แชร์

บทที่ 1273

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
นัยน์ตาของนางราบเรียบ นายท่านเจียงกลับรู้สึกละอายใจ

“ข้าเคยบอกว่าข้าอยากร่วมมือกับพวกเจ้า และอยากพาพวกเจ้าไปด้วย”

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความละอายใจ

“บัดนี้พวกเจ้ามีดอกน้ำแข็งนิลเป็นของตัวเองแล้ว โดยที่ข้าไม่ได้ช่วยเลยตั้งแต่ต้น กลีบของดอกน้ำแข็งนิลดอกนี้เราไม่ควรค่าจะได้รับมัน”

นายท่านเจียงกล่าวอย่างจริงจัง เจียงฮูหยินพยักหน้าเห็นด้วย

“ใช่ ๆ เราไม่ได้ลงแรงอะไรเลย จะกล้าครอบครองได้อย่างไร?”

ซูจิ่งสิงกล่าวอธิบายด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “อาจารย์อา ท่านเก็บดอกน้ำแข็งนิลดอกนี้เอาไว้เถอะ ของสิ่งนี้มีประโยชน์ต่อท่าน ในฐานะที่ข้าเป็นลูกศิษย์ของท่าน ข้ามีหน้าที่ต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว”

เขายกมือคารวะ

“บัดนี้ข้ายุ่งมาก คงจะไปเยี่ยมเยือนท่านอาจารย์ไม่ได้ หวังเพียงว่าหลังจากที่อาจารย์อาเจอกับท่านอาจารย์แล้ว คงต้องฝากทักทายเขาแทนข้าด้วย”

ซูจิ่งสิงกล่าวถึงขนาดนี้แล้ว หากนายท่านหลี่ยังปฏิเสธอีก คงจะไร้เหตุผลเกินไป

ภายใต้ความจนปัญญา เขาทำได้แค่ตอบตกลง

“ก็ได้ ข้าจะเก็บกลีบของดอกน้ำแข็งนิลกลีบนี้ไว้”

นายท่านหลี่รับกล่องหยกไป จากนั้นก็ทำการห่ออย่างระมัดระวัง

“ศิษย์พี่ใหญ่ เรารีบเดินทางกันได้แล้ว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1274

    หลังจากที่เข้ามาในห้อง ในที่สุดซูจิ่งสิงก็ต้านทานความคิดตัวเองไม่ไหว คว้ากู้หว่านเยว่เข้ามาไว้ในอ้อมกอด“น้องหญิง”เขาโอบกอดนางไว้ทั้งตัว พร้อมกับวางปลายคางลงบนซอกคอของนางเบา ๆ สูดดมกลิ่นหอมของดอกแพร์ที่แผ่ขยายออกมาจากตัวของนาง ภายใต้น้ำเสียงแหบพร่านั้นเต็มไปด้วยความคิดที่ไม่อาจกำราบลงได้ “เจ้าก็รู้ว่าข้าคิดถึงเจ้ามากเพียงใด”กู้หว่านเยว่หน้าแดงระเรื่อ นางคิดถึงเขามาก จึงไม่ผลักเขาออกไปแล้วเอ่ยตอบรับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ข้าเองก็คิดถึงท่าน”“ไม่มีเวลาไหนไม่คิดถึง”นางกล่าวเสียงเบา ระบายความรู้สึกอย่างอ่อนโยน“ระหว่างทางกลับ ยามเห็นท้องฟ้าก็เหมือนเห็นเจ้า เห็นก้อนเมฆก็เหมือนเห็นเจ้า เห็นกองไฟก็คิดถึงแต่เจ้า ลืมตาก็เห็นเป็นหน้าเจ้า หลับตาก็เฝ้าพรรณนาแต่เจ้า....”ซูจิ่งสิงทนไม่ไหวอีกต่อไปริมฝีปากของภรรยาช่างน่าดึงดูดยิ่งนัก เขาโน้มหน้าลงมา ประทับรอยจูบลงบนปากของนาง ปลายลิ้นตวัดเปิดปากของนาง ลิ้นของนางตวัดประสานกับลิ้นของเขา ทั้งสองคนใช้ลิ้นสอดประสานกับอีกฝ่าย จนของเหลวผสมผสาน กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน“ท่านพี่...” กู้หว่านเยว่ตระหนักได้ว่าเขาต้องการอะไรจากสายตาที่เร่าร้อน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1275

    “น้องหญิง?”กู้หว่านเยว่ตะลึงงัน มองจงหลี่อย่างตกใจ แม้แต่เข็มเงินที่อยู่ในมือก็ยังสั่นระริก“น้องหญิงอะไรเจ้าคะ?”ทันใดนั้นนางก็คาดเดาได้ในใจ ก่อนจะมองไปทางจงหลี่อย่างประหลาดใจ“เจ้าคือน้องสาวของข้า”จงหลี่สบตากับนาง จากนั้นก็พยักหน้าอย่างไม่ลังเล“บางทีเจ้าคงคิดว่าข้าล้อเจ้าเล่น แต่เจ้ามั่นใจได้เลยว่าเจ้าคือน้องสาวแท้ ๆ ของข้า”กู้หว่านเยว่ตะลึงงัน นางรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ“แต่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจวนกู้มีบุตรชายอีกหนึ่งคน”อีกอย่างดูจากอายุของจงหลี่แล้ว น่าจะมากกว่านางหกถึงเจ็ดปีปีนี้กู้หว่านเย่เพิ่งจะสามสิบกว่าปี ต่อให้มีบุตรเร็วอย่างไร ก็ไม่สามารถคลอดบุตรที่มีอายุห่างเท่าจงหลี่ได้“ใครบอกว่าเราเป็นบุตรสาวจวนกู้?”มุมปากของจงหลี่ยกยิ้มเย็นเยือก จวนกู้ สายเลือดต้อยต่ำเพียงนั้น คู่ควรอย่างนั้นหรือ?“เจ้าดูของสิ่งนี้สิ เจ้ารู้จักหรือไม่?”เขายกมือขึ้นมาล้วงหยิบหยกชิ้นหนึ่งจากในอกเสื้อ แล้วยื่นให้กู้หว่านเยว่กู้หว่านเยว่มองแวบหนึ่งก็รู้สึกคุ้นเคยกับของชิ้นนี้มาก“ของชิ้นนี้ ... เหมือนกับของที่อยู่ในปากของจ้านจ้านตอนแรกเกิด”ภายใต้การอนุญาตของจงหลี่ กู้หว่านเยว่หยิบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1276

    กู้หว่านเยว่ตกใจเล็กน้อย จู่ ๆ ก็มีพ่อแม่และพี่ชายเพิ่มมาอีกคน เป็นใคร ๆ ก็ตกใจกันทั้งนั้นแต่กู้หว่านเยว่ไม่ได้รังเกียจแวบแรกที่นางเจอจงหลี่ ก็รู้สึกคุ้นเคยอยู่ไม่น้อย“เช่นนั้นข้าก็ยังมีพี่น้องคนอื่นอีกนะสิ?”นัยน์ตาของนางเปล่งประกาย จงหลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า“ไม่มีแล้ว ท่านพ่อและท่านแม่รักกันมาก ท่านพ่อไม่มีสนมคนอื่นแล้ว มีแค่ท่านแม่เพียงผู้เดียว ท่านแม่ให้กำเนิดเราสองคน ข้าคือพี่ใหญ่ของเจ้า หากไม่มีอะไรผิดพลาด ปีนี้เจ้าก็น่าจะอายุสิบเก้าปีแล้ว ข้าโตกว่าเจ้าเจ็ดปี”น้ำเสียงของเขาฟังดูอ่อนโยนมาก สายตาคู่นั้นจ้องมองกู้หว่านเยว่ พลางกล่าวอธิบายอย่างชัดถ้อยชัดคำ“ดังนั้น ข้าก็ควรเรียกท่านว่าพี่ใหญ่?” นางมีพี่ชายที่ปกป้องนางแล้วหรือ? “ถูกต้อง”หลังจากที่จงหลี่พยักหน้าตอบรับแล้ว ก็มองไปทางนางด้วยสายตาคาดหวังกู้หว่านเยว่ไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง“พี่ใหญ่!”นางมีความรู้สึกคุ้นเคยกับจงหลี่มาตั้งแต่เกิด ประกอบกับที่จงหลี่เพิ่งช่วยเหลือนาง ทั้งยังช่วยงานของนาง การมีพี่ชายเช่นนี้ กู้หว่านเยว่รู้สึกเชื่อใจและพึ่งพาเขาได้จากก้นบึ้งของหัวใจ นางโพล่งออกไปอย่างอดไม่ได้ ในตอนที่นางตะโกนค

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1

    ร่างกายร้อนผ่าวอยู่บ้างกู้หว่านเยว่ลืมตาขึ้นมา พบว่าตนเองกำลังนอนอยู่บนเตียงแกะสลักขนาดใหญ่ มีกลิ่นอายโบราณหลังหนึ่ง ข้างเตียงมีชายสวมชุดแต่งงานนั่งอยู่หนึ่งคนนี่คงฝันไปใช่ไหม แต่เหตุใดเหมือนจริงถึงเพียงนี้?นางเบือนหน้ามองฝ่ายชายฝ่ายชายผิวพรรณขาวดุจหยก ใบหน้าหล่อเหลางดงาม มองแวบเดียวก็ทำให้คนจมดิ่งสู่ภวังค์อย่างยากจะหักห้ามใจ เพียงแต่สีหน้าของเขาเย็นชาเกินไป สุ้มเสียงเองก็ไร้อารมณ์เสียนี่กระไร“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่อยากแต่งกับข้า พระบรมราชโองการยากจะฝ่าฝืน หากเจ้าไม่ยินยอม...”“ข้ายินยอม ข้ายินยอม!”ชายหนุ่มรูปงามหาใครเทียบได้เช่นนี้ นางครองโสดมายี่สิบกว่าปีไม่เคยได้พบพานมาก่อน ไฉนเลยจะไม่ยินยอมกันเล่า!กู้หว่านเยว่พยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง ไม่สนใจสีหน้าตกตะลึงของฝ่ายชาย ยื่นมือออกไปเกี่ยวเข็มขัดโผเข้าหาอ้อมอกของเขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฮือกหนึ่ง อ้า หอมยิ่งนัก กลิ่นหอมเย็นของชายหนุ่มรูปงามเห็นได้ชัดว่านี่คือครั้งแรกของฝ่ายชาย ทีแรกยังคิดปฏิเสธ แต่กลับไม่อาจต้านทานเสียงที่ดังออดอ้อนออเซาะขึ้นมาของนางได้ สติค่อยๆ เลือนรางไป ทว่า ครู่เดียวก็ทำเอากู้หว่านเยว่วิญญาณหลุดลอยทั้งสองเกี

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 2

    “ฝ่าบาทมีรับสั่ง เจิ้นเป่ยอ๋องซูจิ่งสิงคิดก่อกบฏ หลักฐานชัดเจน!”“นับแต่นี้ไปปลดออกจากตำแหน่ง เป็นสามัญชน ยึดทรัพย์เนรเทศไปยังหนิงกู่ถ่า ผู้ใดกล้าฝ่าฝืน ฆ่าได้ไม่ละเว้น!”ฮูหยินผู้เฒ่าทุบอกกระทืบเท้า “สกุลซูของข้าซื่อสัตย์ภักดี ไฉนเลยจะก่อกบฏได้?”หัวหน้าหน่วยยึดทรัพย์เจียงเต๋อจื้อสบถเสียงเย็น “ฝ่าบาทมีพระกระแสรับสั่งออกจากพระโอษฐ์ของพระองค์เอง เจ้ากำลังกล่าวหาว่าฝ่าบาท ทรงวินิจฉัยผิดพลาดงั้นหรือ?”ทุกคนไม่กล้าโวยวายอีก กอดกันร่ำไห้โอดครวญทหารหลวงหลั่งไหลเข้ามา ถีบเปิดประตูเรือน ทุบทำลายข้าวของทั่วทุกสารทิศคล้ายโจรก็มิปาน ไม่ว่าที่ผ่านมาเจ้ามีตำแหน่งสูงส่งเยี่ยงไร หากถูกลงโทษยึดทรัพย์ นั่นก็คือคนต่ำต้อยมองภาพวุ่นวายภายในจวนอ๋อง ฮูหยินผู้เฒ่าคิดห้าม แต่กลับถูกเจียงเต๋อจื้อผลักล้มลงกับพื้น กระดูกของหญิงชราเกือบหักถัดมา เจียงเต๋อจื้อหรี่ตามองทางญาติฝ่ายหญิงของจวนอ๋อง“เพื่อป้องกันมิให้พวกเจ้านำทรัพย์สินส่วนตัวออกไป ญาติฝ่ายหญิงทั้งหมดต้องเปลื้องผ้าตั้งแต่ใต้สะดือลงมาเพื่อตรวจสอบหนึ่งรอบ!”“ไม่ได้!”สีหน้าเหล่าญาติฝ่ายหญิงทั้งโกรธทั้งอายฮูหยินผู้เฒ่าก่นด่าออกมา “เจียงเต๋อจื

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 3

    “กบฏ ไม่ตายดี!”“สมรู้ร่วมคิดกับทูเจวี๋ย คลอดลูกชายไม่สมประกอบ!”ซูจิ่งสิงนอนกึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่บนกระดานเกวียน รับก้อนหิน มูลแพะและผักเน่าที่โยนเข้ามาทุกทิศทาง...ยามรบชนะกลับมา เขาคือวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ปกป้องแคว้น ราษฎรล้วนโห่ร้องแสดงความยินดีบัดนี้เขาถูกใส่ร้ายข้อหากบฏ ไม่เพียงไม่มีคนขอความเป็นธรรมแทนเขา ทุกคนยังร้องตะโกนใส่ กลายเป็นคนบาปที่ทุกคนตราหน้าหันมองไปที่คนอื่น ๆ ของสกุลซู แต่ละคนเกือบซุกหน้าลงบนบ่าแล้วฮูหยินผู้เฒ่าร้องไห้น้ำตาไหลเป็นทาง “เวรกรรม สกุลซูของข้าตกต่ำถึงขั้นนี้เชียวหรือ...”นายท่านบ้านรองซูหัวหลินอดตำหนิไม่ได้ “ล้วนต้องตำหนิจิ่งสิง อยู่ดีๆ ก็คิดไม่ตก ไปสมรู้ร่วมคิดกับกบฏขายบ้านเมือง ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า ทั้งครอบครัวล้วนต้องเดือนร้อนเพราะเขา ข้าเป็นคนรักศักดิ์ศรีที่สุด ถูกราษฎรกลุ่มนี้สบถด่า หน้าก็ไม่กล้าเงยขึ้นมาแล้ว ภายภาคหน้าจะใช้ชีวิตเยี่ยงไร!”นับตั้งแต่ยึดทรัพย์จนถึงตอนนี้ เริ่มแรกทุกคนยังงุนงง จนถึงตอนนี้แต่ละคนก็เกิดความคิดขึ้นมาแล้ว มีทั้งคนเชื่อว่าซูจิ่งสิงมิได้ก่อกบฏ และมีคนที่ไม่เชื่อ นายท่านรองเป็นคนแรกที่มิอาจอดกลั้นบ้านอื่นสบตากันแวบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 4

    เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้นภายในสมอง ทำให้กู้หว่านเยว่ตกใจแทบแย่“เจ้าเป็นใคร?”“สวัสดีเจ้านาย ข้าเป็นผู้ดูแลระบบมิติ รับผิดชอบตอบปัญหาที่ท่านสงสัยโดยเฉพาะ”มิติคือพลังวิเศษที่นางมีตั้งแต่ชาติก่อน ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินเรื่องผู้ดูแลระบบอันใด“ก่อนนี้เจ้านายอยู่ในขั้นเริ่มต้น จึงไม่ได้เปิดใช้งานฟังก์ชันของระบบ แต่อิงตามการกักตุนสินค้าเต็มพื้นที่ของท่านในวันนี้ มิติได้เปิดใช้งานผู้ดูแลระบบและอาคารทางการแพทย์ให้ท่านแล้ว”กู้หว่านเยว่หลับตาลง เพียงนึกคิดก็เข้าสู่มิติได้แล้ว ดังคาด ภายในพื้นที่กักตุนสินค้า นอกจากสิ่งของที่นางเก็บมา ก็มีอาคารทางการแพทย์เครื่องมือล้ำสมัยหลังหนึ่งทว่า เหตุใดเป็นอาคารทางการแพทย์เล่า?“ซูจิ่งสิงต้องการอาคารทางการแพทย์ เจ้าก็เปิดการใช้งานอาคารทางการแพทย์ ตกลงเจ้าของร่างคือข้าหรือซูจิ่งสิงกันแน่?”กู้หว่านเยว่ไม่สบอารมณ์อย่างมากในใจ“...” ผู้ดูแลระบบแกล้งตายไปแล้วกู้หว่านเยว่ทำเพียงสำรวจการเปลี่ยนแปลงภายในมิติ นอกจากอาคารทางการแพทย์ นางยังพบหน้าจอคล้ายศูนย์ควบคุมทำนองนั้นเพิ่มขึ้นมาในระบบอย่างหนึ่ง ข้างบนเขียนการเปิดใช้งานอาคารใหม่หลากหลายแบบอ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 5

    มีนางเป็นตัวอย่าง ทุกคนล้มเลิกความคิดแล้ว แต่ละคนกัดฟันเดินไปข้างหน้าเดินออกมาอีกราวห้าลี้ กู้หว่านเยว่เห็นนางหยางเหนื่อยจนคล้ายลาแก่ ต้องการขยับขึ้นไปช่วย แต่กลับถูกนางปฏิเสธ “หว่านเยว่ เจ้า เจ้าเหนื่อย ข้าเข็น...”“ใช่แล้วพี่สะใภ้ใหญ่ ท่านเพิ่งแต่งเข้ามาก็ต้องถูกเนรเทศไปกับพวกเรา จะยังให้ท่านลำบากอีกได้เยี่ยงไร” ซูจื่อชิงรู้ความ เรียกซูจิ่นเอ๋อร์น้องสาวมาช่วยเข็นด้วยกันใครรู้ซูจิ่นเอ๋อร์ตัวเล็กแต่อารมณ์ร้าย ใบหน้าเปี่ยมอารมณ์ไม่พอใจ “ข้าเหนื่อยจะตายแล้ว เข็นไม่ไหว ก็ควรให้กู้หว่านเยว่เข็น ใครให้นางเป็นดาวหายนะทำให้พวกเราต้องถูกเนรเทศกันเล่า”“น้องหญิง เจ้าพูดส่งเดชอันใด เรื่องนี้ตำหนิพี่สะใภ้ใหญ่ไม่ได้”ซูจื่อชิงโมโหขึ้นมาบ้างแล้ว เหตุใดน้องหญิงคิดเห็นเฉกเดียวกันกับบ้านเหล่านั้นได้เล่า?สีหน้าซูจิ่นเอ๋อร์กลับเปลี่ยนไปแล้ว รู้สึกเกลียดกู้หว่านเยว่เพิ่มมากขึ้นอีกหนึ่งส่วนอยู่ภายในใจกู้หว่านเยว่คร้านจะตามใจอารมณ์ของคุณหนูใหญ่ “เจ้าเองก็รู้ว่าพี่ใหญ่ของเจ้าเอ็นดูเจ้าที่สุด บัดนี้เขาหมดสติยังไม่ฟื้น ปรากฏว่าแม้แต่เข็นเกวียนของเขาสักเล็กน้อยเจ้าก็ไม่ยินดี ช่างเอ็นดูอย่างเสียเปล่า

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1276

    กู้หว่านเยว่ตกใจเล็กน้อย จู่ ๆ ก็มีพ่อแม่และพี่ชายเพิ่มมาอีกคน เป็นใคร ๆ ก็ตกใจกันทั้งนั้นแต่กู้หว่านเยว่ไม่ได้รังเกียจแวบแรกที่นางเจอจงหลี่ ก็รู้สึกคุ้นเคยอยู่ไม่น้อย“เช่นนั้นข้าก็ยังมีพี่น้องคนอื่นอีกนะสิ?”นัยน์ตาของนางเปล่งประกาย จงหลี่ยิ้มพลางส่ายหน้า“ไม่มีแล้ว ท่านพ่อและท่านแม่รักกันมาก ท่านพ่อไม่มีสนมคนอื่นแล้ว มีแค่ท่านแม่เพียงผู้เดียว ท่านแม่ให้กำเนิดเราสองคน ข้าคือพี่ใหญ่ของเจ้า หากไม่มีอะไรผิดพลาด ปีนี้เจ้าก็น่าจะอายุสิบเก้าปีแล้ว ข้าโตกว่าเจ้าเจ็ดปี”น้ำเสียงของเขาฟังดูอ่อนโยนมาก สายตาคู่นั้นจ้องมองกู้หว่านเยว่ พลางกล่าวอธิบายอย่างชัดถ้อยชัดคำ“ดังนั้น ข้าก็ควรเรียกท่านว่าพี่ใหญ่?” นางมีพี่ชายที่ปกป้องนางแล้วหรือ? “ถูกต้อง”หลังจากที่จงหลี่พยักหน้าตอบรับแล้ว ก็มองไปทางนางด้วยสายตาคาดหวังกู้หว่านเยว่ไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง“พี่ใหญ่!”นางมีความรู้สึกคุ้นเคยกับจงหลี่มาตั้งแต่เกิด ประกอบกับที่จงหลี่เพิ่งช่วยเหลือนาง ทั้งยังช่วยงานของนาง การมีพี่ชายเช่นนี้ กู้หว่านเยว่รู้สึกเชื่อใจและพึ่งพาเขาได้จากก้นบึ้งของหัวใจ นางโพล่งออกไปอย่างอดไม่ได้ ในตอนที่นางตะโกนค

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1275

    “น้องหญิง?”กู้หว่านเยว่ตะลึงงัน มองจงหลี่อย่างตกใจ แม้แต่เข็มเงินที่อยู่ในมือก็ยังสั่นระริก“น้องหญิงอะไรเจ้าคะ?”ทันใดนั้นนางก็คาดเดาได้ในใจ ก่อนจะมองไปทางจงหลี่อย่างประหลาดใจ“เจ้าคือน้องสาวของข้า”จงหลี่สบตากับนาง จากนั้นก็พยักหน้าอย่างไม่ลังเล“บางทีเจ้าคงคิดว่าข้าล้อเจ้าเล่น แต่เจ้ามั่นใจได้เลยว่าเจ้าคือน้องสาวแท้ ๆ ของข้า”กู้หว่านเยว่ตะลึงงัน นางรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ“แต่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าจวนกู้มีบุตรชายอีกหนึ่งคน”อีกอย่างดูจากอายุของจงหลี่แล้ว น่าจะมากกว่านางหกถึงเจ็ดปีปีนี้กู้หว่านเย่เพิ่งจะสามสิบกว่าปี ต่อให้มีบุตรเร็วอย่างไร ก็ไม่สามารถคลอดบุตรที่มีอายุห่างเท่าจงหลี่ได้“ใครบอกว่าเราเป็นบุตรสาวจวนกู้?”มุมปากของจงหลี่ยกยิ้มเย็นเยือก จวนกู้ สายเลือดต้อยต่ำเพียงนั้น คู่ควรอย่างนั้นหรือ?“เจ้าดูของสิ่งนี้สิ เจ้ารู้จักหรือไม่?”เขายกมือขึ้นมาล้วงหยิบหยกชิ้นหนึ่งจากในอกเสื้อ แล้วยื่นให้กู้หว่านเยว่กู้หว่านเยว่มองแวบหนึ่งก็รู้สึกคุ้นเคยกับของชิ้นนี้มาก“ของชิ้นนี้ ... เหมือนกับของที่อยู่ในปากของจ้านจ้านตอนแรกเกิด”ภายใต้การอนุญาตของจงหลี่ กู้หว่านเยว่หยิบ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1274

    หลังจากที่เข้ามาในห้อง ในที่สุดซูจิ่งสิงก็ต้านทานความคิดตัวเองไม่ไหว คว้ากู้หว่านเยว่เข้ามาไว้ในอ้อมกอด“น้องหญิง”เขาโอบกอดนางไว้ทั้งตัว พร้อมกับวางปลายคางลงบนซอกคอของนางเบา ๆ สูดดมกลิ่นหอมของดอกแพร์ที่แผ่ขยายออกมาจากตัวของนาง ภายใต้น้ำเสียงแหบพร่านั้นเต็มไปด้วยความคิดที่ไม่อาจกำราบลงได้ “เจ้าก็รู้ว่าข้าคิดถึงเจ้ามากเพียงใด”กู้หว่านเยว่หน้าแดงระเรื่อ นางคิดถึงเขามาก จึงไม่ผลักเขาออกไปแล้วเอ่ยตอบรับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ข้าเองก็คิดถึงท่าน”“ไม่มีเวลาไหนไม่คิดถึง”นางกล่าวเสียงเบา ระบายความรู้สึกอย่างอ่อนโยน“ระหว่างทางกลับ ยามเห็นท้องฟ้าก็เหมือนเห็นเจ้า เห็นก้อนเมฆก็เหมือนเห็นเจ้า เห็นกองไฟก็คิดถึงแต่เจ้า ลืมตาก็เห็นเป็นหน้าเจ้า หลับตาก็เฝ้าพรรณนาแต่เจ้า....”ซูจิ่งสิงทนไม่ไหวอีกต่อไปริมฝีปากของภรรยาช่างน่าดึงดูดยิ่งนัก เขาโน้มหน้าลงมา ประทับรอยจูบลงบนปากของนาง ปลายลิ้นตวัดเปิดปากของนาง ลิ้นของนางตวัดประสานกับลิ้นของเขา ทั้งสองคนใช้ลิ้นสอดประสานกับอีกฝ่าย จนของเหลวผสมผสาน กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน“ท่านพี่...” กู้หว่านเยว่ตระหนักได้ว่าเขาต้องการอะไรจากสายตาที่เร่าร้อน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1273

    นัยน์ตาของนางราบเรียบ นายท่านเจียงกลับรู้สึกละอายใจ“ข้าเคยบอกว่าข้าอยากร่วมมือกับพวกเจ้า และอยากพาพวกเจ้าไปด้วย”ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความละอายใจ “บัดนี้พวกเจ้ามีดอกน้ำแข็งนิลเป็นของตัวเองแล้ว โดยที่ข้าไม่ได้ช่วยเลยตั้งแต่ต้น กลีบของดอกน้ำแข็งนิลดอกนี้เราไม่ควรค่าจะได้รับมัน”นายท่านเจียงกล่าวอย่างจริงจัง เจียงฮูหยินพยักหน้าเห็นด้วย“ใช่ ๆ เราไม่ได้ลงแรงอะไรเลย จะกล้าครอบครองได้อย่างไร?”ซูจิ่งสิงกล่าวอธิบายด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “อาจารย์อา ท่านเก็บดอกน้ำแข็งนิลดอกนี้เอาไว้เถอะ ของสิ่งนี้มีประโยชน์ต่อท่าน ในฐานะที่ข้าเป็นลูกศิษย์ของท่าน ข้ามีหน้าที่ต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว”เขายกมือคารวะ “บัดนี้ข้ายุ่งมาก คงจะไปเยี่ยมเยือนท่านอาจารย์ไม่ได้ หวังเพียงว่าหลังจากที่อาจารย์อาเจอกับท่านอาจารย์แล้ว คงต้องฝากทักทายเขาแทนข้าด้วย”ซูจิ่งสิงกล่าวถึงขนาดนี้แล้ว หากนายท่านหลี่ยังปฏิเสธอีก คงจะไร้เหตุผลเกินไปภายใต้ความจนปัญญา เขาทำได้แค่ตอบตกลง“ก็ได้ ข้าจะเก็บกลีบของดอกน้ำแข็งนิลกลีบนี้ไว้”นายท่านหลี่รับกล่องหยกไป จากนั้นก็ทำการห่ออย่างระมัดระวัง“ศิษย์พี่ใหญ่ เรารีบเดินทางกันได้แล้ว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1272

    เนื่องจากร่างกายอ่อนแอมาก เวลานี้เขาจึงไร้เรี่ยวแรงที่จะเอ่ยหลังจากกินยาเข้าไป ผ่านไปไม่นานก็หลับสนิทซูจิ่นเอ๋อร์ถอนหายใจอย่างโล่งอกหนึ่งครั้ง เมื่อเห็นฟู่หลานเหิงเช่นนี้ ก็ยิ่งกังวล“พี่สะใภ้ใหญ่ ยาชนิดนี้จะได้ผลใช่หรือไม่?”นางกล่าวถามไปเรื่อย ซูจิ่งสิงจึงถลึงตาใส่นางหนึ่งครั้ง“หากไม่เชื่อพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้า ก็ไปหาคนที่มีความสามารถเหนือกว่า พี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้ากลั่นยาชนิดนี้ออกมาอย่างยากลำบาก เจ้ายังกล้าซักถามอีกหรือ?”ซูจิ่นเอ๋อร์หน้าแดงก่ำ “ข้าไม่ได้หมายความว่าเช่นนี้”นางเองก็รู้ว่าทักษะการแพทย์ของพี่สะใภ้ใหญ่นั้นไม่เป็นสองรองใคร แต่เพราะเป็นห่วงมากเกินไป จึงอดกังวลไม่ได้“ช่างเถอะ อย่าไปเอาความจิ่นเอ๋อร์เลย”กู้หว่านเยว่ดึงมือของซูจิ่งสิง แล้วพาเขาออกไปจากห้อง“หว่านเยว่ ขอโทษนะ”ทันทีที่ออกมา ซูจิ่งสิงมองนางอย่างรู้สึกผิด “จิ่นเอ๋อร์เป็นน้องสาวของข้า นางเอาแต่ใจและหุนหันพลันแล่นไปหน่อย จึงพาฟู่หลานเหิงไปทูเจวี๋ยด้วยตัวเอง จนสร้างความวุ่นวายให้เจ้าไม่น้อย”“ซูจิ่งสิง?”กู้หว่านเยว่มองเขาด้วยสีหน้าแปลกใจ “ท่านจะเกรงใจข้าทำไม?”“นี่ไม่ใช่เกรงใจ”ซูจิ่งสิงกล่าวอธ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1271

    เมื่อซูจิ่นเอ๋อร์พุ่งเข้าไปกอดรัดกู้หว่านเยว่ สีหน้าของซูจิ่งสิงก็พลันหมองลง ก่อนจะกระชากตัวนางออกไป“พูดจากันดี ๆ อย่าโวยวายต่อหน้าพี่สะใภ้ใหญ่ของเจ้า”ซูจิ่นเอ๋อร์แลบลิ้นอย่างรู้สึกผิด“ขอโทษเจ้าค่ะ พี่สะใภ้ใหญ่ ข้า... ข้าคงจะตื่นเต้นเกินไปหน่อย”นางแทบเกือบรู้สึกหมดหวังแล้ว“คาดไม่ถึงว่าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่จะได้ดอกน้ำแข็งนิลกลับมา”ซูจิ่นเอ๋อร์อยากร้องไห้ สองวันมานี้นางไล่ถามหาดอกน้ำแข็งนิลอยู่ในเมืองตลอดทั้งวันได้ยินมาว่าคนที่ออกตามหาดอกน้ำแข็งนิลในครั้งนี้มีจำนวนมาก การที่พี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่แย่งชิงดอกน้ำแข็งนิลจากคนเหล่านี้กลับมาได้จะต้องเสียแรงไปไม่น้อย“ขอบคุณพวกท่านมากเจ้าค่ะ”“เด็กโง่ ครอบครัวเดียวกันไหนเลยยังต้องพูดขอบคุณ”ในพวกเขาสองคนนี้ คนหนึ่งเป็นอาของนาง อีกคนก็เป็นสหายที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กนางไม่มีทางยืนมองโดยไม่เข้าไปยุ่งได้“เอาละ เช็ดน้ำตาของเจ้าเถอะ ข้าต้องไปกลั่นยาอีก”กู้หว่านเยว่ออกคำสั่ง ซูจิ่นเอ๋อร์รีบพยักหน้า เนื่องจากฟู่หลานเหิงอ่อนแอมาก จึงได้หมดสติไป“ท่านพี่ ท่านถือโอกาสนี้ปรึกษาหารือกับพี่ใหญ่จงหลี่สิเจ้าคะ ดูว่าสามารถเรียกคนสก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1270

    เขารู้สึกหนาวมาก“มี ยังมี เดี๋ยวข้าไปจุด”ซูจิ่นเอ๋อร์รีบพยักหน้า ขณะหันหลังรู้สึกเจ็บปวดนางจุดถ่านในห้องสามกระถางแล้ว แต่ฟู่หลานเหิงยังรู้สึกหนาวมาก ร่างกายของเขาอ่อนแอถึงขั้นไหนกัน?ซูจิ่นเอ๋อร์จุดถ่านเพิ่มอีกสองกระถาง ฟู่หลานเหิงมองนางอย่างพร่าเลือน“จิ่นเอ๋อร์”“ข้าอยู่นี่”ปลายจมูกซูจิ่นเอ๋อร์แดง แล้วรีบมาข้างเตียง“ข้าน่าจะไม่ไหวแล้ว หลังจากข้าตายเจ้าไม่ต้องครองหม้ายเพื่อข้า หากพบเจอคนที่ชอบพอ ก็สามารถแต่งงานใหม่”“อะไรนะ?”ซูจิ่นเอ๋อร์คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดจาเช่นนี้ จึงพึมพำสองสามคำ จู่ๆ น้ำตาสองสายไหลพรากลงมาทันที“เจ้าพูดบ้าอะไรกัน? ข้าแต่งงานกับเจ้าแล้ว อยู่เป็นคนของเจ้า ตายเป็นผีของเจ้าหากเจ้าตาย ข้าจะไม่มีชีวิตอยู่เพียงลำพังเด็ดขาดฟู่หลานเหิง เจ้าอย่าคิดจะทิ้งข้า!”นางแทบจะร้องตะโกนอย่างขาดใจ อาจเพราะอารมณ์ตึงเครียดมานาน“เจ้ายืนหยัดไว้ก่อนดีหรือไม่? ไม่ง่ายกว่าข้าจะพาเจ้ามาถึงภูเขาน้ำแข็งนิลคุณชายจงรับปากพวกเราแล้ว เขาจะหาดอกน้ำแข็งนิลกลับมา เขาต้องช่วยเจ้าได้แน่”ซูจิ่นเอ๋อร์ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล ฟู่หลานเหิงส่ายหน้า แม้เขากับซูจิ่นเอ๋อร์จะแต่งงานกันแล้ว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1269

    “เฝ้าต้นไม้คอยกระต่ายหรือ?”รอยยิ้มของจงหลี่เจิดจ้าโดดเด่น ทำให้กู้หว่านเยว่ต้องเบนสายตาเมื่อถูกเขาดึงดูดอย่างประหลาด ความรู้สึกคุ้นเคยที่เกิดขึ้นทำให้นางอดถามไม่ได้“เฝ้าต้นไม้อะไร คอยกระต่ายอะไร?”“หึหึ”จงหลี่รู้สึกน่าขันกับแววตาสงสัยของนาง ความเย็นชาห่างเหินในแววตา เมื่อหันมองกู้หว่านเยว่ มีความอ่อนโยนห่วงในแวบผ่าน “นี่คือเส้นทางที่ต้องผ่านเมื่อออกจากภูเขาน้ำแข็งนิล ไม่ว่าคนที่ได้ดอกไม้มาหรือไม่ ล้วนต้องผ่านเส้นทางนี้”เขาจงใจเจาะจง ทำให้กู้หว่านเยว่เบิกตาโต “เจ้า เจ้ารออยู่ที่นี่ เพราะอยากแย่งชิงหรือ?” “เจ้าทายสิ”ไม่ง่ายที่จงหลี่จะมีแก่ใจหยอกล้อนาง ในแววตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยนดวงตาซูจิ่งสิงสลดลงเล็กน้อย แม้เขาจะรู้สึกว่าจงหลี่รู้สึกกับกู้หว่านเยว่ไม่ธรรมดา แต่ก็เป็นเพียงสายตาที่ผู้ใหญ่มองดูผู้น้อยเท่านั้น“แค่กแค่ก ข้าทายไม่ถูกหรอก”กู้หว่านเยว่ลูบจมูก ในใจคิดว่าชายผมขาวผู้นี้ช่างเป็นคนเถรตรงยิ่งนักไม่รู้ว่าเขามาภูเขาน้ำแข็งนิล เพื่อตามหาน้ำแข็งนิลให้ซูจิ่นเอ๋อร์ หรือว่าเขาต้องการเองกู้หว่านเยว่ไม่กล้าพูดออกไปตรงๆ ว่าดอกน้ำแข็งนิลอยู่บนตัวนาง“เอาละ”จงหลี

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1268

    กู้หว่านเยว่มองเหิงเทียนอวี้ แล้วอมยิ้ม“สำนักวั่นจงเป็นสำนักของเจ้า เจ้าไม่ช่วยสำนักตัวเอง กลับมาแจ้งข่าวให้พวกข้างั้นหรือ?”เหิงเทียนอวี้ลังเล “แม้สำนักวั่นจงจะเป็นสำนักของข้า แต่ก่อนหน้านี้พวกเราได้ร่วมมือกันแล้วไม่ใช่หรือ? อีกอย่างข้าไม่ได้อยากทำร้ายพวกเขา แค่อยากแจ้งข่าวให้พวกเจ้าเท่านั้น”ดูเหมือนเขากลัวสำนักวั่นจงจะทำร้ายนางมาก จึงรีบกล่าวต่อไป“พวกเรา พวกเราร่วมมือกันแล้ว”สรุปคำพูดนี้เพิ่งพูดออกไป ซูจิ่งสิงแทงกระบี่ไปบนตัวเขาทันที“...” กะทันหันเกินไป ช่างไร้จรรยาบรรณ!เหิงเทียนอวี้เบิกตาโต ในดวงตาเผยให้เห็นความหวาดกลัว“เพราะอะไร ทั้งที่ข้ากำลังช่วยพวกเจ้า”กู้หว่านเยว่ยิ้มเย็นเดินไปตรงหน้าเขา“เจ้าเป็นคนฆ่าเหิงหู่สินะ? ข้าดูออกแต่แรกแล้วว่าเจ้ากับเหิงสุยสุ่ยไม่ถูกกัน”สายตาของนางอมยิ้ม แล้ววิเคราะห์อย่างใจเย็น“วันนั้นตอนที่กำลังต่อสู้กับเหิงหู่ ข้าสังเกตได้ว่ามีคนคอยแอบดูอยู่ด้านหลังตลอดคนคนนั้นก็คือเจ้าสินะ?”“ไม่ ไม่ใช่!”เหิงเทียนอวี้โต้แย้งทันควัน เขาไม่กล้าขยับ กลัวว่าขยับแล้วจะตายเร็วขึ้น“เจ้าแก้ตัวไปก็ไร้ประโยชน์ เจ้าฆ่าเหิงหู่ไปแล้ว แล้วโยนความผิด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status