แชร์

บทที่ 128

ผู้เขียน: จิ้งเยี่ยน
จากนั้น เฟิ่งเชียนอวี่เห็นขันทีที่ยืนอยู่ข้างที่นั่งฮ่องเต้เทียนหยวนเดินเข้าไป แล้วนำเข็มเงินออกมาหนึ่งเล่ม ต่อมาเริ่มจิ้มเข็มลงไปแต่ละจาน

บ่าวผู้ติดตามขององค์ชายหลายคนก็ทำเช่นเดียวกัน หลังจากมาอยู่ในยุคโบราณ ภาพนี้ เฟิ่งเชียนอวี่เห็นจนชินตาไปแล้ว

ดวงตาเฟิ่งเชียนอวี่สั่นไหว จากนั้นลุกขึ้นยืน ทำความเคารพฮ่องเต้เทียนหยวน

“กระหม่อมมีเรื่องหนึ่ง อยากจะเอ่ยเตือนฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”

“เอ๊ะ?”

ฮ่องเต้เทียนหยวนชะงัก รู้สึกฉงนไม่น้อย “เรื่องใดหรือ?”

ตงฟางจิ่งก็ไม่รู้ว่าหญิงผู้นี้ต้องการทำสิ่งใด

เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยขึ้นอย่างเชื่องช้า “กระหม่อมอยากจะทูลว่า วิธีทดสอบพิษด้วยเข็มเงิน ความจริงไร้ประโยชน์สิ้นดี”

เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนตกตะลึงพรึงเพริด

เพราะวิธีทดสอบพิษด้วยเข็มเงินสืบทอดกันมายาวนาน ไม่เคยมีผู้ใดคลางแคลงมาก่อน แม้แต่เด็กน้อยก็ยังรู้จักวิธีนี้ ทว่าตอนนี้ เฟิ่งเชียนอวี่กลับเอ่ยปากล้มล้างทฤษฎีนี้

เรื่องนี้เหมือนกับทุกคนรู้ว่ามนุษย์ต้องกินอาหาร แต่ทันใดนั้นมีคนบอกว่า ความจริงมนุษย์ไม่จำเป็นต้องกินอาหาร ซึ่งตีความได้สั้น ๆ

เหลวไหลสิ้นดี

ไม่จำเป็นให้ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยปาก องค์ชายทั้งหล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 129

    เฟิ่งเชียนอวี่ยกถ้วยที่มีนมแพะขึ้นมา แล้วหยิบเข็มเงินออกมาจากกล่องผ้าแพรหนึ่งเล่ม จากนั้นจิ้มลงไปต่อมานางนำถ้วยเปล่าหลายใบมาวางเรียงแนวนอน จากนั้นนำกะหล่ำปลี กุยช่าย กระเทียม ไข่ไก่และสิ่งต่าง ๆ แยกใส่ลงไปในถ้วย นอกจากไข่ไก่ นางได้ตำสิ่งอื่นให้เละจนมีน้ำถึงได้หยุดต่อมา ได้หยิบเข็มเงินออกมาหลายเล่ม แล้วใส่เข้าไปในถ้วยเหล่านี้ทีละถ้วยเฟิ่งเชียนอวี่บดเมล็ดซิ่นเหรินจนแหลก จากนั้นผสมน้ำเล็กน้อย แล้วจิ้มเข็มเงินลงไปนางหยิบหลูซุ่นขึ้น จากนั้นจิ้มเข็มเงินลงไปตรงยอดหลูซุ่น แล้ววางไว้สุดท้าย เฟิ่งเชียนอวี่ถึงได้นำขวดที่บรรจุสารหนูและพิษหงอนกระเรียนแดง เทลงไปในถ้วยที่มีน้ำเปล่าสองใบ แล้วใส่เข็มเงินลงไปการกระทำตั้งแต่ต้นจนจบของเฟิ่งเชียนอวี่ ทำให้ทุกคนจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ก็ดูเหมือนจะรู้ว่านางกำลังทำสิ่งใดยามนี้นางถึงได้หันมองฮ่องเต้เทียนหยวน “ฝ่าบาท กระหม่อมเตรียมเสร็จแล้ว ต่อจากนี้ จะขอให้กงกงที่ยืนอยู่ข้างฝ่าบาท ช่วยกระหม่อมสักครู่”ฮ่องเต้เทียนหยวนโบกมือ เว่ยจงเสียนโค้งตัวแล้วเดินเข้าไปเฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเสียงเรียบ “เชิญเว่ยกงกง หยิบเข็มเงินที่อยู่ในถ้วยสารหนูและถ้วยพิษหงอนกระ

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 130

    เฟิ่งเชียนอวี่หันมองฮ่องเต้เทียนหยวน“ฝ่าบาท เข็มเงินทดสอบพิษได้ก็จริง แต่ทดสอบได้แค่พิษสองชนิดเท่านั้น คือสารหนูและพิษหงอนกระเรียนแดง”“ที่เข็มเงินเกิดปฏิกิริยากับพิษร้ายแรงทั้งสองชนิดนี้ เป็นเพราะภายในพิษสองชนิดนี้ มีส่วนผสมพิเศษตัวหนึ่งที่เรียกว่ากำมะถัน เมื่อเข็มเงินสัมผัสกำมะถัน จึงเกิดปฏิกิริยาพ่ะย่ะค่ะ”“ดังที่พระองค์ทอดพระเนตรเห็นในผักพวกนี้ กับถั่วแห้งและไข่ ในสิ่งของเหล่านี้ ล้วนมีกำมะถัน ดังนั้นเข็มเงินจึงเกิดปฏิกิริยาเช่นเดียวกัน”วิธีทดสอบพิษด้วยเข็มเงิน ถูกการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในยุคนี้ล้มล้างไปนานแล้ว ไม่มีเรื่องเช่นนี้อยู่จริงสารหนูและพิษหงอนกระเรียนแดงคือพิษร้ายแรงในยุคโบราณ ในพิษทั้งสองชนิดนี้มีกำมะถันเป็นส่วนประกอบ จึงเป็นสาเหตุให้เข็มเงินกลายเป็นสีดำในชีวิตประจำวัน มีอาหารที่มีส่วนประกอบของกำมะถันเยอะมากเมื่อเทียบกันแล้ว มีเพียงกำมะถันที่อยู่ในไข่มีปริมาณมากที่สุด ดังนั้น เข็มเงินสัมผัสเพียงครู่เดียวก็กลายเป็นสีดำแล้วส่วนอาหารอื่นมีปริมาณของกำมะถันไม่มาก จึงต้องใช้เวลาสักครู่ เพื่อให้เข็มเงินเกิดปฏิกิริยากลายเป็นสีดำฮ่องเต้เทียนหยวนขมวดคิ้ว “กำมะถันที่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 131

    ไม่มีวิธีหรือ?ทุกคนล้วนผิดหวังฮ่องเต้เทียนหยวนเองก็ไม่มีแก่ใจจะอยู่ต่อ จึงให้ฮองเฮาจัดการเรื่องงานเลี้ยงต่อ แล้วจากไปฮองเฮาเห็นคนอื่น ๆ ล้วนหมดความสนุก จึงประกาศว่างานเลี้ยงจบลงเพียงเท่านี้ขณะนี้ องค์ชายใหญ่ตงฟางซวี่เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ “เจ้าสาม ทำไมดูเหมือนเจ้าจะอ้วนขึ้นนะ?”โดยเฉพาะท้องเมื่อครู่ตอนนั่งดูไม่ออก แต่ตอนนี้พอได้ยืนขึ้น หากดูให้ดีจะสามารถมองเห็นชัดเจนตงฟางเย่าสีหน้าชะงัก จากนั้นรีบแขม่วท้อง แล้วพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าจะอ้วนได้อย่างไร? เสด็จพี่ใหญ่คงตาฝาดแล้วละ”เขาพูดจบก็หันหลังจากไปทันที ไม่ไว้หน้าองค์ชายใหญ่แม้แต่น้อยดวงตาตงฟางซวี่มีความโกรธแวบผ่านรัชทายาทตงฟางหล่างกลับหัวเรา “เสด็จพี่อย่าถือสาเลย เจ้าสามเป็นคนหุนหันไปบ้าง คิดว่าไม่น่าจะไม่เคารพเสด็จพี่หรอก”ตงฟางซวี่เหลือบมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ข้าไม่ถือสาหาความกับเจ้าสามหรอก เจ้ารองเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ไม่ง่ายกว่าเสด็จพ่อจะมีคำสั่งยกเลิกกักบริเวณเจ้า ต่อไปทำสิ่งใดต้องระวังให้มาก อย่าบุ่มบ่ามผลีผลาม”ตงฟางหล่างสีหน้าเยือกเย็น เขามองดูแผ่นหลังที่จากไปของตงฟางซวี่ ในแววตามีความเหี้ยมเกรียม

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 132

    “ท่านอ๋อง ท่านคงไม่คิดใช้วิธีนี้หลอกให้พวกรัชทายาทหลงกลหรอกนะ ให้คนพวกนั้นคิดว่าท่านป่วยหนัก จนไม่มีปัญญาแย่งชิงราชบัลลังก์กับพวกเขา”หรือพูดให้เข้าใจง่ายคือแสร้งเป็นหมูหลอกกินเสือแววตาตงฟางจิ่งสั่นไหวเล็กน้อย มองดูนางแล้วยิ้มจาง ๆ “พระชายาคิดว่าเป็นเช่นนั้นหรือ?”เฟิ่งเชียนอวี่ยักไหล่ “ข้าก็แค่ลองเดาดูเท่านั้น”นางเอ่ยถามอีกครั้งอย่างอดไม่ได้ “ท่านอ๋อง ท่านอยากชิงราชบัลลังก์หรือไม่?”ตงฟางจิ่งไม่ตอบเว่ยเซิงเว่ยชิวที่อยู่นอกรถม้า ได้ยินเฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยถามอย่างเถรตรง ทำให้ทั้งใจหายวาบจนเหงื่อแทบแตกพระชายาช่างใจกล้ายิ่งนักเฟิ่งเชียนอวี่ถูกเขาจ้องมอง จนรู้สึกอึดอัด จึงกระแอมเสียงค่อย “คือว่า ข้าก็แค่ถามไปอย่างนั้นเอง ท่านไม่ต้องใส่ใจหรอก หึหึ”ตงฟางจิ่งเอ่ยขึ้นเชื่องช้า “พระชายาอยากให้ข้าครอบครองตำแหน่งนั้นหรือ?”นางทำหน้าหมดคำพูด “เรื่องนี้ต้องดูความประสงค์ของท่านอ๋องเอง เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย?”“หากข้าขึ้นไปอยู่ตำแหน่งนั้นจริง พระชายาย่อมต้องกลายเป็นฮองเฮา จะไม่เกี่ยวได้อย่างไร?” ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ เฟิ่งเชียนอวี่ “...” คิดไกลเกินไปหรือเปล่าเนี่ย?ขณะนี้ รถม้าเกิดกา

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 133

    “องค์หญิงหรือ? มีนามว่าอะไร หน้าตางดงามหรือไม่?” เฟิ่งเชียนอวี่ถามอย่างสนใจ“องค์หญิงมีนามว่าเม่ยจี ข้าน้อยไม่เคยพบมาก่อน แต่ได้ยินองครักษ์ที่เฝ้าเวรตำหนักฉินเจิ้งบอกว่า ฝ่าบาททรงพอพระทัยมาก ชื่นชอบองค์หญิงเม่ยจียิ่งนัก จึงจัดงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตจากแคว้นโปหลาน คาดว่ารูปโฉมองค์หญิงคงงดงามไม่น้อย” เว่ยเซิงกล่าวเฟิ่งเชียนอวี่ปรบมือ “ไม่ต้องพูดแล้ว ต้องเป็นหญิงงามแน่นอน”“ยังมีเรื่องอื่นหรือไม่?” ตงฟางจิ่งเอ่ยขึ้น“ท่านอ๋อง อีกสิบวันจะถึงพิธีล่าสัตว์ประจำราชสำนักแล้ว กรมพิธีการในวังกำลังร่างรายชื่ออยู่ขอรับ”ตงฟางจิ่งไม่พูดไม่จา แต่เฟิ่งเชียนอวี่กลับสนใจอีกครั้ง“พิธีล่าสัตว์หรือ? เป็นอย่างไร?”เว่ยเซิงอธิบาย “พิธีล่าสัตว์ประจำราชสำนักเป็นงานพิธีใหญ่ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยองค์ปฐมกษัตริย์ ทุกสามปีจะจัดหนึ่งครั้งขอรับ”“นอกจากลูกหลานในราชวงศ์ ขุนนางตั้งแต่ระดับห้าและลูกหลานสามารถเข้าร่วมได้ พิธีล่าสัตว์จัดขึ้นสองชั่วยาม การนับคะแนนจะนับจากจำนวนและคุณภาพของเหยื่อที่ล่าได้ ผู้ชนะจะได้รับพระราชทานรางวัลจากฮ่องเต้” เฟิ่งเชียนอวี่เข้าใจ “มีเพียงบุรุษที่เข้าร่วมได้หรือ?”“ย่อมไม่ใช

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 134

    ทางเข้าอุทยานหลังมีที่โล่งกว้างให้พักผ่อน ราชสำนักจึงสร้างตำหนักรับรองไว้ที่นี่ และจัดคนไว้ดูแลทำความสะอาด เพื่อใช้ในช่วงเวลาที่มีการล่าสัตว์ สำหรับเป็นที่พักของเหล่าเชื้อพระวงศ์และลูกท่านหลานเธอ รอบตำหนักรับรองได้สร้างกระโจมขึ้นหลายสิบหลัง ล้วนเป็นที่พักของทหารลาดตระเวนหลังจากตงฟางจิ่งและเฟิ่งเชียนอวี่มาถึง ทั้งสองเข้าไปจัดการที่พักในตำหนักรับรองก่อน จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้า ต่อมาจึงไปที่ตำหนักใหญ่เพื่อถวายพระพรฮ่องเต้เทียนหยวนภายในตำหนักใหญ่ องค์ชายหลายท่านและคุณชายตระกูลต่าง ๆ มาถึงแล้ว นั่งซ้ายขวาเรียงรายเป็นสองแถว“ถวายพระพรเสด็จพ่อ ขอเสด็จพ่อจงทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี”“ลุกขึ้นเถอะ”หลังจากทั้งสองคนลุกขึ้น เมื่อเฟิ่งเชียนอวี่เงยหน้าถึงกับตะลึงไปทันทีเพราะข้างกายฮ่องเต้เทียนหยวนมีหญิงสาวเพิ่มขึ้นหนึ่งคน หญิงผู้นี้หน้าตา...ช่างเย้ายวนยิ่งนักร่างกายท่อนบนสวมเสื้อกล้ามรัดรูปตัวเล็กสีแดง เผยให้เห็นช่วงแขน สะดือและเอวกิ่วเล็กคอด ใต้เสื้อตัวเล็กมีใบไม้สีทองใบเล็กบางเย็บติดหนึ่งรอบ ดั่งตุ้งติ่งที่ห้อยระย้าท่อนล่างสวมกางเกงขาพองสีแดง เปลือยเท้า ตรงข้อเท้าสวมสายสร้อยสีท

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 135

    “เจ้ายังมีหน้ามาว่าข้าอีก ใครเป็นคนบอกว่าคอแข็ง แล้วสุดท้ายเป็นไง เจ้าไม่เมาหรือ?” อวิ๋นจิ่นเซ่อกลอกตา“ข้าย่อมไม่เมาอยู่แล้ว เหล้าแค่นั้นสำหรับข้าก็เหมือนกินน้ำ” เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยขึ้นอย่างหน้าด้าน ๆตงฟางจิ่ง “...”“ใช่สิ หญิงสาวที่นั่งข้างฮ่องเต้คือผู้ใดหรือ? ก่อนหน้านี้ตอนงานเลี้ยงในวังไม่เคยเห็นเลย” เฟิ่งเชียนอวี่ถามอย่างใคร่รู้“ไม่หรอกมั้ง เจ้ายังไม่รู้หรือ? ช่วงก่อนมีคณะทูตจากแคว้นโปหลานมาเยือน หญิงผู้นั้นก็คือองค์หญิงโปหลานที่ถูกนำมาถวายตัวอย่างไรละ”เฟิ่งเชียนอวี่เข้าใจทันที ความจริงเมื่อครู่นางก็พอเดาได้ที่แท้หญิงผู้นี้ก็คือองค์หญิงเม่ยจี ตัวจริงงามสมคำร่ำลือ“ข้าจะบอกเจ้านะ ฮ่องเต้โปรดปรานองค์หญิงท่านนี้มาก เพียงวันแรกที่ถวายตัวก็แต่งตั้งเป็นพระสนมทันที เป็นเม่ยเฟย”“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสิบกว่าวันที่ผ่านมา ทรงประทับอยู่กับเม่ยเฟยตลอด ทรงโปรดปรานอย่างมาก” อวิ๋นจิ่งเซ่อเอ่ยเสียงค่อยหลังจากเฟิ่งเชียนอวี่ได้ยิน หันมองฮองเฮาทันที เป็นไปตามคาด ใบหน้าฮองเฮาเรียบเฉย มุมปากมีรอยยิ้มแต่เมื่อดูให้ถี่ถ้วน จะพบว่ารอยยิ้มนั้นแข็งกระด้างสมควรเป็นเช่นนั้น นางเป็นถึงฮองเฮาที่สูง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 136

    “ถูกต้อง ข้าต้องได้ครองมีดสั้นเล่มนั้น”“จิ่นเซ่อ แค่มีดสั้นเล่มหนึ่งเท่านั้น เจ้าดีใจมากเกินไปหรือเปล่า?” เฟิ่งเชียนอวี่สงสัยอวิ๋นจิ่นเซ่อมองนางอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เมื่อครู่เจ้าไม่ได้ยินที่ฮ่องเต้บอกหรือ นั่นไม่ใช่มีดสั้นทั่วไป แต่เป็นอาวุธวิเศษที่แคว้นซีเหลียงในตอนนั้นหลอมขึ้นโดยทักษะการหลอมเหล็ก”เฟิ่งเชียนอวี่ชะงักไปทันที เหมือนฉุกคิดบางอย่างได้ในชั่วพริบตา จากนั้นเอ่ยขึ้นยากเย็น “มีดสั้นที่ทำจากเหล็กกล้า...ล้ำค่ามากหรือ?”“ดูท่าเจ้าคงไม่รู้จริง ๆ สินะ ก็ต้องล้ำค่ามากนะสิ”อวิ๋นจิ่นเซ่อเล่าเรื่องราวศึกใหญ่ระหว่างแคว้นซีเหลียงและแคว้นตงเยว่ให้นางฟัง จุดสำคัญยังเกี่ยวพันถึงทักษะหลอมเหล็ก“ดาบเหล็กของแคว้นซีเหลียงร้ายกาจมาก เรียกว่าเป็นอาวุธวิเศษก็ไม่เกินจริงสักนิด อาวุธเช่นนี้ ขอเพียงเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ใครบ้างจะไม่อยากได้”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”มุมปากของนางกระตุกอย่างแรง ขณะนี้อยากให้เวลาย้อนกลับแล้วตบหน้าตัวเองสักฉาดก่อนหน้านี้ตอนไปรักษาเฟิ่งหลิงหลง ตั้งแต่ออกมาจากจวนตระกูลเฟิ่ง ตงฟางจิ่งขอดูกล่องยาของนาง นางควรปฏิเสธเสียงแข็งต่อมาหลังจากตงฟางจิ่งเห็นชุดมีดผ่าตัดของนาง นาง

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 212

    “ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 211

    “รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 210

    “เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 209

    ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 208

    “พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 207

    บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 206

    “...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 205

    “เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่

  • ชายาแพทย์เสด็จ : ท่านอ๋องควรดื่มยาแล้ว   บทที่ 204

    “เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status