Share

บทที่ 659

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
กู้หว่านเยว่สนใจขึ้นมาแล้ว “ข่าวลืออะไร?”

“พูดว่ากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสองสามีภรรยา เป็นดาวหายนะลงมาสู่โลกมนุษย์

หากสวรรค์พิโรธ จะทำให้ยุ้งฉางลุกไหม้ด้วยตนเอง

ต้องการระงับโทสะของสวรรค์ มีเพียงต้องใช้พวกท่านเป็นเครื่องสังเวย หาไม่แล้วเจดีย์หนิงกู่ก็จะพบเจอภัยพิบัติ”

คนเป็นหัวหน้าพูดเสียงสั่นๆ กลัวตนเองพูดผิดไป ชีวิตน้อยๆ ก็จบสิ้นแล้ว

กู้หว่านเยว่โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว ดาวหายนะลงมาสู่โลกมนุษย์ น้ำสกปรกหนึ่งอ่างใหญ่เลยทีเดียว

หากมาถึงขั้นนี้จริง ราษฎร์ในเจดีย์หนิงกู่ก็กลัวสวรรค์ จะต้องขอให้พวกเขาเป็นเครื่องสังเวยอย่างแน่นอน

อย่างไรเสียก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอันใดในเจดีย์หนิงกู่นี้

“ไม่เพียงแค่นี้กระมัง?”

ฝ่ายชายหันมองซูจิ่งสิงแวบหนึ่ง ไม่กล้าพูดอยู่บ้าง

ทันใดนั้นพลุก็ถูกจุดขึ้นทางฝั่งคฤหาสน์ฟู่

“พลุสีแดง คฤหาสน์ฟู่ตกอยู่ในอันตราย”

สีหน้ากู้หว่านเยว่เปลี่ยนไป สายตาคมกริบตกลงบนตัวชายที่กำลังสั่น

“พูด!”

“มหาราชครูยังหาขอทานเป็นกามโรคอีกสองสามคน!

สั่งให้ลอบเข้าคฤหาสน์ฟู่ ข่มขืนเจ้าสาว ปรักปรำลงบนตัวสกุลซู”

“เพล้ง” ซูจิ่งสิงปาถ้วยชาในมือจนแหลกละเอียด สีหน้าแข็งทื่อดุจเหล็กจนคนต
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 660

    เรื่องนี้พูดไปพูดมาล้วนเป็นเด็กผู้หญิงเสียเปรียบ สีหน้าฟู่หลานเหิงแข็งทื่อดุจเหล็ก“จิ่นเอ๋อร์เพิ่งมาเมืองอวี้ได้ไม่นาน อยู่ที่นี่ก็แทบไม่มีสหาย อีกทั้งยังไม่เคยผูกแค้นกับใคร เป็นใครโหดเหี้ยมเพียงนี้!”ก่อนซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่มา เขาสอบสวนขอทานเหล่านั้นแล้ว กลับไม่ได้รับอะไร“พวกเขาอาศัยความวุ่นวายในงานเลี้ยงแต่งงานลอบเข้าทางประตูหลัง บนตัวมีผงยาปลุกกำหนัด ตรงมาที่ห้องหอ”“พูดว่ามีคนจ่ายเงินจ้างพวกเขา ส่วนคนผู้นั้นเป็นใคร พวกเขาเองก็ไม่รู้จัก”เดิมทีฟู่หลานเหิงอยากให้พวกเขาวาดรูปพรรณสัณฐานของคนผู้นั้น ทว่าขอทานเหล่านั้นพูดว่าคนผู้นั้นปิดหน้า คาดว่าปลอมเสียง สวมชุดดำ ไม่สามารถหาเบาะแสอะไรได้ระหว่างพูด สองสามคนก็มาถึงห้องเก็บฟืน“ปล่อยพวกเราไปเถอะ พวกเราไม่รู้ใครเป็นคนสั่งจริงๆ”“พวกเราเพียงรับเงินมาทำงาน”กู้หว่านเยว่มองผ่านรอยแยกเข้าไป พบว่าคนเหล่านั้นล้วนถูกทรมานมาก่อนไม่ผิดไปดังคาด“หลังจบเรื่องแล้วอย่าลืมใช้น้ำส้มสายชูและเหล้าขาวฆ่าเชื้อห้องเก็บฟืน”“ฆ่าเชื้อ?”“อืม พวกเขาเป็นกามโรค”นางขมวดคิ้ว ไม่รู้สึกดีอันใดต่อกามโรค“กามโรค? นี่ นี่มิใช่โรคพรรค์นั้นหรือ?”ฟู่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 661

    “ท่านมหาราชครู อย่าได้ร้อนใจไป จะต้องสำเร็จแน่นอนขอรับ” หร่านถิงซึ่งอยู่ด้านข้าง ดีดสายพิณอย่างนุ่มนวลเมื่อได้ยินเสียพิณ จิตใจของเถาเอ๋อร์ก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย“มหาราชครู ฝ่าบาททรงมีรับสั่งเร่งรัดอีกคราแล้ว พวกเราจะโจมตีเจดีย์หนิงกู่เมื่อใดหรือ?”เจียงเต๋อจื้อเดินเข้ามาด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น พลางมองเถาเอ๋อร์ที่ยังฟังเสียงดนตรี ในใจก็รู้สึกสับสนวุ่นวายตั้งแต่กองทัพมาถึงแม่น้ำมู่ตัน ก็ฟังคำสั่งของเถาเอ๋อร์ และนิ่งเฉยมาโดยตลอดผลคือผ่านไปกว่าหนึ่งเดือนแล้ว แผนการของเถาเอ๋อร์ยังไม่มีความคืบหน้าใด และหอสังเกตการณ์ตรงข้ามแม่น้ำมู่ตันก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว“จะเร่งเร้าอันใดกันนัก” เถาเอ๋อร์กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์“ข้าหาได้ต้องการจะเร่งเร้าไม่ ทว่าไม่มีเสบียงกรังแล้ว...”เจียงเต๋อจื้อพูดไม่ออก ตั้งแต่คลังหลวงของราชวงศ์ถูกปล้น ฝ่าบาทก็เริ่มยักย้ายทรัพย์สินของท้องพระคลังไปใช้ กอปรกับระยะนี้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยครั้ง ในท้องพระคลังจึงไม่มีเงินเหลืออยู่แล้วเสบียงที่จัดสรรให้กองทัพของพวกเขาในครานี้ อย่างมากสุดก็อยู่ได้เพียงสองเดือน เสบียงก็แทบไม่เหลือแล้ว“ไม่มีเสบียงก็ไปหามาสิ จะมารบกวนข้าเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 662

    “เข้าใจแล้ว พวกเราจะไปกันเดี๋ยวนี้เลย”กู้หว่านเยว่จอดเฮลิคอปเตอร์ไว้ในพื้นที่โล่ง หลังจากนั้นก็พาซูจิ่งสิงเข้าไปใกล้โดยพลันนางโบกมือเก็บเสบียงของเถาเอ๋อร์จนหมดเกลี้ยงจากนั้นก็จู่โจมทหารลาดตระเวนสองนายจนสลบไป หลังจากนั้นก็สวมเสื้อผ้าของพวกเขา และแฝงกายเข้าไปในกองทัพเงียบ ๆ“กระโจมทหารของเถาเอ๋อร์อยู่ที่ใด?”กู้หว่านเยว่ขยิบตาให้ซูจิ่งสิง ก่อนทั้งสองจะสื่อสารกันด้วยคำพูด“ด้านหน้า”ซูจิ่งสิงชี้ไปทางทิศหนึ่งเถาเอ๋อร์เป็นมหาราชครู พื้นที่กระโจมทหารย่อมต้องดีที่สุด พวกเขาเพียงแค่มองหากระโจมทหารด้านหน้าก็พบแล้วทั้งสองคนเดินตามทหารลาดตระเวนไปครู่หนึ่ง ระบบของกู้หว่านเยว่ก็สแกนแผนที่ค่ายทหารเสร็จสิ้น ก่อนจะส่งขึ้นบนหน้าจอ“ไปเถอะ พวกเราต้องไปทางทิศตะวันออก”กู้หว่านเยว่จูงมือซูจิ่งสิง หลังจากสลัดทหารลาดตระเวนทิ้งแล้ว ก็เดินยืดอกผ่านกระโจมทหารไปทั้งสองคนสวมชุดทหารลาดตระเวน กอปรกับฟ้ามืดแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้ดึงดูดความสงสัยของผู้ใดแม้แต่น้อยทั้งสองคนเดินมาถึงนอกกระโจมทหารขนาดใหญ่ซึ่งดูโอ่อ่าโดยไม่รู้ตัวขณะที่ได้ยินเสียงพิณอันไพเราะดังออกมาจากข้างในซูจิ่งสิงเดินไปข้างหน้าหน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 663  

    “ใช้เวลาครึ่งก้านธูป” ยากระตุ้นกำหนัดนี้ เป็นยาที่ที่แรงที่สุดในคอลเลกชันของนาง ทันทีที่ออกฤทธิ์ก็จะสูญสิ้นสติสัมปชัญญะ ร่างกายร้อนรุ่มดั่งไฟผลาญ ปรารถนาเพียงราคะเท่านั้น เมื่อเห็นพวกของทานเริ่มมีท่าทางว่ายาออกฤทธิ์แล้ว กู้หว่านเยว่พูดเสียงต่ำว่า “ไปเถอะ พวกเราออกไปกันก่อน” นางไม่อยากอยู่ดูเรื่องที่ขัดความคิดผิดประเพณีแบบนี้ในกระโจมหรอกนะ “อื้อ” เมื่อคนทั้งสองออกจากกระโจมทัพ ก็พบกับทหารลาดตระเวนเข้าพอดี “เฮ้ นี่พวกเจ้าสองคนทำอะไรกันน่ะ?” ผู้เป็นหัวหน้าทหารที่เดินลาดตระเวนถาม ซูจิ่งสิงรีบดึงกู้หว่านเยว่เข้ามา เลียนแบบสำเนียงของพวกเขาแล้วกล่าวว่า “ท่านมหาราชครูต้องการบุรุษกำยำหลายนาย พวกเราเพิ่งพาคนเข้าไปน่ะ” มีเสียงครวญครางดังออกมาจากกระโจมทัพ พวกทหารลาดตระเวนสบตากัน ต่างพากันหัวเราะออกมาแล้ว เป็นดังคาด ไม่มีใครสงสัยซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่ ซุบซิบนินทากันไม่คำ ก็ไปเดินลาดตระเวนต่อ ในกระโจมทัพ หลังเถาเอ๋อร์สลบไป ก็ถูกความรุ่มร้อนสายหนึ่งทำให้ตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือด้วยความร้อน ความร้อนรุ่มสายนั้นไม่เหมือนกับความร้อนจากอากาศ เสมือนมีเปลวไฟกองหนึ่งลุกไหม้จากภายใ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 664  

    “นังสารเลวที่สมควรตายนั่น ไม่รู้ว่าเอาเสน่ห์ยาแฝดอะไรให้ฝ่าบาทเสวย ถึงทำให้ฝ่าบาททรงเชื่อนางขนาดนั้น จนให้นางมาคุมทัพ” ผู้ที่เป็นผู้นำ ถึงกับเป็นเจียงเต๋อจื้อ เขานำคนเดินผ่านหน้ากระโจมไป ปากก็บ่นไปว่า “นางนับเป็นตัวอะไรกัน สตรีแพศยานางหนึ่ง ยังกล้ามาวางก้ามข้า” เจียงเต๋อจื้อโมโหจนใบหน้าบิดเบี้ยว “ตอนที่บิดาสู้ศึกอยู่ในสนามรบ นางยังไม่ทันเกิดเลยด้วยซ้ำ” กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากันครั้งหนึ่ง ดูท่าเจ้าเจียงเต๋อจื้อนี่กับเถาเอ๋อร์จะไม่ลงรอยกันนะ “ท่านพี่ หรือจะยังไม่ฆ่ามันดี?” กู้หว่านอี๋เสนออย่างเงียบๆ นางมองเจตนาสังหารของซูจิ่งสิงออก “เหลือมันไว้ ให้กัดกันเองกับเถาเอ๋อร์” ซูจิ่งสิงคิดจะฆ่าเจียงเต๋อจื้อจริงๆ เพราะในตอนที่ถูกริบทรัพย์ทั้งตระกูลนั้น เจียงเต๋อจื้อเหยียดหยามดูแคลนสกุลซูและตัวเขาสารพัดวิธี ไอ้คนต่ำช้านี่ พอเห็นผลประโยชน์ก็ลืมคุณธรรม ตายไปก็ไม่มีอะไรให้เสียดาย แต่เขาก็เข้าใจวัตถุประสงค์ของกู้หว่านเยว่เช่นกัน หากฆ่าเจียงเต๋อจื้อในเวลานี้ ฮ่องเต้สุนัขก็จะส่งผู้อื่นมาอีก มิสู้เหลือชีวิตมันไว้เลี้ยงหนอนกู่ดีกว่า แต่ต่อให้ไม่ฆ่ามัน ก็ไม่อาจปล่อยให้มันเป็นสุ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 665  

    เมื่อซูจิ่งสิงโปรยผงพิษส่งเจียงเต๋อจื้อเสร็จ ก็เหินร่างกลับไปอยู่ข้างกายกู้หว่านเยว่ “เป็นอย่างไรบ้าง สำเร็จแล้วหรือไม่?” ท่าทางของกู้หว่านเยว่ดูตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ซูจิ่งสิงยิ้มบางๆ ว่า “สามีของเจ้าออกปฏิบัติการทั้งที ก็ต้องสำเร็จอยู่แล้ว” เขาหยิบผงคันคะเยอที่เหลือออกมา “เหลือที่ไม่ได้ใช้อีกมาก เจ้าเก็บไว้ อย่าได้สิ้นเปลืองเสียล่ะ เพื่อในอนาคตยังมีประโยชน์อีก” “ได้” กู้หว่านเยว่หัวเราะอิอิ โบกมือน้อยๆ เก็บผงคันคะเยอเข้าไปในมิติ นางถึงกับนึกภาพน่าอนาถต่อจากนี้ ที่เจียงเต๋อจื้อคันจนทนไม่ไหวออกเลย กู้หว่านเยว่กวาดของไปตลอดทั้งคืน เวลานี้แทบจะขโมยของในค่ายทหารกว่าครึ่งไปหมดแล้ว กระทั่งเสื้อผ้าที่เหล่าทหารถอดออกมาจะนำไปซักก็เก็บไปด้วยแล้ว ไม่ว่าเห็นสิ่งใดเป็นประโยชน์ก็ต้องเก็บ ราวกับโจรร้ายก็ไม่ปาน “เก็บมาทั้งคืน รู้สึกหิวบ้างแล้ว ถือโอกาสที่ฟ้าเพิ่งสาง พวกเราไปกินข้าวเช้ากันเถอะ” กู้หว่านเยว่เสนอ ยามนี้นางกำลังตั้งครรภ์ เดิมก็ใช้พลังงานมากอยู่แล้ว แล้วยังใช้งานมิติอีก จึงยิ่งเผาผลาญพลังงานไปเร็วกว่าเดิม ซูจิ่งสิงรู้ว่าช่วงนี้ภรรยาหิวเร็ว “แต่ว่าตอนนี้พวกเราอยู่ในค่ายท

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 666

    “ข้าจะสอนให้ท่าน” กู้หว่านเยว่แนะนำวิธีกดชัตเตอร์เพียงคร่าว ๆ ซูจิ่งสิงถือว่าหัวไว ไม่นานเขาก็เรียนรู้จนทำได้ เขาหันมากดชัตเตอร์ใส่กู้หว่านเย่วเสียงดังแชะแชะ “ให้ข้าดูหน่อย” กู้หว่านเยว่หยิบกล้องขึ้นมา จากนั้นหุบยิ้มทันที เป็นจริงตามคาด ไม่มีแฟนหนุ่มคนไหนถ่ายรูปแฟนสาวออกมาดูดีสักคน! ผู้ชายไม่เอาไหน! “ไม่สวยเลย!” กู้หว่านเยว่เบ้ริมฝีปากแดง “ท่านถ่ายรูปข้าไม่สวยเลย” ซูจิ่งสิงรู้สึกผิด “น้องหญิง ให้โอกาสข้าอีกครั้งเถอะ” เขาก็ไม่รู้เพราะเหตุใด เห็นชัดว่าในกล้องน้องหญิงดูงดงาม ทว่าเมื่อถ่ายออกมาไม่เป็นภาพซ้อนก็เป็นภาพมุมอับ... เขาวางกล้องไว้ข้างมือ รอกินอาหารเสร็จแล้วค่อยศึกษาดูใหม่ ทว่าตอนที่กินแซนด์วิชไข่ดาว สีหน้าของเขาดูเหยเกอีกแล้ว นี่คือสิ่งใดกัน หวานหวาน เค็มเค็ม รสชาติไม่ดีเลย... ทว่าน้องหญิงกลับกินอย่างเอร็ดอร่อย ซูจิ่งสิงแอบวางแซนด์วิชไข่ดาวลง และหยิบเกี๊ยวน้ำที่อยู่ข้างกันขึ้นมากู้หว่านเยว่คิดไม่ถึงว่าซูจิ่งสิงจะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับอาหารเช้าในสมัยปัจจุบันได้เลย ทว่าก็ไม่บังคับฝืนใจเขา จากนั้นจึงรีบหยิบแซนด์วิชไข่ดาวมากินเองหลังจากกินอาหารมื้อเช้าเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 667

    บุรุษที่นอนอยู่บนเตียงเหล่านั้น มุมปากยังมีน้ำลายติดอยู่ พวกเขาอายุไม่เท่ากัน ทั้งหนุ่มและแก่ทว่าสิ่งเดียวที่เหมือนกันคือ บนร่างกายของพวกเขามีตุ่มแดงและตุ่มน้ำขนาดเล็กใหญ่ต่างกัน เมื่อคืนพวกเขาคงจัดหนักเกินไป ตุ่มน้ำแตกออกและมีของเหลวไหลซึมออกมา ทำเอาเจียงเต๋อจื้อตกใจจนต้องถอยห่าง “กาม กามโรค!”เขาไม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน ทว่าเขาเคยเห็นสหายสนิทเป็นโรคนี้สหายสนิทมักจะไปหอนางโลม หลังจากติดโรคนี้มา ตุ่มน้ำแดงบนร่างกายของเขาจะเริ่มแตกและเน่าเปื่อยคันไปทั่วทั้งตัวจนทนไม่ไหวในเวลาไม่ถึงครึ่งปี เขาก็จากไปหลังจากเจียงเต๋อจื้อตกใจแล้ว เขาพลันรู้สึกเบิกบาน และปรบมือ“มหาราชครู ท่านถูกผู้ใดใช้อุบายชั่วเล่นงาน?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงโอหัง “เฮ้อ เดิมทีข้าก็เคยบอกท่านแล้ว ในยามปกติประพฤติตัวให้ดีหน่อย อย่าสร้างศัตรูให้มาก” เจียงเต๋อจื้อเยาะเย้ย “ตอนนี้ดีขึ้นแล้วหรือไม่ ถูกคนลอบวางแผนเล่นงาน ท่านว่าในกระโจมทหารใหญ่โตแห่งนี้ ผู้ใดต้องการลอบเล่นงานท่าน?”เขาหยุดพักความคิดที่จะข่มเหงเถาเอ๋อร์ผู้หญิงที่เป็นกามโรค เขาไม่กล้ายุ่งเกี่ยวด้วย“ตามความเห็นของข้า สตรีไม่สมควรออกหน้าออกตา”เจ

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1452

    แม้ว่าภายในมิติของนางจะมีแปลงสมุนไพร แต่ภายในแปลงสมุนไพรล้วนปลูกสมุนไพรหายาก ไม่มีสมุนไพรรักษาโรคไข้รากสาดน้อยธรรมดาดังนั้น สมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นกู้หว่านเยว่ซื้อจากแพลตฟอร์มซื้อขายการแจกจ่ายยาเริ่มขึ้นอย่างว่องไวเหล่าราษฎรขยับขึ้นมาทีละคน ขบวนคนเริ่มขยับอย่างเชื่องช้า“พี่หญิงหว่านเยว่ ท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะ”ลั่วยางเข้ามาเตือนนางหนึ่งประโยค เอ่ยปากอย่างห่วงใย“ข้าบอกกับหมอเหล่านั้นแล้ว หากพวกเขาไม่แน่ใจโรค ค่อยมาถามข้าเจ้าค่ะ”นางอธิบาย“หากข้าเองก็หมดหนทาง ค่อยให้คนเข้าไปหาท่าน”กู้หว่านเยว่พยักหน้า “เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน”เกาเจี้ยนสบมองลั่วยางอย่างสงสาร “ยางเอ๋อร์ เจ้าต้องเหนื่อยแล้ว”แม้พูดว่าด้านหน้ายังมีหมอตรวจอาการก่อนแต่คนมากถึงเพียงนี้ ย่อมมีหมอที่รักษาไม่ได้รวมเข้าด้วยกัน ก็เพียงพอให้ลั่วยางยุ่ง“ข้าไม่เป็นไร สามารถรักษาราษฎรได้ ช่วยได้หนึ่งชีวิตก็คือหนึ่งชีวิต”ลั่วยางหยิบธงหนึ่งผืนออกมา สองสามคนมองดู ได้เห็นตัวอักษรคำว่าหุบเขาราชาโอสถสามคำบนนั้น“ข้ารับปากท่านอาจารย์ไว้แล้ว จะต้องหาโอกาสประกาศเรื่องหุบเขาราชาโอสถดีๆบังเอิญจะได้ฉวยโอกาสนี้ประกาศให้ราษฎ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1451

    ทหารชั้นผู้น้อยคนหนึ่งวิ่งเข้าอย่างรีบร้อนจากด้านนอกประตู พูดออกมาอย่างลนลาน ทำให้เฉิงทั่วตื่นตระหนก“มีอันใด เกิดอันใดขึ้นหรือ?”หรือว่ากลัวสิ่งใดสิ่งนั้นก็มากระนั้น?“ด้านนอกประตู ด้านนอกประตูมีราษฎรป่วยหนักมากมายมาขอรับ ต่อแถวยาวเหยียดอยู่ด้านนอกประตู แถวยาวไปจนถึงประตูเมืองแล้ว”ทหารชั้นผู้น้อยกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง ไม่เคยเห็นแถวยาวเช่นนี้มาก่อน“ที่แท้ก็มีคนต่อแถวมากนี่เอง”เฉิงทั่วตบศีรษะทหารชั้นผู้น้อยทีหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์ “ครั้งหน้าพูดให้เข้าใจหน่อย อย่าหายใจแรง ทำข้าตกใจแทบตาย”ทหารชั้นผู้น้อยลูบศีรษะ บ่นพึมพำเสียงแผ่ว “คำนี้ของท่านแม่ทัพ หรือว่านี่ไม่ทำให้คนตกใจกันเล่า?”ราษฎรมากถึงเพียงนี้ล้อมจวนแม่ทัพไว้ หากเกิดความวุ่นวาย ทำให้คนตายจะทำเยี่ยงไร?“เจ้า นำทหารม้าสองหน่วยไปดูแลรักษาความเรียบร้อยบนถนนให้ดี”เฉิงทั่วชี้ไปยังคนสนิทที่หน้าประตู เห็นว่าถึงเวลาแจกจ่ายยาแล้ว เขาเตรียมไปดูสถานการณ์ที่หน้าประตูจวนแม่ทัพในเวลานี้ หน้าประตูจวนแม่ทัพคลาคล่ำไปด้วยผู้คนเหล่าราษฎรรอคอยอย่างมีความหวัง หวังว่าจะสามารถได้รับยาเพียงพอเพื่อช่วยตนเองหรือคนในครอบครัว“จะเริ่มแจกจ่าย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1450

    เขาครุ่นคิดอยู่สักครู่ พลางแอบมองสีหน้าของซูจิ่งสิง ไม่กล้าอยู่ในเรือนนานเกินไป จึงรีบออกไปพร้อมกับรองแม่ทัพ“ท่านแม่ทัพ สิ่งที่พระชายาพูดเป็นความจริงหรือไม่? คงไม่ได้คุยโวหรอกนะ?”หลังจากที่ทั้งสองออกมาข้างนอกแล้ว รองแม่ทัพก็พูดขึ้น“ประชาชนที่ป่วยในเมืองไม่ใช่แค่คนหรือสองคน ยามากมายขนาดนั้น พระชายาจะหามาได้หรือ?”เขาคิดอยู่เสมอว่าคำพูดของกู้หว่านเยว่นั้นไม่น่าเชื่อถือบางทีอาจเป็นเพราะวันนี้ถูกแม่ทัพชี้หน้าตำหนิ รู้สึกทั้งอายทั้งโกรธ ต้องการทวงศักดิ์ศรีคืนมา จึงได้พลั้งปากคุยโวโอ้อวดออกไป“ไม่รู้สิ”เฉิงทั่วส่ายหัวสติปัญญาบอกเขาว่า กู้หว่านเยว่นั้นไม่สามารถหาสมุนไพรได้มากมายขนาดนั้นภายในระยะเวลาอันสั้นแน่นอนแต่เขาก็นึกถึงตอนที่โจมตีเมืองเหยาขึ้นมาอีก ดินปืนและกระสุนปืนใหญ่เหล่านั้นที่ส่งลงมาจากเมือง รวมถึงธนูที่มีรัศมีการยิงไกลมากสิ่งของเหล่านี้เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนถ้าหากในตอนนี้สิ่งของที่เขาไม่คาดคิด กู้หว่านเยว่บังเอิญมีพอดีล่ะ?“ถ้าอย่างนั้นคำสั่งของพระชายาเมื่อครู่นี้ พวกเรายังต้องปฏิบัติตามหรือไม่?”รองแม่ทัพค่อนข้างเป็นกังวล“เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป อีกสาม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1449

    เขามีสีหน้าร้อนใจ ชิงเหลียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ท่านรอสักครู่ ข้าจะเข้าไปรายงานก่อน”ภายในห้อง กู้หว่านเยว่ได้ยินเสียงดังเอะอะจากด้านนอกแล้ว จึงรีบพาซูจิ่งสิงออกมาจากมิติในขณะที่ชิงเหลียนเข้ามา นางกำลังเปิดประตูพอดี“พระชายา แม่ทัพเฉิงอยู่ข้างนอก...”“ข้าได้ยินทุกอย่างแล้ว เจ้าให้เขาเข้ามาเถอะ”กู้หว่านเยว่หาวนอน“อ้อ ถือโอกาสรับประทานอาหารเช้าไปด้วย”เมื่อคืนนี้ นางและซูจิ่งสิงยุ่งอยู่ในมิติตลอดทั้งคืน“เพคะ”ชิงเหลียนรีบออกไป เฉิงทั่วก็เข้ามาจากทางด้านนอกอย่างไม่พอใจ“คารวะท่านอ๋องและพระชายา”เขาทำความเคารพแบบขอไปที แล้วเริ่มบ่นว่า“พระชายา เมื่อคืนข้าน้อยเตือนท่านแล้วว่า จะช่วยเหลือผู้คนในเมืองนี้ส่งเดชไม่ได้ อาจก่อให้เกิดความโกลาหลได้”น้ำเสียงของเขาไม่สู้ดีนัก“ดูสิ เมื่อวานท่านนำหญิงผู้นั้นมารักษาในจวนละแวกนี้ ผลปรากฏว่าเรื่องนี้ถูกผู้มีเจตนาเผยแพร่ออกไปเมื่อเช้านี้ เวลานี้ด้านนอกจวนแม่ทัพมีผู้ป่วยเต็มไปหมดท่านก็รู้ เมื่อเกิดความโกลาหลขึ้นมา จะกลายเป็นเรื่องใหญ่”เมื่อเฉิงทั่วพูดถึงความร้อนใจ ก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองกู้หว่านเยว่ สายตานั้นเต็มไปด้วยคำถาม“แม่ทั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1448

    ยิ่งไปกว่านั้นยังสวมถุงมือและผ้าคลุมหน้าอีกด้วยเห็นได้ชัดว่าหญิงผู้นั้นอับจนหนทางแล้ว พอเข้ามาก็คุกเข่าลงตรงหน้าพวกเขาทันที“ท่านผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย พวกท่านได้โปรดช่วยลูกของข้าด้วย เขาเพิ่งห้าขวบเท่านั้น”หญิงผู้นั้นกอดลูกไว้แน่นในอ้อมแขน“เขาฉลาดมาก และเชื่อฟังมากด้วย มักจะช่วยข้าทำงานอยู่บ่อยครั้ง สามารถอ่านหนังสือและจดจำตัวอักษรได้ตั้งแต่ยังเด็กเช่นนี้ พวกท่านได้โปรดช่วยชีวิตเขาด้วย ต่อให้ต้องเอาชีวิตของข้าก็ตาม”หญิงผู้นั้นร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหลกู้หว่านเยว่ให้นางวางลูกลงบนเบาะนุ่ม เพื่อสะดวกในการตรวจวินิจฉัย“แล้วพ่อของเด็กล่ะ เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่คนเดียว?”หญิงผู้นั้นมีอาการป่วยอย่างเห็นได้ชัด แก้มตอบลึก“ตาย ตายแล้ว”หญิงผู้นั้นสะอึกสะอื้นตอบ“เป็นไข้หวัด ไม่มียารักษา ทนได้ไม่ถึงครึ่งเดือนก็ตายแล้ว”กู้หว่านเยว่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ขอโทษนะ”หญิงผู้นั้นส่ายหัว “มันคือโชคชะตา แต่ขอให้หมอช่วยชีวิตลูกของข้าด้วย แม้ว่าต้องการให้ข้าไปตาย ข้าก็เต็มใจ”กู้หว่านเยว่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเจ็บปวด ซูจิ่งสิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็กำหมัดทั้งสองแน่น“ไม่ต้องให้เจ้าไปตายหรอก ให้ข้าดู

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1447

    “ไป ๆ ๆ”เฉิงทั่วกลอกตาใส่หนานหยางอ๋อง“ท่านไม่จำเป็นต้องออกหน้าพูดแทนข้าที่นี่”“เฮ้ ข้าหวังดีกับเจ้า ทำไมเจ้าถึงไม่รักษาน้ำใจคนอื่นเลย?” หนานหยางอ๋องฮึดฮัดด้วยความโมโห“กาลเวลาพิสูจน์คน ข้าเป็นคนอย่างไร ต่อไปท่านอ๋องและพระชายาก็รู้เอง ไม่จำเป็นต้องให้ท่านพูดอะไรมาก”เฉิงทั่วกังวลว่าหากหนานหยางอ๋องออกหน้าพูดแทนเขา มันจะส่งผลกระทบต่อตัวเขาเองชายชราหัวรั้นสองคนต่างห่วงใยซึ่งกันและกัน แต่ไม่พูดออกมากองทัพเข้ามาในเมืองทันใดนั้นหญิงคนหนึ่งที่กำลังอุ้มลูกอยู่ ได้โผเข้ามาแทบเท้าของกู้หว่านเยว่“ท่านหญิง ช่วยลูกของข้าด้วย ได้โปรดช่วยลูกของข้าด้วย!”หญิงผู้นั้นล้มลงกับพื้น เด็กในอ้อมแขนเกือบจะกลิ้งออกมา นางกอดเด็กไว้แน่น ไม่ปล่อยมือกู้หว่านเยว่เหลือบมองเข้าไปในอ้อมแขนของนาง เห็นว่าเด็กมีสีหน้าเขียวคล้ำ“เกิดอะไรขึ้น?”“พระชายา กลับจวนแล้วค่อยคุยกับท่านแล้วกัน”สีหน้าของเฉิงทั่วดูแย่มาก โบกมือให้รองแม่ทัพพาหญิงผู้นั้นออกไปปลอบโยนก่อนเมื่อมาถึงจวน เขาก็ถอนหายใจพลางเอ่ยว่า“ปีนี้สภาพอากาศแปลก ๆ การเก็บเกี่ยวของประชาชนก็ไม่ดี ในสิบคนก็มีคนป่วยแปดหรือเก้าคนแล้ว”คิ้วของกู้หว่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1446

    สมองของเจียงม่านวิงเวียน ก่อนจะสูญเสียความรู้สึกตัวอย่างสมบูรณ์ คิดเพียงว่าที่แท้ฮั่วจี๋ก็มีมุมแบบนี้เช่นกัน...คู่บ่าวสาวสนุกสนานกันทั้งคืน ไม่รู้ว่าหมดไปกี่น้ำ สรุปได้ว่าแนบชิดดูดดื่มก่อนหน้านี้เรื่องที่เจียงม่านกังวลว่าในคืนแต่งงาน ฮั่วจี๋จะรังเกียจที่นางไม่ได้บริสุทธิ์ไร้ราคีหรือเปล่านั้น ไม่หลงเหลืออยู่แล้วหลังจากเพิ่งแต่งงานไป กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงได้มอบหมายเมืองเหยาให้ฮั่วจี๋ดูแลจัดการชั่วคราว โดยทิ้งหวังปี้เอาไว้คอยช่วยเหลือพวกเขาพร้อมด้วยกองทัพใหญ่ เดินหน้าไปยังเมืองซุ่ยโจวอย่างองอาจเฉิงทั่วได้ยื่นหนังสือขอยอมจำนนไปนานแล้วพอได้ยินว่ากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงกำลังจะมา จึงเปิดประตูเมืองออก แล้วพาทุกคนในเมืองไปต้อนรับที่ประตูเมืองด้วยตัวเอง“คารวะท่านอ๋อง คารวะพระชายา”“ลุกขึ้นเถอะ”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงขี่ม้าเข้ามา เมื่อเห็นเฉิงทั่วพาผู้คนมายืนรออยู่ที่ประตูเมือง พวกเขาสองคนก็ลงจากหลังม้า“แม่ทัพเฉิง ไม่นึกว่าเราจะได้พบกันอีกเร็วขนาดนี้”กู้หว่านเยว่เลิกคิ้วขึ้นด้วยรอยยิ้ม สายตาจับจ้องไปที่หัวไหล่ของเฉิงทั่วเฉิงทั่วรู้สึกกระดากอายในทันใด “พระชายามีทักษะด้า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1445

    กู้หว่านเยว่พยักหน้า “นำพวกเขาทั้งหมดขังไว้ในเรือนจำใหญ่ รอการลงโทษ อย่าปล่อยออกมาง่าย ๆทหารพวกที่หลบหนีเมื่อใกล้แนวรบ กู้หว่านเยว่เหยียดหยามมาโดยตลอดไม่ได้ลงโทษเนรเทศพวกเขา ก็นับว่าเมตตาแล้วตอนนี้พวกเขายังกล้าหลบหนีก่อนจริงหรือ?เช่นนั้นก็อย่าโทษนางที่ไม่เกรงใจฮั่วจี๋พยักหน้าตาม“เรือนจำของเมืองเหยานั้นกว้างขวางมาก จับพวกเขาทั้งครอบครัวเข้าไปคุมขังก็ยังมีที่เหลือเฟือ”ดูสีท้องฟ้าก็ดึกมากแล้ว ดนตรีประโคมข้างนอกก็จบลงแล้วเช่นกันซูจิ่งสิงเข้ามาหา แล้วมองไปยังฮั่วจี๋“แม่ทัพฮั่วขยันหมั่นเพียรเช่นนี้ อย่าทำให้คืนแต่งงานน่าผิดหวังล่ะ”“ขอรับ”ฮั่วจี๋ลูบศีรษะ ยังคงครุ่นคิดว่า เหตุใดท่านอ๋องถึงอารมณ์ร้อนกับเขามากทันทีที่เข้ามาเมื่อเห็นซูจิ่งสิงดึงกู้หว่านเยว่ออกไป จึงเข้าใจในภายหลังว่า ตัวเองไปเป็นกว้างขวางคอของพวกเขา“แล้วฮูหยินน้อยล่ะ?”ฮั่วจี๋หันกลับไปถามพ่อบ้านเมื่อเห็นซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เป็นคู่กิ่งทองใบหยก เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเจียงม่านที่อยู่ในห้อง“อยู่ในห้องขอรับ นายท่าน บ่าวจะประคองท่านไป”พ่อบ้านยิ้มตาหยี เห็นฮั่วจี๋เป็นฝั่งเป็นฝา เขาเองก็มีความสุขเช

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1444

    จางเอ้อร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“แต่ว่า ข้าทำได้เพียงพูดต่อหน้าพระชายาเท่านั้น”“ทำอย่างสุดความสามารถก็พอ” หวังหรานเอ๋อร์ก็ไม่บีบบังคับเช่นกันหลังจากที่ทั้งสองพูดจบ จางเอ้อร์ก็ไปหากู้หว่านเยว่เพื่อพูดคุยเรื่องนี้กู้หว่านเยว่กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ต้องใช้คนพอดี ย่อมไม่ปฏิเสธอยู่แล้วและเมื่อก่อนบนเส้นทางที่ถูกเนรเทศ จางเอ้อร์ก็ดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี กู้หว่านเยว่หาโอกาสตอบแทนมาโดยตลอดบัดนี้ได้เวลาตอบแทนน้ำใจพอดี“ชิงเหลียน เจ้าพาจางเอ้อร์และหวังหรานเอ๋อร์ไปหาคุณชายอวิ๋น แล้วบอกว่าข้าให้พวกเขาไป”งานพลาธิการแนวหลังของการสู้รบ ทั้งหมดอวิ๋นมู่เป็นผู้รับผิดชอบอยู่ขอเพียงพาคนไปและบอกกับอวิ๋นมู่เช่นนี้ อวิ๋นมู่ก็เข้าใจแล้วชิงเหลียนยิ้มกล่าวว่า “ดูเหมือนว่าคุณชายอวิ๋นกำลังดื่มสุราอยู่กับคุณชายไป๋หลี่ ทำไมไม่รอให้งานเลี้ยงเลิก แล้วค่อยพาพวกเขาไปหา”จางเอ้อร์กล่าวอย่างมีไหวพริบ “ไม่รีบ ไม่รีบ จะได้ไม่ทำลายอารมณ์อันสุนทรีย์ของคุณชายอวิ๋น”ฉู่เฟิงเอ่ยด้วยความอิจฉา “ท่านนี่ช่างรักคุณชายอวิ๋นนัก ข้ายืนอยู่ตรงนี้ตั้งนานแล้ว ไม่เห็นท่านเรียกข้าไปดื่มสุราสักอึกสองอึกบ้างเลย”ทำให้ชิงเหลีย

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status