“นางอ้างว่าเป็นย่าของไป๋โม่อวี่”ดูจากความสอดคล้องของอายุ ทันทีที่ไป๋โม่อวี่ได้ยินแล้วกลับกัดฟันกรอด“เจ้ากำลังพูดจาเหลวไหล ซิงเยว่คือภรรยาของข้า”“อะไรนะ?!”กู้หว่านเยว่งุนงงในทันที ตอนนี้อายุของหญิงชราผู้นี้ใกล้จะแปดสิบปีแล้ว เหตุใดถึงเป็นภรรยาของไป๋โมอวี่ได้“รสนิยมของเจ้าพิสดารยิ่งนัก”นางอดโพล่งออกมาไม่ได้ เทียนซิงเยว่ถึงกับยืนไม่อยู่“อาโม่ ข้าไม่ใช่....”นางอายเกินกว่าจะยอมรับ ไป๋โม่อวี่กลับพยายามกล่าวไม่ยั้ง“ข้าและเจ้ากราบไหว้ฟ้าดินกันแล้ว เจ้าคือภรรยาของข้า และตลอดชีวิตนี้ข้าจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ เราสองคนจะอยู่เคียงคู่กันตราบชั่วฟ้าดินสลาย”สองคนนี้เป็นสามีภรรยากันจริง ๆ หรือ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงพากันตะลึงงันไป๋โม่อวี่มองกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงด้วยสายตาขุ่นเคือง “ข้าตกอยู่ในกำมือของเจ้าแล้ว ข้าไม่เก่งเหมือนผู้อื่น พวกเจ้าจะฆ่าใครเท่าไหร่ก็ได้ แต่ห้ามพวกเจ้าสร้างความอัปยศอดสูให้ซิงเยว่”ครั้นเอ่ยถึงเทียนซิงเยว่ สายตาเขาฉายแววอ่อนโยนทันทีเทียนซิงเยว่กลับส่ายหน้า “ได้โปรดพวกเจ้าปล่อยเขาไปเถอะ ทุกอย่างที่เขาทำก็เพื่อข้า การแก้แค้นทั้งหมดนี้ พวกเจ้ามาลงกับข้าได้เ
เดิมทีนางคิดว่าเถ้าแก่ตลาดมืดผู้นี้จะเป็นคนที่ละโมบโลภมาก คาดไม่ถึงว่าทุกอย่างที่เขาทำล้วนแต่ทำเพื่อภรรยาของเขา“มัดตัวนางไว้”แม้ว่าทั้งสองคนจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาก็ตาม แต่ก็รู้สึกเห็นใจกับรูปลักษณ์ภายนอกของเทียนซิงเยว่แต่มันก็คนละเรื่องกัน ความลำบากของสองคนนั้นในตอนนั้นไม่ใช่ฝีมือพวกเขา ดังนั้นความแค้นของพวกเขาจะหักล้างกันไม่ได้“พวกเจ้าอย่าทำร้ายซิงเยว่นะ” ไป๋โม่อวี่เกลียดชังยิ่งนัก “มีอะไรก็มาลงที่ข้า จะทำร้ายสตรีทำไม?”กู้หว่านเยว่กล่าวเสียงเรียบ “อย่าร้อนใจไป ความแค้นที่ควรเอาคืนจากเจ้าข้าไม่มีวันลดน้อยลงหรอก”“เจ้า!” ไป๋โม่อวี่ถึงกับสำลักครั้นเห็นซูจิ่งสิงไม่ได้มีท่าทีจะทำร้ายเทียนซิงเยว่ แต่กลับจับพวกเขามัดไว้ด้วยกัน จึงปิดปากลง“อาโม่ เจ้าทำเพื่อข้า ทุกอย่างนี้มันคุ้มค่าแล้วหรือ?”เทียนซิงเยว่ยังคงร้องไห้ นางคิดว่าหากไม่ใช่เพราะนาง วันนี้ไป๋โม่อวี่คงไม่ตกมาอยู่ในกำมือของสองสามีภรรยาคู่นี้“ข้าไร้ความสามารถ ไม่เกี่ยวกับเจ้า”สองสามีภรรยาคู่นี้มีความสามารถแกร่งกล้า องครักษ์ลับเหล่านั้นของเขาก็เหมือนกับของประดับไปโดยปริยาย มิน่าล่ะเวินทิงอวิ๋นจึงได้ตายด้
นางตั้งใจว่าจะหาโอกาสที่เหมาะสมแล้วค่อยสอบสวนทั้งสองคน ถึงอย่างไรนางก็มีคำถามที่เกี่ยวข้องกับเหยลวี่เจิงอยากจะถามอยู่แล้ว“ไปกันเถอะ เราออกไปกันก่อน”กู้หว่านเยว่พาซูจิ่งสิงออกจากห้องไป ในตอนนี้เองพ่อบ้านโจวพาองครักษ์ลับกลุ่มหนึ่งล้อมเข้ามาทันที“นายท่าน ได้ยินว่ามีนักฆ่าบุกมา นายท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”กู้หว่านเยว่ส่ายหน้า แล้วเลียนเสียงของไป๋โม่อวี่“งานประมูลเป็นอย่างไรบ้าง?”“นายท่านโปรดวางใจ งานประมูลราบรื่นดี งานประมูลครั้งนี้มีสามีภรรยาคู่หนึ่งนำสมุนไพรมีค่าจำนวนมากมาประมูลด้วย ข้าจัดประมูลอยู่ในลำดับก่อนสุดท้าย ของชิ้นนี้จะต้องขายได้ราคาดีอย่างแน่นอน งานประมูลของเราคงได้กำไรไม่น้อยแน่นอนขอรับ”“อื้อ” กู้หว่านเยว่แกล้งทำเป็นพยักหน้า ใครจะไปรู้ว่าสมุนไพรเหล่านั้นจะเป็นของนาง“เจ้าออกไปก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องที่ต้องไปจัดการ หากไม่มีอะไรแล้วก็อย่ามารบกวนข้า”จู่ ๆ กู้หว่านเยว่ก็คิดอะไรบางอย่างได้“จริงสิ คืนนี้ทุกคนต่างก็รอคอยข้ากันทั้งนั้น ข้ามีเรื่องอยากจะพูด”“นายท่านวางใจ”ทุกคนต่างรู้จักนิสัยของเขาดี จึงมักไม่อนุญาตให้ใครขึ้นมาชั้นสอง และไม่อนุญาตให้ใครมาป้วนเปี้ยนด
เด็กหนุ่มกล่าวอย่างหมดความอดทน “หลังจากงานประมูลจบลง ข้าจะไปพบนาง”“ขอรับ”ดูเหมือนขันทีที่อยู่หน้าสุดจะเกิดความเกรงกลัวหลังจากได้ยินคำพูดของเขา ก็รีบโบกมือให้คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชาไปตรวจสอบทันทีสมุนไพรหายากเหล่านี้สามารถขายประมูลได้ทั้งหมดห้าล้านตำลึง กู้หว่านเยว่รวบรวมให้ชิงเหลียน ให้อีกฝ่ายไปรับเงินจำนวน2.5 ล้านตำลึงที่จุดประมูลกลับมา“น่าเสียดาย พวกเจ้าสองคนไม่ได้ประมูลของที่พวกเจ้าอยากได้”ถังหมิงรุ่ยยังไม่รู้อะไรเลย คิดว่าพวกเขาอยากมาประมูลของที่อยากได้เดิมทีเขาอยากยืมเงินให้สองคนนั้น ใครจะไปรู้เล่าว่าสองสามีภรรยาจะปฏิเสธ“ไม่เป็นไร ประมูลของไม่ได้ นั้นก็หมายความว่าของนั้นไม่ได้มีวาสนากับเรา”กู้หว่านเยว่โบกมือไปมาอย่างสงบนิ่ง“ในเมื่องานประมูลจบลงแล้ว คืนนี้เราคงไม่ไปรบกวนสกุลถังแล้ว”สิ่งสำคัญคือนางอยากกลับไปสอบสวนเถ้าแก่ตลาดมืด หากอยู่บ้านสกุลถัง ถึงอย่างไรก็เป็นอาณาเขตของผู้อื่นทำอะไรก็ไม่สะดวกนางตั้งใจจะกลับไปยังบ้านสกุลเวิน“พวกเจ้าจะไปแล้วหรือ?”ถังหมิงรุ่ยยังคงอาลัยอาวรณ์ จากนั้นก็มองไปทางหลี่หรงหรงด้วยจิตใต้สำนึกน่าเสียดายอีกฝ่ายกำลังก้มหน้าครุ่นคิดบ
เขาเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อน“ข้าอยากจะถามเรื่องเกี่ยวกับท่านตาของข้าในตอนนั้น”กู้หว่านเยว่ครุ่นคิด ตลอดทางที่นางและท่านพี่เดินทางจากเจดีย์หนิงกู่มาจนถึงเขาอินซาน เฉิงเซวียนก็ช่วยเหลือไว้ไม่น้อย หากไม่มีเขา พวกนางคงไม่สามารถปล้นคลังเก็บของทั้งแปดแห่งได้“ได้ เจ้ามากับข้า”เรื่องของความรู้สึกก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของความรู้สึก กู้หว่านเยว่ยังคงแยกแยะได้อย่างชัดเจนหลังจากที่กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงกลับมา ก็ขังไป๋โม่อวี่และเทียนซิงเยว่เอาไว้ในห้องมืด เวลานี้ทั้งสองคนได้สติขึ้นมาแล้วเมื่อเห็นกู้หว่านเยว่เดินเข้ามาจากข้างนอก ไป๋โม่อวี่ก็อดไม่ได้ที่จะด่าทอออกมา“ที่นี่มันที่ไหน? พวกท่านคนชั่วช้าพาข้ามาที่ไหนกัน?”“ท่านไม่รู้จริง ๆ หรือว่าที่นี่คือที่ไหน? ที่นี่คือเรือนของเวินทิงอวิ๋นลูกน้องของท่านอย่างไรเล่า”กู้หว่านเยว่แสร้งหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น “ภายในเรือนของพวกเขามีสมบัติล้ำค่าอยู่ไม่น้อยเลย ท่านช่างใจกว้างยิ่งนัก ถึงกับมอบสมบัติมากมายให้กับลูกน้องคนหนึ่ง จนกระทั่งคลังเก็บของแทบไม่หมดแล้ว”สีหน้าของไป๋โม่อวี่เปลี่ยน เขาไม่เคยมอบสมบัติใด ๆ ให้กับเวินทิงอวิ๋นเลย ในเมื่ออีกฝ่ายแอบสะสม
เฉิงเซวียนโกรธเสียจนหน้าแดงเส้นเลือดปูด “ท่านเป็นน้องสาวบุญธรรมของท่านตาของข้า!”สุดยอด กู้หว่านเยว่ที่กำลังยุ่งเรื่องชาวบ้านถึงกับมือสั่น ดวงตาเป็นประกายเรื่องใหญ่น่าดูเชียว!“น้องหญิง นั่งก่อน” ซูจิ่งสิงยกเก้าอี้มาให้ด้วยความเอาใจใส่ ภรรยาต้องสนใจเรื่องแบบนี้แน่ ๆ “พวกท่านทำอะไรท่านตาของข้า?”เฉิงเซวียนร้อนใจเล็กน้อย ไป๋โม่อวี่กล่าวอย่างดูถูก“แค่ข้ารับใช้คนหนึ่ง คู่ควรให้เราทำอะไรด้วยหรือ?”น้ำเสียงดูถูกของเขาทำให้เฉิงเซวียนโกรธ “ระวังปากหน่อย”“อาโม่ อย่าเอ่ยเช่นนั้น”เทียนซิงเยว่หลับตาลงด้วยความเจ็บปวด “ในเมื่อเจ้าอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าก็จะบอกเจ้า”แท้จริงแล้วเทียนซิงเยว่ผู้นี้ เป็นถึงคุณหนูใหญ่ของตลาดมืดเพียงเพราะเถ้าแก่เทียนคู่สามีภรรยาถูกศัตรูฆ่าตาย ก่อนสิ้นใจ ทั้งสองคนได้ฝากฝังเสี่ยวซิงเยว่ไว้กับเฉิงเย่ว์ผู้เป็นลูกน้อง และกำชับให้เขาดูแลตลาดมืดเป็นอย่างดีเฉิงเย่ว์เลี้ยงดูเทียนซิงเยว่ราวกับน้องสาวแท้ ๆ ทั้งเลี้ยงดูนางจนเติบใหญ่ และบริหารจัดการตลาดมืดไปพร้อมกันเพียงแค่รอให้นางเติบโตเป็นผู้ใหญ่และแต่งงาน ก็จะมอบตลาดมืดให้กับนางและสามีของนาง“แต่ข้ากลับรักอา
“ซิงเยว่ จะ เจ้าเป็นอะไรไป?”“อึก!”เทียนซิงเยว่กระอักเลือดออกมาอีกครั้ง ทำให้เขาตกใจเสียจนแทบจะเป็นบ้าตั้งแต่ถูกจับมาจนถึงตอนนี้ เขามีท่าทีแข็งกร้าวมาตลอด แต่ในตอนนี้กลับวิงวอนกู้หว่านเยว่อย่างน่าเวทนา“ขอร้องล่ะ ไปตามหมอหน่อยเถิด”ไป๋โม่อวี่กอดเทียนซิงเยว่เอาไว้ เขารับไม่ได้หากต้องสูญเสียนางไปจริง ๆ “ขอเพียงท่านไปตามหมอ ไม่ว่าท่านต้องการทำอะไรข้าก็จะรับปาก ท่านต้องการเงิน หรือว่าต้องการตลาดมืด หรือแม้แต่ชีวิตของข้า ข้าก็จะให้ท่าน”“อาโม่...” เทียนซิงเยว่จับมือของไป๋โม่อวี่เอาไว้ “อย่าร้องไห้”“ไม่ได้ร้อง” ไป๋โม่อวี่หางตาแดงก่ำ น้ำตาไหลรินลงมาแล้ว เมื่อเห็นเทียนซิงเยว่กระอักเลือดออกมาคำโต หัวใจของเขาก็แตกสลายจนพูดอะไรไม่ออกกู้หว่านเยว่ถอนหายใจ “ช่างเถิด ข้าจะดูให้เอง”นางเป็นฝ่ายอธิบายขึ้นมาก่อน “ข้ามีความรู้ทางการแพทย์”ซูจิ่งสิงรู้ว่าน้องหญิงของเขาใจอ่อน จึงรีบอธิบายแทนว่า “ขาที่หักของข้า หว่านเยว่เป็นคนรักษาให้หายดี”“เร็วเข้า” ไป๋โม่อวี่ก็นึกขึ้นมาได้แล้วเช่นกัน เขาเคยส่งคนไปสืบเรื่องราวของสามีภรรยาคู่นี้ในรายงานที่ส่งกลับมานั้น มีการระบุว่ากู้หว่านเยว่เชี่ยวชาญด้
ไม่รู้ว่าเขาเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน จู่ ๆ ก็ลงมือกับกู้หว่านเยว่ซูจิ่งสิงคอยปกป้องกู้หว่านเยว่อยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา เมื่อเห็นดังนั้นจึงเตะเขาจนกระเด็นออกไป จากนั้นก็เผยเจตนาสังหาร หยิบกระบี่ยาวข้างกายขึ้นมาแล้วเดินไปหาเขาคนผู้นี้ช่างไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเลยจริง ๆ น้องหญิงของเขาเต็มใจยื่นมือช่วยเหลือคนรักของเขา ก็ถือว่าดีมากแล้วเขากล้าดีอย่างไรถึงได้ลงมือ?“อย่าฆ่าเขา”เทียนซิงเยว่รีบขอร้อง มองซูจิ่งสิงด้วยสายตาอ้อนวอน“เขาแค่รู้เรื่องอาการป่วยของข้า จึงตื่นเต้นไปชั่วขณะ ไม่ได้มีเจตนาใด ๆ ขอร้องพวกท่านปล่อยเขาไปเถิด”“ท่านพี่ เก็บกระบี่เถิด”กู้หว่านเยว่เข้าใจความรู้สึกของไป๋โม่อวี่ ดังนั้นนางจึงไม่อยากจะถือสาเขาไม่มีใครที่รู้ว่าคนรักกำลังจะตายในอีกไม่ช้า แล้วสามารถทำใจให้สงบนิ่งได้“ขอบคุณมาก”เทียนซิงเยว่มองกู้หว่านเยว่ด้วยความซาบซึ้ง จากนั้นก็รีบคลานไปหาไป๋โม่อวี่ซูจิ่งสิงเตะออกไปอย่างแรง ดังนั้นตอนนี้ไป๋โม่อวี่จึงแทบจะลุกไม่ขึ้น“อาโม่ ช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ได้อยู่กับเจ้า ข้าก็มีความสุขมากแล้ว”นางจับมือทั้งสองข้างของเขาไว้“อย่าโทษผู้ใดเลย โรคของข้ารักษามานานหลายปี หมอ
ตกลงปีนั้นรัชทายาทตายเยี่ยงไรกันแน่?เขารู้ดียิ่งกว่าผู้ใดหากไม่ใช่รัชทายาทและพระชายารัชทายาทตายไป ไฉนเลยเขาจะได้นั่งตำแหน่งฮ่องเต้?ทว่าบัดนี้ เขาคิดว่าตำแหน่งฮ่องเต้กำลังตกอยู่ในอันตราย“ไป จับคนสกุลหลี่เข้าคุกใหญ่!”มู่หรงถิงไม่ฟังคำชี้แนะจากนั้นยามทุกคนมายังสกุลหลี่ กลับพบว่าสกุลหลี่มีเพียงความว่างเปล่า เหลือบ่าวรับใช้ที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่สองสามคนกำลังใช้วิธีพรางตา“ภายในหอบรรพบุรุษสกุลหลี่ พบเส้นทางสายหนึ่ง...”องครักษ์ไปจับคนตัวสั่นเทานี่คือเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเดิมทีมู่หรงถิงก็โมโหอยู่แล้ว ต้องการใครสักคนเพื่อบันดาลโทสะ คิดไม่ถึงเลยว่าจะหาตัวคนรองรับอารมณ์ไม่พบ ยังถูกเขาจับได้ว่าคนของสกุลหลี่หนีไปแล้วเขาพลิกโต๊ะ กระทืบองครักษ์ไปจับตัวคนจนตาย“ฝ่าบาท” ตอนฮองเฮามา ภายในตำหนักวุ่นวายไปหมด แม้แต่นางกำลังก็ถูกมู่หรงถิงบีบคอตายไปสองคนฮองเฮาอดทนต่อความขยะแขยง สั่งให้คนลากศพไปจัดการ“เจ้ามาแล้ว”ตอนมู่หรงถิงอยู่เพียงลำพังจะบันดาลโทสะเยี่ยงไรก็ย่อมได้ แต่เขากลัวทำให้ฮองเฮาตกใจ“เพคะ ฝ่าบาท หม่อมฉันได้ยินเรื่องของอัครมหาเสนาบดีหลี่แล้ว”ฮองเฮาก้าวเท้าเบาๆ มาหยุดต่อหน้ามู
สายตากู้หว่านเยว่ทอดมองมา กู้หว่านหรูและญาติผู้พี่นางรู้สึกกลัวจนกอดกัน“เจ้า เจ้าจะทำอันใด?”กู้หว่านหรูกลืนน้ำลายหนึ่งอึก เอ่ยปากเสียงสั่น“ต่อให้เจ้าเป็นพระชายา ก็ไม่สามารถเมินข้ามกฎหมายได้ เจ้าไม่กลัวคนในใต้หล้าบริภาษเจ้าหรือ?”กู้หว่านเยว่หัวเราะพรืด“บริภาษ?” นางส่ายหน้า หนังสือประวัติศาสตร์ล้วนถูกเขียนโดยผู้ชนะยังต้องกลัวคำนินทาทั่วหล้าด้วยหรือ?“โยนพวกเขาสองคนออกจากซุ่ยโจว” กู้หว่านเยว่โบกมือเรียกคนเข้ามาสองคนนี้เป็นหวัด ถูกโยนออกไป ก็เพียงพอให้พวกเขาทรมาน“ญาติผู้น้อง” อวี๋เสียงลนลาน เขย่ามือของกู้หว่านหรู“นี่ไม่ใช่พี่สาวของเจ้าหรือ รีบไปขอร้องนางเร็วเข้า”ยังมีระยะทางอีกห้าถึงหกวันกว่าจะถึงบ้านเกิด พวกเขาต้องอยู่ภายในซุ่ยโจว รีบรักษาอาการป่วยให้หายดี“ข้าจะขอร้องนางเยี่ยงไร?”กู้หว่านหรูแค้นใจแย่แล้ว“นางไม่มีวันฟัง”“เจ้ารีบคิดหาทางเถอะ” สุ้มเสียงของอวี๋เสียงเจือไอโทสะสายหนึ่งอย่างสุดระงับ ทำเสียจนกู้หว่านหรูเหล่มอง“ท่านกำลังโทษข้าหรือ?”นางและกู้หว่านเยว่มีความแค้นต่อกันอย่างลึกซึ้ง ตอนอยู่ในจวนก็มักรังแกนาง จะสามารถมีวิธีใดได้เล่า?“หว่านหรู ข้าไม่ได้
แต่ต้วนหลานซิวจากไปอย่างไม่ไว้หน้าไป๋หลี่ชิงซีถอนหายใจอย่างเอือมระอา ทำได้เพียงกลับไปหากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสสิงปรากฏว่าคนเพิ่งไป ก็มองเห็นเกาเจี้ยนวิ่งเข้ามาจากภายนอก พูดว่าลั่วยางที่อยู่ข้างหน้าเจอคนไข้ที่ไม่แน่ใจอาการป่วย ขอเชิญกู้หว่านเยว่ไปวินิจฉัยกู้หว่านเยว่ยังนั่งได้ไม่นานก็รีบไปที่ด้านหน้าแล้ว“มีอันใดหรือ?”ตอนปรากฏตัวออกมาก็ได้เห็นสีหน้าว้าวุ่นของลั่วยาง กู้หว่านเยว่แปลกใจอยู่บ้างโรคอะไรกัน สามารถทำให้ว้าวุ่นถึงเพียงนี้ได้?“เหตุใดสีหน้าแย่มากถึงเพียงนี้?”“มีคนป่วยมาคนหนึ่งเจ้าค่ะ” ลั่วยางลอบชำเลืองมองสีหน้าของกู้หว่านเยว่ จากนั้นพูดเสียงค่อย“ข้าเองก็ไม่แน่ใจฐานะของนาง แต่เห็นแล้วคุ้นตาอยู่บ้าง ท่านมาดูกับข้าก็จะรู้”พูดไปก็เดินนำทางกู้หว่านเยว่ได้ยินเสียงคุ้นหูจากที่ไกลๆ“ไม่ใช่พูดว่าจะดูอาการให้ข้าหรือ เหตุใดพาข้ามาไว้ที่นี่ หมอหญิงของพวกเจ้าเล่า? เหตุใดเข้าไปแล้ว?”คนผู้นั้นโวยวาย เสียงคุ้นหูทำให้กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วน้อยๆไม่ใช่นางหรอกกระมัง? ไม่ถูกนี่ เหตุใดนางมาอยู่ที่นี่ได้?กู้หว่านเยว่ก้าวเท้าเร็วขึ้นสองส่วน เดินขึ้นไปก็ได้เห็นโฉมหน้าของคนผู้นั้
เขาทอดสายตามองกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงด้วยใบหน้าจริงใจ“ทั้งสองท่านช้าก่อน ข้ามีเรื่องอยากพูดกับพวกท่าน”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงได้ยินว่าต้วนหลานซิวมีเรื่องอยากพูด นี่จึงมิได้จากไปในทันที แต่เลือกนั่งลงฟัง ดูว่าเขาอยากพูดเรื่องใดทั้งสองคนกลับแปลกใจมาก“ระหว่างทางที่ข้ามาได้เห็นพระชายาแจกจ่ายยาภายในเมือง” ต้วนหลานซิวเอ่ยปากถามกู้หว่านเยว่พยักหน้า“ราษฎรของซุ่ยโจวเป็นไข้หวัด เพราะสถานการณ์บ้านเมืองไม่สู้ดี จึงไม่มียารักษา”ต้วนหลานซิวประกบมือพูดยิ้มๆ “ไอหยา นี่บังเอิญยิ่งนัก ข้าที่นี่มีสมุนไพรหนึ่งชุดพอดี”เขาพูดยิ้มๆ“หากท่านอ๋องและพระชายาไม่รังเกียจ ข้าน้อยยินดีบริจาคสมุนไพรชุดนี้เพื่อแจกจ่ายให้แก่ราษฎรเมืองซุ่ยโจว”ถือว่าเขาจ่ายค่าหมอให้กู้หว่านเยว่ก็แล้วกัน“ในมือท่านมีสมุนไพร?”กู้หว่านเยว่ตกตะลึง คิดไม่ถึงเลยว่าตนเองลงมือช่วยเหลืออย่างไม่ใส่ใจ ถึงขั้นสามารถช่วยพ่อค้าขายส่งสมุนไพรอีกด้วย?นี่คือประโยชน์สุขของราษฎรเมืองซุ่ยโจว นางย่อมไม่ปฏิเสธ“ใช่แล้ว ในมือข้ามียาสมุนไพรหนึ่งชุด”ไป๋หลี่ชิงซีอธิบายอยู่ทางด้านข้าง “พวกท่านไม่รู้ สตรีที่อาจารย์อาเล็กของข้าชอบเป็นคนบ้
“นี่ท่านถูกพิษกระนั้นหรือ?”กู้หว่านเยว่เอียงศีรษะจับชีพจรให้เขา จับชีพจรอย่างละเอียดอยู่นาน ถึงพูดออกมาอย่างแปลกใจ“พิษนี้แปลกยิ่งนัก”“อย่างไรหรือ?” ไป๋หลี่ชิงซีเอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ เสียดายเขามีใบหน้าหล่อเหลา แต่กลับเป็นคนพูดมากคนหนึ่ง“ยาพิษนี้มองดูแล้ววางยาได้ยุ่งยากอย่างมาก จะถอนพิษกลับยุ่งยากยิ่งกว่า แต่แปลกก็แปลกที่พิษนี้ไม่ส่งผลร้ายต่อร่างกายคน พิษน้อยมาก เพียงแต่ยากจะถอนออกได้”ดังนั้นบัดนี้มองท่าทางของต้วนหลานซิวดูแล้ว ยังมีชีวิตชีวา ไม่คล้ายคนถูกวางยาพิษ“ฟังท่านพูดแล้วคล้ายเป็นเช่นนี้จริงเสียด้วย”ไป๋หลี่ชิงซีเองก็ไม่โง่คนทั่วไปวางยาผู้อื่น บ้างก็เพื่อฆ่าคนผู้นั้นให้ตายคาที่ บ้างก็ต้องการใช้พิษควบคุมเขาฝ่ายแรกออกฤทธิ์เร็ว พิษร้ายแรงมาก ไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็สามารถทำให้พิษกำเริบจนเลือดออกทวารทั้งเจ็ดและตายไปฝ่ายหลังเล่า แม้ว่าไม่ถึงแก่ชีวิต แต่หากพิษกำเริบก็ทำให้คนเจ็บปวดทรมาน หาไม่แล้วจะสามารถควบคุมคนผู้นั้นได้เยี่ยงไร?ทว่ายาพิษภายในร่างกายของต้วนหลานซิวแปลกมากไม่เพียงไม่มีพิษ หนำซ้ำยังทำร้ายร่างกายน้อยมาก เพียงแต่ยากจะถอนพิษได้ก็เท่านั้น“อาจารย์อาเล็ก ท่าน
ซูจิ่งสิงใคร่ครวญครู่หนึ่ง กลับมิได้เอาแต่ใจเกินไป ฟังความเห็นของกู้หว่านเยว่เรื่องของลูกชายลูกสาวคือวาสนาไม่อาจฝืนได้เขามอบสำเนาคำสารภาพให้ฉู่เฟิง ออกคำสั่ง“ประกาศออกไป”“พ่ะย่ะค่ะ” ฉู่เฟิงรับของไป บังเอิญไป๋หลี่ชิงซีเดินเข้ามาจากภายนอกพอดี“อาจารย์อาเล็กของข้ามาแล้วขอรับ”ยามกู้หว่านเยว่อยู่ที่เมืองเหยาก็ให้เขาเดินทางมาแล้วคิดไม่ถึงระหว่างเดินทางจะได้เผชิญหน้ากับแผ่นดินไหว เสียเวลาไปหลายวันดังนั้นจึงเปลี่ยนเส้นทางมายังซุ่ยโจว ทุกคนมารวมตัวกันที่ซุ่ยโจว“ท่านรีบพาเขาเข้ามาเร็วเข้า”บัดนี้กู้หว่านเยว่มีเวลาว่าง ไม่มีธุระอะไร ผ่านไปอีกครู่ก็ไม่แน่แล้ว ลั่วยางสามารถมาหานางได้ทุกเมื่อ“ได้”ไป๋หลี่ชิงซีหันหลังกลับ พาอาจารย์อาเล็กเข้ามา“ท่านอาจารย์อาเล็กรีบเข้ามาเถอะเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่เคยพบอาจารย์ของไป๋หลี่ชิงซีมาก่อน มีภาพของอาจารย์อาเล็กอยู่ภายในใจ คาดว่าน่าจะเหมือนกับอดีตเจ้าสำนักผู้ล่วงลับ ไว้เคราสีเทาและมีสีหน้าขรึมเคร่งตลอดเวลาคิดไม่ถึง ไป๋หลี่ชิงซีจะพาท่านอาผู้หล่อเหลาอายุราวสามสิบเข้ามาคนหนึ่ง“ข้าต้วนหลานซิว คารวะท่านอ๋องและพระชายา”ท่านอาผู้หล่อเหลาหรื
“ใช่แล้ว”ซูจิ่งสิงพยักหน้า กอดกู้หว่านเยว่พลางอธิบาย“ภายในมือของเว่ยเฉิงมีจุดอ่อนของหลี่กวงถิง เขาเพียงเข้าคุกและพูดกับเขาสองสามประโยค ก็ทำให้หลี่กวงถิงตกใจหน้าถอดสีแล้ว เปลี่ยนคำพูดยอมเขียนคำสารภาพ”เว่ยเฉิงคนนี้ช่างมีความสามารถโดยแท้ตรงข้ามกันร้ายกาจกว่าในต้นฉบับมาก“เจียงหรงใกล้คลอดแล้ว”ซูจิ่งสิงกอดกู้หว่านเยว่ สุ้มเสียงนุ่มนวลอยู่บ้าง“เว่ยเฉิงเองก็เหมือนข้า เป็นคนหลงภรรยาคนหนึ่ง เมื่อหนึ่งเดือนก่อนเขาเองก็เขียนจดหมายให้ข้าพูดว่าหลังกลับจากเขตซีเป่ยจะขออยู่เป็นเพื่อนยามเจียงหรงคลอด ข้าอนุญาตแล้ว”กู้หว่านเยว่พยักหน้าในต้นฉบับ เดิมทีเว่ยเฉิงและเจียงหรงก็รักกันอย่างลึกซึ้งยิ่งไม่ต้องพูดถึงจุดจบอันแสนโหดร้ายของเจียงหรงในตอนท้ายหากเว่ยเฉิงฝันถึงอดีต ได้เห็นจุดจบของเจียงหรงในต้นฉบับ เช่นนั้นสำหรับภรรยาของเขาคนนี้ เขาจะต้องรักและให้ความสำคัญมากยิ่งกว่าตอนแรกแน่“เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน ผู้หญิงคลอดลูกคือต้องผ่านประตูวิญญาณมาหนึ่งรอบ มีสามีของตนอยู่ข้างกาย นี่ก็เป็นเรื่องดีต่อเจียงหรง”กู้หว่านเยว่ไม่พูดอะไรซูจิ่งสิงได้ยินแล้วกลับดีใจต้องผ่านประตูวิญญาณมาหนึ่งรอบ เขา
“นี่หมายความว่ากระไร?”เฉิงทั่วงุนงง ไม่อาจตอบสนองในทันทีเลยได้“เทพเจ้าเห็นราษฎรน่าสงสารจึงประทานยาให้”กู้หว่านเยว่พูดทิ้งท้ายอย่างลึกลับไว้หนึ่งประโยค จูงซูจิ่งสิงหันหลังจากไป อย่างไรเสียเฉิงทั่วก็ไม่สามารถถามจนถึงที่สุดได้“แม่ทัพเฉิง อย่าลืมลงไปรับโทษยี่สิบไม้ทหารเล่า”ก่อนจากไป ซูจิ่งสิงเอ่ยเตือน“ข้าน้อยจะไปเดี๋ยวนี้เลย!”ขอเพียงราษฎรเมืองซุ่ยโจวได้รับความช่วยเหลือ ยังไม่ต้องพูดถึงยี่สิบไม้ทหาร ต่อให้เป็นห้าสิบไม้เขาก็ยอมเฉิงทั่วลงไปอย่างมีความสุขถูกตี เขากลับยังมีความสุขมาก“น้องหญิง มีข่าวด่วนส่งมา”ซูจิ่งสิงรับจดหมายบนขาของนกพิราบทองคำ หลังอ่านแล้วก็เผยสีหน้าตื่นเต้นออกมาอย่างกะทันหัน“เกิดอันใดขึ้นหรือเจ้าคะ?”กู้หว่านเยว่เดินเข้าไปหยุดข้างกายเขา ซูจิ่งสิงรีบส่งจดหมายให้นาง“เจ้าอ่านดู!”นางก้มหน้าอ่าน ใบหน้าเผยแววตกตะลึงระคนดีใจ“หลี่กวงถิงยอมออกหน้าอธิบายแล้ว ดีเหลือเกิน”นับตั้งแต่กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงจับตาเฒ่าหลี่กวงถิงคนนี้เป็นเชลยแล้ว ก็ขังเขาไว้ในคุกใหญ่อยู่ตลอด รอเขาเขียนคำสารภาพตาเฒ่าคนนี้ไม่ยอมแพ้มาโดยตลอดคิดไม่ถึงเลยว่าจะคิดตกแล้ว“ท่านพ
แม้ว่าภายในมิติของนางจะมีแปลงสมุนไพร แต่ภายในแปลงสมุนไพรล้วนปลูกสมุนไพรหายาก ไม่มีสมุนไพรรักษาโรคไข้รากสาดน้อยธรรมดาดังนั้น สมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นกู้หว่านเยว่ซื้อจากแพลตฟอร์มซื้อขายการแจกจ่ายยาเริ่มขึ้นอย่างว่องไวเหล่าราษฎรขยับขึ้นมาทีละคน ขบวนคนเริ่มขยับอย่างเชื่องช้า“พี่หญิงหว่านเยว่ ท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะ”ลั่วยางเข้ามาเตือนนางหนึ่งประโยค เอ่ยปากอย่างห่วงใย“ข้าบอกกับหมอเหล่านั้นแล้ว หากพวกเขาไม่แน่ใจโรค ค่อยมาถามข้าเจ้าค่ะ”นางอธิบาย“หากข้าเองก็หมดหนทาง ค่อยให้คนเข้าไปหาท่าน”กู้หว่านเยว่พยักหน้า “เช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน”เกาเจี้ยนสบมองลั่วยางอย่างสงสาร “ยางเอ๋อร์ เจ้าต้องเหนื่อยแล้ว”แม้พูดว่าด้านหน้ายังมีหมอตรวจอาการก่อนแต่คนมากถึงเพียงนี้ ย่อมมีหมอที่รักษาไม่ได้รวมเข้าด้วยกัน ก็เพียงพอให้ลั่วยางยุ่ง“ข้าไม่เป็นไร สามารถรักษาราษฎรได้ ช่วยได้หนึ่งชีวิตก็คือหนึ่งชีวิต”ลั่วยางหยิบธงหนึ่งผืนออกมา สองสามคนมองดู ได้เห็นตัวอักษรคำว่าหุบเขาราชาโอสถสามคำบนนั้น“ข้ารับปากท่านอาจารย์ไว้แล้ว จะต้องหาโอกาสประกาศเรื่องหุบเขาราชาโอสถดีๆบังเอิญจะได้ฉวยโอกาสนี้ประกาศให้ราษฎ