แชร์

บทที่ 716

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“พี่ชายรอง ท่านมายืนทำอะไรอยู่ข้างนอกเจ้าคะ?”

ซูจิ่นเอ๋อร์ไม่รู้ว่าเขามาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่

ซูจื่อชิงส่งเสียงจิ๊จ๊ะหนึ่งเสียง ก่อนจะเตะกระถางดอกไม้และวิ่งหนีไป

ซูจิ่นเอ๋อร์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านใน จึงด่าทอออกมาอย่างอดไม่ได้

“พี่ชายรอง ท่านบ้าไปแล้ว กระถางมันอยู่ของมันดี ๆ ท่านไปเตะมันทำไม ดอกไห่ถังงดงามขนาดนี้ ท่านหงุดหงิดมันได้อย่างไร?”

กู้หว่านเยว่วิ่งไล่ตามออกไป “หยุดพูดได้แล้ว ชิงหว่านหมั้นแล้ว”

“อะไรนะ?”

ซูจิ่นเอ๋อร์ปิดปากเงียบ

นางเพิ่งกลับมาจากจินโหลว ยังไม่ได้กลับจวน

มิเช่นนั้นคงจะได้เห็นเทียบเชิญอยู่ในจวนแล้ว

“พี่หญิงชิงหว่านหมั้นกับเผยเสวียนแล้วหรือ?” นางถึงกับพูดไม่ออก

“แล้วพี่ชายรองของข้าจะทำอย่างไร?”

มิน่าล่ะเมื่อครู่พี่ชายรองถึงได้ดูร้อนรนเช่นนั้น กู้หว่านเยว่รู้สึกหดหู่ใจแทนซูจื่อชิง

ครั้นอดีตโอกาสนั้นเคยปรากฏตรงหน้าของเขาแล้ว แต่เขาไม่ทะนุถนอมเอง จะโทษใครได้?

ซูจื่อชิงไม่กลับมาทานอาหารเที่ยงในจวน ส่วนซูจิ่นเอ๋อร์กลับมาพร้อมกับอาหารทะเล แต่ทุกคนกลับกินกันไม่ลง

“พี่สะใภ้ใหญ่ เราไปเยี่ยมพี่หญิงชิงหว่านกันเถอะเจ้าค่ะ?”

ที่ซูจิ่นเอ๋อร์เอ่ยเช่นนี้ ความจริงแล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 717

    “มีเผยเสวียนอยู่ เจ้าถามไปก็ไม่มีประโยชน์”กู้หว่านเยว่ดีดหน้าผากของนางเบา ๆ นางพอจะดูออกว่าเมี่ยชิงหว่านมีบางอย่างที่พูดไม่ได้“เผยเสวียนเข้ามาเร็วยิ่งนัก ราวกับเข้ามาป้องกันไม่ให้เราถามอย่างนั้นแหละ”ซูจิ่นเอ๋อร์หงุดหงิดเล็กน้อย“ข้ารู้สึกว่าพี่หญิงชิงหว่านไม่ได้ชอบเขาจริง ๆ หรอก การแต่งงานครั้งนี้จะต้องมีบางอย่างผิดปกติอย่างแน่นอน” กู้หว่านเยว่เปลี่ยนประเด็น “ร้านอาหารของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”“ก่อนเปิดร้านไม่กี่วันข้าบังเอิญไปเจอกับนักฆ่าเข้านะสิเจ้าคะ พรุ่งนี้ข้าตั้งใจจะเปิดร้านอีกครั้ง ข้าเลือกฤกษ์งามยามดีไว้แล้ว หวังว่านักฆ่าตาถั่วพวกนั้นจะไม่ทำเสียเรื่อง!”ครั้นเอ่ยถึงเรื่องนี้ซูจิ่นเอ๋อร์ก็พลันปวดใจ นักฆ่าเหล่านั้นทำลายสินค้าประดับของนางไปหลายชิ้น ทุกชิ้นล้วนเป็นตัวเงินทั้งสิ้น!“พรุ่งนี้ข้าจะให้องครักษ์จันทราคุ้มกันให้เจ้าที่จินโหลว”กู้หว่านเยว่เต็มใจให้ท้ายนาง ซูจิ่นเอ๋อร์ได้รับความโปรดปรานอย่างคาดไม่ถึง“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านช่างดีกับข้ายิ่งนัก ข้าเตรียมอาหารมื้อใหญ่ให้เหล่าพี่ใหญ่และองครักษ์จันทราแล้ว!”ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังคุยสัพเพเหระนั้น จู่ ๆ ซูจิ่นเอ๋อร์ก็ก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 718

    “ข้าขอโทษ ข้าเพียงแต่คิดไม่ถึงว่าคนผู้นั้นจะลงทุนเพียงนี้”“อื้อ” เหมยจื่อขี้เกียจโต้เถียงกับนาง เบนสายตาไปทางกู้หว่านเยว่ ขอแค่ฮูหยินเชื่อใจนางก็พอกู้หว่านเยว่เก็บตั๋วเงินยี่สิบตำลึงนั้นพลางครุ่นคิด“คนผู้นั้นให้เจ้าทำอะไร?”“ให้ข้าขโมยต้นกล้าและเมล็ดพันธุ์ของดอกไม้ที่จะปลูกและดอกไม้ที่เก็บเกี่ยวได้ไปให้เขาเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่เลิกคิ้วสูง นางปลูกดอกไม้เหล่านี้เพื่อทำชาดทาปาก ไม่ก็นำมาเป็นส่วนผสมของน้ำหอมคนผู้นั้นจะนำเมล็ดพันธุ์และต้นกล้าของดอกไม้ไปทำอะไร?กู้หว่านเยว่พอจะเดาได้ในใจ “เจ้าเคยบอกหรือไม่ว่าจะนำไปเขาเมื่อไหร่?”“เขาบอกให้ข้านำไปให้เขาคืนนี้”ประมาณว่าอีกฝ่ายรีบใช้และเร่งด่วนมากกู้หว่านเยว่กระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะกลั้วหัวเราะออกมาหนึ่งเสียง“คืนนี้เจ้าไปเถอะ”“ฮูหยิน ความหมายของท่านคือ...”“เหยื่อกระจายออกไปหมดแล้ว เจ้าต้องล่อเขาออกมา”กู้หว่านเยว่ยื่นเงินยี่สิบตำลึงให้เหมยจื่ออีกครั้ง และกล่าวอย่างอบอุ่นว่า“เงินยี่สิบตำลึงก้อนนี้เจ้าเก็บไว้เถอะ”“ข้าน้อยไม่ต้องการ”เหมยจื่อไม่ได้แกล้งปฏิเสธ นางไม่อยากได้เงินยี่สิบตำลึงก้อนนั้นจริง ๆเงินก้อนนั้นได้มาไม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที 719

    คนงานในที่ดินต่างกลับไปกันหมดแล้ว เหลือไว้เพียงแค่ชายสูงอายุและหญิงสูงอายุที่เฝ้าอยู่ในที่ดินบางส่วนกู้หว่านเยว่เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าของเหมยจื่อ หลังจากปลอมตัวอย่างง่าย ๆ แล้ว ก็แอบเปิดประตูข้าง เดินทางเข้าป่าเล็ก ๆ ที่ที่เหมายจื่อบอกไว้ดวงจันทร์ลอยสูงตระหง่าน ยังพอให้มองเห็นทางบ้างแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมืดทึมจนน่ากลัวอยู่ไม่น้อยไม่นาน ก็มีบุรุษสองคนมาหยุดอยู่ด้านหลังของนาง“เอาของมาแล้วใช่หรือไม่?”บุรุษต้วมเตี้ยมหนึ่งในนั้นเดินมาเจรจาต่อรองกับนาง ส่วนอีกคนก็คอยดูต้นทางอยู่ไม่ไกล“เอามาแล้ว”กู้หว่านเยว่แกว่งต้นกล้าในมือไปมา แสงจันทรายังทำให้พอมองออกว่ามันคืออะไร“รีบเอามาให้ข้า!”นัยน์ตาของบุรุษฉายแววโลภ เห็นได้ชัดว่าอยากได้จนแทบทนไม่ไหว“เงินล่ะ?”กู้หว่านเยว่แกล้งแสดงท่าทีอยากได้ “ไหนบอกเสร็จเรื่องแล้วข้าจะได้เป็นสองเท่า?”“เปิดของให้ข้าดูก่อน”ชายคนนั้นแบมือ กู้หว่านเยว่จึงยื่นของให้เขา หลังจากอีกฝ่ายมั่นใจแล้ว ก็แสดงสีหน้าพอใจออกมา“ดีมาก ๆ ทั้งหมดคือของที่ข้าต้องการ”เขาเงยหน้าขึ้นฉับพลัน มองกู้หว่านเยว่ด้วยสายตาประหลาดใจ “เจ้ามานี่ ข้าจะนำเงินสี่สิบตำลึงให้เจ้า”

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 720

    หยดเลือดอุ่น ๆ กระเด็นใส่หน้าของเสี่ยวหลี่ เขาตกใจจนฉี่ราดใส่กางเกง กู้หว่านเยว่รีบปิดจมูกทันที“ขยะแขยงยิ่งนัก”“อย่าฆ่าข้า” เสี่ยวหลี่หน้าแดงเถือก ร้องไห้อ้อนวอนโดยไม่สนว่าจะถูกเมินหรือไม่“ขอร้องล่ะ อย่าฆ่าข้าเลย ข้ายอม ข้ายอมทำทุกอย่างแล้ว”เสี่ยวหลี่แทบจะเสียสติ สตรีผู้นี้หน้าตางดงามก็จริง แต่จิตใจโหดเหี้ยมมากบอกจะฆ่าก็ฆ่าเลย แทบไม่ต้องคิด“เราสองพี่น้องไม่ได้ตั้งใจจะเป็นศัตรูกับพวกเจ้า พวกเรา พวกเราก็แค่รับเงินและได้รับการว่าจ้างจากผู้ว่าจ้างเท่านั้น”กู้หว่านเยว่เลื่อนกริชเข้าใกล้เขาอย่างหมดความอดทน “หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว ผู้ว่าจ้างคือใคร”ไม่ต้องให้เสี่ยวหลี่อธิบาย นางก็รู้ เรื่องที่สองคนนี้ทำจะต้องเป็นเรื่องที่ไร้คุณธรรมอย่างการฆ่าคนและลักขโมยอย่างแน่นอนถึงอย่างไรตอนที่ลงมือจัดการต้าลี่ นัยน์ตาของนางก็ไม่ได้ฉายแววหวาดกลัวแต่อย่างใด “ข้าพูดแล้ว ๆ เป็นเจ้าของร้านของเพียวเซียงจูขอรับ”เสี่ยวหลี่กล่าวทั้งน้ำตา “เดิมทีเราเสร็จงานก่อนหน้าแล้ว ตั้งใจจะวางมือ แต่พี่ชายของข้าเขาอยากไถ่ตัวแม่หญิงคนหนึ่งในหอคณิกา จึงได้ลากข้ามาทำเรื่องนี้อีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเราอยากทำ แต่เจ้าข

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 721

    นางไม่ได้มีทักษะความสามารถเหมือนกับฮูหยิน ถึงอย่างไรก็หลบคมดาบของต้าลี่ไม่พ้นอย่างแน่นอน“จัดการศพของเขาให้เรียบร้อย”กู้หว่านเยว่ไม่อยากให้ศพของต้าลี่แปดเปื้อนที่ดินของนาง หลังจากสั่งชิงเหลียนแล้ว ก็พาซูจิ่งสิงกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า“เหมยจื่อ เจ้ากลับไปพักผ่อนเถอะ”หลังจากยุ่งมาตลอดทั้งวัน กู้หว่านเยว่รู้สึกเหนื่อยล้ามาก แต่นางก็ยังมีเรื่องสำคัญอีกสองเรื่องต้องไปจัดการ“เจ้าค่ะ ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้”เหมยจื่อกลับเข้าห้องด้วยหัวใจที่เต้นตึกตักอย่างหวาดกลัว คืนนี้ได้ถูกกำหนดให้เป็นคืนที่นอนไม่หลับ ทุกครั้งที่นางหลับตาก็มักจะหวนนึกถึงท่าตายอันน่าสลดของต้าลี่“ท่านพี่ เราไปหาเจ้าของร้านเสิ่นกันเถอะ”กู้หว่านเยว่เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกมา นางอยากรู้ว่านายท่านผู้อยู่เบื้องหลังของเจ้าของร้านเสิ่นคือใครการสู้รบกับร้านดอกท้อ ไม่ใช่สงครามทางธุรกิจธรรมดาอีกต่อไป“ข้าจะพาเจ้าไป”ซูจิ่งสิงหุบยิ้ม เพราะรู้สึกว่ามีคนกำลังจะเจอกับเคราะห์ร้ายแล้วเขาโอบเอวของกู้หว่านเยว่ กระโดดขึ้นรถม้า จากนั้นก็บังคับรถม้าออกไป“ท่านพี่ ทำไมท่านถึงกลายมาเป็นคนขับรถม้าเสียเองล่ะเจ้าคะ?”กู้หว่านยว่ชำเลื

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 722

    “ไป เราตามเขาไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่คอยดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงไว้ ทั้งสองคนกลายเป็นเสมือนหางเล็ก ๆ ติดตามพวกเขารถม้าค่อย ๆ ขับเคลื่อนไปบนท้องถนน สุดท้ายก็เลี้ยวตรงหัวมุมถนนลึกลับแห่งหนึ่งเจ้าของร้านเสิ่นเดินเข้าทางประตูหลัง หลังจากที่ทั้งสองคนตามเข้าไป ไม่นานก็เจอกับนายท่านที่อยู่เบื้องหลังของเพียวเซียงจูคนผู้นั้นสวมกระโปรงยาวที่ดูงดงามและโอ่อ่า ผมเกล้าสูงทรงสตรี ดูคุ้นตายิ่งนัก“นายหญิง ของที่ท่านต้องการมาถึงแล้วขอรับ”เจ้าของร้านเสิ่นเดินมาตรงหน้าสตรีผู้นั้นอย่างนอบน้อม จากนั้นก็เปิดถุงหยิบต้นกล้ายื่นให้อีกฝ่าย“อื้อ ทำดีมาก”สตรีผู้นั้นพยักหน้าอย่างพอใจ ครั้นกู้หว่านเยว่ได้ยินเสียงของนางแล้ว ก็รู้ถึงสถานะของอีกฝ่ายทันที“เจ้ารู้จักหรือ?”ซูจิ่งสิงลูบฝ่ามือของกู้หว่านเยว่เบา ๆ เขามองออกว่านางเหมือนกำลังโกรธ“อื้อ”กู้หว่านเยว่กล่าวเสียงต่ำ “เซวียฮูหยินที่ไปหาเรื่องถึงร้านดอกท้อในคราวที่แล้ว ยามนั้นนางพาสวี่ฮูหยินไปด้วย ทั้งยังพูดจาเหน็บแนมเสียพักใหญ่”“แล้วทำไมไม่บอกข้าล่ะ?”นัยน์ตาของซูจิ่งสิงฉายแววหดหู่ใจ หากเขารู้เร็วกว่านี้ คงจะแก้แค้นให้กู้หว่านเยว่ไปแล้ว“เรื่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 723

    “ไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่มองทองคำที่อยู่ในห้วงมิติแล้วยิ้มตาหยีไว้มีโอกาส นางจะต้องหลอมทองคำเหล่านี้มาทำเป็นเครื่องประดับศีรษะไว้ใส่เล่นอย่างแน่นอนทั้งสองคนออกมาจากบ้านสกุลเซวียแล้วตรงกับบ้านกู้ทันที“ข้าจะไปอาบน้ำสักหน่อย สกปรกเต็มทนแล้ว”ความจริงแล้วกู้หว่านเยว่ทนกลิ่นคาวของเลือดบนตัวไม่ไหว ทันทีที่เข้ามาในห้อง ก็แทรกตัวเข้าไปอาบน้ำในห้วงมิติอย่างรวดเร็วนัยน์ตาของซูจิ่งสิงฉายแววล้ำลึก ครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะสั่งให้คนตักน้ำเข้ามาอาบด้วยเขาต้องล้างเนื้อล้างตัวเสียหน่อย กู้หว่านเยว่จะได้ไม่รังเกียจกู้หว่านเยว่ไม่รู้ความคิดของซูจิ่งสิง หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เป่าผมให้แห้ง ชโลมน้ำมันดูแลผม ก่อนจะเดินออกมาจากห้วงมิติผมของคนสมัยโบราณช่างยาวยิ่งนัก เป่าผมที่ยาวเช่นนี้เสียเวลาของนางไปไม่น้อย“น้องหญิง ข้าจะหวีผมให้เจ้าเอง”ครั้นซูจิ่งสิงเห็นเส้นผมสีดำขลับที่ยาวเลยหัวไหล่ลงมา ก็รีบหยิบหวีมาหวีผมให้นางอย่างอ่อนโยนการหวีผมอย่างเบามือนั้นทำให้นางเคลิบเคลิ้ม“ซูจิ่งสิง ท่านเคยหวีผมให้สตรีมาหลายคนแล้วสินะ ถึงได้ถนัดมือเช่นนี้”กู้หว่านเยว่กล่าวถามโดยไม่รู้ว่าน้ำเสียงของตัวเองนั้นแฝ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 724

    แล้วทิ้งบุตรชายไว้ข้างหลัง“เข้มแข็งหน่อยนะเจ้า”ซูจิ่งสิงรับเสี่ยวจ้านจ้านมาไว้ในอ้อมกอด น่าเสียดายที่เด็กน้อยน่าชังผู้นี้อยากอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นมารดา เขาดิ้นพล่านปฏิเสธทันที ด้วยความจนปัญญา เขาทำได้เพียงส่งบุตรชายกลับไปด้วยสีหน้าหม่นหมอง“แค่นี้ก็พอ อย่าทำให้แม่เจ้าเหนื่อยล่ะ”ไม่ว่าเด็กน้อยน่าชังผู้นี้จะเข้าใจหรือไม่ ขอแค่เขาได้สั่งสอนบ้านสกุลเซวียในเวลานี้ ทันทีที่นายท่านเซวียกลับมาถึงบ้าน เขามักจะไปตรวจสอบคลังส่วนตัวอยู่เสมอ จนกระทั่งพบว่าคลังส่วนตัวถูกขโมยไปเรื่องที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าคือ สมุดบัญชีในคลังส่วนตัวของเขาก็หายไปด้วย“ฮูหยินล่ะ ฮูหยินอยู่ไหน?”นายท่านเซวียออกมาด้วยความรีบร้อน ตามหาร่องรอยของฮูหยิน“วันนี้มีใครเข้ามาในจวนหรือไม่ คลังส่วนตัวถูกขโมยจนหมดเกลี้ยง เจ้าไม่รู้อย่างนั้นหรือ?”นายท่านเซวียกระชากตัวภรรยาที่กำลังหลับฝันหวานขึ้นมา กระทั่งผ้าห่มลื่นหลุดมือ เขารีบปล่อยมือด้วยความตกใจทันที“เจ้า ทำไมเจ้าถึงได้มีผื่นแดงเต็มตัวเช่นนี้”“คัน คันยิ่งนัก....”เซวียฮูหยินยังคงละเมอเพ้อฝัน ก่อนที่นางจะเข้านอนวันนี้นางรู้สึกคันทั้งตัว จึงตั้งใจอาบน้ำแต่อาก

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1395

    เห็นเพียงท่ามกลางหมอกหนาทึบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแสงไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับหิ่งห้อยในค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อแสงไฟนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รองแม่ทัพที่อยู่บนเรือก็เบิกตาทั้งสองกว้าง“ไม่ได้การ ทั้งหมดเป็นลูกศรติดไฟ!”ก้นลูกศรเหล่านี้ถูกมัดด้วยลำกล้องดินปืน ภายในเป็นดินปืนทั้งหมดดินปืนตกลงมาพร้อมกับลูกศรที่ยิงขึ้นมาบนเรือราวกับเม็ดฝนทั่วท้องฟ้า ภายในเวลาชั่วพริบตา เรือก็ติดไฟ“เร็วเข้า รีบถอยกลับ”หลี่กวงถิงสั่งการ เขารู้สึกอย่างเลือนรางว่าตัวเองถูกแผนชั่วของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เล่นงานเข้าแล้วกองทัพใหญ่ออกเดินทางแล้ว ต้องการจะถอยกลับจะทำได้ง่าย ๆ อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังอยู่บนผิวน้ำ การเดินเรือไปข้างหน้าก็ทำได้ยากลำบากอยู่แล้วคนเหล่านี้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้บนน้ำ ไม่มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยังโชคดีเพราะหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่าถอยอย่างเป็นระเบียบเรือติดไฟแล้ว เหล่าทหารร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ในระหว่างการล่าถอยของเรือ ต่างก็ชนกันเอง สถานการณ์วุ่นวายในระดับหนึ่งทว่าลูกศรทั่วฟ้านั้นก็ยังไม่ยอมหยุดเลยหลังจากยิงจบระลอกห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1394

    “ข้ามีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง”ดวงตาของกู้หว่านเยว่กลอกไปมา ทันใดนั้นก็มีความคิดแผลง ๆ ผุดขึ้นมา“หลี่กวงถิงผู้นี้ต้องการว่าจ้างคนจากหอมือสังหารมาฆ่าท่านมิใช่หรือ? เราก็ให้คนของหอมือสังหารมาตอบรับเรื่องนี้”ซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่สบสายตากันเข้าใจทันทีว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่“หนามยอกเอาหนามบ่งหรือ?”“ถูกต้อง ถึงตอนนั้นเราก็มาปิดประตูตีแมวกัน”ซูจิ่งสิงเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง นกพิราบสื่อสารก็กลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งกลับไปที่หอมือสังหารเป็นสองวันที่สถานการณ์สงบสุขสองวันต่อมา หลี่กวงถิงก็ได้รับข่าวกรอง แจ้งว่าคนจากหอมือสังหารทำสำเร็จแล้ว“ข้าน้อยเห็นว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่สงบเงียบ ดูเหมือนจะไม่มีข่าวการตายของซูจิ่งสิงแพร่ออกมา”รองแม่ทัพหลายคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าใดหลี่กวงถิงยังรู้สึกว่าต้องระมัดระวังด้วยหลังจากรออีกสองวัน ก็มีข่าวกรองออกมาอีกว่า ค่ายของผู้บัญชาการถูกรายล้อมด้วยกองกำลังทหารอากาศแบบนี้ภายนอกกระโจมกำลังตากปลาเค็มอยู่ จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง“ตากปลาเค็ม อากาศแบบนี้ตากปลาเค็มอะไรกัน?”หลายคนนั่งวิเคราะห์ด้วยกันรองแม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างฉับพล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1393

    “ลู่จิง มองไม่ออกเลยว่า เจ้าจะรักหน้าที่การงานมากเช่นนี้”เกาเจี้ยนหัวเราะอย่างชั่วร้ายรักหน้าที่การงาน?ลู่จิงสะดุดเข้าให้ใครจะไปรักหน้าที่การงาน ชัดเจนว่าเขารักและสงสารกงซุนฉิงเขาเหลือบมองกงซุนฉิง ขณะที่คิดจะใช้โอกาสนี้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างสองคน“ถูกต้อง เขารักหน้าที่การงานมาก!”ทันใดนั้นกงซุนฉิงก็เหยียบเท้าของเขา แล้วรีบเอ่ยขึ้นนางละอายใจที่จะให้ฮูหยินรับรู้เรื่องราวของพวกเขาสุดท้าย ก็จ้องเขม็งใส่ลู่จิงอย่างดุดัน พลางกระซิบว่า“หุบปาก”“ก็ได้”ลู่จิงหุบปากอย่างเชื่อฟังคำพูดของคนรักต้องเชื่อฟัง นี่จะไม่ใช่ความองอาจของชายชาตรีอย่างหนึ่งอย่างไร“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองก็พูดคุยกันตามสบาย ใครจะเฝ้ายามก็ไม่สำคัญ หรือว่าถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเจ้าสองคนก็เฝ้ายามด้วยกันได้”ด้วยการเสริมทัพของเกาเจี้ยน ใบหน้าของกงซุนฉิงก็ยิ่งแดงขึ้น“เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงเงียบ ๆ พลางยิ้มคลุมเครือมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกันเรื่องความรักลับ ๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน“ไป”ซูจิ่งสิงจูงมือกู้หว่านเยว่จากไป“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องไปเหมือนกัน”เกาเจี้ยนถูกเตือนสต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1392

    ซูจิ่งสิงกระซิบเตือนกู้หว่านเยว่ที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ภรรยาเป็นคนบ้าการงาน ตั้งแต่มาถึงค่ายทหาร ก็มีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเขาเสียอีกเขาชอบท่าทางการวางแผนในกระโจมของกู้หว่านเยว่มาก เพียงแต่เป็นห่วงว่าร่างกายของนางจะรับไม่ไหว ดังนั้นจึงกำชับอยู่บ่อยครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะ ลมแรงจริง ๆ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสโยนกล้องโทรทรรศน์เข้าไปในมิติ แล้วลงมาจากหอสังเกตการณ์พร้อมกับซูจิ่งสิงหอสังเกตการณ์แห่งนี้สร้างโดยทหารตามคำสั่งของกู้หว่านเยว่ก่อนหน้านี้ โดยอิงตามพิมพ์เขียวที่นางให้มาหอสังเกตการณ์สูงยี่สิบเมตรพอดี เมื่อยืนอยู่ด้านบนของหอสังเกตการณ์จะสามารถมองเห็นจุดที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน สังเกตสถานการณ์ของศัตรูได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งสองลงมาจากหอสังเกตการณ์ ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในกองทัพกับเกาเจี้ยนก็ได้ยินเสียงโต้เถียงครู่หนึ่งโดยพลัน“ชู่ว์”กู้หว่านเยว่ส่งสัญลักษณ์มือให้ซูจิ่งสิง ดึงเขาให้เดินไปตามทิศทางที่ส่งเสียงมานางรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อเดินเข้าไปมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยจริงดังคาด เห็นกงซุนฉิงและลู่จิงกำลังโต้เถียงกันหน้าแดงหูแดง“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านมา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1391

    “หลี่กวงถิงต้องการควบคุมข่าวลือในกองทัพ แต่ก็ต้องดูว่านายทหารเหล่านั้นจะเชื่อเขาหรือไม่”ในกระโจมฝั่งตรงข้ามกับแม่น้ำมู่ตัน กู้หว่านเยว่กำลังแกว่งเอกสารราชการในมือเล่น ใบหน้าเผยแววเจ้าเล่ห์ออกมาซูจิ่งสิงถูปลายนิ้ว “เป็นอย่างที่เจ้าคาดไว้ไม่ผิด ทันทีที่หลี่กวงถิงได้ยินข่าวนี้ ก็เรียกประชุมทั้งกองทัพทันทีและบอกว่าข่าวนี้ เป็นเท็จ”“เขามีวิธี และเราก็มีวิธีเช่นกัน”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเก็บไพ่ใบสำคัญนี้ไว้ตลอดโดยเปล่าประโยชน์ ย่อมไม่ยอมปล่อยให้หลี่กวงถิงปกปิดเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ“ถึงเวลาที่โจวเหล่าต้องออกหน้าแล้ว”นางเอ่ยเบา ๆหลี่กวงถิงเรียกประชุมทั้งกองทัพ พยายามปลอบขวัญทหารทว่าเขาเพิ่งพูดจบในตอนเช้า ตอนบ่ายก็มีข่าวส่งมาถึงบอกว่าโจวเหล่าออกหน้าด้วยตัวเอง เขียนเอกสารฉบับหนึ่งด้วยมือ“โจวเหล่าได้ยอมรับสถานะบุตรที่เป็นกำพร้าของอดีตรัชทายาทแล้ว”ใบหน้าของรองแม่ทัพอมทุกข์“โจวเหล่าเคยเป็นอาจารย์ของอดีตรัชทายาท เขายังเป็นนักปราชญ์แห่งยุคอีกด้วย มีลูกศิษย์ในมือนับไม่ถ้วน เขาเชี่ยวชาญในการชี้นำการพัฒนาคำวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนบัดนี้เขาพูดออกมาเช่นนี้ ยังมีใครที่ไม่เชื่ออีก?”

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1390

    กู้หว่านเยว่ซื้อโล่และชุดเกราะมาอย่างละสองหมื่นชุดนอกจากธนูและหน้าไม้แล้ว กู้หว่านเยว่ยังซื้อลูกปืนใหญ่มาอีกชุดหนึ่งลูกปืนใหญ่เหล่านี้ถือเป็นของสำรอง จะไม่นำออกมาใช้อย่างเด็ดขาด เว้นแต่จะเป็นสถานการณ์พิเศษพลังทำลายล้างของลูกปืนใหญ่นั้นรุนแรงเกินไป หากไม่จำเป็น ก็อย่าเพิ่งนำออกมาใช้หลังจากเตรียมสิ่งของพร้อมแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ดูยอดเงินคงเหลือในบัตรอืม แทบจะไม่ขยับเลยการมีเงินใช้ไม่หมดนี่มันรู้สึกดีจริง ๆ !นอกจากสิ่งเหล่านี้ นางยังซื้อผงห้ามเลือดและยาจินชวงมาจำนวนมาก ล้วนมีประโยชน์สำหรับใช้พันแผลให้ทหารหลังจากทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ย้ายสิ่งของทั้งหมดนี้เข้าไปไว้ในคลังเก็บของในเมืองผิงโจวเมืองผิงโจวมีทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนา ไม่ต้องกลัวว่าของข้างในจะสูญหายหลังจากนำของเข้าไปไว้ในคลังเก็บของแล้ว ค่อยให้ทหารขนย้ายสิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดไปยังค่ายเวลาผ่านไปรวดเร็วสิบวันต่อมา กองทัพของฮ่องเต้เดินทางมาถึงแม่น้ำมู่ตันหลี่กวงถิงมองไปยังผืนน้ำอันกว้างใหญ่ของแม่น้ำมู่ตัน ก็รู้สึกมึนงงมิน่าล่ะ ก่อนหน้านี้เจียงเต๋อจื้อนำกองทัพห้าหมื่นนายมา ผลปรากฏว่าพ่ายแพ้ย่อยยับ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1389

    นางสั่งให้คนสร้างคลังเก็บของขนาดใหญ่ขึ้นที่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำมู่ตันในเมืองผิงโจวเมื่อนานมาแล้ว แต่ก่อนเอาไว้ใช้เก็บเสบียงอาหารยังมีคลังเก็บของอีกหลายแห่งที่ยังใช้ไม่หมดกู้หว่านเยว่ตั้งใจจะใช้กักตุนอาวุธทั้งหมดสามวันต่อมา กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงนำกองทัพใหญ่มาถึงแม่น้ำมู่ตันกองทัพใหญ่ตั้งค่ายอยู่ริมแม่น้ำกางเต็นท์อย่างเป็นระเบียบ ตามแบบแปลนที่กู้หว่านเยว่มอบให้เต็นท์เล็ก ๆ ถูกกางขึ้นริมแม่น้ำควันไฟค่อย ๆ ลอยขึ้นไปเหล่าทหารไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย แต่ละคนดูเหมือนมาพักผ่อนจะทำอย่างไรได้ ก็เบี้ยหวัดทหารเยอะมากเกินไป!คนอื่นเวลาเดินทัพก็กินแต่อาหารแห้ง ซาลาเปากับหมั่นโถว แต่พวกเขากินกับข้าวสามอย่าง พร้อมน้ำแกงหนึ่งอย่างทุกมื้อ แถมยังมีทั้งเนื้อและผักอีกต่างหาก!แบบนี้จะเรียกว่าออกรบได้อย่างไร?เหมือนกับเทศกาลตรุษจีนชัด ๆ !เมื่อเห็นเหล่าทหารมีขวัญกำลังใจ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็ดีใจ ทั้งสองคนปรึกษาแผนการในค่ายทหารซูจิ่งสิงไม่เป็นสองรองใครในเรื่องการรบอยู่แล้ว แต่เขาพบว่ากู้หว่านเยว่ก็มีพรสวรรค์ในด้านการทหารเช่นกันความคิดที่ผุดขึ้นมาเป็นครั้งคราว ทำให้เขา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1388

    “ไม่ต้อง ๆ ข้าแค่พูดเล่นเท่านั้น ยาพิษของพวกนี้ ใช้ให้น้อยจะดีกว่า”แต่จริง ๆ แล้ว เขาก็แค่แสร้งทำเท่านั้น เฟิ่งอู๋ชีไม่ได้กลัวพิษเลยสักนิด เพราะร่างกายเขามีคุณสมบัติเป็นยาโดยกำเนิด“ไปแล้วนะ”เขาโบกมือ แล้วหันหลังเดินจากไป“รักษาชีวิตของท่านเอาไว้”กู้หว่านเยว่เอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงความปลอดภัยของเฟิ่งอู๋ชี แต่เป็นเพราะคนที่ร่างกายมีคุณสมบัติเป็นยาโดยกำเนิดนั้นหาได้ยากเผื่อในอนาคตทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกัน นางก็อาจจะได้ศึกษาดู“ไม่ต้องห่วง สิ่งที่แข็งที่สุดของข้าก็คือชีวิตนี่แหละ”เฟิ่งอู๋ชีนหลังเดินจากไป เดินไปได้สองก้าวก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไม่ใช่ ๆ จุดแข็งที่สุดของเขาไม่ใช่ชีวิตเสียหน่อย!“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ นี่เป็นถึงองค์ชายหนานเจียงเชียวนะ จะไม่ฉวยโอกาสจับเขาไว้หรือ จะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ แบบนี้หรือ?”ซูจื่อชิงรีบเข้ามา เห็นเฟิ่งอู๋ชีกำลังเดินจากไปพอดี ใบหน้าของเขาเผยความเสียดายออกมาเล็กน้อยปล่อยศัตรูไปแบบนี้ ไม่เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่าหรอกหรือ?จากมุมมองของเขา ก็ควรจะจับองค์ชายหนานเจียงไว้ เพื่อใช้ข่มขู่หนานเจียงสิ“ฆ่าองค์ชายหนานเจียงก็ไร้ประโยช

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status