ตงฟางจิ่งเปิดกล่องยาออก ราวกับว่าได้เปิดโลกใบใหม่โลกหนึ่งขึ้นมาสิ่งของด้านในนอกจากขวดกระเบื้องสามสี่ขวดกับเข็มเงินแล้ว อันอื่นที่เหลือเขาไม่รู้จักเลยสักอัน แล้วก็ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยเขาหยิบสิ่งของทรงกระบอกกลมอันหนึ่งขึ้นมา ไม่นึกว่ายังเป็นสีใสอีกด้วย ด้านนอกยังมีกระดาษสีใสหุ้มเอาไว้อีกหนึ่งชั้นเป็นครั้งแรกที่ตงฟางจิ่งได้เห็นกระดาษสีใส คุณภาพค่อนข้างแข็งแรงอีกด้วย“นี่คือสิ่งใด?”เฟิ่งเชียนอวี่เหลือบตามองแวบหนึ่ง “นี่เรียกว่ากระบอกฉีดยา”“เข็มที่อยู่ด้านบนเป็นแบบกลวง ด้านในหลอดบรรจุด้วยยาน้ำ นำปลายเข็มแทงเข้าไปในเส้นเลือดของมนุษย์ นำยาน้ำดันเข้าไปแบบนี้นางอธิบายหลักการการฉีดยาคร่าว ๆ ให้ตงฟางจิ่งฟังตงฟางจิ่งได้ฟังก็รู้สึกสงสัยเป็นอย่างยิ่ง ตามความเข้าใจของเขา ยาน้ำมีไว้สำหรับดื่ม นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รู้ว่า สามารถนำมาฉีดเข้าไปในร่างกายได้อีกด้วย“แล้วนี่คืออะไร?”“นี่คือถุงมือ ใช้สำหรับสวมบนมือ ป้องกันมือของแพท...หมอสัมผัสโดนคนป่วยโดยตรง เพื่อ...”เฟิ่งเชียนอวี่ยังไม่ทันพูดจบ ตงฟางจิ่งก็พยักหน้า กล่าวอย่างพอใจ “ของสิ่งนี้ดีมาก”หืม?นางมีความไม่เข้าใจบางอย่างตงฟางจิ่
แม้ว่าแคว้นตงเยว่จะเป็นผู้นำของแคว้นทั้งสี่ กำลังทหารย่อมแข็งแกร่งที่สุดในสี่แคว้น แน่นอนว่า ดาบและกระบี่ที่เหล่าพลทหารใช้ เมื่อเผชิญหน้ากับอาวุธของแคว้นซีเหลียง เมื่อเทียบกันแล้ว ก็เหมือนกับไม่มีประโยชน์อะไรแรกเริ่มเดิมทีแคว้นตงเยว่ถูกโจมตีจนล่าถอยด้วยความพ่ายแพ้ ขวัญกำลังใจของทหารถดถอย ความสูญเสียมหาศาลแต่ยังดีที่แคว้นตงเยว่มีเส้นสายมากมาย ประกอบกับตอนนั้นมีนายพลใหญ่คนหนึ่ง จัดทัพและวางค่ายกล ใช้ทหารได้เก่งกาจ สุดท้ายก็บีบให้แคว้นซีเหลียงล่าถอยไปได้แต่แคว้นตงเยว่ ก็ได้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่จากเหตุนี้การศึกครั้งนี้ ทำให้อีกสองแคว้นที่คอยดูอยู่ข้าง ๆ ตกตะลึงไม่น้อย โดยเฉพาะตอนที่มีดโลหะของแคว้นซีเหลียงปรากฏขึ้นอีกสองแคว้นใหญ่ก็ไม่เอาตัวออกห่างอีกเลย ไม่อย่างนั้น หากให้แคว้นซีเหลียงโจมตีแคว้นตงเยว่จริง ๆ ความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพิ่มสูงขึ้นทันที เป้าหมายในการโจมตีถัดไป จะต้องเป็นพวกเขาตามสถานการณ์ศึกที่สงบลง สี่แคว้นใหญ่ได้ดำเนินการเจรจากันมีดโลหะของแคว้นซีเหลียงทำให้อีกสามประเทศหวาดหวั่น การเจรจาตอนนั้น ทั้งสามแคว้นมีการแอบร่วมมือกัน เพื่อสะกดอำนาจของแคว้นซีเหลียงแคว้
เฟิ่งเชียนอวี่กำลังครุ่นคิด นี่น่าจะเหมือนกับที่ผู้ชายยุคสมัยปัจจุบันชอบรถ หนีจากเสน่ห์ของรถไม่พ้นสมัยโบราณไม่มีรถ แต่ผู้ชายสมัยโบราณฝึกวรยุทธ์ คนที่ฝึกวรยุทธ์ จะต้องชื่นชอบอาวุธประเภทมีดและกระบี่แน่นอน แล้วก็มีความรักเป็นอย่างยิ่ง เรื่องนี้ก็พอเข้าใจได้เฟิ่งเชียนอวี่อยากจะเบี่ยงเบนความสนใจไปทางอื่น แต่นางตระหนักไม่ถึงเลยแม้แต่น้อย ยกมือขึ้นแล้วอุ้มกล่องยากลับมา“ท่านอ๋อง ต่อให้ท่านจ้องมีดเล่มนั้นอย่างไร มันก็ไม่มีทางเกิดอะไรขึ้นหรอก เอาอย่างนี้แล้วกัน ข้าเป็นคนใจดีมาแต่ไหนแต่ไร ชุดนี้ขอมอบให้ท่านแล้วกัน ท่านค่อย ๆ ดูแล้วกัน”ความคิดของตงฟางจิ่งหยุดชะงักไปทันที มองนาง แล้วค่อย ๆ แสยะยิ้ม ถือโอกาสกล่าว “ถ้าอย่างนั้นข้าก็ขอบใจพระชายามาก”“แต่ว่า พระชายาบอกว่า นี่คืออุปกรณ์จำเป็นที่เจ้าใช้ในการรักษาไม่ใช่หรือ? มอบให้ข้าแล้ว จะส่งผลกระทบต่อการรักษาโรคของพระชายาหรือไม่?”เฟิ่งเชียนอวี่โบกมือ “ไม่มีผลกระทบไม่มีผลกระทบ ที่ข้ายังมีอยู่อีกชุดหนึ่ง ท่านอาจารย์ให้ข้าไว้สำรอง”ในตู้ของห้องทดลองพกพา อุปกรณ์ผ่าตัดเป็นชุดพวกนี้ ยังมีอีกสิบกว่าชุด สินค้าในคลังมีเยอะแยะรอยยิ้มของตงฟางจิ่งไม่
ครู่ต่อมา ภาพมายาเปลี่ยนเป็นภาพจริงทันทีภายในช่องว่าง ก็มีอุปกรณ์ผ่าตัดชุดหนึ่งเพิ่มขึ้นมาอีกครั้งการคาดเดาได้รับการพิสูจน์แล้ว เฟิ่งเชียนอวี่ข้อมือสั่นเทาด้วยความตื่นเต้น เอามือจับหน้าอกเกือบจะกรีดร้องเสียงแหลมออกมา นะ นี่มันน่ามหัศจรรย์เกินไปแล้วมั้ง?เฟิ่งเชียนอวี่จ้องมองอุปกรณ์มีดชุดหนึ่งในมือ แล้วก็หันไปมองอีกสิบสองชุดที่จัดเรียงรายอยู่เต็มในตู้ตามเดิม สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง ดวงตาทั้งสองข้างเปล่งประกายเพราะฉะนั้น สิ่งของที่อยู่ภายในห้องทดลองนี้ เพียงแค่ถูกเธอหยิบออกไป มันก็จะเติมให้เองโดยอัตโนมัติเหรอ? นี่มันจะใจดีเกินไปหน่อยไหมถ้าอย่างนั้น ถ้าหากว่า นางเอาสิ่งของอื่น ๆ เข้าไปวาง จากนั้นหยิบออกมาละ?เฟิ่งเชียนอวี่หยิบตั๋วเงินใบหนึ่งออกมาแล้วโยนเข้าไปในตู้อย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย แล้วก็อยู่หลายนาทีด้วยความอดทน แล้วก็นำตั๋วเงินออกมา จากนั้นเริ่มเบิกตามองผลปรากฏว่าเบิกตามองจนปวดตา ก็ไม่เห็นจะมีตั๋วเงินเพิ่มขึ้นมาจากตรงไหนเลยเฟิ่งเชียนอวี่ถอนหายใจ ช่างเถอะ มนุษย์นี่นะ ไม่ควรจะละโมบโลภมากเกินไปจริง ๆ ดูท่า ฟังก์ชันที่คล้ายกับการเติมเลือดอัตโนมัติในเกม จะจำกัดแค่เพี
“ท่านแม้ ข้าทรมานเหลือเกิน เพราะเหตุใดพวกท่านถึงได้ยอมให้ใช้วิธีแบบนั้น เพราะเหตุใดถึงให้ข้าดื่มของสิ่งนั้น เพราะเหตุใด...”นางยิ่งพูดก็ยิ่งหวั่นไหว ตะโกนและร้องไห้อย่างทุกข์ทรมาน“ลูก พ่อแม่ของเจ้าเองก็จนปัญญาแล้วเช่นกัน ตอนนั้นเจ้าตัวร้อนจนใกล้จะสติเลอะเลือนแล้ว บรรดาหมอหลวงก็ไร้ซึ่งหนทาง”“จะปล่อยให้เจ้าตัวร้อนแบบนั้นต่อไป หัวสมองอาจจะเกิดปัญหาได้ ไร้ซึ่งหนทางแล้วจริง ๆ”นางหลิ่วหางตาแดงเล็กน้อย กล่าวเสียงสะอื้น สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่ง “ยังดีที่ถึงแม้ว่าตำรายาสมุนไพรพื้นบ้านนั่นจะน่าสะอิดสะเอียนไปหน่อย แต่ก็ได้ผลจริง ๆ เจ้าดื่มลงไปไม่ทันไร ไข้บนตัวก็ลดลงแล้ว”“ลูก ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตของเจ้าอีกแล้ว เรื่องพวกนี้ผ่านไปหมดแล้ว พวกเราอย่าคิดมากอีกเลย ดีหรือไม่”เฟิ่งหลิงหลงจ้องมองนางหลิ่ว “ผ่านไปแล้ว? ลูกของภรรยาเอกจวนตระกูลเฟิ่งผู้สง่าผ่าเผยเป็นขี้กลาก ดื่มของแบบนั้น ท่านคิดว่า ทันทีที่เรื่องราวแพร่งพรายออกไป ลูกจะมีผลตามมาอย่างไร?”“ลูกยังจะเป็นลูกของภรรยาเอกแห่งจวนอัครเสนาบดีที่ทุกคนในเมืองหลวงแหงนหน้ามองอยู่หรือไม่? ยังจะเป็นดาวหงส์ จะเป็นหญิงสาวที่มีชะตาที่สวรรค์ลิข
“พวกเจ้าว่า คุณหนูใหญ่ตระกูลเพิ่งนี้จะเป็นดาวหงส์ตามที่อู๋เหวยไต้ซือบอกจริง ๆ อย่างนั้นหรือ? ข้าว่าเข้าใจผิดแล้วกระมัง ดาวหงส์เป็นหญิงสาวที่มีชะตาที่สวรรค์ลิขิตเชียวนะ จะเป็นโรคชนิดนี้ได้อย่างไร? ถึงอย่างไรข้าก็ไม่เชื่อ”“ข้าก็ไม่เชื่อเช่นกัน ข้าว่า อาจจะเข้าใจผิดจริง ๆ ก็ได้ อัครเสนาบดีเฟิ่งไม่ได้มีคุณหนูใหญ่ตระกูลเพิ่งเป็นบุตรสาวคนเดียวหน่อย ยังมีอีกตั้งหลายคนนะ”“ไม่ผิด ดาวหงส์นี้ ข้าว่าน่าจะเป็นคนอื่นแล้วล่ะ”ดาวหงส์ จะใช่เฟิ่งหลิงหลงหรือไม่กันแน่นะ?ไม่เพียงบรรดาชาวบ้านเท่านั้นที่คาดเดา แต่ละจวนที่มีอำนาจรวมทั้งในวังหลวงต่างก็พากันสงสัยเช่นเดียวกันไม่พูดไม่ได้ว่า พลังของน้ำมูลค่อนข้างมากเลยทีเดียว หญิงสูงศักดิ์ที่เคยดื่มน้ำมูล นางอาจจะมีสถานะสูงส่ง อาจจะมีภูมิหลังทางครอบครัวที่ดี และอาจจะมีหน้าตางดงามก็ได้แต่เมื่อนำอีกฝ่ายมาเชื่อมโยงเข้ากับคำว่าหญิงสาวที่มีชะตาที่สวรรค์ลิขิตแล้ว มีความเป็นไปได้ยากอยู่เล็กน้อยฮ่องเต้เทียนหยวนเดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องบรรทมของตนเอง หว่างคิ้วขมวดแน่น“จงเสียน เจ้าว่า เฟิ่งหลิงหลงคนนี้จะใช่ดาวหงส์ตามที่อู๋เหวยไต้ซือกล่าวไว้หรือไม่?”เว่ยจงเ
ฮ่องเต้เทียนหยวนครุ่นคิด แล้วเอ่ยถาม “อีกสักระยะ ก็จะถึงเทศกาลฉีเฉี่ยวแล้วสินะ?”เว่ยจงเสียนชะงัก แล้วรีบพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”“เจ้าไปแจ้งกรมพิธีการ เทศกาลฉีเฉี่ยวปีนี้ ให้จัดงานชมบุปผาในวังหลวง”“ให้กรมพิธีการส่งเทียบเชิญไปให้เหล่าขุนชายตระกูลขุนนาง แล้วก็ไปแจ้งทางฮองเฮา ให้นางส่งเทียบเชิญไปให้สตรีในตระกูลขุนนาง ในบรรดาหญิงสูงศักดิ์ ขอเพียงมีอายุสิบปีขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นบุตรสายตรงหรือลูกอนุภรรยา จำเป็นต้องเข้าร่วม”“รวมถึงต้องแจ้งไปที่องค์ชายทั้งหลายด้วย พร้อมกับส่งราชโองการไปที่จวนอ๋องหก ให้เจ้าหกพานักพรตเฟิงมาร่วมงานด้วย”เว่ยจงเสียนเข้าใจความคิดของฮ่องเต้ทันที ไม่ว่าจะเป็นนักพรตเฟิงที่มีวิชาแพทย์ล้ำเลิศ หรือว่าลูกอนุภรรยาตระกูลเฟิ่งหลายคนนั้น พระองค์ล้วนอยากพบสักครั้ง“กระหม่อมรับบัญชา”……เฟิ่งเชียนอวี่ไม่ได้ไปที่เรือนหมีเซิ่งสักระยะแล้ว วันนี้จึงจะแวะไปดูการเจริญเติบโตของต้นกล้าดอกไม้และสมุนไพรเมื่อตงฟางจิ่งรับทราบอยากจะไปด้วย หนำซ้ำนางไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธชื่อเรือนหมีเซิ่งก่อนหน้านี้ ถูกนางเปลี่ยนเป็นสวนฟางเฟยไม่หยาบและไม่ดาษดื่น ไพเราะและจำง่ายหลังขึ้นเขา ตงฟา
นางแค่ตัวคนเดียว และมีเพียงห้องทดลองแค่ห้องเดียว สามารถผลิตได้แค่ปริมาณที่นางต้องการเท่านั้นทั้งสองคนมาถึงหลังบ้านสวน ที่ดินหนึ่งพันกว่าหมู่ มีส่วนหนึ่งปลูกดอกไม้ บนกิ่งก้านของดอกไม้ เต็มไปด้วยดอกตูมนานาสีสันในแปลงสมุนไพร ส่วนมากจะโผล่ขึ้นมาแค่ครึ่งข้อนิ้วเท่านั้น เมื่อทอดมองจะเห็นเป็นผืนสีเขียวขจีส่วนที่ดินที่เหลือ เฟิ่งเชียนอวี่คิดว่าคงปล่อยว่างให้สูญเปล่าไม่ได้ จึงให้คนเอาข้าวมาปลูกดังคำกล่าวที่ว่าปากท้องชาวบ้านเป็นเรื่องใหญ่ คำโบราณก็มีกล่าวไว้ในมือมีเสบียง ในใจไม่ร้อนรน ข้าวสารคือสิ่งที่สำคัญที่สุดต้นกล้าที่หลังเขาก็ปลูกแล้ว หากอยากเห็นผลของมันคงต้องรอฤดูเก็บเกี่ยวเฟิ่งเชียนอวี่ดูแล้วพอใจมากจู่ ๆ ตงฟางจิ่งชี้ไปที่บ้านมุงกระเบื้องที่เรียงรายตรงเชิงเขา“ข้าจำได้ว่าที่ตรงนั้น เดิมทีไม่มีบ้านเรือนไม่ใช่หรือ”เฟิ่งเชียนอวี่พยักหน้า “ถูกต้อง ตอนหลังข้าให้คนสร้างขึ้น”จากนั้นนางไปที่ตลาดค้าทาส เพื่อไปซื้อช่างที่มีฝีมือในการทำเครื่องปั้นดินเผาและเครื่องกระเบื้องเฟิ่งเชียนอวี่คิดว่าต่อไปนางจำเป็นต้องใช้ขวดกระเบื้องขวดหยกเป็นจำนวนมาก นอกจากภาชนะที่ต้องใช้เป็นบรรจุภัณฑ์ในก