“หลังจากที่ข้าออกเรือน ก็ไม่เคยกลับจวนเฟิ่งเลย ไม่รู้ว่าท่านพ่อกับฮูหยินใหญ่สบายดีหรือไม่ วันหลังข้าก็กลับไปเยี่ยมเสียหน่อย”เฟิ่งหลิงหลงกล่าวอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว “ไม่จำเป็นหรอก ในเมื่อตอนนี้พระชายาออกเรือนแล้ว ก็กลับจวนเฟิ่งน้อยหน่อยดีกว่า”“อย่างไรเสียเมื่อออกเรือนแล้ว ก็เหมือนกับน้ำที่ถูกสาดออกไป ท่านพ่องานยุ่งมาก ไม่มีเวลาพบท่าน”คำพูดของนางค่อนข้างไม่เกรงใจ ท่าทางของเฟิ่งเชียนอวี่กล้าโกรธแต่ไม่กล้าพูด มีความร้อนรนสายหนึ่งแลบผ่านแวบตา เหมือนกับว่าอยากพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรตงฟางจิ่งหลุบตา อาศัยการดื่มชากลบเกลื่อนรอยยิ้มที่มุมปาก วันนี้เขามีการค้นพบอีกครั้ง เหมือนว่าฝีมือการแสดงของพระชายาจะดีมากเลยทีเดียว เหอะในใจเฟิ่งหลิงหลงย่อมสาแก่ใจจนบอกไม่ถูก ฮึ่ม นางแพศยาคนนี้ยังคิดจะติดต่อกับที่บ้านอีกหรือ ฝันไปเถอะก่อนหน้านี้นิสัยเฟิ่งเชียนอวี่ก็เปลี่ยนไปฉับพลัน นางคิดว่าอีกฝ่ายแสร้งเป็นหมูเพื่อหลอกกินเสือมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมองนางสูงเกินไป ที่แท้ก็ไม่เท่าไรสายตาของเฟิ่งหลิงหลงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ตงฟางจิ่งอีกครั้ง เมื่อถามสารทุกข์สุกดิบ ตงฟางจิ่งก็ต
“ท่านแม่ ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ หน้าของข้าก็เป็นเช่นนี้แล้ว ทำอย่างไรดีท่านแม่”เฟิ่งหลิงหลงลนลานแล้ว นางจับแขนนางหลิ่วไว้แน่น สีหน้าซีดเซียว นางเป็นสตรีแห่งโชคชะตานะ เป็นถึงฮองเฮาในอนาคต ใบหน้าของนางจะมีปัญหาได้อย่างไร“ลูกแม่ใจเย็นๆ แม่จะไปหาหมอมาดูให้เจ้าเดี๋ยวนี้”นางหลิ่งปลอบใจครู่หนึ่ง ก็สั่งให้สาวใช้ไปตามหมอทันทีหมอมาเร็วมาก เขาตรวจชีพจรให้เฟิ่งหลิงหลงอย่างละเอียด จากนั้นก็ตรวจดูตุ่มที่ขึ้นตามตัว ทว่าตรวจแล้วครึ่งวันก็ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร“ฮูหยิน ชีพจรของคุณหนูเฟิ่งเต้นเป็นจังหวะ มีกำลังคงที่ ร่างกายแข็งแรงมาก ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง ส่วนตุ่มแดงนี่ ชั่วขณะข้ายังไม่รู้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร”นางหลิ่วโมโหจนเกือบแหกปากด่าทอแล้ว หลังจากฝืนกล้ำกลืนเอาไว้ได้ ก็สั่งให้สาวใช้พาหมอไปรับค่าปิดปากสถานะของลูกสาวในตอนนี้ไม่เหมือนอดีต อาการที่เกิดขึ้นตามร่างกาย ปล่อยให้ข่าวหลุดออกไปข้างนอกไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นไม่รู้ว่าจะมีข่าวลือออกมาอย่างไรต่อจากนั้น นางก็ได้เชิญหมอมาอีกหลายท่าน แต่คนที่มาเหล่านี้ อย่าว่าแต่รักษาเลย ดูไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรบางคนบอกว่าถู
จวนอ๋องหกตงฟางจิ่งมองเว่ยเซิง “อย่างนั้นหรือ? บรรดาหมอหลวงก็ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุเลยแม้แต่น้อยเช่นกัน?”“ถูกต้อง แค่เขียนใบสั่งยาเพื่อบำรุงร่างกายให้เท่านั้น”ตงฟางจิ่งหรี่ตา ทำท่าทางครุ่นคิด ราวกับว่านึกถึงเฟิ่งเชียนอวี่ขึ้นมาทันที เขามีลางสังหรณ์รุนแรงบางอย่าง เรื่องนี้จะต้องข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นอนถ้าหากเขาเดาไม่ผิดละก็ น่าจะเป็นครั้งก่อนตอนที่เฟิ่งหลิงหลงมาหาถึงที่จวนอ๋องหก เป็นฝีมือของเฟิ่งเชียนอวี่?เมื่อลองคิดดูก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้เขารู้ว่าผู้หญิงคนนั้นไม่มีทางซื่อสัตย์ เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเกลียดเฟิ่งหลิงหลงเกลียดเสียจนเข้ากระดูก เป็นไปได้อย่างไรที่ยังจะยอมปรนนิบัติผู้อื่นอย่างเต็มใจ มีปัญหาอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆเฮอะ ดูท่า จะมีเรื่องสนุกให้ดูอีกแล้วสิเฟิ่งเชียนอวี่ไม่รู้เลยแม้แต่น้อยสิ่งที่ตนกระทำไปนั้นได้ถูกผู้ชายบางคนเดาได้แล้วตอนนั้นนางเพื่อที่จะให้ตนหลุดพ้นจากการตกเป็นที่ต้องสงสัย ยาที่วางนั้นเป็นแบบออกฤทธิ์ช้า ห้าถึงเจ็ดวันถึงจะออกฤทธิ์นางนั่งอยู่บนเก้าอี้ ขาไขว่ห้าง ไม่รู้ว่านึกอะไรขึ้นได้ รอยยิ้มที่มุมปากเต็มไปด้วยความสะใจเวลาสองวันผ่านไ
ในเวลานี้ จู่ ๆ สาวใช้คนหนึ่งก็ส่งเสียงกล่าวออกมา “ฮูหยิน หรือไม่ก็เชิญนักพรตเฟิงที่อยู่จวนอ๋องหกท่านนั้นมาเถอะเจ้าค่ะ”บรรดาสาวใช้ชราคนอื่น ๆ ก็ได้สติกลับคืนมา ต่างพากันคล้อยตามทันทีนักพรตเฟิงที่จวนอ๋องหกท่านนั้น ถึงแม้ว่าจะยื่นมือเข้าช่วยรักษาไม่มากนัก แต่ทุกครั้งที่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือก็สามารถรักษาผู้ป่วยที่ใกล้ตายให้หายเป็นปกติได้เหมือนเดิมทุกครั้ง สร้างปาฏิหาริย์ อาการที่ไม่สามารถรักษาให้หายดีได้ แต่เมื่อผ่านมือเขา ก็หายดีเป็นปลิดทิ้งหมอหลวงหลายคนตกตะลึง ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันและกัน เห็นได้ชัดว่า พวกเขาเองก็เคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของนักพรตเฟิงท่านนั้นเช่นเดียวกัน เพียงแต่ไม่เคยเห็นหน้าเลยสักครั้งเท่านั้นฮูหยินหลิ่วดวงตาเปล่งประกายทันที เห็นความหวังใหม่อีกครั้ง รีบบอกเฟิ่งอวี้เทียน เฟิ่งอวี้เทียนพาคนไปที่จวนอ๋องหกด้วยตัวเองและภายในจวนอ๋อง เฟิ่งเชียนอวี่รออยู่ตั้งแต่แรกแล้ว ในเมื่อนางลงมือแล้ว จะยอมให้หมอคนอื่นรักษาโรคของเฟิ่งหลิงหลงให้หายดีอย่างง่ายดายได้อย่างไรพ่อบ้านรายงานตงฟางจิ่งแล้ว ตงฟางจิ่งเจอหน้าเฟิ่งอวี้เทียนแล้ว ในนามแล้ว คนคนนี้ยังเป็นพ่อตาของเขาอีกด้วย
นางสาวเท้าเดินไปที่ข้างเตียง สาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ เลิกผ้าม่านขึ้น นางมองเห็นใบหน้าที่น่าสยดสยองของเฟิ่งหลิงหลงแวบหนึ่งเฟิ่งเชียนอวี่จับชีพจรของนาง หยิบเข็มเงินออกมาจากในกระเป๋ายา แทงลงไปบนแขนของนางหลายที แล้วจ้องมองลูกตา และฝ้าที่ลิ้นของนางเป็นต้น กล่าวโดยรวมแล้วก็คือทำท่าทางที่ดูเหมือนจริงจัง แต่อันที่จริงกลับไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด ถึงได้ลุกขึ้นยืน“นักพรตเฟิง อาการของบุตรสาวข้า มีผลหรือไม่?”เฟิ่งอวี้เทียนกล่าวถามอย่างอดไม่ได้ รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที เกรงว่าเขาจะไร้หนทาง เฉกเช่นเดียวกันกับหมอหลวงทั้งหลายเฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้าพร้อมกล่าวเสียงเรียบ “เรื่องเล็กน้อย สามารถรักษาได้”ความกังวลใจของเฟิ่งอวี้เทียนคลายลงเป็นอย่างยิ่ง บนใบหน้ามีความปีติ นางหลิ่วร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ“ดีเหลือเกิน รักษาได้ก็ดี รักษาได้ก็ดี หลิงหลงมีทางรอดแล้ว”หมอหลวงทุกคนสีหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ หนึ่งในนั้นอดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม “ขอถามท่านนักพรต โรคของคุณหนูเฟิ่ง เป็นโรคอะไรหรือ?”เฟิ่งเชียนอวี่ได้เตรียมการไว้เรียบร้อยตั้งแต่แรก“เป็นเพียงแค่ขี้กลากชนิดหนึ่งเท่านั้น”อะไรนะ? ขี้กลากหรือ?หมอห
เฟิ่งอวี้เทียนและคนอื่น ๆ จ้องมองเฟิ่งเชียนอวี่ สีหน้าเต็มไปด้วยคำว่าเหลวไหล“น้ำ น้ำมูลนี่ ควร ควรจะใช้อย่างไร...” เฟิ่งอวี้เทียนพูดต่อไปไม่ไหวจริง ๆเฟิ่งเชียนอวี่เผชิญหน้ากับสายตาของทุกคนอย่างไม่สะทกสะท้าน ยังคงสงบนิ่งเช่นเดิม “แน่นอนว่าต้องดื่มลงไป”หนึ่งในหมอหลวงไม่สามารถทนรับต่อไปได้จริง ๆ รีบลุกขึ้นยืนทันที ใบหน้าชราคร่ำเครียด“เหลวไหล ช่างเป็นเรื่องเหลวไหลจริง ๆ ข้าเป็นหมอมาหลายสิบปี ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าของสกปรกเช่นนี้ จะสามารถนำมารักษาอาการไข้ได้ ฮึ่”หมอหลวงคนอื่น ๆ พากันเห็นด้วย สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อเฟิ่งเชียนอวี่ไม่โมโห สถานการณ์เหล่านี้นางคาดเดาเอาไว้ได้ตั้งแต่แรกแล้วแต่คนพวกนี้ยอมรับไม่ได้แล้วอย่างไร? นอกเสียงจากว่าไม่อยากให้เฟิ่งหลิงหลงหายดี ไม่อย่างนั้น เฮอะ น้ำมูลนี้ เฟิ่งหลิงหลงไม่อยากดื่มก็ต้องดื่ม“ท่านผู้นี้มีนามว่าอะไร?”“ข้าแซ่หวัง” หมอหลวงท่านนั้นกล่าวอย่างอารมณ์ไม่ดี“ที่แท้ก็คือหมอหลวงหวัง วิธีการรักษาที่ท่านไม่เคยได้ยินมาก่อนมีมากถมไป ท่านไม่เคยได้ยินก็เป็นเรื่องของท่าน แต่จะปฏิเสธการมีอยู่ของมันไม่ได้”“ยังไม่ทันได้ลองเลย จะให้ข้อสรุปไ
เฟิ่งเชียนอวี่เดินไปที่โถงด้านนอก สายตาของตงฟางจิ่งและคนอื่น ๆ มองมาทันที โดยเฉพาะเว่ยเซิงกับเว่ยชิว สายตาที่จ้องมองนาง แปลกประหลาดอย่างอธิบายไม่ได้นางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปหาแล้วนั่งลงอย่างใจเย็นเวลาครึ่งชั่วยามผ่านไปอย่างรวดเร็วมาก มีเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจของสาวใช้ชราดังลอยมาจากภายในห้อง“นายท่าน ฮูหยิน คุณหนูตัวหายร้อนแล้วจริง ๆ ด้วย ไข้ลดลงไปแล้วจริง ๆ ด้วย”เฟิ่งเชียนอวี่แสยะยิ้มเล็กน้อย ไม่หวังซึ่งลาภยศสรรเสริญในไม่ช้า เฟิ่งอวี้เทียนก็สาวเท้ายาวเดินเข้ามาหา บนใบหน้าเต็มไปด้วยความปีติ“ท่านนักพรต บุตรสาวของข้าไข้ลดแล้วจริง ๆ ฝีมือการรักษาของท่านนักพรตยอดเยี่ยมอย่างที่คิดไว้จริง ๆ”“เพียงแค่ตำรายาสมุนไพรพื้นบ้านเท่านั้น ไม่ควรค่าให้ใต้เท้าเฟิ่งชื่นชม” เฟิ่งเชียนอวี่กล่าวอย่างถ่อมตัวเมื่อเฟิ่งอวี้เทียนได้ยินดังนั้น ก็นึกถึงวิธีการรักษานั่นขึ้นมาอีกครั้ง กระตุกมุมปากสองสามที“ไม่ทราบว่าตุ่มพวกนั้นบนร่างกายของบุตรสาวข้า จะรักษาอย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่นำใบสั่งยาที่จัดเตรียมเอาไว้เรียบร้อยตั้งแต่แรกแผ่นหนึ่งยื่นไปให้ นางไม่อยากจะเข้าไปในห้องที่มีกลิ่นเหม็นชวนอ้วกนั่นอีกแล้ว
ตงฟางจิ่งเปิดกล่องยาออก ราวกับว่าได้เปิดโลกใบใหม่โลกหนึ่งขึ้นมาสิ่งของด้านในนอกจากขวดกระเบื้องสามสี่ขวดกับเข็มเงินแล้ว อันอื่นที่เหลือเขาไม่รู้จักเลยสักอัน แล้วก็ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยเขาหยิบสิ่งของทรงกระบอกกลมอันหนึ่งขึ้นมา ไม่นึกว่ายังเป็นสีใสอีกด้วย ด้านนอกยังมีกระดาษสีใสหุ้มเอาไว้อีกหนึ่งชั้นเป็นครั้งแรกที่ตงฟางจิ่งได้เห็นกระดาษสีใส คุณภาพค่อนข้างแข็งแรงอีกด้วย“นี่คือสิ่งใด?”เฟิ่งเชียนอวี่เหลือบตามองแวบหนึ่ง “นี่เรียกว่ากระบอกฉีดยา”“เข็มที่อยู่ด้านบนเป็นแบบกลวง ด้านในหลอดบรรจุด้วยยาน้ำ นำปลายเข็มแทงเข้าไปในเส้นเลือดของมนุษย์ นำยาน้ำดันเข้าไปแบบนี้นางอธิบายหลักการการฉีดยาคร่าว ๆ ให้ตงฟางจิ่งฟังตงฟางจิ่งได้ฟังก็รู้สึกสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ตามความเข้าใจของเขา ยาน้ำมีไว้สำหรับดื่ม นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รู้ว่า สามารถนำมาฉีดเข้าไปในร่างกายได้อีกด้วย“แล้วนี่คืออะไร?”“นี่คือถุงมือ ใช้สำหรับสวมบนมือ ป้องกันมือของแพท...หมอสัมผัสโดนคนป่วยโดยตรง เพื่อ...”เฟิ่งเชียนอวี่ยังไม่ทันพูดจบ ตงฟางจิ่งก็พยักหน้า กล่าวอย่างพอใจ “ของสิ่งนี้ดีมาก”หืม?นางมีความไม่เข้าใจบางอย่างตงฟางจิ่
“ฮือ ฮือ...”ตงฟางหล่างหน้าซีดด้วยความหวาดผวา พร้อมส่ายหน้าอย่างแรง ไม่ใช่นะเสด็จพ่อ ไม่ได้เป็นเช่นนั้นทว่าฮ่องเต้เทียนหยวนกลับเชื่อไปเจ็ดแปดส่วนแล้วเพราะมือสังหารพูดอย่างมีเหตุมีผล หากตงฟางจิ่งลอบสังหารเขาจริง เหตุผลล่ะ?ตงฟางจิ่งร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เด็ก น้อยมากที่จะออกจากจวนอ๋อง ไม่มีเหตุผลในการลอบปลงพระชนม์แม้แต่น้อย เพราะต่อให้ทำสำเร็จ แล้วเขาจะทำอะไรได้?ทว่ารัชทายาทไม่เหมือนกันหากฮ่องเต้เทียนหยวนตาย รัชทายาทจะเป็นฮ่องเต้ตงเยว่คนต่อไป ถือเป็นผลประโยชน์มหาศาลสำหรับเขา จึงค่อนข้างเข้าใจได้ ฮ่องเต้เทียนหยวนเป็นฮ่องเต้ที่เห็นแก่ตัวและรักอำนาจ คำพูดของมือสังหารแต่ละคำกระแทกเข้าไปในใจเขา ราวกับรุกล้ำขีดจำกัดของเขา ทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุด“ทหาร มาลากตัวมือสังหารผู้นี้ลงไปประหารซะ”“ยังมีรัชทายาท คนที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เนรคุณอกตัญญู ช่างน่าโมโหยิ่งนัก มาลากตัวไปรอรับโทษที่คุกหลวง”ฮ่องเต้เทียนหยวนโมโหมาก หลังจากสั่งเสร็จจึงจากไปทันทีเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างสุดขั้ว ตงฟางจิ่งถูกปล่อยออกจากวังอย่างปลอดภัย ส่วนรัชทายาทถูกนำไปคุมขังที่คุกหลวงรัชทายาทคงไม่นึกไม่ฝัน เมื
“รัชทายาท...”น้ำเสียงเย็นเยือกของฮ่องเต้เทียนหยวนทำให้ใจของตงฟางหล่างบีบรัด“เสด็จพ่อ ลูกถูกปรักปรำพ่ะย่ะค่ะ ไม่รู้ว่ามือสังหารผู้นี้ได้รับคำสั่งจากใคร ถึงได้ใส่ความลูกเช่นนี้”“ก่อนหน้านี้เขาซัดทอดน้องหกก่อน ตอนนี้ซัดทอดลูก เห็นได้ชัดว่ามีเงื่อนงำ ความภักดีที่ลูกมีต่อเสด็จพ่อ ฟ้าดินเป็นพยานได้ ไม่กล้าลบหลู่พระองค์แม้แต่น้อย”“เสด็จพ่อ นี่เป็นแผนการ ขอจงทรงตรวจสอบด้วยพ่ะย่ะค่ะ”สีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนบรรยายไม่ถูก แต่ไม่ดีแน่นอน สายตาของพระองค์หันมองตงฟางจิ่ง“เจ้าหก เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกไม่มีความเห็น มีเพียงประโยคเดียวเท่านั้น ลูกเป็นผู้บริสุทธิ์พ่ะย่ะค่ะ”ตงฟางหล่างกัดฟันกรอด แล้วถลึงตาใส่เขา เจ้าบริสุทธิ์หรือ? ดังนั้นคนที่มีปัญหาคือเขางั้นหรือ?เขาอดแค่นหัวเราะไม่ได้ “น้องหกพูดอย่างไม่เดือดร้อน ครั้งที่แล้วมือสังหารซัดทอดเจ้า คราวนี้กลับเปลี่ยนคำให้การกะทันหัน ช่างบังเอิญเสียจริง”ตงฟางจิ่งส่ายหน้าเชื่องช้า “มือสังหารชี้แจงสาเหตุแล้วไม่ใช่หรือ”“ท่านสังหารน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา คนเป็นพี่ชายอย่างเขาไม่ยินดีถวายชีวิตให้ท่านอีกแล้ว เรื่
“เมื่อครู่เจ้าบอกว่ารัชทายาทสั่งการเจ้าหรือ?”“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมไม่กล้าโป้ปด ทุกอย่างเป็นคำสั่งขององค์รัชทายาท”ตงฟางหล่างที่อยู่อีกด้านกำหมัดแน่น มองดูมือสังหารด้วยแววตาอำมหิต แทบอยากจะเข้าไปแทงอีกฝ่ายให้ตายคามือเขากล้าได้อย่างไร...“ฮึ เจ้านึกว่าเราจะเชื่อเจ้าหรือ?”“ครั้งที่แล้วเจ้าซัดทอดอ๋องหก ครั้งนี้ซัดทอดรัชทายาท เจ้ากำลังปั่นหัวเราเหมือนคนโง่หรือ?”มือสังหารรีบกล่าว “กระหม่อมไม่กล้า”“เราว่าเจ้าใจกล้ามาก ในเมื่อเจ้าซัดทอดรัชทายาท เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เหตุใดครั้งแรกเจ้าซัดทอดอ๋องหก แล้วตอนนี้ถึงเปลี่ยนคำให้การอีกครั้ง?”“หากเจ้าไม่มีเหตุผล เราจะให้เจ้าได้ลิ้มรสสุดยอดของเครื่องทรมาน” ฮ่องเต้เทียนหยวนทรงพลังดูน่าเกรงขามมือสังหารกัดฟันกรอก แล้วจ้องไปที่รัชทายาท ในดวงตามีความโกรธแค้นที่รุนแรงความโกรธแค้นนั้นเสมือนจริงมากตงฟางหล่างถูกเขาจ้องจนชะงักไป“กระหม่อมเป็นข้ารับใช้ขององค์รัชทายาทมาตลอด ทำงานให้องค์รัชทายาทด้วยความจงรักภักดี”“การลอบปลงพระชนม์ในครั้งนี้ เดิมทีกระหม่อมตั้งใจแน่วแน่ว่าจะตาย เพราะองค์รัชทายาทเคยบอกว่าหากกระหม่อมเกิดเรื่อง จะช่วยดูแลน้องสาวเพียง
ถูกต้อง หากไม่มีตราประทับนั่น แค่คำให้การของมือสังหาร คงไม่มีน้ำหนักมากพออ๋องทุกคนล้วนมีตราประทับเฉพาะของทุกคน เพื่อแสดงสถานะของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นวัสดุหรือฝีมือแกะสลักล้วนเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งยากจะเลียนแบบทว่าตราประทับนั่นกลับอยู่บนตัวมือสังหาร หนำซ้ำหลังผ่านการพิสูจน์ มันเป็นของจริงนี่จึงเป็นสาเหตุให้ฮ่องเต้เทียนหยวนสงสัยตงฟางจิ่งสีหน้าฮ่องเต้เทียนหยวนไม่สู้ดีนัก เขาหันมองตงฟางจิ่ง “เจ้าหก เจ้าเป็นลูกที่เรารักและเอ็นดูมาโดยตลอด หากเจ้ายอมรับตอนนี้ เราจะลงโทษสถานเบา”“ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าเราไม่ให้โอกาสเจ้า”เมื่อรัชทายาทได้ยิน แววตามีความไม่สบอารมณ์แวบผ่านตงฟางจิ่งสีหน้าเรียบเฉย “ลูกไม่มีความผิดพ่ะย่ะค่ะ”“ดี นำตัวเข้ามาเดี๋ยวนี้” ฮ่องเต้เทียนหยวนเอ่ยเสียงฮึดฮัดในไม่ช้า มือสังหารที่ถูกขังอยู่ในเรือนจำกรมราชทัณฑ์ถูกคุมตัวเข้ามามือสังหารหมอบกราบอยู่บนพื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดทั้งสิ้นฮ่องเต้เทียนหยวนมองเขาเยือกเย็น “เจ้าลองบอกเราอีกครั้งสิ คืนนั้นที่เจ้าลอบสังหารเรา ได้รับคำสั่งจากใครกันแน่?”“ทางที่ดีจงพูดความจริง หากกล้าโป้ปดแม้แต่น้อย เราจะเฉือนเจ้าท
“พระชายา ตกลงท่านทำอะไรลงไป?”เฟิ่งเชียนอวี่เท้าคางพร้อมโบกมือ “บอกไปพวกเจ้าก็ไม่เข้าใจอยู่ดี”นางหันมองเว่ยเซิงกับเว่ยชิว “พวกเจ้าสองคนมีวิธีทำให้ฮ่องเต้ไต่สวนคดีของตงฟางจิ่งอีกครั้งหรือไม่?”“จำไว้ ทางที่ดีต้องไต่สวนต่อหน้าเหล่าขุนนาง โดยเฉพาะสามารถไต่สวนในท้องพระโรง สอบสวนมือสังหารคนนั้นต่อหน้าทุกคน”“ไม่ได้นะขอรับพระชายา หากมือสังหารคนนั้นซัดทอดท่านอ๋องอีกครั้ง เช่นนั้นข้อหานี้ จะไม่มีวันรอดไปได้อีกเลย”สีหน้าเว่ยเซิงเคร่งเครียดมากเฟิ่งเชียนอวี่กลอกตามองเขา “เรื่องนี้ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร? วางใจเถอะ หากอยากให้ท่านอ๋องของพวกเจ้าออกมาจากคุกหลวงอย่างปลอดภัย ต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ”“นี่มัน...”เว่ยเซิงเอ่ยอย่างลังเล “พระชายา ท่านมั่นใจหรือ?”“มั่นใจแน่นอน”“งั้น...ก็ดี ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” เว่ยเซิงสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วทำความเคารพคดีลอบปลงพระชนม์ฮ่องเต้เทียนหยวน แม้จะถูกมือสังหารซัดทอด แต่ในทางความผิด ตงฟางจิ่งยังไม่ยอมรับแม้ภายนอกตงฟางจิ่งจะเป็นอ๋องที่อ่อนแอขี้โรค ไม่สนใจเรื่องภายนอก ทว่าหลายปีมานี้ แอบวางแผนอยู่เบื้องหลังไม่น้อยเรื่องลอบปลงพระชนม์ เป็นความผิดที่ใส่ร้
บ่าวทางซ้ายมือเข้าใจทันที จึงก้าวไปหนึ่งก้าวแล้วทำให้เหยียนความสลบเขาวางเหยียนควานไว้บนพื้น แล้วหันไปมองอีกคน “พระชายา ท่านเก่งกาจเหลือเกินขอรับ”นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะเข้ามาอย่างง่ายดาย หนำซ้ำยังไม่มีใครขัดขวางที่แท้บ่าวรับใช้ทั้งสองคน คือเฟิ่งเชียนอวี่และเว่ยเซิงส่วนเหลิ่งหานและเว่ยชิว ทั้งสองคนรออยู่ด้านนอก“เจ้าเฝ้าเขาให้ดี ข้าจะไปพบมือสังหารคนนั้น”“ไม่ได้ขอรับพระชายา ให้ข้าน้อยไปเป็นเพื่อนเถอะ ท่านเข้าไปคนเดียวอันตรายมาก”“วางใจเถอะ ข้ารู้จักประมาณตน ไม่ต้องพูดมาก”หลังจากเฟิ่งเชียนอวี่เอากุญแจมาจากมือเหยียนควาน ในไม่ช้าก็หาห้องขังของมือสังหารคนนั้นเจอพื้นที่บริเวณนี้เป็นส่วนที่ลึกมาก ห้องขังรอบด้านล้วนว่างเปล่า มีเพียงหนึ่งห้องที่คุมขังคนเอาไว้ จึงหาได้ง่ายมากนางเปิดประตูห้องขัง แล้วเดินเข้าไปอย่างเชื่องช้ามือสังหารที่เดิมทีนอนพักสายตาอยู่บนเตียงลืมตาโพลง แล้วระมัดระวังตัวมาก “เจ้าคือใคร? เข้ามาได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่มองสำรวจอีกฝ่ายสักครู่ ใบหน้าดำคล้ำ หน้าตาธรรมดา เป็นคนที่หน้าตากลืนหายเข้าไปในฝูงชนนางเลิกคิ้ว เดินเข้าไปอย่างเชื่องช้า จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี
“...”เว่ยเซิงตาลุกวาว “พระชายา ท่านรู้แล้วหรือว่าจะช่วยท่านอ๋องได้อย่างไร?”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “มีวิธีที่ช่วยได้จริง แต่ว่า ข้าจำเป็นต้องได้พบมือสังหารคนนั้น”“ไม่มีปัญหา เรื่องนี้พวกข้าจะคิดหาวิธีเองขอรับ” เว่ยเซิงเว่ยชิวรีบรับปากทันทีเฟิ่งเชียนอวี่ผายมือ “ฤกษ์ดีไม่สู้ฤกษ์สะดวก ทำเสียตอนนี้เถอะ”“ตอนนี้หรือ?” ทั้งสามคนแปลกใจนางเลิกคิ้ว “ไม่ได้หรือ?”“ไม่ใช่แน่นอนขอรับ” พวกเขาแค่รู้สึกว่ากะทันหันเกินไปเท่านั้นแต่เรื่องช่วยท่านอ๋องจะรอช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี พวกเว่ยเซิงจึงลงมือทันทีขณะนี้เป็นเวลาตีสามแล้ว บนถนนหนทางจึงไม่มีผู้คน เงียบสงัดมาก คนชุดดำทั้งสี่คนเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปที่เรือนจำของกรมราชทัณฑ์เรือนจำของกรมราชทัณฑ์ย่อมตั้งอยู่ภายในกรม และมีทหารป้องกันแน่นหนาเช่นกันหากอยากเคลื่อนไหวโดยไม่เอิกเกริก แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้เหล่าทหารพวกนี้รู้ คงทำได้เพียง...เฟิ่งเชียนอวี่ครุ่นคิด “เสนาบดีกรมราชทัณฑ์สามารถเข้าออกเรือนจำได้ตลอดใช่หรือไม่?”เว่ยเซิงพยักหน้า “แน่นอนขอรับ”สำหรับเสนาบดีกรมราชทัณฑ์ เรือนจำเปรียบเสมือนพื้นที่ของตัวเอง ย่อมเข้
“เกลียดหรือ...คงไม่ถึงขั้นนั้น”ปีศาจจิ๋วที่มีเงางอกออกมาบนหัวบินเข้ามา ทำเสียงฮึดฮัด “หากไม่ใช่เพราะตอนแรกเขาไม่ยอมหย่าร้างกับเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้า ตอนนี้คงมีความสุขอิสรเสรีไปแล้ว”“เขาเป็นคนกักขังเจ้าเอาไว้ในจวนอ๋องหก ทำให้เจ้าไม่อาจทำตามความฝันได้”เฟิ่งเชียนอวี่กระพริบตา แล้วสงสัย “ความฝันของข้าคือสิ่งใดหรือ?”ปีศาจจิ๋วบินวนกลางอากาศหนึ่งรอบ กำหมัดขวาแล้วชูขึ้น “ความฝันของพวกเราคือ เงินทองที่ใช้ไม่หมด หนุ่มรูปงามที่เกี้ยวไม่หวาดไม่ไหว”เฟิ่งเชียนอวี่ “...”นางฟ้าจิ๋วถีบปีศาจจิ๋วจนกระเด็น พร้อมมือเท้าเอว เอ่ยอย่างโกรธเคือง “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ”“เชียนอวี่ เจ้าอย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหล เขาคือหายนะ เจ้าดูเขาสิแค่หน้าตาก็ไม่เหมือนคนดีแล้ว”เฟิ่งเชียนอวี่เอ่ยเชื่องช้า “พวกเจ้าสองคนหน้าตาเหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน”“ใครเป็นคนบอก”“ไม่ใช่สักหน่อย”ปีศาจจิ๋วและนางฟ้าจิ๋วโต้แย้งพร้อมกันเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ แล้วโบกพวกเขาให้พ้นทางอย่างน่ารำคาญ “เอาละ เอาละ หนวกหูจะตายแล้ว ไปไกล ๆ ข้าเลย”นางฟ้าจิ๋วเบะปาก “เจ้าต้องช่วยเขาให้ได้นะ หากสามีเจ้าตาย เจ้าเองก็จบเห่เช่นกัน”“ที่นี่
“เจ้านึกว่าข้าจับตัวช่างพวกนั้นไม่ได้หรือ?”“ตอนนี้ข้าใจดีเปิดโอกาสให้เจ้ามีชีวิตรอด อย่าทำตัวไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี”ตงฟางจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “หากรัชทายาทเก่งกล้าขนาดนั้น เชิญตามสบาย”เฟิ่งเชียนอวี่เคยกล่าวไว้ แม้ช่างเหล่านั้นจะรู้วิธีทำ แต่พวกเขาไม่รู้ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญที่สุดหากไม่มีขั้นตอนนี้ จะไม่สามารถผลิตแก้วหลิวหลีที่เป็นผลึกใสออกมาได้คิดไปก็น่าจะใช่ นางรักเงินทองขนาดนั้น สิ่งที่ทำเงินได้มากมาย จะเปิดเผยออกไปหมดได้อย่างไร หญิงผู้นั้นฉลาดเป็นกรดตงฟางจิ่งจึงไม่เป็นห่วงสักนิดตงฟางหล่างเห็นว่าใช้ไม้ไหนก็ไม่ได้ผล จึงจากไปด้วยความโกรธจวนอ๋องหกเฟิ่งเชียนอวี่พลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงเพราะนอนไม่หลับในหัวของนางคิดถึงตงฟางจิ่งโดยไม่มีสาเหตุแม้นางจะไม่รู้ว่าคุกหลวงในยุคโบราณเป็นอย่างไร แต่คิดก็รู้ แม้คุกหลวงจะเป็นคุกระดับสูง ทว่าอย่างไรก็คือคุก จะสุขสบายได้อย่างไรตงฟางจิ่งถูกจับตัวไป ข้างในคงไม่มีใครใช้เครื่องทรมานกับเขาหรอกนะ?ไม่ไม่ ไม่น่าจะใช่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เป็นท่านอ๋อง เป็นถึงองค์ชาย คงไม่ตกต่ำขนาดนั้นแต่เรื่องที่เขาถูกตั้งข้อหาไม่ใช่เรื่องเล็ก นั่นมันก่อกบฏเ