๆ ดังนั้นที่หมอนี่ออกไปเมื่อครู่ ที่แท้ตั้งใจไปหาของอย่างอื่นที่สามารถกินได้ให้นาง?จุๆ ตื้นตันเล็กน้อย ทำอย่างไรดีแต่แล้ว“ถ้าหากเจ้าหิวจนหน้ามืดตาลาย เดินไม่ไหว สุดท้ายคนที่จะเหนื่อยก็คือข้า ผู้หญิงเป็นตัวปัญหาจริงๆ” น้ำเสียงของตงฟางจิ่งเต็มไปด้วยความรังเกียจเฟิ่งเชียนอวี่ “...”เป็นอย่างที่คิด ตื้นตันอะ
เสียงเหนือศีรษะดังขึ้นอีกครั้ง และมาพร้อมกับความประชดประชัน“ตอนนี้เจ้าสงวนท่าทีราวกับเป็นลูกสาวบ้านผู้ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ใครกันที่ใจกล้าลงไหมลงมือกับข้านะ”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”ตงฟางจิ่งกล่าวพลางค่อยๆ โน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูนาง “ทำไม? เดี๋ยวนี้กลายเป็นคนขี้ขลาดแล้ว?”ลมหายใจอุ่นๆ กระทบบนใบหู หัวใจเฟิ่งเชียนอวี่เริ่มเต้นเร็วขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุม ใบหูแดงก่ำ อดไม่ได้ที่จะกัดฟันแม้นางชอบหนุ่มหล่อ แต่ก็แค่ชื่นชมหน้าตาและหุ่นของหนุ่มหล่อเหล่านั้น ให้ตายก็ไม่กล้ายื่นมือไปลูบกล้ามเนื้อเพื่อความฟินแม้นางหื่น แต่ไม่กามดีหรือไม่ต้องบอกก่อน ชาติที่แล้วนางอายุสามสิบแล้วยังเป็นสาวพรหมจรรย์อยู่เลย ไม่เคยมีความรักสักครั้ง และไม่เคยจับมือของผู้ชายหมอนี่กลับล้อเลียนตน น่ารังเกียจเฟิ่งเชียนอวี่หายใจเข้าลึกๆ เงยหน้ามองตงฟางจิ่ง ใบหน้าของทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก ใกล้จนนางสามารถมองเห็นขนตาของเขาอย่างชัดเจนจุๆ ผิวดีจริงๆ มองไม่เห็นกระทั่งรูขุมขนที่เล็กละเอียดนางหรี่ตา ค่อยๆ เผยอปาก ตนเป็นคนยุคปัจจุบัน ในด้านของการเปิดกว้าง จะเทียบคนโบราณไม่ได้เลยหรือเฟิ่งเชียนอวี่คิดพลาง ยกก้นขึ
ทันใดนั้นเฟิ่งเชียนอวี่อยากจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้ด้วยจิตใต้สำนึก แต่โชคดีที่อดกลั้นเอาไว้ได้ในเวลานี้ บริเวณท้องฟ้าป่าทึบด้านหน้า ทันใดนั้นก็มีควันไฟลอยขึ้นมาเฟิ่งเชียนอวี่ตกตะลึง “ท่านอ๋อง ทางด้านนั้นมีคนหรือ?”ไม่อย่างนั้น ควันไฟนี่จะมาจากที่ไหน?ตงฟางจิ่งหรี่ตา “นี่คือระเบิดควันที่เว่ยเซิงพวกเขาจุดขึ้น”ดวงตาของนางเปล่งประกายทันที “พวกเขามาถึงแล้ว? ดังนั้นก็พวกเราไปได้แล้ว”ในที่สุดก็ออกไปจากที่บ้า ๆ นี่ได้เสียที ถ้ำบ้านี่นางไม่อยากจะอยู่เป็นคืนที่สองเลยแม้หน่อยเดียวตงฟางจิ่งส่งเสียงอืมทีหนึ่ง พาเฟิ่งเชียนอวี่ มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่ระเบิดควันลอยขึ้นมาด้านล่างเชิงเขา จากผนังเขามุ่งหน้าไปจนถึงหน้าผา มีเสาที่ทำขึ้นมาจากเหล็กต้นหนึ่งยื่นจนลงมา เสาเหล็กยาวนี่รูปทรงเหมือนกับตะขาบ ซ้ายและขวาทั้งสองฝั่งคนสามารถยืนได้หน้าผานี้สูงมาก ใช้ช่างฝีมือหนึ่งร้อยคนเร่งทำขึ้นมาภายในเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน ทหารราชองครักษ์แต่ละนายปีนเสาเหล็กนี้ลงไปเว่ยเซิงกับเว่ยชิวก็อยู่ในนั้นด้วยทหารราชองครักษ์ได้รับคำสั่งมาว่าต่อให้ตายก็ต้องเจอศพ และพวกเขาทั้งสองคนก็ลงมาเพื่อตามหาคน
อวิ๋นจิ่นเซ่อกลอกตา “ข้าพูดต่อหน้าท่านเพียงคนเดียวเท่านั้น ข้าไม่ได้โง่เสียหน่อย จะไปพูดจาเช่นนี้ข้างนอกได้อย่างไรกัน ท่านจะตื่นเต้นขนาดนั้นไปเพื่ออะไรกัน”“ฮึ ตอนนั้นที่คลอดเจ้าออกมา ข้าก็รู้สึกว่าเจ้ามาเพื่อทวงหนี้ตระกูลอวิ๋นของพวกเรา เป็นไปตามคาดจริง ๆ”แม่ทัพอวิ๋นกล่าวด้วยความโมโหอวิ๋นจิ่นเซ่อ “...”“ราย...”ในเวลานี้ ด้านนอกกระโจม มีเสียงของพลทหารดังลอยมาจากไกล ๆดวงตาของอวิ๋นจิ่นเซ่อเปล่งประกายทันที “มีข่าวแล้ว”นางรีบวิ่งออกไปด้านในพระที่นั่งตำหนักใหญ่ หัวหน้าทหารคนหนึ่งคุกเข่าลงข้างหนึ่ง“ทูลฝ่าบาท มีข่าวมาจากแนวหน้าพ่ะย่ะค่ะ บรรดาทหารราชองครักษ์ตามหาท่านอ๋องหกกับพระชายาอ๋องหกเจอที่ใต้หน้าผาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้เทียนหยวนลุกขึ้นยืนทันที “ท่านอ๋องหกยังมีชีวิตอยู่?”“พ่ะย่ะค่ะ”“พวกเขาได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”“ท่านอ๋องหกกับพระชายาปลอดภัยดี ตอนนี้กำลังถูกคุ้มกันมุ่งหน้ากลับมายังพระที่นั่งพ่ะย่ะค่ะ”“ฮ่า ๆ ๆ...”ฮ่องเต้เทียนหยวนหัวเราะเสียงดัง สีหน้าอันห่อเหี่ยวหายไปทันที “เรารู้ จิ่งเอ๋อร์เจ้าเด็กนั่นไม่มีทางตายง่ายเช่นนั้นหรอก”เขาดีใจจนส่งเสียงหัวเราะออกมา คนด้าน
ด้านในจวนอ๋องหก“ท่านอ๋อง นักฆ่าพวกนั้นมาจากกลุ่มนักฆ่ากลุ่มหนึ่งในยุทธภพ คนที่อยู่ในนั้นแต่ละคนล้วนเป็นพวกไม่กลัวตาย ขอเพียงแค่ให้เงิน ก็สามารถจ้างวานให้พวกมันไปฆ่าผู้ใดก็ได้”ตงฟางจิ่งมือถือพู่กัน ค่อย ๆ เขียนตัวหนังสือตัวใหญ่ตัวถัดไป หลังจากวางพู่กันก็กล่าวเสียงเรียบ “สืบเจอผู้จ้างวานที่อยู่เบื้องหลังพวกมันว่าเป็นใครแล้วหรือไม่?”“ตอนนี้ยังไม่มีเป้าหมายที่แม่นยำ แต่จะต้องเป็นคนที่มาจากในวังหลวงอย่างแน่นอน”“ก่อนหน้านี้คนของพวกเราเคยติดต่อกับกลุ่มนักฆ่าคนนั้น ตามการบอกเล่าของนักฆ่าคนหนึ่งในนั้น ถึงแม้ว่าคนที่จ่ายเงินจะไม่ได้เผยโฉม แต่จากน้ำเสียงและท่าทางสามารถดูออกว่า นั่นคงจะเป็นขันทีคนหนึ่ง”ตงฟางจิ่งหรี่ตา “ข้ารู้แล้ว ไม่ต้องสืบต่อไปแล้ว”เว่ยเซิงลังเล “ท่านอ๋องเดาได้ว่าเป็นผู้ใดแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?”“ก็คงเป็นคนไม่กี่คนนั้น เนื่องจากเรื่องเรือมังกรครั้งก่อนนั้น คนคนนั้นของตำหนักบูรพาตกผู้ต้องสงสัยมากที่สุด” ตงฟางจิ่งแค่นหัวเราะ“แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องจัดการกับเขา”“ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”เรือนชิงหลานวันนี้เฟิ่งเชียนอวี่พาหลิวซูกับเหลิ่งหานออกจากจวน ไปดูที่ร้าน
นางเคยทดลอง วิธีการนี้สามารถใช้ได้กับแก้วหลิวหลีเช่นเดียวกันกรรมวิธีการปั้นและเผาแก้วหลิวหลีนางสอนช่างฝีมือหลายคนจนเป็นแล้ว แต่ว่าเพื่อป้องกันสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น นางจึงกั๊กขั้นตอนนี้เอาไว้แม้ว่าวันข้างหน้าช่างฝีมือพวกนี้จะนำวิธีการปั้นและเผาเปิดเผยออกไปก็ไม่เป็นไร แก้วหลิวหลีที่ไม่ได้ผ่านการขัดเงา เทียบไม่ได้กับที่ขัดเงาเลยสักนิดเฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “ไม่เลวเลย นี่ก็คือผลลัพธ์ที่ข้าต้องการ จดสัดส่วนเอาไว้แล้วใช่หรือไม่?”ช่างฝีมือรีบนำกระดาษพิมพ์เขียวสัดส่วนแผ่นหนึ่งให้นาง “หลังจากผ่านการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง นี่ก็คือสัดส่วนล่าสุดขอรับ”นางกล่าวด้วยความพอใจ “ได้ ไม่ต้องทดลองต่อแล้ว ใช้สัดส่วนตามนี้แล้วกัน ปั้นและเผาในปริมาณมากตามกระดาษพิมพ์เขียวที่ข้าให้”“ข้าจะจัดคนให้พวกเจ้าจำนวนหนึ่ง ด้านการตัดก็มอบหมายให้พวกเขาทำ จะได้ประหยัดมากขึ้น”“ขอรับ พระชายา”เฟิ่งเชียนอวี่นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ยื่นกระดาษพิมพ์เขียวแผ่นหนึ่งให้เขา “ปั้นและเผาพวกนี้ออกมาก่อน จากนั้นให้หม่าลิ่วส่งไปที่จวนอ๋อง”สิ่งที่วาดอยู่ในกระดาษพิมพ์เขียว ก็คือแผนผังทรงสี่เหลี่ยมและทรงกลมหลายอัน ขนาดเข
“ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื
“รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่
“เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง
ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท
“พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้
บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี
“...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้
“เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่
“เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ