공유

บทที่ 135

작가: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
ทุกคนต่างเห็นด้วยกับคำกล่าวของกู้หว่านเยว่

ไม่มีใครรู้ว่าพายุใหญ่ลูกนั้นจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ อีกทั้งเม็ดทรายที่ฟุ้งกระจายอยู่รอบตัวก็ทำให้ทุกคนหายใจไม่สะดวกนัก สู้หนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดน่าจะปลอดภัยกว่า

“ท่านนักการ ดูเหมือนว่าข้างหน้าจะมีจวนขุนนางอยู่หลังหนึ่ง”

จางเอ้อร์ที่ออกไปสำรวจเส้นทางกลับมาบอกข่าวด้วยสีหน้าดีใจ

“เยี่ยม เช่นนั้นเรารีบไปกันเถอะ ไปพักที่จวนขุนนางหลังนั้น” นัยน์ตาของซุนอู่เปล่งประกาย

กลุ่มนักโทษรีบเร่งฝีเท้าเดินทางไปจนถึงทางเข้าของจวนขุนนาง เพียงแต่เมื่อเห็นแผ่นสลักชื่อของจวนหลังนั้น ซุนอู่ถึงกับตกอยู่ในอาการลังเล

นี่คือจวนส่วนพระองค์แห่งหนึ่ง

ความหมายก็ตามชื่อ มันคือที่ดินทรัพย์สินส่วนพระองค์ ซึ่งไม่รู้ว่าพวกเขาจะขออาศัยที่แห่งนี้พักชั่วคราวได้หรือไม่

ทันทีที่เคาะประตู พ่อบ้านท่าทางเย่อหยิ่งคนหนึ่งก็เดินออกมา

“เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นนักการที่รับหน้าที่พานักโทษไปส่งให้หน่วยงานอย่างนั้นหรือ?”

“ใช่ อากาศข้างนอกเลวร้ายมาก พวกเราไม่มีที่ไปจึงอยากจะขอพักที่นี่สักคืน ไม่ทราบว่าจะได้หรือไม่” น้อยนักที่ซุนอู่จะกล่าวอย่างสุภาพเช่นนี้

พ่อบ้านมองกลุ่มนักโทษแวบหนึ่ง
잠긴 챕터
GoodNovel에서 계속 읽으려면
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
댓글 (1)
goodnovel comment avatar
Saranya Pigmom
ให็อ่านนิดเดียว แสดงความคิดเห็นไม่ได้
댓글 모두 보기

관련 챕터

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 136

    “เห็นได้ชัดว่ามู่หรงอวี้มีเจตนาที่ไม่ดี หากท่านไปอาจจะไม่ได้กลับมาอีก”ซูจิ่นเอ๋อร์กล่าวอย่างเหนื่อยล้า “แต่ตอนนี้พวกเราอยู่ในอาณาเขตของเขา จะไปหรือไม่ไปก็ดูเหมือนค่าเท่ากัน”ซูจื่อชิงถึงกับสำลัก แล้วถลึงตาใส่ซูจิ่นเอ๋อร์อย่างเอือมระอา“ทำอย่างไรดี?” หลายคนเริ่มเป็นกังวลซูจิ่งสิงเหลือบมองพวกเขา นัยน์ตาเคร่งขรึมเล็กน้อย หากมู่หรงอวี้ทำการบุ่มบ่ามขึ้นมาจริง ๆ เขาคงต้องชิงเปิดเผยคนในความลับก่อน“ข้าจะไปเป็นเพื่อนท่านเอง”ทันใดนั้น กู้หว่านเยว่ก็คว้ามือของเขา และฉีกยิ้มพลางกล่าว“แค่กินข้าวมื้อเดียว ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ท่านวางได้ มู่หรงอวี้ไม่กล้าทำอะไรท่านอย่างเปิดเผยหรอก”แต่ถ้าเขาคิดจะแทงข้างหลังก็ไม่แน่ถึงต่อให้เขาจะแทงข้างหลัง กู้หว่านเยว่ก็มีวิธีต่อกรกลับไปซูจิ่งสิงมองนางอย่างซาบซึ้ง “หว่านเยว่ ขอบใจเจ้ามาก”“อย่าใช้สายตาชวนขนลุกเช่นนี้มองข้าเชียว” กู้หว่านเยว่ไอกระแอมหนึ่งเสียง ก่อนจะโบกมืออย่างไม่ใส่ใจเหตุใดคำขอบคุณของบุรุษผู้นี้ถึงได้ลึกซึ้งเช่นนี้?หลังจากที่ทั้งสองคนเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ก็เดินตามไปยังลานด้านหน้าระหว่างทาง เด็กรับใช้คนนั้นได้เหลือบมองพวกเข

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 137

    เขาก็ไม่ได้อยากลงมือด้วยตนเอง แต่หากซูจิ่งสิงไม่กินอีก เป็ดย่างจานนี้คงถูกกู้หว่านเยว่กินหมดเกลี้ยงแน่!“นี่คือเป็ดย่างที่รังสรรค์โดยพ่อครัวที่มีชื่อเสียงทางทิศเหนือ รสชาติเลิศรส ไม่ชิมคงจะน่าเสียดาย” มู่หรงอวี้กล่าวเสริมซูจิ่งสิงไม่ใช่คนโง่ในสายตาของมู่หรงอวี้ เขามองออกตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าเป็ดย่างจานนี้มีพิษเมื่อนึกภาพที่กู้หว่านเยว่คีบกินไปแล้วหลายชิ้น ในใจของเขาก็ยิ่งกังวล จึงรีบคว้ามือของนางด้วยจิตใต้สำนึกเขาคิดจะขัดขวางไม่ให้นางกินต่อผลปรากฏว่ากู้หว่านเยว่ส่งสายตาไร้ความกังวลให้เขาซูจิ่งสิงตระหนักได้ถึงความสามารถของกู้หว่านเยว่ เขาจึงเข้าใจในทันทีแต่ปากของเขาก็ยังไม่วายกำชับว่า “กินน้อย ๆ หน่อย ข้ากลัวเจ้าไม่ย่อย”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้า “เป็ดย่างจานนี้เป็นของข้า ท่านห้ามแย่งข้าเด็ดขาด”คำกล่าวของนางเป็นการเตือนว่าเป็ดย่างจานนี้มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล นางกลัวว่าเขาจะพลาดกินมันเข้าไป“ซูฮูหยินชอบเป็ดช่างจริง ๆ ชีวิตที่แล้วคงจะไม่เคยกินสินะ?”มู่หรงอวี้ยกยิ้มแข็งทื่อ เขาเกือบจะข่มความโกรธไม่ได้หญิงสาวผู้นี้เป็นลูกเศรษฐีสกุลกู้จริง ๆ ใช่ไหม?ดูท่าทางการกินนั่นสิ หร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 138

    เพียงแต่เรื่องส่วนตัวเหล่านี้ไม่ควรนำมาพูดบนโต๊ะอาหารมิเช่นนี้หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ก็ไม่รู้ว่าประวัติศาสตร์ที่ไม่เป็นทางการเหล่านั้นจะถูกเขียนออกมาว่าอย่างไร แล้วอาณาประชาราษฎร์จะตัดสินพวกเขาแบบไหน“ไม่มีปัญหาแน่นอน” ในเวลานี้นิ้วมือของมู่หรงอวี้สั่นระริก เขาพยายามข่มความโกรธไว้ “ข้าแค่เป็นคนรักสะอาดนิดหน่อยก็เท่านั้น”เมื่อตระหนักได้ว่าเป็ดย่างจานนั้นมียาพิษ อีกทั้งตนได้กินเข้าไปแล้ว ถึงแม้ว่าจะอาเจียนออกมา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าพิษนั้นได้เข้าสู่ร่างกายแล้วหรือไม่เวลานี้มู่หรงอวี้ถึงกับนั่งไม่ติด และทนไม่ไหวอีกต่อไป“จู่ ๆ ข้าก็รู้สึกไม่สบายตัว พวกเจ้ากินกันไปก่อน ข้าขอตัว”กล่าวจบเขาก็พรวดลุกขึ้นและเดินออกไปทันที เมื่อเดินมาถึงลานด้านหลังเขารีบล้มตัวลงนอนบนเตียง“รีบไปตามเซียนแพทย์น้อยมาให้ข้าเร็วเข้า บอกว่าข้ากินยาพิษของนาง!”ภายในเรือนตะวันออก ทันทีที่มู่หรงอวี้ออกไป ซูจิ่งสิงก็รีบหันไปมองกู้หว่านเยว่“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ เป็ดย่างวางยาพิษเหล่านั้นเจ้ากินมันลงไปได้อย่างไร?”เขารู้ว่ากู้หว่านเยว่มีความสามารถ แต่ถึงอย่างไรร่างกายของมนุษย์ก็มีเลือดเนื้อ จะทนต่อพิษเ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 139

    “ครั้งนี้กู้หว่านเยว่ต้องตายสถานเดียว”นางหลิวกล่าวอย่างลำพองใจ “คนของราชวงศ์ไม่ปล่อยพวกเขาไว้แน่”“โชคดีที่พวกเราไม่ได้คืนดีกับบ้านสาม พวกเราจึงไม่โดนหางเร่ไปด้วย”ฮูหยินผู้เฒ่าซูถอนหายใจอย่างโล่งอกเดิมทีนางอยากบากหน้าไปขอคืนดีกับบ้านสาม แต่ปรากฏว่ากู้หว่านเยว่โหดร้ายเกินไป นางจึงไม่กล้าเสนอหน้าหรือนี่อาจจะเป็นความบังเอิญก็ได้ก็ดี ที่นางประกาศตัดความสัมพันธ์กับบ้านสามในตอนแรกนั้นถูกแล้วนางจินและซูหรานหร่านสบตากัน โดยที่ทั้งสองคนไม่ได้กล่าวสิ่งใดไม่ว่าจะเป็นบ้านสามหรือสกุลซู พวกเขาก็ไม่เคยคิดอยากเกี่ยวข้องด้วยนัยน์ตาของซูจื่อชิงเย็นเยือก “ทุกคนคือสกุลซูเหมือนกัน พี่ใหญ่และพี่สะใภ้เกิดเรื่อง พวกเจ้าคิดว่าพวกเจ้าจะรอดอย่างนั้นหรือ?”ทำไมก่อนหน้านั้นถึงดูไม่ออกว่าท่านยายโง่เขลาเช่นนี้“สกุลเดียวกันอะไร พวกเราตัดขาดกันไปแล้ว”นางหลิวกล่าวเสียงดัง นางกลัวว่าผู้คุ้มกันของมู่หรงอวี้จะไม่ได้ยิน“ไอหยา ข้าพูดกับจิ่นเอ๋อร์ เจ้าว่าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้จะกลับเข้ามาแบบเดินเข้ามาหรือถูกหามเข้ามา?”“เจ้าหุบปากไปเลย !” ซูจิ่นเอ๋อร์โกรธจนปากสั่นไปหมด สายตาคู่นั้นยังคงจับจ้องไปที่ประตู

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 140

    จากนั้นนางก็หยิบหน้ากากขึ้นมาใส่ และแวบออกจากห้องไปทันทีนางไม่ลืมว่าตนก็มีเรื่องต้องทำ ในเมื่อจวนหลังนี้เป็นอาณาเขตของมู่หรงอวี้ ก็อย่ามาโทษว่านางไม่เกรงใจก็แล้วกัน!ทันทีที่เข้าไปในห้องใต้ดิน กู้หว่านเยว่ก็ได้เห็นอาวุธและเสบียงมากมาย นางจึงรีบกอบโกยกลับอย่างไม่เกรงใจจากนั้นนางก็เข้าไปในครัวและทำการขนอาหารพร้อมทั้งม้าที่อยู่ในคอกออกไปพร้อมกัน“เหอะ ๆ ข้าชักอยากเห็นแล้วสิว่าหากท่านไม่มีม้า ท่านจะไปจากจวนแห่งนี้ได้อย่างไร”กู้หว่านเยว่หัวเราะด้วยความสะใจ ก่อนจะหายตัวไปโผล่ในพื้นที่นอกหน้าตาห้องของมู่หรงอวี้และใช้นิ้วเจาะรูหน้าต่างที่ทำจากกระดาษ และมองเข้าไปข้างใน“เจ็บ เจ็บจะตายอยู่แล้ว ขาของข้าเหมือนมีมดเป็นร้อยตัวรุมกัดอย่างไรอย่างนั้น”มู่หรงอวี้นอนอยู่บนเตียงอย่างหมดเรี่ยวแรง ทั้งยังคร่ำครวญไม่หยุด“ทำไมเซียนแพทย์น้อยถึงยังไม่มาอีก?”“กราบทูลท่านอ๋อง เซียนแพทย์น้อยมาแล้ว เซียนแพทย์น้อยมาแล้ว!”เด็กสาวในชุดสีขาวคนหนึ่งวิ่งหน้าตั้งเข้ามาจากด้านนอก เมื่อถึงข้างเตียงนางก็รีบจับชีพจรของมู่หรงอวี้ทันที“ท่านอ๋อง ท่านโดนยาพิษได้อย่างไร?”“อย่าถาม”เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ มู่หร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 141

    ทันใดนั้นฟู่เยียนหรานก็ปิดหน้าร้องไห้เสียงสะอื้น ท่าทางเช่นนี้ยิ่งยืนยันได้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสอง“ฮูหยินซู เจ้าอย่าโทษพี่ใหญ่ซูเลย เพราะข้าเทิดทูนเขามากเกินไปถึงกลายเป็นแบบนี้ข้าจะไม่โต้เถียงใด ๆ กับเจ้า เพียงอยากดูแลเรื่องปัจจัยสี่ของพี่ใหญ่ซูอยู่เคียงข้างเขาเท่านั้น”นางห่อไหล่ขาวผุดผ่องอย่างอ่อนแรง น้ำตาไหลพราก ผู้ชายส่วนใหญ่เห็นแล้วก็รู้สึกสงสารไม่แปลกใจที่ได้เป็นพระมเหสีเข้าใจใช้ลูกไม้ใสซื่อเป็นอย่างดี“ซูจิ่งสิง”กู้หว่านเยว่บิดขี้เกียจ นางไม่มีเวลามาคร่ำครวญกับฟู่เยียนหราน“ข้าง่วงแล้ว ท่านช่วยอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยเร็ว”ในน้ำเสียงแฝงความรำคาญใจซูจิ่งสิงกังวลว่ากู้หว่านเยว่จะเข้าใจผิด เมื่อได้ยินเช่นนั้นจึงรีบอธิบาย“ข้าได้ยินเสียงความวุ่นวายจึงตื่นขึ้นมา พบว่านางยืนอยู่ที่หัวเตียง กำลังเปลื้องผ้าอยู่พอข้าตวาดไล่นางไป เจ้าก็ผลักประตูเข้ามาแล้ว ข้าไม่ได้แตะต้องนางเลย”กู้หว่านเยว่ชำเลืองมองเตียงที่จัดไว้อย่างเป็นระเบียบ ด้วยความเข้าใจในตัวซูจิ่งสิงของนาง ย่อมรู้ว่าเขาไม่นอกลู่นอกทางแน่หลังจากได้ฟังคำอธิบายด้วยหูตัวเอง ก็ยิ่งไม่มีอะไรให้สงสัยอีก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 142

    หลังจากพักหายเหนื่อยได้หนึ่งวัน เหล่านักโทษเนรเทศก็กลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง พากันเก็บข้าวของเพื่อออกจากคฤหาสน์หลวงเมื่อมู่หรงอวี้ตั้งสติได้ ลานหลังบ้านก็ว่างเปล่าไร้ผู้คนแล้ว“เจ้าโง่ ข้าไม่ได้บอกให้เจ้าจับตาดูพวกเขาไว้หรือ?!”เขาถีบพ่อบ้านที่กุลีกุจอเข้ามาอย่างหงุดหงิดพ่อบ้านคุกเข่าพรึ่บลงกับพื้น“ท่านอ๋องอย่าทรงกริ้ว เมื่อเช้าคฤหาสน์หลวงถูกปล้นอย่างกะทันหัน ข้าน้อยไม่มีเวลานึกถึงพวกเขา...”“เจ้ากินอะไรเป็นอาหาร เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ก็จัดการไม่ได้...ช้าก่อน เจ้าบอกว่าคฤหาสน์หลวงถูกปล้นงั้นหรือ?”มู่หรงอวี้ใจหายวาบ เกิดลางสังหรณ์ขึ้นมาในทันใดเขาหันหน้าเดินไปยังห้องใต้ดินโดยไม่พูดอะไรเมื่อมาถึงทางเข้าห้องใต้ดิน เห็นไข่มุกเรืองแสงราตรีสองเม็ดที่ส่องสว่างตรงประตูถูกหักออก เขาหน้ามืดในทันใด“ท่านอ๋อง อดทนไว้”คนสนิทรีบเข้ามาประคองมู่หรงอวี้“ทนได้ ทนได้...” มู่หรงอวี้ฝืนผลักประตูหินให้เปิดออก เมื่อเห็นสถานการณ์ภายในอย่างชัดเจน ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป“เงินทองของข้า เงินทองของข้า!”น้ำตาไหลรินจากเบ้าตา มู่หรงอวี้ในวัยสามสิบกว่า ๆ ร้องไห้เป็นเด็กทารกห้องใต้ดินแห่งนี้มีทรัพย์ส

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 143

    “ทุกคนออกไปก่อน!”ซุนอู่ได้ยินเสียงร้องอันเจ็บปวดของสตรีบนรถม้า จึงรีบเข้าไปในวัดเก่าทรุดโทรมโดยที่แทบจะไม่ลังเลใด ๆ สั่งนักการในศาลาว่าการให้พานักโทษเนรเทศออกไปพักข้างนอก“ทั้ง ๆ ที่เรามาถึงวัดเก่าก่อน เหตุใดถึงต้องออกไปด้วย?”เสียงว่ากล่าวของฝูงชนดังไปทั่ว แต่ก็ไม่กล้าขัดคำพูดของนักการในศาลาว่าการ“ไป เราออกไปกันเถอะแม่” ซูจื่อชิงลุกขึ้นยืน“เฮ้อ!” ซูจิ่นเอ๋อร์ยกหม้ออย่างไม่เต็มใจ “ต้องก่อไฟใหม่อีกรอบ”“น้ำคร่ำของแม่นางคนนั้นแตกแล้ว คาดว่าอาจจะต้องคลอดลูกที่วัดเก่า พวกเราออกไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่อธิบายนางใจกว้างกับหญิงตั้งครรภ์มาก การคลอดลูกไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับผู้หญิง“เจ็บ เจ็บเหลือเกิน...”“ฮูหยินน้อย ท่านอดทนอีกนิด ค่อย ๆ นั่งลงบนฟูกก่อน”ระหว่างการสนทนา บ่าวรับใช้สูงอายุสองคนช่วยประคองฮูหยินน้อยให้นั่งลงในมุมหนึ่งซู่จิ่นเอ๋อร์จ้องไปที่น้ำคร่ำที่ไหลนองเต็มพื้น ฟังเสียงกรีดร้องของหญิงสาว ถึงได้รู้ความร้ายแรงของสถานการณ์“กำลังจะคลอดแล้วจริง ๆ ในเมื่อเป็นเรื่องความเป็นความตาย พวกเราก็รีบยกสถานที่ให้นางเถอะ”“อืม”ก่อนจะไป กู้หว่านเยว่ก็ได้ยินเสียงบ่าวรับใช้คนหนึ่

최신 챕터

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1395

    เห็นเพียงท่ามกลางหมอกหนาทึบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแสงไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับหิ่งห้อยในค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อแสงไฟนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รองแม่ทัพที่อยู่บนเรือก็เบิกตาทั้งสองกว้าง“ไม่ได้การ ทั้งหมดเป็นลูกศรติดไฟ!”ก้นลูกศรเหล่านี้ถูกมัดด้วยลำกล้องดินปืน ภายในเป็นดินปืนทั้งหมดดินปืนตกลงมาพร้อมกับลูกศรที่ยิงขึ้นมาบนเรือราวกับเม็ดฝนทั่วท้องฟ้า ภายในเวลาชั่วพริบตา เรือก็ติดไฟ“เร็วเข้า รีบถอยกลับ”หลี่กวงถิงสั่งการ เขารู้สึกอย่างเลือนรางว่าตัวเองถูกแผนชั่วของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เล่นงานเข้าแล้วกองทัพใหญ่ออกเดินทางแล้ว ต้องการจะถอยกลับจะทำได้ง่าย ๆ อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังอยู่บนผิวน้ำ การเดินเรือไปข้างหน้าก็ทำได้ยากลำบากอยู่แล้วคนเหล่านี้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้บนน้ำ ไม่มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยังโชคดีเพราะหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่าถอยอย่างเป็นระเบียบเรือติดไฟแล้ว เหล่าทหารร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ในระหว่างการล่าถอยของเรือ ต่างก็ชนกันเอง สถานการณ์วุ่นวายในระดับหนึ่งทว่าลูกศรทั่วฟ้านั้นก็ยังไม่ยอมหยุดเลยหลังจากยิงจบระลอกห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1394

    “ข้ามีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง”ดวงตาของกู้หว่านเยว่กลอกไปมา ทันใดนั้นก็มีความคิดแผลง ๆ ผุดขึ้นมา“หลี่กวงถิงผู้นี้ต้องการว่าจ้างคนจากหอมือสังหารมาฆ่าท่านมิใช่หรือ? เราก็ให้คนของหอมือสังหารมาตอบรับเรื่องนี้”ซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่สบสายตากันเข้าใจทันทีว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่“หนามยอกเอาหนามบ่งหรือ?”“ถูกต้อง ถึงตอนนั้นเราก็มาปิดประตูตีแมวกัน”ซูจิ่งสิงเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง นกพิราบสื่อสารก็กลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งกลับไปที่หอมือสังหารเป็นสองวันที่สถานการณ์สงบสุขสองวันต่อมา หลี่กวงถิงก็ได้รับข่าวกรอง แจ้งว่าคนจากหอมือสังหารทำสำเร็จแล้ว“ข้าน้อยเห็นว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่สงบเงียบ ดูเหมือนจะไม่มีข่าวการตายของซูจิ่งสิงแพร่ออกมา”รองแม่ทัพหลายคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าใดหลี่กวงถิงยังรู้สึกว่าต้องระมัดระวังด้วยหลังจากรออีกสองวัน ก็มีข่าวกรองออกมาอีกว่า ค่ายของผู้บัญชาการถูกรายล้อมด้วยกองกำลังทหารอากาศแบบนี้ภายนอกกระโจมกำลังตากปลาเค็มอยู่ จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง“ตากปลาเค็ม อากาศแบบนี้ตากปลาเค็มอะไรกัน?”หลายคนนั่งวิเคราะห์ด้วยกันรองแม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างฉับพล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1393

    “ลู่จิง มองไม่ออกเลยว่า เจ้าจะรักหน้าที่การงานมากเช่นนี้”เกาเจี้ยนหัวเราะอย่างชั่วร้ายรักหน้าที่การงาน?ลู่จิงสะดุดเข้าให้ใครจะไปรักหน้าที่การงาน ชัดเจนว่าเขารักและสงสารกงซุนฉิงเขาเหลือบมองกงซุนฉิง ขณะที่คิดจะใช้โอกาสนี้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างสองคน“ถูกต้อง เขารักหน้าที่การงานมาก!”ทันใดนั้นกงซุนฉิงก็เหยียบเท้าของเขา แล้วรีบเอ่ยขึ้นนางละอายใจที่จะให้ฮูหยินรับรู้เรื่องราวของพวกเขาสุดท้าย ก็จ้องเขม็งใส่ลู่จิงอย่างดุดัน พลางกระซิบว่า“หุบปาก”“ก็ได้”ลู่จิงหุบปากอย่างเชื่อฟังคำพูดของคนรักต้องเชื่อฟัง นี่จะไม่ใช่ความองอาจของชายชาตรีอย่างหนึ่งอย่างไร“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองก็พูดคุยกันตามสบาย ใครจะเฝ้ายามก็ไม่สำคัญ หรือว่าถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเจ้าสองคนก็เฝ้ายามด้วยกันได้”ด้วยการเสริมทัพของเกาเจี้ยน ใบหน้าของกงซุนฉิงก็ยิ่งแดงขึ้น“เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงเงียบ ๆ พลางยิ้มคลุมเครือมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกันเรื่องความรักลับ ๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน“ไป”ซูจิ่งสิงจูงมือกู้หว่านเยว่จากไป“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องไปเหมือนกัน”เกาเจี้ยนถูกเตือนสต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1392

    ซูจิ่งสิงกระซิบเตือนกู้หว่านเยว่ที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ภรรยาเป็นคนบ้าการงาน ตั้งแต่มาถึงค่ายทหาร ก็มีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเขาเสียอีกเขาชอบท่าทางการวางแผนในกระโจมของกู้หว่านเยว่มาก เพียงแต่เป็นห่วงว่าร่างกายของนางจะรับไม่ไหว ดังนั้นจึงกำชับอยู่บ่อยครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะ ลมแรงจริง ๆ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสโยนกล้องโทรทรรศน์เข้าไปในมิติ แล้วลงมาจากหอสังเกตการณ์พร้อมกับซูจิ่งสิงหอสังเกตการณ์แห่งนี้สร้างโดยทหารตามคำสั่งของกู้หว่านเยว่ก่อนหน้านี้ โดยอิงตามพิมพ์เขียวที่นางให้มาหอสังเกตการณ์สูงยี่สิบเมตรพอดี เมื่อยืนอยู่ด้านบนของหอสังเกตการณ์จะสามารถมองเห็นจุดที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน สังเกตสถานการณ์ของศัตรูได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งสองลงมาจากหอสังเกตการณ์ ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในกองทัพกับเกาเจี้ยนก็ได้ยินเสียงโต้เถียงครู่หนึ่งโดยพลัน“ชู่ว์”กู้หว่านเยว่ส่งสัญลักษณ์มือให้ซูจิ่งสิง ดึงเขาให้เดินไปตามทิศทางที่ส่งเสียงมานางรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อเดินเข้าไปมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยจริงดังคาด เห็นกงซุนฉิงและลู่จิงกำลังโต้เถียงกันหน้าแดงหูแดง“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านมา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1391

    “หลี่กวงถิงต้องการควบคุมข่าวลือในกองทัพ แต่ก็ต้องดูว่านายทหารเหล่านั้นจะเชื่อเขาหรือไม่”ในกระโจมฝั่งตรงข้ามกับแม่น้ำมู่ตัน กู้หว่านเยว่กำลังแกว่งเอกสารราชการในมือเล่น ใบหน้าเผยแววเจ้าเล่ห์ออกมาซูจิ่งสิงถูปลายนิ้ว “เป็นอย่างที่เจ้าคาดไว้ไม่ผิด ทันทีที่หลี่กวงถิงได้ยินข่าวนี้ ก็เรียกประชุมทั้งกองทัพทันทีและบอกว่าข่าวนี้ เป็นเท็จ”“เขามีวิธี และเราก็มีวิธีเช่นกัน”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเก็บไพ่ใบสำคัญนี้ไว้ตลอดโดยเปล่าประโยชน์ ย่อมไม่ยอมปล่อยให้หลี่กวงถิงปกปิดเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ“ถึงเวลาที่โจวเหล่าต้องออกหน้าแล้ว”นางเอ่ยเบา ๆหลี่กวงถิงเรียกประชุมทั้งกองทัพ พยายามปลอบขวัญทหารทว่าเขาเพิ่งพูดจบในตอนเช้า ตอนบ่ายก็มีข่าวส่งมาถึงบอกว่าโจวเหล่าออกหน้าด้วยตัวเอง เขียนเอกสารฉบับหนึ่งด้วยมือ“โจวเหล่าได้ยอมรับสถานะบุตรที่เป็นกำพร้าของอดีตรัชทายาทแล้ว”ใบหน้าของรองแม่ทัพอมทุกข์“โจวเหล่าเคยเป็นอาจารย์ของอดีตรัชทายาท เขายังเป็นนักปราชญ์แห่งยุคอีกด้วย มีลูกศิษย์ในมือนับไม่ถ้วน เขาเชี่ยวชาญในการชี้นำการพัฒนาคำวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชนบัดนี้เขาพูดออกมาเช่นนี้ ยังมีใครที่ไม่เชื่ออีก?”

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1390

    กู้หว่านเยว่ซื้อโล่และชุดเกราะมาอย่างละสองหมื่นชุดนอกจากธนูและหน้าไม้แล้ว กู้หว่านเยว่ยังซื้อลูกปืนใหญ่มาอีกชุดหนึ่งลูกปืนใหญ่เหล่านี้ถือเป็นของสำรอง จะไม่นำออกมาใช้อย่างเด็ดขาด เว้นแต่จะเป็นสถานการณ์พิเศษพลังทำลายล้างของลูกปืนใหญ่นั้นรุนแรงเกินไป หากไม่จำเป็น ก็อย่าเพิ่งนำออกมาใช้หลังจากเตรียมสิ่งของพร้อมแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ดูยอดเงินคงเหลือในบัตรอืม แทบจะไม่ขยับเลยการมีเงินใช้ไม่หมดนี่มันรู้สึกดีจริง ๆ !นอกจากสิ่งเหล่านี้ นางยังซื้อผงห้ามเลือดและยาจินชวงมาจำนวนมาก ล้วนมีประโยชน์สำหรับใช้พันแผลให้ทหารหลังจากทำทั้งหมดนี้เสร็จแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ย้ายสิ่งของทั้งหมดนี้เข้าไปไว้ในคลังเก็บของในเมืองผิงโจวเมืองผิงโจวมีทหารคุ้มกันอย่างแน่นหนา ไม่ต้องกลัวว่าของข้างในจะสูญหายหลังจากนำของเข้าไปไว้ในคลังเก็บของแล้ว ค่อยให้ทหารขนย้ายสิ่งของเหล่านี้ทั้งหมดไปยังค่ายเวลาผ่านไปรวดเร็วสิบวันต่อมา กองทัพของฮ่องเต้เดินทางมาถึงแม่น้ำมู่ตันหลี่กวงถิงมองไปยังผืนน้ำอันกว้างใหญ่ของแม่น้ำมู่ตัน ก็รู้สึกมึนงงมิน่าล่ะ ก่อนหน้านี้เจียงเต๋อจื้อนำกองทัพห้าหมื่นนายมา ผลปรากฏว่าพ่ายแพ้ย่อยยับ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1389

    นางสั่งให้คนสร้างคลังเก็บของขนาดใหญ่ขึ้นที่บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำมู่ตันในเมืองผิงโจวเมื่อนานมาแล้ว แต่ก่อนเอาไว้ใช้เก็บเสบียงอาหารยังมีคลังเก็บของอีกหลายแห่งที่ยังใช้ไม่หมดกู้หว่านเยว่ตั้งใจจะใช้กักตุนอาวุธทั้งหมดสามวันต่อมา กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงนำกองทัพใหญ่มาถึงแม่น้ำมู่ตันกองทัพใหญ่ตั้งค่ายอยู่ริมแม่น้ำกางเต็นท์อย่างเป็นระเบียบ ตามแบบแปลนที่กู้หว่านเยว่มอบให้เต็นท์เล็ก ๆ ถูกกางขึ้นริมแม่น้ำควันไฟค่อย ๆ ลอยขึ้นไปเหล่าทหารไม่ได้ตื่นตระหนกเลยแม้แต่น้อย แต่ละคนดูเหมือนมาพักผ่อนจะทำอย่างไรได้ ก็เบี้ยหวัดทหารเยอะมากเกินไป!คนอื่นเวลาเดินทัพก็กินแต่อาหารแห้ง ซาลาเปากับหมั่นโถว แต่พวกเขากินกับข้าวสามอย่าง พร้อมน้ำแกงหนึ่งอย่างทุกมื้อ แถมยังมีทั้งเนื้อและผักอีกต่างหาก!แบบนี้จะเรียกว่าออกรบได้อย่างไร?เหมือนกับเทศกาลตรุษจีนชัด ๆ !เมื่อเห็นเหล่าทหารมีขวัญกำลังใจ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็ดีใจ ทั้งสองคนปรึกษาแผนการในค่ายทหารซูจิ่งสิงไม่เป็นสองรองใครในเรื่องการรบอยู่แล้ว แต่เขาพบว่ากู้หว่านเยว่ก็มีพรสวรรค์ในด้านการทหารเช่นกันความคิดที่ผุดขึ้นมาเป็นครั้งคราว ทำให้เขา

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1388

    “ไม่ต้อง ๆ ข้าแค่พูดเล่นเท่านั้น ยาพิษของพวกนี้ ใช้ให้น้อยจะดีกว่า”แต่จริง ๆ แล้ว เขาก็แค่แสร้งทำเท่านั้น เฟิ่งอู๋ชีไม่ได้กลัวพิษเลยสักนิด เพราะร่างกายเขามีคุณสมบัติเป็นยาโดยกำเนิด“ไปแล้วนะ”เขาโบกมือ แล้วหันหลังเดินจากไป“รักษาชีวิตของท่านเอาไว้”กู้หว่านเยว่เอ่ยขึ้นอย่างช้า ๆ ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงความปลอดภัยของเฟิ่งอู๋ชี แต่เป็นเพราะคนที่ร่างกายมีคุณสมบัติเป็นยาโดยกำเนิดนั้นหาได้ยากเผื่อในอนาคตทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกัน นางก็อาจจะได้ศึกษาดู“ไม่ต้องห่วง สิ่งที่แข็งที่สุดของข้าก็คือชีวิตนี่แหละ”เฟิ่งอู๋ชีนหลังเดินจากไป เดินไปได้สองก้าวก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไม่ใช่ ๆ จุดแข็งที่สุดของเขาไม่ใช่ชีวิตเสียหน่อย!“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ นี่เป็นถึงองค์ชายหนานเจียงเชียวนะ จะไม่ฉวยโอกาสจับเขาไว้หรือ จะปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ แบบนี้หรือ?”ซูจื่อชิงรีบเข้ามา เห็นเฟิ่งอู๋ชีกำลังเดินจากไปพอดี ใบหน้าของเขาเผยความเสียดายออกมาเล็กน้อยปล่อยศัตรูไปแบบนี้ ไม่เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่าหรอกหรือ?จากมุมมองของเขา ก็ควรจะจับองค์ชายหนานเจียงไว้ เพื่อใช้ข่มขู่หนานเจียงสิ“ฆ่าองค์ชายหนานเจียงก็ไร้ประโยช

앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status