ไม่รู้ว่าเขาเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน จู่ ๆ ก็ลงมือกับกู้หว่านเยว่ซูจิ่งสิงคอยปกป้องกู้หว่านเยว่อยู่ข้าง ๆ ตลอดเวลา เมื่อเห็นดังนั้นจึงเตะเขาจนกระเด็นออกไป จากนั้นก็เผยเจตนาสังหาร หยิบกระบี่ยาวข้างกายขึ้นมาแล้วเดินไปหาเขาคนผู้นี้ช่างไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเลยจริง ๆ น้องหญิงของเขาเต็มใจยื่นมือช่วยเหลือคนรักของเขา ก็ถือว่าดีมากแล้วเขากล้าดีอย่างไรถึงได้ลงมือ?“อย่าฆ่าเขา”เทียนซิงเยว่รีบขอร้อง มองซูจิ่งสิงด้วยสายตาอ้อนวอน“เขาแค่รู้เรื่องอาการป่วยของข้า จึงตื่นเต้นไปชั่วขณะ ไม่ได้มีเจตนาใด ๆ ขอร้องพวกท่านปล่อยเขาไปเถิด”“ท่านพี่ เก็บกระบี่เถิด”กู้หว่านเยว่เข้าใจความรู้สึกของไป๋โม่อวี่ ดังนั้นนางจึงไม่อยากจะถือสาเขาไม่มีใครที่รู้ว่าคนรักกำลังจะตายในอีกไม่ช้า แล้วสามารถทำใจให้สงบนิ่งได้“ขอบคุณมาก”เทียนซิงเยว่มองกู้หว่านเยว่ด้วยความซาบซึ้ง จากนั้นก็รีบคลานไปหาไป๋โม่อวี่ซูจิ่งสิงเตะออกไปอย่างแรง ดังนั้นตอนนี้ไป๋โม่อวี่จึงแทบจะลุกไม่ขึ้น“อาโม่ ช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ได้อยู่กับเจ้า ข้าก็มีความสุขมากแล้ว”นางจับมือทั้งสองข้างของเขาไว้“อย่าโทษผู้ใดเลย โรคของข้ารักษามานานหลายปี หมอ
“ชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์?”ดวงตาของกู้หว่านเยว่เป็นประกาย ก่อนหน้านี้อ๋องหกเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนเงื่อนไขกับนาง ก็มอบชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ชิ้นหนึ่งให้กับนางเช่นกัน ชิ้นส่วนนั้นนางเก็บไว้ในมิติมาโดยตลอดเท่าที่นางรู้ ชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ที่อ๋องหกมอบให้แก่นางก็น่าจะเป็นของราชวงศ์ตงโจวเช่นกัน หรือว่าชิ้นส่วนที่ทั้งสองคนหยิบออกมานั้นจะเป็นแผนที่ขุมทรัพย์เดียวกัน?“ท่านเอาชิ้นส่วนนั้นออกมาให้ข้าดูหน่อย”กู้หว่านเยว่กล่าวอย่างรีบร้อน“วางใจได้ หากสิ่งของสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ข้าต้องการจริง ๆ ข้าจะไม่คืนคำแน่นอน”“ตกลง”ไป๋โม่อวี่พยักหน้า บอกตำแหน่งของชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ให้กับพวกเขา“หลังจากได้ชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์มาแล้ว ด้วยประสบการณ์การดูสมบัติของข้ามาหลายปี จึงตัดสินได้ว่าแผนที่ขุมทรัพย์นี้ต้องมีมูลค่ามหาศาล ดังนั้นข้าจึงเย็บมันไว้ที่ด้านในของเสื้อผ้า”ไป๋โม่อวี่ชี้ไปที่ตำแหน่งหนึ่งบนร่างกายของเขา ซูจิ่งสิงเหลือบมองเขา แล้วเอ่ยกับกู้หว่านเยว่“น้องหญิงเจ้าหันหลังไปก่อน ข้าจะไปเอาชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ออกมาให้”เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเย็บชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ไว้ในเสื้อตัวใน
ถึงแม้ไป๋โม่อวี่จะบอกกับนางหลายครั้งแล้วว่าเขาไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอกของนางเลยแต่ทุกครั้งที่นางเห็นหญิงชราที่ดูซูบผอมในกระจก ก็ยังคงรู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียดเกินไป ไม่คู่ควรกับชายหนุ่มที่ดีที่สุดในใจของนาง“ข้ามียาสมุนไพรชนิดหนึ่ง”ในที่สุดกู้หว่านเยว่ก็รู้สึกสงสารขึ้นมาเล็กน้อย“ถึงแม้จะไม่สามารถแก้พิษของท่านได้ แต่สามารถทำให้ใบหน้าของท่านกลับคืนสู่สภาพเดิมได้”สมุนไพรชนิดนี้ นางพบตอนที่อยู่ในถ้ำ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีเช่นกัน“จริงหรือ?”เทียนซิงเยว่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แม้ว่านางจะไม่เคยเสียใจที่ตอนนั้นใบหน้าของตนเองถูกทำลายเพื่อตามหายาให้กับไป๋โม่อวี่แต่นางก็มักจะคิดอยู่เสมอว่า หากใบหน้าของนางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เช่นนั้นคงจะดีไม่น้อย“พระชายา โปรดมอบยาให้ด้วยเถิด”นางรู้ดีว่าในมือของนางไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้อีกฝ่ายซาบซึ้งได้ ทำได้เพียงเอ่ยคำขอร้องเท่านั้น“ข้าหวังว่าภาพสุดท้ายที่ข้าจะทิ้งไว้ให้อาโม่ จะเป็นภาพที่งดงามสมบูรณ์แบบ”“ซิงเยว่”ไป๋โม่อวี่ก็เข้าใจดีว่าตนเองได้มอบชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ออกไปแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่จะนำมาแลกเปลี่ยนกับกู้หว่านเยว่ได้อีกเพื่อให้บรรลุเ
เทียนซิงเยว่ยิ้มเล็กน้อย “ข้ารักเขา ดังนั้นข้าจึงเชื่อว่าเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งข้า เช่นเดียวกัน เขาก็รู้สึกเช่นนี้ต่อข้า”เฉิงเซวียนสะดุ้งเล็กน้อย “ข้า...”เขาอยากจะบอกว่าตัวเองมีคนที่ชอบ แต่พอนึกขึ้นได้ เขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้เชื่อใจน้องหญิงอย่างเต็มที่วันนั้น เขาเข้าข้างเซี่ยเหอโดยไม่ได้แยกแยะถูกผิด และยังทะเลาะกับน้องหญิงเพราะเซี่ยเหออีก“หลังจากที่ชิงหลานกลับมา ดูเหมือนเจ้าจะไม่เคยถามสักคำว่านางไปเจออะไรมาบ้างในช่วงที่หายตัวไป?”กู้หว่านเยว่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา คนผู้นี้ช่างรู้ตัวช้าจริง ๆ เพิ่งจะมาคิดได้เอาป่านนี้เฉิงเซวียนเข้าใจขึ้นมาทันที สีหน้าแดงก่ำ “เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นมันมากมายเหลือเกิน...”เขาไม่ใช่ไม่อยากถาม เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้ถามเท่านั้น“น้องหญิง”เขาเงยหน้าขึ้น เห็นเนี่ยชิงหลานยืนอยู่ที่หน้าประตูพอดี มองเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง“พี่หญิงหว่านเยว่ ข้าวเสร็จแล้ว”เนี่ยชิงหลานพูดจบประโยคนี้ก็หันหลังเดินจากไป ทำให้เฉิงเซวียนตกใจจนต้องรีบวิ่งตามไป“น้องหญิงฟังข้าอธิบายก่อน เรื่องวันนั้นมันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดจริง ๆ ”เสียงของทั้งสองคนค่อย
กู้หว่านเยว่อยู่ในมิติเป็นเวลาสามชั่วยาม ในที่สุดก็ปรุงยาเสร็จสิ้น“หากมิใช่เพราะน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์อัปเกรด ทำให้สมุนไพรเติบโตอย่างรวดเร็ว คงไม่อาจปรุงยาลูกกลอนเม็ดนี้ได้จริง ๆ ”หลังจากใส่ยาลูกกลอนสีแดงลงในขวดหยกแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ออกมาจากมิติ“น้องหญิง”ซูจิ่งสิงที่อยู่นอกประตูได้ยินเสียง จึงเรียกเบา ๆ กู้หว่านเยว่ที่อารมณ์ดีเอ่ยขึ้น“เปิดประตูเถิด ปรุงยาแก้พิษเสร็จแล้ว”“ได้”ซูจิ่งสิงเปิดประตู ใบหน้าเผยความห่วงใย “เหนื่อยมากหรือไม่?”“ไม่เท่าไร”กู้หว่านเยว่ชื่นชอบในวิชาแพทย์ ความรู้สึกประสบความสำเร็จจากการปรุงยาช่วยกลบความเหนื่อยล้า“ไปหาเทียนซิงเยว่ก่อน”ยานี้เก็บไว้ได้ไม่นานนัก กู้หว่านเยว่มาถึงห้องของเทียนซิงเยว่ แล้วมอบยาลูกกลอนให้กับนาง“กินกับน้ำอุ่น หลังจากกินแล้วอาจจะง่วงนิดหน่อย ท่านก็นอนพักผ่อนสักหน่อย”“ขอบคุณมาก”เทียนซิงเยว่รับขวดยาด้วยมือทั้งสองข้างอย่างระมัดระวัง ยานี้มีค่ามากสำหรับนางไป๋โม่อวี่ยังไม่กลับมา กู้หว่านเยว่จึงตัดสินใจไปทานข้าวก่อนยุ่งมาทั้งวันแล้ว นางยังไม่ได้ทานข้าวเลย“ในหม้อมีกับข้าวร้อน ๆ แล้ว” เป็นของที่หลี่หรงหรงทำขึ้นมาใหม่ ฝีมื
“ขออภัยพระชายา ข้าขอตัวก่อน”เขาแทบจะเผ่นหนีไปเลย ทำให้เซี่ยเหอมีความมั่นใจ พูดจาน้ำเสียงก็แข็งกร้าวขึ้น“พระชายา ข้ารู้ว่าท่านกับชิงหลานมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพียงแต่ว่า ข้าและพี่ใหญ่เฉิงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันแล้วในอนาคตเขาจำเป็นต้องแต่งงานกับข้า หวังว่าท่านจะช่วยเตือนคุณหนูชิงหลาน อย่าให้นางมาทำลายพวกเรา”เซี่ยเหอ พูดจาประชดประชัน ทำให้ชิงหลานโมโหอย่างมาก“เรื่องของพวกเจ้า เกี่ยวอะไรกับฮูหยินของพวกเราด้วย?”กู้หว่านเยว่กลับไม่โกรธ มองนางพลางยิ้มอย่างคลุมเครือ “ใครทำลายใครกันแน่?”สีหน้าของเซี่ยเหอเปลี่ยนไป นางไม่ได้อะไรดี ๆ เลยเมื่ออยู่ต่อหน้ากู้หว่านเยว่“ขอตัวลาก่อน”“เซี่ยเหอผู้นี้ ตอนแรกก็แสร้งทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์ แต่พอได้ขึ้นเตียงกับคุณชายเฉิงแล้ว ก็เผยธาตุแท้ออกมา”ชิงเหลียนบ่นพึมพำออกมาประโยคหนึ่ง โชคดีที่หงเจาไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นหมัดหนัก ๆ คงพุ่งออกไปแล้ว“ไม่ต้องสนใจนาง” กู้หว่านเยว่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“นางใช้วิธีแบบนี้เพื่อยกฐานะตัวเอง ต่อไปก็คงได้รับผลกรรมแน่นอน”เฉิงเซวียนก็ไม่ใช่คนโง่เขลา ต่อให้เขาโง่ แต่คนตระกูลเฉิงจะโง่หรือ?ใน
“ดูเหมือนจะเป็นคุณชายถัง?”“รีบเชิญเขาเข้ามา”กู้หว่านเยว่เกือบจะลืมถังหมิงรุ่ยไปเสียแล้ว รีบให้หลี่หรงหรงไปพาเขาเข้ามา“เจ้าดูสิว่าวันนี้ข้าแต่งตัวเป็นอย่างไรบ้าง?”ถังหมิงรุ่ยถามผู้ติดตามด้วยความกังวล อีกฝ่ายพยักหน้า“คุณชายใหญ่ ท่านแต่งตัวหล่อเหลามากแล้ว ข้าน้อยไม่เคยเห็นท่านตั้งใจแต่งตัวขนาดนี้มาก่อน”“อย่าพูดจาเหลวไหล”ถังหมิงรุ่ยหน้าแดงเล็กน้อย แต่สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวกลับเป็นดวงตาคู่สวยของหลี่หรงหรง“คุณชายถังรีบเข้ามาเถิด”ขณะที่ถังหมิงรุ่ยกำลังครุ่นคิด ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านใน ทันใดนั้นหลี่หรงหรงก็งมองเขาด้วยรอยยิ้ม“เจ้า” ถังหมิงรุ่ยมองเสียจนตาค้างดวงตาคู่นี้เขาจำได้ แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเขากลับไม่รู้จักหลี่หรงหรงก็นึกขึ้นได้ ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเขาไปที่บ้านสกุลถัง ทุกคนแปลงโฉมไปกันหมดและตอนนี้นางออกมาเปิดประตู ไม่ได้แปลงโฉม ไม่แปลกที่ถังหมิงรุ่ยจะจำไม่ได้“คุณชายถังจำข้าไม่ได้แล้วหรือ? ข้าคือหลี่หรงหรง”หลี่หรงหรงยิ้ม จงใจใช้น้ำเสียงอย่างวันนั้น ถังหมิงรุ่ยก็นึกขึ้นได้ทันที คนที่อยู่ตรงหน้าคือหญิงสาวที่เขาเฝ้าคิดถึงตลอดสองวันมานี้ “หน้าตาของเจ้า เหตุใดเ
หลังจากที่ถังหมิงรุ่ยจากไปแล้ว หลี่หรงหรงก็เอ่ยขึ้นมาหนึ่งประโยค กู้หว่านเยว่พบว่าบนกล่องแต่ละใบมีชื่อเขียนอยู่“หรงหรง นี่ให้เจ้า”กู้หว่านเยว่เปิดกล่อง พบว่าสิ่งที่ถังหมิงรุ่ยมอบให้ทุกคนคือสร้อยข้อมือลูกปัดเพียงแต่พิเศษตรงที่ สร้อยข้อมือลูกปัดของหลี่หรงหรงนั้นทำจากปะการังแดง แตกต่างจากของคนอื่น“ตรงกลางเหมือนจะเป็นถั่วคะนึงหานะ?”ชิงเหลียนกล่าวขึ้นมาประโยคหนึ่ง ทำให้หลี่หรงหรงกล่าวอย่างฝืน ๆ “ถั่วคะนึงหาอะไรกัน เจ้าตาฝาดแล้ว”พูดจบก็วางสร้อยข้อมือเส้นนั้นกลับเข้าไปในกล่องผ้าไหมด้วยสีหน้ารังเกียจ“ข้าไม่เคยใส่ของแบบนี้ รู้สึกว่ามันเกะกะ”กู้หว่านเยว่กำลังครุ่นคิดเรื่องตลาดมืดอยู่ จึงไม่ได้สนใจ หลังจากที่ให้ชิงเหลียนเก็บของขวัญไปแล้ว นางก็ดึงชายเสื้อของซูจิ่งสิง“ท่านพี่ ข้าอยากไปที่ตลาดมืดสักหน่อย”“ได้ ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้า”สองสามีภรรยากำชับลูกน้องสองสามประโยค จากนั้นทั้งคู่ก็ออกจากเรือน มุ่งหน้าไปยังตลาดมืดเมื่อมาถึงที่ไม่ไกลจากตลาดมืด กู้หว่านเยว่ก็หยิบเสื้อคลุมตัวหนึ่งออกมาจากมิติซูจิ่งสิงมองออกว่าเสื้อคลุมตัวนี้ ไม่น่าจะใช่ตัวเดียวกับที่หยิบมาจากไป๋โม่อวี่ก่อนหน้
“เถ้าแก่ ทูเจวี๋ยก่อเรื่องอะไรหรือขอรับ?”“คนทูเจวี๋ย เจ้าเล่ห์เพทุบาย ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ไม่ใช่พวกที่เราจะร่วมมือด้วยพวกเจ้าแค่จำคำพูดของข้าไว้ก็พอ ไม่จำเป็นต้องถามเหตุผลให้มาก”กู้หว่านเยว่มีสีหน้าเย็นชา ผู้ดูแลที่เพิ่งถามคำถามรีบพยักหน้า ไม่กล้าส่งเสียงอีก“พวกเจ้าออกไปก่อนเถอะ” เมื่อเห็นว่าสั่งการไปจนเกือบหมดแล้ว นางจึงโบกมือให้ทุกคนออกไป“ไปประกาศเรื่องการเปลี่ยนชื่อตลาดมืดเป็นสมาคมสมบัติลับ หากมีเรื่องอื่นใด ข้าจะแจ้งให้พวกเจ้าทราบอีกที”พูดมาถึงตรงนี้ สายตาของนางก็พลันหยุดอยู่ที่ผู้ดูแลโจว“ผู้ดูแลโจวอยู่ก่อน ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”ผู้ดูแลโจวรีบอยู่ต่อ บนหน้าผากของเขาเริ่มมีเหงื่อเย็นผุดขึ้นมาด้วยความฉลาดของเขา ทำให้พอจะเดาได้ว่าเถ้าแก่ที่อยู่ตรงหน้านี้ อาจไม่ใช่เถ้าแก่คนเดิมแล้วความคิดนี้ทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่ากู้หว่านเยว่จงใจให้เขาอยู่ต่อหมายความว่าอย่างไร“ผู้ดูแลโจว เจ้าเป็นคนฉลาดตอนนี้ผู้ดูแลเวินหายตัวไปอย่างลึกลับ ข้าตั้งใจจะเลื่อนตำแหน่งให้เจ้าเป็นหัวหน้าผู้ดูแลคนใหม่ของตลาดมืด เจ้าเต็มใจหรือไม่?”“หา?”เมื่อได้ยินว่าเป็นเรื่อง
ทว่าแต่ละคนต่างไม่กล้าคัดค้าน ผู้ดูแลโจวอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก“ตลาดมืดอินซานของเราก่อตั้งมานานแล้ว หากเถ้าแก่ต้องการเปลี่ยนชื่อตลาดมืดก็ย่อมทำได้ เพียงแต่ข้าน้อยมีความกังวลเล็กน้อย”“เจ้ากังวลเรื่องอะไร?”กู้หว่านเยว่มองไปที่ผู้ดูแลโจว แต่ก็ไม่ได้โกรธ นางตั้งใจจะลองฟังดูว่าอีกฝ่ายต้องการจะพูดอะไร“ตลาดมืดอินซานของเรามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว หากจู่ ๆ เปลี่ยนชื่อ เช่นนั้นเกรงว่าผู้คนจะคิดว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นในตลาดมืด อาจส่งผลกระทบต่อการค้าของพวกเราได้”ปัญหาที่ผู้ดูแลโจวหยิบยกขึ้นมานั้นมีอยู่จริงปัญหานี้ กู้หว่านเยว่ก็เคยพิจารณามาก่อนแล้วแต่ในเมื่อนางจะเข้ามารับช่วงต่อตลาดมืดอินซาน ก็ต้องเปลี่ยนภาพลักษณ์ของตลาดมืดแห่งนี้อย่างแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่จะทำแบบเดิมอีกต่อไปเพราะถึงอย่างไรตลาดมืดก็เคยร่วมมือกับคนทูเจวี๋ย แถมยังเคยปล่อยยาสลบในงานประมูลที่เจดีย์หนิงกู่ ชื่อเสียงเลยเสื่อมเสียไปแล้วบางทีการเปลี่ยนชื่ออาจเป็นโอกาสที่ดีที่สุด และยังทำให้พวกเขาอดสงสัยไม่ได้ว่าตลาดมืดได้เปลี่ยนเจ้าของไปแล้วหรือไม่“เรื่องนี้ไม่เป็นไร ข้าได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ตลาดมืดอินซานของเราก่อตั้งม
หลังจากที่ถังหมิงรุ่ยจากไปแล้ว หลี่หรงหรงก็เอ่ยขึ้นมาหนึ่งประโยค กู้หว่านเยว่พบว่าบนกล่องแต่ละใบมีชื่อเขียนอยู่“หรงหรง นี่ให้เจ้า”กู้หว่านเยว่เปิดกล่อง พบว่าสิ่งที่ถังหมิงรุ่ยมอบให้ทุกคนคือสร้อยข้อมือลูกปัดเพียงแต่พิเศษตรงที่ สร้อยข้อมือลูกปัดของหลี่หรงหรงนั้นทำจากปะการังแดง แตกต่างจากของคนอื่น“ตรงกลางเหมือนจะเป็นถั่วคะนึงหานะ?”ชิงเหลียนกล่าวขึ้นมาประโยคหนึ่ง ทำให้หลี่หรงหรงกล่าวอย่างฝืน ๆ “ถั่วคะนึงหาอะไรกัน เจ้าตาฝาดแล้ว”พูดจบก็วางสร้อยข้อมือเส้นนั้นกลับเข้าไปในกล่องผ้าไหมด้วยสีหน้ารังเกียจ“ข้าไม่เคยใส่ของแบบนี้ รู้สึกว่ามันเกะกะ”กู้หว่านเยว่กำลังครุ่นคิดเรื่องตลาดมืดอยู่ จึงไม่ได้สนใจ หลังจากที่ให้ชิงเหลียนเก็บของขวัญไปแล้ว นางก็ดึงชายเสื้อของซูจิ่งสิง“ท่านพี่ ข้าอยากไปที่ตลาดมืดสักหน่อย”“ได้ ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้า”สองสามีภรรยากำชับลูกน้องสองสามประโยค จากนั้นทั้งคู่ก็ออกจากเรือน มุ่งหน้าไปยังตลาดมืดเมื่อมาถึงที่ไม่ไกลจากตลาดมืด กู้หว่านเยว่ก็หยิบเสื้อคลุมตัวหนึ่งออกมาจากมิติซูจิ่งสิงมองออกว่าเสื้อคลุมตัวนี้ ไม่น่าจะใช่ตัวเดียวกับที่หยิบมาจากไป๋โม่อวี่ก่อนหน้
“ดูเหมือนจะเป็นคุณชายถัง?”“รีบเชิญเขาเข้ามา”กู้หว่านเยว่เกือบจะลืมถังหมิงรุ่ยไปเสียแล้ว รีบให้หลี่หรงหรงไปพาเขาเข้ามา“เจ้าดูสิว่าวันนี้ข้าแต่งตัวเป็นอย่างไรบ้าง?”ถังหมิงรุ่ยถามผู้ติดตามด้วยความกังวล อีกฝ่ายพยักหน้า“คุณชายใหญ่ ท่านแต่งตัวหล่อเหลามากแล้ว ข้าน้อยไม่เคยเห็นท่านตั้งใจแต่งตัวขนาดนี้มาก่อน”“อย่าพูดจาเหลวไหล”ถังหมิงรุ่ยหน้าแดงเล็กน้อย แต่สิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวกลับเป็นดวงตาคู่สวยของหลี่หรงหรง“คุณชายถังรีบเข้ามาเถิด”ขณะที่ถังหมิงรุ่ยกำลังครุ่นคิด ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านใน ทันใดนั้นหลี่หรงหรงก็งมองเขาด้วยรอยยิ้ม“เจ้า” ถังหมิงรุ่ยมองเสียจนตาค้างดวงตาคู่นี้เขาจำได้ แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเขากลับไม่รู้จักหลี่หรงหรงก็นึกขึ้นได้ ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเขาไปที่บ้านสกุลถัง ทุกคนแปลงโฉมไปกันหมดและตอนนี้นางออกมาเปิดประตู ไม่ได้แปลงโฉม ไม่แปลกที่ถังหมิงรุ่ยจะจำไม่ได้“คุณชายถังจำข้าไม่ได้แล้วหรือ? ข้าคือหลี่หรงหรง”หลี่หรงหรงยิ้ม จงใจใช้น้ำเสียงอย่างวันนั้น ถังหมิงรุ่ยก็นึกขึ้นได้ทันที คนที่อยู่ตรงหน้าคือหญิงสาวที่เขาเฝ้าคิดถึงตลอดสองวันมานี้ “หน้าตาของเจ้า เหตุใดเ
“ขออภัยพระชายา ข้าขอตัวก่อน”เขาแทบจะเผ่นหนีไปเลย ทำให้เซี่ยเหอมีความมั่นใจ พูดจาน้ำเสียงก็แข็งกร้าวขึ้น“พระชายา ข้ารู้ว่าท่านกับชิงหลานมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เพียงแต่ว่า ข้าและพี่ใหญ่เฉิงมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันแล้วในอนาคตเขาจำเป็นต้องแต่งงานกับข้า หวังว่าท่านจะช่วยเตือนคุณหนูชิงหลาน อย่าให้นางมาทำลายพวกเรา”เซี่ยเหอ พูดจาประชดประชัน ทำให้ชิงหลานโมโหอย่างมาก“เรื่องของพวกเจ้า เกี่ยวอะไรกับฮูหยินของพวกเราด้วย?”กู้หว่านเยว่กลับไม่โกรธ มองนางพลางยิ้มอย่างคลุมเครือ “ใครทำลายใครกันแน่?”สีหน้าของเซี่ยเหอเปลี่ยนไป นางไม่ได้อะไรดี ๆ เลยเมื่ออยู่ต่อหน้ากู้หว่านเยว่“ขอตัวลาก่อน”“เซี่ยเหอผู้นี้ ตอนแรกก็แสร้งทำเป็นใสซื่อบริสุทธิ์ แต่พอได้ขึ้นเตียงกับคุณชายเฉิงแล้ว ก็เผยธาตุแท้ออกมา”ชิงเหลียนบ่นพึมพำออกมาประโยคหนึ่ง โชคดีที่หงเจาไม่ได้อยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นหมัดหนัก ๆ คงพุ่งออกไปแล้ว“ไม่ต้องสนใจนาง” กู้หว่านเยว่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“นางใช้วิธีแบบนี้เพื่อยกฐานะตัวเอง ต่อไปก็คงได้รับผลกรรมแน่นอน”เฉิงเซวียนก็ไม่ใช่คนโง่เขลา ต่อให้เขาโง่ แต่คนตระกูลเฉิงจะโง่หรือ?ใน
กู้หว่านเยว่อยู่ในมิติเป็นเวลาสามชั่วยาม ในที่สุดก็ปรุงยาเสร็จสิ้น“หากมิใช่เพราะน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์อัปเกรด ทำให้สมุนไพรเติบโตอย่างรวดเร็ว คงไม่อาจปรุงยาลูกกลอนเม็ดนี้ได้จริง ๆ ”หลังจากใส่ยาลูกกลอนสีแดงลงในขวดหยกแล้ว กู้หว่านเยว่ก็ออกมาจากมิติ“น้องหญิง”ซูจิ่งสิงที่อยู่นอกประตูได้ยินเสียง จึงเรียกเบา ๆ กู้หว่านเยว่ที่อารมณ์ดีเอ่ยขึ้น“เปิดประตูเถิด ปรุงยาแก้พิษเสร็จแล้ว”“ได้”ซูจิ่งสิงเปิดประตู ใบหน้าเผยความห่วงใย “เหนื่อยมากหรือไม่?”“ไม่เท่าไร”กู้หว่านเยว่ชื่นชอบในวิชาแพทย์ ความรู้สึกประสบความสำเร็จจากการปรุงยาช่วยกลบความเหนื่อยล้า“ไปหาเทียนซิงเยว่ก่อน”ยานี้เก็บไว้ได้ไม่นานนัก กู้หว่านเยว่มาถึงห้องของเทียนซิงเยว่ แล้วมอบยาลูกกลอนให้กับนาง“กินกับน้ำอุ่น หลังจากกินแล้วอาจจะง่วงนิดหน่อย ท่านก็นอนพักผ่อนสักหน่อย”“ขอบคุณมาก”เทียนซิงเยว่รับขวดยาด้วยมือทั้งสองข้างอย่างระมัดระวัง ยานี้มีค่ามากสำหรับนางไป๋โม่อวี่ยังไม่กลับมา กู้หว่านเยว่จึงตัดสินใจไปทานข้าวก่อนยุ่งมาทั้งวันแล้ว นางยังไม่ได้ทานข้าวเลย“ในหม้อมีกับข้าวร้อน ๆ แล้ว” เป็นของที่หลี่หรงหรงทำขึ้นมาใหม่ ฝีมื
เทียนซิงเยว่ยิ้มเล็กน้อย “ข้ารักเขา ดังนั้นข้าจึงเชื่อว่าเขาจะไม่มีวันทอดทิ้งข้า เช่นเดียวกัน เขาก็รู้สึกเช่นนี้ต่อข้า”เฉิงเซวียนสะดุ้งเล็กน้อย “ข้า...”เขาอยากจะบอกว่าตัวเองมีคนที่ชอบ แต่พอนึกขึ้นได้ เขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้เชื่อใจน้องหญิงอย่างเต็มที่วันนั้น เขาเข้าข้างเซี่ยเหอโดยไม่ได้แยกแยะถูกผิด และยังทะเลาะกับน้องหญิงเพราะเซี่ยเหออีก“หลังจากที่ชิงหลานกลับมา ดูเหมือนเจ้าจะไม่เคยถามสักคำว่านางไปเจออะไรมาบ้างในช่วงที่หายตัวไป?”กู้หว่านเยว่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา คนผู้นี้ช่างรู้ตัวช้าจริง ๆ เพิ่งจะมาคิดได้เอาป่านนี้เฉิงเซวียนเข้าใจขึ้นมาทันที สีหน้าแดงก่ำ “เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นมันมากมายเหลือเกิน...”เขาไม่ใช่ไม่อยากถาม เพียงแต่ยังไม่มีโอกาสได้ถามเท่านั้น“น้องหญิง”เขาเงยหน้าขึ้น เห็นเนี่ยชิงหลานยืนอยู่ที่หน้าประตูพอดี มองเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง“พี่หญิงหว่านเยว่ ข้าวเสร็จแล้ว”เนี่ยชิงหลานพูดจบประโยคนี้ก็หันหลังเดินจากไป ทำให้เฉิงเซวียนตกใจจนต้องรีบวิ่งตามไป“น้องหญิงฟังข้าอธิบายก่อน เรื่องวันนั้นมันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดจริง ๆ ”เสียงของทั้งสองคนค่อย
ถึงแม้ไป๋โม่อวี่จะบอกกับนางหลายครั้งแล้วว่าเขาไม่สนใจรูปลักษณ์ภายนอกของนางเลยแต่ทุกครั้งที่นางเห็นหญิงชราที่ดูซูบผอมในกระจก ก็ยังคงรู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียดเกินไป ไม่คู่ควรกับชายหนุ่มที่ดีที่สุดในใจของนาง“ข้ามียาสมุนไพรชนิดหนึ่ง”ในที่สุดกู้หว่านเยว่ก็รู้สึกสงสารขึ้นมาเล็กน้อย“ถึงแม้จะไม่สามารถแก้พิษของท่านได้ แต่สามารถทำให้ใบหน้าของท่านกลับคืนสู่สภาพเดิมได้”สมุนไพรชนิดนี้ นางพบตอนที่อยู่ในถ้ำ ก่อนหน้านี้ก็ไม่มีเช่นกัน“จริงหรือ?”เทียนซิงเยว่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย แม้ว่านางจะไม่เคยเสียใจที่ตอนนั้นใบหน้าของตนเองถูกทำลายเพื่อตามหายาให้กับไป๋โม่อวี่แต่นางก็มักจะคิดอยู่เสมอว่า หากใบหน้าของนางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เช่นนั้นคงจะดีไม่น้อย“พระชายา โปรดมอบยาให้ด้วยเถิด”นางรู้ดีว่าในมือของนางไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้อีกฝ่ายซาบซึ้งได้ ทำได้เพียงเอ่ยคำขอร้องเท่านั้น“ข้าหวังว่าภาพสุดท้ายที่ข้าจะทิ้งไว้ให้อาโม่ จะเป็นภาพที่งดงามสมบูรณ์แบบ”“ซิงเยว่”ไป๋โม่อวี่ก็เข้าใจดีว่าตนเองได้มอบชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ออกไปแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่จะนำมาแลกเปลี่ยนกับกู้หว่านเยว่ได้อีกเพื่อให้บรรลุเ
“ชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์?”ดวงตาของกู้หว่านเยว่เป็นประกาย ก่อนหน้านี้อ๋องหกเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนเงื่อนไขกับนาง ก็มอบชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ชิ้นหนึ่งให้กับนางเช่นกัน ชิ้นส่วนนั้นนางเก็บไว้ในมิติมาโดยตลอดเท่าที่นางรู้ ชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ที่อ๋องหกมอบให้แก่นางก็น่าจะเป็นของราชวงศ์ตงโจวเช่นกัน หรือว่าชิ้นส่วนที่ทั้งสองคนหยิบออกมานั้นจะเป็นแผนที่ขุมทรัพย์เดียวกัน?“ท่านเอาชิ้นส่วนนั้นออกมาให้ข้าดูหน่อย”กู้หว่านเยว่กล่าวอย่างรีบร้อน“วางใจได้ หากสิ่งของสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ข้าต้องการจริง ๆ ข้าจะไม่คืนคำแน่นอน”“ตกลง”ไป๋โม่อวี่พยักหน้า บอกตำแหน่งของชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ให้กับพวกเขา“หลังจากได้ชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์มาแล้ว ด้วยประสบการณ์การดูสมบัติของข้ามาหลายปี จึงตัดสินได้ว่าแผนที่ขุมทรัพย์นี้ต้องมีมูลค่ามหาศาล ดังนั้นข้าจึงเย็บมันไว้ที่ด้านในของเสื้อผ้า”ไป๋โม่อวี่ชี้ไปที่ตำแหน่งหนึ่งบนร่างกายของเขา ซูจิ่งสิงเหลือบมองเขา แล้วเอ่ยกับกู้หว่านเยว่“น้องหญิงเจ้าหันหลังไปก่อน ข้าจะไปเอาชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ออกมาให้”เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเย็บชิ้นส่วนแผนที่ขุมทรัพย์ไว้ในเสื้อตัวใน