แชร์

บทที่ 134

ผู้แต่ง: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เมื่อกู้หว่านเยว่เห็นท่าทางของทั้งสองคนแล้วก็หมดคำพูด นี่มันยุคสมัยไหนกันแล้ว ไอหยา...

แต่สุดท้ายนางก็ไม่ได้ต่อว่าหลี่ฮูหยินแต่อย่างใด คนที่สามารถเสียสละตนเพื่อครอบครัวได้ไม่ใช่ใครก็ทำได้

“ให้เด็ก ๆ นั่งบนเกวียนของข้า แล้วให้นายท่านหลี่แบกเจ้าไป”

เมื่อสิ้นสุดประโยค กู้หว่านเยว่ก็อุ้มเด็กทั้งสองคนของสกุลหลี่และบินไปบนเกวียนลาของตัวเอง

ซูจิ่งสิงบังคับลาอยู่ด้านหน้า เมื่อเห็นนางกลับขึ้นมาอย่างปลอดภัย เขาก็รีบบังคับเกวียนลาออกไปทันที

หลี่ฮูหยินเกาะอยู่บนหลังของนายท่านหลี่พร้อมเสียงสะอื้น

“ท่านพี่ ขอบคุณท่านมาก และก็แม่นางกู้...ไว้มีโอกาสข้าจะตอบแทนพระคุณของนางอย่างแน่นอน”

“ไอหยา จะพูดเรื่องนี้ทำไม ข้าไม่มีวันทิ้งเจ้าแน่นอน” นายท่านหลี่ทอดถอนใจ จากนั้นก็ใช้กำลังภายในเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น

ภาพที่หลี่ฮูหยินกำลังจะตายอย่างสิ้นหวังยังคงฝังรากลึกอยู่ในใจของเขา

หากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้น้อยองค์นั้น ครอบครัวของพวกเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่อับจนหนทางเช่นนี้ได้อย่างไร!

หากภายภาคหน้ายังมีโอกาส เขาจะต้องชำระหนี้แค้นครั้งนี้ให้จงได้

แม้ว่าพายุนั้นจะน่ากลัวมาก แต่มันก็มีวงโคจรในการเคลื่อนที่ ขอบเขต
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 135

    ทุกคนต่างเห็นด้วยกับคำกล่าวของกู้หว่านเยว่ไม่มีใครรู้ว่าพายุใหญ่ลูกนั้นจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ อีกทั้งเม็ดทรายที่ฟุ้งกระจายอยู่รอบตัวก็ทำให้ทุกคนหายใจไม่สะดวกนัก สู้หนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดน่าจะปลอดภัยกว่า“ท่านนักการ ดูเหมือนว่าข้างหน้าจะมีจวนขุนนางอยู่หลังหนึ่ง”จางเอ้อร์ที่ออกไปสำรวจเส้นทางกลับมาบอกข่าวด้วยสีหน้าดีใจ“เยี่ยม เช่นนั้นเรารีบไปกันเถอะ ไปพักที่จวนขุนนางหลังนั้น” นัยน์ตาของซุนอู่เปล่งประกายกลุ่มนักโทษรีบเร่งฝีเท้าเดินทางไปจนถึงทางเข้าของจวนขุนนาง เพียงแต่เมื่อเห็นแผ่นสลักชื่อของจวนหลังนั้น ซุนอู่ถึงกับตกอยู่ในอาการลังเลนี่คือจวนส่วนพระองค์แห่งหนึ่งความหมายก็ตามชื่อ มันคือที่ดินทรัพย์สินส่วนพระองค์ ซึ่งไม่รู้ว่าพวกเขาจะขออาศัยที่แห่งนี้พักชั่วคราวได้หรือไม่ทันทีที่เคาะประตู พ่อบ้านท่าทางเย่อหยิ่งคนหนึ่งก็เดินออกมา“เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นนักการที่รับหน้าที่พานักโทษไปส่งให้หน่วยงานอย่างนั้นหรือ?”“ใช่ อากาศข้างนอกเลวร้ายมาก พวกเราไม่มีที่ไปจึงอยากจะขอพักที่นี่สักคืน ไม่ทราบว่าจะได้หรือไม่” น้อยนักที่ซุนอู่จะกล่าวอย่างสุภาพเช่นนี้พ่อบ้านมองกลุ่มนักโทษแวบหนึ่ง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 136

    “เห็นได้ชัดว่ามู่หรงอวี้มีเจตนาที่ไม่ดี หากท่านไปอาจจะไม่ได้กลับมาอีก”ซูจิ่นเอ๋อร์กล่าวอย่างเหนื่อยล้า “แต่ตอนนี้พวกเราอยู่ในอาณาเขตของเขา จะไปหรือไม่ไปก็ดูเหมือนค่าเท่ากัน”ซูจื่อชิงถึงกับสำลัก แล้วถลึงตาใส่ซูจิ่นเอ๋อร์อย่างเอือมระอา“ทำอย่างไรดี?” หลายคนเริ่มเป็นกังวลซูจิ่งสิงเหลือบมองพวกเขา นัยน์ตาเคร่งขรึมเล็กน้อย หากมู่หรงอวี้ทำการบุ่มบ่ามขึ้นมาจริง ๆ เขาคงต้องชิงเปิดเผยคนในความลับก่อน“ข้าจะไปเป็นเพื่อนท่านเอง”ทันใดนั้น กู้หว่านเยว่ก็คว้ามือของเขา และฉีกยิ้มพลางกล่าว“แค่กินข้าวมื้อเดียว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ท่านวางได้ มู่หรงอวี้ไม่กล้าทำอะไรท่านอย่างเปิดเผยหรอก”แต่ถ้าเขาคิดจะแทงข้างหลังก็ไม่แน่ถึงต่อให้เขาจะแทงข้างหลัง กู้หว่านเยว่ก็มีวิธีต่อกรกลับไปซูจิ่งสิงมองนางอย่างซาบซึ้ง “หว่านเยว่ ขอบใจเจ้ามาก”“อย่าใช้สายตาชวนขนลุกเช่นนี้มองข้าเชียว” กู้หว่านเยว่ไอกระแอมหนึ่งเสียง ก่อนจะโบกมืออย่างไม่ใส่ใจเหตุใดคำขอบคุณของบุรุษผู้นี้ถึงได้ลึกซึ้งเช่นนี้?หลังจากที่ทั้งสองคนเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ก็เดินตามไปยังลานด้านหน้าระหว่างทาง เด็กรับใช้คนนั้นได้เหลือบมองพวกเข

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 137

    เขาก็ไม่ได้อยากลงมือด้วยตนเอง แต่หากซูจิ่งสิงไม่กินอีก เป็ดย่างจานนี้คงถูกกู้หว่านเยว่กินหมดเกลี้ยงแน่!“นี่คือเป็ดย่างที่รังสรรค์โดยพ่อครัวที่มีชื่อเสียงทางทิศเหนือ รสชาติเลิศรส ไม่ชิมคงจะน่าเสียดาย” มู่หรงอวี้กล่าวเสริมซูจิ่งสิงไม่ใช่คนโง่ในสายตาของมู่หรงอวี้ เขามองออกตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าเป็ดย่างจานนี้มีพิษเมื่อนึกภาพที่กู้หว่านเยว่คีบกินไปแล้วหลายชิ้น ในใจของเขาก็ยิ่งกังวล จึงรีบคว้ามือของนางด้วยจิตใต้สำนึกเขาคิดจะขัดขวางไม่ให้นางกินต่อผลปรากฏว่ากู้หว่านเยว่ส่งสายตาไร้ความกังวลให้เขาซูจิ่งสิงตระหนักได้ถึงความสามารถของกู้หว่านเยว่ เขาจึงเข้าใจในทันทีแต่ปากของเขาก็ยังไม่วายกำชับว่า “กินน้อย ๆ หน่อย ข้ากลัวเจ้าไม่ย่อย”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้า “เป็ดย่างจานนี้เป็นของข้า ท่านห้ามแย่งข้าเด็ดขาด”คำกล่าวของนางเป็นการเตือนว่าเป็ดย่างจานนี้มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล นางกลัวว่าเขาจะพลาดกินมันเข้าไป“ซูฮูหยินชอบเป็ดช่างจริง ๆ ชีวิตที่แล้วคงจะไม่เคยกินสินะ?”มู่หรงอวี้ยกยิ้มแข็งทื่อ เขาเกือบจะข่มความโกรธไม่ได้หญิงสาวผู้นี้เป็นลูกเศรษฐีสกุลกู้จริง ๆ ใช่ไหม?ดูท่าทางการกินนั่นสิ หร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 138

    เพียงแต่เรื่องส่วนตัวเหล่านี้ไม่ควรนำมาพูดบนโต๊ะอาหารมิเช่นนี้หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ก็ไม่รู้ว่าประวัติศาสตร์ที่ไม่เป็นทางการเหล่านั้นจะถูกเขียนออกมาว่าอย่างไร แล้วอาณาประชาราษฎร์จะตัดสินพวกเขาแบบไหน“ไม่มีปัญหาแน่นอน” ในเวลานี้นิ้วมือของมู่หรงอวี้สั่นระริก เขาพยายามข่มความโกรธไว้ “ข้าแค่เป็นคนรักสะอาดนิดหน่อยก็เท่านั้น”เมื่อตระหนักได้ว่าเป็ดย่างจานนั้นมียาพิษ อีกทั้งตนได้กินเข้าไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะอาเจียนออกมา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าพิษนั้นได้เข้าสู่ร่างกายแล้วหรือไม่เวลานี้มู่หรงอวี้ถึงกับนั่งไม่ติด และทนไม่ไหวอีกต่อไป“จู่ ๆ ข้าก็รู้สึกไม่สบายตัว พวกเจ้ากินกันไปก่อน ข้าขอตัว”กล่าวจบเขาก็พรวดลุกขึ้นและเดินออกไปทันที เมื่อเดินมาถึงลานด้านหลังเขารีบล้มตัวลงนอนบนเตียง“รีบไปตามเซียนแพทย์น้อยมาให้ข้าเร็วเข้า บอกว่าข้ากินยาพิษของนาง!”ภายในเรือนตะวันออก ทันทีที่มู่หรงอวี้ออกไป ซูจิ่งสิงก็รีบหันไปมองกู้หว่านเยว่“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ เป็ดย่างวางยาพิษเหล่านั้นเจ้ากินมันลงไปได้อย่างไร?”เขารู้ว่ากู้หว่านเยว่มีความสามารถ แต่ถึงอย่างไรร่างกายของมนุษย์ก็มีเลือดเนื้อ จะทนต่อพิษเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 139

    “ครั้งนี้กู้หว่านเยว่ต้องตายสถานเดียว”นางหลิวกล่าวอย่างลำพองใจ “คนของราชวงศ์ไม่ปล่อยพวกเขาไว้แน่”“โชคดีที่พวกเราไม่ได้คืนดีกับบ้านสาม พวกเราจึงไม่โดนหางเร่ไปด้วย”ฮูหยินผู้เฒ่าซูถอนหายใจอย่างโล่งอกเดิมทีนางอยากบากหน้าไปขอคืนดีกับบ้านสาม แต่ปรากฏว่ากู้หว่านเยว่โหดร้ายเกินไป นางจึงไม่กล้าเสนอหน้าหรือนี่อาจจะเป็นความบังเอิญก็ได้ก็ดี ที่นางประกาศตัดความสัมพันธ์กับบ้านสามในตอนแรกนั้นถูกแล้วนางจินและซูหรานหร่านสบตากัน โดยที่ทั้งสองคนไม่ได้กล่าวสิ่งใดไม่ว่าจะเป็นบ้านสามหรือสกุลซู พวกเขาก็ไม่เคยคิดอยากเกี่ยวข้องด้วยนัยน์ตาของซูจื่อชิงเย็นเยือก “ทุกคนคือสกุลซูเหมือนกัน พี่ใหญ่และพี่สะใภ้เกิดเรื่อง พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะรอดอย่างนั้นหรือ?”ทำไมก่อนหน้านั้นถึงดูไม่ออกว่าท่านยายโง่เขลาเช่นนี้“สกุลเดียวกันอะไร พวกเราตัดขาดกันไปแล้ว”นางหลิวกล่าวเสียงดัง นางกลัวว่าผู้คุ้มกันของมู่หรงอวี้จะไม่ได้ยิน“ไอหยา ข้าพูดกับจิ่นเอ๋อร์ เจ้าว่าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้จะกลับเข้ามาแบบเดินเข้ามาหรือถูกหามเข้ามา?”“เจ้าหุบปากไปเลย !” ซูจิ่นเอ๋อร์โกรธจนปากสั่นไปหมด สายตาคู่นั้นยังคงจับจ้องไปที่ประตู

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 140

    จากนั้นนางก็หยิบหน้ากากขึ้นมาใส่ และแวบออกจากห้องไปทันทีนางไม่ลืมว่าตนก็มีเรื่องต้องทำ ในเมื่อจวนหลังนี้เป็นอาณาเขตของมู่หรงอวี้ ก็อย่ามาโทษว่านางไม่เกรงใจก็แล้วกัน!ทันทีที่เข้าไปในห้องใต้ดิน กู้หว่านเยว่ก็ได้เห็นอาวุธและเสบียงมากมาย นางจึงรีบกอบโกยกลับอย่างไม่เกรงใจจากนั้นนางก็เข้าไปในครัวและทำการขนอาหารพร้อมทั้งม้าที่อยู่ในคอกออกไปพร้อมกัน“เหอะ ๆ ข้าชักอยากเห็นแล้วสิว่าหากท่านไม่มีม้า ท่านจะไปจากจวนแห่งนี้ได้อย่างไร”กู้หว่านเยว่หัวเราะด้วยความสะใจ ก่อนจะหายตัวไปโผล่ในพื้นที่นอกหน้าตาห้องของมู่หรงอวี้และใช้นิ้วเจาะรูหน้าต่างที่ทำจากกระดาษ และมองเข้าไปข้างใน“เจ็บ เจ็บจะตายอยู่แล้ว ขาของข้าเหมือนมีมดเป็นร้อยตัวรุมกัดอย่างไรอย่างนั้น”มู่หรงอวี้นอนอยู่บนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรง ทั้งยังคร่ำครวญไม่หยุด“ทำไมเซียนแพทย์น้อยถึงยังไม่มาอีก?”“กราบทูลท่านอ๋อง เซียนแพทย์น้อยมาแล้ว เซียนแพทย์น้อยมาแล้ว!”เด็กสาวในชุดสีขาวคนหนึ่งวิ่งหน้าตั้งเข้ามาจากด้านนอก เมื่อถึงข้างเตียงนางก็รีบจับชีพจรของมู่หรงอวี้ทันที“ท่านอ๋อง ท่านโดนยาพิษได้อย่างไร?”“อย่าถาม”เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ มู่หร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 141

    ทันใดนั้นฟู่เยียนหรานก็ปิดหน้าร้องไห้เสียงสะอื้น ท่าทางเช่นนี้ยิ่งยืนยันได้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสอง“ฮูหยินซู เจ้าอย่าโทษพี่ใหญ่ซูเลย เพราะข้าเทิดทูนเขามากเกินไปถึงกลายเป็นแบบนี้ข้าจะไม่โต้เถียงใด ๆ กับเจ้า เพียงอยากดูแลเรื่องปัจจัยสี่ของพี่ใหญ่ซูอยู่เคียงข้างเขาเท่านั้น”นางห่อไหล่ขาวผุดผ่องอย่างอ่อนแรง น้ำตาไหลพราก ผู้ชายส่วนใหญ่เห็นแล้วก็รู้สึกสงสารไม่แปลกใจที่ได้เป็นพระมเหสีเข้าใจใช้ลูกไม้ใสซื่อเป็นอย่างดี“ซูจิ่งสิง”กู้หว่านเยว่บิดขี้เกียจ นางไม่มีเวลามาคร่ำครวญกับฟู่เยียนหราน“ข้าง่วงแล้ว ท่านช่วยอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยเร็ว”ในน้ำเสียงแฝงความรำคาญใจซูจิ่งสิงกังวลว่ากู้หว่านเยว่จะเข้าใจผิด เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงรีบอธิบาย“ข้าได้ยินเสียงความวุ่นวายจึงตื่นขึ้นมา พบว่านางยืนอยู่ที่หัวเตียง กำลังเปลื้องผ้าอยู่พอข้าตวาดไล่นางไป เจ้าก็ผลักประตูเข้ามาแล้ว ข้าไม่ได้แตะต้องนางเลย”กู้หว่านเยว่ชำเลืองมองเตียงที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ด้วยความเข้าใจในตัวซูจิ่งสิงของนาง ย่อมรู้ว่าเขาไม่นอกลู่นอกทางแน่หลังจากได้ฟังคำอธิบายด้วยหูตัวเอง ก็ยิ่งไม่มีอะไรให้สงสัยอีก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 142

    หลังจากพักหายเหนื่อยได้หนึ่งวัน เหล่านักโทษเนรเทศก็กลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง พากันเก็บข้าวของเพื่อออกจากคฤหาสน์หลวงเมื่อมู่หรงอวี้ตั้งสติได้ ลานหลังบ้านก็ว่างเปล่าไร้ผู้คนแล้ว“เจ้าโง่ ข้าไม่ได้บอกให้เจ้าจับตาดูพวกเขาไว้หรือ?!”เขาถีบพ่อบ้านที่กุลีกุจอเข้ามาอย่างหงุดหงิดพ่อบ้านคุกเข่าพรึ่บลงกับพื้น“ท่านอ๋องอย่าทรงกริ้ว เมื่อเช้าคฤหาสน์หลวงถูกปล้นอย่างกะทันหัน ข้าน้อยไม่มีเวลานึกถึงพวกเขา...”“เจ้ากินอะไรเป็นอาหาร เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ก็จัดการไม่ได้...ช้าก่อน เจ้าบอกว่าคฤหาสน์หลวงถูกปล้นงั้นหรือ?”มู่หรงอวี้ใจหายวาบ เกิดลางสังหรณ์ขึ้นมาในทันใดเขาหันหน้าเดินไปยังห้องใต้ดินโดยไม่พูดอะไรเมื่อมาถึงทางเข้าห้องใต้ดิน เห็นไข่มุกเรืองแสงราตรีสองเม็ดที่ส่องสว่างตรงประตูถูกหักออก เขาหน้ามืดในทันใด“ท่านอ๋อง อดทนไว้”คนสนิทรีบเข้ามาประคองมู่หรงอวี้“ทนได้ ทนได้...” มู่หรงอวี้ฝืนผลักประตูหินให้เปิดออก เมื่อเห็นสถานการณ์ภายในอย่างชัดเจน ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป“เงินทองของข้า เงินทองของข้า!”น้ำตาไหลรินจากเบ้าตา มู่หรงอวี้ในวัยสามสิบกว่า ๆ ร้องไห้เป็นเด็กทารกห้องใต้ดินแห่งนี้มีทรัพย์ส

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 772

    ซูจิ่งสิงไม่เห็นด้วย ประเด็นหลักเพราะเขากลัวว่านางจะได้รับบาดเจ็บเพราะจากคำให้การของชาวบ้านเหล่านั้น ฟังดูแล้วทะเลสาบแห่งนั้นไม่ค่อยปลอดภัยนัก บางคนก็บอกว่ามีปีศาจอยู่ในทะเลสาบแห่งนั้น คนที่ดำลงไปสำรวจใต้น้ำก่อนหน้านั้นต่างก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย“ไม่ได้ ในเมื่อเป็นสถานที่อันตราย ข้าก็ยิ่งต้องไปกับท่าน มิเช่นนั้นหากท่านตกอยู่ในอันตรายขึ้นมาจะทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ?”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้าอย่างเด็ดขาด ทำให้ซูจิ่งสิงจนปัญญา เดิมทีเขาอยากมาบอกกล่าวภรรยาของตัวเองก่อนออกเดินทางสักคำ คิดไม่ถึงว่าภรรยาของตนจะขอไปกับเขาด้วยเมื่อเห็นสายตาเด็ดเดี่ยวของอีกฝ่าย เขาก็รู้ทันทีว่าต่อให้ตัวเองโน้มน้าวอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ จึงทำได้แค่พยักหน้าอย่างจำใจ“ก็ได้ เช่นนั้นเราก็ไปด้วยกัน แต่เจ้าต้องรับปากข้าก่อน ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าห้ามกระโดดลงจากเรือไปสำรวจในทะเลสาบเพียงลำพังเด็ดขาด”“ไม่มีปัญหา”กู้หว่านเยว่รับปากวันนี้รับปาก พรุ่งนี้กลับคำเนื่องจากสองสามีภรรยาคู่นี้จะต้องออกเดินทางไปสำรวจทะเลสาบแห่งนั้นตั้งแต่เช้าตรู่ ดังนั้นคืนนี้ทั้งสองคนจึงไม่อยู่รอให้ซูจื่อชิงฟื้นอยู่ในจวน แต่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 771

    นางหยางปาดน้ำตา “ช่วงนี้เจ้าต้องดูแลกู้จื่อชิงให้ดี มันคือทางที่ดีที่สุดแล้ว เรื่องในวันนี้คงโทษเจ้าไม่ได้ เจ้าเองก็ไม่ต้องตำหนิตัวเจ้าเอง”ชิวจู๋กัดริมฝีปากพยักหน้าหลังจากที่กู้หว่านเยว่ต้มยาระงับประสาทให้แล้ว ก็ยื่นใบสั่งยาให้คนอื่น เพื่อเตรียมสมุนไพรนางแอบลากซูจิ่งสิงเข้ามาในมุมหนึ่งของลานกว้าง“ท่านพี่ เรื่องนี้ท่านว่าอย่างไรเจ้าคะ?”ซูจิ่งสิงไม่พูดสิ่งใด เรื่องความรู้สึกของซูจื่อชิงเขาเองก็ไม่รู้จะเข้าไปแทรกอย่างไรยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เมี่ยชิงหว่านกำลังจะหมั้นกับเผยเสวียนแล้ว เขาไม่มีทางเข้าไปชิงตัวใครออกมาอย่างแน่นอนครั้นกู้หว่านเยว่เห็นซูจิ่งสิงไม่กล่าวสิ่งใด ก็รู้ทันทีว่าคนที่แข็งกระด้างด้านความรู้สึกอย่างเขาคงไม่มีทางคิดออกแน่นอนดังนั้น นางจึงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ท่านไม่รู้สึกว่าการแต่งงานของเมี่ยชิงหว่านและเผยเสวียนกะทันหันเกินไปหรือเจ้าคะ?”ซูจิ่งสิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “หมายความว่าอย่างไร?”“ข้าให้คนไปตรวจสอบแล้ว พวกเขาสองคนรู้จักกันได้ไม่นาน มากสุดเพียงครึ่งเดือน อีกทั้งช่วงเวลานี้ ชิงหว่านไม่ได้สนใจเผยเสวียนเลย กลับเป็นเผยเสวียนที่คอยเอาแต่ประกาศอยู่เรื่อย ๆ ทำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 770

    “คุณชายรองเราไปกันเถอะ ในเมื่อคุณหนูฟู่ตัดสินใจจะหมั้นกับคุณชายเผยแล้ว ต่อให้ท่านรอต่อไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกเจ้าค่ะ”ชิวจู๋ประคองซูจื่อชิงลุกขึ้น คาดไม่ถึงว่าซูจื่อชิงจะรับแรงกระตุ้นไม่ไหวกระอีกออกมาเป็นเลือดและสลบไปในที่สุด“คุณชายรอง คุณชายรอง!” ชิวจู๋รีบประคองซูจื่อชิงกู้หว่านเยว่กำลังคุยเรื่องนี้กับซูจิ่งสิงพอดี ครั้นได้ยินเด็กรับใช้รายงานว่าซูจื่อชิงสลบไม่ได้สติและกระอักออกมาเป็นเลือด“เด็กคนนี้ชอบทำให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย เมื่อครู่ข้าเพิ่งบอกเขาอยู่หยก ๆ ว่าให้ถนอมร่างกายของตัวเอง ไม่ทันไรก็เกิดเรื่องขึ้นแล้ว”กู้หว่านเยว่ด่าทอพักใหญ่ แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนในครอบครัว ทั้งสองคนรีบเดินตรงไปยังจวนด้านหลัง“เกิดอะไรขึ้น?”ทันทีที่เข้าไปก็เห็นซูจื่อชิงสลบอยู่บนเตียง สีหน้าเขียวคล้ำ มุมปากมีคราบเลือดหยดหนึ่งติดอยู่นางหยางและซูจิ้งกลับมาพอดี ครั้นเห็นบุตรชายกลายเป็นเช่นนี้ ก็เจ็บปวดคล้ายกับโดนมีดหรีดหัวใจ“หว่านเยว่ เจ้ารีบดูอาการให้เขาสิว่ามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อครู่ข้าเรียกเขาอยู่ครึ่งวัน กลับไม่มีการตอบสนองเลยสักนิด”“ท่านแม่ ท่านอย่าเพิ่งร้อนใจไป น้องชายรองแค่สลบไปเท่านั้น

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 769

    “ในเมื่อเขามาหาเจ้าแล้วถึงที่แล้ว เจ้าก็ควรออกพบเขาสักหน่อย”เผยเสวียนคลี่ยิ้มหวาน ทำให้เมี่ยชิงหว่านขมวดคิ้วแน่น“ตอนนี้ข้าไม่อยากเจอใคร เจ้าไปบอกเขาเถอะ ข้าเข้านอนแล้ว”เด็กรับใช้ยืนนิ่งไม่ไหวติ่ง เผยเสวียนตั้งใจลูบแก้มของนาง“สาเหตุที่เขาอยากพบเจ้าตอนนี้ คาดว่าคงยังคาใจ อยากฟังคำตอบจากปากของเจ้าเอง ข้าอยากให้เจ้าออกไปบอกเขาด้วยตัวเอง ให้เขาตัดใจเสียเถิด”เมี่ยชิงหว่านตัวสั่นระริก “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้? ข้าไม่เจอเขาก็พอแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ?”“ไม่ได้”เผยเสวียนคลี่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวเสียงต่ำ “ชิงหว่าน เด็กดี เชื่อฟังข้าเถอะ มิเช่นนั้นเจ้าก็รู้ว่าผลลัพธ์จากการโกรธของข้าจะเป็นอย่างไร”เมี่ยชิงหว่านลังเลเล็กน้อย ยังไม่อยากออกไป“ในเมื่อเจ้าไม่อยากออกไปบอกเขา เช่นนั้นข้าจะออกไปบอกเขาเอง ถึงตอนนั้นอะไรที่ควรพูดอะไรที่ไม่ควรพูด ข้าเกรงว่าคงจะควบคุมปากไว้ไม่ได้”เผยเสวียนกล่าวพลางสาวเท้าเดินออกไปข้างนอกนัยน์ตาของเมี่ยชิงหว่านฉายแววเกลียดชัง จากนั้นก็กัดฟันพลางพยักหน้า “ข้าไปเอง ข้าจะออกไปบอกเขาเอง”“แบบนี้สิ ถึงจะเป็นคู่หมั้นที่น่ารักของข้า”เผยเสวียนหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาพลางส

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 768

    หลังจากเกิดความชุลมุนพักใหญ่ ในที่สุดเจ้าตัวก็ฟื้น “ข้า ข้ายังไม่ตายใช่หรือไม่?”ซูจื่อชิงมองรอบ ๆ ห้องอย่างเหม่อลอย สีหน้าแดงก่ำเพราะฤทธิ์สุรา ท่าทางนั้นเหมือนตายทั้งเป็นกู้หว่านเยว่กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ชิงหว่านกำลังจะหมั้นแล้ว ต่อไปเจ้าสองคนก็ต้องต่างคนต่างอยู่ เจ้าทำตัวแบบนี้ไปให้ใครดูกัน?”ซูจื่อชิงตัวสั่นเทิ้ม ก่อนที่บุรุษร่างใหญ่จะร้องไห้คร่ำครวญออกมา“ข้ารู้ผิดแล้ว ทั้งหมดเป็นเพราะข้าเอง ต้องโทษปากของข้าที่เอาแต่ขับไสไล่ส่งนางออกไปไกลมากขึ้นทุกที”ตอนนี้ซูจื่อชิงน้ำตาเช็ดหัวเข่า“ทำไมข้าถึงชอบพูดประชดประชัน ทำไมข้าถึงไม่บอกความรู้สึกของข้ากับนางให้เร็วกว่านี้”บัดนี้คงทำได้แค่มองคนที่ตนรักแต่งงานกับคนอื่นไปต่อหน้าต่อตา เขาจะทนได้อย่างไร? หลายวันมานี้เขาเอาแต่ดื่มเหล้าย้อมใจอยู่แต่ในร้านอาหาร ดื่มจนเมามาย เพียงแค่อยากให้ตัวเองไร้ความรู้สึกเท่านั้นน่าเสียดายที่ความเจ็บปวดจากการสูญเสียคนรัก ไม่สามารถลบล้างด้วยการดื่มเหล้าได้ต่อให้ดื่มเหล้าจนเมามาย ก็ทำได้แค่ลืมไปชั่วขณะ หลังจากสร่างเมากลับมาเจ็บปวดยิ่งกว่าเดิม“เสียใจ ข้าเสียใจจริง ๆ”ซูจื่อชิงน้ำตาไหลอาบสอง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 767

    “ท่านอาเทพธิดา” เว่ยเสียวฉู่ก้มหน้ามองกู้หว่านเยว่ด้วยความชื่นชอบ ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานหยดย้อยหลังจากให้กำเนิดบุตรชาย กู้หว่านเยว่ไม่อาจต้านทานเด็กสาวที่มีหน้าตาน่ารักได้อีก กระทั่งโน้มตัวลงไปบีบแก้มของนาง“สวัสดี เว่ยเสียวฉู่”“ท่านอาเทพธิดา ท้องละเจ้าคะ?” เว่ยเสียวฉู่ชี้ไปที่ท้องของนางด้วยความอยากรู้ กู้หว่านเยว่ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ “เด็กในท้องคลอดออกมาแล้ว เป็นน้องชายตัวน้อย”นัยน์ตาของเว่ยเสียวฉู่เปล่งประกายระยิบ นางไม่มีเพื่อนเล่นเลยตั้งแต่ที่มาถึงเจดีย์หนิงกู่“ข้าขอไปเล่นกับน้องชายได้หรือไม่เจ้าคะ?”“เสี่ยวฉู่” เจียงหรงอุ้มเด็กน้อยพลางกล่าว “ขอโทษด้วยเจ้าค่ะ พระชายา นางยังเด็กยังไม่รู้ความ”สำหรับนางแล้ว องค์ชายน้อยจากราชวงศ์ไม่ใช่ใครที่จะเล่นกับเขาได้นะ?กู้หว่านเยว่กล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ไม่เป็นไร ข้าชอบเด็กอย่างเสี่ยวฉู่ หากมีเวลาว่าง ไว้ข้าจะพานางไปเล่นในจวน” เด็กคนนี้ดูมีความจริงใจ หลังเติบโตไปเด็กคนนี้จะได้เป็นท่านแม่ทัพหญิงที่องอาจผึ่งผาย กู้หว่านเยว่จึงชอบมาก“ขอบพระทัยพระชายาเจ้าค่ะ”เจียงหรงคลี่ยิ้ม นางเองก็รู้อยู่แก่ใจว่ากู้หว่านเยว่ไม่ชอบให้ท

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 766

    “ข้าคิดดีแล้ว ในเมื่อเจ้าอยากอยู่เจดีย์หนิงกู่ ข้าก็จะอยู่ที่นี่กับเจ้า ถึงตอนนั้นข้าคงหางานเขียนและวาดรูปมาเลี้ยงเจ้า”“ท่านพี่วั่ง” ดวงตาของเจียงอวิ๋นจิ่นแดงก่ำ ซาบซึ้งใจยิ่งนักครั้นกู้หว่านเยว่ได้ยินแผนการของทั้งสองคนแล้ว ตัดสินใจว่าจะอยู่เจดีย์หนิงกู่ จึงกล่าวออกไปตรง ๆ ว่า“เทียบกับเรื่องงานเขียนและวาดภาพ ไม่สู้เจ้ามาเป็นผู้อำนวยการให้กับสำนักศึกษาถงซันดีกว่า”“ผู้อำนวยการ?” เฉินจื่อวั่งยังไม่ได้สติชิงเหลียนจึงคลี่ยิ้มและอธิบายว่า “สำนักถงซันเป็นสำนักที่ฮูหยินของเราสร้างขึ้น ตอนนี้กำลังขาดบุคลากรอย่างผู้อำนวยการหนึ่งคนและอาจารย์สอนอีกจำนวนหนึ่ง”กู้หว่านเยว่หยิบแผนที่ใบหนึ่งออกมา “นี่คือที่อยู่ของสำนักศึกษาถงซัน ตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างการสร้าง หากเจ้ามีเวลาแวะไปเยี่ยมชมได้”เฉินจื่อวั่งรับแผนที่มาอย่างตะลึงงัน และเงียบไปชั่วครึ่งยามชิงเหลียนกล่าวถามด้วยใบหน้าดุดัน “ทำไม เจ้าไม่เห็นด้วยหรือ? ในตอนที่เจ้าอ้อนวอนให้ฮูหยินของเราช่วยแม่นางเจียง ไม่ใช่บอกว่าจะทำตามคำสั่งของฮูหยินหรอกหรือ!”เฉินจื่อวั่งไม่เห็นด้วยที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าเขากำลังตกใจอย่างมาก“ข้า ข้าเป็นผู้อำนว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 765

    “ลุกขึ้นเถอะ”กู้หว่านเยว่ทนไม่ได้ที่อยู่ ๆ ก็มีคนคุกเข่าโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเช่นนี้ “ขอรับ”เจียงอวิ๋นจิ่นเชื่อฟังคำสั่งของกู้หว่านเยว่มาก บอกให้นางลุกขึ้น นางก็ลุกขึ้นอย่างว่าง่ายทันทีดวงตาที่งดงามคู่นั้นเอ่อล้นด้วยหยดน้ำตา “พระชายา ข้าไม่รู้ว่าจะตอบแทนท่านอย่างไร”นางกินยาแกล้งตาย หลับไปสามวันเต็ม เพิ่งจะฟื้นเมื่อครึ่งชั่วยามที่แล้ว และได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในสามวันนี้จากเฉินจื่อวั่ง“วินาทีที่นั่งรถม้ามุ่งหน้าไปยังเจดีย์หนิงกู่ ข้าคิดว่าชีวิตที่เหลือหลังจากนี้จบสิ้นเสียแล้ว”เจียงอวิ๋นจิ่นเตรียมยาพิษเอาไว้เรียบร้อยแล้วเหตุผลที่ไม่ดื่มยาพิษฆ่าตัวตายระหว่างทางเป็นเพราะนางกังวลว่าข่าวการตายของนางจะแพร่กระจายไปถึงเมืองหลวงแล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของนาง“สาเหตุที่อวิ๋นจิ่นยังยืนอยู่ตรงนี้ได้ ทั้งหมดเป็นความกรุณาธิคุณของพระชายาที่ทรงช่วยเหลือไว้”“ร่างกายเจ้าอ่อนแอนัก นั่งลงเถิด”ไม่รู้เป็นเพราะเจียงอวิ๋นจิ่นโดนทำร้ายมาตั้งแต่วัยเยาว์หรือไม่ ร่างกายถึงได้อ่อนแอมากเช่นนี้ กู้หว่านเยว่จับชีพจรให้นางแล้วพบว่านางมีสภาวะอ่อนแอขั้นรุนแรงมิน่าล่ะท่าทางการเดินที่ไร้

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 764

    ครั้นกลับถึงบ้านช่วงค่ำ ในขณะที่กู้หว่านเยว่กำลังรับประทานอาหารอยู่นั้นนางก็ได้พูดคุยกับซูจิ่งสิง“ท่านพี่ ข้าตั้งใจจะสร้างสำนักศึกที่แตกต่างจากที่อื่นสักแห่งเจ้าค่ะ สำนักศึกษาของต้าฉีในสมัยก่อนมีเพียงบุรุษเท่านั้นที่เข้าเรียนได้ สำนักศึกษาเจดีย์หนิงกู่ของเราแห่งนี้ ข้าอยากให้สตรีมีโอกาสเข้าไปเรียนด้วยเจ้าค่ะ”ซูจิ่งสิงพยักหน้า สนับสนุนความคิดนี้ของนาง “บุรุษและสตรีใต้หล้านี้ไม่มีแบ่งแยก สติปัญญาก็ไม่แตกต่างกัน ในเมื่อบุรุษเรียนหนังสือได้ สตรีก็ย่อมเรียนได้เช่นกัน”กู้หว่านเยว่คลี่ยิ้มหวานหยดย้อย สายตาที่เปล่งประกายคู่นั้นจ้องมองบุรุษตรงหน้าอย่างเขินอาย“ทำไมมองข้าเช่นนี้ หน้าข้ามีสิ่งใดติดอยู่อย่างนั้นหรือ?”“ไม่มีเจ้าค่ะ ข้าแค่รู้สึกว่าสามีของข้าช่างมีเสน่ห์ยิ่งนัก”ไม่ว่าเมื่อไหร่ พวกเขาสองคนสามารถคุยเรื่องแบบนี้ได้ โดยไม่มีช่องว่างระหว่างวัยคนหนึ่งมาจากยุคโบราณ อีกคนมาจากยุคปัจจุบัน ความคิดค่อนข้างมีอิทธิพลมากแต่บางครั้งนางก็พบว่าความคิดของซูจิ่งสิงก็ทันยุคทันสมัยมากเช่นกันซูจิ่งสิงคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “เจ้าคือภรรยาของข้า ต่อให้บางความคิดข้าจะไม่เข้าใจ ข้าก็เต็มใจสนับสน

DMCA.com Protection Status