มองเห็นนายท่านเจียงไม่เป็นไรแล้ว ขณะกำลังจะออกไปถามซูจิ่งสิงว่ารู้จักครอบครัวนี้หรือไม่นั้นก็ได้ยินเสียงของเจียงฉือดังเข้ามาจากภายนอก “ท่านพ่อ ท่านเดาดูเถอะว่าข้าพบใครแล้ว?!”มือเขาจูงซูจิ่งสิง ภายในก้นบึ้งของสายตาซูจิ่งสิงหวั่นไหวเล็กน้อย“ข้าได้พบศิษย์พี่ใหญ่แล้ว!”เขาชี้ทางซูจิ่งสิงอย่างตื่นเต้น“นี่ก็คือศิษย์พี่ใหญ่”กู้หว่านเยว่มีสีหน้างุนงง นายท่านเจียงเกือบกระโดดลุกขึ้นจากเตียงเขามองซูจิ่งสิงอย่างตกตะลึงพรึงเพริดซูจิ่งสิงโบกพู่กระบี่อาทิตย์คำราม “นี่คือสิ่งที่อาจารย์ข้าทิ้งไว้ให้ก่อนจากไป”นายท่านเจียงเห็นพู่กระบี่ ยืนยันฐานะของซูจิ่งสิง“ใช่ๆ นี่ก็คือพู่กระบี่ของศิษย์พี่ใหญ่จริง”หากมองอย่างละเอียด พู่กระบี่นี้และที่ห้อยบนกระบี่ของเจียงฉือคล้ายกันมาก“ศิษย์พี่ใหญ่เคยบอกข้า เขารับศิษย์ที่ภายนอกไว้คนหนึ่ง เป็นคนมีพรสวรรค์ฉลาดหลักแหลม เขาชอบมาก ดังนั้นจึงรับอีกฝ่ายเป็นศิษย์เอก”นายท่านเจียงหัวเราะเสียงดัง“ช่างบังเอิญยิ่งนัก คิดไม่ถึงข้าถึงขั้นสามารถได้พบที่ภูเขาน้ำแข็งนิล”เจียงฉือรีบเอ่ยถาม “ศิษย์พี่ใหญ่ หลายปีมานี้ เหตุใดท่านไม่ไปหาพวกเราเล่า?”เอ่ยถึงเรื่องน
เจียงฉือหันมองทางกู้หว่านเยว่ ศิษย์พี่สะใภ้งดงามถึงเพียงนี้อีกทั้งยังรู้วิชาแพทย์ มองแล้วก็ชมชอบ“ใช่แล้ว พวกเรามาเพื่อตามหาดอกน้ำแข็งนิลจริง”กู้หว่านเยว่ไม่ปิดบังพวกเขา“คนในครอบครัวต้องการใช้ดอกน้ำแข็งนิลมาผสมยา”นายท่านเจียงรีบพูด “ดอกน้ำแข็งนิลนี้เป็นวัตถุดิบยาแบบตะวันตก สรรพคุณทางยายอดเยี่ยมมาก ได้ยินมาว่าเพียงกลีบเดียวก็สามารถนำมาผสมยาได้แล้ว”เขามองทั้งคู่“ในเมื่อพวกเรารู้จัก มิสู้เจ้าข้าพวกเราสองฝ่ายร่วมมือกัน แย่งชิงดอกน้ำแข็งนิล”เขาเองก็ไม่ละโมบ “หากสามารถแย่งดอกน้ำแข็งนิลมาได้ พวกเราขอเพียงกลีบเดียวก็พอ”นายท่านเจียงคิดว่า กู้หว่านเยว่รู้วิชาแพทย์ ในเมื่อดอกน้ำแข็งนิลล้ำค่ามาก ตกอยู่ในมือหมอ ย่อมสามารถดึงประสิทธิภาพสูงสุดออกมาได้กู้หว่านเยว่ตกตะลึงเล็กน้อย กลับคิดไม่ถึงนายท่านเจียงจะใจกว้างถึงเพียงนี้ต้องรู้ว่านอกจากครอบครัวสกุลเจียงสามคนแล้ว พวกเขายังพาบ่าวติดตามมาอีกมาก มองผ่านจำนวนคนดูแล้ว เห็นชัดว่ามากกว่าทางฝั่งกู้หว่านเยว่มากนักภายใต้สถานการณ์ทั่วไป ล้วนคิดว่าพวกเขามีโอกาสได้รับดอกน้ำแข็งนิล มากกว่าพวกกู้หว่านเยว่ดังนั้นตอนแบ่งกัน สกุลเจียงมีสิทธิ์
หากชายผมขาวเองก็มาหาดอกน้ำแข็งนิล เช่นนั้นเป็นไปได้มากว่าอาจได้พบเขาที่นี่ซูจิ่งสิงเองก็ช่วยตามหาด้วย เพียงแต่ทำให้ทั้งคู่ต้องผิดหวังก็คือ พวกเขาตามหาแล้วหนึ่งรอบก็ไม่พบเงาของชายผมขาว“ดูท่าแล้วเขาไม่ได้อยู่ที่นี่”กู้หว่านเยว่ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ซูจิ่งสิงเอ่ยปลอบ“ไม่ต้องกังวล จิ่นเอ๋อร์ต้องไม่เป็นไร”เขาพี่ใหญ่คนนี้กลับใจเย็นลงแล้ว อย่างไรเสียก็รู้ว่าจิ่นเอ๋อร์ยังมีชีวิตอยู่กู้หว่านเยว่พยักหน้า กลับเข้ากระโจมพักผ่อนพร้อมซูจิ่งสิงคืนนี้ ภายในใจของทุกคนล้วนกำลังคิดว่าวันพรุ่งนี้ดอกน้ำแข็งนิลจะไปตกอยู่ในมือของผู้ใดเดิมทีทุกคนก็หลับไม่สนิท“ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่สะใภ้”เช้าวันต่อมา กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเพิ่งกินขนมปังที่มิติทำขึ้นเรียบร้อย ก็ได้ยินเสียงเจียงฉือนอกกระโจมทั้งคนรีบลุกออกมาเจียงฉือเอ่ยเร่ง “ฟ้าใกล้สว่างแล้ว พวกเรารีบเก็บของ เตรียมออกเดินทางเถอะ”กู้หว่านเยว่หันมองรอบด้าน บัดนี้คนอื่นต่างพากันเริ่มเก็บของ เตรียมเข้าหุบเขาแล้วจะปล่อยให้พวกเขาไปถึงก่อนไม่ได้!“ไป”ทั้งสองคนเคลื่อนไหวว่องไว เก็บกระโจมดีแล้ว ออกเดินทางอยู่ข้างกายคนสกุลเจียงขณะเดียวกัน พาย
“พวกเราทะลุมิติขึ้นไปโดยตรงเถอะ”ดวงเนตรกู้หว่านเยว่โค้งมน เมื่อครู่อยู่ห่างไกลเกินไปไม่สามารถทะลุมิติได้แต่บัดนี้ระบบระบุพิกัดไว้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นระยะทางไม่ไกล นางสามารถพาซูจิ่งสิงทะลุมิติเข้าไปได้ขณะเดียวกันคนมากมายตามหาที่ด้านล่างภูเขาแต่กลับไร้ผล เริ่มทอดสายตามองยอดเขาผู้ที่กำลังวางแผนปีนเขา หนึ่งในนั้นก็คือกลุ่มคนสกุลเจียงกู้หว่านเยว่บอกพวกเขาว่าดอกน้ำแข็งนิลอยู่บนยอดเขา นี่ก็เมตตามากแล้วย่อมไม่อาจถึงขั้นเสี่ยงอันตรายถูกเปิดเผย พาคนสกุลเจียงทะลุมิติไปด้วยกันได้“ไป”นางดึงสายตากลับ จับมือซูจิ่งสิง ทะลุมิติเพียงครั้งเดียว ก็มาอยู่บนยอดเขาแล้วซูจิ่งสิง “....”ก้มหน้ามองจุดดำคล้ายมดก็มิปานเบื้องล่างหากปีนขึ้นมาพวกเขาต้องเหนื่อยแทบตายแน่ รู้ว่าน้องหญิงของเขาหันหลังทีเดียวก็มาถึงยอดเขา คาดว่าจะต้องกระอักโลหิตตายแน่แล้วกระมัง?“สัตว์น้ำแข็งนิล จากนี้ไปขอพึ่งเจ้าแล้ว”กู้หว่านเยว่เรียกสัตว์น้ำแข็งนิลออกมาจากมิติระยะนี้ สัตว์น้ำแข็งนิลอยู่อย่างสุขสบายภายในมิติ กลายเป็นสหายกับพวกจูเชวี่ย ย่อมเห็นกู้หว่านเยว่เป็นเจ้านายหลังถูกกู้หว่านเยว่ปล่อยออกจากมิติ มิได้หนีหาย
“ข้าจะหาโอกาสทำให้มันสลบ!”กู้หว่านเยว่เอ่ยเตือน ก็คือขอให้ซูจิ่งสิงไม่ทำให้มันบาดเจ็บก่อน ให้ใช้การหลบเลี่ยงเป็นหลัก“โฮก!”เสือเงินกระโดดขึ้น กรงเล็บหน้ากางออกซูจิ่งสิงอุ้มกู้หว่านเยว่ เหินบินเข้าไปในถ้ำกู้หว่านเยว่พบว่า เสือเงินนั้นคล้ายกำลังขัดขวางมิให้พวกเขาเข้าถ้ำอยู่ตลอด ภายในถ้ำมีอันใดกันเล่า?ในที่สุดกู้หว่านเยว่ก็สบโอกาส ยิงปืนยาสลบลงบนตัวเสือเงินพริบตาเดียว ร่างใหญ่โตของเสือเงินก็ล้มลงบนพื้น ทำให้พื้นใต้ฝ่าเท้าทั้งคู่สั่นเบาๆ“โฮก!”เสือเงินดิ้นสองครั้งอย่างเจ็บปวด สายตาทอดมองภายในถ้ำแวบหนึ่ง“มันคล้ายกำลังปกป้องอะไรบางอย่าง”กู้หว่านเยว่พูดออกมา เดินมาหยุดต่อหน้าเสือเงินเสือเงินมีรูปร่างใหญ่โต ปืนยาสลบนี้ทำให้มันขาดความสามารถในการเคลื่อนไหว แต่มิได้ทำให้มันหมดสติไป“โฮกโฮก...” เสียงอ่อนแรงของเสือเงิน เจือคำวิงวอนสองส่วนอาจเพราะสายตาเสือเงินน่าสงสารเกินไปแล้ว กู้หว่านเยว่ตัดสินใจเข้าไปดูภายในถ้ำก่อน“ไป พวกเราเข้าไปดูภายในถ้ำ ตกลงเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่”“ได้”ซูจิ่งสิงเองก็มองออก ท่าทีของเสือเงินคล้ายกำลังปกป้องบางอย่างทั้งสองคนเข้าไปภายในถ้ำ สิ่งที่ท
“นี่ นี่ไม่ใช่...”แววตากู้หว่านเยว่สั่นไหวเล็กน้อย เมื่อมองดูสิ่งที่อยู่บนขาเสือเงินตัวเมียซูจิ่งสิงเองก็ชะงักไป เห็นเพียงบนขาของเสือเงินตัวนั้น ไม่รู้ทำไมจึงมีพืชต้นหนึ่งขึ้นอยู่ต้นพืชต้นนั้นเป็นสีขาวโปร่งแสงทั้งต้น ใบราวกับทำขึ้นจากน้ำแข็ง เป็นผลึกใสแวววาวสิ่งที่ทำให้ทั้งสองคนตะลึงยิ่งกว่า คือบนปลายยอดของพืชต้นนั้นมีดอกไม้สีขาวหนึ่งดอกเบ่งบานกลีบดอกของมันราวกับสลักออกมาจากน้ำแข็ง เป็นผลึกใสวาว บางดั่งปีกจักจั่น มีกลิ่นอายความเย็นแผ่ซ่านทั่วต้น“นี่ นี่มันดอกน้ำแข็งนิล!”กู้หว่านเยว่ดีใจจนไม่รู้จะพูดอย่างไรดีได้มาโดยไม่ต้องเสียแรงเปล่า นึกไม่ถึงว่าพวกนางใจดีอยากเข้ามาดูเสือเงินตัวนี้ ทว่าสุดท้ายกลับพบดอกน้ำแข็งนิลบนตัวเสือเงิน!“มิน่าตอนระบบล็อคเป้าดอกน้ำแข็งนิลนั้น พบว่าดอกน้ำแข็งนิลเคลื่อนไหวตลอด”กู้หว่านเยว่เข้าใจทันทีอาจเพราะดอกน้ำแข็งนิลเติบโตบนร่างกายเสือเงิน เมื่อเสือเงินเคลื่อนไหว ตำแหน่งของดอกน้ำแข็งนิลจึงเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดนี่จึงอธิบายได้ว่า ทำไมทั้งที่นายพรานบอกว่าพบดอกน้ำแข็งนิลก้นหุบเขา แต่ขณะนี้ดอกน้ำแข็งนิลกลับมาปรากฏบนยอดเขาทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ซูจิ
“รากได้ชอนไชเข้าไปในขาของมันแล้ว อยากจะนำออกมาทั้งต้น คงเป็นเรื่องยากไม่น้อย”กู้หว่านเยว่ถอนหายใจ จากนั้นรวบรวมสมาธิ เข้าสู่การผ่าตัดในขณะที่การผ่าตัดดำเนินไปได้ครึ่งทาง เสือเงินตัวผู้ที่ก่อนหน้านี้ถูกพวกนางใช้ปืนยาสลบยิง วิ่งเข้ามากะทันหันอาจเพราะฤทธิ์ยาสลบยังไม่หายไปทั้งหมด ตอนมันเดินเข้ามายังโซเซเล็กน้อยสีหน้าซูจิ่งสิงย่ำแย่ หากเสือเงินตัวผู้ทำร้ายพวกเขาในเวลาอย่างนี้ เรื่องนี้จะรับมือได้ยากมากสรุปสิ่งที่ทำให้พวกเขาแปลกใจคือ เสือเงินอาจมีสติปัญญาจริง เมื่อเห็นการกระทำของกู้หว่านเยว่ มันกับเสือเงินตัวเมียสบตากันหนึ่งครั้ง“โฮก”อาจเพราะรับรู้ว่ากู้หว่านเยว่กำลังช่วยคู่ตัวเมียของมัน ดังนั้นมันจึงไม่ได้เลือกจะเข้ามาโจมตี แต่ทำเหมือนซูจิ่งสิงโดยรออยู่ด้านข้างหนึ่งคนหนึ่งเสือช่วยคุ้มกันพวกนาง ภาพที่เกิดขึ้นรู้สึกอบอุ่นและน่าขันอย่างประหลาดหน้าผากกู้หว่านเยว่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อผ่านไปอีกครึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็นำดอกน้ำแข็งนิลต้นนี้ออกมาจากขาเสือเงินตัวเมียได้สักที“สำเร็จแล้ว!”กู้หว่านเยว่ดีใจมากนางรีบนำดอกน้ำแข็งนิลใส่ไว้ในกล่องหยก จากนั้นเก็บเข้าไปในมิติเมื่อใดที
ลูกศรลอบยิงดอกนี้มาอย่างกะทันหัน จนกู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิงไม่ทันตั้งตัวสักนิดเสือเงินตัวเมียถูกยิงที่ลำคอ จึงส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด เลือดสดพุ่งออกมาเป็นสายกู้หว่านเยว่โมโหมาก“ใครกัน? !”นางหันมองทางปากถ้ำ เห็นเพียงเหิงสุยสุ่ยพาคนกลุ่มหนึ่งบินเข้ามาทางนี้“น่าเสียดาย ทำไมไม่ยิงเจ้าให้ตายไปเลย!”เหิงสุยสุ่ยสายตาอำมหิต ในมือถือคันธนูเล่มหนึ่ง ลูกศรลอบยิงเมื่อครู่นางเป็นคนยิงกู้หว่านเยว่เห็นนางยิงเสือเงินตัวเมียจนบาดเจ็บ ยังกำเริบเสิบสานเพียงนี้ จึงโกรธแค้นมาก“คุณหนูใหญ่ ท่านดูสิว่านั่นคือสิ่งใด”ข้างกายเหิงสุยสุ่ยมีชายชราสวมชุดคลุมยาวคนหนึ่ง เขาชี้ไปด้านหลังกู้หว่านเยว่พร้อมอุทานที่นั่นมีใบของดอกน้ำแข็งนิลหลงเหลือไว้หลายใบ“นั่นคือดอกน้ำแข็งนิล!”เหิงสุยสุ่ยถึงได้รู้สึกตัว “ดอกน้ำแข็งนิลอยู่บนตัวพวกเจ้าหรือ!”มุมปากนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเหยียด “ปิดปากถ้ำไว้ อย่าให้พวกเขาหนีไป”“โฮก!”เสือเงินตัวผู้ถูไถกับเสือเงินตัวเมียที่หายใจรวยริน สายตาโกรธแค้น“ข้าขอเตือนให้พวกเจ้ามอบดอกน้ำแข็งนิลออกมาโดยดี ไม่อย่างนั้นจะให้พวกเจ้าตายอย่างทรมาน”วาจาเหิงสุยสุ่ยโอหังมาก อาจเพราะ
“นี่ท่านถูกพิษกระนั้นหรือ?”กู้หว่านเยว่เอียงศีรษะจับชีพจรให้เขา จับชีพจรอย่างละเอียดอยู่นาน ถึงพูดออกมาอย่างแปลกใจ“พิษนี้แปลกยิ่งนัก”“อย่างไรหรือ?” ไป๋หลี่ชิงซีเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ เสียดายเขามีใบหน้าหล่อเหลา แต่กลับเป็นคนพูดมากคนหนึ่ง“ยาพิษนี้มองดูแล้ววางยาได้ยุ่งยากอย่างมาก จะถอนพิษกลับยุ่งยากยิ่งกว่า แต่แปลกก็แปลกที่พิษนี้ไม่ส่งผลร้ายต่อร่างกายคน พิษน้อยมาก เพียงแต่ยากจะถอนออกได้”ดังนั้นบัดนี้มองท่าทางของต้วนหลานซิวดูแล้ว ยังมีชีวิตชีวา ไม่คล้ายคนถูกวางยาพิษ“ฟังท่านพูดแล้วคล้ายเป็นเช่นนี้จริงเสียด้วย”ไป๋หลี่ชิงซีเองก็ไม่โง่คนทั่วไปวางยาผู้อื่น บ้างก็เพื่อฆ่าคนผู้นั้นให้ตายคาที่ บ้างก็ต้องการใช้พิษควบคุมเขาฝ่ายแรกออกฤทธิ์เร็ว พิษร้ายแรงมาก ไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็สามารถทำให้พิษกำเริบจนเลือดออกทวารทั้งเจ็ดและตายไปฝ่ายหลังเล่า แม้ว่าไม่ถึงแก่ชีวิต แต่หากพิษกำเริบก็ทำให้คนเจ็บปวดทรมาน หาไม่แล้วจะสามารถควบคุมคนผู้นั้นได้เยี่ยงไร?ทว่ายาพิษภายในร่างกายของต้วนหลานซิวแปลกมากไม่เพียงไม่มีพิษ หนำซ้ำยังทำร้ายร่างกายน้อยมาก เพียงแต่ยากจะถอนพิษได้ก็เท่านั้น“อาจารย์อาเล็ก ท่าน
ซูจิ่งสิงใคร่ครวญครู่หนึ่ง กลับมิได้เอาแต่ใจเกินไป ฟังความเห็นของกู้หว่านเยว่เรื่องของลูกชายลูกสาวคือวาสนาไม่อาจฝืนได้เขามอบสำเนาคำสารภาพให้ฉู่เฟิง ออกคำสั่ง“ประกาศออกไป”“พ่ะย่ะค่ะ” ฉู่เฟิงรับของไป บังเอิญไป๋หลี่ชิงซีเดินเข้ามาจากภายนอกพอดี“อาจารย์อาเล็กของข้ามาแล้วขอรับ”ยามกู้หว่านเยว่อยู่ที่เมืองเหยาก็ให้เขาเดินทางมาแล้วคิดไม่ถึงระหว่างเดินทางจะได้เผชิญหน้ากับแผ่นดินไหว เสียเวลาไปหลายวันดังนั้นจึงเปลี่ยนเส้นทางมายังซุ่ยโจว ทุกคนมารวมตัวกันที่ซุ่ยโจว“ท่านรีบพาเขาเข้ามาเร็วเข้า”บัดนี้กู้หว่านเยว่มีเวลาว่าง ไม่มีธุระอะไร ผ่านไปอีกครู่ก็ไม่แน่แล้ว ลั่วยางสามารถมาหานางได้ทุกเมื่อ“ได้”ไป๋หลี่ชิงซีหันหลังกลับ พาอาจารย์อาเล็กเข้ามา“ท่านอาจารย์อาเล็กรีบเข้ามาเถอะเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่เคยพบอาจารย์ของไป๋หลี่ชิงซีมาก่อน มีภาพของอาจารย์อาเล็กอยู่ภายในใจ คาดว่าน่าจะเหมือนกับอดีตเจ้าสำนักผู้ล่วงลับ ไว้เคราสีเทาและมีสีหน้าขรึมเคร่งตลอดเวลาคิดไม่ถึง ไป๋หลี่ชิงซีจะพาท่านอาผู้หล่อเหลาอายุราวสามสิบเข้ามาคนหนึ่ง“ข้าต้วนหลานซิว คารวะท่านอ๋องและพระชายา”ท่านอาผู้หล่อเหลาหรื
“ใช่แล้ว”ซูจิ่งสิงพยักหน้า กอดกู้หว่านเยว่พลางอธิบาย“ภายในมือของเว่ยเฉิงมีจุดอ่อนของหลี่กวงถิง เขาเพียงเข้าคุกและพูดกับเขาสองสามประโยค ก็ทำให้หลี่กวงถิงตกใจหน้าถอดสีแล้ว เปลี่ยนคำพูดยอมเขียนคำสารภาพ”เว่ยเฉิงคนนี้ช่างมีความสามารถโดยแท้ตรงข้ามกันร้ายกาจกว่าในต้นฉบับมาก“เจียงหรงใกล้คลอดแล้ว”ซูจิ่งสิงกอดกู้หว่านเยว่ สุ้มเสียงนุ่มนวลอยู่บ้าง“เว่ยเฉิงเองก็เหมือนข้า เป็นคนหลงภรรยาคนหนึ่ง เมื่อหนึ่งเดือนก่อนเขาเองก็เขียนจดหมายให้ข้าพูดว่าหลังกลับจากเขตซีเป่ยจะขออยู่เป็นเพื่อนยามเจียงหรงคลอด ข้าอนุญาตแล้ว”กู้หว่านเยว่พยักหน้าในต้นฉบับ เดิมทีเว่ยเฉิงและเจียงหรงก็รักกันอย่างลึกซึ้งยิ่งไม่ต้องพูดถึงจุดจบอันแสนโหดร้ายของเจียงหรงในตอนท้ายหากเว่ยเฉิงฝันถึงอดีต ได้เห็นจุดจบของเจียงหรงในต้นฉบับ เช่นนั้นสำหรับภรรยาของเขาคนนี้ เขาจะต้องรักและให้ความสำคัญมากยิ่งกว่าตอนแรกแน่“เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ผู้หญิงคลอดลูกคือต้องผ่านประตูวิญญาณมาหนึ่งรอบ มีสามีของตนอยู่ข้างกาย นี่ก็เป็นเรื่องดีต่อเจียงหรง”กู้หว่านเยว่ไม่พูดอะไรซูจิ่งสิงได้ยินแล้วกลับดีใจต้องผ่านประตูวิญญาณมาหนึ่งรอบ เขา
“นี่หมายความว่ากระไร?”เฉิงทั่วงุนงง ไม่อาจตอบสนองในทันทีเลยได้“เทพเจ้าเห็นราษฎรน่าสงสารจึงประทานยาให้”กู้หว่านเยว่พูดทิ้งท้ายอย่างลึกลับไว้หนึ่งประโยค จูงซูจิ่งสิงหันหลังจากไป อย่างไรเสียเฉิงทั่วก็ไม่สามารถถามจนถึงที่สุดได้“แม่ทัพเฉิง อย่าลืมลงไปรับโทษยี่สิบไม้ทหารเล่า”ก่อนจากไป ซูจิ่งสิงเอ่ยเตือน“ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้เลย!”ขอเพียงราษฎรเมืองซุ่ยโจวได้รับความช่วยเหลือ ยังไม่ต้องพูดถึงยี่สิบไม้ทหาร ต่อให้เป็นห้าสิบไม้เขาก็ยอมเฉิงทั่วลงไปอย่างมีความสุขถูกตี เขากลับยังมีความสุขมาก“น้องหญิง มีข่าวด่วนส่งมา”ซูจิ่งสิงรับจดหมายบนขาของนกพิราบทองคำ หลังอ่านแล้วก็เผยสีหน้าตื่นเต้นออกมาอย่างกะทันหัน“เกิดอันใดขึ้นหรือเจ้าคะ?”กู้หว่านเยว่เดินเข้าไปหยุดข้างกายเขา ซูจิ่งสิงรีบส่งจดหมายให้นาง“เจ้าอ่านดู!”นางก้มหน้าอ่าน ใบหน้าเผยแววตกตะลึงระคนดีใจ“หลี่กวงถิงยอมออกหน้าอธิบายแล้ว ดีเหลือเกิน”นับตั้งแต่กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงจับตาเฒ่าหลี่กวงถิงคนนี้เป็นเชลยแล้ว ก็ขังเขาไว้ในคุกใหญ่อยู่ตลอด รอเขาเขียนคำสารภาพตาเฒ่าคนนี้ไม่ยอมแพ้มาโดยตลอดคิดไม่ถึงเลยว่าจะคิดตกแล้ว“ท่านพ
แม้ว่าภายในมิติของนางจะมีแปลงสมุนไพร แต่ภายในแปลงสมุนไพรล้วนปลูกสมุนไพรหายาก ไม่มีสมุนไพรรักษาโรคไข้รากสาดน้อยธรรมดาดังนั้น สมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นกู้หว่านเยว่ซื้อจากแพลตฟอร์มซื้อขายการแจกจ่ายยาเริ่มขึ้นอย่างว่องไวเหล่าราษฎรขยับขึ้นมาทีละคน ขบวนคนเริ่มขยับอย่างเชื่องช้า“พี่หญิงหว่านเยว่ ท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะ”ลั่วยางเข้ามาเตือนนางหนึ่งประโยค เอ่ยปากอย่างห่วงใย“ข้าบอกกับหมอเหล่านั้นแล้ว หากพวกเขาไม่แน่ใจโรค ค่อยมาถามข้าเจ้าค่ะ”นางอธิบาย“หากข้าเองก็หมดหนทาง ค่อยให้คนเข้าไปหาท่าน”กู้หว่านเยว่พยักหน้า “เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน”เกาเจี้ยนสบมองลั่วยางอย่างสงสาร “ยางเอ๋อร์ เจ้าต้องเหนื่อยแล้ว”แม้พูดว่าด้านหน้ายังมีหมอตรวจอาการก่อนแต่คนมากถึงเพียงนี้ ย่อมมีหมอที่รักษาไม่ได้รวมเข้าด้วยกัน ก็เพียงพอให้ลั่วยางยุ่ง“ข้าไม่เป็นไร สามารถรักษาราษฎรได้ ช่วยได้หนึ่งชีวิตก็คือหนึ่งชีวิต”ลั่วยางหยิบธงหนึ่งผืนออกมา สองสามคนมองดู ได้เห็นตัวอักษรคำว่าหุบเขาราชาโอสถสามคำบนนั้น“ข้ารับปากท่านอาจารย์ไว้แล้ว จะต้องหาโอกาสประกาศเรื่องหุบเขาราชาโอสถดีๆบังเอิญจะได้ฉวยโอกาสนี้ประกาศให้ราษฎ
ทหารชั้นผู้น้อยคนหนึ่งวิ่งเข้าอย่างรีบร้อนจากด้านนอกประตู พูดออกมาอย่างลนลาน ทำให้เฉิงทั่วตื่นตระหนก“มีอันใด เกิดอันใดขึ้นหรือ?”หรือว่ากลัวสิ่งใดสิ่งนั้นก็มากระนั้น?“ด้านนอกประตู ด้านนอกประตูมีราษฎรป่วยหนักมากมายมาขอรับ ต่อแถวยาวเหยียดอยู่ด้านนอกประตู แถวยาวไปจนถึงประตูเมืองแล้ว”ทหารชั้นผู้น้อยกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง ไม่เคยเห็นแถวยาวเช่นนี้มาก่อน“ที่แท้ก็มีคนต่อแถวมากนี่เอง”เฉิงทั่วตบศีรษะทหารชั้นผู้น้อยทีหนึ่งอย่างไม่สบอารมณ์ “ครั้งหน้าพูดให้เข้าใจหน่อย อย่าหายใจแรง ทำข้าตกใจแทบตาย”ทหารชั้นผู้น้อยลูบศีรษะ บ่นพึมพำเสียงแผ่ว “คำนี้ของท่านแม่ทัพ หรือว่านี่ไม่ทำให้คนตกใจกันเล่า?”ราษฎรมากถึงเพียงนี้ล้อมจวนแม่ทัพไว้ หากเกิดความวุ่นวาย ทำให้คนตายจะทำเยี่ยงไร?“เจ้า นำทหารม้าสองหน่วยไปดูแลรักษาความเรียบร้อยบนถนนให้ดี”เฉิงทั่วชี้ไปยังคนสนิทที่หน้าประตู เห็นว่าถึงเวลาแจกจ่ายยาแล้ว เขาเตรียมไปดูสถานการณ์ที่หน้าประตูจวนแม่ทัพในเวลานี้ หน้าประตูจวนแม่ทัพคลาคล่ำไปด้วยผู้คนเหล่าราษฎรรอคอยอย่างมีความหวัง หวังว่าจะสามารถได้รับยาเพียงพอเพื่อช่วยตนเองหรือคนในครอบครัว“จะเริ่มแจกจ่าย
เขาครุ่นคิดอยู่สักครู่ พลางแอบมองสีหน้าของซูจิ่งสิง ไม่กล้าอยู่ในเรือนนานเกินไป จึงรีบออกไปพร้อมกับรองแม่ทัพ“ท่านแม่ทัพ สิ่งที่พระชายาพูดเป็นความจริงหรือไม่? คงไม่ได้คุยโวหรอกนะ?”หลังจากที่ทั้งสองออกมาข้างนอกแล้ว รองแม่ทัพก็พูดขึ้น“ประชาชนที่ป่วยในเมืองไม่ใช่แค่คนหรือสองคน ยามากมายขนาดนั้น พระชายาจะหามาได้หรือ?”เขาคิดอยู่เสมอว่าคำพูดของกู้หว่านเยว่นั้นไม่น่าเชื่อถือบางทีอาจเป็นเพราะวันนี้ถูกแม่ทัพชี้หน้าตำหนิ รู้สึกทั้งอายทั้งโกรธ ต้องการทวงศักดิ์ศรีคืนมา จึงได้พลั้งปากคุยโวโอ้อวดออกไป“ไม่รู้สิ”เฉิงทั่วส่ายหัวสติปัญญาบอกเขาว่า กู้หว่านเยว่นั้นไม่สามารถหาสมุนไพรได้มากมายขนาดนั้นภายในระยะเวลาอันสั้นแน่นอนแต่เขาก็นึกถึงตอนที่โจมตีเมืองเหยาขึ้นมาอีก ดินปืนและกระสุนปืนใหญ่เหล่านั้นที่ส่งลงมาจากเมือง รวมถึงธนูที่มีรัศมีการยิงไกลมากสิ่งของเหล่านี้เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนถ้าหากในตอนนี้สิ่งของที่เขาไม่คาดคิด กู้หว่านเยว่บังเอิญมีพอดีล่ะ?“ถ้าอย่างนั้นคำสั่งของพระชายาเมื่อครู่นี้ พวกเรายังต้องปฏิบัติตามหรือไม่?”รองแม่ทัพค่อนข้างเป็นกังวล“เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป อีกสาม
เขามีสีหน้าร้อนใจ ชิงเหลียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง“ท่านรอสักครู่ ข้าจะเข้าไปรายงานก่อน”ภายในห้อง กู้หว่านเยว่ได้ยินเสียงดังเอะอะจากด้านนอกแล้ว จึงรีบพาซูจิ่งสิงออกมาจากมิติในขณะที่ชิงเหลียนเข้ามา นางกำลังเปิดประตูพอดี“พระชายา แม่ทัพเฉิงอยู่ข้างนอก...”“ข้าได้ยินทุกอย่างแล้ว เจ้าให้เขาเข้ามาเถอะ”กู้หว่านเยว่หาวนอน“อ้อ ถือโอกาสรับประทานอาหารเช้าไปด้วย”เมื่อคืนนี้ นางและซูจิ่งสิงยุ่งอยู่ในมิติตลอดทั้งคืน“เพคะ”ชิงเหลียนรีบออกไป เฉิงทั่วก็เข้ามาจากทางด้านนอกอย่างไม่พอใจ“คารวะท่านอ๋องและพระชายา”เขาทำความเคารพแบบขอไปที แล้วเริ่มบ่นว่า“พระชายา เมื่อคืนข้าน้อยเตือนท่านแล้วว่า จะช่วยเหลือผู้คนในเมืองนี้ส่งเดชไม่ได้ อาจก่อให้เกิดความโกลาหลได้”น้ำเสียงของเขาไม่สู้ดีนัก“ดูสิ เมื่อวานท่านนำหญิงผู้นั้นมารักษาในจวนละแวกนี้ ผลปรากฏว่าเรื่องนี้ถูกผู้มีเจตนาเผยแพร่ออกไปเมื่อเช้านี้ เวลานี้ด้านนอกจวนแม่ทัพมีผู้ป่วยเต็มไปหมดท่านก็รู้ เมื่อเกิดความโกลาหลขึ้นมา จะกลายเป็นเรื่องใหญ่”เมื่อเฉิงทั่วพูดถึงความร้อนใจ ก็อดไม่ได้ที่จะจ้องมองกู้หว่านเยว่ สายตานั้นเต็มไปด้วยคำถาม“แม่ทั
ยิ่งไปกว่านั้นยังสวมถุงมือและผ้าคลุมหน้าอีกด้วยเห็นได้ชัดว่าหญิงผู้นั้นอับจนหนทางแล้ว พอเข้ามาก็คุกเข่าลงตรงหน้าพวกเขาทันที“ท่านผู้สูงศักดิ์ทั้งหลาย พวกท่านได้โปรดช่วยลูกของข้าด้วย เขาเพิ่งห้าขวบเท่านั้น”หญิงผู้นั้นกอดลูกไว้แน่นในอ้อมแขน“เขาฉลาดมาก และเชื่อฟังมากด้วย มักจะช่วยข้าทำงานอยู่บ่อยครั้ง สามารถอ่านหนังสือและจดจำตัวอักษรได้ตั้งแต่ยังเด็กเช่นนี้ พวกท่านได้โปรดช่วยชีวิตเขาด้วย ต่อให้ต้องเอาชีวิตของข้าก็ตาม”หญิงผู้นั้นร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหลกู้หว่านเยว่ให้นางวางลูกลงบนเบาะนุ่ม เพื่อสะดวกในการตรวจวินิจฉัย“แล้วพ่อของเด็กล่ะ เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่คนเดียว?”หญิงผู้นั้นมีอาการป่วยอย่างเห็นได้ชัด แก้มตอบลึก“ตาย ตายแล้ว”หญิงผู้นั้นสะอึกสะอื้นตอบ“เป็นไข้หวัด ไม่มียารักษา ทนได้ไม่ถึงครึ่งเดือนก็ตายแล้ว”กู้หว่านเยว่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “ขอโทษนะ”หญิงผู้นั้นส่ายหัว “มันคือโชคชะตา แต่ขอให้หมอช่วยชีวิตลูกของข้าด้วย แม้ว่าต้องการให้ข้าไปตาย ข้าก็เต็มใจ”กู้หว่านเยว่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเจ็บปวด ซูจิ่งสิงที่อยู่ข้าง ๆ ก็กำหมัดทั้งสองแน่น“ไม่ต้องให้เจ้าไปตายหรอก ให้ข้าดู