แชร์

บทที่ 698

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
แค่เรื่องของความรู้สึกเท่านั้น ไม่มีประโยชน์ที่คนอื่นจะเข้ามาก้าวก่าย ไม่พูดก็คือไม่พูด

กู้หว่านเยว่กลับไปที่ห้องของตัวเองโดยไม่ได้พูดอะไรตลอดทาง บังเอิญเจอซูจิ่งสิงที่กลับมาแล้วพอดี

“โมโหอะไรถึงเพียงนี้?”

กู้หว่านเยว่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ซูจิ่งสิงรู้สึกสงสารไปชั่วขณะ

“เรื่องของพวกเขาสองคน เจ้าก็อย่าไปยุ่งอีกเลย ตอนนี้เจ้ายังอยู่ในช่วงอยู่ไฟ จะเหนื่อยกายเหนื่อยใจไม่ได้”

กู้หว่านเยว่พยักหน้า ได้ยินซูจิ่งสิงพูดเคล้าเสียงหัวเราะ “เจ้าอยากได้แม่นมมาช่วยสองคนมิใช่หรือ? ข้าออกไปหาแม่นมมาให้เจ้าสองคนแล้ว”

ซูจิ่งสิงปรบมือ หญิงสองคนเข้ามาจากด้านนอก

“บ่าวขอคารวะฮูหยิน”

“แม่นมสองคนนี้ข้าเลือกมาจากสตรีในเรือนองครักษ์ลับ สัญญาขายตัวทั้งหมดอยู่ในมือของเรา เป็นคนซื่อสัตย์และเชื่อถือได้” ซูจิ่งสิงกล่าวแนะนำ

กู้หว่านเยว่เหลือบมองใบหน้าของทั้งสอง แน่นอนว่าทั้งคู่ซื่อตรงไม่มีเล่ห์เหลี่ยม

ดังนั้นจึงเรียกพวกนางเข้ามาหา แล้วกำชับข้อควรระวังเกี่ยวกับทารกน้อยหลายอย่าง

“จ้านจ้านยังอยู่กับย่าของเขา อีกหนึ่งชั่วยามพวกเจ้าคอยอุ้มเขากลับมา ให้เขาอยู่กับย่าของเขาอีกสักพักก่อน”

กู้หว่านเยว่เข้าใ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 699

    “เดี๋ยวข้าจะให้เจียงเฟิ่งพาพวกเจ้าไปยังที่ดิน ช่วงนี้พวกเจ้าจะได้เรียนรู้เรื่องการปลูกดอกไม้ในที่ดิน หลังจากนั้นไม่กี่วัน ข้าจะไปตรวจงาน”กู้หว่านเยว่หยิบตำราการดูแลจัดการพื้นที่การเกษตรสองเล่มออกมาวางไว้บนโต๊ะ“พวกเจ้ารู้หนังสือไหม?”“ข้าพอรู้บ้าง แต่แม่ของข้าไม่รู้”เหมยจื่อตาแดง พี่เจิ้งเป็นคนสอนหนังสือให้นาง“เช่นนั้นข้าขอมอบหนังสือสองเล่มนี้ให้เจ้า เจ้าว่างเมื่อไหร่ก็เปิดอ่านดู”การปลูกดอกไม้เป็นเรื่องรอง สิ่งที่นางต้องการไม่ใช่ชาวสวนดอกไม้ แต่เป็นผู้ที่ดูแลจัดการพื้นที่การเกษตรได้ดี“เจ้าค่ะ บ่าวจะตั้งใจอ่านอย่างเต็มที่”เหมยจื่อรีบรับหนังสือมา สองแม่ลูกเดินตามเจียงเฟิ่งไปกู้หว่านเยว่หันไปมองจ้านจ้านอีกครั้ง เด็กคนนี้เป็นลูกน้อยเทวดา เดินตามชุนเหนียงและจิ่วเหนียงซึ่งเป็นแม่นมทั้งสองอย่างว่าง่าย ไม่ร้องไห้ไม่ส่งเสียงดัง กินอิ่มแล้วก็เข้านอน“พวกบ่าวไม่เคยเลี้ยงเด็กที่สบายใจเช่นนี้มาก่อนเลย”นี่ไม่ใช่คำเยินยอ ทั้งสองชื่นชอบคุณชายน้อยจากใจจริง“อุแว้ อุแว้...” เสี่ยวจ้านจ้านโบกมือน้อยหย็อย ๆ อยากให้แม่อุ้มละมุนละไมจนหัวใจของกู้หว่านเยว่ละลายไปแล้ว รีบอุ้มจ้านจ้านขึ้นม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 700

    “ต้องขอโทษด้วยเจ้าค่ะเผยฮูหยิน ข้ายังมีเรื่องอื่นต้องไปทำเดี๋ยวข้ากลับถึงจวนแล้ว จะให้สาวใช้นำอาหารบำรุงมาส่ง”“ไม่ ไม่ต้องหรอก”เผยฮูหยินรีบปฏิเสธ “คุณหนูฟู่ เจ้ารู้ว่าเสวียนเอ๋อร์ไม่ได้ขาดแคลนสมุนไพร หากเจ้าใช้เวลาอยู่กับเขามากกว่านี้ เขาจะยิ่งดีใจมาก”ว่าแล้วนางก็เช็ดน้ำตาที่หางตา ช่างมีหัวใจของผู้เป็นแม่ที่คิดถึงลูก ต้องการเพียงให้ลูกชายมีความสุขจริง ๆ“ถ้าคุณชายเผยอาการหนัก ก็เรียกหมอได้”ความชอบที่เผยเสวียนมีต่อนาง นางเข้าใจดี แต่นางไม่ได้ชอบอีกฝ่ายเลยเป็นเพื่อนกันได้ แต่หากต้องการการตอบรับ นางไม่สามารถให้ได้“คุณหนูฟู่...” เผยฮูหยินไล่ตามมาถึงประตูก็ยังรั้งเมี่ยชิงหว่านไว้ไม่อยู่ มองตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายที่ไม่หันหลังกลับ พลางขมวดคิ้ว“คุณหนูฟู่ผู้นี้ใจร้ายมาก ข้าโน้มน้าวถึงขนาดนี้ นางยังไม่อยู่ต่อ”ถ้าเมี่ยชิงหว่านอยู่ที่นี่คงตกใจมาก เผยฮูหยินเปลี่ยนอากัปกิริยาจากแม่ผู้จนปัญญาเมื่อครู่ กลายเป็นเต็มไปด้วยความโกรธเคืองทันทีเผยเสวียนที่ยังนอนพูดจาเลอะเลือนอยู่บนเตียงเมื่อครู่ก็ลุกขึ้นนั่งเช่นกัน“ท่านแม่ระวังคำพูดด้วย หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง”ที่แท้สองแม่ลูกคู่นี้เส

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 701

    ทางสายนี้ เว้นเสียแต่ร้านดอกท้อที่มีกิจการเต็มทุกพื้นที่แล้ว ร้านอื่นสองสามแห่งล้วนลำบากมากกู้หว่านเยว่ดื่มชาหนึ่งอึก“กิจการร้านดอกท้อดีเพียงนี้ น่ากลัวว่าร้านขายชาดแห่งอื่นอีกหลายร้านจะต้องนั่งไม่ติดแน่”ชิงเหลียนและหงเจาลำพองใจมาก “พวกเขาร้อนใจไปก็ไม่ได้อะไร ชาดของร้านพวกเราใช้ได้ดีกว่าร้านอื่นมากนัก”ทั้งสองคนพูดไป จู่ๆ ก็เกิดเสียงดังหน้าประตู“ทุกคนอย่าซื้อที่นี่เลย ร้านเพียวเซียงจวีข้างๆ ขายผงหยกนารี หนึ่งกล่องเพียงหนึ่งตำลึงเท่านั้น”วันนี้มิใช่วันที่หนึ่ง และไม่ใช่วันที่สิบห้า ผงหยกนารีของร้านดอกท้อไม่ขายมีคนมากมายล่วงหน้ามาถามถึงผงหยกนารี กลับไม่ได้รับอะไร กำลังผิดหวังอยู่เชียว ก็ได้ยินว่าร้านเพียวเซียงจวีเองก็มีผงหยกนารี แต่ละคนหูตั้งตรง“หนึ่งตำลึง? ผงหยกนารีของร้านดอกท้อตั้งสิบตำลึงนะ”“ความแตกต่างนี้มากเกินไปแล้วกระมัง”“ล้วนเป็นขี้ผึ้งสีขาวเฉกเช่นเดียวกัน แม้แต่กล่องเหล็กก็เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว พวกเราลองไปซื้อดูดีหรือไม่?”ฮูหยินสองสามคนพูดไป จูงมือกันแยกย้ายออกจากร้านดอกท้อ ไปที่ร้านเพียวเซียงจวีทันใดนั้นคนภายในร้านดอกท้อถึงขั้นน้อยลงครึ่งหนึ่งรอยยิ้ม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 702

    ถึงตอนนั้น ทุกคนพบว่า ‘ผงหยกนารี’ ของร้านเพียวเซียงจวีเป็นเพียงของหลอกลวงลูกค้า จะต้องกระตุ้นกลุ่มคนอย่างแน่นอน ร้านเพียวเซียงจวีก็ทำได้เพียงยกหินทับเท้าของตนแล้ว“หวังว่าร้านเพียวเซียงจวีจะไม่แกล้งตาย”กู้หว่านเยว่โยน ‘ผงหยกนารี’ ไปที่ด้านข้าง ไม่มีเวลาแม้แต่ชายตาแล หมุนตัวเขียนแผนที่ดินศักดินาหลายวันมานี้ เวลาของนางเกือบถูกใช้ไปจนหมดหลังดอกไม้สดบนที่ดินศักดินาปลูกออกมาแล้ว นางวางแผนสอนคนงานสกัดน้ำมันหอมระเหย ทำน้ำหอมกู้หว่านเยว่นึกถึงภาพในอนาคตภายในสมอง เขียนไปเขียนไปก็หิวบ้างแล้ว ออกจากมิติ“พี่สะใภ้ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่!”ซูจิ่นเอ๋อร์วิ่งพรวดพราดเข้ามา“ภายในเมืองมีร้านอาหารเปิดใหม่แห่งหนึ่ง พวกเราไปกินข้าวด้วยกันเถอะ”สีหน้านางตื่นเต้น ดวงตาทอประกายระยับ เห็นได้ชัดว่ากำลังวางแผนบางอย่างกู้หว่านเยว่แสยะยิ้ม “มีอะไรก็พูดโดยตรง”ซูจิ่นเอ๋อร์จิ้มนิ้วเข้าหากันอย่างเก้อกระดาก “ก็ได้ ร้านอาหารนั้นเป็นข้าเปิดเอง วันนี้ทำการค้าเป็นวันแรก ข้าอยากให้พี่สะใภ้ไปช่วยข้าดูๆ หน่อย...”ก่อนนี้ซูจิ่นเอ๋อร์เคยเอ่ยปากกับตนเรื่องอยากเปิดร้านอาหาร หลังแต่งงานก็ไม่ได้ทิ้งกิจการไป เตรียมการอย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 703

    อย่าโหดร้ายเพียงนี้ได้หรือไม่ นางเพิ่งเปิดกิจการวันแรก ร้านก็มีนักฆ่าแล้ว คงไม่คิดทำให้โต๊ะเก้าอี้ที่นางตกแต่งอย่างดีต้องพังลงหรอกกระมังซูจิ่นเอ๋อร์รีบตะโกนใส่บ่าวน้อย “รีบไปแจ้งทางการ”จากนั้นหันมองซ่งรั่วเจินอย่างตื่นเต้น “พี่สะใภ้ใหญ่ ใช่หรือไม่ว่านักฆ่าเหล่านี้โจมตีมาที่ท่าน?”“มองดูแล้วไม่เป็นเช่นนั้น”หากโจมตีมาที่นางจริง ไฉนเลยพวกเขาจะยังมีเวลาเอ้อระเหยอยู่ที่นี่ ต้องบุกเข้ามาฆ่าโดยตรงแล้วอย่างแน่นอน“หงเจา เจ้าคุ้มกันจิ่นเอ๋อร์ให้ดี ชิงเหลียนพวกเราออกไปดูกันเถอะ”กู้หว่านเยว่พาชิงเหลียนออกไป ปรากฏว่าคนชุดดำภายนอกบุกเข้าหาคนภายใน ส่วนคนภายในกลับเป็นคนรู้จักคนหนึ่ง“ชิงหว่าน?”คนชุดดำเหล่านี้ถึงขั้นโจมตีเมี่ยชิงหว่าน“ฮูหยิน จะทำเยี่ยงไร?” ชิงเหลียนเอ่ยถามกู้หว่านเยว่เดินเข้าไปภายใน “พวกเราไปช่วยเถอะ”ในเมื่อเป็นคนรู้จัก ย่อมไม่สามารถเห็นคนใกล้ตายแล้วไม่ช่วยได้ “ฮูหยิน ท่านยืนที่ฝั่งหนึ่งก็พอ ยกให้เป็นหน้าที่บ่าวเองเจ้าค่ะ” แม้กู้หว่านเยว่เดินทางไปทุกหนแห่ง แต่เพิ่งคลอดลูก เรื่องต่อสู้ทำนองนี้ทำร้ายลมปราณ ชิงเหลียนไม่อยากให้นางลงมือ“อืม”กู้หว่านเยว่มองออกว่าค

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 704

    นางหยิบยาลูกกลอนห้ามเลือดออกมาหนึ่งเม็ด “กินลงไป”“ขอบคุณมากขอรับ”ดวงตาเผยเสวียนทอประกาย กินยาลูกกลอนลงไป เพียงแต่ครู่ต่อมา เขากระอักเลือดออกมาแล้ว แม้แต่ยาลูกกลอนเองก็อาเจียนออกมาด้วยกู้หว่านเยว่ “....”เมี่ยชิงหว่านตำหนิอย่างอดไม่ได้ “ยาลูกกลอนห้ามเลือดนี้เป็นพี่หญิงหว่านเยว่คิดค้นด้วยตนเอง ล้วนให้ท่านห้ามเลือด เหตุใดอาเจียนยาลูกกลอนออกมาแล้วเล่า?”“ขออภัยซูฮูหยิน ข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจ...”เผยเสวียนมีท่าทางอ่อนแอ ล้มลงหมดสติภายในอ้อมกอดของเมี่ยชิงหว่านเมี่ยชิงหว่านพูดอะไรไม่ออกอีก รับมือไม่ทันอยู่บ้างบ่าวน้อยข้างกายเขารีบพูด “คุณชายได้รับบาดเจ็บหนักเพียงนี้ ยังพาคนไปส่งที่โรงหมอเถอะ ข้ารู้ว่าละแวกใกล้เคียงนี้มีโรงหมอแห่งหนึ่ง”“เจ้านำทางเถอะ”เมี่ยชิงหว่านรีบสั่งให้คนแบกเผยเสวียน เร่งตามออกไปแล้ว“ซูฮูหยิน บ่าวเองก็ตามคุณหนูไปก่อนแล้วเจ้าค่ะ” เสี่ยวเซียงค้อมตัวกู้หว่านเยว่กลับเรียกนางไว้แล้ว “เสี่ยวเซียง เหตุใดวันนี้คุณหนูของเจ้ามากินข้าวที่จินโหลวได้เล่า?”“อ้อ ก็เพราะคุณชายเผยท่านนั้น พูดว่าขอบคุณคุณหนูของพวกเราที่ช่วยเขาไว้ในภูเขาหิมะ อยากเลี้ยงข้าวคุณหนูให้ได้ คุณ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 705

    “เจ้าไม่เป็นไรกระมัง? นักฆ่าเหล่านั้นทำร้ายเจ้าหรือไม่ ให้ข้าดูเร็วเข้า”ท่าทางนั้นของซูจิ่งสิง ร้อนใจจนเกือบดึงกู้หว่านเยว่ขึ้นแล้ว“ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่หัวเราะ มองเหงื่อเม็ดโตเต็มศีรษะซูจิ่งสิง หยิบผ้าเช็ดหน้าช่วยเขาเช็ด“มีองครักษ์จันทราอยู่ ท่านกังวลอะไรข้ากันเล่า?”สีหน้าซูจิ่งสิงแดงเรื่อ“ก็ไม่รู้เพราะเหตุใด ว้าวุ่นไปชั่วขณะ”วันนี้เขาอยู่ในค่ายทหารตลอดเวลา เพิ่งกลับถึงบ้าน บ่าวรับใช้ก็รายงานข่าวนี้แก่เขา“ข้าให้ห้องครัวเล็กเตรียมของกินให้ท่านสักหน่อย”กู้หว่านเยว่เดาว่าเขาเพิ่งกลับมาถึง จะต้องยังไม่ได้กินมื้อเย็น“ซูจิ่นเอ๋อร์เด็กคนนี้ อยู่ดีๆ ก็เรียกเจ้าไปกินข้าวที่ร้านอาหารเสียได้”ซูจิ่งสิงยังกังวลเรื่องนักฆ่า ทำให้กู้หว่านเยว่ช่วยพูดแทนจิ่นเอ๋อร์สองประโยค“ร้านอาหารนั้นเป็นจิ่นเอ๋อร์แอบเปิด นางเชิญข้าไปช่วยดู ก็โชคร้ายจริง เพิ่งเปิดกิจการเพียงวันเดียวก็พบนักฆ่าแล้ว”“นางเล่นอะไร?”ซูจิ่งสิงขมวดคิ้ว ไม่แปลกที่เขาคิดเช่นนี้ ก่อนนี้ซูจิ่นเอ๋อร์ไม่น่าเชื่อถือมากเกินไปจู่ๆ ก็โตขึ้น ทำให้คนไม่คุ้นชิน“ข้าจะให้คนสืบเรื่องนักฆ่าเหล่านั้นดีๆ”ซูจิ่งสิงเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 706

    ก่อนนี้พวกเขาล้วนอาศัยหลี่เฉินอันมาควบคุมเจดีย์หนิงกู่ บัดนี้เจดีย์หนิงกู่สามารถตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกเขาได้ ให้เขาเป็นคนควบคุมดูแล ก็ย่อมสะดวกไม่น้อย“ใช่แล้ว อาการบาดเจ็บของจื่อชิงเป็นเช่นไร?”ซูจิ่งสิงยุ่งอยู่กับงาน ห่วงใยอาการบาดเจ็บของน้องชายตนขึ้นมาอย่างอดไม่ได้สองวันมานี้เขามิได้ไปเยี่ยมอีกฝ่ายที่เรือนด้านข้าง มิใช่เพราะไม่ห่วงใยอีกฝ่าย เพียงแต่กังวลหากได้เห็นท่าทางหมดอาลัยตายอยากของอีกฝ่ายอีกครั้ง จะโมโหขึ้นมา“บาดแผลกลับดีขึ้นไม่น้อยแล้ว เดิมทีก็ไม่ได้บาดเจ็บลึกถึงกระดูกเส้นเอ็น ใส่ยาแล้วระดับเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติก็ดีขึ้นไม่น้อย ต่อจากนี้ก็รอเพียงเวลารักษาให้หายดี”กู้หว่านเยว่เงียบลงครู่หนึ่ง“แต่บาดแผลภายนอกเป็นเรื่องเล็ก ข้าเห็นเขาเจ็บปวดภายในใจอย่างแท้จริง ท่านเองก็รู้เรื่องของเขา...”ซูจิ่งสิงขมวดคิ้ว “เรื่องนี้ไม่ใช่ข้าและเจ้าสามารถจัดการได้ หากเขาเป็นลูกผู้ชายคนหนึ่ง ก็สมควรไปบอกความในใจของตนต่อฝ่ายหญิง ในเมื่อเขาไม่กล้าไป เช่นนั้นตอนนี้จะเป็นจะตายก็สมควรแล้ว ใครให้เขาอดกลั้นไว้เองเล่า”กู้หว่านเยว่ได้ยินถ้อยคำนี้ก็หัวเราะออกมาอย่างสุดระงับ แม้คำพูดหยาบกระด้างเ

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1395

    เห็นเพียงท่ามกลางหมอกหนาทึบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแสงไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับหิ่งห้อยในค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อแสงไฟนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รองแม่ทัพที่อยู่บนเรือก็เบิกตาทั้งสองกว้าง“ไม่ได้การ ทั้งหมดเป็นลูกศรติดไฟ!”ก้นลูกศรเหล่านี้ถูกมัดด้วยลำกล้องดินปืน ภายในเป็นดินปืนทั้งหมดดินปืนตกลงมาพร้อมกับลูกศรที่ยิงขึ้นมาบนเรือราวกับเม็ดฝนทั่วท้องฟ้า ภายในเวลาชั่วพริบตา เรือก็ติดไฟ“เร็วเข้า รีบถอยกลับ”หลี่กวงถิงสั่งการ เขารู้สึกอย่างเลือนรางว่าตัวเองถูกแผนชั่วของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เล่นงานเข้าแล้วกองทัพใหญ่ออกเดินทางแล้ว ต้องการจะถอยกลับจะทำได้ง่าย ๆ อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังอยู่บนผิวน้ำ การเดินเรือไปข้างหน้าก็ทำได้ยากลำบากอยู่แล้วคนเหล่านี้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้บนน้ำ ไม่มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยังโชคดีเพราะหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่าถอยอย่างเป็นระเบียบเรือติดไฟแล้ว เหล่าทหารร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ในระหว่างการล่าถอยของเรือ ต่างก็ชนกันเอง สถานการณ์วุ่นวายในระดับหนึ่งทว่าลูกศรทั่วฟ้านั้นก็ยังไม่ยอมหยุดเลยหลังจากยิงจบระลอกห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1394

    “ข้ามีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง”ดวงตาของกู้หว่านเยว่กลอกไปมา ทันใดนั้นก็มีความคิดแผลง ๆ ผุดขึ้นมา“หลี่กวงถิงผู้นี้ต้องการว่าจ้างคนจากหอมือสังหารมาฆ่าท่านมิใช่หรือ? เราก็ให้คนของหอมือสังหารมาตอบรับเรื่องนี้”ซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่สบสายตากันเข้าใจทันทีว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่“หนามยอกเอาหนามบ่งหรือ?”“ถูกต้อง ถึงตอนนั้นเราก็มาปิดประตูตีแมวกัน”ซูจิ่งสิงเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง นกพิราบสื่อสารก็กลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งกลับไปที่หอมือสังหารเป็นสองวันที่สถานการณ์สงบสุขสองวันต่อมา หลี่กวงถิงก็ได้รับข่าวกรอง แจ้งว่าคนจากหอมือสังหารทำสำเร็จแล้ว“ข้าน้อยเห็นว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่สงบเงียบ ดูเหมือนจะไม่มีข่าวการตายของซูจิ่งสิงแพร่ออกมา”รองแม่ทัพหลายคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าใดหลี่กวงถิงยังรู้สึกว่าต้องระมัดระวังด้วยหลังจากรออีกสองวัน ก็มีข่าวกรองออกมาอีกว่า ค่ายของผู้บัญชาการถูกรายล้อมด้วยกองกำลังทหารอากาศแบบนี้ภายนอกกระโจมกำลังตากปลาเค็มอยู่ จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง“ตากปลาเค็ม อากาศแบบนี้ตากปลาเค็มอะไรกัน?”หลายคนนั่งวิเคราะห์ด้วยกันรองแม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างฉับพล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1393

    “ลู่จิง มองไม่ออกเลยว่า เจ้าจะรักหน้าที่การงานมากเช่นนี้”เกาเจี้ยนหัวเราะอย่างชั่วร้ายรักหน้าที่การงาน?ลู่จิงสะดุดเข้าให้ใครจะไปรักหน้าที่การงาน ชัดเจนว่าเขารักและสงสารกงซุนฉิงเขาเหลือบมองกงซุนฉิง ขณะที่คิดจะใช้โอกาสนี้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างสองคน“ถูกต้อง เขารักหน้าที่การงานมาก!”ทันใดนั้นกงซุนฉิงก็เหยียบเท้าของเขา แล้วรีบเอ่ยขึ้นนางละอายใจที่จะให้ฮูหยินรับรู้เรื่องราวของพวกเขาสุดท้าย ก็จ้องเขม็งใส่ลู่จิงอย่างดุดัน พลางกระซิบว่า“หุบปาก”“ก็ได้”ลู่จิงหุบปากอย่างเชื่อฟังคำพูดของคนรักต้องเชื่อฟัง นี่จะไม่ใช่ความองอาจของชายชาตรีอย่างหนึ่งอย่างไร“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองก็พูดคุยกันตามสบาย ใครจะเฝ้ายามก็ไม่สำคัญ หรือว่าถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเจ้าสองคนก็เฝ้ายามด้วยกันได้”ด้วยการเสริมทัพของเกาเจี้ยน ใบหน้าของกงซุนฉิงก็ยิ่งแดงขึ้น“เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงเงียบ ๆ พลางยิ้มคลุมเครือมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกันเรื่องความรักลับ ๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน“ไป”ซูจิ่งสิงจูงมือกู้หว่านเยว่จากไป“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องไปเหมือนกัน”เกาเจี้ยนถูกเตือนสต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1392

    ซูจิ่งสิงกระซิบเตือนกู้หว่านเยว่ที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ภรรยาเป็นคนบ้าการงาน ตั้งแต่มาถึงค่ายทหาร ก็มีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเขาเสียอีกเขาชอบท่าทางการวางแผนในกระโจมของกู้หว่านเยว่มาก เพียงแต่เป็นห่วงว่าร่างกายของนางจะรับไม่ไหว ดังนั้นจึงกำชับอยู่บ่อยครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะ ลมแรงจริง ๆ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสโยนกล้องโทรทรรศน์เข้าไปในมิติ แล้วลงมาจากหอสังเกตการณ์พร้อมกับซูจิ่งสิงหอสังเกตการณ์แห่งนี้สร้างโดยทหารตามคำสั่งของกู้หว่านเยว่ก่อนหน้านี้ โดยอิงตามพิมพ์เขียวที่นางให้มาหอสังเกตการณ์สูงยี่สิบเมตรพอดี เมื่อยืนอยู่ด้านบนของหอสังเกตการณ์จะสามารถมองเห็นจุดที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน สังเกตสถานการณ์ของศัตรูได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งสองลงมาจากหอสังเกตการณ์ ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในกองทัพกับเกาเจี้ยนก็ได้ยินเสียงโต้เถียงครู่หนึ่งโดยพลัน“ชู่ว์”กู้หว่านเยว่ส่งสัญลักษณ์มือให้ซูจิ่งสิง ดึงเขาให้เดินไปตามทิศทางที่ส่งเสียงมานางรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อเดินเข้าไปมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยจริงดังคาด เห็นกงซุนฉิงและลู่จิงกำลังโต้เถียงกันหน้าแดงหูแดง“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านมา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1391

    “หลี่กวงถิงต้องการควบคุมข่าวลือในกองทัพ แต่ก็ต้องดูว่านายทหารเหล่านั้นจะเชื่อเขาหรือไม่”ในกระโจมฝั่งตรงข้ามกับแม่น้ำมู่ตัน กู้หว่านเยว่กำลังแกว่งเอกสารราชการในมือเล่น ใบหน้าเผยแววเจ้าเล่ห์ออกมาซูจิ่งสิงถูปลายนิ้ว “เป็นอย่างที่เจ้าคาดไว้ไม่ผิด ทันทีที่หลี่กวงถิงได้ยินข่าวนี้ ก็เรียกประชุมทั้งกองทัพทันทีและบอกว่าข่าวนี้ เป็นเท็จ”“เขามีวิธี และเราก็มีวิธีเช่นกัน”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเก็บไพ่ใบสำคัญนี้ไว้ตลอดโดยเปล่าประโยชน์ ย่อมไม่ยอมปล่อยให้หลี่กวงถิงปกปิดเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ“ถึงเวลาที่โจวเหล่าต้องออกหน้าแล้ว”นางเอ่ยเบา ๆหลี่กวงถิงเรียกประชุมทั้งกองทัพ พยายามปลอบขวัญทหารทว่าเขาเพิ่งพูดจบในตอนเช้า ตอนบ่ายก็มีข่าวส่งมาถึงบอกว่าโจวเหล่าออกหน้าด้วยตัวเอง เขียนเอกสารฉบับหนึ่งด้วยมือ“โจวเหล่าได้ยอมรับสถานะบุตรที่เป็นกำพร้าของอดีตรัชทายาทแล้ว”ใบหน้าของรองแม่ทัพอมทุกข์“โจวเหล่าเคยเป็นอาจารย์ของอดีตรัชทายาท เขายังเป็นนักปราชญ์แห่งยุคอีกด้วย มีลูกศิษย์ในมือนับไม่ถ้วน เขาเชี่ยวชาญในการชี้นำการพัฒนาคำวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนบัดนี้เขาพูดออกมาเช่นนี้ ยังมีใครที่ไม่เชื่ออีก?”

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1390

    กู้หว่านเยว่ซื้อโล่และชุดเกราะมาอย่างละสองหมื่นชุดนอกจากธนูและหน้าไม้แล้ว กู้หว่านเยว่ยังซื้อลูกปืนใหญ่มาอีกชุดหนึ่งลูกปืนใหญ่เหล่านี้ถือเป็นของสำรอง จะไม่นำออกมาใช้อย่างเด็ดขาด เว้นแต่จะเป็นสถานการณ์พิเศษพลังทำลายล้างของลูกปืนใหญ่นั้นรุนแรงเกินไป หากไม่จำเป็น ก็อย่าเพิ่งนำออกมาใช้หลังจากเตรียมสิ่งของพร้อมแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ดูยอดเงินคงเหลือในบัตรอืม แทบจะไม่ขยับเลยการมีเงินใช้ไม่หมดนี่มันรู้สึกดีจริง ๆ !นอกจากสิ่งเหล่านี้ นางยังซื้อผงห้ามเลือดและยาจินชวงมาจำนวนมาก ล้วนมีประโยชน์สำหรับใช้พันแผลให้ทหารหลังจากทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ย้ายสิ่งของทั้งหมดนี้เข้าไปไว้ในคลังเก็บของในเมืองผิงโจวเมืองผิงโจวมีทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนา ไม่ต้องกลัวว่าของข้างในจะสูญหายหลังจากนำของเข้าไปไว้ในคลังเก็บของแล้ว ค่อยให้ทหารขนย้ายสิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดไปยังค่ายเวลาผ่านไปรวดเร็วสิบวันต่อมา กองทัพของฮ่องเต้เดินทางมาถึงแม่น้ำมู่ตันหลี่กวงถิงมองไปยังผืนน้ำอันกว้างใหญ่ของแม่น้ำมู่ตัน ก็รู้สึกมึนงงมิน่าล่ะ ก่อนหน้านี้เจียงเต๋อจื้อนำกองทัพห้าหมื่นนายมา ผลปรากฏว่าพ่ายแพ้ย่อยยับ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1389

    นางสั่งให้คนสร้างคลังเก็บของขนาดใหญ่ขึ้นที่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำมู่ตันในเมืองผิงโจวเมื่อนานมาแล้ว แต่ก่อนเอาไว้ใช้เก็บเสบียงอาหารยังมีคลังเก็บของอีกหลายแห่งที่ยังใช้ไม่หมดกู้หว่านเยว่ตั้งใจจะใช้กักตุนอาวุธทั้งหมดสามวันต่อมา กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงนำกองทัพใหญ่มาถึงแม่น้ำมู่ตันกองทัพใหญ่ตั้งค่ายอยู่ริมแม่น้ำกางเต็นท์อย่างเป็นระเบียบ ตามแบบแปลนที่กู้หว่านเยว่มอบให้เต็นท์เล็ก ๆ ถูกกางขึ้นริมแม่น้ำควันไฟค่อย ๆ ลอยขึ้นไปเหล่าทหารไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย แต่ละคนดูเหมือนมาพักผ่อนจะทำอย่างไรได้ ก็เบี้ยหวัดทหารเยอะมากเกินไป!คนอื่นเวลาเดินทัพก็กินแต่อาหารแห้ง ซาลาเปากับหมั่นโถว แต่พวกเขากินกับข้าวสามอย่าง พร้อมน้ำแกงหนึ่งอย่างทุกมื้อ แถมยังมีทั้งเนื้อและผักอีกต่างหาก!แบบนี้จะเรียกว่าออกรบได้อย่างไร?เหมือนกับเทศกาลตรุษจีนชัด ๆ !เมื่อเห็นเหล่าทหารมีขวัญกำลังใจ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็ดีใจ ทั้งสองคนปรึกษาแผนการในค่ายทหารซูจิ่งสิงไม่เป็นสองรองใครในเรื่องการรบอยู่แล้ว แต่เขาพบว่ากู้หว่านเยว่ก็มีพรสวรรค์ในด้านการทหารเช่นกันความคิดที่ผุดขึ้นมาเป็นครั้งคราว ทำให้เขา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1388

    “ไม่ต้อง ๆ ข้าแค่พูดเล่นเท่านั้น ยาพิษของพวกนี้ ใช้ให้น้อยจะดีกว่า”แต่จริง ๆ แล้ว เขาก็แค่แสร้งทำเท่านั้น เฟิ่งอู๋ชีไม่ได้กลัวพิษเลยสักนิด เพราะร่างกายเขามีคุณสมบัติเป็นยาโดยกำเนิด“ไปแล้วนะ”เขาโบกมือ แล้วหันหลังเดินจากไป“รักษาชีวิตของท่านเอาไว้”กู้หว่านเยว่เอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงความปลอดภัยของเฟิ่งอู๋ชี แต่เป็นเพราะคนที่ร่างกายมีคุณสมบัติเป็นยาโดยกำเนิดนั้นหาได้ยากเผื่อในอนาคตทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกัน นางก็อาจจะได้ศึกษาดู“ไม่ต้องห่วง สิ่งที่แข็งที่สุดของข้าก็คือชีวิตนี่แหละ”เฟิ่งอู๋ชีนหลังเดินจากไป เดินไปได้สองก้าวก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไม่ใช่ ๆ จุดแข็งที่สุดของเขาไม่ใช่ชีวิตเสียหน่อย!“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ นี่เป็นถึงองค์ชายหนานเจียงเชียวนะ จะไม่ฉวยโอกาสจับเขาไว้หรือ จะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ แบบนี้หรือ?”ซูจื่อชิงรีบเข้ามา เห็นเฟิ่งอู๋ชีกำลังเดินจากไปพอดี ใบหน้าของเขาเผยความเสียดายออกมาเล็กน้อยปล่อยศัตรูไปแบบนี้ ไม่เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่าหรอกหรือ?จากมุมมองของเขา ก็ควรจะจับองค์ชายหนานเจียงไว้ เพื่อใช้ข่มขู่หนานเจียงสิ“ฆ่าองค์ชายหนานเจียงก็ไร้ประโยช

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status