แชร์

บทที่ 740

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“บุคคลที่อยู่เบื้องหลังท่านคือใคร” กู้หว่านเยว่ซักถามอีกครั้งด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย

คนสกุลซูกลุ่มนี้ตามหลอกตามหลอนจริง ๆ

“ข้าไม่รู้” ซูหัวหยางขบฟันแน่น ไม่ยอมพูด

“ท่านจะไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นหรือตายก็ได้ แต่ลูกเมียของท่านก็ไม่สนใจด้วยเหมือนกันหรือ?”

ซูจิ่งสิงโบกมือ ฉู่เฟิงจับกุมพวกเขาเข้ามาทันที

ที่อยู่ของพวกเขาทั้งหลายอยู่ในมือขององครักษ์จันทรามาโดยตลอด เพียงแต่ไม่รู้ว่าซูหัวหยางใช้ช่องโหว่เข้ามาสร้างความโกลาหลตั้งแต่เมื่อใด

“ท่านพ่อ ท่านพี่!”

นางจินและซูเช่อถูกจับเข้ามา ทั้งสองถูกบังคับให้คุกเข่าลงกับพื้น น่าเวทนายิ่งนัก

ซูเช่อเอ่ยอย่างตื่นเต้น “ซูจิ่งสิง ท่านกำลังทำอะไรอยู่? ครอบครัวของเราถูกท่านทำร้ายจนน่าสมเพชพอแล้ว ทำไมท่านยังไม่ยอมปล่อยพวกเราไปอีก?”

เมื่อก่อน เขาให้ความเคารพพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเขามาก

แต่ตั้งแต่ที่ถูกเนรเทศ ครอบครัวของพวกเขาก็น่าสมเพชลงเรื่อย ๆ แม้แต่ข้าวก็ยังกินไม่อิ่ม

แต่ครอบครัวของพี่ชายลูกพี่ลูกน้องกลับค่อย ๆ รุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนเคยอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ดี ๆ เช่นนั้น ภายในจิตใจของเขาเริ่มรู้สึกไม่สมดุล

ทั้ง ๆ ที่ซูจิ่งสิงทำให้พวกเขาต้องถูกเน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 741

    “ข้า...”ซูเช่อหดคอลง เขาเป็นคนอ่อนแอไร้ความสามารถมาโดยตลอด ไม่กล้าต่อต้านอำนาจของพ่อ“เราตกลงกันแล้วไม่ใช่หรือ...ว่าจะไปศูนย์พักพิง เพื่อทำงานหาเลี้ยงตัวเองน่ะ?”ซูเช่อถามอย่างอ่อนแรง ทั้งเขาและนางจินได้งานทำกันหมดแล้วกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากัน เห็นทีเรื่องนี้จะเป็นฝีมือของซูหัวหยางเพียงคนเดียวซูเช่อและนางจินไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย“ข้าเป็นถึงนายท่าน เจ้าจะให้ข้าไปใช้แรงงานขนอิฐหรือ?”ซูหัวหยางส่ายหัว “ที่ข้ามีวันนี้ทั้งหมดมันเป็นฝีมือของพวกเขา ข้าย่อมต้องการแก้แค้นพวกเขาเป็นธรรมดา”“ท่านพี่...”นางจินโขกหัวให้กู้หว่านเยว่ในทันใด“หว่านเยว่ จิ่งสิง เรื่องนี้เป็นฝีมือของเขาคนเดียว พวกข้าสองคนไม่รู้เรื่องด้วย ปล่อยข้ากับลูกชายไปเถอะ”“ท่านแม่?”ซูเช่อตกใจ ในความทรงจำ แม่เชื่อฟังคำพูดของพ่อเสมอเขาไม่คาดคิดว่าในช่วงเวลาที่สำคัญ มารดาจะพูดอะไรเช่นนี้ออกมาได้แต่ภายในใจของเขาก็เห็นด้วยถึงอย่างไรเขาก็ไม่เคยคิดที่จะวางยาพิษเลยจริง ๆแม้ว่าในส่วนลึกของหัวใจจะมีความเคียดแค้นอยู่ก็ตามแต่ก็เพียงต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ในอนาคตหากสามารถซื้อเรือนหลังเล็ก ๆ ในเมืองอวี

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 742

    นางจินพยักหน้า “ได้สิ ได้สิ ถึงข้าจะไม่รู้จักลวดลายนั้น แต่ข้าจำได้ว่ามันมีลักษณะยังไง”กู้หว่านเยว่รีบเอ่ยขึ้น “ไปเอากระดาษกับพู่กันมา”ซูจิ่นเอ๋อร์สั่งให้คนไปเอากระดาษกับพู่กันที่ห้องบัญชีมา กระดาษกับพู่กันวางลงตรงหน้านางจิน นางขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานก็วาดลวดลายที่มีชีวิตชีวาราวกับของจริงลงไปแม้ว่าทักษะการวาดภาพของนางจะไม่ดีนัก แต่ก็พอจะมองออกว่าลวดลายนั้นมีลักษณะอย่างไร“ลวดลายนั้นมีหน้าตาแบบนี้ เพราะมันพิเศษมาก ข้าไม่เคยเห็นจากรถม้าคันอื่นมาก่อน ข้าจึงตั้งใจดูอย่างถี่ถ้วน”นางจินยื่นกระดาษและพู่กันให้พวกเขา ซูจิ่งสิงรับลวดลายนั้นมาดู ก่อนจะส่งให้ฉู่เฟิง“ไปตรวจสอบดู”“ขอรับ”ฉู่เฟิงรีบนำลวดลายนั้นออกไปนางจินพูดต่อ “ข้าบอกทุกอย่างที่ข้ารู้ให้เจ้าฟังหมดแล้ว ปล่อยข้ากับลูกชายไปทีได้ไหม เราสองคนไม่รู้เรื่องจริง ๆ ไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ”กู้หว่านเยว่พยักหน้า“ข้าพูดคำไหนคำนั้น ในเมื่อพวกท่านสองคนไม่มีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกท่าน ประเดี๋ยวข้าจะปล่อยพวกท่านไป”“ขอบคุณ” นางจินถอนหายใจด้วยความโล่งอก พลางดึงซูเช่อออกไปข้า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 743

    “ทรมานเขา อย่าให้เขาตายง่าย ๆ”แววตาของซูจิ่งสิงมีประกายเย็นชาบาง ๆบังอาจวางยาพิษ ให้ตายไป มันก็ง่ายดายสำหรับเขาเกินไป“แขวนคอประหารชีวิต”หางตาของกู้หว่านเยว่กระตุกเบา ๆ ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าสามีของตัวเองก็ดูโรคจิตเล็กน้อยเช่นกัน“ซูจิ่งสิง เจ้าไม่ตายดีแน่ ข้าขอสาปแช่งเจ้า ให้สูญสิ้นทายาท ลูกหลานตายอย่างอนาถ!”ซูหัวหยางถูกลากออกไป ปากก็ยังตะโกนลั่นเหมือนเดิม คำพูดร้ายกาจยั่วให้กู้หว่านเยว่คลั่ง“แขวนคอ ยังเบาไป!”กล้าสาปแช่งลูกชายของนาง รนหาที่ตายเสียแล้ว!“ท่านพ่อ...”ซูเช่อคุกเข่าลงสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มองดูซูหัวหยางถูกลากไปทั้งเป็นซูจิ่งสิงพูดอย่างเฉยเมย “หวังว่าในอนาคตพวกท่านจะไม่ทำอะไรนอกลู่นอกทาง แน่นอน หากเจ้าคิดจะแก้แค้นให้พ่อของเจ้าก็ทำได้”นางจินรีบพูด “เราจะไม่มีวันทำเรื่องชั่วร้าย เราจะไม่ทำอะไรนอกลู่นอกทาง หายตัวไปจากสายตาของพวกท่าน จะไม่มารบกวนพวกท่านอีก”ว่าแล้วก็ดึงซูเช่อออกไปซูเช่อเอ่ยด้วยความเจ็บปวด “พ่อของข้า สมควรได้รับการลงโทษแล้ว”ยาพิษกระเรียนแดง ทำเกินไปจริง ๆ“ต่อไปข้าจะไม่ทำอะไรให้เดือดร้อนพวกท่านอีก”“จิ่งสิง พวกข้าไปได้แล้วใช่ไหม?” นา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 744

    ฮ่องเต้ชั่วคือคู่อริที่ฆ่าพ่อแม่ของเขา คิดจะให้เขาคุกเข่า มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดสำหรับกู้หว่านเยว่น่ะหรือ นางเป็นคนสมัยใหม่อยู่แล้ว ไม่มีความเคยชินในการคุกเข่าเลยถ้าไม่ใช่เพราะขันทีเอ่ยเตือน นางคงไม่รู้ว่าตัวเองต้องคุกเข่าลงแต่เมื่อได้ยินสามีพูดว่าไม่คุกเข่า ผัวหาบเมียคอน นางย่อมไม่คุกเข่าลงเช่นกัน“พวกเจ้า...” สีหน้าของขันทีบูดเบี้ยวเล็กน้อย แต่เมื่อลองคิดดูอีกที ที่นี่คืออาณาเขตเจดีย์หนิงกู่หากกระทำการล่วงเกินซูจิ่งสิงที่นี่ อีกฝ่ายก็มีแนวโน้มที่จะสังหารเขาเพื่อระบายอารมณ์ได้เลยยอมข่มความโกรธนี้ไว้ชั่วคราว ก่อนอ่านราชโองการจนจบแต่โดยดีเอาไว้เมื่อกลับถึงเมืองหลวงแล้ว ค่อยรายงานเรื่องนี้ให้ฮ่องเต้ทราบโดยละเอียด ให้ฮ่องเต้มาแก้แค้นเอง“แค่ก ๆ...ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชา คืนตำแหน่งเจิ้นเป่ยอ๋องแก่ซูจิ่งสิง มีผลในทันที สิ้นสุดราชโองการ”หลังจากขันทีอ่านจบ รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าในที่สุด“ท่านอ๋อง แม้ว่าท่านจะถูกเนรเทศ แต่ในที่สุดก็เป็นฟ้าหลังฝนแล้ว ต่อไปจะมีชีวิตที่ดีในวันข้างหน้า เจดีย์หนิงกู่แห่งนี้จะเป็นดินแดนในการปกครองของท่าน ขอมอบอำนาจจัดการให้ท่าน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 745

    ทุกคนรีบมองไปยังเกี้ยวซูจิ่นเอ๋อร์พูดขวานผ่าซาก “เหตุใดของกำนัลถึงวางไว้ในเกี้ยว? อย่าบอกนะว่าฮ่องเต้ส่งคนตัวเป็น ๆ มาให้?”“ท่านหญิงน้อยผู้มีจิตใจงดงาม”ขันทียิ้มอย่างมีเลศนัย กู้หว่านเยว่รู้สึกเห็นท่าไม่ดี เห็นสาวงามวัยแรกแย้มนางหนึ่งลงจากเกี้ยวเดินเข้ามา“ข้าเจียงอวิ๋นจิ่น คารวะท่านอ๋อง คารวะชายาอ๋อง”เจียงอวิ๋นจิ่นยิ้มเล็กน้อย สวยสง่า น่ารักมีเสน่ห์ดึงดูด กล้าพูดได้ว่า ผู้ชายคนใดเมื่อเห็นนางก็ต้องอยากทะนุถนอมขันทีเอ่ยขึ้นถูกเวลา “ท่านอ๋อง พระองค์ทรงนึกถึงความหนาวเย็นของเจดีย์หนิงกู่ จึงพระราชทานสาวงามนางหนึ่งมาปรนนิบัติท่านอ๋องด้วยพระองค์เอง และมีพระราชโองการแต่งตั้งแม่นางเจียงให้เป็นชายารองแล้ว”“น้องหญิง ข้าไม่รู้เรื่องนี้”สีหน้าของซูจิ่งสิงมืดมน มองไปทางกู้หว่านเยว่โดยสัญชาตญาณ กลัวว่านางจะโกรธ“อืม” กู้หว่านเยว่พ่นเสียงลมหายใจฮึดฮัดเบา ๆ น้ำเสียงนั้นทำให้ซูจิ่งสิงถึงกับขนหัวลุก“น้องหญิง เจ้าอย่าโกรธเลยนะ”“ข้าไม่โกรธ สิแปลก!”เขาควรจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสมเป็นดีที่สุด หากกล้าปล่อยให้ชายารองเจียงอะไรนั่นเข้าเรือน ฮึ อย่าหาว่านางไร้หัวใจซูจิ่งสิงสัมผัสถึงความ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 746

    ซูจิ่งสิงปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่า การเปิดใจของน้องหญิงเป็นเรื่องยากเพียงใดเขาจะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องใด ๆ ที่อาจทำร้ายหว่านเยว่เกิดขึ้นเด็ดขาด“แต่งเพียงในนาม ก็ไม่ได้เช่นกัน”“ท่านพี่” ความหวานชื่นผุดขึ้นในหัวใจของกู้หว่านเยว่ เจือด้วยความซาบซึ้งขันทีเริ่มลำบากใจขึ้นเรื่อย ๆ การเลี้ยงดูสตรีในจวนอ๋อง ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรมิใช่หรือ?“ท่านอ๋อง ท่านทำเช่นนี้ ทำให้ข้าลำบากใจ”ก่อนออกเดินทาง พระองค์ท่านตรัสไว้ว่า ต้องให้ซูจิ่งสิงยอมรับเจียงอวิ๋นจิ่นให้ได้ ไม่เช่นนั้นหัวของเขาจะหลุดจากบ่าเมื่อนึกถึงภารกิจที่ที่ได้รับมอบหมาย ขันทีก็ใช้เหตุผลอธิบายให้เข้าใจ ใช้ความรู้สึกโน้มน้าวจิตใจต่อไป“ท่านอ๋อง แค่สตรีเพียงคนเดียว เก็บไว้ข้างกายท่าน จะไม่เป็นอุปสรรคต่อเรื่องใดแน่ราชโองการของฮ่องเต้ได้ประกาศลงมาแล้ว ชายารองเจียงก็เดินทางมาไกลถึงที่นี่แล้ว หากถูกส่งคืนกลับไป จะเอาหน้าที่ไหนไปใช้ชีวิตต่อเล่า?”“ความเป็นความตายของคนอื่น มันเกี่ยวข้องอะไรกับข้าด้วย?”หรือว่าต้องทำให้น้องหญิงเสียใจเพื่อคนที่ไม่สลักสำคัญอะไรเพียงคนเดียวเล่า?“จะใกล้หรือไกล ใกล้ชิดหรือห่างเหิ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 747

    “น้องหญิง เจียงอวิ๋นจิ่น ไม่ใช่ชายารอง”ซูจิ่งสิงต้องแก้ไขให้ถูกต้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เขาไม่อยากให้ในอนาคตหากมีคนอื่นพูดถึงเขาอีก แล้วยังคิดว่าเขามีชายารอง“ตกลง ๆ ๆ ข้าคิดว่าเจียงอวิ๋นจิ่นผู้นี้ อาจจะไม่ได้มาโดยสมัครใจ”กู้หว่านเยว่เห็นนางลังเลที่จะพูดอยู่หลายครั้ง คำพูดนี้ทำให้ซูจินเอ๋อร์ถึงกับต้องออกปาก“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านใจดีเกินไปแล้ว นางเป็นศัตรูหัวใจของท่านนะ”“ใช่แล้วหว่านเยว่ ถ้านางไม่เต็มใจมา จะมีใครถือมีดจี้คอบังคับนางอยู่หรือ?”นางหยางเห็นแก่คนที่มาก่อน ไม่ค่อยชอบเจียงอวิ๋นจิ่นสักเท่าใด นางจับมือของกู้หว่านเยว่เอาไว้พลางถอนหายใจ “จิ่นเอ๋อร์พูดถูก เจ้าใจดีเกินไปแล้ว”“อุ๊บ!”กู้หว่านเยว่แสดงออกว่า ใช้ชีวิตอยู่มาสองชั่วอายุคน เป็นครั้งแรกที่มีคนบอกว่านางใจดี พวกท่านใส่ตัวกรองเข้มงวดเกินไปแล้ว“ยินดีด้วยท่านอ๋อง ยินดีด้วยชายาอ๋อง”ขุนนางที่รีบรุดมาถึงพากันคุกเข่าลง หลี่เฉินอันก็เดินเข้ามาหาด้วยความตื่นเต้น “อาจารย์หญิง ในที่สุดฟ้าหลังฝนก็มาถึงท่านแล้ว นับจากนี้ไปก็ไม่ได้อยู่ในสถานะนักโทษเนรเทศอีกแล้ว”เขามองกู้หว่านเยว่ด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความชื่นชม ไม่มีความ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 748

    “ตกลง ตกลง” นางจินเช็ดน้ำตา รู้สึกมีความหวังขึ้นมาทันใดในเวลานี้พ่อบ้านศูนย์พักพิงรีบวิ่งเข้ามา “ท่านทั้งสองเป็นญาติของท่านอ๋องใช่ไหม?”“เกิดอะไรขึ้นหรือ?” ทั้งสองรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเมื่อครู่เพิ่งรู้สึกมีความหวังในชีวิต พอหันกลับมาก็ถูกตบหน้าแล้วหรอกนะ?“ท่านทั้งสองอย่าประหม่าไปเลย” พ่อบ้านรีบบอก “ถ้าท่านทั้งสองต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ข้าคือพ่อบ้านศูนย์พักพิง บอกกับพวกข้าได้เลย”นี่คือญาติของท่านอ๋อง ถึงจะไม่รู้ว่าทำไมถึงเร่ร่อนมาถึงศูนย์พักพิงได้ แต่ก็ไม่สามารถล่วงเกินได้อยู่ดี“ข้า พวกข้าต้องการทำงาน” ซูเช่อรวบรวมคว้ากล้า“ได้สิ ถ้าท่านรู้หนังสือล่ะก็ ศูนย์พักพิงของเราขาดนักบัญชีหนึ่งคน”“ข้ารู้หนังสือ!”“งั้นพรุ่งนี้ท่านก็สามารถมาทำงานได้เลย” พ่อบ้านกล่าวอย่างผ่อนคลาย“จริงหรือ ขอบคุณ ยังมีแม่ของข้าด้วย...”“ถ้าแม่เฒ่าไม่รังเกียจ ทางศูนย์พักพิงก็สามารถจัดหางานที่ค่อนข้างสบายให้ได้”“ไม่รังเกียจ ไม่รังเกียจ รบกวนพ่อบ้านด้วย”เมื่อเห็นพ่อบ้านออกไปแล้ว สีหน้าของซูเช่อที่เคยขมขื่น ความเคียดแค้นที่มีต่อซูจิ่งสิงก็หายไปทันที“ท่านแม่ ข้าคิดได้แล้ว ต่อไปข้าจะใช้ช

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1400

    “ดูเจ้าสิ พูดเรื่องนี้กับหว่านเยว่เพื่ออะไร?”หลินรู่ไห่ดึงนางเก๋อไว้ ในใจเขาก็รู้สึกกังวลเช่นกัน แต่เขารู้ว่าการบอกเรื่องนี้กับกู้หว่านเยว่นั้นไม่มีประโยชน์เมืองเหยาอยู่ไกลจากที่นี่ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็กำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้กับฮ่องเต้ จะเอาเวลาที่ไหนไปตามหาคนที่เมืองเหยา?พวกเขาไม่อยากให้กู้หว่านเยว่ต้องลำบากใจ“ท่านน้า ต้องขอบคุณน้าสะใภ้ที่บอกข้า เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ทำไมพวกท่านไม่พูดทันทีที่เข้ามา?”กู้หว่านเยว่ยังจำหลินเพียวเพียวได้ สาวน้อยที่สงบเสงี่ยมมาก เวลาพูดขึ้นมาก็ดูคงแก่เรียนเมื่อคนสกุลหลินไปที่โรงเตี๊ยมเตียงนอนรวมเพื่อส่งเงินให้นาง หลินเพียวเพียวก็มาด้วย แล้วยังปลอบประโลมนางอย่างนุ่มนวล“หว่านเยว่ พวกเราไม่อยากให้เจ้าเป็นกังวล”ประเด็นคือพวกเขาไม่เคยคิดว่ากู้หว่านเยว่จะสามารถช่วยหลินเพียวเพียวกลับมาได้และพวกเขาก็เป็นห่วงว่าซูจิ่งสิงจะรู้สึกว่าสกุลหลินของพวกเขาเป็นปัญหา ถึงตอนนั้นจะทำให้กู้หว่านเยว่เดือดร้อนไปด้วยกู้หว่านเยว่จำพวกเขาได้ จึงขอให้ซูจิ่งสิงส่งคนไปรับพวกเขาที่ฉูโจว พวกเขาก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว จะเสนอเงื่อนไขอะไรได้อย่างไร?“พวกท่าน”กู้หว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1399

    “ท่านยาย พวกท่านปลอดภัยดีตลอดเส้นทางไหม?”กู้หว่านเยว่สอบถามพวกเขา แม้ว่าซูจิ่งสิงจะส่งคนไปรับพวกเขาเองก็ตามแต่เวลานี้ทั่วแคว้น ความอดอยากแห้งแล้งได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โจรร่อนเร่ได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วทุกแห่งการเดินทางมาของสกุลหลินครั้งนี้ ก็คงไม่สงบสุขนัก“ระหว่างทาง ได้พบกับโจรสลัด”เมื่อนายท่านผู้เฒ่าหลินพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจ“โจรสลัดเหล่านั้นฆ่าทุกคนที่พบเจอ ไม่เว้นแม้แต่คนแก่ คนอ่อนแอ ผู้หญิง และเด็ก น่ากลัวจริง ๆ”สกุลหลินเป็นพลเมืองดีที่ทำการค้า การเข่นฆ่าใด ๆ พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนตกใจกลัวจนเหลือทน ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไปก็ยังคงรู้สึกกลัวอยู่“ท่านยาย พวกท่านลำบากแย่เลย”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าโจรเร่ร่อนข้างนอกนั้นเหิมเกริมเช่นนี้“ไม่เป็นไร ทุกอย่างผ่านไปแล้ว”นายท่านผู้เฒ่าหลินลูบเครา พลางโบกมือ“โชคดีที่แม่ทัพหนุ่มที่ท่านอ๋องส่งไปฉลาดเฉลียว รู้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ก็พาพวกเราหนีไปทางเรือเล็กแต่น่าเสียดายนายท่านผู้เฒ่าหลินเผยแววตาทนไม่ได้ บนเรือใหญ่ยังมีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก“พวกเราหนีออกไปได้ไม่ไกลนัก ก็เห็นเรือทั้งลำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1398

    “ข้าไม่เป็นอะไร”ลั่วยางชักมือออกอย่างไม่เป็นธรรมชาติคนผู้นี้กำลังทำอะไรอยู่?เหล่าทหารทุกคนกำลังเฝ้าดู ตอนนี้ทั้งกองทัพรู้แล้วว่าเขาชอบนางนางไม่อยากกลายเป็นจุดสนใจ“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”เกาเจี้ยนถอนหายใจ มองไปทางซูจิ่งสิง ขณะที่กำลังจะโต้แย้งก็เห็นคนที่เมื่อครู่ยังหัวเราะเยาะเขาอยู่ คว้ามือของกู้หว่านเยว่ไว้โดยไม่ละอาย น้ำเสียงอ่อนโยนจนแทบจะคั้นเป็นน้ำออกมาได้“น้องหญิงเหนื่อยหรือยัง หิวหรือเปล่า ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปกินข้าว”เกาเจี้ยนเบิกตากว้าง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”คนผู้นี้มีความรู้มากกว่าเขาเสียอีก!“ท่านมาที่นี่ทำไม?”กู้หว่านเยว่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้ซูจิ่งสิงแม้ว่าวันนี้จะไม่ร้อนมาก แต่ซูจิ่งสิงก็สวมชุดกราะตลอดเมื่ออยู่ในกองทัพ ถูกแดดตอนเที่ยงวันสาดส่อง จนเหงื่อแตกพลั่ก“เห็นเจ้าไม่กลับมาเสียที ก็เลยเป็นห่วงเจ้า”ซูจิ่งสิงมองเข้าไปในกระโจม กู้หว่านเยว่ก็อธิบายสถานการณ์ของกงซุนฉิงอย่างคร่าว ๆ ก่อนจะพาคนกลับไปเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงสกุลกงซุน สั่งให้คนแพร่ข่าวออกไปหลี่กวงถิงถูกจับแล้ว กองทัพของเจดีย์หนิงกู่ก็ไล่ล่าโจมต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1397

    ลั่วยางก็ไม่ได้โกรธเช่นกันทักษะทางการแพทย์ของกู้หว่านเยว่นั้นเหนือกว่านางอยู่แล้ว ลู่จิงจะทำทุกวิถีทางเพื่อความปลอดภัย ไปเชิญกู้หว่านเยว่มาอีกครั้งก็เป็นเรื่องปกติ“พี่หว่านเยว่”ลั่วยางมีอายุมากกว่ากู้หว่านเยว่ แต่ในด้านทักษะทางการแพทย์ ถือได้ว่ากู้หว่านเยว่อาวุโสกว่านางประโยค “พี่หว่านเยว่” ของลั่วยาง ก็ไม่ได้เรียกผิด“คุณหนูกงซุนไม่เป็นอะไร แค่เหนื่อยจนล้มไปเท่านั้น”ร่างกายของนางเคยถูกทรมานมาก่อน แม้ว่าจะได้รับการรักษาโดยกู้หว่านเยว่ แต่ถึงอย่างไรก็ได้รับบาดเจ็บโชคดีที่กงซุนฉิงมีทักษะการต่อสู้ จึงปกติเหมือนคนที่ไม่ได้เป็นอะไรแต่ก็ไม่อาจทนต่อความยุ่งวุ่นวายในระดับสูงได้“ข้าฝังเข็มให้นางหนึ่งเล่ม แล้วนางก็ตื่นขึ้นมา”ลั่วยางอธิบาย“แต่ว่า นางนอนหลับ กลับช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนสู่สภาพเดิมเสียด้วยซ้ำไป”“เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางหลับต่ออีกนิดเถอะ”กู้หว่านเยว่ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน พลางจับชีพจรของกงซุนฉิงครู่หนึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ลั่วยางพูด“ส่วนทางทหารกล้าตายแนวหน้า”กู้หว่านเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ที่กงซุนฉิงเหนื่อยจนล้มไป ก็เพราะว่าไม่กี่วันที่ผ่านมานักรบหมาป่าได้ให้ก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1395

    เห็นเพียงท่ามกลางหมอกหนาทึบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแสงไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับหิ่งห้อยในค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อแสงไฟนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รองแม่ทัพที่อยู่บนเรือก็เบิกตาทั้งสองกว้าง“ไม่ได้การ ทั้งหมดเป็นลูกศรติดไฟ!”ก้นลูกศรเหล่านี้ถูกมัดด้วยลำกล้องดินปืน ภายในเป็นดินปืนทั้งหมดดินปืนตกลงมาพร้อมกับลูกศรที่ยิงขึ้นมาบนเรือราวกับเม็ดฝนทั่วท้องฟ้า ภายในเวลาชั่วพริบตา เรือก็ติดไฟ“เร็วเข้า รีบถอยกลับ”หลี่กวงถิงสั่งการ เขารู้สึกอย่างเลือนรางว่าตัวเองถูกแผนชั่วของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เล่นงานเข้าแล้วกองทัพใหญ่ออกเดินทางแล้ว ต้องการจะถอยกลับจะทำได้ง่าย ๆ อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังอยู่บนผิวน้ำ การเดินเรือไปข้างหน้าก็ทำได้ยากลำบากอยู่แล้วคนเหล่านี้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้บนน้ำ ไม่มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยังโชคดีเพราะหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่าถอยอย่างเป็นระเบียบเรือติดไฟแล้ว เหล่าทหารร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ในระหว่างการล่าถอยของเรือ ต่างก็ชนกันเอง สถานการณ์วุ่นวายในระดับหนึ่งทว่าลูกศรทั่วฟ้านั้นก็ยังไม่ยอมหยุดเลยหลังจากยิงจบระลอกห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1394

    “ข้ามีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง”ดวงตาของกู้หว่านเยว่กลอกไปมา ทันใดนั้นก็มีความคิดแผลง ๆ ผุดขึ้นมา“หลี่กวงถิงผู้นี้ต้องการว่าจ้างคนจากหอมือสังหารมาฆ่าท่านมิใช่หรือ? เราก็ให้คนของหอมือสังหารมาตอบรับเรื่องนี้”ซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่สบสายตากันเข้าใจทันทีว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่“หนามยอกเอาหนามบ่งหรือ?”“ถูกต้อง ถึงตอนนั้นเราก็มาปิดประตูตีแมวกัน”ซูจิ่งสิงเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง นกพิราบสื่อสารก็กลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งกลับไปที่หอมือสังหารเป็นสองวันที่สถานการณ์สงบสุขสองวันต่อมา หลี่กวงถิงก็ได้รับข่าวกรอง แจ้งว่าคนจากหอมือสังหารทำสำเร็จแล้ว“ข้าน้อยเห็นว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่สงบเงียบ ดูเหมือนจะไม่มีข่าวการตายของซูจิ่งสิงแพร่ออกมา”รองแม่ทัพหลายคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าใดหลี่กวงถิงยังรู้สึกว่าต้องระมัดระวังด้วยหลังจากรออีกสองวัน ก็มีข่าวกรองออกมาอีกว่า ค่ายของผู้บัญชาการถูกรายล้อมด้วยกองกำลังทหารอากาศแบบนี้ภายนอกกระโจมกำลังตากปลาเค็มอยู่ จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง“ตากปลาเค็ม อากาศแบบนี้ตากปลาเค็มอะไรกัน?”หลายคนนั่งวิเคราะห์ด้วยกันรองแม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างฉับพล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1393

    “ลู่จิง มองไม่ออกเลยว่า เจ้าจะรักหน้าที่การงานมากเช่นนี้”เกาเจี้ยนหัวเราะอย่างชั่วร้ายรักหน้าที่การงาน?ลู่จิงสะดุดเข้าให้ใครจะไปรักหน้าที่การงาน ชัดเจนว่าเขารักและสงสารกงซุนฉิงเขาเหลือบมองกงซุนฉิง ขณะที่คิดจะใช้โอกาสนี้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างสองคน“ถูกต้อง เขารักหน้าที่การงานมาก!”ทันใดนั้นกงซุนฉิงก็เหยียบเท้าของเขา แล้วรีบเอ่ยขึ้นนางละอายใจที่จะให้ฮูหยินรับรู้เรื่องราวของพวกเขาสุดท้าย ก็จ้องเขม็งใส่ลู่จิงอย่างดุดัน พลางกระซิบว่า“หุบปาก”“ก็ได้”ลู่จิงหุบปากอย่างเชื่อฟังคำพูดของคนรักต้องเชื่อฟัง นี่จะไม่ใช่ความองอาจของชายชาตรีอย่างหนึ่งอย่างไร“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองก็พูดคุยกันตามสบาย ใครจะเฝ้ายามก็ไม่สำคัญ หรือว่าถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเจ้าสองคนก็เฝ้ายามด้วยกันได้”ด้วยการเสริมทัพของเกาเจี้ยน ใบหน้าของกงซุนฉิงก็ยิ่งแดงขึ้น“เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงเงียบ ๆ พลางยิ้มคลุมเครือมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกันเรื่องความรักลับ ๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน“ไป”ซูจิ่งสิงจูงมือกู้หว่านเยว่จากไป“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องไปเหมือนกัน”เกาเจี้ยนถูกเตือนสต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1392

    ซูจิ่งสิงกระซิบเตือนกู้หว่านเยว่ที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ภรรยาเป็นคนบ้าการงาน ตั้งแต่มาถึงค่ายทหาร ก็มีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเขาเสียอีกเขาชอบท่าทางการวางแผนในกระโจมของกู้หว่านเยว่มาก เพียงแต่เป็นห่วงว่าร่างกายของนางจะรับไม่ไหว ดังนั้นจึงกำชับอยู่บ่อยครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะ ลมแรงจริง ๆ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสโยนกล้องโทรทรรศน์เข้าไปในมิติ แล้วลงมาจากหอสังเกตการณ์พร้อมกับซูจิ่งสิงหอสังเกตการณ์แห่งนี้สร้างโดยทหารตามคำสั่งของกู้หว่านเยว่ก่อนหน้านี้ โดยอิงตามพิมพ์เขียวที่นางให้มาหอสังเกตการณ์สูงยี่สิบเมตรพอดี เมื่อยืนอยู่ด้านบนของหอสังเกตการณ์จะสามารถมองเห็นจุดที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน สังเกตสถานการณ์ของศัตรูได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งสองลงมาจากหอสังเกตการณ์ ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในกองทัพกับเกาเจี้ยนก็ได้ยินเสียงโต้เถียงครู่หนึ่งโดยพลัน“ชู่ว์”กู้หว่านเยว่ส่งสัญลักษณ์มือให้ซูจิ่งสิง ดึงเขาให้เดินไปตามทิศทางที่ส่งเสียงมานางรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อเดินเข้าไปมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยจริงดังคาด เห็นกงซุนฉิงและลู่จิงกำลังโต้เถียงกันหน้าแดงหูแดง“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านมา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status