แชร์

บทที่ 634

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“ไม่ ไม่!”

เทียนอวี๋ตัวสั่น ทันใดนั้นก็กระอักเลือดสีดำออกมา

“ไม่ ข้าไม่ได้...”

ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ตั้งแต่วินาทีที่นำภาพวาดนั้นออกมา นางก็ไม่มีทางถอยกลับแล้ว หลังจากที่หนานหลีอ๋องเสียชีวิต สิ่งที่นางทำมาตลอดหลายปีนี้ ก็แค่หลอกตัวเองเท่านั้น จนถึงตอนนี้ นางก็เป็นเพียงหญิงสาวที่รักเขาข้างเดียวเท่านั้น

หวงเหล่าหันไปมองกู้หว่านเยว่ “แม่นางกู้ ข้าขอร้องเจ้าสักเรื่องได้หรือไม่”

กู้หว่านเยว่เหลือบมองเทียนอวี๋ พอจะเดาได้ว่าเขาต้องการขออะไร

“ชีวิตของเทียนอวี๋ เหลือน้อยเต็มทีแล้ว”

นางเลี้ยงหนอนกู่ ฝึกฝนคาถาหุ่นเชิด สิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลสะท้อนกลับ

“ข้าเลี้ยงดูนางมา อยากพานางกลับไปที่เขาไท่ไป๋”

หวงเหล่าเคยสัญญากับแม่ของนางว่า จะเลี้ยงดูเทียนอวี๋เป็นอย่างดี

คงเป็นเพราะนางเหมือนมารดาของนางมากเกินไป ทั้งสองล้วนเป็นคนที่มีนิสัยคลั่งไคล้ผู้ชาย

กู้หว่านเยว่เหลือบมองเทียนอวี๋แวบหนึ่ง ในเมื่อเรื่องกาฬโรคไม่ใช่ฝีมือของเทียนอวี๋ และเทียนอวี๋ก็ใกล้เสียชีวิตแล้ว เช่นนั้นนางก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าให้สิ้นซาก

มิสู้ทำตามสถานการณ์ สร้างไมตรีกับหวงเหล่าดีกว่า

“ตกลง ข้ารับปากท่าน”

หากไม่ให้หวง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 635

    หร่านถิงตัวสั่นทันที “มีอะไรก็ค่อย ๆ พูด คุยกันดี ๆ ปีนี้ข้าเพิ่งอายุยี่สิบ ยังไม่ได้แต่งภรรยา ไม่อยากตายก่อนวัยอันควร”“ไม่อยากตายก่อนวัยอันควร แต่ก็ทำตัวน่าตายก่อนวัยอันควร?”“...จำเป็นต้องทำเพื่อความอยู่รอด ท่านแม่ที่ป่วย ท่านพ่อติดการพนัน แล้วยังมีน้องชายที่กำลังเรียนหนังสือ”“หยุด!” กู้หว่านเยว่โยนพิณไปตรงหน้าเขา“เล่นให้ข้าฟังสักเพลง”หร่านถิงหยิบพิณขึ้นมาอย่างว่าง่าย การเล่นพิณเป็นงานถนัดของเขา เสียงพิณที่ไพเราะอ่อนหวานดังขึ้นมาอย่างไหลลื่นจากปลายนิ้วของเขากู้หว่านเยว่ตั้งใจฟัง พบว่าเหมือนกับคืนนั้น เสียงพิณของหร่านถิงมีเสน่ห์ดึงดูดใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้วิเศษขนาดนั้น เพราะตอนนี้เป็นเวลากลางวันนางยกมือขึ้น “เจ้าชื่ออะไร?”“หร่านถิงขอรับ” เมื่อเห็นกู้หว่านเยว่ขมวดคิ้ว หร่านถิงรีบเอ่ยขึ้น “ข้าน้อยชื่อหร่านถิงจริง ๆ แต่ไม่ใช่พ่อค้าจากทางใต้ ข้าน้อยเป็นนักดนตรีที่หอคณิกา”กู้หว่านเยว่พยักหน้า ในเมื่ออีกฝ่ายพูดความจริง นางก็จะไม่ทำให้ลำบากใจ“เถาเอ๋อร์ให้เจ้ามาทำอะไร”“ยั่วยวนท่าน” หร่านถิงส่งสายตาเจ้าชู้ “แต่พอได้เห็นท่านแวบแรก ข้าก็ตกหลุมรักท่านอย่างหมดหัวใจ”“พูดภาษา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 636

    หงเจายื่นน้ำเต้าหู้ให้กู้หว่านเยว่ พลางกัดเขี้ยวเล็ก ๆ “ลากเขาออกไปให้หมากิน”“เหตุใดเจ้าถึงเกลียดเขามากขนาดนั้น?” ปกติแล้วสาวน้อยผู้นี้เป็นคนอ่อนโยนหงเจาหน้าแดง “บ่าวแค่เกลียดผู้ชายเลว หลอกลวงความรู้สึก สมควรโดนหั่นเป็นชิ้น ๆ ”คืนนั้นนางก็ได้ยินเสียงพิณเช่นกัน ไพเราะมาก แต่น่าเสียดายที่เป็นของคนหลอกลวง! ซวยชะมัด!หร่านถิงยิ่งรู้สึกผิด กู้หว่านเยว่หมุนแก้วในมือ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม“เสียงพิณของเจ้า ไม่ได้ผลกับข้าแต่ได้ผลกับคนอื่น”หร่านถิงตาเป็นประกาย “ขอรับคำสั่งจากฮูหยิน”“เป็นคนฉลาด”กู้หว่านเยว่พอใจกับความเข้าใจของหร่านถิงมาก ช่วยให้นางไม่ต้องเปลืองน้ำลาย“ไม่ต้องรีบ สองวันนี้เจ้าอยู่ข้าง ๆ ข้าก่อน”“ฮูหยินวางใจ” หร่านถิงลังเลครู่หนึ่ง ดูเหมือนมีเรื่องจะพูด“ข้าอยากขอร้องฮูหยิน...”“ฮูหยิน หวงเหล่ามาแล้วขอรับ”เมื่อได้ยินฉู่เฟิงเข้ามารายงาน บอกว่าหวงเหล่าพาเทียนอวี๋มาลา กู้หว่านเยว่จึงรีบออกไปต้อนรับ หร่านถิงจึงทำได้เพียงปิดปากเงียบ“ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดี”ซูจิ่งสิงเหลือบมองหร่านถิงด้วยสายตาเย็นชา สายตาที่เต็มไปด้วยคำเตือนนั้น ทำให้หร่านถิงตัวสั่นเทา“น้องหญิ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 637

    หวงเหล่าครุ่นคิดพลางมองดูท้องฟ้า “ได้เวลาแล้ว ข้าพาเทียนอวี๋ไปก่อน”กู้หว่านเยว่รีบไปส่งหวงเหล่าที่หน้าประตู เมื่อเข้าใกล้รถม้า ก็ได้ยินเสียงพึมพำของเทียนอวี๋ดังมาจากข้างใน“ทำไม ทำไมกัน? ข้ารักท่านมากกว่าหนานหลีม่าน ข้าเป็นคนที่รักท่านที่สุดในใต้หล้า เหตุใดท่านถึงมองไม่เห็นข้าหนานหลีม่านที่ท่านพยายามปกป้องอย่างสุดกำลัง กลับไปซบอกศัตรูหลังจากท่านตายนางไม่คู่ควร นางไม่คู่ควร...ท่านพี่ ท่านพี่...”“เทียนอวี๋แก้แค้นมาตลอด แต่เหตุใดถึงไม่ลงมือกับหนานหลีม่าน?”ชิงเหลียนในใจเต็มไปด้วยความสงสัย ถึงแม้ว่าตอนนี้หนานหลีม่านจะเป็นฮองเฮาแล้วแต่ด้วยความสามารถของเทียนอวี๋ หากอยากจะลงมือกับนาง ก็ไม่ใช่เรื่องยาก“เขารักใครนางก็รักด้วย”กู้หว่านเยว่ละสายตา เพราะหนานหลีอ๋องรักหนานหลีม่านมากเกินไป ดังนั้นแม้เทียนอวี๋จะเกลียดชังมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถลงมือกับหนานหลีม่านได้”“ฮูหยิน ท่านว่าหนานหลีม่านเป็นผู้หญิงที่หลงใหลในลาภยศสรรเสริญจริงหรือ? หนานหลีอ๋องรักนางมากเช่นนั้น นางกลับไปเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้ นางไม่รู้สึกผิดต่อหนานหลีอ๋องเลยหรือ?”หลังจากที่ชิงเหลียนได้ฟังเรื่องราวความรักความแค้นระหว่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 638

    “ไม่เลว ๆ ”ปรมาจารย์แพทย์เห็นว่ากู้หว่านเยว่อายุก็ยังไม่มาก ไม่เพียงแต่มีฝีมือทางการแพทย์ ยังเชี่ยวชาญด้านพิษอีกด้วย“ให้ทำงานแบบนี้ ข้าไม่มีแรงจูงใจหรอก ให้ห้องครัวเอาของอร่อย ๆ มาเพิ่มหน่อย”กู้หว่านเยว่ยิ้มพลางกำชับหงเจาหนึ่งประโยค ให้นางไปบอกพ่อแม่ของเฉียวโต้วว่า ให้ทำกับแกล้มมาส่งที่เรือนนี้เพิ่มอีกหนึ่งที่กู้หว่านเยว่รู้สึกยินดีมากที่ได้ให้ที่พักพิงแก่ครอบครัวนั้น ทั้งสามคนเป็นคนที่ไม่สร้างความหนักใจ เฉียวโต้วแม้จะอายุยังน้อย แต่ก็ไม่ได้กินอยู่ฟรี ๆ ช่วยพ่อแม่ส่งผักไปตามเรือนต่าง ๆ ทุกวันพ่อแม่ของเฉียวโต้วคนหนึ่งรับหน้าที่ซื้อผัก ส่วนอีกคนเป็นคนทำอาหาร จัดการเรื่องอาหารการกินของจวนกู้ได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ช่วยให้กู้หว่านเยว่ประหยัดเวลาได้มาก“แหะ ๆ กับแกล้ม เจ้าเด็กบ้า เจ้าเข้าใจข้าดีจริง ๆ ”ปรมาจารย์แพทย์ดีใจอย่างยิ่ง ได้ยินเสียงหัวเราะสนุกสนานจากข้างนอก ในที่สุดฟู่หลานเหิงก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก“หว่านเยว่ เรื่องโรคระบาดไม่ได้ลุกลามไปที่อื่นใช่หรือไม่?หร่านเหยียนนั่นเป็นอย่างไรบ้าง จับตัวพวกพ้องของนางได้หรือยัง?”ปรมาจารย์แพทย์แบะปาก “เจ้าเด็กนี่อยู่เฉยไม่เ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 639

    เมื่อเห็นซูจิ่งสิงสีหน้าเหนื่อยล้า กู้หว่านเยว่ใช้นิ้วเรียวยาวนวดขมับให้เขาเบา ๆ “ข้าจะนวดให้ท่านเอง”“ขอบคุณ”ซูจิ่งสิงจับมืออันนุ่มนวลของกู้หว่านเยว่เอาไว้ แล้วอธิบายว่า “ข้ากำลังจัดการกับทหารใต้บังคับบัญชาของหนานหยางอ๋อง”กู้หว่านเยว่หยิบสมุดเล่มเล็กขึ้นมาดู “ท่านวางแผนจะส่งพวกเขาไปที่ไหน?”“ให้ประจำการอยู่แถบแม่น้ำมู่ตัน”กู้หว่านเยว่พยักหน้า หนานหยางอ๋องเข้าร่วมกับพวกเขาแล้ว แน่นอนว่าต้องจัดการกับคนสนิทของเขาให้ดีทั้งสองคนตกลงกันปิดบังเรื่องการตายของฟู่เยียนหรานถึงแม้ฟู่เยียนหรานจะชั่วร้ายอย่างยิ่ง แถมยังแทงข้างหลังหนานหยางอ๋อง แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นลูกสาวแท้ ๆ ของหนานหยางอ๋องสายเลือดตัดไม่ขาด ต่อให้หนานหยางอ๋องรู้ ก็มีแต่จะเพิ่มความทุกข์ใจ ไม่รู้ยังจะดีเสียกว่า“ศพของเยียนหรานเล่า?”“เผาไปแล้ว” ดวงตาของซูจิ่งสิงฉายแววเย็นชาไร้เยื่อใย เมื่อเห็นกู้หว่านเยว่ครุ่นคิด เขาก็ยิ้มแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย“จริงสิ ข้าได้รับจดหมายฉบับหนึ่งจากผู้เฒ่าโจว ข้างในมีจดหมายที่ซ่งเสวี่ยเขียนถึงเจ้าด้วย”“รีบเอามาให้ข้าดูหน่อย”เมื่อได้ยินชื่อของซ่งเสวี่ย ดวงตาของกู้หว่านเยว่ก็เป็นประก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 640

    “ห้ามบอกว่าข้าอยู่ในจวนเด็ดขาด บอกว่าไม่รู้จักข้า”ปรมาจารย์แพทย์หงุดหงิดมาก เหมือนตาแก่ขี้บ่นที่น่าสงสาร เขาก็แค่รักษาคนไข้ ช่วยชีวิตผู้คน ไปทำให้ใครไม่พอใจกัน“ครอบครัวนี้ช่างตามตื๊อไม่เลิก ข้าหนีมาถึงที่นี่แล้ว ยังไม่ยอมปล่อยข้าไปอีก”เดิมทีปรมาจารย์แพทย์คิดว่าเมื่อเขาย้ายออกจากเรือนหลังเล็กที่เคยอยู่ ครอบครัวนั้นคงคิดว่าเขาจากไปแล้ว คงจะเลิกรา ช่างไร้เดียงสาเสียจริง เหอะ ๆ “ไปเร็ว ๆ เข้า อย่าบอกว่ารู้จักข้า”ชิงเหลียนมองไปยังกู้หว่านเยว่ เห็นว่าฮูหยินพยักหน้า จึงรีบออกไป“เป็นครอบครัวของหญิงชราที่ท่านผ่าตัดลำไส้ให้ครั้งก่อนหรือ?”กู้หว่านเยว่กะพริบตา นึกถึงเรื่องที่ปรมาจารย์แพทย์เคยเล่าให้ฟัง แต่ตอนนั้นพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าครอบครัวนั้นจะบุกมาถึงจวนกู้“ใช่พวกนั้นแหละ พวกเขาตามตื๊อข้าไม่เลิก”ปรมาจารย์แพทย์เกาหัว อยากจะวางยาพิษพวกนั้นให้ตายไปซะทั้งหมด“ก่อนที่ข้าจะรักษาก็บอกแล้วว่า ลำไส้ส่วนนั้นเก็บไว้ไม่ได้ ต้องตัดออก พวกเขาก็ตกลงอย่างดี พอผ่าตัดเสร็จ กลับไม่ยอมรับปรมาจารย์แพทย์ผู้นี้ มีชีวิตอยู่มานานหลายปี ยังไม่มีใครกล้าหาเรื่องเขาเลยคนที่รู้จักเขารู้ดีว่าเขานิสัยไ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 641

    ชายคนหนึ่งกำลังดึงเสื้อคลุมยาวของปรมาจารย์แพทย์ “ชดใช้ ชดใช้ค่าเสียหาย!”ข้างกายเขามีหญิงสูงอายุวัยสี่สิบนอนอยู่ กำลังกุมท้องที่อ้วนกลม“โอ๊ย โอ๊ย ถูกตัดลำไส้ ปวดท้องมาก ๆ”ฝูงชนที่รายล้อมชะโงกหน้าเข้ามามุงดูเรื่องคนอื่นปรมาจารย์แพทย์โมโหจนทนไม่ไหวแล้ว “ลำไส้ส่วนนั้นของท่านเน่าแล้ว ควรตัดทิ้งไป ถ้าไม่ตัดออกจะเกิดการอักเสบ ข้าตัดออกให้ท่านคือการช่วยชีวิตท่าน ต้องชดใช้ค่าเสียหายอะไร?”ครอบครัวนี้ควรจะดีใจที่บังเอิญโชคดี เขาอารมณ์ดีกว่าเมื่อก่อนแล้ว ไม่เช่นนั้นคงจัดยาให้ชุดใหญ่แล้ว“ร่างกายของเราได้รับจากพ่อแม่ ตัดลำไส้ทิ้งแล้ว ในอนาคตหากเกิดอะไรผิดพลาดส่งผลกระทบต่อชีวิตแล้วจะทำเช่นไร? ท่านบอกว่าท่านกำลังช่วยชีวิตแม่ของข้า แต่ความจริงแล้วท่านเป็นหมอเถื่อน จงใจทำร้ายแม่ของข้า!” ชายหนุ่มกลอกตาพูดปรมาจารย์แพทย์โกรธจัด “ได้รับจากพ่อแม่อะไร ก่อนตัดทิ้ง ข้าก็ถามหญิงสูงอายุผู้นี้แล้วไม่ใช่หรือ นางก็เห็นด้วย”“ข้าเปล่านะ” สายตาของหญิงอ้วนระยิบระยับ“ข้าไม่ได้เห็นด้วย ใครเห็นด้วยหรือท่านฉวยโอกาสตอนที่ข้าหมดสติ ตัดมันออกให้ข้า”ปรมาจารย์แพทย์ถึงกับพูดไม่ออก แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 642

    เงินยี่สิบตำลึงเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับจวนกู้ สมุห์บัญชีจ่ายแผ่นทองแดงยี่สิบตำลึงออกมาอย่างรวดเร็ว ยังวางลงบนถาดโดยเฉพาะ กองไว้เหมือนเนินเขาเล็ก ๆเมื่อครอบครัวหญิงอ้วนเห็นเงินจำนวนมากขนาดนี้ ดวงตาก็เป็นประกายหญิงอ้วนเลียปาก อยากจะตรงเข้าไปคว้าเงินมาใจจะขาด แต่เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังแกล้งป่วย ก็รีบนอนลงร้องโอดโอยเหมือนเดิมลูกชายของหญิงอ้วนไม่ทันคิดอะไรมากไปกว่านี้แล้ว พลางถูมือ “รวยแล้วๆ!”“ท่านแม่ ให้ข้าสักห้าตำลึงได้ไหม” ภรรยาของชายคนนั้นพูดเสียงเบา “ข้าอยากไปหาหมอ จะได้มีลูกให้ท่านพี่สักคนไว ๆ”“ให้ข้า ให้ข้าไปซื้อขนมถังหูลู่!” ลูกชายตัวน้อยเช็ดน้ำลายทั้งครอบครัวไม่ได้ปิดบังความโลภที่มีต่อเงินยี่สิบตำลึงนั้นเลย ถึงกับปรึกษากันว่าจะใช้จ่ายเงินอย่างไรต่อหน้าทุกคนด้วยผู้คนที่มุงดูเริ่มรู้สึกขึ้นเรื่อย ๆ ว่ามันเริ่มไม่ถูกจริตแล้ว นี่ตั้งใจจะเล่นงานหมอเถื่อน หรือพุ่งเป้าไปที่เงินกันแน่?ดูสายตาที่เปล่งประกายนั่นสิ จับจ้องมาที่เงินอย่างชัดเจน หน้าตาอย่าให้มันออกชัดเจนจนเกินไป“เอาเงินมาให้พวกข้าเร็วเข้า”ชายคนนั้นถูมือ แล้วรีบเดินไปที่หน้าสมุห์บัญชีกู้หว่านเยว่ส่งสายตาไป ชิ

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1440

    กู้หว่านเยว่ตั้งใจฟังทั้งสองคนไม่ได้พบกันนาน เมื่อพูดคุยกันจบ ก็อดใจไม่ไหวอีกต่อไป โอบกอดกันและกันซูจิ่งสิงประคองใบหน้าของกู้หว่านเยว่ขึ้นมาจุมพิตความรู้สึกที่แปลกใหม่แต่ก็คุ้นเคยนั้น ทำให้นางตัวสั่นเล็กน้อยนางไม่อาจปฏิเสธได้ โอบเอวของบุรุษตอบจุมพิตอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น“น้องหญิง คิดถึงเจ้าเหลือเกิน”เขาจุมพิตที่ริมฝีปากของนาง พัวพันอยู่ที่ข้างหูของนาง ทำให้นางรู้สึกอ่อนระทวยไปทั้งตัวทั้งสองคนโอบกอดกันและกัน และค่อย ๆ เกิดความรู้สึกเคลิบเคลิ้ม“เราออกไปกันให้หมดเถอะ”ชิงเหลียนยิ้มอย่างรู้ใจ ดึงหงเจาปิดประตูเรือนแล้วเดินออกไปบังเอิญพบกับฉู่เฟิงที่เดินมาพอดี“ชิงเหลียนไม่เจอกันนานเลยนะ ช่วงนี้เจ้าดูผิวคล้ำขึ้นแล้ว”ทันทีที่เปิดปากพูด ก็ทำให้ชิงเหลียนลงมือทุบตี“ปากสุนัขพูดจาดี ๆ ไม่ได้ ไม่รู้จักทักทายก็ไม่ต้องทัก”“โอ๊ย เจ็บ ๆ อย่าตี”ฉู่เฟิงกุมศีรษะร้องขอความเมตตา“แม่นาง ข้ามีธุระจะเข้าไปหาท่านอ๋อง โปรดปล่อยข้าไปเถิด”ชิงเหลียนหยุดมือ แค่นเสียงหัวเราะ“ตอนนี้ท่านอ๋องกับพระชายากำลังยุ่งอยู่ แนะนำให้เจ้ารออีกครึ่งชั่วยามค่อยเข้าไป”“ยุ่งอยู่หรือ?”อ้อ แม้ว่าฉู่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1439

    เฉิงทั่วมองไปยังลูกธนูที่อยู่บนไหล่“กำลังรบของเมืองเหยาไม่อาจดูแคลนได้”เขากัดฟัน ดึงลูกธนูที่อยู่บนไหล่ออกมา ถือไว้ในมือแล้วพิจารณา“ลูกธนูนี้ ไม่เหมือนกับของในกองทัพเรา”ระยะยิง กลับไกลกว่าของคนทูเจวี๋ยเสียอีก“รีบห้ามเลือดให้ท่านแม่ทัพเร็วเข้า”รองแม่ทัพหันกลับไปหาหมอทหาร แต่กลับพบว่าหมอทหารถูกจับเป็นเชลยแล้ว พี่น้องที่หลบหนีออกมาได้เหลืออยู่ไม่มากเขาจึงทำได้เพียงลงมือด้วยตนเอง ทำแผลให้กับเฉิงทั่ว“เราสู้พวกเขาไม่ได้ ยอมจำนนเถอะ”เฉิงทั่วกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาเป็นแม่ทัพเก่า ย่อมรู้ดีว่า เวลานี้หากต่อต้านไป ก็เป็นเพียงการดิ้นรนก่อนตายเท่านั้นยอมจำนนไม่ได้น่าอับอายพาชาวเมืองซุ่ยโจวไปสู่ความตาย นั่นถึงจะเรียกว่าน่าอับอาย“ท่านแม่ทัพ เราจะยอมจำนนจริง ๆ หรือ?”“จริง!”เฉิงทั่วพยักหน้าอย่างแรงสามวันต่อมา หนังสือยอมจำนนถูกส่งมาถึงกู้หว่านเยว่ผู้ที่มาส่งหนังสือยอมจำนนเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง สวมชุดเกราะ ท่าทางองอาจผึ่งผายอย่างยิ่ง“เจ้าคือเฉิงเหลียน?”กู้หว่านเยว่พลิกหนังสือยอมจำนนที่อยู่ในมือเฉิงทั่วมีลูกชายหนึ่งคน ลูกสาวหนึ่งคน ลูกชายเฉิงซินยังอยู่ในมือของนาง“

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1438

    บังเอิญว่าช่วงนี้เฉิงทั่วยุ่งอยู่กับการเตรียมบุกโจมตีเมืองเหยา จึงไม่มีเวลามาสนใจเฉิงซินเขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่า บุตรชายแอบหนีออกไปนานแล้วเฉิงทั่วยึดหลักการที่ว่ายิ่งเร็วก็ยิ่งดี จึงนำทหารไปโจมตีเมืองเหยาอย่างรวดเร็วเดิมทีเขาคิดว่า เมืองเหยาในตอนนี้น่าจะเหลือเพียงกลุ่มทหารชรา อ่อนแอ และทหารที่บาดเจ็บเขาไม่ต้องเปลืองแรง ก็สามารถยึดเมืองเหยาได้อย่างง่ายดายทว่าเมื่อบุกโจมตี เฉิงทั่วก็ตกตะลึงสิ่งที่ยิงลงมาจากบนกำแพงเมืองกลับไม่ใช่ธนู แต่เป็นปืนใหญ่ปืนใหญ่มีอานุภาพรุนแรง รัศมีทำลายล้างกว้างถึงสามสิบเมตรเมื่อปืนใหญ่หนึ่งลูกตกลงพื้น ทหารหลายสิบนายก็ถูกระเบิดกระเด็นขึ้นฟ้ายังไม่หมดแค่นี้เมืองเหยานี้ดูเหมือนจะรู้กระบวนทัพของพวกเขาล่วงหน้าแล้ว กดดันพวกเขาอย่างหนักหน่วง ตั้งแต่ข้างหน้าไปจนถึงข้างหลัง ไม่เหลือช่องว่างให้ตอบโต้แม้แต่น้อยแทบจะเป็นการบดขยี้ฝ่ายเดียวจริง ๆ “ถอยทัพ รีบถอยทัพ”เฉิงทั่วรู้ดีว่าการรบครั้งนี้ไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ จึงรีบสั่งให้คนวิ่งหนีทว่ากู้หว่านเยว่เตรียมการไว้พร้อมแล้ว จะปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้อย่างไร?นางสั่งให้คนขุดคูยาวตามเส้นทางหลบหนีของ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1437

    มู่หรงฉางเล่อหันหลังกลับไป แล้วเตะคนที่อยู่ด้านหลังออกมา“โอ๊ย”บุรุษผู้นั้นล้มลงกับพื้น ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด“คุณหนูโปรดไว้ชีวิตด้วย คุณหนูปล่อยข้าไปเถิด”กู้หว่านเยว่เห็นเขาถูกรังแกจนน่าสงสาร อีกทั้งยังเป็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม“คนผู้นี้คือ?”“พี่สะใภ้ เขาคือบุตรชายสุดที่รักของเฉิงทั่ว แม่ทัพผู้รักษาการเมืองซุ่ยโจว”มู่หรงฉางเล่อแสดงสีหน้าภาคภูมิใจ กู้หว่านเยว่กลับคาดไม่ถึงเลยว่า เด็กสาวคนนี้จะเก่งกาจขนาดนี้ ถึงกับจับบุตรชายของเฉิงทั่วมาได้“จริงหรือ?”“แน่นอนว่าจริง” มู่หรงฉางเล่อถูจมูก “พี่สะใภ้ ท่านอย่าได้ดูถูกข้า ข้ารู้จักเขา เขาชื่อเฉิงซิน”“เขาเป็นบุตรชายของเฉิงทั่วหรือ เหตุใดดูแล้ว ไม่เหมือนบุตรชายของแม่ทัพเลยสักนิด”ขี้ขลาดตาขาวเช่นนี้ กลับเหมือนพวกไร้ประโยชน์เสียมากกว่า“นี่มีสาเหตุ ท่านฟังข้าอธิบาย”มู่หรงฉางเล่อเอียงศีรษะอธิบายที่แท้เฉิงซินผู้นี้เป็นบุตรชายสุดที่รักของเฉิงทั่ว ท่านแม่ทัพเฉิงมีบุตรชายเพียงคนเดียวหวังจะให้เขาสืบสกุล จึงทะนุถนอมราวกับแก้วตาดวงใจเมื่อเขาร้องว่าลำบาก ก็ไม่ให้เขาไปฝึกฝนในค่ายทหารเมื่อเขาร้องว่าเหนื่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1436

    “คนแปลกหน้า เจียงม่าน เหตุใดเจ้าถึงพูดออกมาได้ง่ายดายเช่นนี้?”เมื่อเห็นว่าเจียงม่านจะไป เขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ดึงนางเข้ามา แล้วจูบลงไปที่ริมฝีปากของนางอย่างแรงเจียงม่านเบิกตากว้างนางอยากจะผลักฮั่วจี๋ออก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะจมดิ่งลงไป“ฟังข้า ข้าไม่สนใจฐานะของเจ้า และไม่สนใจอดีตของเจ้า ข้าสนใจเพียงคนที่อยู่ตรงหน้าข้า”ฮั่วจี๋โอบกอดนางไว้ในอ้อมแขนด้วยความทะนุถนอม“ท่านพ่อท่านแม่และพวกพี่ชายไม่อยู่แล้ว ตอนนี้ คนเดียวที่เกี่ยวข้องกับข้าก็มีแค่เจ้า”เขาจะไม่มีวันลืมว่า เจียงม่านแบกเขาออกมาจากกองศพได้อย่างไรการกลายเป็นหญิงคณิกา ก็ไม่ใช่สิ่งที่นางเต็มใจเขาเชื่อว่าด้วยนิสัยใจคอของนาง หากเลือกได้ นางไม่มีทางยอมตกเป็นของหอนางโลมอย่างแน่นอน“ฟังข้านะ กลับไปกับข้า ให้ข้าแต่งเจ้าเป็นภรรยา ปกป้องเจ้าไปตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่”ฮั่วจี๋ประคองใบหน้าของเจียงม่าน ในเวลานี้ เขามองเห็นหัวใจของตนเองอย่างชัดเจนเจียงม่านจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา “ทะ ท่านจะไม่เสียใจหรือ?”“มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง”เจียงม่านโผเข้าสู่อ้อมกอดของเขาในทันที กอดเอวที่แข็งแรงของเขาแน่น ให้นางได้เดิมพันอีกสักครั้งเถิด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1435

    เซวียฉิงถูกเขาบีบคอจนหายใจไม่ออก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนก“อึก...พี่สาม ไว้ชีวิต...”ใบหน้าของนางเขียวคล้ำ ดูเหมือนว่าใกล้จะขาดใจเต็มทีสาวใช้คาดไม่ถึงว่าฮั่วจี๋จะกล้าลงมือหนักถึงเพียงนี้ ตกใจจนคุกเข่าลงกับพื้น“คุณชายฮั่วโปรดไว้ชีวิตด้วย คุณหนูของข้านิสัยเรียบง่ายบริสุทธิ์ ไม่ได้วางแผนก่อกวน”นางพูดตะกุกตะกัก“เป็นเจียงม่านผู้นั้นที่จากไปเอง ไม่เกี่ยวข้องกับคุณหนูของพวกเรา”ประโยคเดียวกลับทำให้เซวียฉิงเผยพิรุธฮั่วจี๋สะบัดเซวียฉิงออกไป เขาไม่ได้คิดจะบีบคอเซวียฉิงให้ตายจริง ๆ เพียงแต่อยากข่มขู่นายบ่าวทั้งสองคนเท่านั้น“แม่นางเจียงเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้า หากใครไปรบกวนนางอีก อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”เขาไม่สนใจเซวียฉิงอีก พลิกตัวขึ้นไปบนรถม้า แล้วให้มู่หรงฉางเล่อรีบออกเดินทาง“พี่สาม!”เซวียฉิงส่ายหน้าแล้วไอบ้าไปแล้วบ้าไปแล้วจริง ๆ !ฮั่วจี๋รู้ว่าเจียงม่านเป็นหญิงคณิกาแล้ว กลับไม่หลีกเลี่ยง ยังจะตามไปอีก?เจียงม่านทำอะไรกับเขากันแน่?“คุณหนู ทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”สาวใช้เดินมาอยู่ข้างกายเซวียฉิง“พี่สามไม่ฟังข้า ข้าก็ทำอะไรไม่ได้ แต่กับเจียงม่าน ข้ามีวิธี”เซว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1434

    เซวียฉิงไม่ยอม“ท่านไม่บอก ข้าก็รู้ว่าท่านจะไปทำอะไร”เซวียฉิงมองเข้าไปในตาของฮั่วจี๋ แล้วรีบเอ่ยถาม“ท่านอยากจะไปหญิงสาวที่ช่วยชีวิตท่านไว้ใช่หรือไม่?”“เจ้ารู้จักนางหรือ?”ฮั่วจี๋หรี่ตาแล้วมองไปที่เซวียฉิง สายตาที่เฉียบคมนั้น ทำให้เซวียฉิงรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยเมื่อนึกถึงอนาคตของตนเอง เซวียฉิงก็รวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยขึ้น“ข้าย่อมรู้จักนาง นางช่วยชีวิตท่านกลับมา ท่านยังพานางกลับมาที่จวนด้วยตัวเอง ข้าจะไม่รู้ได้อย่างไร?”ฮั่วจี๋พยักหน้า“ในเมื่อเจ้ารู้ว่านางเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้า ก็รีบหลบไป”“ก็เป็นเพราะรู้ ถึงได้ไม่หลบ”เซวียฉิงกัดริมฝีปาก ทันใดนั้นก็เอ่ยขึ้น“พี่สาม เพื่อชื่อเสียงของท่าน ข้าก็ไม่สามารถปล่อยให้ท่านไปหานางได้”“เพราะเหตุใด?”ฮั่วจี๋ยิ่งสงสัยมากขึ้น เขารู้สึกว่าคำพูดของอีกฝ่ายมีนัยแอบแฝง“เพราะฐานะของนาง”เซวียฉิงเหลือบมองฮั่วจี๋แวบหนึ่ง“นะ นางเป็นหญิงคณิกา”“เจ้ากำลังพูดจาเหลวไหลอะไร?”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ฮั่วจี๋ก็โกรธมากจริง ๆ กระโดดลงมาจากรถม้าโดยตรง แล้วจับคอเสื้อของเซวียฉิงอย่างแรงเซวียฉิงตกใจกลัวเป็นอย่างมาก“พี่สาม เหตุใดท่านถึง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1433

    “ท่านแม่ให้ข้าไปหาเขา ข้าก็ไปแล้ว แต่กลับต้องอับอายขายหน้าต่อหน้าเขาอย่างน้อยก็น่าจะให้ข้าพักสักสองสามวัน เหตุใดวันนี้ถึงให้ข้าไปอีกแล้ว?”จวนสกุลเซวีย เซวียฉิงนั่งอยู่ในห้องด้วยความโมโหนางถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่ที่สกุลฮั่วเป็นเวลาหนึ่งถ้วยชา แม้ว่าการลงโทษนี้จะไม่หนักหนาแต่ก็น่าอับอายเซวียฉิงก็เป็นคนมีหน้ามีตา พอกลับมาก็เก็บตัวอยู่ในห้อง ทำให้นายหญิงเซวียต้องมาปลอบนาง“เจ้าต้องไป”นายหญิงเซวียโอบกอดนาง“เด็กดี ฟังข้านะ ตอนนี้ฮั่วจี๋เป็นคนโปรดของพระชายา หากเจ้าสามารถแต่งงานกับฮั่วจี๋ได้โดยเร็ว ฐานะของสกุลเซวียพวกเราในเมืองเหยาก็จะมั่นคง”คนของสกุลเซวียรู้สึกผิด เพราะตอนที่พวกโจรบุกเมือง พวกเขาไม่ได้ออกแรงช่วยเหลืออะไรเลย“ท่านแม่รู้ได้อย่างไรว่า พวกเขาจะต้องชนะ?”เซวียฉิงเบ้ปากเอ่ยขึ้น“หากราชสำนักชนะเล่า? เช่นนั้นพวกเราจะไม่สูญเปล่า แถมยังเอาตัวเองเข้าไปพัวพันอีกหรือ?”“ราชสำนักไม่มีทางชนะ”นายท่านเซวียกลับมาจากข้างนอก กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“ครั้งนี้ราชสำนักไม่มีทางชนะแล้ว”นายหญิงเซวียและเซวียฉิงได้ยินดังนั้น ต่างมองเขาด้วยความสงสัย“ท่านพี่/ท่านพ่อ เหตุใดถึงพ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1432

    “ข้าไปดูดินปืนได้หรือไม่?”ฮั่วจี๋กลืนน้ำลาย เขาอยากรู้อยากเห็นมากจริง ๆ หวังปี้มองไปยังกู้หว่านเยว่ กู้หว่านเยว่พยักหน้า“ได้ เดี๋ยวข้าจะพาท่านไปดู”“ขอบคุณมาก”อวิ๋นมู่ยิ้มเล็กน้อย กู้หว่านเยว่มองไปที่เขา “เดินทางมาเหนื่อยยากลำบาก เจ้าทานอะไรหรือยัง? ข้าจะพาเจ้าไปทานข้าวนะ”ตอนนี้เป็นเวลาอาหารเย็นพอดี“ได้”อวิ๋นมู่พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ทันใดนั้นก็มีศีรษะโผล่ออกมาจากด้านหลัง ทำให้กู้หว่านเยว่ตกใจ“พี่สะใภ้!”มู่หรงฉางเล่อแต่งกายเป็นบุรุษอีกแล้ว คราวนี้ปลอมตัวเป็นบ่าวรับใช้ ติดตามอยู่ด้านหลังอวิ๋นมู่“เจ้ามาได้อย่างไร?”กู้หว่านเยว่ตกใจ เด็กสาวคนนี้ไม่รออยู่ที่เจดีย์หนิงกู่อย่างสงบ วิ่งมาที่สนามรบทำไมกัน?“ข้ามาช่วย!”มู่หรงฉางเล่อทุบหน้าอกของตนเอง อย่าเห็นว่าเด็กสาวคนนี้อายุน้อย แต่ก็เป็นคนที่รักชาติบ้านเมืองเช่นกัน“แม้ว่าข้าจะเข้าไปในสนามรบไม่ได้ แต่ข้าได้ยินท่านแม่ข้าพูดว่า ฝ่ายสนับสนุนก็มีหลายอย่างที่สามารถช่วยได้”อวิ๋นมู่พยักหน้าเห็นด้วย“ครั้งนี้ต้องขอบคุณนาง ถึงได้ส่งดินปืนมาได้อย่างปลอดภัย”ที่แท้ระหว่างทางพวกเขาเจอกับพวกโจร อาศัยไหวพริบของมู่หรงฉางเล่อ ไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status