Share

บทที่ 1301

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
เขาอ้อนวอนน้ำมูกน้ำตาไหล “จอมยุทธทั้งสองท่านโปรดไว้ชีวิตด้วย พวกเราไม่ได้ตั้งใจ

พวกท่านอยากได้อะไรข้าล้วนมอบให้ท่าน

ขอร้องพวกท่านปล่อยพวกเราไปเถอะ”

ยามอยู่ต่อหน้าผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง ไม่ว่าใครก็ไม่มีความคิดต่อต้าน

เถียนจี้คนนี้เองก็คร่ำหวอดอยู่ในยุทธภพมานาน ยามเพิ่งเริ่มต่อสู้ก็มองออก ความสามารถของสามีภรรยาคู่นี้อยู่เหนือเขา

หากยังสู้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องถูกถีบลงถ้ำแน่

“ภรรยาของเจ้ายังอยู่ข้างล่างนะ”

กู้หว่านเยว่แสยะยิ้ม

“สามีใจร้ายยิ่งนัก ถึงขั้นไม่ลงไปอยู่เป็นเพื่อนนาง?”

สีหน้าถังจี้เผือดซีด กู้หว่านเยว่ไม่มอบโอกาสให้เขาตอบสนองได้ทันท่วงที สะบัดแส้ออกไป พันรอบตัวเขา โยนลงถ้ำไปแล้ว

ซูจิ่งสิงเองก็ทำแบบเดียวกัน ถีบคนเหล่านั้นลงถ้ำ

ขณะทั้งสองคนกำลังต่อสู้อยู่ข้างบน ระบบเองก็สำรวจถ้ำเรียบร้อยแล้ว

“นายหญิง ข้างล่างมีสุสานใต้ดิน มีสุสานใต้ดินจริงๆ”

เสียงของระบบตื่นเต้นอย่างมาก

“ภายในสุสานใต้ดินยังมีสมบัติไม่น้อยซ่อนอยู่ หากนายหญิงสามารถเก็บสมบัติเหล่านี้ได้ มิติก็จะอัปเกรดสูงขึ้น”

กู้หว่านเยว่ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ของระบบ ภายในดวงตาทั้งสองข้างเร่าร้อนขึ้นมาในทันใด

นางไ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1302

    “ช่วยด้วย ช่วยด้วยเถอะ”กัวเสี่ยวม่านกลับวาสนาดี แม้ว่านางเป็นคนแรกที่ถูกถีบลงมา แต่ตอนนี้นางถึงขั้นยังไม่ตาย“ท่านพี่ ขอร้องท่านช่วยข้าด้วย”กัวเสี่ยวม่านเดินโซเซ หันมองทางเถียนจี้พลางร้องขอความช่วยเหลือ คิดว่าดีร้ายอย่างไรก็เป็นสามีภรรยากัน ภายใต้สถานการณ์อันตรายเช่นนี้ น่าจะเพียงพอให้ช่วยนางสักครั้งแต่ใครคิดเล่าว่าเถียนจี้กลับหันหน้า ถีบนางแรงๆ หนึ่งทีกัวเสี่ยวม่านถูกถีบจนล้มลงกับพื้น“ทำไม?”นางเบิกตาทั้งสองข้างอย่างเหลือจะเชื่อ“ล้วนมาถึงตอนนี้แล้ว หากสามารถเอาชีวิตรอดได้ก็ย่อมต้องเอาชีวิตรอด”เถียนจี้ตะโกนอย่างไม่ลังเล“เดิมทีสามีภรรยาก็เป็นนกในป่าเดียวกัน ยามภัยมาต่างพากันบินหนี หรือว่าเจ้าไม่เคยได้ยินกระนั้น?”เขาคล้ายไม่ใส่ใจความเป็นตายของกัวเสี่ยวม่าน คิดใช้นางเติมกระเพาะของอสรพิษมีเขาทะเลทรายให้เต็มก่อน ไม่แน่ว่าเขายังสามารถหนีรอดออกไปได้“ท่าน ท่านไม่รู้สึกผิดต่อข้าหรือ?”สายตากัวเสี่ยวม่านสั่นสะท้าน คิดไม่ถึงเลยว่าเถียนจี้ถึงขั้นทำกับนางเช่นนี้“ข้าทำเพื่อท่านมากถึงเพียงนั้น ทุกครั้งล้วนไปหลอกทำร้ายคนแทนท่าน”กัวเสี่ยวม่านโมโหกระอักเลือด“หากไม่ใช่ข้า เดิ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1303

    กัวเสี่ยวม่านตะโกนเสียงดัง ดีใจน้ำตาไหล “ทางฝั่งนั้นมีประตูหิน พวกเรารอดแล้ว!”“มีประตูหินๆ พวกเรารีบหนีเข้าไปเถอะ”เถียนหมั่งอุ้มกัวเสี่ยวม่าน หลบเข้าไปภายในประตูหินอย่างทุลักทุเล“ช่วยพวกเราด้วย”“ให้พวกเราเข้าไปด้วยเถอะ”ผู้อยู่ใต้อาณัติยังมีชีวิตรอดอีกสองคนร้องตะโกน กัวเสี่ยวม่านเห็นอสรพิษมีเขาทะเลทรายเลื้อยมาทางนี้แล้ว ร้องตะโกนด้วยความตกใจ“เร็วเข้า ปิดประตูหิน”เถียนหมั่งไม่ใส่ใจความเป็นตายของผู้อื่นอยู่แล้ว เขายังจงใจดันหินหลายก้อนไว้ข้างหลังประตูหิน“ซือซือ”เสียงของอสรพิษขนาดมหึมาดังขึ้นนอกประตู ผ่านไปครู่หนึ่งเสียงร้องโอดครวญของผู้อยู่ใต้อาณัติก็ดังขึ้นเถียนหมั่งจับจ้องร่างอรชรของกัวเสี่ยวม่าน ทันใดนั้นกอดนางไว้“ไม่เป็นไรแล้ว พี่สะใภ้”เขาฉวยโอกาสนี้จุมพิตบนใบหูของกัวเสี่ยวม่าน“พวกเราปลอดภัยแล้ว”“อย่าทำเช่นนี้” กัวเสี่ยวม่านผลักออกอย่างอึดอัด “ข้าเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของท่าน”“พี่ใหญ่ตายไปแล้ว”เถียนหมั่งจับจ้องเรือนร่างของกัวเสี่ยวม่าน สวรรค์รู้ดี เขารอวันนี้มานานมากเพียงใด“เสี่ยวม่าน พี่ใหญ่ไม่มีค่าพอให้ท่านรักษาตัวดุจหยกเพื่อเขา ภายภาคหน้าให้ข้าดูแลท่านดี

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1304

    เถียนหมั่งพูดขู่เสียงเรียบ กัวเสี่ยวม่านเห็นจิตสังหารภายในก้นบึ้งของสายตาเขา หัวใจก็สั่นสะท้านสมเป็นพี่น้องกัน ล้วนพึ่งพาอาศัยไม่ได้นางคลี่ยิ้มออกมา“ข้าย่อมต้องไปกับท่าน”ฉวยโอกาสตอนที่เถียนหมั่งไม่สนใจ กัวเสี่ยวม่านดึงปิ่นปักผมลงมา แทงเข้าทางหลังศีรษะของเขาเมื่อครู่ทั้งสองคนเพิ่งโอบกอดกัน ครั้นได้เห็นสมบัติกองนี้ จากแสดงละครกลับกลายเป็นต่อสู้แล้วกู้หว่านเยว่รับชมสถานการณ์ภายนอกผ่านหน้าจอภายในมิติ จูงซูจิ่งสิงมารับชมละครฉากสนุกด้วยกัน“ท่านพี่ ท่านว่าใครจะชนะ?”กู้หว่านเยว่กัดแตงโม ดูอย่างสนอกสนใจซูจิ่งสิงมองอยู่สองหน นิ้วชี้ไปที่กัวเสี่ยวม่าน“นาง บนตัวนางมีความอำมหิตแฝงอยู่”เพิ่งพูดถ้อยคำนี้จบ ปิ่นปักผมในมือกัวเสี่ยวม่านก็แทงเข้าที่อกของเถียนหมั่ง“ท่าน...”เถียนหมั่งคิดไม่ถึงเลยว่านางจะกล้าลงมือ“สมบัติเหล่านี้เป็นของข้าแล้ว” กัวเสี่ยวม่านลำพองใจมาก ดึงปิ่นปักผมออกอย่างไร้เยื่อใยเถียนหมั่งเจ็บปวดล้มลงกับพื้น “ท่าน อำมหิตยิ่งนัก ข้าเพียงล้อท่านเล่นเท่านั้น”“ข้ามิได้ล้อเจ้าเล่น”กัวเสี่ยวม่านเลื่อนสายตา เดิมทีนางก็ไม่ชอบเถียนหมั่งอยู่แล้ว ย่อมลงมือโดยไร้แรงกด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1305

    กัวเสี่ยวม่านล้มลงบนพื้น ตายตาไม่หลับกู้หว่านเยว่หมุนตัวไปทางขวาหันปากกระบอกปืนดำมืด เล็งเข้าที่เถียนหมั่ง ยิงเขาทีหนึ่งมั่นใจว่าทั้งคู่ตายแล้ว นางจึงเลื่อนสายตามองกองสมบัติเบื้องหน้า“นี่คล้ายสมบัติที่หญิงคนหนึ่งนำมาวางไว้ที่นี่”กู้หว่านเยว่ครุ่นคิด มองเครื่องประดับเต็มตู้ ก็รู้ได้ว่าเจ้าของถ้ำนี้รักความงามมากเพียงใด“หีบและตู้ล้วนเต็มไปด้วยฝุ่น มองออกว่าไม่มีคนมาอย่างน้อยหลายสิบปีแล้ว”ซูจิ่งสิงวิเคราะห์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน“ดังนั้น สมบัติเหล่านี้น่าจะไม่มีเจ้าของน้องหญิงสามารถเอาไปอย่างสบายใจได้”“พรืด!”กู้หว่านเยว่หัวเราะเบาๆ ค้นพบอย่างกะทันหัน“ท่านพี่ ข้าพบว่าทุกครั้งยามท่านพบสมบัติ ล้วนไม่เกิดความคิดอยากได้”ดวงตานางใกล้จะเปล่งประกายอยู่รอมร่อดีหรือไม่ ชายคนนี้กลับสุขุมถึงเพียงนี้ซูจิ่งสิงพูดยิ้มๆ “เงินเป็นของนอกกาย”ดีดีดีหากคนอื่นพูดถ้อยคำนี้ กู้หว่านเยว่ย่อมไม่เชื่อ แต่นี่กลับหลุดออกจากปากซูจิ่งสิงทันใดนั้นนางเชื่อแล้วสามีของนางไม่ชอบทั้งเงินทั้งอำนาจ เป็นสุภาพบุรุษผู้เที่ยงธรรมคนหนึ่ง“เอ๋ ที่นี่มีหนังสือหนึ่งเล่มด้วยล่ะ”กู้หว่านเยว่พบบันทึกหนึ่ง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1306

    มิติอัปเกรดอีกครั้งแล้ว“เอ๋?”จู่ๆ กู้หว่านเยว่ก็พบความชุลมุนวุ่นวายที่มุมหนึ่ง คล้ายเสี่ยวไป๋กำลังก่อความวุ่นวาย“ท่านพี่ ข้าเข้าไปดูก่อน”นางบอกกล่าวซูจิ่งสิงหลังเสี่ยวไป๋ถูกรับเข้ามิติก็เชื่อฟังมาโดยตลอด ไม่เคยมีช่วงเวลากระวนกระวายเช่นนี้มาก่อน“ได้ ข้ารอเจ้าข้างนอก”ซูจิ่งสิงพยักหน้า กู้หว่านเยว่รีบเข้ามิติ“เสี่ยวไป๋ เจ้าเป็นอะไรไป พบเรื่องอะไรงั้นหรือ?”เสี่ยวไป๋บิดตัวไปมาบนพื้น สายตาหันมองไปยังทิศทางหนึ่งกู้หว่านเยว่สังเกตเห็นว่าเสี่ยวไป๋คล้ายอยากออกไป“เจ้าอยากไปจากที่นี่หรือ?”นางถามหยั่งเชิง ดวงตาเสี่ยวไป๋ทอประกายดูท่าแล้วงูยักษ์สีขาวตัวนี้อยากไปจากมิติจริงเสียด้วย กู้หว่านเยว่เอ็นดูสัตว์เลี้ยงภายในมิติมาโดยตลอด โบกมือพาเสี่ยวไป๋ออกมาปรากฏว่าเพียงเสี่ยวไป๋ออกมาก็เลื้อยออกไปภายนอกอย่างบ้าคลั่ง ความเร็วนั้นทำให้กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงตกตะลึงพรึงเพริด“นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”ซูจิ่งสิงเอ่ยถามอย่างตกตะลึงเขาเข้ามิติของกู้หว่านเยว่อยู่บ่อยครั้ง ย่อมรู้ว่าเสี่ยวไป๋คืองูยักษ์ที่กู้หว่านเยว่เลี้ยงไว้ภายในมิติ“ข้าเองก็ไม่รู้ เมื่อครู่ข้าพบว่ามันมีท่าทีกระวนกร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1307

    “เจ้าเด็กคนนี้ ใช่อสรพิษมีเขาทะเลทรายยักษ์ที่เพิ่งผ่านศึกใหญ่มากระนั้น?”กู้หว่านเยว่จิ้มศีรษะเสี่ยวไป๋เบาๆ ทีหนึ่ง เจ้าเด็กคนนี้เผยท่าทีไร้พิษสงออกมาอีกครั้ง“ไป ไปพักในมิติดีๆ เถอะ”กู้หว่านเยว่ให้เสี่ยวไป๋เข้าไปพักผ่อนภายในมิติ จากนั้นมาหยุดต่อหน้าอสรพิษมีเขาทะเลทรายอสรพิษมีเขาตัวนี้ยาวราวห้าถึงหกเมตร“เป็นอสรพิษมีเขาที่ใหญ่มากตัวหนึ่ง”แววตากู้หว่านเยว่สั่นไหว หยิบกริชเล่มหนึ่งออกจากมิติ“น้องหญิง จะทำอันใดหรือ?”“ถุงน้ำดีและหนังของอสรพิษมีเขาล้วนเป็นยาชั้นดียังมีพิษภายในฟันของมันนั้นอีก รีดออกมาแล้วสามารถทำเป็นยาพิษได้”กู้หว่านเยว่อธิบายยิ้มๆ“งูใหญ่ถึงเพียงนี้อายุน่าจะราวร้อยปี จะพลาดไปไม่ได้”ซูจิ่งสิงพยักหน้า เขาเองก็เคยได้ยินมาก่อนว่าอสรพิษสามารถนำมาทำยาได้“เช่นนั้นให้ข้าช่วยเจ้าเถอะ”อสรพิษตัวใหญ่ถึงเพียงนี้ อาศัยเพียงกู้หว่านเยว่จัดการคนเดียว ก็ไม่รู้ว่าจะต้องจัดการถึงยามใด ซูจิ่งสิงเป็นฝ่ายหยิบกริชออกมา ช่วยอยู่ที่ฝั่งหนึ่งทั้งสองคนทำเสียจนเหงื่อเม็ดใหญ่ผุดพราวเต็มศีรษะถลกหนังงู ขูดถุงน้ำดี ถอดฟันใช้เวลาราวหนึ่งกว่าชั่วยาม นี่ถึงจัดการอสรพิษมีเขาเรีย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1308

    เพียงประโยคเดียวก็ปลุกคนตื่นจากฝันถ้อยวาจานี้ของลั่วยางทำให้เกาเจี้ยนใจเย็นลง“เจ้าพูดได้ไม่ผิด แต่หรือจะให้ข้านิ่งดูดายกระนั้น?”ลั่วยางใคร่ครวญเล็กน้อย“ท่านเข้าไปเพียงคนเดียวย่อมไม่ได้ เอาเช่นนี้เถอะ ตอนนี้ท่านกลับเมืองไปขอกำลังเสริมก่อน ข้าจะรอท่านที่นี่”แววตานางสุขุมเยือกเย็น ความประหลาดใจภายในสายตาเกาเจี้ยนชัดเจนมากยิ่งขึ้น“เจ้าพูดถูก ถึงตอนนั้นพวกเราใช้พลุสัญญาณสื่อสารกัน หากพวกเขาออกมาแล้ว เจ้าก็ปล่อยพลุสัญญาณ”ทั้งสองปรึกษากันจบ เกาเจี้ยนเตรียมออกเดินทาง ทันใดนั้นสายตาชิงเหลียนทอประกาย“พวกท่านรีบดู นั่นใช่นายท่านและฮูหยินหรือไม่?”เมื่อครู่ขณะทั้งสองคนปรึกษากัน ชิงเหลียนมิได้เอ่ยปากอยู่ตลอดนางเชื่อว่ากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงจะต้องกลับออกมา“นายท่านและฮูหยินกลับมาได้ไม่ผิดไปดังคาด”ชิงเหลียนยิ้มพลางเข้าไปต้อนรับ สายตาเกาเจี้ยนและลั่วยางทอประกาย“ดีดีดี พวกเจ้านับว่ากลับมาแล้ว”“บังเอิญพบเรื่องยุ่งยากเล็กน้อย จึงเสียเวลาไปบ้าง โชคดีฟ้ายังไม่มืด”กู้หว่านเยว่อธิบายยิ้มๆ สายตาตกลงบนตัวเกาเจี้ยน“ตอนอยู่ไกลๆ ได้ยินพวกเจ้าคล้ายกำลังเถียงกัน”เกาเจี้ยนลูบศีรษะอย

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1309

    หลังเกาเจี้ยนผ่านความตกตะลึงไปแล้ว นึกได้ว่าอสรพิษมีเขาทะเลทรายถูกสองสามีภรรยาจัดการไปแล้ว ภายภาคหน้าคนเข้าไปจะไม่ถูกทำร้ายอีก ถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง“ใช้ได้นี่ พวกเจ้าสองสามีภรรยา ทำความดียิ่งใหญ่ให้ราษฎร์ด่านซานไห่ไปหนึ่งเรื่อง”“สถานการณ์พาไปเท่านั้น”กู้หว่านเยว่ลูบจมูกอย่างถ่อมตน ปล้นสมบัติจำนวนมากถึงเพียงนั้นภายในถ้ำไป นางยังรู้สึกเก้อกระดากอยู่บ้างขณะเดียวกันตะวันตกลงทิศประจิมแล้ว เรื่องที่ทุกคนสมควรทำล้วนทำเรียบร้อยแล้ว นี่จึงเดินทางกลับทางเดิมขากลับกู้หว่านเยว่อารมณ์ดีไม่เลว ทางหนึ่งขี่ม้า ทางหนึ่งครวญเพลงหลังกลับถึงด่านซานไห่แล้ว ลั่วยางโบกมือลาสองคน“ข้ากลับไปพักก่อน จัดการผลพุทราทรายเหล่านี้”นางมองทางกู้หว่านเยว่“รอพวกท่านจะออกเดินทาง ข้าค่อยไปพร้อมพวกท่าน”กู้หว่านเยว่เหลือบมองสีท้องฟ้าแวบหนึ่ง ไม่วางใจลั่วยางแม่นางในห้องหอคนหนึ่ง ขณะเตรียมจะให้ชิงเหลียนพานางไปส่งนั้นเกาเจี้ยนกลับชิงสืบเท้าขึ้นมาหนึ่งก้าว“ดึกแล้ว เจ้ากลับไปคนเดียวไม่ปลอดภัย ข้าไปส่งเจ้าเถอะ”เขากระชับบังเหียนแน่น แววตาทอประกายระยับตกลงบนตัวลั่วยางลั่วยางนึกได้ว่าวันนี้นางวางแผนอยู่ด

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1400

    “ดูเจ้าสิ พูดเรื่องนี้กับหว่านเยว่เพื่ออะไร?”หลินรู่ไห่ดึงนางเก๋อไว้ ในใจเขาก็รู้สึกกังวลเช่นกัน แต่เขารู้ว่าการบอกเรื่องนี้กับกู้หว่านเยว่นั้นไม่มีประโยชน์เมืองเหยาอยู่ไกลจากที่นี่ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็กำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้กับฮ่องเต้ จะเอาเวลาที่ไหนไปตามหาคนที่เมืองเหยา?พวกเขาไม่อยากให้กู้หว่านเยว่ต้องลำบากใจ“ท่านน้า ต้องขอบคุณน้าสะใภ้ที่บอกข้า เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ทำไมพวกท่านไม่พูดทันทีที่เข้ามา?”กู้หว่านเยว่ยังจำหลินเพียวเพียวได้ สาวน้อยที่สงบเสงี่ยมมาก เวลาพูดขึ้นมาก็ดูคงแก่เรียนเมื่อคนสกุลหลินไปที่โรงเตี๊ยมเตียงนอนรวมเพื่อส่งเงินให้นาง หลินเพียวเพียวก็มาด้วย แล้วยังปลอบประโลมนางอย่างนุ่มนวล“หว่านเยว่ พวกเราไม่อยากให้เจ้าเป็นกังวล”ประเด็นคือพวกเขาไม่เคยคิดว่ากู้หว่านเยว่จะสามารถช่วยหลินเพียวเพียวกลับมาได้และพวกเขาก็เป็นห่วงว่าซูจิ่งสิงจะรู้สึกว่าสกุลหลินของพวกเขาเป็นปัญหา ถึงตอนนั้นจะทำให้กู้หว่านเยว่เดือดร้อนไปด้วยกู้หว่านเยว่จำพวกเขาได้ จึงขอให้ซูจิ่งสิงส่งคนไปรับพวกเขาที่ฉูโจว พวกเขาก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว จะเสนอเงื่อนไขอะไรได้อย่างไร?“พวกท่าน”กู้หว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1399

    “ท่านยาย พวกท่านปลอดภัยดีตลอดเส้นทางไหม?”กู้หว่านเยว่สอบถามพวกเขา แม้ว่าซูจิ่งสิงจะส่งคนไปรับพวกเขาเองก็ตามแต่เวลานี้ทั่วแคว้น ความอดอยากแห้งแล้งได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โจรร่อนเร่ได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วทุกแห่งการเดินทางมาของสกุลหลินครั้งนี้ ก็คงไม่สงบสุขนัก“ระหว่างทาง ได้พบกับโจรสลัด”เมื่อนายท่านผู้เฒ่าหลินพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจ“โจรสลัดเหล่านั้นฆ่าทุกคนที่พบเจอ ไม่เว้นแม้แต่คนแก่ คนอ่อนแอ ผู้หญิง และเด็ก น่ากลัวจริง ๆ”สกุลหลินเป็นพลเมืองดีที่ทำการค้า การเข่นฆ่าใด ๆ พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนตกใจกลัวจนเหลือทน ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไปก็ยังคงรู้สึกกลัวอยู่“ท่านยาย พวกท่านลำบากแย่เลย”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าโจรเร่ร่อนข้างนอกนั้นเหิมเกริมเช่นนี้“ไม่เป็นไร ทุกอย่างผ่านไปแล้ว”นายท่านผู้เฒ่าหลินลูบเครา พลางโบกมือ“โชคดีที่แม่ทัพหนุ่มที่ท่านอ๋องส่งไปฉลาดเฉลียว รู้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ก็พาพวกเราหนีไปทางเรือเล็กแต่น่าเสียดายนายท่านผู้เฒ่าหลินเผยแววตาทนไม่ได้ บนเรือใหญ่ยังมีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก“พวกเราหนีออกไปได้ไม่ไกลนัก ก็เห็นเรือทั้งลำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1398

    “ข้าไม่เป็นอะไร”ลั่วยางชักมือออกอย่างไม่เป็นธรรมชาติคนผู้นี้กำลังทำอะไรอยู่?เหล่าทหารทุกคนกำลังเฝ้าดู ตอนนี้ทั้งกองทัพรู้แล้วว่าเขาชอบนางนางไม่อยากกลายเป็นจุดสนใจ“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”เกาเจี้ยนถอนหายใจ มองไปทางซูจิ่งสิง ขณะที่กำลังจะโต้แย้งก็เห็นคนที่เมื่อครู่ยังหัวเราะเยาะเขาอยู่ คว้ามือของกู้หว่านเยว่ไว้โดยไม่ละอาย น้ำเสียงอ่อนโยนจนแทบจะคั้นเป็นน้ำออกมาได้“น้องหญิงเหนื่อยหรือยัง หิวหรือเปล่า ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปกินข้าว”เกาเจี้ยนเบิกตากว้าง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”คนผู้นี้มีความรู้มากกว่าเขาเสียอีก!“ท่านมาที่นี่ทำไม?”กู้หว่านเยว่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้ซูจิ่งสิงแม้ว่าวันนี้จะไม่ร้อนมาก แต่ซูจิ่งสิงก็สวมชุดกราะตลอดเมื่ออยู่ในกองทัพ ถูกแดดตอนเที่ยงวันสาดส่อง จนเหงื่อแตกพลั่ก“เห็นเจ้าไม่กลับมาเสียที ก็เลยเป็นห่วงเจ้า”ซูจิ่งสิงมองเข้าไปในกระโจม กู้หว่านเยว่ก็อธิบายสถานการณ์ของกงซุนฉิงอย่างคร่าว ๆ ก่อนจะพาคนกลับไปเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงสกุลกงซุน สั่งให้คนแพร่ข่าวออกไปหลี่กวงถิงถูกจับแล้ว กองทัพของเจดีย์หนิงกู่ก็ไล่ล่าโจมต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1397

    ลั่วยางก็ไม่ได้โกรธเช่นกันทักษะทางการแพทย์ของกู้หว่านเยว่นั้นเหนือกว่านางอยู่แล้ว ลู่จิงจะทำทุกวิถีทางเพื่อความปลอดภัย ไปเชิญกู้หว่านเยว่มาอีกครั้งก็เป็นเรื่องปกติ“พี่หว่านเยว่”ลั่วยางมีอายุมากกว่ากู้หว่านเยว่ แต่ในด้านทักษะทางการแพทย์ ถือได้ว่ากู้หว่านเยว่อาวุโสกว่านางประโยค “พี่หว่านเยว่” ของลั่วยาง ก็ไม่ได้เรียกผิด“คุณหนูกงซุนไม่เป็นอะไร แค่เหนื่อยจนล้มไปเท่านั้น”ร่างกายของนางเคยถูกทรมานมาก่อน แม้ว่าจะได้รับการรักษาโดยกู้หว่านเยว่ แต่ถึงอย่างไรก็ได้รับบาดเจ็บโชคดีที่กงซุนฉิงมีทักษะการต่อสู้ จึงปกติเหมือนคนที่ไม่ได้เป็นอะไรแต่ก็ไม่อาจทนต่อความยุ่งวุ่นวายในระดับสูงได้“ข้าฝังเข็มให้นางหนึ่งเล่ม แล้วนางก็ตื่นขึ้นมา”ลั่วยางอธิบาย“แต่ว่า นางนอนหลับ กลับช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนสู่สภาพเดิมเสียด้วยซ้ำไป”“เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางหลับต่ออีกนิดเถอะ”กู้หว่านเยว่ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน พลางจับชีพจรของกงซุนฉิงครู่หนึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ลั่วยางพูด“ส่วนทางทหารกล้าตายแนวหน้า”กู้หว่านเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ที่กงซุนฉิงเหนื่อยจนล้มไป ก็เพราะว่าไม่กี่วันที่ผ่านมานักรบหมาป่าได้ให้ก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1395

    เห็นเพียงท่ามกลางหมอกหนาทึบที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มีแสงไฟเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ราวกับหิ่งห้อยในค่ำคืนอันมืดมิดเมื่อแสงไฟนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ รองแม่ทัพที่อยู่บนเรือก็เบิกตาทั้งสองกว้าง“ไม่ได้การ ทั้งหมดเป็นลูกศรติดไฟ!”ก้นลูกศรเหล่านี้ถูกมัดด้วยลำกล้องดินปืน ภายในเป็นดินปืนทั้งหมดดินปืนตกลงมาพร้อมกับลูกศรที่ยิงขึ้นมาบนเรือราวกับเม็ดฝนทั่วท้องฟ้า ภายในเวลาชั่วพริบตา เรือก็ติดไฟ“เร็วเข้า รีบถอยกลับ”หลี่กวงถิงสั่งการ เขารู้สึกอย่างเลือนรางว่าตัวเองถูกแผนชั่วของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่เล่นงานเข้าแล้วกองทัพใหญ่ออกเดินทางแล้ว ต้องการจะถอยกลับจะทำได้ง่าย ๆ อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ยังอยู่บนผิวน้ำ การเดินเรือไปข้างหน้าก็ทำได้ยากลำบากอยู่แล้วคนเหล่านี้ไม่ถนัดเรื่องการต่อสู้บนน้ำ ไม่มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ยังโชคดีเพราะหากพบเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล่าถอยอย่างเป็นระเบียบเรือติดไฟแล้ว เหล่าทหารร่ำไห้อย่างน่าเวทนา ในระหว่างการล่าถอยของเรือ ต่างก็ชนกันเอง สถานการณ์วุ่นวายในระดับหนึ่งทว่าลูกศรทั่วฟ้านั้นก็ยังไม่ยอมหยุดเลยหลังจากยิงจบระลอกห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1394

    “ข้ามีความคิดดี ๆ อย่างหนึ่ง”ดวงตาของกู้หว่านเยว่กลอกไปมา ทันใดนั้นก็มีความคิดแผลง ๆ ผุดขึ้นมา“หลี่กวงถิงผู้นี้ต้องการว่าจ้างคนจากหอมือสังหารมาฆ่าท่านมิใช่หรือ? เราก็ให้คนของหอมือสังหารมาตอบรับเรื่องนี้”ซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่สบสายตากันเข้าใจทันทีว่าภรรยากำลังคิดอะไรอยู่“หนามยอกเอาหนามบ่งหรือ?”“ถูกต้อง ถึงตอนนั้นเราก็มาปิดประตูตีแมวกัน”ซูจิ่งสิงเขียนจดหมายฉบับหนึ่ง นกพิราบสื่อสารก็กลับไปตามทางเดิม เพื่อส่งกลับไปที่หอมือสังหารเป็นสองวันที่สถานการณ์สงบสุขสองวันต่อมา หลี่กวงถิงก็ได้รับข่าวกรอง แจ้งว่าคนจากหอมือสังหารทำสำเร็จแล้ว“ข้าน้อยเห็นว่ากองทัพของเจดีย์หนิงกู่สงบเงียบ ดูเหมือนจะไม่มีข่าวการตายของซูจิ่งสิงแพร่ออกมา”รองแม่ทัพหลายคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้สักเท่าใดหลี่กวงถิงยังรู้สึกว่าต้องระมัดระวังด้วยหลังจากรออีกสองวัน ก็มีข่าวกรองออกมาอีกว่า ค่ายของผู้บัญชาการถูกรายล้อมด้วยกองกำลังทหารอากาศแบบนี้ภายนอกกระโจมกำลังตากปลาเค็มอยู่ จนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง“ตากปลาเค็ม อากาศแบบนี้ตากปลาเค็มอะไรกัน?”หลายคนนั่งวิเคราะห์ด้วยกันรองแม่ทัพคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างฉับพล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1393

    “ลู่จิง มองไม่ออกเลยว่า เจ้าจะรักหน้าที่การงานมากเช่นนี้”เกาเจี้ยนหัวเราะอย่างชั่วร้ายรักหน้าที่การงาน?ลู่จิงสะดุดเข้าให้ใครจะไปรักหน้าที่การงาน ชัดเจนว่าเขารักและสงสารกงซุนฉิงเขาเหลือบมองกงซุนฉิง ขณะที่คิดจะใช้โอกาสนี้เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างสองคน“ถูกต้อง เขารักหน้าที่การงานมาก!”ทันใดนั้นกงซุนฉิงก็เหยียบเท้าของเขา แล้วรีบเอ่ยขึ้นนางละอายใจที่จะให้ฮูหยินรับรู้เรื่องราวของพวกเขาสุดท้าย ก็จ้องเขม็งใส่ลู่จิงอย่างดุดัน พลางกระซิบว่า“หุบปาก”“ก็ได้”ลู่จิงหุบปากอย่างเชื่อฟังคำพูดของคนรักต้องเชื่อฟัง นี่จะไม่ใช่ความองอาจของชายชาตรีอย่างหนึ่งอย่างไร“เช่นนั้นพวกเจ้าทั้งสองก็พูดคุยกันตามสบาย ใครจะเฝ้ายามก็ไม่สำคัญ หรือว่าถ้าไม่ได้จริง ๆ พวกเจ้าสองคนก็เฝ้ายามด้วยกันได้”ด้วยการเสริมทัพของเกาเจี้ยน ใบหน้าของกงซุนฉิงก็ยิ่งแดงขึ้น“เราไปกันเถอะ”กู้หว่านเยว่ดึงแขนเสื้อของซูจิ่งสิงเงียบ ๆ พลางยิ้มคลุมเครือมองดูผู้ใต้บังคับบัญชาคุยกันเรื่องความรักลับ ๆ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน“ไป”ซูจิ่งสิงจูงมือกู้หว่านเยว่จากไป“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ต้องไปเหมือนกัน”เกาเจี้ยนถูกเตือนสต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1392

    ซูจิ่งสิงกระซิบเตือนกู้หว่านเยว่ที่ข้างหูอย่างแผ่วเบา ภรรยาเป็นคนบ้าการงาน ตั้งแต่มาถึงค่ายทหาร ก็มีเวลาพักผ่อนน้อยกว่าเขาเสียอีกเขาชอบท่าทางการวางแผนในกระโจมของกู้หว่านเยว่มาก เพียงแต่เป็นห่วงว่าร่างกายของนางจะรับไม่ไหว ดังนั้นจึงกำชับอยู่บ่อยครั้ง“ก็ได้เจ้าค่ะ ลมแรงจริง ๆ”กู้หว่านเยว่ถือโอกาสโยนกล้องโทรทรรศน์เข้าไปในมิติ แล้วลงมาจากหอสังเกตการณ์พร้อมกับซูจิ่งสิงหอสังเกตการณ์แห่งนี้สร้างโดยทหารตามคำสั่งของกู้หว่านเยว่ก่อนหน้านี้ โดยอิงตามพิมพ์เขียวที่นางให้มาหอสังเกตการณ์สูงยี่สิบเมตรพอดี เมื่อยืนอยู่ด้านบนของหอสังเกตการณ์จะสามารถมองเห็นจุดที่อยู่ไกลออกไปได้ชัดเจน สังเกตสถานการณ์ของศัตรูได้สะดวกยิ่งขึ้นทั้งสองลงมาจากหอสังเกตการณ์ ขณะที่กำลังเดินเล่นอยู่ในกองทัพกับเกาเจี้ยนก็ได้ยินเสียงโต้เถียงครู่หนึ่งโดยพลัน“ชู่ว์”กู้หว่านเยว่ส่งสัญลักษณ์มือให้ซูจิ่งสิง ดึงเขาให้เดินไปตามทิศทางที่ส่งเสียงมานางรู้สึกอยู่เสมอว่าเสียงนี้ค่อนข้างคุ้นเคย เมื่อเดินเข้าไปมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนคุ้นเคยจริงดังคาด เห็นกงซุนฉิงและลู่จิงกำลังโต้เถียงกันหน้าแดงหูแดง“นายท่าน ฮูหยิน พวกท่านมา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status