แชร์

บทที่ 452

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
“แม่นางกู้ หากเจ้ายินดีไปรักษาลูกสาวที่จวนข้า ภายภาคหน้าข้าจะตกรางวัลเจ้าอย่างงาม”

ผู้อาวุโสลำดับสามครุ่นคิดภายในใจ บางเรื่องเขาอดทนได้ก็ต้องอดทน

ขอเพียงกู้หว่านเยว่ไม่ทำเลยเถิดเกินไปนัก ภายภาคหน้าก็ไม่เป็นปรปักษ์กับกู้หว่านเยว่อีกแล้ว

กู้หว่านเยว่ได้พบบ่าวรับใช้สกุลหลี่ ก็เพราะผู้อาวุโสลำดับสามดูเบา จึงไม่ยินดีช่วยเหลือ

บัดนี้ผู้อาวุโสลำดับสามมาเชิญด้วยตนเองแล้ว นางย่อมไม่ปฏิเสธ ยกมุมปากยิ้มทีหนึ่ง

“รบกวนผู้อาวุโสลำดับสามรอสักครู่ ข้าจะไปหยิบกล่องยาของข้า”

พูดไป หมุนตัวไปหยิบกล่องยา พูดเสียงเรียบ “ไปเถอะ”

“น้องหญิง ข้าไปกับเจ้า” ซูจิ่งสิงรีบตามติดข้างกายกู้หว่านเยว่ กลัวกู้หว่านเยว่ออกไปแล้วถูกรังแก

ผู้อาวุโสลำดับสามผินมองซูจิ่งสิงแวบหนึ่ง ใคร่ครวญภายในใจ ดีร้ายอย่างไรเจิ้นเป่ยอ๋องก็เป็นชายชาตรีคนหนึ่ง เหตุใดเป็นทาสเมียเช่นนี้?

ทว่าเขาคล้ายไม่มีสิทธิ์พูดคำนี้ เพราะเขาเองก็เป็นทาสเมียคนหนึ่งเฉกเช่นเดียวกัน

“ไป”

สองสามคนขึ้นรถม้า กู้หว่านเยว่ยังนั่งรถม้าของตน ผู้อาวุโสลำดับสามนำทางอยู่ข้างหน้า

ระหว่างทาง ผู้อาวุโสลำดับสามเร่งความเร็วอย่างอดไม่ได้ เห็นได้ชัดว่ากังวลอยู่บ้าง

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 453

    ผู้อาวุโสลำดับสามสงสัยวิชาแพทย์ของกู้หว่านเยว่ขึ้นมาในทันใด หาไม่แล้วก็เป็นนางยังแค้นใจ ตั้งใจหลอกพวกเขากู้หว่านเยว่เดาะลิ้น เอ่ยปากอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าเดินทางมาเพื่อหลอกท่านกระนั้นรึ?”“แม่นางกู้ พวกเรามิได้หมายความเช่นนี้”ฮูหยินสามนี่ถึงมองเห็นว่ากู้หว่านเยว่กำลังตั้งครรภ์ ไฉนเลยจะมีหญิงตั้งครรภ์มาหลอกคนได้เล่า? กู้หว่านเยว่ยอมช่วยเหลือก็คือไว้หน้าพวกเขาแล้ว พวกเขาจะเสียมารยาทไม่ได้เป็นอันขาด“ท่านหุบปาก ดีร้ายอย่างไรลูกสาวก็กำลังเผชิญหน้ากับอันตราย ท่านอย่าได้สร้างความวุ่นวายเป็นอันขาด”“ข้า...” ผู้อาวุโสลำดับสามอึดอัดใจ นี่เขากำลังสร้างความวุ่นวายอะไร กำลังร้อนใจจนไม่รู้สมควรทำเยี่ยงไรต่างหาก“แม่นางกู้ เจ้าอย่าขุ่นเคืองไปเลย ข้าเชื่อเจ้า ในเมื่อเจ้าพูดว่าชิวเตี๋ยมิได้ป่วย เช่นนั้นตกลงนางเป็นอะไรกันแน่?”ฮูหยินสามถามต่อ บัดนี้นางกังวลลูกสาวที่ยังนอนหมดสติอยู่ตลอดของตนที่สุดกู้หว่านเยว่เองก็ล้มเลิกการแกล้งปิดเงียบไว้ พูดตามสัตย์จริง“ทังฮูหยินนี่คือป่วยใจ เรื่องของทังต่าทำร้ายนางหนักมากเกินไป นางไม่ยินดีฟื้นขึ้นมาเผชิญหน้ากับความจริง ดังนั้นจึงเลือกใช้วิธีนี้หลบหนี ทำใ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 454

    มิสู้ให้คนอยู่ต่อที่จวน หากหลี่ชิวเตี๋ยมีอาการอะไร จะได้เรียกคนมาได้ทันท่วงทีซูจิ่งสิงเอ่ยปากอย่างไม่สบอารมณ์ “ภรรยาข้ามิใช่หมอประจำจวนของพวกท่าน”สามารถมาได้ก็นับว่าไว้หน้ามากแล้ว พูดว่าอยู่ต่อก็อยู่ต่อคือสถานการณ์อะไรกัน?ฮูหยินสามรีบพูดว่า “นายท่านซู ข้าจะดูแลแม่นางกู้อย่างดีแน่นอน หากท่านไม่วางใจ สามารถอยู่ต่อด้วยกันที่นี่ได้”นางไฉนเลยจะกล้าล่วงเกินกู้หว่านเยว่ หากกู้หว่านเยว่ยินดีอยู่ต่อจริงๆ ย่อมต้องได้รับการปรนนิบัติเป็นแขกทรงเกียรติก็มิปานซูจิ่งสิงเพียงกังวลสกุลหลี่จะทำให้กู้หว่านเยว่ลำบากจึงเอ่ยปากเตือนแต่ลงท้ายคนตัดสินใจย่อมต้องเป็นกู้หว่านเยว่“น้องหญิง เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”“อยู่ก่อนเถอะ”กู้หว่านเยว่ใคร่ครวญดูแล้ว อยู่ต่อก็สะดวกต่อการตรวจอาการหลี่ชิวเตี๋ยจริงนั่นล่ะยิ่งไปกว่านั้นนางเองก็อยากเห็นว่าตกลงเกิดอันใดขึ้นกับบ้านสามนี้ ภายภาคหน้าจะสร้างปัญหาให้ตนหรือไม่ หากยังแยกแยะได้ไม่ชัดเจน นางก็ยินดีอยู่ในเมืองอวี้มากอีกสองสามวัน กำจัดบ้านสามทิ้งไปเสียเลย“ข้าจะไปจัดแจงเดี๋ยวนี้เลย”ฮูหยินสามรีบส่งแม่นมข้างกายตนออกไป พากู้หว่านเยว่ไปที่พักด้วยตนเอง“ต้องกระตือ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 455

    ขณะเดียวกันกู้หว่านเยว่เพิ่งตื่นนอนบังเอิญพบซูจิ่งสิงที่ออกไปสืบสถานการณ์ยามราตรีกลับมาพอดี“เป็นเช่นไร?” กู้หว่านเยว่เอ่ยถามอย่างอดใจรอแทบไม่ไหว เป้าหมายในการมาของนางในครั้งนี้ ก็คือต้องการยืนยันว่าบ้านสามสกุลหลี่มีเจตนาร้ายหรือไม่“บ้านสามสะอาดมาก ภายในจวนไม่มีของได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ผู้อาวุโสลำดับสามและฮูหยินสามสกุลอวี้รักกันมานานหลายปี เงินภายในคลังล้วนมีไว้ให้หลี่ชิวเตี๋ย”ซูจิ่งสิงลดผ้าปิดหน้าลง สืบมาตลอดทั้งคืน เขามีสีหน้าอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด“ลำบากท่านพี่แล้ว” กู้หว่านเยว่รีบยกนมร้อนๆ หนึ่งแก้วออกจากมิติ เร่งให้ซูจิ่งสิงนอนพักผ่อนในเมื่อผู้อาวุโสลำดับสามนับว่าประพฤติดี นางก็วางใจแล้ว ส่วนที่เหลือมากที่สุดคือผู้อาวุโสลำดับสามไม่ยอมแพ้ตนเองและซูจิ่งสิงก็เท่านั้น ภายภาคหน้ากู้หว่านเยว่ย่อมหาทางเปลี่ยนความคิดของเขาผู้อาวุโสลำดับสามเคยนำสกุลหลี่ไปขับไล่ศัตรูจากต่างแดน ชื่อเสียงน่าเกรงขาม สำหรับเขาผู้นี้หากไม่หาเรื่องได้ย่อมดีที่สุดหลังพักผ่อนกับซูจิ่งสิงดีแล้ว บังเอิญฮูหยินสามก็มาหาพูดว่าหลี่ชิวเตี๋ยฟื้นแล้วกู้หว่านเยว่รีบกินมื้อเช้าให้เสร็จ ถือเข็มเงินไปยังเรือนด้าน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 456

    “หากฮูหยินจดจำบุญคุณของข้าไว้จริง มิสู้พบผู้อาวุโสลำดับสามและพูดดีๆ”เรื่องกู้หว่านเยว่เรียกผู้ว่าการอำเภอสองสามท่านไปที่จวนโหว ฮูหยินสามเองก็ได้ยินแล้ว นางได้ยินผู้อาวุโสลำดับสามสบถด่าอยู่ภายในบ้านนานทีเดียวเพียงกู้หว่านเยว่เอ่ยปาก นางก็เข้าใจความนัยแล้ว รับคำเสียงเข้ม“แม่นางกู้วางใจได้ ข้ามีแผนแล้ว”พูดจบ นางลอบมองซูจิ่งสิงทางด้านข้างแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าซูจิ่งสิงเป็นปกติ ลอบถอนหายใจเฮือกหนึ่ง“เช่นนั้นข้าขอลาแล้ว ฮูหยินสาม ไว้พบกันใหม่”เป้าหมายสำเร็จแล้ว กู้หว่านเยว่ไม่มีเหตุผลให้อยู่ต่อ พยักหน้าบอกลา“อืม”ฮูหยินสามมองเงาคนทั้งสองพลางถอนหายใจ นึกบางอย่างขึ้นได้ รีบหมุนตัวไปพบผู้อาวุโสลำดับสาม“เกิดเป็นคนต้องฉลาด เมื่อแรกชิวเตี๋ยจะแต่งงานกับทังต่าให้ได้ ข้าคิดว่าทังต่ามิใช่คนดี ความจริงพิสูจน์แล้ว เป็นเช่นนั้นดังคาด บัดนี้ข้าคิดว่าแม่นางกู้และซูจิ่งสิงมิใช่คนรังแกง่าย หวังว่านายท่านจำไม่เป็นปรปักษ์กับพวกเขาอีก หาไม่แล้วเป็นไปได้มากว่าคนบาดเจ็บก็คือตนเอง”ฮูหยินสามพร่ำบ่นไปแล้วหนึ่งยก หลี่เฉิงเต๋อกลับไม่เก็บมาใส่ใจ เบ้ปากพูดอย่างโอหัง“เจดีย์หนิงกู่เป็นของสกุลหลี่ พวกเขาย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 457

    นางเพียงกวาดทรัพย์สินคลังส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ มิได้แตะต้องท้องพระคลังหลวงเลยแม้แต่น้อย เหตุใดราชสำนักไม่บรรเทาทุกข์เล่า?หรือว่าฮ่องเต้ชั่วนำเงินจากท้องพระคลังหลวงออกมาเสพสุขแล้ว?นึกถึงจุดจบของคนสกุลจี้ ทันใดนั้นนางคิดว่านี่เป็นไปไม่ได้สายตาซูจิ่งสิงดำทะมึน เอ่ยเสียงเรียบ “หากฮ่องเต้ชั่วโง่เขลาเบาปัญญาเพียงนี้ เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องประทับบนบัลลังก์มังกรอีกต่อไปแล้ว”เขาเสี่ยงอันตรายเข่นฆ่าศัตรูในสนามรบปกป้องบ้านเมือง มิใช่เพื่อให้ฮ่องเต้ชั่วทำลายเช่นนี้“ต้องเร่งมือสร้างเจดีย์หนิงกู่เสียแล้ว”กู้หว่านเยว่ถูปลายนิ้วเล็กน้อย รอสร้างเสร็จแล้ว ก็สามารถมอบดินแดนในอุดมคติแห่งหนึ่งให้ผู้ลี้ภัยได้ขณะเดียวกัน ก็สามารถรับสมัครทหารซื้อม้าได้อย่างอิสระ นางหวังอย่างยิ่งให้ถึงวันนี้“เอาล่ะ เหลืออีกเพียงครั้งเดียวแล้วเจ้าค่ะ”การฝังเข็มจบลงโดยไม่รู้ตัวกู้หว่านเยว่เก็บเข็มเงิน พูดยิ้มๆ“หลังฝังเข็มครั้งสุดท้าย นายท่านผู้เฒ่าก็สามารถหลุดพ้นจากผงพระจันทร์เสี้ยวได้แล้ว นับแต่นี้ไปก็ไม่ต้องถูกคนบังคับอีก”นายท่านผู้เฒ่าอวิ๋นรู้ว่าพิษภายในร่างกายตนใกล้ถูกถอนออกตั้งนานแล้ว แต่ได้ยินกู้หว่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 458

    ชิงเหลียนดื่มน้ำอุ่น ถอนหายใจเสียงแผ่ว “ฮูหยินช่างเป็นคนใจดีมีเมตตาโดยแท้ ดีต่อผู้อยู่ใต้อาณัติอย่างพวกเราเพียงนี้ เพราะเหตุนี้นายท่านถึงชอบฮูหยิน พวกเขาก็คือคู่รักสวรรค์สร้าง”หงเจากัดเกี๊ยวหนึ่งคำ “ภายภาคหน้าพวกเราต้องปรนนิบัติฮูหยินดีๆ”“เจ้าพูดถูก ภายภาคหน้าพวกเราต้องปรนนิบัติฮูหยินดีๆ”ทั้งสองกินอาหารเสร็จ รีบพิงรถม้าพักผ่อนเติมพลังภายในรถม้า กู้หว่านเยว่เข้าระบบอ่านตำราวิธีเก็บน้ำมันก๊าด รอจนกระทั่งร่างกายรู้สึกง่วงขึ้นมาบ้างแล้ว ถึงออกมานอนหลับวันต่อมา ฟ้าสว่าง รถม้าออกเดินทางไปยังหมู่บ้านสือหานต่อก่อนฟ้ามืด รถม้าก็นับว่ามาถึงภายนอกหมู่บ้านสือหานแล้วทว่าขบวนคนกลับถูกฉู่เฟิงขวางไว้ก่อนเข้าหมู่บ้านสือหาน“นายท่าน มู่หรงอวี้ลอบพาเถาเอ๋อร์เข้าหมู่บ้านสือหานแล้ว”กู้หว่านเยว่ได้ยินก็เลิกคิ้ว นางรู้มู่หรงอวี้ต้องไม่ยอมอยู่เฉย วางแผนชั่วอยู่ภายใจอย่างแน่นอนนางเดาได้ถูกต้องดังคาด นี่เพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เขาก็มิอาจอดทนไหวมายังหมู่บ้านสือหานแล้ว“รู้ว่าเขาต้องการทำอันใดหรือไม่?”“มองดูแล้วคือกำลังวางแผนอะไร” ฉู่เฟิงพูดอย่างกังวล “เถาเอ๋อร์คล้ายมอบอาวุธร้ายกาจมากบางอย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 459

    “เคลื่อนย้ายในพริบตาเข้าไป”กู้หว่านเยว่ขยิบตาให้ซูจิ่งสิง จับมือซูจิ่งสิงไว้ ทั้งสองคนเคลื่อนย้ายในพริบตาเข้าเรือนสกุลเฉินโดยตรงยังดีเคลื่อนไหวว่องไวมากเพียงพอ ไม่ถูกคนของมู่หรงอวี้พบเข้า“ขึ้นหลังคา”กู้หว่านเยว่ชี้ขึ้นไปบนหลังคา เรือนส่วนใหญ่ของหมู่บ้านสือหานล้วนคือเรือนหิน บ้านหัวหน้าหมู่บ้านเฉินอาจไม่เป็นเช่นนั้น นั่นคือเรือนดินโคลนอบอุ่นยิ่งกว่าทั้งสองมาถึงหลังคา กู้หว่านเยว่เปิดกระเบื้องและมองลงไปภายใต้แสงเทียน มู่หรงอวี้กำลังจับมือเถาเอ๋อร์ เอ่ยกับนางอย่างหวานซึ้ง“เถาเอ๋อร์ เจ้าคือดาวนำโชคของข้าโดยแท้ หากครั้งนี้ทำสำเร็จ ข้าจะถวายฎีกาต่อฝ่าบาทแต่งตั้งเจ้าเป็นพระชายาของข้า”“เพคะ”ใบหน้าเถาเอ๋อร์เผยแววเขินอาย“ท่านอ๋องวางใจได้ มีอาวุธลับนี้แล้ว ท่านอ๋องต้องไม่แพ้เป็นแน่ ยังไม่ต้องพูดถึงองครักษ์ลับที่ซูจิ่งสิงวางไว้ในหมู่บ้านสือหาน ต่อให้เขามาด้วยตนเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาวุธลับนี้”ภายในถ้อยวาจาของเถาเอ๋อร์เปี่ยมความเชื่อใจต่ออาวุธลับนี้มากทำเสียจนกู้หว่านเยว่แปลกใจมาก มองหนึ่งรอบแล้วกลับไม่เห็นว่าอาวุธลับอยู่ที่ใด นางยื่นมือโรยผงยาสลบลงไปโดยตรงเห็นมู่หรงอวี้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 460

    ซูจิ่งสิงขมวดคิ้วเอ่ยถามเขาคิดว่าครั้งนี้มู่หรงอวี้พาคนมาไม่น้อย หากไม่จัดการให้หมดในคราวเดียว ภายภาคหน้าก็ไม่อาจรับประกันความปลอดภัยของนางหยางและพวกซูจิ้งได้มิสู้อาศัยครั้งนี้ทำให้มู่หรงอวี้เจ็บหนักเสียเลย“มี”กู้หว่านเยว่รู้ชัดถึงความนัยของซูจิ่งสิงนางหยิบปืนไฟขึ้นมา เล่นอยูในมือครู่หนึ่ง จากนั้นหยิบสลักเกลียวป้องกันเหล็กตกออก โยนใส่กระเป๋าสุดท้ายให้ซูจิ่งสิงวางกลับเข้าไปใหม่อีกครั้งอย่างแฝงเจตนาร้าย“เอาของสิ่งนี้ไป ปืนไฟก็หมดประสิทธิภาพแล้วหรือ?”ซูจิ่งสิงเอ่ยถามอย่างสงสัย“แน่นอน ไม่เพียงหมดประสิทธิภาพ ยังทำให้มู่หรงอวี้มีปัญหาอีกด้วย”กู้หว่านเยว่เผยรอยยิ้มชั่วร้าย เอียงศีรษะพูดอย่างซุกซน“เดิมทีของสิ่งนี้ก็ไม่มั่นคงอยู่แล้ว เถาเอ๋อร์กล้าให้ เขาเองก็กล้าใช้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ให้เขาสัมผัสดูสักหน่อย อะไรเรียกว่าแค่เช็ดปืนก็โดนลูกหลง”“ได้ เช่นนั้นข้าใส่กลับไป”ซูจิ่งสิงพยักหน้า เขาเชื่อภรรยาตนอย่างไร้ข้อกังขา ในเมื่อน้องหญิงพูดว่าไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ไม่เป็นไรซูจิ่งสิงใส่ปืนกลับเข้าตัวมู่หรงอวี้ กู้หว่านเยว่ค้นตัวมู่หรงอวี้อีกครั้ง พบว่าเขาไม่มีอะไรเหลืออยู่แล

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1172

    “กว่าจะมาถึงที่นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย เราคงจะกลับไปทั้งแบบนี้ไม่ได้ ข้าตั้งใจจะไปคูเมืองของเมืองสือโม่ แล้วกวาดเอาคลังสินค้าของพวกเขากลับไปด้วย”ในใจของกู้หว่านเยว่รู้สึกดีไม่น้อย ทำเรื่องใหญ่ทั้งที นางจะหยุดแค่นี้ไม่ได้สิ่งที่ซูจิ่งสิงคิดไว้ก็คือ หลังจากระเบิดประตูเมืองแล้วพวกเขาสามารถรอดพ้นจากการไล่ล่าได้ แต่ทหารทูเจวี๋ยที่เหลือคงจะรวมตัวและไล่ล่าทาสเหล่านั้นมีเพียงพวกเขาที่สามารถสร้างหายนะให้เมืองสือโม่ต่อไปได้ ทหารทูเจวี๋ยคงจะพุ่งความสนใจไปที่พวกเขา ชาวบ้านในต้าฉีจะได้มีโอกาสหนีออกไป“ก็ดี เช่นนั้นเราไปกวาดคลังสินค้าของพวกเขากันเถอะ”หากพูดถึงความเคร่งครัด นี่ไม่ได้เรียกว่าการปล้นถึงอย่างไรดินแดนของคนทูเจวี๋ยก็แห้งแล้งและไม่มีเสบียงมากนักในเมืองสือโม่มีการกักตุนเสบียงอาหารและเงินทอง โดยพื้นฐานแล้วเป็นสิ่งของที่พวกเขาน่าจะปล้นชิงมาจากชาวบ้านที่อยู่ชายแดนดังนั้นตอนนี้ยิ่งพูดได้เต็มปากว่าเป็นเจ้าของเสบียงอาหาร พวกเขาแค่ต้องนำเสบียงที่เดิมทีเป็นของชาวบ้านชายแดนเหล่านั้นกลับมาก็เท่านั้น“ไป!”กู้หว่านเยว่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว กระทั่งมาถึงคลังสินค้าในเมืองสือโม่เป็นอย่างที

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1171

    จากนั้นนางก็ขี่จูเชวี่ยขึ้นไปบนหอสังเกตการณ์ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของกู้หว่านเยว่ค่อนข้างเอิกเกริก ไม่นานนักก็ดึงดูดความสนใจของทหารลาดตระเวน“พวกเจ้าดูนั้น มันคือสิ่งใดกัน?”“ดูเหมือนจะเป็นนกตัวหนึ่ง”“ไม่สิ ๆ ดูเหมือนว่ามีคนนั่งอยู่บนนกตัวนั้นด้วย!”ทหารทูเจวี๋ยพยายามเบิกตากว้าง จนกระทั่งมองเห็นได้ชัดว่าบนนกหงส์เพลิงหลากสีตัวนั้นมีสตรีสวมชุดสีเขียวนางหนึ่งนั่งอยู่ด้วย และกำลังบินถลาตรงมายังหอสังเกตการณ์คนทั่วไปมักจะเข้าออกทางประตูเมืองไหนเลยจะบินเข้าไปโดยตรง?ทหารทูเจวี๋ยตื่นตกใจ กระทั่งสบถคำหยาบคายออกมาจากปาก“รนหาที่ตายชัด ๆ แม่นาง รีบลงมาจากหอสังเกตการณ์เดี๋ยวนี้!”“หากยังไม่ลงมา เราจะเป็นฝ่ายไปหาเจ้าเอง!”“วันนี้ข้าจะไม่ลงไป เพราะข้าต้องการทำลายเมืองสือโม่ให้ราบเป็นหน้ากลอง”เสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของกู้หว่านเยว่ดังออกมาจากฟากฟ้า นางตบศีรษะของจูเชวี่ยเบา ๆ จากนั้นจูเชวี่ยก็รีบผงกหัวขึ้น เปลวเพลิงขนาดใหญ่ถูกพ่นออกมาจากปากของมัน กวาดทำลายล้างหอสังเกตการณ์ เผาหอสังเกตการณ์จนวอดวายในเสี้ยววินาทีเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งจากหอสังเกตการณ์ทะยานสู่ท้องฟ้า ทหารทูเจวี๋ยต่างตื่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1170

    ถูกต้อง น้องหญิงไม่เคยพูดจาคุยโวกู้หว่านเยว่กะพริบตา “พวกเราเข้าเมืองก่อน”ทั้งสองเร่งเดินทางมาตลอด ในไม่ช้าก็มาถึงเมืองโม่สือเนื่องจากพวกเขาทำตัวเป็นสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยทั่วไปแต่แรก หนำซ้ำภาษาทูเจวี๋ยของซูจิ่งสิงก็คล่องแคล่วมากดังนั้นทั้งสองคนจึงผ่านด่านเข้าเมืองมาอย่างง่ายดาย เข้ามาในเมืองสือโม่อย่างราบรื่นเมื่อเข้ามา กู้หว่านเยว่เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมซูจิ่งสิงถึงเรียกที่นี่ว่านรกบนดินสองข้างทางภายในเมืองเต็มไปด้วยชาวต้าฉี ยามนี้กลายเป็นทาส กำลังก่อสร้างหอคอยเมืองพวกเขาเสื้อผ้าขาดวิ่น ท่าทางเชื่องช้า หากชักช้าแม้แต่นิดเดียว แส้ในมือทหารทูเจวี๋ยจะฟาดลงบนตัวพวกเขาทันที แส้พวกนั้นกระทั่งมีหนาม สามารถครูดจนเนื้อหนังหลุดเป็นชั้น มีหลายคนที่ถูกฟาดจนบนตัวไม่มีเนื้อดีแม้แต่นิดเดียวส่วนภายในเมืองน่ากลัวยิ่งกว่า มองเห็นหญิงสาวชาวต้าฉีถูกชายทูเจวี๋ยใช้กำลังบังคับขืนใจได้ตามตรอกทั่วไป บนถนนเต็มไปด้วยเสียงร้องระงม“น้องหญิง อย่าวู่วาม”ซูจิ่งสิงกดมือกู้หว่านเยว่เอาไว้ แม้เขาเองก็โกรธแค้นมาก แต่ขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่ดีในการลงมือ“พวกเราไปหาโรงเตี๊ยมเข้าพักกันก่อน”“ได้”กู้หว่านเยว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1169

    แม่ทัพผู้เฒ่าเกาเอ่ยเสียงเข้มพร้อมทำความเคารพ“พบกันใหม่” ซูจิ่งสิงพากู้หว่านเยว่จากไป“ท่านพี่ เส้นทางที่พวกเราวาดเมื่อคืน วันนี้นำออกมาใช้ได้แล้วสิ?”หลังจากทั้งสองคนออกจากด่านซานไห่ กู้หว่านเยว่นำแผนที่ซึ่งวาดเส้นทางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานออกมา“ถูกต้อง”ซูจิ่งสิงพยักหน้า แล้วเอ่ยชมเต็มที่ “น้องหญิงช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกล”“แผนที่นี้ท่านเป็นคนวาดนะ”กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ เมื่อวานซูจิ่งสิงบอกนาง รอบด้านทูเจวี๋ยเต็มไปด้วยหมาป่า หากอยากไปให้ถึงเมืองอูถ่าน ทางที่ดีต้องเดินทางผ่านตัวเมืองไปตลอดทางในเมื่อต้องเดินทางผ่านเมือง เช่นนั้นคงปล่อยให้คนอื่นรู้ไม่ได้ว่าพวกนางคือชาวต้าฉีกู้หว่านเยว่รีบซื้อเสื้อผ้าของชาวทูเจวี๋ยจากแพลตฟอร์มซื้อขายทันที จากนั้นนำอุปกรณ์แปลงโฉมออกมาเนื่องจากคนของเหยลวี่เจิงเคยเห็นเพียงซูจิ่งสิง ไม่เคยเห็นรูปโฉมกู้หว่านเยว่ดังนั้นกู้หว่านเยว่จึงแปลงโฉมให้ซูจิ่งสิงคนเดียว เมื่อถึงตานาง นางเพียงกลบเกลื่อนเอกลักษณ์ความเป็นต้าฉีเล็กน้อยเท่านั้น แต่งกายให้ตัวเองใกล้เคียงคนทูเจวี๋ยที่สุดเพียงไม่นาน สองสามีภรรยาชาวทูเจวี๋ยแบบดั้งเดิมเดินออกมาจากในป่ากู้หว่า

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1168

    เนื้อหาบนจดหมายเรียบง่ายมาก แรกเริ่มแจ้งให้รู้ว่าซูจิ่นเอ๋อร์อยู่ในมือพวกเขา ต่อมาบอกว่าหากซูจิ่งสิงอยากช่วยน้องสาวกลับไป ให้มาที่เมืองอูถ่านเพียงลำพังสองคนใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้คือเหยลวี่เจิง นึกไม่ถึงว่าเขาจะต่ำทรามเพียงนี้ คนในครอบครัวไม่เกี่ยวข้อง แต่เขากลับลงมือกับคนสกุลซูหลายครั้ง “ท่านคิดจะทำอย่างไร?”กู้หว่านเยว่หันมองซูจิ่งสิง ความจริงพอเดาได้ว่าในใจเขาคิดอย่างไร เป็นไปตามคาดหลังจากซูจิ่งสิงเงียบไปสักพัก เอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น“ข้าเป็นพี่ใหญ่ ไม่อาจปล่อยจิ่นเอ๋อร์ให้อยู่ในอันตรายโดยไม่สนใจ ในเมื่อจิ่นเอ๋อร์กับฟู่หลานเหิงอยู่ในมือพวกเขา เช่นนั้นข้าจะเดินทางไปเมืองอูถ่าน ช่วยพวกเขากลับมา”ซูจิ่งสิงจับไหล่ทั้งสองข้างของกู้หว่านเยว่“หว่านเยว่ เจ้ารอข้าอยู่ที่ด่านซานไห่นะ”สิ่งที่เขาคิดคือ การไปเมืองอูถ่านครั้งนี้อันตรายมากในเมื่อเหยลวี่เจิงส่งจดหมายมา แสดงว่าเขาวางกับดักไว้ทั่วเมืองอูถ่านแล้ว เพื่อรอให้เขาไปติดกับเองการไปครั้งนี้ เขาอาจไม่ได้กลับมาดังนั้นเขาไม่อยากทำให้กู้หว่านเยว่ลำบาก จึงคิดจะให้นางรออยู่ที่ด่านซานไห่หากเขาโชคดีได้กล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1167

    “ลำบากเยว่จีแล้ว หากไม่มีเจ้า คงไม่มีทางหลอกให้ซูจิ่นเอ๋อร์ถ่อมาถึงทูเจวี๋ย”ชายที่เอนกายอยู่บนหนังเสือ ก็คือเหยลวี่เจิงที่หนีรอดมาจากมือซูจิ่งสิงเมื่อคราวที่แล้วส่วนหญิงสาวที่คุกเข่าอยู่ด้านล่าง คือเยว่จีเจ้าสำนักหอร้อยบุปผา นางคือผู้นำของหอร้อยบุปผา นอกจากเหยลวี่เจิง หญิงสาวในหอร้อยบุปผาล้วนฟังคำสั่งนางดวงตาเยว่จีเย้ายวน รูปโฉมของนางถือเป็นอันดับหนึ่งในหอร้อยบุปผา“ท่านแม่ทัพชมเกินไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะท่านพบว่าน้องสาวของซูจิ่งสิงกำลังค้นหาดอกน้ำแข็งนิล เยว่จีก็ไม่สามารถใช้ความร้อนใจที่เป็นห่วงสามีของนาง หลอกนางมาถึงนี่”เยว่จีมองร่างกายกำยำของเหยลวี่เจิงอย่างลุ่มหลง ร่างกายนี้เคยพรากพรหมจรรย์ของนางไป ทำให้นางทุรนทุราย นางอยากลองอีกสักครั้ง...“ท่านแม่ทัพ นี่ก็ดึกแล้ว ให้เยว่จีปรนนิบัติท่านเถอะ” เยว่จีจ้องไปที่เข็มขัดของเขา แววตาเหยลวี่เจิงกลับมีความเกลียดชัง แล้วสะบัดมือนางทิ้ง“ไม่ต้อง คืนนี้ข้ายังต้องไปที่อื่น ที่มาครั้งนี้เพื่อแจ้งเจ้า ให้ส่งจดหมายไปหาซูจิ่ง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1166

    ซูจิ่งสิงอาบน้ำอยู่ด้านใน กู้หว่านเย่วอยู่ด้านนอกก็ไม่ได้อยู่เฉย นางให้ระบบมอบแผนที่แคว้นทูเจวี๋ยนางหนึ่งชุดจากสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ช้าหรือเร็วพวกนางก็ต้องเดินทางไปทูเจวี๋ยกู้หว่านเยว่ใช้ปากกาขีดๆ เขียนๆ บนแผนที่ เพียงไม่นานซูจิ่งสิงเองก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ชายหนุ่มที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จบนตัวมีกลิ่นหอมของครีมอาบน้ำติดตัวกลิ่นของทั้งสองหลอมรวมกัน ทำให้บรรยากาศเกิดความละมุนละไมทันที“อาบเสร็จเร็วขนาดนี้เชียว?”กู้หว่านเยว่หันมอง สายตาอยู่บนร่างกายซูจิ่งสิง วินาทีต่อมาถึงกับตาค้างอย่างตะลึงเขาที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ หล่อเกินไปแล้ว!“ท่าน ท่านหล่อเกินไปแล้ว!”กู้หว่านเยว่หน้าแดงพร้อมพูดออกไปหนึ่งคำ นางไม่ค่อยมีแรงต้านทานต่อหนุ่มหล่อ โดยเฉพาะสามีของนางที่หล่อจนแทบอยากตาย อยากลูบกล้ามหน้าท้องจังเลย“ขอบคุณที่ชม”ซูจิ่งสิงถูกนางชมจนหน้าเริ่มแดง สายตาที่จ้องเขม็งยิ่งทำให้เขาหูแดงเถือก แม้จะกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ในใจกลับว้าวุ่นไปหมด“เจ้าทำสิ่งใดอยู่?”เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หากถูกสายตาราวกับเสือจ้องขย้ำของน้องหญิงมองต่อไป เขาอาจควบคุมตัวเองไม่อยู่กู้หว่านเยว่รีบกางแผนที่วางไว้บน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1165

    ทำให้ซวนลู่ดีใจ “พูดเช่นนี้เจ้ายังชอบข้าอยู่หรือ?”“ก็เปล่านะ”เกาเจี้ยนส่ายหน้า ตลอดทาง ซวนลู่หยั่งเชิงเขาทั้งทางอ้อมและทางตรงหลายครั้ง“อีกเดี๋ยว ข้าจะส่งเจ้ากลับไปสกุลซวน แล้วคุยกับท่านลุงซวนให้ชัดเจน ให้ท่านถอนหมั้นพวกเราสองคนซะ”เกาเจี้ยนพูดจบ สีหน้าเผยความสบายใจออกมาความจริงตั้งแต่ตอนอยู่เจดีย์หนิงกู่ เขาก็คิดเอาไว้แล้วเขากับซวนลู่ไม่เหมาะสมกัน ในเมื่อซวนลู่ไม่ชอบเขา เขาก็ไม่จำเป็นต้องบังคับใคร“เจ้าจะถอนหมั้นกับข้าหรือ?”ซวนลู่ชะงักไปเล็กน้อย ทั้งที่ก่อนหน้านี้นางอยากให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ทำไมยามนี้เมื่อกลายเป็นจริงแล้ว ในใจจึงรู้สึกเจ็บปวดราวกับมีสิ่งของที่เป็นของนาง กำลังค่อย ๆ จากไป“เจ้าพูดจริงหรือ?”เนื่องจากไม่กล้าเชื่อ ซวนลู่จึงย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่สิ่งที่ได้คือคำตอบที่มั่นใจของเกาเจี้ยน“ใช่”“เพราะอะไร?” ซวนลู่กำหมัดแน่น “เจ้ารังเกียจข้า เจ้ารู้ว่าข้าเสียตัวแล้ว ดังนั้นจึงถอนหมั้นหรือ!”เกาเจี้ยนรู้สึกว่าเหลวไหล“อาลู่ เป็นเพราะเจ้าไม่เคยรักข้าเลย”“เข้าเปล่านะ ข้า” “ตอนนี้เจ้าไม่อยากถอนหมั้น เป็นเพราะเจ้ารู้สึกว่า คนที่เมื่อก่อนเคยเดินตามหล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1164

    “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่ทัพผู้เฒ่า”ซูจิ่งสิงส่ายหน้า ก่อนเขาจะจากชายแดนกลับไปรับคำสั่งที่เมืองหลวง ได้สั่งการพวกแม่ทัพเกาเอาไว้ไม่ว่าในเมืองหลวงจะเกิดเรื่องใดขึ้น ห้ามพวกเขากระทำการบุ่มบ่ามเด็ดขาด ทางที่ดีให้รักษาตัวรอดที่ด่านซานไห่“ตอนนี้ข้าเองก็ปลอดภัยดี อีกอย่าง น้ำใจของแม่ทัพผู้เฒ่าข้าเข้าใจดี”แม่ทัพผู้เฒ่าเกาพยักหน้า สายตาหันไปมองกู้หว่านเยว่“ท่านนี้คงเป็นพระชายาสินะ”“คารวะแม่ทัพผู้เฒ่าเกา” กู้หว่านเยว่ยิ้มอย่างสง่างาม ทำให้แม่ทัพผู้เฒ่าเกาพยักหน้า “พระชายาไม่ใช่หญิงสาวทั่วไป ใจกว้างเปิดเผย!”เกาเจี้ยนที่อยู่ข้างกันประหลาดใจ ต้องรู้ว่าปากของพ่อเขานั้น อยู่ในค่ายมีชื่อด้านปากเสียยิ่งนัก คำพูดสิบประโยคมีสิบเอ็ดประโยคไม่น่าฟังยามนี้เขาเพิ่งเห็นกู้หว่านเยว่เป็นครั้งแรก ก็ประเมินค่าสูงขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าแม่ทัพผู้เฒ่าเกาชอบกู้หว่านเยว่จริง ๆทว่า ลองคิดดูก็เป็นเรื่องปกติพระชายาเก่งกล้าสามารถ แม้แต่เขายังยอมแพ้บนโลกนี้ ใครบ้างจะไม่ชอบพระชายา“ท่านพ่อ พวกเราเร่งเดินทางมาตลอดทาง ไม่ได้หยุดพักระหว่างทางเลยอย่ามัวแต่ยืนคุยกันข้างนอก ให้ท่านอ๋องกับพระชายาเข้าไปพักผ่อ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status