แชร์

บทที่ 126

ผู้เขียน: จิ้งเยี่ยน
ในไม่ช้า ฮ่องเต้เทียนหยวนออกมาพร้อมฮองเฮา

ทุกคนลุกขึ้นยืน “ถวายพระพรฝ่าบาท ขอพระองค์จงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี”

“ถวายพระพรฮองเฮา ขอพระองค์จงทรงพระเจริญพันปี พันพันปี”

“ทุกคนลุกขึ้นเถอะ”

ฮ่องเต้เทียนหยวนหัวเราะพร้อมโบกมือ จากนั้นนั่งลงก่อน ต่อมาฮองเฮาถึงได้นั่งลง สุดท้ายทุกคนที่อยู่ด้านล่างจึงนั่งลง

ฮองเฮาได้รับคำสั่งทางสายตาของฮ่องเต้เทียนหยวน จึงยิ้มพร้อมเอ่ยขึ้น “วันนี้เป็นเทศกาลฉีเฉี่ยว ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ ล้วนเป็นผู้มีความสามารถของแคว้นตงเยว่ ทุกคนไม่ต้องเกรงใจ”

“ขอบพระทัยองค์ฮองเฮา”

จากนั้น นักดนตรีและนางรำขึ้นมาบนเวที เสียงเครื่องดีดเครื่องสายดังขึ้น เหล่านางรำร่ายรำอยู่หน้าฉากกั้น

บรรยากาศในงานเลี้ยงจึงเริ่มครึกครื้นขึ้น

ฮ่องเต้เทียนหยวนและฮองเฮาดื่มสุราด้วยกัน พร้อมทั้งหัวเราะและพูดคุยเรื่องบางอย่าง ระหว่างนั้นหันมองที่นั่งของตระกูลเฟิ่งโดยไม่ตั้งใจเป็นระยะ

นอกเหนือจากนั้น ฮ่องเต้เทียนหยวนเหมือนฉุกคิดถึงบางอย่าง จึงหันมองไปทางที่นั่งของจวนอ๋องหก แล้วลอบสำรวจเฟิ่งเชียนอวี่

เพียงไม่นาน เหล่านางรำร่ายรำเสร็จสิ้น จึงทยอยออกไป

ในเมื่อเป็นเทศกาลฉีเฉี่ยว ภายในงาน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 127

    ฮ่องเต้เทียนหยวนโยนภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ให้เฟิ่งเชียนอวี่ จากนั้นเปลี่ยนคำพูด “เราอยากจะมอบตำแหน่งในสำนักหมอหลวงให้ท่านนักพรต ไม่รู้ว่าท่านคิดเห็นอย่างไร?”คิดเห็นอย่างไร? ก็ย่อมต้องปฏิเสธนะสิเฟิ่งเชียนอวี่คิดในใจ แต่ในหน้ายังคงเรียบเฉย น้ำเสียงราบเรียบแต่มีความยำเกรง“กระหม่อมขอบพระทัยในความหวังดีของพระองค์ แต่กระหม่อมเป็นผู้บำเพ็ญเพียร เข้ามาข้องเกี่ยวทางโลกเพื่อทดแทนบุญคุณของท่านอ๋องหกเท่านั้น”“เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม กระหม่อมต้องจากไป เพื่อท่องไปทั่ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คงต้องทำให้พระองค์ผิดหวังแล้ว”ทดแทนบุญคุณ? เวลาที่เหมาะสม?ฮ่องเต้เทียนหยวนครุ่นคิด “วิชาแพทย์ของท่านนักพรตล้ำเลิศขนาดนี้ มีวิธีรักษาโรคของอ๋องจิ่งหรือไม่?”ย่อมมีแน่นอน อีกอย่างเจ้านั่นถูกนางรักษาหายนานแล้วเฟิ่งเชียนอวี่บ่นอยู่ในใจ แต่ภายนอกกลับเอ่ยอย่างเสียดาย “กระหม่อมเคยตรวจชีพจรให้ท่านอ๋องหกแล้ว ชีพจรท่านอ๋องบางเบา เดินช้าไร้เรี่ยวแรง กระดูกบอบบาง”“แม้สีหน้าจะเป็นปกติ แต่ความจริงร่างกายอ่อนแอหนาวเย็น อาการป่วยของท่านอ๋องหกปล่อยไว้นานเกินไป แม้แต่กระหม่อมเองยังไร้หนทางรักษา ต้องค่อย ๆ บำรุง ต้องดูอา

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 128

    จากนั้น เฟิ่งเชียนอวี่เห็นขันทีที่ยืนอยู่ข้างที่นั่งฮ่องเต้เทียนหยวนเดินเข้าไป แล้วนำเข็มเงินออกมาหนึ่งเล่ม ต่อมาเริ่มจิ้มเข็มลงไปแต่ละจานบ่าวผู้ติดตามขององค์ชายหลายคนก็ทำเช่นเดียวกัน หลังจากมาอยู่ในยุคโบราณ ภาพนี้ เฟิ่งเชียนอวี่เห็นจนชินตาไปแล้วดวงตาเฟิ่งเชียนอวี่สั่นไหว จากนั้นลุกขึ้นยืน ทำความเคารพฮ่องเต้เทียนหยวน“กระหม่อมมีเรื่องหนึ่ง อยากจะเอ่ยเตือนฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”“เอ๊ะ?”ฮ่องเต้เทียนหยวนชะงัก รู้สึกฉงนไม่น้อย “เรื่องใดหรือ?”ตงฟางจิ่งก็ไม่รู้ว่าหญิงผู้นี้ต้องการทำสิ่งใดเฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยขึ้นอย่างเชื่องช้า “กระหม่อมอยากจะทูลว่า วิธีทดสอบพิษด้วยเข็มเงิน ความจริงไร้ประโยชน์สิ้นดี”เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนตกตะลึงพรึงเพริดเพราะวิธีทดสอบพิษด้วยเข็มเงินสืบทอดกันมายาวนาน ไม่เคยมีผู้ใดคลางแคลงมาก่อน แม้แต่เด็กน้อยก็ยังรู้จักวิธีนี้ ทว่าตอนนี้ เฟิ่งเชียนอวี่กลับเอ่ยปากล้มล้างทฤษฎีนี้เรื่องนี้เหมือนกับทุกคนรู้ว่ามนุษย์ต้องกินอาหาร แต่ทันใดนั้นมีคนบอกว่า ความจริงมนุษย์ไม่จำเป็นต้องกินอาหาร ซึ่งตีความได้สั้น ๆ เหลวไหลสิ้นดีไม่จำเป็นให้ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยปาก องค์ชายทั้งหล

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 129

    เฟิ่งเชียนอวี่ยกถ้วยที่มีนมแพะขึ้นมา แล้วหยิบเข็มเงินออกมาจากกล่องผ้าแพรหนึ่งเล่ม จากนั้นจิ้มลงไปต่อมานางนำถ้วยเปล่าหลายใบมาวางเรียงแนวนอน จากนั้นนำกะหล่ำปลี กุยช่าย กระเทียม ไข่ไก่และสิ่งต่าง ๆ แยกใส่ลงไปในถ้วย นอกจากไข่ไก่ นางได้ตำสิ่งอื่นให้เละจนมีน้ำถึงได้หยุดต่อมา ได้หยิบเข็มเงินออกมาหลายเล่ม แล้วใส่เข้าไปในถ้วยเหล่านี้ทีละถ้วยเฟิ่งเชียนอวี่บดเมล็ดซิ่นเหรินจนแหลก จากนั้นผสมน้ำเล็กน้อย แล้วจิ้มเข็มเงินลงไปนางหยิบหลูซุ่นขึ้น จากนั้นจิ้มเข็มเงินลงไปตรงยอดหลูซุ่น แล้ววางไว้สุดท้าย เฟิ่งเชียนอวี่ถึงได้นำขวดที่บรรจุสารหนูและพิษหงอนกระเรียนแดง เทลงไปในถ้วยที่มีน้ำเปล่าสองใบ แล้วใส่เข็มเงินลงไปการกระทำตั้งแต่ต้นจนจบของเฟิ่งเชียนอวี่ ทำให้ทุกคนจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ก็ดูเหมือนจะรู้ว่านางกำลังทำสิ่งใดยามนี้นางถึงได้หันมองฮ่องเต้เทียนหยวน “ฝ่าบาท กระหม่อมเตรียมเสร็จแล้ว ต่อจากนี้ จะขอให้กงกงที่ยืนอยู่ข้างฝ่าบาท ช่วยกระหม่อมสักครู่”ฮ่องเต้เทียนหยวนโบกมือ เว่ยจงเสียนโค้งตัวแล้วเดินเข้าไปเฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเสียงเรียบ “เชิญเว่ยกงกง หยิบเข็มเงินที่อยู่ในถ้วยสารหนูและถ้วยพิษหงอนกระ

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 130

    เฟิ่งเชียนอวี่หันมองฮ่องเต้เทียนหยวน“ฝ่าบาท เข็มเงินทดสอบพิษได้ก็จริง แต่ทดสอบได้แค่พิษสองชนิดเท่านั้น คือสารหนูและพิษหงอนกระเรียนแดง”“ที่เข็มเงินเกิดปฏิกิริยากับพิษร้ายแรงทั้งสองชนิดนี้ เป็นเพราะภายในพิษสองชนิดนี้ มีส่วนผสมพิเศษตัวหนึ่งที่เรียกว่ากำมะถัน เมื่อเข็มเงินสัมผัสกำมะถัน จึงเกิดปฏิกิริยาพ่ะย่ะค่ะ”“ดังที่พระองค์ทอดพระเนตรเห็นในผักพวกนี้ กับถั่วแห้งและไข่ ในสิ่งของเหล่านี้ ล้วนมีกำมะถัน ดังนั้นเข็มเงินจึงเกิดปฏิกิริยาเช่นเดียวกัน”วิธีทดสอบพิษด้วยเข็มเงิน ถูกการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในยุคนี้ล้มล้างไปนานแล้ว ไม่มีเรื่องเช่นนี้อยู่จริงสารหนูและพิษหงอนกระเรียนแดงคือพิษร้ายแรงในยุคโบราณ ในพิษทั้งสองชนิดนี้มีกำมะถันเป็นส่วนประกอบ จึงเป็นสาเหตุให้เข็มเงินกลายเป็นสีดำในชีวิตประจำวัน มีอาหารที่มีส่วนประกอบของกำมะถันเยอะมากเมื่อเทียบกันแล้ว มีเพียงกำมะถันที่อยู่ในไข่มีปริมาณมากที่สุด ดังนั้น เข็มเงินสัมผัสเพียงครู่เดียวก็กลายเป็นสีดำแล้วส่วนอาหารอื่นมีปริมาณของกำมะถันไม่มาก จึงต้องใช้เวลาสักครู่ เพื่อให้เข็มเงินเกิดปฏิกิริยากลายเป็นสีดำฮ่องเต้เทียนหยวนขมวดคิ้ว “กำมะถันที่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 131

    ไม่มีวิธีหรือ?ทุกคนล้วนผิดหวังฮ่องเต้เทียนหยวนเองก็ไม่มีแก่ใจจะอยู่ต่อ จึงให้ฮองเฮาจัดการเรื่องงานเลี้ยงต่อ แล้วจากไปฮองเฮาเห็นคนอื่น ๆ ล้วนหมดความสนุก จึงประกาศว่างานเลี้ยงจบลงเพียงเท่านี้ขณะนี้ องค์ชายใหญ่ตงฟางซวี่เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ “เจ้าสาม ทำไมดูเหมือนเจ้าจะอ้วนขึ้นนะ?”โดยเฉพาะท้องเมื่อครู่ตอนนั่งดูไม่ออก แต่ตอนนี้พอได้ยืนขึ้น หากดูให้ดีจะสามารถมองเห็นชัดเจนตงฟางเย่าสีหน้าชะงัก จากนั้นรีบแขม่วท้อง แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าจะอ้วนได้อย่างไร? เสด็จพี่ใหญ่คงตาฝาดแล้วละ”เขาพูดจบก็หันหลังจากไปทันที ไม่ไว้หน้าองค์ชายใหญ่แม้แต่น้อยดวงตาตงฟางซวี่มีความโกรธแวบผ่านรัชทายาทตงฟางหล่างกลับหัวเรา “เสด็จพี่อย่าถือสาเลย เจ้าสามเป็นคนหุนหันไปบ้าง คิดว่าไม่น่าจะไม่เคารพเสด็จพี่หรอก”ตงฟางซวี่เหลือบมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ข้าไม่ถือสาหาความกับเจ้าสามหรอก เจ้ารองเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ไม่ง่ายกว่าเสด็จพ่อจะมีคำสั่งยกเลิกกักบริเวณเจ้า ต่อไปทำสิ่งใดต้องระวังให้มาก อย่าบุ่มบ่ามผลีผลาม”ตงฟางหล่างสีหน้าเยือกเย็น เขามองดูแผ่นหลังที่จากไปของตงฟางซวี่ ในแววตามีความเหี้ยมเกรียม

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 132

    “ท่านอ๋อง ท่านคงไม่คิดใช้วิธีนี้หลอกให้พวกรัชทายาทหลงกลหรอกนะ ให้คนพวกนั้นคิดว่าท่านป่วยหนัก จนไม่มีปัญญาแย่งชิงราชบัลลังก์กับพวกเขา”หรือพูดให้เข้าใจง่ายคือแสร้งเป็นหมูหลอกกินเสือแววตาตงฟางจิ่งสั่นไหวเล็กน้อย มองดูนางแล้วยิ้มจาง ๆ “พระชายาคิดว่าเป็นเช่นนั้นหรือ?”เฟิ่งเชียนอวี่ยักไหล่ “ข้าก็แค่ลองเดาดูเท่านั้น”นางเอ่ยถามอีกครั้งอย่างอดไม่ได้ “ท่านอ๋อง ท่านอยากชิงราชบัลลังก์หรือไม่?”ตงฟางจิ่งไม่ตอบเว่ยเซิงเว่ยชิวที่อยู่นอกรถม้า ได้ยินเฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยถามอย่างเถรตรง ทำให้ทั้งใจหายวาบจนเหงื่อแทบแตกพระชายาช่างใจกล้ายิ่งนักเฟิ่งเชียนอวี่ถูกเขาจ้องมอง จนรู้สึกอึดอัด จึงกระแอมเสียงค่อย “คือว่า ข้าก็แค่ถามไปอย่างนั้นเอง ท่านไม่ต้องใส่ใจหรอก หึหึ”ตงฟางจิ่งเอ่ยขึ้นเชื่องช้า “พระชายาอยากให้ข้าครอบครองตำแหน่งนั้นหรือ?”นางทำหน้าหมดคำพูด “เรื่องนี้ต้องดูความประสงค์ของท่านอ๋องเอง เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย?”“หากข้าขึ้นไปอยู่ตำแหน่งนั้นจริง พระชายาย่อมต้องกลายเป็นฮองเฮา จะไม่เกี่ยวได้อย่างไร?” ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ เฟิ่งเชียนอวี่ “...” คิดไกลเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?ขณะนี้ รถม้าเกิดกา

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 133

    “องค์หญิงหรือ? มีนามว่าอะไร หน้าตางดงามหรือไม่?” เฟิ่งเชียนอวี่ถามอย่างสนใจ“องค์หญิงมีนามว่าเม่ยจี ข้าน้อยไม่เคยพบมาก่อน แต่ได้ยินองครักษ์ที่เฝ้าเวรตำหนักฉินเจิ้งบอกว่า ฝ่าบาททรงพอพระทัยมาก ชื่นชอบองค์หญิงเม่ยจียิ่งนัก จึงจัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตจากแคว้นโปหลาน คาดว่ารูปโฉมองค์หญิงคงงดงามไม่น้อย” เว่ยเซิงกล่าวเฟิ่งเชียนอวี่ปรบมือ “ไม่ต้องพูดแล้ว ต้องเป็นหญิงงามแน่นอน”“ยังมีเรื่องอื่นหรือไม่?” ตงฟางจิ่งเอ่ยขึ้น“ท่านอ๋อง อีกสิบวันจะถึงพิธีล่าสัตว์ประจำราชสำนักแล้ว กรมพิธีการในวังกำลังร่างรายชื่ออยู่ขอรับ”ตงฟางจิ่งไม่พูดไม่จา แต่เฟิ่งเชียนอวี่กลับสนใจอีกครั้ง“พิธีล่าสัตว์หรือ? เป็นอย่างไร?”เว่ยเซิงอธิบาย “พิธีล่าสัตว์ประจำราชสำนักเป็นงานพิธีใหญ่ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยองค์ปฐมกษัตริย์ ทุกสามปีจะจัดหนึ่งครั้งขอรับ”“นอกจากลูกหลานในราชวงศ์ ขุนนางตั้งแต่ระดับห้าและลูกหลานสามารถเข้าร่วมได้ พิธีล่าสัตว์จัดขึ้นสองชั่วยาม การนับคะแนนจะนับจากจำนวนและคุณภาพของเหยื่อที่ล่าได้ ผู้ชนะจะได้รับพระราชทานรางวัลจากฮ่องเต้” เฟิ่งเชียนอวี่เข้าใจ “มีเพียงบุรุษที่เข้าร่วมได้หรือ?”“ย่อมไม่ใช

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 134

    ทางเข้าอุทยานหลังมีที่โล่งกว้างให้พักผ่อน ราชสำนักจึงสร้างตำหนักรับรองไว้ที่นี่ และจัดคนไว้ดูแลทำความสะอาด เพื่อใช้ในช่วงเวลาที่มีการล่าสัตว์ สำหรับเป็นที่พักของเหล่าเชื้อพระวงศ์และลูกท่านหลานเธอ รอบตำหนักรับรองได้สร้างกระโจมขึ้นหลายสิบหลัง ล้วนเป็นที่พักของทหารลาดตระเวนหลังจากตงฟางจิ่งและเฟิ่งเชียนอวี่มาถึง ทั้งสองเข้าไปจัดการที่พักในตำหนักรับรองก่อน จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้า ต่อมาจึงไปที่ตำหนักใหญ่เพื่อถวายพระพรฮ่องเต้เทียนหยวนภายในตำหนักใหญ่ องค์ชายหลายท่านและคุณชายตระกูลต่าง ๆ มาถึงแล้ว นั่งซ้ายขวาเรียงรายเป็นสองแถว“ถวายพระพรเสด็จพ่อ ขอเสด็จพ่อจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี”“ลุกขึ้นเถอะ”หลังจากทั้งสองคนลุกขึ้น เมื่อเฟิ่งเชียนอวี่เงยหน้าถึงกับตะลึงไปทันทีเพราะข้างกายฮ่องเต้เทียนหยวนมีหญิงสาวเพิ่มขึ้นหนึ่งคน หญิงผู้นี้หน้าตา...ช่างเย้ายวนยิ่งนักร่างกายท่อนบนสวมเสื้อกล้ามรัดรูปตัวเล็กสีแดง เผยให้เห็นช่วงแขน สะดือและเอวกิ่วเล็กคอด ใต้เสื้อตัวเล็กมีใบไม้สีทองใบเล็กบางเย็บติดหนึ่งรอบ ดั่งตุ้งติ่งที่ห้อยระย้าท่อนล่างสวมกางเกงขาพองสีแดง เปลือยเท้า ตรงข้อเท้าสวมสายสร้อยสีท

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 212

    “ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 211

    “รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 210

    “เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 209

    ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 208

    “พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 207

    บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 206

    “...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 205

    “เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 204

    “เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status