แชร์

บทที่ 724

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
แล้วทิ้งบุตรชายไว้ข้างหลัง

“เข้มแข็งหน่อยนะเจ้า”

ซูจิ่งสิงรับเสี่ยวจ้านจ้านมาไว้ในอ้อมกอด น่าเสียดายที่เด็กน้อยน่าชังผู้นี้อยากอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นมารดา เขาดิ้นพล่านปฏิเสธทันที ด้วยความจนปัญญา เขาทำได้เพียงส่งบุตรชายกลับไปด้วยสีหน้าหม่นหมอง

“แค่นี้ก็พอ อย่าทำให้แม่เจ้าเหนื่อยล่ะ”

ไม่ว่าเด็กน้อยน่าชังผู้นี้จะเข้าใจหรือไม่ ขอแค่เขาได้สั่งสอน

บ้านสกุลเซวียในเวลานี้ ทันทีที่นายท่านเซวียกลับมาถึงบ้าน เขามักจะไปตรวจสอบคลังส่วนตัวอยู่เสมอ จนกระทั่งพบว่าคลังส่วนตัวถูกขโมยไป

เรื่องที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าคือ สมุดบัญชีในคลังส่วนตัวของเขาก็หายไปด้วย

“ฮูหยินล่ะ ฮูหยินอยู่ไหน?”

นายท่านเซวียออกมาด้วยความรีบร้อน ตามหาร่องรอยของฮูหยิน

“วันนี้มีใครเข้ามาในจวนหรือไม่ คลังส่วนตัวถูกขโมยจนหมดเกลี้ยง เจ้าไม่รู้อย่างนั้นหรือ?”

นายท่านเซวียกระชากตัวภรรยาที่กำลังหลับฝันหวานขึ้นมา กระทั่งผ้าห่มลื่นหลุดมือ เขารีบปล่อยมือด้วยความตกใจทันที

“เจ้า ทำไมเจ้าถึงได้มีผื่นแดงเต็มตัวเช่นนี้”

“คัน คันยิ่งนัก....”

เซวียฮูหยินยังคงละเมอเพ้อฝัน ก่อนที่นางจะเข้านอนวันนี้นางรู้สึกคันทั้งตัว จึงตั้งใจอาบน้ำแต่อาก
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 725

    “บุรุษผู้นั้นไม่ได้เข้าตามตรอกออกตามประตู แต่เข้ามาทางประตูหลัง ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆ ด้วยเจ้าค่ะ”อนุภรรยาฉินไม่รู้ว่านั้นคือชู้ของนางหรือไม่ แต่ขอให้ยุ่งเรื่องคนอื่นก็พอฮูหยินมักจะรังแกนางลับหลังนายท่านเสมอ ครั้นได้โอกาสนางก็ขอซ้ำเติมเต็มที่“อนุภรรยาฉิน หากเจ้าพูดเหลวไหลอีก ข้าจะฉีกปากเจ้า พรุ่งนี้ข้าส่งเจ้าไปขายเสีย”“นายท่าน นางจะส่งข้าไปขายเจ้าค่ะ”อนุภรรยาฉินออดอ้อนอยู่ในอ้อมกอดของนายท่านเซวีย แต่ปากยังคงพร่ำพรรณนาไม่หยุด“ข้าไม่ได้พูดเหลวไหล เด็กรับใช้และสาวใช้ต่างก็เห็นว่ามีบุรุษปริศนาแอบเข้ามาเมื่อคืนเจ้าค่ะ”ในใจของนายท่านเซวียเชื่อไปแล้วสามส่วน และกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “นางหลี่ เจ้าสารภาพด้วยตัวเองเถอะ ข้าไม่อยากลงโทษเจ้า”“นายท่าน?”เซวียฮูหยินคิดไม่ถึงว่านายท่านจะไม่เชื่อใจนางจริง ๆ นางรับอธิบายด้วยใจที่แตกสลายว่า “ข้าอยู่กินฉันสามีภรรยากับนายท่านมาสี่ห้าปี จะเป็นหัวขโมยได้อย่างไรละเจ้าคะ นั้นคือเจ้าของร้านในร้านของข้า ข้าแค่เรียกเขามาถามไถ่งาน””“จะถามไถ่งานก็ถามกลางวัน ทำไมต้องถามกลางคืนด้วย?” นายท่านเซวียจะเชื่ออย่างนั้นหรือ? หากเชื่อเขาก็โง่เต็มทนแล้ว“เร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 726

    “เซวียผิง ข้าคือพี่ใหญ่ของเจ้า พวกเราเป็นพี่น้องแท้ ๆ ”“ใช่แล้ว พี่ใหญ่ผู้แสนดี บุญคุณที่ท่านมีต่อข้า ข้าจะตอบแทนเป็นร้อยเท่าพันเท่า”เซวียผิงกัดฟันเน้นย้ำคำพูดสองสามคำหลังอย่างหนัก ทำให้นายท่านเซวียหน้าซีดเผือด “เจ้า เจ้า...”“นำตัวไป!”ไม่ว่าจะเป็นบ่าวรับใช้คนสนิทของนายท่านเซวีย พ่อบ้าน รวมถึงเซวียฮูหยิน และเจ้าของร้านเสิ่น ทุกคนล้วนถูกจับเข้าคุกเมื่อกู้หว่านเยว่ตื่นขึ้นมา นางหยางและซูจิ้งก็เพิ่งกลับมาจากฟาร์มหมูพอดีนางหยางพบเจอเรื่องน่ายินดี จิตใจเบิกบานแจ่มใส จึงเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ข้าไปดูพื้นที่นั้นมาแล้ว เลี้ยงหมู่น่ะดีจริง ๆ แถวนั้นมีฟาร์มเกษตร ใบผักเน่าเสียที่ฟาร์มไม่เอา เราก็เอามาทำอาหารหมูได้ ส่วนมูลหมูก็เอามาทำปุ๋ยได้ แบบนี้ไม่เรียกว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายหรือ?”แถวนั้นยังมีหมู่บ้านอีก ถึงตอนนั้นก็ไปจ้างคนงานจากในหมู่บ้านได้เลย สะดวกดี “ท่านพ่อท่านแม่ชอบก็ดีแล้ว”กู้หว่านเยว่ดึงนางหยางไปด้านข้างอย่างเงียบ ๆ “ท่านพ่อดีขึ้นบ้างหรือยัง?”นางหยางพยักหน้า “แม่เฒ่าซูก็ไม่ใช่แม่ที่ดีอะไรนักหรอก ท่านพ่อของเจ้าก็คงคิดได้แล้ว”กู้หว่านเยว่ได้ยินว่าไม่มีเรื่องอะไรก็รู้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 727

    “ว่ามา”ซูจิ่งสิงถูปลายนิ้ว ขณะสอบสวนคดี ใบหน้าก็กลับมาเย็นชาไร้อารมณ์อีกครั้ง“เขาสารภาพมาแค่ครึ่งเดียว ที่เหลือไม่ยอมพูด”แววตาของเซวียผิงเผยความแค้นออกมาแวบหนึ่ง ทำให้กู้หว่านเยว่รู้สึกสงสัย“พวกเขาไม่ใช่พี่น้องแท้ ๆ กันหรอกหรือ เหตุใดดูเหมือนมีความแค้นฝังลึกเช่นนี้”ยิ่งกว่านั้นทั้งสองคนยังเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกันแท้ ๆ ตกลงมีความแค้นอะไรกันแน่ เซวียผิงถึงได้เกลียดนายท่านเซวียขนาดนี้?“ฮูหยินของเซวียผิง ถูกนายท่านเซวียบีบบังคับให้ผูกคอตาย” ซูจิ่งสิงกระซิบข้างหูนางสิ่งที่สามารถทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งยอมจบชีวิตตัวเองด้วยการแขวนคอได้ ก็มีเพียงเรื่องครอบครัวหรือไม่ก็เรื่องชื่อเสียง“น้องรอง ไว้ชีวิตข้าเถอะ ข้าเป็นพี่ใหญ่ของเจ้านะ...”นายท่านเซวียอ้อนวอนด้วยลมหายใจรวยริน เขาแทบทนไม่ไหวแล้ว คนอายุสามสิบกว่าปี จะทนการทรมานแบบนี้ได้อย่างไรเซวียผิงถือเหล็กเผาไฟเข้าใกล้เขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ไว้ชีวิตท่าน แล้วใครไว้ชีวิตอาอวิ๋นเล่า?”เมื่อได้ยินชื่อนี้ ดวงตาของนายท่านเซวียก็สั่นไหว “นาง การตายของนางไม่เกี่ยวกับข้า”“ไม่เกี่ยวข้องงั้นหรือ ท่านคิดว่าข้าเป็นคนโง่หรือไร!”เมื่อพูดถึง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 728

    “ประหารชีวิตต่อหน้าชาวบ้านเถิด”ซูจิ่งสิงวางคำให้การลง และรู้สึกขยะแขยง“ส่วนคนอื่น ๆ เจ้าจัดการตามสมควร ตัดสินอย่างยุติธรรม”คดีของสกุลเซวียสิ้นสุดลง กู้หว่านเยว่ยังคงครุ่นคิดถึงเรื่องร้านเพียวเซียงที่ไม่มีเจ้าของ สามารถซื้อกิจการมาได้ จึงดึงซูจิ่งสิงแล้วเดินออกไป“ไป ลากเซวียติงกลับเข้าคุก รอประหารชีวิตพรุ่งนี้”ภายในคุก เซวียฮูหยินและอนุภรรยาฉินพวกนางถูกขังรวมอยู่ในห้องเดียวกัน เมื่อเห็นนายท่านเซวียถูกลากเข้ามาในสภาพปางตาย ทั้งสองคนก็รีบเข้าไปหา“นายท่าน ๆ ผลการพิจารณาคดีเป็นอย่างไรบ้าง? พวกเราจะได้ออกไปเมื่อไร เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”ที่แท้เซวียฮูหยินก็ไม่ได้สนใจว่านายท่านเซวียจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่กังวลว่าตัวเองจะได้ออกไปเมื่อไรต่างหาก“นางสารเลว!” นายท่านเซวียออกแรงบีบคอนางไว้แน่น“อ่อก ท่านพี่ ท่านทำอะไร?”“เป็นเพราะเจ้าไปทำให้กู้หว่านเยว่ไม่พอใจ จนข้าต้องเป็นแบบนี้”นายท่านเซวียได้ยินชัดเจน ตอนที่กู้หว่านเยว่พูดคุยกับซูจิ่งสิง นางพูดถึงเซวียฮูหยินและร้านเพียวเซียง“นางสารเลว เจ้าทำอะไรลงไป!”“ท่านหมายถึงซูฮูหยิน นาง นางก็แค่สตรีในเรือนคนหนึ่งมิใช่หรือ?”เซวียฮูหย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 729

    กู้หว่านเยว่ตั้งใจจะแจ้งเรื่องร้านเพียวเซียงให้หลี่ชิวเตี๋ยทราบ พอไปถึงร้านดอกท้อก็เจอหลี่ชิวเตี๋ยกำลังคำนวณบัญชีพอดีเมื่อเห็นกู้หว่านเยว่ นางรีบยื่นสมุดบัญชีให้ด้วยความเคารพ“เถ้าแก่เนี้ย ข้าคำนวณบัญชีของช่วงหลายวันที่ผ่านมาแล้ว เชิญท่านตรวจดู”หลี่ชิวเตี๋ยกังวลจนปากเป็นแผล แม้ว่าลูกค้าเก่าจะยังอยู่ แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ถูกดึงดูดด้วยราคาที่ต่ำกว่าของร้านเพียวเซียง ยอดขายช่วงนี้จึงไม่ค่อยดีนัก“ร้านเพียวเซียงคอยแย่งลูกค้าของเราตลอด ไม่ว่าพวกเราจะออกสินค้าใหม่ชนิดใด พวกเขาก็ลอกเลียนแบบไปหมด น่าโมโหจริง ๆ ข้าอยากจะหาคนไปทุบร้านพวกเขาให้พังไปเสีย!”หลี่ชิวเตี๋ยไม่ได้พูดเล่น นางอยากจะทุบร้านเพียวเซียงให้พังจริง ๆ แต่น่าเสียดายที่หาคนไม่ได้กู้หว่านเยว่ยิ้ม “ใจเย็น ๆ ก่อน วันนี้ข้ามาที่นี่ก็เพื่อจะบอกเจ้าว่า เตรียมตัวซื้อกิจการร้านเพียวเซียงเถอะ”“หา?”หลี่ชิวเตี๋ยเพิ่งจะระบายอารมณ์เสร็จ ก็ได้ยินข่าวนี้ ถึงกับงงไปแล้ว“เถ้าแก่เนี้ย ข้าหูฝาดไปเอง หรือว่าท่านพูดผิดกันแน่”“ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง รอหลังจากซื้อกิจการร้านเพียวเซียงแล้ว ก็เปิดสาขาเพิ่ม เรื่องนี้ข้ามอบหมายให้เจ้าเป็นคนจัดการ”

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 730

    “อาซือ วันนี้เจ้ากลับจวนไปก่อนเถอะ”อาซือขยับคิ้วเล็กน้อย “บ่าวต้องปกป้องคุณหนู”“ไม่ต้องให้เจ้ามาปกป้องหรอก หากมีอันตราย คุณชายอวิ๋นจะปกป้องข้าเอง”มองตามแผ่นหลังของนางที่เดินออกไปอย่างมีความสุข ฉินซือถอนหายใจเบา ๆ แล้วถอยออกไปอย่างเงียบ ๆ “คุณชายอวิ๋น ข้ามาแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”หลี่ชิวเตี๋ยเดินไปอยู่ตรงหน้าอวิ๋นมู่ แล้วจงใจสะบัดผม“ไปกันเถอะ”อวิ๋นมู่ไม่มีอารมณ์สักเท่าไร จึงเผยรอยยิ้มแห้ง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะรู้ว่านางรู้จักกับกู้หว่านเยว่ ก็คงไม่มีมื้ออาหารวันนี้หรอกกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงจูงมือกันกลับมาถึงจวนกู้ บังเอิญเจอกับปรมาจารย์แพทย์เข้าพอดี“เจ้าเด็กบ้า ๆ ข้ากำลังจะก่อตั้งหุบเขาราชาโอสถ เจ้าจะเข้าร่วมหรือไม่?”“ท่านเอาจริงหรือ?”กู้หว่านเยว่รู้สึกประหลาดใจ ปรมาจารย์แพทย์ในความทรงจำของนางเป็นคนที่มีนิสัยไม่ยึดติด แม้แต่การรับศิษย์ก็จำใจรับลั่วยางมาคนเดียว“ก่อตั้งหุบเขาราชาโอสถ มันยุ่งยากมาก”ท่านไม่ใช่คนที่กลัวความยุ่งยากที่สุดหรอกหรือ?”“ข้าเอาจริงแน่นอน”ปรมาจารย์แพทย์ลูบเครา แล้วเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าคิดดูแล้ว วิชาแพทย์ทั้งหมดนี้ไม่ควรจะฝังไปพร้อมกับข

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 731

    หุบเขาราชาโอสถ ไม่ใช่พวกปลาซิวปลาสร้อยทั่ว ๆ ไปจะเข้ามาได้“เจ้าหนูสกุลซู เรื่องก่อตั้งหุบเขาราชาโอสถ ฝากเจ้าช่วยใส่ใจด้วยนะ”ในที่สุดสายตาของปรมาจารย์แพทย์ก็มองเห็นซูจิ่งสิง ซูจิ่งสิงจูงมือของกู้หว่านเยว่ จากนั้นหยักหน้า“น้องหญิงสนับสนุนท่านผู้อาวุโส ข้าก็สนับสนุนด้วยเช่นกัน”“บ้าเอ๊ย เริ่มอวดความหวานกันอีกแล้ว ข้าไปก่อนละ ไปแล้ว”ปรมาจารย์แพทย์วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็วเขาจะรับลูกศิษย์ก่อน จากนั้นหาสถานที่ก่อตั้งหุบเขาราชาโอสถ!“ปรมาจารย์แพทย์เปลี่ยนไปมาก หากเทียบกับเมื่อก่อน”ซูจิ่งสิงจูงมือของกู้หว่านเยว่ แล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน ก่อนหน้านี้ปรมาจารย์แพทย์ไม่เคยสนใจชีวิตความเป็นความตายของใคร“นี่เป็นเรื่องที่ดี”ทั้งสองคนเข้าไปในจวน ไปดูจ้านจ้านที่หลังเรือน เช้าวันรุ่งขึ้น หวังปี้และซูหรานหร่านก็มาจากหมู่บ้านสือหานทั้งสองคนมาเพื่อแสดงความยินดี“ข้าตั้งครรภ์แล้ว”ซูหรานหร่านลูบท้องของนาง บนใบหน้ามีความอ่อนโยนของการที่จะได้เป็นแม่คน“หมอบอกว่าสองเดือนแล้ว”เพราะเป็นหลานสาวแท้ ๆ นางหยางและซูจิ้งก็ยินดีกับนางเช่นกันคิดดูแล้วหวังปี้ก็เป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่ส่วนซูหรานหร่าน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 732

    “โชคดีที่ซูหรานหร่านกลับไปแล้ว”กู้หว่านเยว่รู้สึกละอายใจ มิฉะนั้นถ้าสกุลซูก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมา ลูกในท้องของนางก็อาจจะอันตราย“ไม่ต้องห่วง ในเมื่อเขาอยากก่อเรื่อง ก็ปล่อยให้เขาก่อเรื่องให้เต็มที่ไปเลย”ซูจิ่งสิงแสดงสีหน้าเย็นชา การไม่ลงมือฆ่าพวกเขา ถือเป็นความเมตตาสุดท้ายของเขาแล้วแต่อีกฝ่ายบุกมาถึงที่ เขาก็ไม่รังเกียจที่จะจัดการพวกเขาด้วยตัวเองทั้งสองคนไม่ได้ใส่ใจสกุลซู หลังจากจัดการธุระเสร็จแล้ว เซวียผิงก็มาที่จวนกู้โดยเฉพาะ เพื่อคุกเข่าคำนับซูจิ่งสิง“ขอบคุณนายท่านที่ให้โอกาสนี้แก่ข้า ทำให้ข้าสามารถล้างแค้นให้ภรรยาผู้ล่วงลับได้”นายท่านเซวียถูกตัดหัวประจานต่อหน้าธารกำนัลแล้วเซวียผิงรอมาเกือบสิบปี ในที่สุดก็ได้ล้างแค้นให้ภรรยาผู้ล่วงลับ เขาซื้อดอกไม้ช่อหนึ่งและถือเหล้ากาหนึ่ง ไปที่หลุมศพของภรรยาอย่างมีความสุขหลังจากไหว้หลุมศพแล้ว ก็มาหาซูจิ่งสิงเพื่อขอบคุณ“ลุกขึ้นเถิด นี่เป็นสิ่งที่เจ้าควรได้รับ”ซูจิ่งสิงก็ชื่นชมว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ“จากนี้ไป ข้าน้อยยินดีสวามิภักดิ์ต่อนายท่าน ทุ่มเททั้งกายและใจ จนกว่าชีวิตจะหาไม่”เซวียผิงแสดงความจงรักภักดีความแค้นได้รับการ

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1395

    เห็นเพียงท่ามกลางหมอกหนาทึบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแสงไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับหิ่งห้อยในค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อแสงไฟนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รองแม่ทัพที่อยู่บนเรือก็เบิกตาทั้งสองกว้าง“ไม่ได้การ ทั้งหมดเป็นลูกศรติดไฟ!”ก้นลูกศรเหล่านี้ถูกมัดด้วยลำกล้องดินปืน ภายในเป็นดินปืนทั้งหมดดินปืนตกลงมาพร้อมกับลูกศรที่ยิงขึ้นมาบนเรือราวกับเม็ดฝนทั่วท้องฟ้า ภายในเวลาชั่วพริบตา เรือก็ติดไฟ“เร็วเข้า รีบถอยกลับ”หลี่กวงถิงสั่งการ เขารู้สึกอย่างเลือนรางว่าตัวเองถูกแผนชั่วของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เล่นงานเข้าแล้วกองทัพใหญ่ออกเดินทางแล้ว ต้องการจะถอยกลับจะทำได้ง่าย ๆ อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังอยู่บนผิวน้ำ การเดินเรือไปข้างหน้าก็ทำได้ยากลำบากอยู่แล้วคนเหล่านี้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้บนน้ำ ไม่มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยังโชคดีเพราะหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่าถอยอย่างเป็นระเบียบเรือติดไฟแล้ว เหล่าทหารร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ในระหว่างการล่าถอยของเรือ ต่างก็ชนกันเอง สถานการณ์วุ่นวายในระดับหนึ่งทว่าลูกศรทั่วฟ้านั้นก็ยังไม่ยอมหยุดเลยหลังจากยิงจบระลอกห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1394

    “ข้ามีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง”ดวงตาของกู้หว่านเยว่กลอกไปมา ทันใดนั้นก็มีความคิดแผลง ๆ ผุดขึ้นมา“หลี่กวงถิงผู้นี้ต้องการว่าจ้างคนจากหอมือสังหารมาฆ่าท่านมิใช่หรือ? เราก็ให้คนของหอมือสังหารมาตอบรับเรื่องนี้”ซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่สบสายตากันเข้าใจทันทีว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่“หนามยอกเอาหนามบ่งหรือ?”“ถูกต้อง ถึงตอนนั้นเราก็มาปิดประตูตีแมวกัน”ซูจิ่งสิงเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง นกพิราบสื่อสารก็กลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งกลับไปที่หอมือสังหารเป็นสองวันที่สถานการณ์สงบสุขสองวันต่อมา หลี่กวงถิงก็ได้รับข่าวกรอง แจ้งว่าคนจากหอมือสังหารทำสำเร็จแล้ว“ข้าน้อยเห็นว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่สงบเงียบ ดูเหมือนจะไม่มีข่าวการตายของซูจิ่งสิงแพร่ออกมา”รองแม่ทัพหลายคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าใดหลี่กวงถิงยังรู้สึกว่าต้องระมัดระวังด้วยหลังจากรออีกสองวัน ก็มีข่าวกรองออกมาอีกว่า ค่ายของผู้บัญชาการถูกรายล้อมด้วยกองกำลังทหารอากาศแบบนี้ภายนอกกระโจมกำลังตากปลาเค็มอยู่ จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง“ตากปลาเค็ม อากาศแบบนี้ตากปลาเค็มอะไรกัน?”หลายคนนั่งวิเคราะห์ด้วยกันรองแม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างฉับพล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1393

    “ลู่จิง มองไม่ออกเลยว่า เจ้าจะรักหน้าที่การงานมากเช่นนี้”เกาเจี้ยนหัวเราะอย่างชั่วร้ายรักหน้าที่การงาน?ลู่จิงสะดุดเข้าให้ใครจะไปรักหน้าที่การงาน ชัดเจนว่าเขารักและสงสารกงซุนฉิงเขาเหลือบมองกงซุนฉิง ขณะที่คิดจะใช้โอกาสนี้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างสองคน“ถูกต้อง เขารักหน้าที่การงานมาก!”ทันใดนั้นกงซุนฉิงก็เหยียบเท้าของเขา แล้วรีบเอ่ยขึ้นนางละอายใจที่จะให้ฮูหยินรับรู้เรื่องราวของพวกเขาสุดท้าย ก็จ้องเขม็งใส่ลู่จิงอย่างดุดัน พลางกระซิบว่า“หุบปาก”“ก็ได้”ลู่จิงหุบปากอย่างเชื่อฟังคำพูดของคนรักต้องเชื่อฟัง นี่จะไม่ใช่ความองอาจของชายชาตรีอย่างหนึ่งอย่างไร“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองก็พูดคุยกันตามสบาย ใครจะเฝ้ายามก็ไม่สำคัญ หรือว่าถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเจ้าสองคนก็เฝ้ายามด้วยกันได้”ด้วยการเสริมทัพของเกาเจี้ยน ใบหน้าของกงซุนฉิงก็ยิ่งแดงขึ้น“เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงเงียบ ๆ พลางยิ้มคลุมเครือมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกันเรื่องความรักลับ ๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน“ไป”ซูจิ่งสิงจูงมือกู้หว่านเยว่จากไป“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องไปเหมือนกัน”เกาเจี้ยนถูกเตือนสต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1392

    ซูจิ่งสิงกระซิบเตือนกู้หว่านเยว่ที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ภรรยาเป็นคนบ้าการงาน ตั้งแต่มาถึงค่ายทหาร ก็มีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเขาเสียอีกเขาชอบท่าทางการวางแผนในกระโจมของกู้หว่านเยว่มาก เพียงแต่เป็นห่วงว่าร่างกายของนางจะรับไม่ไหว ดังนั้นจึงกำชับอยู่บ่อยครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะ ลมแรงจริง ๆ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสโยนกล้องโทรทรรศน์เข้าไปในมิติ แล้วลงมาจากหอสังเกตการณ์พร้อมกับซูจิ่งสิงหอสังเกตการณ์แห่งนี้สร้างโดยทหารตามคำสั่งของกู้หว่านเยว่ก่อนหน้านี้ โดยอิงตามพิมพ์เขียวที่นางให้มาหอสังเกตการณ์สูงยี่สิบเมตรพอดี เมื่อยืนอยู่ด้านบนของหอสังเกตการณ์จะสามารถมองเห็นจุดที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน สังเกตสถานการณ์ของศัตรูได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งสองลงมาจากหอสังเกตการณ์ ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในกองทัพกับเกาเจี้ยนก็ได้ยินเสียงโต้เถียงครู่หนึ่งโดยพลัน“ชู่ว์”กู้หว่านเยว่ส่งสัญลักษณ์มือให้ซูจิ่งสิง ดึงเขาให้เดินไปตามทิศทางที่ส่งเสียงมานางรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อเดินเข้าไปมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยจริงดังคาด เห็นกงซุนฉิงและลู่จิงกำลังโต้เถียงกันหน้าแดงหูแดง“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านมา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1391

    “หลี่กวงถิงต้องการควบคุมข่าวลือในกองทัพ แต่ก็ต้องดูว่านายทหารเหล่านั้นจะเชื่อเขาหรือไม่”ในกระโจมฝั่งตรงข้ามกับแม่น้ำมู่ตัน กู้หว่านเยว่กำลังแกว่งเอกสารราชการในมือเล่น ใบหน้าเผยแววเจ้าเล่ห์ออกมาซูจิ่งสิงถูปลายนิ้ว “เป็นอย่างที่เจ้าคาดไว้ไม่ผิด ทันทีที่หลี่กวงถิงได้ยินข่าวนี้ ก็เรียกประชุมทั้งกองทัพทันทีและบอกว่าข่าวนี้ เป็นเท็จ”“เขามีวิธี และเราก็มีวิธีเช่นกัน”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเก็บไพ่ใบสำคัญนี้ไว้ตลอดโดยเปล่าประโยชน์ ย่อมไม่ยอมปล่อยให้หลี่กวงถิงปกปิดเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ“ถึงเวลาที่โจวเหล่าต้องออกหน้าแล้ว”นางเอ่ยเบา ๆหลี่กวงถิงเรียกประชุมทั้งกองทัพ พยายามปลอบขวัญทหารทว่าเขาเพิ่งพูดจบในตอนเช้า ตอนบ่ายก็มีข่าวส่งมาถึงบอกว่าโจวเหล่าออกหน้าด้วยตัวเอง เขียนเอกสารฉบับหนึ่งด้วยมือ“โจวเหล่าได้ยอมรับสถานะบุตรที่เป็นกำพร้าของอดีตรัชทายาทแล้ว”ใบหน้าของรองแม่ทัพอมทุกข์“โจวเหล่าเคยเป็นอาจารย์ของอดีตรัชทายาท เขายังเป็นนักปราชญ์แห่งยุคอีกด้วย มีลูกศิษย์ในมือนับไม่ถ้วน เขาเชี่ยวชาญในการชี้นำการพัฒนาคำวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนบัดนี้เขาพูดออกมาเช่นนี้ ยังมีใครที่ไม่เชื่ออีก?”

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1390

    กู้หว่านเยว่ซื้อโล่และชุดเกราะมาอย่างละสองหมื่นชุดนอกจากธนูและหน้าไม้แล้ว กู้หว่านเยว่ยังซื้อลูกปืนใหญ่มาอีกชุดหนึ่งลูกปืนใหญ่เหล่านี้ถือเป็นของสำรอง จะไม่นำออกมาใช้อย่างเด็ดขาด เว้นแต่จะเป็นสถานการณ์พิเศษพลังทำลายล้างของลูกปืนใหญ่นั้นรุนแรงเกินไป หากไม่จำเป็น ก็อย่าเพิ่งนำออกมาใช้หลังจากเตรียมสิ่งของพร้อมแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ดูยอดเงินคงเหลือในบัตรอืม แทบจะไม่ขยับเลยการมีเงินใช้ไม่หมดนี่มันรู้สึกดีจริง ๆ !นอกจากสิ่งเหล่านี้ นางยังซื้อผงห้ามเลือดและยาจินชวงมาจำนวนมาก ล้วนมีประโยชน์สำหรับใช้พันแผลให้ทหารหลังจากทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ย้ายสิ่งของทั้งหมดนี้เข้าไปไว้ในคลังเก็บของในเมืองผิงโจวเมืองผิงโจวมีทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนา ไม่ต้องกลัวว่าของข้างในจะสูญหายหลังจากนำของเข้าไปไว้ในคลังเก็บของแล้ว ค่อยให้ทหารขนย้ายสิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดไปยังค่ายเวลาผ่านไปรวดเร็วสิบวันต่อมา กองทัพของฮ่องเต้เดินทางมาถึงแม่น้ำมู่ตันหลี่กวงถิงมองไปยังผืนน้ำอันกว้างใหญ่ของแม่น้ำมู่ตัน ก็รู้สึกมึนงงมิน่าล่ะ ก่อนหน้านี้เจียงเต๋อจื้อนำกองทัพห้าหมื่นนายมา ผลปรากฏว่าพ่ายแพ้ย่อยยับ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1389

    นางสั่งให้คนสร้างคลังเก็บของขนาดใหญ่ขึ้นที่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำมู่ตันในเมืองผิงโจวเมื่อนานมาแล้ว แต่ก่อนเอาไว้ใช้เก็บเสบียงอาหารยังมีคลังเก็บของอีกหลายแห่งที่ยังใช้ไม่หมดกู้หว่านเยว่ตั้งใจจะใช้กักตุนอาวุธทั้งหมดสามวันต่อมา กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงนำกองทัพใหญ่มาถึงแม่น้ำมู่ตันกองทัพใหญ่ตั้งค่ายอยู่ริมแม่น้ำกางเต็นท์อย่างเป็นระเบียบ ตามแบบแปลนที่กู้หว่านเยว่มอบให้เต็นท์เล็ก ๆ ถูกกางขึ้นริมแม่น้ำควันไฟค่อย ๆ ลอยขึ้นไปเหล่าทหารไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย แต่ละคนดูเหมือนมาพักผ่อนจะทำอย่างไรได้ ก็เบี้ยหวัดทหารเยอะมากเกินไป!คนอื่นเวลาเดินทัพก็กินแต่อาหารแห้ง ซาลาเปากับหมั่นโถว แต่พวกเขากินกับข้าวสามอย่าง พร้อมน้ำแกงหนึ่งอย่างทุกมื้อ แถมยังมีทั้งเนื้อและผักอีกต่างหาก!แบบนี้จะเรียกว่าออกรบได้อย่างไร?เหมือนกับเทศกาลตรุษจีนชัด ๆ !เมื่อเห็นเหล่าทหารมีขวัญกำลังใจ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็ดีใจ ทั้งสองคนปรึกษาแผนการในค่ายทหารซูจิ่งสิงไม่เป็นสองรองใครในเรื่องการรบอยู่แล้ว แต่เขาพบว่ากู้หว่านเยว่ก็มีพรสวรรค์ในด้านการทหารเช่นกันความคิดที่ผุดขึ้นมาเป็นครั้งคราว ทำให้เขา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1388

    “ไม่ต้อง ๆ ข้าแค่พูดเล่นเท่านั้น ยาพิษของพวกนี้ ใช้ให้น้อยจะดีกว่า”แต่จริง ๆ แล้ว เขาก็แค่แสร้งทำเท่านั้น เฟิ่งอู๋ชีไม่ได้กลัวพิษเลยสักนิด เพราะร่างกายเขามีคุณสมบัติเป็นยาโดยกำเนิด“ไปแล้วนะ”เขาโบกมือ แล้วหันหลังเดินจากไป“รักษาชีวิตของท่านเอาไว้”กู้หว่านเยว่เอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงความปลอดภัยของเฟิ่งอู๋ชี แต่เป็นเพราะคนที่ร่างกายมีคุณสมบัติเป็นยาโดยกำเนิดนั้นหาได้ยากเผื่อในอนาคตทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกัน นางก็อาจจะได้ศึกษาดู“ไม่ต้องห่วง สิ่งที่แข็งที่สุดของข้าก็คือชีวิตนี่แหละ”เฟิ่งอู๋ชีนหลังเดินจากไป เดินไปได้สองก้าวก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไม่ใช่ ๆ จุดแข็งที่สุดของเขาไม่ใช่ชีวิตเสียหน่อย!“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ นี่เป็นถึงองค์ชายหนานเจียงเชียวนะ จะไม่ฉวยโอกาสจับเขาไว้หรือ จะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ แบบนี้หรือ?”ซูจื่อชิงรีบเข้ามา เห็นเฟิ่งอู๋ชีกำลังเดินจากไปพอดี ใบหน้าของเขาเผยความเสียดายออกมาเล็กน้อยปล่อยศัตรูไปแบบนี้ ไม่เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่าหรอกหรือ?จากมุมมองของเขา ก็ควรจะจับองค์ชายหนานเจียงไว้ เพื่อใช้ข่มขู่หนานเจียงสิ“ฆ่าองค์ชายหนานเจียงก็ไร้ประโยช

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status