แชร์

บทที่ 456

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“หากฮูหยินจดจำบุญคุณของข้าไว้จริง มิสู้พบผู้อาวุโสลำดับสามและพูดดีๆ”

เรื่องกู้หว่านเยว่เรียกผู้ว่าการอำเภอสองสามท่านไปที่จวนโหว ฮูหยินสามเองก็ได้ยินแล้ว นางได้ยินผู้อาวุโสลำดับสามสบถด่าอยู่ภายในบ้านนานทีเดียว

เพียงกู้หว่านเยว่เอ่ยปาก นางก็เข้าใจความนัยแล้ว รับคำเสียงเข้ม

“แม่นางกู้วางใจได้ ข้ามีแผนแล้ว”

พูดจบ นางลอบมองซูจิ่งสิงทางด้านข้างแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าซูจิ่งสิงเป็นปกติ ลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

“เช่นนั้นข้าขอลาแล้ว ฮูหยินสาม ไว้พบกันใหม่”

เป้าหมายสำเร็จแล้ว กู้หว่านเยว่ไม่มีเหตุผลให้อยู่ต่อ พยักหน้าบอกลา

“อืม”

ฮูหยินสามมองเงาคนทั้งสองพลางถอนหายใจ นึกบางอย่างขึ้นได้ รีบหมุนตัวไปพบผู้อาวุโสลำดับสาม

“เกิดเป็นคนต้องฉลาด เมื่อแรกชิวเตี๋ยจะแต่งงานกับทังต่าให้ได้ ข้าคิดว่าทังต่ามิใช่คนดี ความจริงพิสูจน์แล้ว เป็นเช่นนั้นดังคาด บัดนี้ข้าคิดว่าแม่นางกู้และซูจิ่งสิงมิใช่คนรังแกง่าย หวังว่านายท่านจำไม่เป็นปรปักษ์กับพวกเขาอีก หาไม่แล้วเป็นไปได้มากว่าคนบาดเจ็บก็คือตนเอง”

ฮูหยินสามพร่ำบ่นไปแล้วหนึ่งยก หลี่เฉิงเต๋อกลับไม่เก็บมาใส่ใจ เบ้ปากพูดอย่างโอหัง

“เจดีย์หนิงกู่เป็นของสกุลหลี่ พวกเขาย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 457

    นางเพียงกวาดทรัพย์สินคลังส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ มิได้แตะต้องท้องพระคลังหลวงเลยแม้แต่น้อย เหตุใดราชสำนักไม่บรรเทาทุกข์เล่า?หรือว่าฮ่องเต้ชั่วนำเงินจากท้องพระคลังหลวงออกมาเสพสุขแล้ว?นึกถึงจุดจบของคนสกุลจี้ ทันใดนั้นนางคิดว่านี่เป็นไปไม่ได้สายตาซูจิ่งสิงดำทะมึน เอ่ยเสียงเรียบ “หากฮ่องเต้ชั่วโง่เขลาเบาปัญญาเพียงนี้ เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องประทับบนบัลลังก์มังกรอีกต่อไปแล้ว”เขาเสี่ยงอันตรายเข่นฆ่าศัตรูในสนามรบปกป้องบ้านเมือง มิใช่เพื่อให้ฮ่องเต้ชั่วทำลายเช่นนี้“ต้องเร่งมือสร้างเจดีย์หนิงกู่เสียแล้ว”กู้หว่านเยว่ถูปลายนิ้วเล็กน้อย รอสร้างเสร็จแล้ว ก็สามารถมอบดินแดนในอุดมคติแห่งหนึ่งให้ผู้ลี้ภัยได้ขณะเดียวกัน ก็สามารถรับสมัครทหารซื้อม้าได้อย่างอิสระ นางหวังอย่างยิ่งให้ถึงวันนี้“เอาล่ะ เหลืออีกเพียงครั้งเดียวแล้วเจ้าค่ะ”การฝังเข็มจบลงโดยไม่รู้ตัวกู้หว่านเยว่เก็บเข็มเงิน พูดยิ้มๆ“หลังฝังเข็มครั้งสุดท้าย นายท่านผู้เฒ่าก็สามารถหลุดพ้นจากผงพระจันทร์เสี้ยวได้แล้ว นับแต่นี้ไปก็ไม่ต้องถูกคนบังคับอีก”นายท่านผู้เฒ่าอวิ๋นรู้ว่าพิษภายในร่างกายตนใกล้ถูกถอนออกตั้งนานแล้ว แต่ได้ยินกู้หว่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 458

    ชิงเหลียนดื่มน้ำอุ่น ถอนหายใจเสียงแผ่ว “ฮูหยินช่างเป็นคนใจดีมีเมตตาโดยแท้ ดีต่อผู้อยู่ใต้อาณัติอย่างพวกเราเพียงนี้ เพราะเหตุนี้นายท่านถึงชอบฮูหยิน พวกเขาก็คือคู่รักสวรรค์สร้าง”หงเจากัดเกี๊ยวหนึ่งคำ “ภายภาคหน้าพวกเราต้องปรนนิบัติฮูหยินดีๆ”“เจ้าพูดถูก ภายภาคหน้าพวกเราต้องปรนนิบัติฮูหยินดีๆ”ทั้งสองกินอาหารเสร็จ รีบพิงรถม้าพักผ่อนเติมพลังภายในรถม้า กู้หว่านเยว่เข้าระบบอ่านตำราวิธีเก็บน้ำมันก๊าด รอจนกระทั่งร่างกายรู้สึกง่วงขึ้นมาบ้างแล้ว ถึงออกมานอนหลับวันต่อมา ฟ้าสว่าง รถม้าออกเดินทางไปยังหมู่บ้านสือหานต่อก่อนฟ้ามืด รถม้าก็นับว่ามาถึงภายนอกหมู่บ้านสือหานแล้วทว่าขบวนคนกลับถูกฉู่เฟิงขวางไว้ก่อนเข้าหมู่บ้านสือหาน“นายท่าน มู่หรงอวี้ลอบพาเถาเอ๋อร์เข้าหมู่บ้านสือหานแล้ว”กู้หว่านเยว่ได้ยินก็เลิกคิ้ว นางรู้มู่หรงอวี้ต้องไม่ยอมอยู่เฉย วางแผนชั่วอยู่ภายใจอย่างแน่นอนนางเดาได้ถูกต้องดังคาด นี่เพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เขาก็มิอาจอดทนไหวมายังหมู่บ้านสือหานแล้ว“รู้ว่าเขาต้องการทำอันใดหรือไม่?”“มองดูแล้วคือกำลังวางแผนอะไร” ฉู่เฟิงพูดอย่างกังวล “เถาเอ๋อร์คล้ายมอบอาวุธร้ายกาจมากบางอย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 459

    “เคลื่อนย้ายในพริบตาเข้าไป”กู้หว่านเยว่ขยิบตาให้ซูจิ่งสิง จับมือซูจิ่งสิงไว้ ทั้งสองคนเคลื่อนย้ายในพริบตาเข้าเรือนสกุลเฉินโดยตรงยังดีเคลื่อนไหวว่องไวมากเพียงพอ ไม่ถูกคนของมู่หรงอวี้พบเข้า“ขึ้นหลังคา”กู้หว่านเยว่ชี้ขึ้นไปบนหลังคา เรือนส่วนใหญ่ของหมู่บ้านสือหานล้วนคือเรือนหิน บ้านหัวหน้าหมู่บ้านเฉินอาจไม่เป็นเช่นนั้น นั่นคือเรือนดินโคลนอบอุ่นยิ่งกว่าทั้งสองมาถึงหลังคา กู้หว่านเยว่เปิดกระเบื้องและมองลงไปภายใต้แสงเทียน มู่หรงอวี้กำลังจับมือเถาเอ๋อร์ เอ่ยกับนางอย่างหวานซึ้ง“เถาเอ๋อร์ เจ้าคือดาวนำโชคของข้าโดยแท้ หากครั้งนี้ทำสำเร็จ ข้าจะถวายฎีกาต่อฝ่าบาทแต่งตั้งเจ้าเป็นพระชายาของข้า”“เพคะ”ใบหน้าเถาเอ๋อร์เผยแววเขินอาย“ท่านอ๋องวางใจได้ มีอาวุธลับนี้แล้ว ท่านอ๋องต้องไม่แพ้เป็นแน่ ยังไม่ต้องพูดถึงองครักษ์ลับที่ซูจิ่งสิงวางไว้ในหมู่บ้านสือหาน ต่อให้เขามาด้วยตนเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาวุธลับนี้”ภายในถ้อยวาจาของเถาเอ๋อร์เปี่ยมความเชื่อใจต่ออาวุธลับนี้มากทำเสียจนกู้หว่านเยว่แปลกใจมาก มองหนึ่งรอบแล้วกลับไม่เห็นว่าอาวุธลับอยู่ที่ใด นางยื่นมือโรยผงยาสลบลงไปโดยตรงเห็นมู่หรงอวี้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 460

    ซูจิ่งสิงขมวดคิ้วเอ่ยถามเขาคิดว่าครั้งนี้มู่หรงอวี้พาคนมาไม่น้อย หากไม่จัดการให้หมดในคราวเดียว ภายภาคหน้าก็ไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของนางหยางและพวกซูจิ้งได้มิสู้อาศัยครั้งนี้ทำให้มู่หรงอวี้เจ็บหนักเสียเลย“มี”กู้หว่านเยว่รู้ชัดถึงความนัยของซูจิ่งสิงนางหยิบปืนไฟขึ้นมา เล่นอยูในมือครู่หนึ่ง จากนั้นหยิบสลักเกลียวป้องกันเหล็กตกออก โยนใส่กระเป๋าสุดท้ายให้ซูจิ่งสิงวางกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งอย่างแฝงเจตนาร้าย“เอาของสิ่งนี้ไป ปืนไฟก็หมดประสิทธิภาพแล้วหรือ?”ซูจิ่งสิงเอ่ยถามอย่างสงสัย“แน่นอน ไม่เพียงหมดประสิทธิภาพ ยังทำให้มู่หรงอวี้มีปัญหาอีกด้วย”กู้หว่านเยว่เผยรอยยิ้มชั่วร้าย เอียงศีรษะพูดอย่างซุกซน“เดิมทีของสิ่งนี้ก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว เถาเอ๋อร์กล้าให้ เขาเองก็กล้าใช้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ให้เขาสัมผัสดูสักหน่อย อะไรเรียกว่าแค่เช็ดปืนก็โดนลูกหลง”“ได้ เช่นนั้นข้าใส่กลับไป”ซูจิ่งสิงพยักหน้า เขาเชื่อภรรยาตนอย่างไร้ข้อกังขา ในเมื่อน้องหญิงพูดว่าไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ไม่เป็นไรซูจิ่งสิงใส่ปืนกลับเข้าตัวมู่หรงอวี้ กู้หว่านเยว่ค้นตัวมู่หรงอวี้อีกครั้ง พบว่าเขาไม่มีอะไรเหลืออยู่แล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 461

    เขากลัวที่จะสูญเสีย“นายท่าน อาวุธลับนี้มีสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไปเท่านั้น มีมันอยู่ ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ท่านได้”เถาเอ๋อร์ไม่ชอบให้สิ่งของของตนถูกสงสัย มันทำให้นางอับอายนับตั้งแต่ที่กู้หว่านเยว่ช่วยซูจิ่งสิงไว้ โครงเรื่องทั้งหมดก็เปลี่ยนไปซูจิ่งสิงแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แต่ตัวเอกชายคนเดิม มู่หรงอวี้ที่คาดว่าจะมีโชคมีลาภ กลับเริ่มเสื่อมถอยลงราวกับเดินตกหน้าผาเขาไม่เพียงสูญเสียสมบัติส่วนตัวไปหลายชิ้น แต่คนที่ควรจะเป็นผู้ช่วยของเขาก็ถูกกู้หว่านเยว่แย่งชิงไปทีละน้อยทั้งหมดนี้ เกี่ยวข้องกับกู้หว่านเยว่อย่างสลัดไม่หลุดทว่า เถาเอ๋อร์ในตอนนี้ไม่มีท่าทางตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย เพราะนางได้เปิดใช้งานนิ้วทองแล้วนางมีนิ้วทอง ทั้งยังเป็นผู้เขียนหนังสือต้นฉบับ นางต่างหากที่เป็นผู้ดำรงอยู่ที่สูงส่งที่สุดกู้หว่านเยว่เป็นเพียงสิ่งมีชีวิตเล็กจ้อย ที่ถูกลิขิตมาให้นางได้เหยียบย่ำไว้ใต้ฝ่าเท้า“เจ้าอย่าโกรธ ข้าแค่กังวลนิดหน่อย”มู่หรงอวี้สัมผัสปืนไฟในมือของเขาอย่างระมัดระวัง พลางคิดว่า“เถาเอ๋อร์ เจ้าว่า ในโลกใบนี้ จะมีปืนกระบอกที่สองหรือเปล่า?”“เป็นไปไม่ได้แน่นอน!”เถาเอ๋อร์กล่าวอย่างตื่นต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 462

    สิ่งที่กู้หว่านเยว่คิดก็คือ ครั้งนี้มู่หรงอวี้พาคนมาจำนวนมาก วางสายลับไว้ในหมู่บ้านสือหานเรียบร้อยแล้วหากนางและซูจิ่งสิงเดินเข้าหมู่บ้านไปอย่างหยิ่งยโส คนของมู่หรงอวี้ย่อมต้องค้นพบพวกเขาแน่นอนถ้าให้อวิ๋นมู่พาผู้เฒ่าอวิ๋นเข้าหมู่บ้านไปก่อน แล้วนางกับซูจิ่งสิงค่อยเดินตามเข้าไปเงียบๆ คงจะดีกว่าด้วยวิธีนี้ ศัตรูก็จะอยู่ในที่สว่าง ส่วนพวกเราก็จะอยู่ในที่มืด ลงมือกระทำการง่ายกว่า“พอเจ้าไปถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านก็บอกเขาว่าเจ้าเป็นคนของเขา หัวหน้าหมู่บ้านย่อมปล่อยให้เจ้าเข้าไปแน่นอน”อวิ๋นมู่ถูกคำว่า “คนของข้า” ทำให้สั่นไหว จากนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว“ได้เลย ข้าฟังเจ้า”ในเมื่อกู้หว่านเยว่เตรียมการไว้เช่นนี้ นางย่อมต้องมีเหตุผลของนาง อวิ๋นมู่จึงเลือกที่จะเชื่อฟังโดยดีกู้หว่านเยว่พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แล้วหันไปขอให้ชิงเหลียนและหงเจาพาพวกเขาไปหาหัวหน้าหมู่บ้านโจวหลังจากนั้น นางและซูจิ่งสิงพร้อมกับฉู่เฟิง ก็แอบเข้าไปในหมู่บ้านสือหานอย่างเงียบๆ ทั้งสองเดินเท้ากลับบ้านในเวลานี้ บ้านมุงจากหลังเดิมที่ตีนเขาด้านหลังถูกรื้อ แทนที่ด้วยบ้านอิฐเป็นที่เรียบร้อยกู้หว่านเยว่ตาม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 463

    แต่กู้หว่านเยว่ยืนกรานที่จะช่วยเหลือซูจิ่งสิง อีกทั้งครั้งนี้มู่หรงอวี้ แตะโดนเส้นตายของนางแล้ว“ก่อนที่จะไป ท่านไปบอกคนอื่นให้พวกเขาหลบเลี่ยงด้วยนะเจ้าคะ จะได้ไม่ต้องโดนลูกหลงไปด้วย”ลูกสะใภ้หลักแหลม ซูจิ่งสิงก็ปกป้องเท่าชีวิต ผู้เฒ่าทั้งสองทำอะไรไม่ได้แล้ว“เอาล่ะ พวกเราฟังเจ้า แต่เจ้าต้องระวังนะ หากพ่ายแพ้ก็กลับมาซ่อนตัวอยู่ในอุโมงค์ด้วยกัน”ขณะที่พูด ใบหน้าของนางหยางก็ยังคงเต็มไปด้วยความกังวลพวกเขาทั้งสองไม่รู้ว่ากู้หว่านเยว่มีความสามารถอะไร ดังนั้นการเป็นกังวลเช่นนี้ จึงเป็นเรื่องปกติส่วนกู้หว่านเยว่ก็ที่จะอธิบาย คงไม่อาจบอกทั้งสองคนได้ตนเองมีมิติในร่าง ไม่มีทางเป็นอะไรกระมัง?เวลาไม่คอยท่า ทั้งสองอธิบายให้นางหยางและซูจิ้งเสร็จแล้วนางหยางก็ออกไปบอกครอบครัวอื่นๆ ให้ผู้ญิงและเด็กเล็กซ่อนตัวให้ดี โดยเฉพาะตระกูลเหยียนที่ไม่มีวรยุทธ์ ย่อมต้องซ่อนไว้ให้มิดชิดเมื่อเห็นนางหยางและซูจิ้งเข้าไปในอุโมงค์แล้ว กู้หว่านเยว่ก็พาซูจิ่งสิงไปที่ห้องของพวกเขานี่ก็คือห้องนอนใหญ่ของพวกเขาในระหว่างก่อสร้าง กู้หว่านเยว่ได้ออกแบบไว้โดยเฉพาะไว้บนภาพวาด เป็นห้องสำหรับพวกเขาสองคนเตียงนุ่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 464

    กู้หว่านเยว่ดึงซูจิ่งสิงให้นอนลงบนเตียง แอบรอให้คนของมู่หรงอวี้มาถึงไม่รู้ว่ารอนานแค่ไหน บนเตียงหลังนุ่มที่รองรับหลัง จู่ๆ ซูจิ่งสิงก็สะกิดกู้หว่านเยว่ที่เคลิ้มหลับไปเบาๆ“น้องหญิง พวกเขามาแล้ว”กู้หว่านเยว่ตั้งใจฟัง ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกหน้าต่างจากนั้น กระบี่เล่มคมก็พุ่งเข้ามาจากด้านนอก ซูจิ่งสิงทะยานเข้าไป คว้ากระบี่เอาไว้แล้วโยนทิ้งทันที“พวกเราออกไปกันเถอะ”พวกเขาทั้งสองลุกจากเตียง เดินออกไปข้างนอก ในเวลานี้ คนในชุดดำจำนวนนับไม่ถ้วนกรูเข้ามาจากด้านนอกกำแพงลาน ล้อมรอบลานทั้งหมดไว้อย่างสมบูรณ์“หวายหนานอ๋อง ท่านคิดจะทำอะไร?”กู้หว่านเยว่เลียนแบบเสียงของนางหยาง ถามด้วยความตื่นตระหนก“เหอะ นางหยาง โทษก็โทษที่เจ้าให้กำเนิดลูกชายดี กลายมาเป็นปรปักษ์กับข้าเถอะ เด็กๆ จับพวกเขาเอาไว้”มู่หรงอวี้ขี้เกียจเกินกว่าจะพูดเรื่องไร้สาระ จึงออกคำสั่งให้คนของตนทั้งหมดลงมือทันทีองครักษ์ลับของซูจิ่งสิงและคนของหนานหยางอ๋องก็ออกมาแล้วเช่นกัน พวกเขากำลังต่อสู้กับคนของมู่หรงอวี้อย่างไม่มีใครยอมใครทว่า หากมองดูดีๆ แล้ว คนในฝั่งของซูจิ่งสิงนั้น คล้ายจะแข็งแกร่งกว่าท้ายที่สุดแล้ว องคร

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1172

    “กว่าจะมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เราคงจะกลับไปทั้งแบบนี้ไม่ได้ ข้าตั้งใจจะไปคูเมืองของเมืองสือโม่ แล้วกวาดเอาคลังสินค้าของพวกเขากลับไปด้วย”ในใจของกู้หว่านเยว่รู้สึกดีไม่น้อย ทำเรื่องใหญ่ทั้งที นางจะหยุดแค่นี้ไม่ได้สิ่งที่ซูจิ่งสิงคิดไว้ก็คือ หลังจากระเบิดประตูเมืองแล้วพวกเขาสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ แต่ทหารทูเจวี๋ยที่เหลือคงจะรวมตัวและไล่ล่าทาสเหล่านั้นมีเพียงพวกเขาที่สามารถสร้างหายนะให้เมืองสือโม่ต่อไปได้ ทหารทูเจวี๋ยคงจะพุ่งความสนใจไปที่พวกเขา ชาวบ้านในต้าฉีจะได้มีโอกาสหนีออกไป“ก็ดี เช่นนั้นเราไปกวาดคลังสินค้าของพวกเขากันเถอะ”หากพูดถึงความเคร่งครัด นี่ไม่ได้เรียกว่าการปล้นถึงอย่างไรดินแดนของคนทูเจวี๋ยก็แห้งแล้งและไม่มีเสบียงมากนักในเมืองสือโม่มีการกักตุนเสบียงอาหารและเงินทอง โดยพื้นฐานแล้วเป็นสิ่งของที่พวกเขาน่าจะปล้นชิงมาจากชาวบ้านที่อยู่ชายแดนดังนั้นตอนนี้ยิ่งพูดได้เต็มปากว่าเป็นเจ้าของเสบียงอาหาร พวกเขาแค่ต้องนำเสบียงที่เดิมทีเป็นของชาวบ้านชายแดนเหล่านั้นกลับมาก็เท่านั้น“ไป!”กู้หว่านเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงคลังสินค้าในเมืองสือโม่เป็นอย่างที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1171

    จากนั้นนางก็ขี่จูเชวี่ยขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกู้หว่านเยว่ค่อนข้างเอิกเกริก ไม่นานนักก็ดึงดูดความสนใจของทหารลาดตระเวน“พวกเจ้าดูนั้น มันคือสิ่งใดกัน?”“ดูเหมือนจะเป็นนกตัวหนึ่ง”“ไม่สิ ๆ ดูเหมือนว่ามีคนนั่งอยู่บนนกตัวนั้นด้วย!”ทหารทูเจวี๋ยพยายามเบิกตากว้าง จนกระทั่งมองเห็นได้ชัดว่าบนนกหงส์เพลิงหลากสีตัวนั้นมีสตรีสวมชุดสีเขียวนางหนึ่งนั่งอยู่ด้วย และกำลังบินถลาตรงมายังหอสังเกตการณ์คนทั่วไปมักจะเข้าออกทางประตูเมืองไหนเลยจะบินเข้าไปโดยตรง?ทหารทูเจวี๋ยตื่นตกใจ กระทั่งสบถคำหยาบคายออกมาจากปาก“รนหาที่ตายชัด ๆ แม่นาง รีบลงมาจากหอสังเกตการณ์เดี๋ยวนี้!”“หากยังไม่ลงมา เราจะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าเอง!”“วันนี้ข้าจะไม่ลงไป เพราะข้าต้องการทำลายเมืองสือโม่ให้ราบเป็นหน้ากลอง”เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังออกมาจากฟากฟ้า นางตบศีรษะของจูเชวี่ยเบา ๆ จากนั้นจูเชวี่ยก็รีบผงกหัวขึ้น เปลวเพลิงขนาดใหญ่ถูกพ่นออกมาจากปากของมัน กวาดทำลายล้างหอสังเกตการณ์ เผาหอสังเกตการณ์จนวอดวายในเสี้ยววินาทีเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งจากหอสังเกตการณ์ทะยานสู่ท้องฟ้า ทหารทูเจวี๋ยต่างตื่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1170

    ถูกต้อง น้องหญิงไม่เคยพูดจาคุยโวกู้หว่านเยว่กะพริบตา “พวกเราเข้าเมืองก่อน”ทั้งสองเร่งเดินทางมาตลอด ในไม่ช้าก็มาถึงเมืองโม่สือเนื่องจากพวกเขาทำตัวเป็นสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยทั่วไปแต่แรก หนำซ้ำภาษาทูเจวี๋ยของซูจิ่งสิงก็คล่องแคล่วมากดังนั้นทั้งสองคนจึงผ่านด่านเข้าเมืองมาอย่างง่ายดาย เข้ามาในเมืองสือโม่อย่างราบรื่นเมื่อเข้ามา กู้หว่านเยว่เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมซูจิ่งสิงถึงเรียกที่นี่ว่านรกบนดินสองข้างทางภายในเมืองเต็มไปด้วยชาวต้าฉี ยามนี้กลายเป็นทาส กำลังก่อสร้างหอคอยเมืองพวกเขาเสื้อผ้าขาดวิ่น ท่าทางเชื่องช้า หากชักช้าแม้แต่นิดเดียว แส้ในมือทหารทูเจวี๋ยจะฟาดลงบนตัวพวกเขาทันที แส้พวกนั้นกระทั่งมีหนาม สามารถครูดจนเนื้อหนังหลุดเป็นชั้น มีหลายคนที่ถูกฟาดจนบนตัวไม่มีเนื้อดีแม้แต่นิดเดียวส่วนภายในเมืองน่ากลัวยิ่งกว่า มองเห็นหญิงสาวชาวต้าฉีถูกชายทูเจวี๋ยใช้กำลังบังคับขืนใจได้ตามตรอกทั่วไป บนถนนเต็มไปด้วยเสียงร้องระงม“น้องหญิง อย่าวู่วาม”ซูจิ่งสิงกดมือกู้หว่านเยว่เอาไว้ แม้เขาเองก็โกรธแค้นมาก แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการลงมือ“พวกเราไปหาโรงเตี๊ยมเข้าพักกันก่อน”“ได้”กู้หว่านเยว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1169

    แม่ทัพผู้เฒ่าเกาเอ่ยเสียงเข้มพร้อมทำความเคารพ“พบกันใหม่” ซูจิ่งสิงพากู้หว่านเยว่จากไป“ท่านพี่ เส้นทางที่พวกเราวาดเมื่อคืน วันนี้นำออกมาใช้ได้แล้วสิ?”หลังจากทั้งสองคนออกจากด่านซานไห่ กู้หว่านเยว่นำแผนที่ซึ่งวาดเส้นทางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานออกมา“ถูกต้อง”ซูจิ่งสิงพยักหน้า แล้วเอ่ยชมเต็มที่ “น้องหญิงช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล”“แผนที่นี้ท่านเป็นคนวาดนะ”กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ เมื่อวานซูจิ่งสิงบอกนาง รอบด้านทูเจวี๋ยเต็มไปด้วยหมาป่า หากอยากไปให้ถึงเมืองอูถ่าน ทางที่ดีต้องเดินทางผ่านตัวเมืองไปตลอดทางในเมื่อต้องเดินทางผ่านเมือง เช่นนั้นคงปล่อยให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าพวกนางคือชาวต้าฉีกู้หว่านเยว่รีบซื้อเสื้อผ้าของชาวทูเจวี๋ยจากแพลตฟอร์มซื้อขายทันที จากนั้นนำอุปกรณ์แปลงโฉมออกมาเนื่องจากคนของเหยลวี่เจิงเคยเห็นเพียงซูจิ่งสิง ไม่เคยเห็นรูปโฉมกู้หว่านเยว่ดังนั้นกู้หว่านเยว่จึงแปลงโฉมให้ซูจิ่งสิงคนเดียว เมื่อถึงตานาง นางเพียงกลบเกลื่อนเอกลักษณ์ความเป็นต้าฉีเล็กน้อยเท่านั้น แต่งกายให้ตัวเองใกล้เคียงคนทูเจวี๋ยที่สุดเพียงไม่นาน สองสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยแบบดั้งเดิมเดินออกมาจากในป่ากู้หว่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1168

    เนื้อหาบนจดหมายเรียบง่ายมาก แรกเริ่มแจ้งให้รู้ว่าซูจิ่นเอ๋อร์อยู่ในมือพวกเขา ต่อมาบอกว่าหากซูจิ่งสิงอยากช่วยน้องสาวกลับไป ให้มาที่เมืองอูถ่านเพียงลำพังสองคนใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือเหยลวี่เจิง นึกไม่ถึงว่าเขาจะต่ำทรามเพียงนี้ คนในครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง แต่เขากลับลงมือกับคนสกุลซูหลายครั้ง “ท่านคิดจะทำอย่างไร?”กู้หว่านเยว่หันมองซูจิ่งสิง ความจริงพอเดาได้ว่าในใจเขาคิดอย่างไร เป็นไปตามคาดหลังจากซูจิ่งสิงเงียบไปสักพัก เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น“ข้าเป็นพี่ใหญ่ ไม่อาจปล่อยจิ่นเอ๋อร์ให้อยู่ในอันตรายโดยไม่สนใจ ในเมื่อจิ่นเอ๋อร์กับฟู่หลานเหิงอยู่ในมือพวกเขา เช่นนั้นข้าจะเดินทางไปเมืองอูถ่าน ช่วยพวกเขากลับมา”ซูจิ่งสิงจับไหล่ทั้งสองข้างของกู้หว่านเยว่“หว่านเยว่ เจ้ารอข้าอยู่ที่ด่านซานไห่นะ”สิ่งที่เขาคิดคือ การไปเมืองอูถ่านครั้งนี้อันตรายมากในเมื่อเหยลวี่เจิงส่งจดหมายมา แสดงว่าเขาวางกับดักไว้ทั่วเมืองอูถ่านแล้ว เพื่อรอให้เขาไปติดกับเองการไปครั้งนี้ เขาอาจไม่ได้กลับมาดังนั้นเขาไม่อยากทำให้กู้หว่านเยว่ลำบาก จึงคิดจะให้นางรออยู่ที่ด่านซานไห่หากเขาโชคดีได้กล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1167

    “ลำบากเยว่จีแล้ว หากไม่มีเจ้า คงไม่มีทางหลอกให้ซูจิ่นเอ๋อร์ถ่อมาถึงทูเจวี๋ย”ชายที่เอนกายอยู่บนหนังเสือ ก็คือเหยลวี่เจิงที่หนีรอดมาจากมือซูจิ่งสิงเมื่อคราวที่แล้วส่วนหญิงสาวที่คุกเข่าอยู่ด้านล่าง คือเยว่จีเจ้าสำนักหอร้อยบุปผา นางคือผู้นำของหอร้อยบุปผา นอกจากเหยลวี่เจิง หญิงสาวในหอร้อยบุปผาล้วนฟังคำสั่งนางดวงตาเยว่จีเย้ายวน รูปโฉมของนางถือเป็นอันดับหนึ่งในหอร้อยบุปผา“ท่านแม่ทัพชมเกินไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะท่านพบว่าน้องสาวของซูจิ่งสิงกำลังค้นหาดอกน้ำแข็งนิล เยว่จีก็ไม่สามารถใช้ความร้อนใจที่เป็นห่วงสามีของนาง หลอกนางมาถึงนี่”เยว่จีมองร่างกายกำยำของเหยลวี่เจิงอย่างลุ่มหลง ร่างกายนี้เคยพรากพรหมจรรย์ของนางไป ทำให้นางทุรนทุราย นางอยากลองอีกสักครั้ง...“ท่านแม่ทัพ นี่ก็ดึกแล้ว ให้เยว่จีปรนนิบัติท่านเถอะ” เยว่จีจ้องไปที่เข็มขัดของเขา แววตาเหยลวี่เจิงกลับมีความเกลียดชัง แล้วสะบัดมือนางทิ้ง“ไม่ต้อง คืนนี้ข้ายังต้องไปที่อื่น ที่มาครั้งนี้เพื่อแจ้งเจ้า ให้ส่งจดหมายไปหาซูจิ่ง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1166

    ซูจิ่งสิงอาบน้ำอยู่ด้านใน กู้หว่านเย่วอยู่ด้านนอกก็ไม่ได้อยู่เฉย นางให้ระบบมอบแผนที่แคว้นทูเจวี๋ยนางหนึ่งชุดจากสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ช้าหรือเร็วพวกนางก็ต้องเดินทางไปทูเจวี๋ยกู้หว่านเยว่ใช้ปากกาขีดๆ เขียนๆ บนแผนที่ เพียงไม่นานซูจิ่งสิงเองก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ชายหนุ่มที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จบนตัวมีกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำติดตัวกลิ่นของทั้งสองหลอมรวมกัน ทำให้บรรยากาศเกิดความละมุนละไมทันที“อาบเสร็จเร็วขนาดนี้เชียว?”กู้หว่านเยว่หันมอง สายตาอยู่บนร่างกายซูจิ่งสิง วินาทีต่อมาถึงกับตาค้างอย่างตะลึงเขาที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ หล่อเกินไปแล้ว!“ท่าน ท่านหล่อเกินไปแล้ว!”กู้หว่านเยว่หน้าแดงพร้อมพูดออกไปหนึ่งคำ นางไม่ค่อยมีแรงต้านทานต่อหนุ่มหล่อ โดยเฉพาะสามีของนางที่หล่อจนแทบอยากตาย อยากลูบกล้ามหน้าท้องจังเลย“ขอบคุณที่ชม”ซูจิ่งสิงถูกนางชมจนหน้าเริ่มแดง สายตาที่จ้องเขม็งยิ่งทำให้เขาหูแดงเถือก แม้จะกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจกลับว้าวุ่นไปหมด“เจ้าทำสิ่งใดอยู่?”เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หากถูกสายตาราวกับเสือจ้องขย้ำของน้องหญิงมองต่อไป เขาอาจควบคุมตัวเองไม่อยู่กู้หว่านเยว่รีบกางแผนที่วางไว้บน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1165

    ทำให้ซวนลู่ดีใจ “พูดเช่นนี้เจ้ายังชอบข้าอยู่หรือ?”“ก็เปล่านะ”เกาเจี้ยนส่ายหน้า ตลอดทาง ซวนลู่หยั่งเชิงเขาทั้งทางอ้อมและทางตรงหลายครั้ง“อีกเดี๋ยว ข้าจะส่งเจ้ากลับไปสกุลซวน แล้วคุยกับท่านลุงซวนให้ชัดเจน ให้ท่านถอนหมั้นพวกเราสองคนซะ”เกาเจี้ยนพูดจบ สีหน้าเผยความสบายใจออกมาความจริงตั้งแต่ตอนอยู่เจดีย์หนิงกู่ เขาก็คิดเอาไว้แล้วเขากับซวนลู่ไม่เหมาะสมกัน ในเมื่อซวนลู่ไม่ชอบเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องบังคับใคร“เจ้าจะถอนหมั้นกับข้าหรือ?”ซวนลู่ชะงักไปเล็กน้อย ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางอยากให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ทำไมยามนี้เมื่อกลายเป็นจริงแล้ว ในใจจึงรู้สึกเจ็บปวดราวกับมีสิ่งของที่เป็นของนาง กำลังค่อย ๆ จากไป“เจ้าพูดจริงหรือ?”เนื่องจากไม่กล้าเชื่อ ซวนลู่จึงย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่สิ่งที่ได้คือคำตอบที่มั่นใจของเกาเจี้ยน“ใช่”“เพราะอะไร?” ซวนลู่กำหมัดแน่น “เจ้ารังเกียจข้า เจ้ารู้ว่าข้าเสียตัวแล้ว ดังนั้นจึงถอนหมั้นหรือ!”เกาเจี้ยนรู้สึกว่าเหลวไหล“อาลู่ เป็นเพราะเจ้าไม่เคยรักข้าเลย”“เข้าเปล่านะ ข้า” “ตอนนี้เจ้าไม่อยากถอนหมั้น เป็นเพราะเจ้ารู้สึกว่า คนที่เมื่อก่อนเคยเดินตามหล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1164

    “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่ทัพผู้เฒ่า”ซูจิ่งสิงส่ายหน้า ก่อนเขาจะจากชายแดนกลับไปรับคำสั่งที่เมืองหลวง ได้สั่งการพวกแม่ทัพเกาเอาไว้ไม่ว่าในเมืองหลวงจะเกิดเรื่องใดขึ้น ห้ามพวกเขากระทำการบุ่มบ่ามเด็ดขาด ทางที่ดีให้รักษาตัวรอดที่ด่านซานไห่“ตอนนี้ข้าเองก็ปลอดภัยดี อีกอย่าง น้ำใจของแม่ทัพผู้เฒ่าข้าเข้าใจดี”แม่ทัพผู้เฒ่าเกาพยักหน้า สายตาหันไปมองกู้หว่านเยว่“ท่านนี้คงเป็นพระชายาสินะ”“คารวะแม่ทัพผู้เฒ่าเกา” กู้หว่านเยว่ยิ้มอย่างสง่างาม ทำให้แม่ทัพผู้เฒ่าเกาพยักหน้า “พระชายาไม่ใช่หญิงสาวทั่วไป ใจกว้างเปิดเผย!”เกาเจี้ยนที่อยู่ข้างกันประหลาดใจ ต้องรู้ว่าปากของพ่อเขานั้น อยู่ในค่ายมีชื่อด้านปากเสียยิ่งนัก คำพูดสิบประโยคมีสิบเอ็ดประโยคไม่น่าฟังยามนี้เขาเพิ่งเห็นกู้หว่านเยว่เป็นครั้งแรก ก็ประเมินค่าสูงขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าแม่ทัพผู้เฒ่าเกาชอบกู้หว่านเยว่จริง ๆทว่า ลองคิดดูก็เป็นเรื่องปกติพระชายาเก่งกล้าสามารถ แม้แต่เขายังยอมแพ้บนโลกนี้ ใครบ้างจะไม่ชอบพระชายา“ท่านพ่อ พวกเราเร่งเดินทางมาตลอดทาง ไม่ได้หยุดพักระหว่างทางเลยอย่ามัวแต่ยืนคุยกันข้างนอก ให้ท่านอ๋องกับพระชายาเข้าไปพักผ่อ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status