แชร์

บทที่ 66

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว เขาก็จับใจความของกู้หว่านเยว่ได้อย่างรวดเร็ว

“เจ้ามีวิธีหยุดโรคระบาดงั้นหรือ?”

“อืม” กู้หว่านเยว่ถือว่าซูจิ่งสิงเป็นคนที่ไว้ใจได้อย่างไม่รู้ตัว

และตอนนี้นางก็ขาดคนที่ปรึกษาด้วยจริง ๆ

ในใจของซูจิ่งสิงไม่อยากให้ทั้งสองคนเจอกัน แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ไร้เหตุผล เขาแยกแยะได้ว่าเรื่องไหนสำคัญกว่า

จากนั้นจึงพยักหน้า “ข้าจะไปกับเจ้า”

มีบางอย่างที่เขาอยากจะพูดกับฟู่หลานเหิง

“ก็ได้” กู้หว่านเยว่คิดว่าซูจิ่งสิงเป็นห่วงนาง จึงไปยืมรถเข็นมาทันที หลังจากบอกกับซุนอู่แล้ว ก็ออกไปหาฟู่หลานเหิงด้วยกัน

“ท่านใส่อันนี้ด้วย”

กู้หว่านเยว่หยิบผ้าคลุมหน้าสีขาวสองผืนออกมาจากอก ผืนหนึ่งนางใส่เอง ส่วนอีกผืนหนึ่งก็ส่งให้ซูจิ่งสิง

ดวงตาของซูจิ่งสิงเป็นประกาย “เจ้ายังมีของแบบนี้อยู่อีกหรือ?”

“ท่านรู้หรือว่านี่คืออะไร?”

“อืม” ซูจิ่งสิงพยักหน้า “ตอนที่ข้าไปรบที่ชายแดน มีคนเป็นกาฬโรค ตอนนั้นหมอทหารก็เอาผ้าคลุมหน้ามาให้พวกเราปิดหน้าเอาไว้ เพื่อป้องกันการติดโรค”

กู้หว่านเยว่ยิ้ม “หมอทหารคนนั้นรู้จักอันนี้ด้วย ถือว่ามีความสามารถอยู่บ้าง”

ซูจิ่งสิงเกือบจะกระอักเลือดออกมา

ถ้าหวงเหล่าเห็น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 67

    “หว่านเยว่ ข้าถามเจ้าอีกครั้ง เจ้ามีวิธีรักษาโรคระบาดจริง ๆ หรือ? เรื่องนี้สำคัญมาก ห้ามล้อเล่น”กู้หว่านเยว่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นตอบกลับว่า “ข้ามีความมั่นใจว่าจะรักษาโรคระบาดได้ แต่ไม่มีอะไรแน่นอน ข้าต้องเห็นอาการของผู้ติดเชื้อด้วยตาตัวเองก่อน ถึงจะให้คำตอบเจ้าได้”โรคระบาดมีหลายชนิด โรคระบาดที่กล่าวถึงในหนังสือเล่มเดิม เป็นโรคติดต่อชนิดหนึ่งที่เรียกว่ามาลาเรียแต่ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง กู้หว่านเยว่จะไม่ด่วนสรุปเมื่อได้ฟังคำพูดที่จริงใจเหล่านี้ ฟู่หลานเหิงกลับเชื่อนางขึ้นมา“ได้ ข้าจะพาเจ้าไปดู”ทันใดนั้นก็พากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงไปยังลานบ้านแห่งหนึ่งที่ถูกกักกัน ซึ่งมีคนในครอบครัวสามคนที่ติดโรคระบาดอาศัยอยู่“ข้าเข้าไปคนเดียวก็พอแล้ว”กู้หว่านเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยโรคระบาดสามารถติดต่อได้ ยิ่งคนสัมผัสน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดี“ไม่ได้ ข้าจะเข้าไปกับเจ้า”ซูจิ่งสิงและฟู่หลานเหิงเอ่ยขึ้นพร้อมกัน จากนั้นทั้งสองก็สบตากันอย่างดุเดือด“ข้าเป็นสามีของเจ้า ข้าจะเข้าไปกับเจ้า”ซูจิ่งสิงพูดขึ้นมาก่อนกู้หว่านเยว่กุมขมับ “พวกท่านทั้งสองคนไม่ต้องเข้ามา รออยู่หน้าประตูทั้ง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 68

    “ใช้คนอย่าระแวง ถ้าระแวงคนก็อย่าใช้ หลักการง่าย ๆ แค่นี้ท่านเจ้าเมืองไม่รู้หรือ?”“เฮ้อ!”ฟู่หลานเหิงถูกพูดจนเถียงไม่ออกกู้หว่านเยว่มองซูจิ่งสิงด้วยความรู้สึกขอบคุณ ไม่อยากเสียเวลาไปกับการโต้เถียง จึงหันกลับไปพูดกับฟู่หลานเหิง“ใต้เท้า ข้าขอกระดาษ หมึก พู่กัน และแท่นฝนหมึก ข้าจะจะเขียนใบสั่งยาและวิธีต้มยาลงบนกระดาษ ท่านสั่งให้คนไปซื้อยามา หลังจากนั้นให้คนป่วยกินยาตามที่ข้าเขียนไว้ วันละสามครั้ง”“ได้ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” คราวนี้ฟู่หลานเหิงไม่พูดมากกู้หว่านเยว่เขียนลงบนกระดาษ “สูตรยารักษาโรคมาลาเรีย ใบชิงเฮาตากแห้งหนึ่งตวง เหอโส่วอูสดสองตวง รากของฉางซานสามตวง เฉ่ากั่วสี่ตวง เซียนเฮ่อเฉ่าแห้งห้าตวง...บดให้ละเอียดเป็นผง ละลายน้ำอุ่นรับประทาน วันละสามครั้ง”นอกจากนี้ กู้หว่านเยว่ยังเขียนสูตรยาป้องกันมาลาเรียอีกสูตรหนึ่ง โดยใช้ปูนขาว ลูกสมอ และกำมะถันแดง เป็นต้นกู้หว่านเยว่ส่งสูตรยาทั้งสองสูตรให้กับฟู่หลานเหิง“สูตรแรกให้คนป่วยกิน สามารถปรับเพิ่มหรือลดปริมาณยาได้ตามความเหมาะสม สูตรที่สองสำหรับคนที่ยังไม่ป่วย กินแล้วสามารถป้องกันโรคระบาดได้”หลายวันมานี้ นางให้คนในกลุ่มนักโทษดื่มยา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 69

    หลังจากที่กู้หว่านเยว่มอบสูตรยาให้ฟู่หลานเหิงแล้ว นางก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลยเมื่อเห็นอาจารย์หลิวรีบร้อนขนาดนี้ก็ตกใจ “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?”ซูจิ่งสิงและคนอื่น ๆ ก็มองมาเช่นกันอาจารย์หลิวปาดน้ำตา พูดเสียงสั่นเครือ “ใต้เท้าของพวกเราติดโรคระบาด ตอนนี้โรคระบาดแพร่กระจายไปทั่วเมือง เดิมทีเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ข้าไม่ควรจะมารบกวนแม่นางน้อยแต่อาการของใต้เท้าหนักมาก ตั้งแต่เมื่อคืนที่เริ่มมีอาการป่วย ก็มีไข้สูงไม่ลด หนาวสั่นไปทั้งตัว ยาที่ท่านให้เขากินก็ไม่ได้ผล หมอหลายคนก็จนปัญญา ข้าน้อยหมดหนทางแล้ว จึงมาขอรบกวนท่าน”กู้หว่านเยว่รู้สึกแปลกใจมาก สูตรยาของนางไม่มีทางไม่ได้ผล ฟู่หลานเหิงเป็นอะไรกันแน่“แม่นางน้อยกู้ ท่านพอจะไปกับข้า ดูอาการด้วยตัวเองได้หรือไม่?”อาจารย์หลิวขอร้องซูจิ่งสิงเอ่ยขึ้น “เจ้าไปดูเถอะ ฟู่หลานเหิงเป็นขุนนางที่ดี”โรคระบาดในเมืองตงโจวเพิ่งจะเริ่มดีขึ้น หากฟู่หลานเหิงเป็นอะไรไปในช่วงสำคัญแบบนี้ ประชาชนจะต้องเดือดร้อน“ตกลง”กู้หว่านเยว่พยักหน้า จากนั้นพูดกับซูจิ่นเอ๋อร์ “จิ่นเอ๋อร์ เจ้าไปหยิบกล่องยาของข้ามาแล้วไปกับข้า”ดูเหมือนฟู่หลานเหิงจะป่วยหนัก นางต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 70

    กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วแน่น ไม่แปลกใจเลยที่อาการของฟู่หลานเหิงจะหนักขนาดนี้ คงเป็นเพราะร่างกายสะสมความเหนื่อยล้าจนถึงขีดสุดแล้ว“ใจเย็น ๆ ก่อน ข้าจะจับชีพจรเขาดูก่อน”ในสถานการณ์แบบนี้ ใช้ยาสมุนไพรคงไม่ได้ผลแล้วกู้หว่านเยว่ให้อาจารย์หลิวออกไปก่อน จากนั้นแอบหยิบยาพิเศษจากมิติออกมาฉีดให้ฟู่หลานเหิงขณะที่ซูจิ่นเอ๋อร์ไม่ทันสังเกตจากนั้นก็หยิบเข็มเงินออกมา ฝังเข็มให้กับฟู่หลานเหิง“จิ่นเอ๋อร์ เจ้าช่วยข้าเฝ้าประตูไว้ อย่าให้ใครเข้ามารบกวน”“เจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่หยิบเข็มเงินออกมา และหาจุดฝังเข็มของฟู่หลานเหิงได้อย่างแม่นยำการฝังเข็มต้องใช้สมาธิอย่างมาก จิตใจต้องจดจ่ออย่างสูง หากมีขั้นตอนใดผิดพลาดเพียงขั้นตอนเดียว ความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้ก็จะสูญเปล่าเข็มแรก แทงลงไปที่จุดไป่ฮุ่ย* ของฟู่หลานเหิงก่อนเข็มที่สอง จุดอี้เฟิง*เข็มที่สาม จุดต้าอิ๋ง*...ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว กู้หว่านเยว่เหงื่อท่วมตัว และเข็มสุดท้ายก็แทงเข้าที่จุดเสินถิง* ของฟู่หลานเหิงเห็นได้ชัดว่าสีหน้าของฟู่หลานเหิงดีขึ้นแล้ว ดวงตาที่ปิดสนิทของเขาก็ค่อย ๆ ลืมขึ้น“หว่านเยว่?”ในช่วงสับสน เขาเห็นซูจิ่น

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 71

    เมื่อเห็นว่าซูจิ่นเอ๋อร์ออกไปแล้ว ซูจิ่งสิงก็พูดขึ้นอย่างลังเล “เจ้ากับฟู่หลานเหิง...”กู้หว่านเยว่เลิกคิ้ว “ข้ากับฟู่หลานเหิงทำไมหรือ ท่านก็สงสัยว่าเรามีความสัมพันธ์กันงั้นหรือ?”“แน่นอนว่าไม่” ซูจิ่งสิงรีบกล่าวขึ้น “ข้าเชื่อมั่นในตัวเจ้า”เขาเชื่ออย่างสนิทใจว่ากู้หว่านเยว่ปฏิบัติต่อฟู่หลานเหิงอย่างเหมาะสม แต่เขาไม่แน่ใจว่านางมีความรู้สึกอื่นหรือไม่ถึงอย่างไรทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนเล่นสมัยเด็ก ฟู่หลานเหิงก็รักกู้หว่านเยว่มากเขาขมวดคิ้วและกล่าวว่า “ถ้าฟู่หลานเหิงขอให้เจ้าอยู่ต่อ เจ้าจะอยู่หรือไม่?”กู้หว่านเยว่ตกตะลึง ในที่สุดก็รู้ว่าซูจิ่งสิงกำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงจงใจพูดว่า “ถ้าข้าอยากอยู่ต่อ ท่านจะให้ข้าอยู่หรือไม่?”ซูจิ่งสิงขมวดคิ้ว กล่าวขึ้นด้วยความอึดอัด“ไม่”“งั้นก็จบแล้วไม่ใช่หรือ?” กู้หว่านเยว่หาวแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงฝังเข็มเหนื่อยเกินไปแล้ว นางต้องพักผ่อนให้เต็มที่ซูจิ่งสิงยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่ก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของนางเมื่อมองใบหน้าที่สงบขณะหลับของนาง ในที่สุดซูจิ่งสิงก็เข้าใจในสิ่งที่นางพูดเมื่อครู่นี้ ในใจของเขาก็พลันเต็มไปด้วยความสุข รู้สึกว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 72

    ซูจิ่งสิง!“เจ้าปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้!” ท่านี้มันน่าอายเกินไปแล้วกู้หว่านเยว่ยกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ “ก็ท่านบอกให้ข้าพาท่านไปด้วยไม่ใช่หรือ?”“กู้หว่านเยว่!” ซูจิ่งสิงกัดฟัน“เอาละ เลิกเล่นได้แล้ว เดี๋ยวก็ปลุกจิ่นเอ๋อร์และคนอื่น ๆ ตื่นหรอก”กู้หว่านเยว่ตบก้นของเขาเบา ๆ ไม่อยากจะพูดเลยว่านุ่มมือดีจริง ๆซูจิ่งสิง อยากจะตายแล้วความอับอายของเขาอยู่ได้ไม่นาน ก็รู้สึกตกใจกับการกระทำของกู้หว่านเยว่ เพียงแค่พริบตาเดียวนางก็ออกไปไกลกว่าสิบเมตรแล้วจากนั้นก็เดินตามหลังหมอโจวไปอย่างไม่ใกล้ไม่ไกล จนมาถึงร้านขายยาของสกุลโจวร้านขายยาของสกุลโจวเป็นร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองตงโจว แบ่งออกเป็นสองชั้น ชั้นล่างและชั้นบน ด้านหลังยังมีโกดังเก็บยาหลายโกดัง มีสมุนไพรกองอยู่เต็มไปหมดหมอโจวได้ตำราแพทย์มาแล้ว ก็เหมือนได้สมบัติล้ำค่า จึงขังตัวเองอยู่ในห้องเพื่อศึกษาค้นคว้าแต่ไม่ทันสังเกตเลยว่ามีคนแอบตามเขาเข้ามาในร้านขายยาจากด้านหลัง“เจ้าคิดจะทำอะไร?”หลังจากถูกวางลง ซูจิ่งสิงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดเขาก็ไม่ต้องอยู่ในท่าทางที่น่าอึดอัดอีกต่อไปเมื่อเงยหน้าขึ้นมองกู้หว่านเยว่ที่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 73

    นี่ไม่ใช่ตำราแพทย์อะไรเลย แต่เป็นสมุดภาพที่กู้หว่านเยว่ขีดเขียนเล่น ๆสิ่งที่วาดไว้ข้างใน ไม่ใช่เต่าก็เป็นตะพาบ แถมยังมีคำด่าทอที่เป็นที่นิยมในสมัยใหม่ด้วยหมอโจวยอมทิ้งศักดิ์ศรีไปทำตัวเป็นโจร ศึกษาตำราทั้งคืน สุดท้ายก็ได้แค่ของแบบนี้มาเขาสติแตกแล้วโมโหจนขว้างตำราแพทย์ลงพื้น จากนั้นเดินออกไปด้วยความโกรธ“กู้หว่านเยว่ นางเด็กสารเลว เจ้ากล้าหลอกข้า เจ้าไม่ตายดีแน่...เอ๊ะ สมุนไพรของข้าล่ะ?”เมื่อเห็นร้านขายยาที่ว่างเปล่า เขายังคิดว่าตัวเองตาฝาด จึงรีบขยี้ตาจนกระทั่งขยี้ตาไปหลายสิบรอบแล้วก็ยังเห็นภาพเดิม สุดท้ายก็ตกใจจนทรุดลงไปกองกับพื้น“ร้านของข้า สมุนไพรของข้า สมุนไพรล่ะ!”เสียงร้องไห้ของหมอโจว ทำให้หมอและเด็กในร้านขายยาคนอื่น ๆ ตกใจกันหมดทุกคนต่างตกใจจนหน้าถอดสี รีบไปแจ้งทางการ เนื่องจากสมุนไพรสูญหายไปมากขนาดนี้ ทางการย่อมให้ความสำคัญอย่างยิ่งอย่างไรก็ตาม เมื่อไปตรวจสอบที่ร้านขายยา ก็ไม่พบว่ามีใครบุกรุกเข้าไปในร้าน แต่กลับพบชุดดำภายในห้องของหมอโจวทางการสงสัยว่าหมอโจวจงใจสร้างเรื่องขึ้นมา หมอโจวที่น่าสงสารไม่เพียงแต่ไม่ได้รับการชดใช้ความเสียหาย แต่ยังถูกจับเข้าคุกและถู

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 74

    จางเอ้อร์กระทืบเท้า “เป็นคนของสกุลซู พวกเขา พวกเขาติดโรคระบาดแล้ว!”“เป็นไปได้อย่างไร?”สีหน้าของกู้หว่านเยว่เปลี่ยนไป นางให้ซูจิ่นเอ๋อร์ต้มยาป้องกันโรคระบาดแบ่งให้ทุกคนกินทุกวันถ้าทุกคนดื่มยาแล้ว จะไม่มีทางติดโรคระบาดแน่นอนซูจิ่นเอ๋อร์ที่อยู่ในห้องได้ยินเสียงก็ออกมา แล้วรีบบอกกู้หว่านเยว่ว่า“พี่สะใภ้ ท่านฟังข้านะ ข้าใช้ห่อยาที่ท่านให้มาต้มตลอด ไม่มีทางเกิดปัญหาแน่นอน”“จิ่นเอ๋อร์ ข้าเชื่อเจ้า”ซูจิ่นเอ๋อร์อาจจะเคยเป็นคุณหนูเอาแต่ใจอยู่บ้าง แต่หลังจากที่นางปรับปรุงตัวแล้ว ตอนนี้ก็ระมัดระวังในการต้มยาเป็นอย่างมากกู้หว่านเยว่เคยดูอยู่ข้าง ๆ หลายครั้ง ก็มั่นใจในเรื่องนี้ได้นางมองไปที่จางเอ้อร์ “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ มีคนในสกุลซูกี่คนที่ติดโรคระบาด?”“ข้าก็ไม่รู้แน่ชัดว่ากี่คน แต่ที่รู้ ๆ คือนางจินจากบ้านใหญ่ใกล้จะไม่ไหวแล้ว คนอื่น ๆ ก็อาจจะติดโรคไปด้วยหัวหน้าของเราสั่งให้คนไปล็อกห้องเก็บฟืนแล้ว ไม่ให้คนข้างในออกมา”“ล็อกห้องเก็บฟืน?” กู้หว่านเยว่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ คิ้วขมวดเข้าหากันนอกจากพวกเขาและเหล่านักการแล้ว สกุลเหยียน สกุลหลี่ สกุลเซิ่ง และสกุลซูทั้งหมดก็อยู่ใน

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1384

    “เจ้าออกไปเถอะ ข้าจะบอกอะไรเจ้าสักหนึ่งประโยค ถึงแม้เจ้าจะเป็นบ่าวของข้า แต่ข้าก็มองเจ้าเป็นเหมือนน้องสาวแท้ ๆ หากเจ้าชอบใครจริง ๆ เจ้าก็จงพยายามไขว่คว้าเอาเอง ข้าจะไม่ขัดขวางเจ้าวันนี้เจ้าก็เห็นแล้วว่าฉางเล่อมีใจให้กับอวิ๋นมู่ ข้าไม่ได้รู้สึกว่าเจ้าด้อยไปกว่านางเลยแน่นอนว่า ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้า”กู้หว่านเยว่พูดเพียงเท่านี้แววตาของชิงเหลียนมีความสับสนอยู่ชั่วขณะ จากนั้นจึงพยักหน้า“ขอบคุณฮูหยิน บ่าวทราบแล้วเจ้าค่ะ”ขณะที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่ ทันใดนั้น ซูจิ่งสิงก็รีบร้อนเข้ามาจากข้างนอก“น้องหญิง ทางเมืองหลวงมีข่าวแพร่สะพัดมาแล้ว”กู้หว่านเยว่ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาทันทีเรื่องใหญ่มาแล้ว!นางโบกมือให้ชิงเหลียนออกไป แล้วหันไปมองซูจิ่งสิง“เกิดอะไรขึ้น?”“นี่คือจดหมายของนกพิราบสื่อสารจากเมืองหลวง”ซูจิ่งสิงไม่ได้พูดอะไรมากนัก เขาแค่หยิบจดหมายที่อยู่ในมือมอบให้กู้หว่านเยว่กู้หว่านเยว่รีบเปิดออก แล้วก็หัวเราะเยาะในทันที“ฮ่องเต้ชั่วลงมือเร็วจริง ๆ ”ในจดหมายกล่าวถึง ฮ่องเต้มอบหมายกองทัพให้กับหลี่กวงถิง เสนาบดีฝ่ายขวา สั่งให้เขาเป็น

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1383

    กู้หว่านเยว่เหลือบมองบัญชี พบว่ากิจการของร้านสาขานี้ดีกว่าร้านหลักมากจริง ๆ ซึ่งเป็นเพราะเจียงอวิ๋นจิ่นบริหารจัดการได้ดี“ร้านนี้มอบให้เจ้าเป็นคนดูแล ข้าไม่ได้ไว้ใจผิดคน”กู้หว่านเยว่พลิกดูบัญชีไปพลาง พยักหน้าพร้อมกับยิ้มไปพลาง“รอช่วงปลายปี จะแบ่งปันผลกำไรให้เจ้าอีก”เจียงอวิ๋นจิ่นเบิกตากว้าง“จะรับได้อย่างไร ท่านทำให้ข้ามีงานทำก็ดีมากแล้ว ข้าจะรับเงินจากพระชายาเพิ่มได้อย่างไร?”“รับไปเถอะ”กู้หว่านเยว่ยิ้มพลางปิดบัญชี“นี่เป็นสิ่งที่เจ้าควรจะได้อยู่แล้ว”น้ำเสียงของนางจริงจัง เจียงอวิ๋นจิ่นพอจะรู้จักนิสัยของนางอยู่บ้าง หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง จึงพยักหน้าอย่างว่าง่าย“เช่นนั้นอวิ๋นจิ่นขอบคุณพระชายาเจ้าค่ะ”หลังจากตรวจดูร้านค้าเสร็จ ทางด้านมู่หรงฉางเล่อก็วิ่งกลับมาด้วยความรีบร้อน“ดูเหมือนเจ้าจะได้อะไรดี ๆ มาเยอะนะ”กู้หว่านเยว่ยิ้มอย่างมีเลศนัย ส่วนมู่หรงฉางเล่อก็ไม่ได้เขินอาย นางโบกพัดที่อยู่ในมือไปมา“พี่สะใภ้ท่านดูสิ นี่คืออะไร?คุณชายอวิ๋นทำให้ข้าไม่พอใจ จึงชดเชยด้วยการมอบพัดเล่มนี้ให้กับข้าและยังรับปากข้าว่า มะรืนนี้จะไปล่องเรือที่ทะเลสาบกับข้า”เด็กคนนี้นี่ ถ้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1382

    “คุณชายอวิ๋นไม่มีใจให้นาง นางคงจะคิดไม่ตก จึงเกิดความคิดที่จะออกบวชเจ้าค่ะ”ชิงเหลียนก้มหน้าลง แท้จริงแล้ว นางก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบอวิ๋นมู่ แต่นางและหลี่ชิวเตี๋ยนั้นแตกต่างกัน นางรู้ดีว่าตัวเองอยู่ในสถานะใดนางและคุณชายอวิ๋นไม่มีทางเป็นไปได้ ดังนั้นในใจจึงไม่เคยมีความคิดเพ้อฝันใด ๆ “เจ้าหมายความว่าหลี่ชิวเตี๋ยอยากจะออกบวชอย่างนั้นหรือ?”กู้หว่านเยว่ได้ฟังเรื่องราวอันน่าประหลาดใจอย่างแท้จริง ไม่แปลกใจเลยที่สกุลหลี่จะรีบร้อนหาคู่ให้หลี่ชิวเตี๋ยขนาดนั้นพวกเขามีลูกสาวแค่คนเดียว หากออกบวชจริง ๆ แล้วจะทำอย่างไร “คุณหนูหลี่เคยผิดหวังในความรักกับทังต๋ามาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังคงยึดติดกับความรักได้ลึกซึ้งถึงเพียงนี้”ชิงเหลียนถอนหายใจพลางเอ่ยขึ้นหนึ่งประโยคกู้หว่านเยว่ไม่ได้พูดอะไร บางอย่าง ต่อให้พบเจออุปสรรคมาแล้วก็ใช่ว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้“ช่างเถอะ ในเมื่อคุณหนูหลี่ติดธุระสองสามวันนี้ พวกเราก็ไม่ต้องรอที่นี่แล้ว บัญชีก็ดูเสร็จแล้ว เราไปที่ร้านอื่นกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไป เมื่อมาถึงร้านสาขา เจียงอวิ๋นจิ่นกำลังยุ่งอยู่กับการทำงานภายในร้านอย่างสนุกสนาน“พระ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1381

    “ตกลง ข้าจะมาเอาวันหลัง”อวิ๋นมู่กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แบบนี้ เขาก็จะมีโอกาสได้พบกับกู้หว่านเยว่อีกครั้ง“ข้ายังต้องไปที่ร้านดอกท้อ ขอตัวก่อนแล้ว”กู้หว่านเยว่ดึงมู่หรงฉางเล่อออกไป ขณะที่กำลังจะออกจากประตู สายตาของมู่หรงฉางเล่อยังคงจับจ้องอยู่ที่อวิ๋นมู่“พี่สะใภ้ คนนี้ใครหรือ?”“อวิ๋นมู่ คุณชายน้อยของตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งในแคว้นต้าฉี”กู้หว่านเยว่อธิบายพลางเหลือบมองมู่หรงฉางเล่อที่หน้าแดงก่ำ ก็เข้าใจในทันที“นี่เจ้าชอบเขาแล้วหรือ?”“ใช่แล้ว”มู่หรงฉางเล่อยอมรับอย่างเปิดเผย พลางดึงมือของกู้หว่านเยว่พร้อมกับลองหยั่งเชิง“คุณชายอวิ๋นผู้นี้ อายุเท่าไรแล้ว ในเรือนมีภรรยาหรืออนุภรรยาหรือไม่?”กู้หว่านเยว่ตกตะลึงกับความตรงไปตรงมาของนาง ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกชอบใจในนิสัยพูดจาเปิดเผยตรงไปตรงมาเช่นนี้ของนาง“ยี่สิบกว่า ยังไม่มีภรรยาหรืออนุภรรยา”ดวงตาของมู่หรงฉางเล่อเป็นประกายมากขึ้น “ไม่มีภรรยาหรืออนุภรรยาก็ดีแล้ว”เมื่อเห็นว่าอวิ๋นมู่ยังคงเลือกผ้าอยู่ในร้าน มู่หรงฉางเล่อก็เขย่าแขนของกู้หว่านเยว่“พี่สะใภ้ ข้าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า ข้ายังต้องซื้อผ้าอีกชุดให้ยายโจว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1380

    กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ว่าร้านขายเสื้อผ้าและร้านดอกท้ออยู่ทางเดียวกัน ถึงตอนนั้นก็ถือโอกาสไปดูกิจการของร้านดอกท้อด้วยเลย“เยี่ยมไปเลย เราไปกันเถอะ”มู่หรงฉางเล่อจูงมือของกู้หว่านเยว่ออกไปข้างนอกอย่างเบิกบานใจหลังจากที่ทั้งสองคนขึ้นรถม้าแล้ว ไม่นานก็มาถึงร้านเสื้อผ้ามู่หรงฉางเล่อกระตือรือร้นมาก หลังจากที่รถม้าจอดสนิทก็กระโดดลงจากรถม้าทันที จากนั้นก็จูงมือของกู้หว่านเยว่เข้าไปข้างใน“พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านจะซื้อเสื้อผ้าอะไรเจ้าคะ?”“ข้าขอดูก่อน” กู้หว่านเยว่กวาดตามองแวบหนึ่ง เสื้อผ้าของนางยังมีอีกมาก ไม่ได้ขาดแคลนเสื้อผ้าแต่อย่างใด“แม่นางอยากดูเสื้อผ้าใช่หรือไม่เจ้าคะ เชิญตามข้ามาดูเนื้อผ้าทางนี้เจ้าค่ะ”เจ้าของร้านออกมาต้อนรับมู่หรงฉางเล่อรีบตามเจ้าของร้านไปอีกด้าน เพื่อเลือกเนื้อผ้าก่อนองค์หญิงใหญ่อายุมากแล้ว เนื้อผ้าที่มู่หรงฉางเล่อเลือกนั้นล้วนเป็นสีที่ค่อนข้างเข้ม ยกตัวอย่างเช่นสีเขียวเข้มหลังจากเลือกเสร็จแล้ว ก็บอกขนาดและน้ำหนักขององค์หญิงใหญ่กับเจ้าของร้าน ลูกน้องในร้านช่วยจด“ใช้เวลาตัดเสื้อผ้านานแค่ไหนเจ้าคะ?”มู่หรงฉางเล่อกล่าวถาม“เร็วสุดก็ประมาณสามถึงห้าวัน ช้าส

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1379

    เฟิ่งอู๋ชีกล่าวเสริมอีกว่า“เงื่อนไขนี้ไม่ได้หนักหนานักมากหรอก อยู่ภายในขอบเขตความสามารถของพวกเจ้าอย่างแน่นอน”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงต่างมองหน้ากัน ทั้งสองคนไม่ได้ตอบตกลงในทันทีกู้หว่านเยว่เริ่มสนใจ“แล้วเจ้าจะขัดขวางพี่หญิงใหญ่ของเจ้าอย่างไร?”“ข้าและพี่หญิงใหญ่ไม่ถูกกันมานานแล้ว”นัยน์ตาของเฟิ่งอู๋ชีฉายแววสังหารอย่างเห็นได้ชัด“พระชายาไม่เคยได้ยินเรื่องของพี่น้องสายเลือดเดียวกันทั้งเก้า วันหนึ่งองค์ชายเก้าเกิดช่วงชิงบัลลังก์ องค์ชายแปดจึงต้องตายหรือ?”หัวใจของกู้หว่านเยว่เต้นระงม เข้าใจความหมายของอีกฝ่ายในทันทีในเมื่อเฟิ่งอู๋ชีกล่าวถึงขนาดนี้แล้ว กู้หว่านเยว่ก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีกต่อไป“ได้ ข้ารับปากเจ้า”การร่วมมือของทั้งสามคนได้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเฟิ่งอู๋ชีกระตุกยิ้ม“ที่นี่คือจวนอ๋องใช่หรือไม่? หลับไปตั้งหลายวัน บัดนี้ข้าชักจะหิวขึ้นมาจริง ๆ แล้ว ในเมื่อเราร่วมมือกันแล้ว เช่นนั้นพวกเจ้าคงไม่มีทางเอาเปรียบหุ้นส่วนอย่างข้าหรอกนะ ยกเหล้าเลิศรสและอาหารอร่อย ๆ มาให้ข้าสักหน่อยเถิด”“ได้”กู้หว่านเยว่ตอบตกลงอย่างสบายอารมณ์เดิมทีนางก็ไม่ได้อยากจะฆ่าเฟิ่งอู๋ชี

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1378

    กู้หว่านเยว่และซูจิงสิงต่างสบตากัน นัยน์ตาของทั้งสองคนฉายแววประหลาดใจ“ไม่ใช่ความคิดของเจ้า จะเป็นไปได้อย่างไร? หนานเจียงไม่ได้วางแผนโจมตีเจดีย์หนิงกู่เพราะการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ถูกทำลายหรอกหรือ?”“ไม่ใช่แน่นอน”เฟื่งอู๋ชีส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม“หนานเจียงไม่เคยแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับเมืองอื่น มันเป็นเพียงแค่ข้ออ้างเท่านั้น”“แล้วเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร?”กู้หว่านเยว่รีบกล่าวถาม นางต้องรู้เหตุผลที่แท้จริง ถึงจะหาทางแก้ไขได้“พี่หญิงใหญ่ของข้าเอง”เฟิ่งอู๋ชีมองทั้งสองคน “เรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์คือการตัดสินใจของพี่หญิงใหญ่ ความจริงแล้วไม่ว่าท่านหญิงฉางเล่อผู้นั้นจะหนีไปได้หรือไม่ หนานเจียงก็ตัดสินใจจะช่วยฮ่องเต้กดดันพวกเจ้าอยู่แล้ว”เฟิ่งอู๋ชีตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาจากพื้น หาพื้นที่ที่สบายที่สุดให้ตัวเอง“เรื่องนี้เป็นแผนการของพี่หญิงใหญ่ นางเป็นแก้วตาดวงใจของท่านพ่อ ต่อให้เป็นข้าก็ไม่สามารถเปลี่ยนการตัดสินใจของนางได้”กู้หว่านเยว่แปลกใจ “เจ้าไม่ใช่องค์ชายหนานเจียงหรอกหรือ?”เท่าที่กู้หว่านเยว่รู้มา เฟิ่งอู๋ชีน่าจะเป็นองค์ชายเพียงคนเดียวของหนานเจียง ทุกคนให้ความสำคัญต่อ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1377

    ที่แท้กู้หว่านเยว่ก็จำเรื่องที่เขาพูดได้ “เจ้าเก็บเรื่องที่ข้าพูดไว้ในใจมาตลอด”นัยน์ตาของเฟิ่งอู๋ชีฉายแววตาเย้ายวน จ้องเขม็งไปทางกู้หว่านเยว่“เพราะเจ้าตกหลุมรักข้าระหว่างทางแล้วใช่หรือไม่?”น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยเจตนาที่ไม่ดี แต่การแต่งกายเป็นสตรีของบุรุษผู้นี้กลับทำให้กู้หว่านเยว่หลุดหัวเราะอย่างอดไม่ได้“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว”กู้หว่านเยว่เกาศีรษะอย่างจนปัญญา ขอร้องล่ะ สามีของนางยืนอยู่ด้านหลัง“ถ้าไม่ลองดู จะรู้ได้อย่างไรว่าข้าเข้าใจผิดหรือไม่?”เฟิ่งอู๋ชีกล่าวด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “ในเมื่อเจ้ารู้สถานะของข้าแล้ว สนใจอยากเป็นราชินีแห่งหนานเจียงหรือไม่ล่ะ?”เขาจ้องเขม็งไปทางกู้หว่านเยว่ โดยมีความคิดที่ไม่ดีปรากฏขึ้นในใจหากกู้หว่านเยว่ตอบตกลงเขาจริง ๆ บางทีเขาอาจจะยอมยกตำแหน่งราชินีแห่งหนานเจียงให้นางจริง ๆ ก็ได้ “ในหอเจิ้นไห่พวกเราเคยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันแล้ว เจ้าลองคิดไตร่ตรองดูเอาเถิด”เฟิ่งอู๋ชีมองนางด้วยความคาดหวัง เดิมทีเขาก็แค่อยากพูดโน้มน้าวไปตามสถานการณ์ แต่บัดนี้เขากลับคิดจริงจึงขึ้นมา“ข้ามีสามีแล้ว”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้าปฏิเสธโด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1376

    ไม่นานนัก เฟิ่งอู๋ชีก็ตื่นจากการหลับใหลภาพที่ดึงดูดสายตาของเขาเป็นอันดับแรกคือกู้หว่านเยว่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าความทรงจำของเฟิ่งอู๋ชียังอยู่ในหอเจิ้นไห่ หลังจากที่เห็นกู้หว่านเยว่ตรงหน้าอย่างชัดเจน ก็รีบถอยหลังอย่างรวดเร็วเขาจำได้ว่ากู้หว่านเยว่หยิบของที่เหมือนกันชิ้นหนึ่งออกมา แล้วแตะบนตัวของเขา พริบตาเดียวเขาก็รู้สึกชาไปทั้งตัว จากนั้นก็ไม่รู้สึกอะไรอีกเลย ภาพตรงหน้าดับวูบและล้มลงไปบนพื้นเฟิ่งอู๋ชียังคงหวาดกลัวกับ “อาวุธ” ชนิดนั้นครั้นกู้หว่านเยว่เห็นดังนั้นก็คลี่ยิ้ม“ไม่ต้องกังวล ข้าไม่ทำร้ายเจ้าหรอก”“ที่นี่คือที่ไหน?”เฟิ่งอู๋ชีมองไปรอบ ๆ พบว่าสถานที่ตรงหน้าเป็นสถานที่ที่แปลกตาโดยสิ้นเชิง อีกทั้งกู้หว่านเยว่ที่อยู่ตรงหน้าก็ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว“ข้าหลับไปนานแค่ไหนแล้ว?”เขากุมขมับของตัวเอง รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยขึ้นในใจ“ประมาณสี่ถึงห้าวัน” กู้หว่านเยว่ตอบกลับ ก่อนจะโน้มตัวลงมามองเขาด้วยรอยยิ้มเฟิ่งอู๋ชีเพิ่งจะได้สติกลับมา เขาจำได้ว่าก่อนที่เขาจะสลบไปนั้นเขาได้เจอกับเต่าทะเล ดังนั้นจึงรีบกล่าวถามทันที“สี่ถึงห้าวัน แสดงว่าตอนนี้ข้าก็ออกจากหอเจิ้นไห่แล้วน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status