แชร์

บทที่ 87

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
พู่กันในมือเจ๋ออ๋องร่วงตกกระแทกพื้นเสียงดัง ใบหน้าซีดเผือด

เสียงของเขาสั่นเครือ "กู้ชูหน่วน เจ้าหลอกข้า"

ร่างของกู้ชูหน่วนโงนเงนจนแทบตกเก้าอี้ ความง่วงงุนหายสิ้นเพราะความตกใจ นางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ "เจ้าป่วยก็รีบไปหาหมอ จะมาร้องโวยวายอยู่ที่นี่ให้ได้อะไร? เสียงดังจนข้านอนไม่ได้แล้ว"

เจ๋ออ๋องโมโหกลอกตามองบน พยายามพยุงตัวกับโต๊ะ ไม่ให้ตัวเองล้มลง

เสียงดังจนนอนไม่ได้อย่างนั้นหรือ?

นางนอนหลับแต่ยังสามารถแต่งกลอนที่ไพเราะปานนี้ หมายจะให้เขาทำใจยอมรับไม่ได้แล้วโมโหจนอกแตกตายสินะ?

"ศิลปะทั้งสี่แขนง ไม่ว่าจะโคลงกลอนหรือสิ่งใดเจ้าก็ช่ำชองอยู่แล้วใช่หรือไม่? ในเมื่อเจ้าฝีมือดีขนาดนี้ เหตุถึงต้องแสร้งทำเป็นคนไม่เอาไหนด้วย?"

กู้ชูหน่วนลูบคาง เอ่ยประโยคที่ทำให้คนล้มหน้าคว่ำจนแว่นแตก

"อ๋อ... จู่ๆ หัวสมองมันก็แล่นฉิวขึ้นมา หลังจากเบิกเนตร ข้าก็ลืมไปหมดทุกสิ่ง"

เหลวไหล

ฟังนางเพ้อเจ้อสิ

นางต้องจงใจแกล้งโง่ให้พวกเขาตายใจแน่นอน

เซียวอวี่เชียนเอ่ยพึมพำกับตัวเอง "มิน่าละยัยขี้เหร่ถึงได้เที่ยวเดิมพันกับคนไปทั่ว ที่แท้นางจงใจแสร้งว่าตัวเองไม่เอาไหน เพื่อจะได้ชนะเดิมพันเยอะขึ้น"

เซียวอวี่เชียนไม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 88

    ต่างฝ่ายต่างพูด ทั้งงานพากันชื่นชมกู้ชูหน่วน ฮ่องเต้แคว้นเย่ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่พอใจ รีบสั่งให้คนไปดูกลอนของยอดฝีมือคนอื่นบ่าวแสดงผลงานกลอนของฉางเจินและฉางผิง พวกเขาทั้งสองคน คนหนึ่งแต่งกลอนได้แปดบท อีกคนหนึ่งแต่งกลอนได้เก้าบท แม้ว่ากลอนจะไม่เลว แต่หากเทียบกับกู้ชูหน่วนแล้วยังคงห่างชั้นเจ๋ออ๋องนั่นแย่ยิ่งว่า นอกจากจะแต่งกลอนได้เพียงห้าบทแล้ว กลอนของเขานั้นไม่ไพเราะเลยสักนิด ลายมือก็ยิ่งไปกันใหญ่ อักษรหวัดไร้ระเบียบ ประหนึ่งว่าเขาแต่งกลอนพวกนี้ด้วยความร้อนรนสุดขีดกู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ "เจ๋ออ๋อง ฝีมือเช่นเจ้า ยังกล้าเอาจวนเจ๋ออ๋องกับเรือนอีกหกหลังมาเดิมพันกับข้าอีกหรือ เหอะๆๆ หน้าใหญ่เสียจริง เขาเตือนแล้วก็ไม่ฟัง คงต้องยอมเจ้าจริงๆ"เจ๋ออ๋องแน่นหน้าอก เลือดในลำคอตีกลับขึ้นมา จนเขาเกือบกลั้นเอาไว้ไม่อยู่นี่คือฝีมือของเขาเสียที่ไหนเพราะเขาถูกผึ้งต่อยจนทั้งตัวมีแต่แผล ทั้งเจ็บทั้งคันมากจริงๆอีกอย่าง...กู้ชูหน่วนทำเขาตกใจจนสติเตลิดไปหมดทว่าคำพูดเหล่านั้น เขาจะพูดออกไปได้อย่างไร"ที่หนึ่งไม่ได้มีแค่เจ้าเพียงคนเดียว เจ้ายังลำพองใจอยู่อีก""แม้ข้าจะไม่ได้ที่หนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่เจ้าแ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 89

    ผลการแข่งขันแต่งกลอนและเขียนพู่กันปรากฏว่ากู้ชูหน่วนและเยี่ยเฟิงคนหนึ่งเหนือกว่าเรื่องหนึ่ง เสมอกันในคราวนี้กู้ชูหน่วนแต่งกลอนชนะเยี่ยเฟิงและจำนวนกลอนมากกว่า กู้ชูหน่วนจึงเป็นผู้ชนะไปในการแข่งขันทั้งห้ารอบ กู้ชูหน่วนชนะเดี่ยวไปแล้วสองสนาม และชนะร่วมกับเยี่ยเฟิงอีกสองสนาม ยามนี้คงไม่มีใครกล้าท้าทายนางแล้วเสียงถกเถียงดังเซ็งแซ่ไปทั้งงาน"เดาไปเดามา ใครจะไปเดาถูกว่ากู้ชูหน่วนจะชนะ เสียดายที่ข้าเอาเรือนไปลงเดิมพันข้างเจ๋ออ๋องไปเสียหมด เกรงว่ายามนี้คงต้องสินเนื้อประดาตัว""ข้าเองก็พอกัน ข้าลงเดิมพันข้างเจ๋ออ๋องและกู้ชูอวิ๋น แต่กู้ชูอวิ๋นไม่มีสิทธิแม้แต่จะแข่งรอบคัดเลือก ส่วนเจ๋ออ๋อง...เจ๋ออ๋องก็ถูกจ้องเล่นงาน เหตุใดข้าถึงได้ซวยเช่นนี้ หากลงเดิมพันข้างเยี่ยเฟิงก็คงไม่อนาถปานนี้""จบเห่แล้ว ข้าลงเดิมพันข้างเจ๋ออ๋องหมดหน้าตัก ข้าคิดว่าเจ๋ออ๋องสติปัญญาหลักแหลม อย่างน้อยก็ต้องชนะสักรอบ แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะได้ที่โหล่""ไม่...ไม่มีใครเดิมพันข้างกู้ชูหน่วนเลยหรือ?""เหมือนจะมี อาจารย์ซ่างกวานเดิมพันข้างกู้ชูหน่วนหนึ่งพันตำลึง บอกว่าเป็นกำลังใจให้กับศิษย์""เจ๋ออ๋องกับกู้ชูอวิ๋นก็เป็น

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 90

    เจ๋ออ๋องตวาดลั่น "ไม่จำเป็น" ต่อให้เขาต้องเร่ร่อนริมถนน ก็ไม่ต้องการห้องหับที่เจียดจากนางหรอก"ท่านลุง มอบโฉนดที่ดินให้แก่นาง""เอ่อ... ท่านอ๋อง... ให้จริงหรือ?"ท่านลุงหวังเสียงสั่น นั่นเป็นบ้านหลังเดียวของพวกเขา หากต้องมอบให้นางอีกคนสิ้นเนื้อประดาตัวแล้วจริงๆ"ให้ไป" เจ๋ออ๋องเอ่ยเสียงขุ่น ไม่สนใจว่าฮ่องเต้แคว้นเย่และเหล่าทูตยังอยู่ เดินจ้ำออกไปจากงานประลองศิลปะ หลงเหลือไว้เพียงแผ่นหลังอันเปล่าเปลี่ยวทุกคนมองเจ๋ออ๋องอย่างเห็นใจเจ๋ออ๋องชาติกำเนิดสูงส่ง มีทั้งฝีมือและความสามารถ หน้าตาหล่อเหลา คือองค์ชายขี่ม้าขาวของหญิงสาวแคว้นเย่ทว่างานประลองศิลปะครั้งนี่ นอกจากเจ๋ออ๋องจะพ่ายแพ้จนหมดตัวแล้ว ชื่อเสียงยังบ่นปี้อีกต่างหาก เรียกได้ว่าตกจกสวรรค์ตรงดิ่งสู่นรกมิปานฮ่องเต้แคว้นเย่หมดอารมณ์ จนถึงตอนนี้เขารู้ซึ้งแล้วว่าถ่มน้ำลายรดฟ้าเป็นอย่างไรเสี่ยวหลี่จื่อเอ่ยสุมไฟ "ฝ่าบาท ใครต่างก็รู้ดีว่า คุณหนูสามจวนอัครเสนาบดีไม่รู้หนังสือ แต่เหตุใดจู่ๆ ถึงได้เก่งกาจเพียงนี้? ข้าทาสว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล""เอ่อ... หมายความว่าอย่างไร?" ความหวังอันมืดมนฮ่องเต้แคว้นเย่พลันสว่างรำไรขึ้นมา"กล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 91

    "คุณหนูกู้กล้าลองหัวข้อดอกเหมยอีกสักสามบทไหม?""ฟังให้ดีมิต้องกลัว เหมยขาวบานบนยอดกิ่งหยง ขึ้นสะพานข้ามห้วยกลับบ้าน มิรู้ดอกไม้บานก่อนหน้า หรือว่าฝ่าลมหนาวรอดชีวิต""ดอกเหมยแลหิมะแข่งรับวสันต์ กวีลังเลจรดหมึก นึกตำหนิฝ่ายใด ดอกเหมยแพ้แก่หิมะขาว หยาดน้ำฟ้าพ่ายแก่สุคนธา""แว่วดอกเหมยบานรับลมวสันต์ ครั้นขุนเขารอบทิศนั้นยังโพลนขาว ต้องมีทรัพย์นับคณาเท่าใดหนอ จึงบันดาลให้เหมยบานตลอดไป"ทั้งงานเงียบสงัด ทุกคนอ้าปากค้างกู้ชูหน่วนกลายเป็นจุดสนใจของดวงตาทุกคู่ นางเองก็ยินดีให้ทุกคนได้มอง มุมปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างห้ามไม่อยู่แต่งกลอนเธอแต่งไม่เป็นหรอก แต่อย่างน้อยก็ท่องกลอนได้ไหมล่ะ?อย่าว่าแต่สามบทเลย สามสิบบท เธอก็เชื่อว่าเอาอยู่แม้ฮ่องเต้น้อยอยากจะเก็บฮุบสมบัติล้ำค่านั้นไว้มากเพียงใด ก็คงไม่มีหวังแล้ว"กงกง ไม่รู้ว่ากลอนสามบทนี้ของข้าเป็นอย่างไรบ้าง? พอใช้ได้หรือไม่?"แม้เสี่ยวหลี่จื่อจะอยากกลั่นแกล้งนางเพียงใด แต่ไม่พูดไม่ออกแล้วผู้ชมที่เพิ่งได้สติกลับมา พากันยกนิ้วให้ แต่ละคนเอ่ยชมไม่หยุดปาก"แม่เจ้า คุณหนูสามตระกูลกู้คือเซียนกวีกลับมาเกิด ไม่สิ นางเก่งยิ่งกว่าเซียนกวี คุณหน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 92

    เยี่ยเฟิงครุ่นคิด ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ยังไม่ได้คำตอบทุกคนอดสงสัยไม่ได้คนมากมายคิดหาวิธีแทบตายเพื่อเข้าเรียนในสำนักบัณฑิตหลวง ฝ่าบาทแหกให้บัณฑิตยากจนอย่างเขาเข้าเรียน เขายังลังเลอะไรอยู่?หรือเขาไม่รู้ว่าคนที่สำเร็จจากสำนักบัณฑิตหลวงนั้นเป็นขุนนางใหญ่โตในราชสำนักขณะที่ทุกคนคิดว่าเขาจะปฏิเสธ เยี่ยเฟิงถึงได้ตอบเสียงเรียบ "ยินดี"เฮ้ย...พูดแค่ว่ายินดีอย่างนั้นหรือไม่มีแม้แต่ความดีอกดีใจเลยหรือ?ผู้ชมถกเถียงกันอย่างอดไม่ได้ บัณฑิตยากจนก็คือบัณฑิตยากจนอยู่วันยังค่ำ เกรงว่าจะไม่รู้จักแม้กระทั่งสำนักบัณฑิตหลวงกู้ชูหน่วนสะกิดศอกเขาพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "จากนี้เราก็เป็นเพื่อนร่วมสำนักกันแล้ว เรียกข้าว่าศิษย์พี่สิ แล้วข้าจะปกป้องเจ้าเอง"เยี่ยเฟิงเหลือบมองนางอย่างเรียบเฉย ไม่เอ่ยคำใดแต่เดินเข้าไปรับรางวัลจากฮ่องเต้แคว้นเย่กู้ชูหน่วนลูบจมูกนี่เธอ...ถูกเมินอย่างนั้นหรือ?การประลองศิลปะปิดฉากลง กู้ชูหน่วนเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ณ ห้องเรียนหนึ่งในสำนักบัณฑิตหลวงกู้ชูหน่วนและเซียวอวี่เชียนมองกระดิ่งภินวิญญาณในกล่องไม้แล้วมองหน้ากันเจ้ากระดิ่งภินวิญญาณนี่สีดำ ไม่ต่างจากกระดิ่งทั่วไป

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 93

    "เจ้าช่างเป็นหญิงที่ความคิดแตกต่างจริงๆ เกี้ยวอี้เฉินเฟยเสร็จแล้วก็จะไปหาชายงามที่หอเริงรมย์อีก เจ้า..."เซียวอวี่เชียนยังพูดไม่ทันจบ กู้ชูหน่วนก็เพ่นหัวเขา เอ่ยเสียงขุ่น "เจ้าไม่พูด ข้าก็เกือบลืมไปแล้ว อี้เฉินเฟยบอกว่าจะเป็นเพื่อนเล่นข้าเจ็ดวันมิใช่หรือ? ไปไหนเสียแล้ว? ให้เขาไปที่หอเริงรมย์ด้วยกัน ดื่มกับพี่สาวสักจอก""เจ้ามันเกินเยียวยา"อี้เฉินเฟยเป็นคนเช่นไร มีหรือจะไปดื่มเหล้ารื่นเริงที่หอเริงรมย์กับนางพูดยังไม่ทันขาดคำ น้ำเสียงไพเราะประหนึ่งมาจากสรวงสวรรค์ก็ดังขึ้นจากด้านนอก "หากคุณหนูสามโปรดปรานเช่นนั้น อี้เฟยย่อมไปด้วยอยู่แล้ว"เซียวอวี่เชียนเปิดประตูห้อง ก็เห็นอี้เฉินเฟยยืนตระหง่าน เขาสวมชุดขาวปลิวไสว ราวกับเทวดาจากดวงจัทรามาสถิตใบหน้าของเขาประดับยิ้มบาง บวกกับดวงหน้าหล่อเหลาโดดเด่น แม้แต่ผู้ชายด้วยกันเองยังอดมองไม่ได้"อี้เฉินเฟย? เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร?""ข้าน้อยอี้แพ้เดิมพัน ในเมื่อลั่นวาจาแล้วว่าจะเที่ยวเล่นเป็นเพื่อนคุณหนูสามเจ็ดวัน จะคืนคำได้อย่างไรเล่า"เซียวอวี่เชียนกลอกตา"เจ้าเป็นถึงบัณฑิตคนสำคัญของสำนักขงจื่อ ไม่รู้หรือไรว่าชายหญิงนั้นต่างกัน? ออกมาหายัย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 94

    ทว่าคำพูดเหล่านั้น พวกนางจะกล้าเอ่ยต่อหน้าอัครเสนาบดีกู้ได้อย่างไร อี๋เหนียงห้าเอ่ยเสียงสะอื่น "นายท่าน ข้าเองเพิ่งมารู้เอาทีหลัง ที่แท้ท่านพ่อทิ้งเงินห้าแสนตำลึงไว้ให้พวกข้า นายท่านโปรดไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน ต่อให้ข้าใจกล้าปานใดก็ไม่มีทางโกหกนายท่านเป็นแน่ ตอนข้ารู้ว่าท่านพ่อทิ้งเงินไว้ให้ห้าแสนตำลึง ข้าก็คิดว่าจะมอบให้นายท่าน แต่ใครจะไปรู้ว่าคุณหนูสามรู้ได้อย่างไรว่าหลันเอ๋อร์มีเงินในมือ ถึงได้หลอกเอาไปหมด""ท่านพ่อ ลูกผิดไปแล้ว ยกโทษให้ลูกได้หรือไม่"ฮูหยินใหญ่ยิ้มเย็น "พูดเสียสวยหรูเชียว เพิ่งรู้ทีหลังอย่างนั้นหรือ? หากไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เกรงว่าวันหน้าก็คงไม่มีทางรู้? เหล่าจางตายไปแล้วตั้งกี่ปี เขากระเด้งขึ้นมาจากหลุมแล้วเอาเงินห้าแสนตำลึงให้เจ้าหรืออย่างไร"ได้ยินดังนั้นกู้ชูหลันจึงรีบอธิบาย "มิใช่เช่นนั้นเจ้าค่ะ คือว่า...""พัวะ..."อัครเสนาบดีกู้ตบหน้ากู้ชูหลันอย่างแรง ด้วยแรงมือนั้นทำเอากู้ชูหลันฟันหลุดไปหนึ่งซี่ต่อจากฝ่ามือของอัครเสนาบดีกู้ ก็มีเสียงผรุสวาทของเขาต่อ"พอได้แล้ว อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าหลายปีมานี้พวกเจ้าสองแม่ลูกทำอะไรลงไปบ้าง เรื่องบางเรื่องข้าเลือกจะหลั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 95

    "ฮะ? หรือว่าเขาคิดจะข้าเมียกับลูกสาวของตัวเอง?""แต่ก่อนที่อี๋เหนียงห้าเป็นคนโปรด ก็เพราะนางหน้าตาเหมือนคนรักเก่าของอัครเสนาบดีกู้ที่ตายจากไปแล้ว เพราะอย่างนั้นอัครเสนาบดีกู้ถึงได้ยอมนาง แต่ต่อให้หน้าตาเหมือนเพียงใดก็มิใช่คนเดียวกันอยู่ดี เมื่ออัครเสนาบดีกู้ตาสว่าง อี๋เหนียงห้าก็ไม่ได้รับความเอ็นดูอีกต่อไป ไร้ซึ่งประโยชน์ เป็นไปได้ว่ายามนี้อัครเสนาบดีกู้หายหน้ามืดตามัวแล้ว"อัครเสนาบดีกู้กลืนน้ำลาย "เพราะอย่างนั้น...อัครเสนาบดีกู้เลยติดจะฆ่าพวกนาง?""ข้าคิดว่าอัครเสนาบดีกู้คงไม่ฆ่าพวกนาง หากฆ่านางแล้ว เขาจะยิ่งถูกตราหน้าว่าฆ่าผู้หญิง"เซียวอวี่เชียนกลอกตาก่อนจะบ่นพึมพำ "พูดพล่ามตั้งนาน เหมือนกับไม่ได้พูดไม่มีผิด""ถึงจะไม่ฆ่าพวกนาง แต่...บางทีอาจจะขังนางไว้ในที่กันดาร หรือแม้กระทั่งขังไว้ตลอดชีวิต""พูดเหมือนเจ้าเป็นอัครเสนาบดีกู้อย่างไรอย่างนั้น"อี้เฉินเฟยยิ้มแต่ไม่พูดคำใดกู้ชูหน่วนเหลือมอวอี้เฉินเฟยข้ากายมีชายหนุ่มที่ทั้งฉลาดทั้งหล่อเหลา ก็เหมือนจะ...ไม่แย่เท่าไร"ใครอยู่ข้างบนน่ะ?"ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนตะโกน บ่าวของจวนอัครเสนาบดีจึงล้อมพวกนางไว้เซียวอวี่เชียนสีหน้าเปล

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 262

    เยี่ยเฟิงจัดใหม่อีกรอบ เพื่อให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น มุมปากยกขึ้นเบาๆ "ข้าก็คิดว่างามเช่นกัน""ที่จริงเจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าผู้นี้นั้นเลี้ยงง่ายนัก ผัดกับข้าวอะไรก็ได้มาอย่างสองอย่างก็พอแล้ว เจ้า..."กู้ชูหน่วนยังไม่ทันพูดจบ เยี่ยเฟิงเหลือบมองดูฟ้า ก่อนจะปิดฝาตระกร้าสำรับ ริมปีากแดงระเรื่องขยับเบาๆ "พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จะไม่ทันกาลแล้ว รบกวนเจ้าหลีกทางหน่อย""ห้ะ..."กู้ชูหน่วนตะลึงงันกับข้าวพวกนี้ไม่ได้ให้นางหรอกหรือหรือว่าเขิน จึงจะส่งไปให้ที่ห้องนางอย่างนั้นหรือท่ามกลางความสงสัย เยี่ยเฟิงกลับมาอีกรอบ ก่อนจะปลดผ้าคลุมบนใบหน้าของตนเอง แล้วเอ่ยถาม "แม่นางกู้ สีหน้าข้าดูแย่หรือไม่""ไม่...ไม่หรอก" ก็แค่ตาบวมไปหน่อยก็เท่านั้น"ขอบใจ"เยี่ยเฟิงกล่าวขอบคุณ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากโรงเจไป เหลือเพียงกู้ชูหน่วนและฝูกวงที่กำลังมองหน้ากันตาปริบๆนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือเยี่ยเฟิงไม่เห็นว่านายหญิงอยู่ที่นี่หรอกหรือกู้ชูหน่วนกระแอมสองสามที "เยี่ยเฟิงหน้าบาง พวกเราต้องเข้าใจ ไป กลับห้องไปกินกับข้าวเจที่เยี่ยเฟิงทำกันเถอะ""ขอรับ"ทั้งสองคนเดินตามกันออกไปจากโรงเจ แต่พวกเข

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 261

    "ไม่ใช่ปัญหา จากที่นี่ไปเสี่ยวเหอชุน ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็ไม่พอ ไม่สู้อยู่ที่นี่ต่ออีกสักวันสองวัน"เอ๊ะ...ไม่ใช่ว่าเยี่ยเฟิงรีบอยากจะกลับไปที่สุดหรอกหรือเหตุใดถึงจะไม่กลับอีกแล้วล่ะต้องมีลับลมคมในเป็นแน่อีกทั้งต้องเป็นเรื่องใหญ่มากด้วย"เจ้า...คงจะไม่ได้คิดสั้นหรอกนะ..." กู้ชูหน่วนหยั่งเชิงเยี่ยเฟิงชะงัก จากนั้นเมื่อรู้ถึงความเป็นห่วงของกู้ชูหน่วน เขาก็เผยยิ้มอ่อนโยนที่เห็นได้ไม่บ่อยนักออกมา"วางใจเถอะ ข้าไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น อีกอย่าง...ข้ายังมีคนในครอบครัวให้ต้องดูเล" นอกจากท่านยาย ยังมีท่านพ่อท่านแม่ที่ล้วนแต่ต้องการการดูแลจากเขาทั้งสิ้นแม้เขาจะไม่สามารถเปิดเผยตัวคนกับท่านพ่อท่านแม่ได้ แต่เขาจะคอยอธิษฐานให้พวกเขาลับหลังอยู่เงียบๆกู้ชูหน่วนโล่งใจ "รีบบอกแต่แรกสิ เจ้าจะซื้อกับข้าวอะไรบ้าง ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่""ไม่ต้อง ข้าไปคนเดียวก็พอ อย่างไรก็ชินแล้ว""ได้ มีสิ่งใดต้องการให้ช่วยก็บอกได้เลย""อืม"แผ่นหลังผอมบางของเยี่ยเฟิงหายไปจากในวัด กู้ชูหน่วนลูบปลายคางพลางพึมพำกับตัวเอง "เสี่ยวฝูกวง เจ้ารู้สึกบ้างไหมว่าเยี่ยเฟิงมีบางอย่างไม่ปกติ""มีด้วยหรือ ข้าน้อย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 260

    กู้ชูหน่วนถือหญ้าตี้อวี้ไว้ในมือ แต่กลับไม่มีอารมณ์ที่จะฟื้นฟูใบหน้าเลยแม้แต่น้อย จึงโยนหญ้าตี้อวี้กลับเข้าไปในแหวนปริภูมิ แล้วไปที่ศาลาในวัดเพื่อปล่อยใจให้ว่างเปล่าเพียงลำพังฝูกวงไม่รู้ว่าปรากฏตัวข้างกายนางเมื่อใดและปลอบโยนว่า "นายหญิง คุณชายเยี่ยเฟิงจิตใจดี สวรรค์จะไม่ทอดทิ้งเขาแน่นอน"กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะข้ากำหนดชะตาของข้าเอง ไม่ใช่สวรรค์นางไม่เคยเชื่อสวรรค์หากสวรรค์มีตา ก็คงส่งคนที่รังแกเขาลงนรกไปนานแล้ว จะลอยหน้าลอยตาเช่นนี้ได้อย่างไร"ฝูกวง ช่วยข้าทำอะไรสักหน่อยได้หรือไม่""นายหญิงเชิญสั่ง ข้าจะทำทุกอย่าง""ช่วยข้าสืบประวัติของเยี่ยเฟิง ข้าอยากรู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาคือใคร" บางทีการพบพ่อแม่ที่แท้จริงอาจช่วยบรรเทาใจที่ปวดร้าวลงได้บ้าง"ขอรับ ข้าน้อยจะสืบหาประวัติของคุณชายเยี่ยให้ได้ และจะรีบมารายงานข่าวดีให้นายหญิงทราบ""ได้"เวลาผ่านไปหลายถ้วยน้ำชา ประตูห้องของเยี่ยเฟิงก็เปิดออกกู้ชูหน่วนส่งสายตาให้ฝูกวง เป็นสัญญาณให้ตามนางไปโดยเร็ว เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้เยี่ยเฟิงบังเอิญเจอพวกเขา ทำให้ศักดิ์ศรีของเขาถูกทำลายลงไปอีก เพราะตาของเขาบวมแดงมาก พวกเขาพยายามจะทำเป็นไม่ส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 259

    เยี่ยเฟิงในใจมีความรู้สึกบางอย่างที่ร้องเรียกให้เขาไปปรากฏตัวแม้เขาจะกลัว ก็อยากเปิดเผยตัวตนแต่คำพูดของซิ่งเอ๋อร์ทำให้ขาที่ยกขึ้นมาแล้วก้าวออกไปไม่ได้อีกต่อไปองค์ชาย......องค์ชายแห่งแคว้นฉู่?แล้วนางก็คือ......ฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่?ฮองเฮาฉู่เอ็ดว่า "ระวังจะมีคนได้ยิน""เหนียงเหนียงทรงระแวงมากเกินไป ที่นี่ไม่มีใครหรอก พวกเรามาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋นทุกปีก็ไม่เคยเห็นคนร้ายเลยสักคน ที่นี่ดูแลดีมากเพคะ""ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรพูดจาไร้สาระ""เพคะๆ ๆ บ่าวพูดผิดไป แต่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งพระสนมนับสามพันคนไว้ประดับบารมี แต่ก็ไม่เคยทรงโปรดปรานพระสนมองค์ใดนอกจากพระองค์เลย พระองค์กับฮ่องเต้ทรงมีองค์ชายเพียงองค์เดียว พระองค์มีสถานะสูงส่งมาก สวรรค์จะไม่คุ้มครองพระองค์แล้วจะคุ้มครองใครเล่าเพคะ""ข้าเพียงเขาปลอดภัยและมีสุขภาพดีก็พอแล้ว ส่วนเขาจะเป็นองค์ชายที่สูงส่งที่สุดในแคว้นฉู่หรือไม่ ไม่สำคัญแล้ว" ฮองเฮาฉู่ปักธูปลงกระถาง แล้วถอนหายใจด้วยความโศกเศร้าเยี่ยเฟิงพิงประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำตาไหลอาบแก้มใบหน้าของเขาซีดเผือกทันทีองค์ชาย......สูงส่งมาก......แต่เขา......เขาก็แค่ของเล่นของนาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 258

    ขณะที่เยี่ยเฟิงเดินมาถึงประตูวิหารใหญ่ ซิ่งเอ๋อร์และฮองเฮาฉู่ได้พูดคุยกัน ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ม่านตาหดเล็กลง ราวกับว่าเท้าของเขามีน้ำหนักเป็นพันชั่ง เขาจึงก้าวต่อไปไม่ได้"ฮูหยิน ท่านชายน้อยหายตัวไปนานหลายปีแล้ว แม้ว่ายามนี้เขาจะยืนอยู่ตรงหน้าท่าน ท่านก็อาจจะจำเขาไม่ได้ จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?""ยามนั้นที่ข้าคลอดบุตรยากและสลบไป ข้าเห็นดอกเหมยที่บริเวณไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา ดอกเหมยที่กำลังเบ่งบาน ข้ายังคิดว่าทำไมเด็กชายถึงมีปานรูปดอกเหมยที่ไหล่ได้"ปาน......ดอกเหมย?เยี่ยเฟิงหายใจเร็วขึ้นเขาใช้ความพยายามอย่างมากจึงสามารถยืนอยู่หลังประตูได้ร่างกายเย็นเฉียบแนบชิดประตู ราวกับว่าหากไม่แนบชิดประตู เขาก็จะยืนไม่ไหวไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา......ก็มีปานเป็นรูปดอกเหมยเช่นกัน และยังเป็นดอกที่กำลังเบ่งบาน......แม่เฒ่าบอกว่า ตั้งแต่เขาเกิดก็......มี......"แค่ปานรูปดอกท้อ จะสามารถระบุตัวท่านชายน้อยได้อย่างไร? แล้วหากมีคนปลอมตัวล่ะเจ้าคะ?""เป็นไปไม่ได้ ดอกเหมยดอกนั้นแตกต่างจากดอกเหมยอื่นๆ กลีบดอกน้อยกว่าดอกเหมยทั่วไปหนึ่งกลีบ นอกจากข้าและแม่นมแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องนี้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 257

    เมื่อได้ยินคำพูดของสาวใช้ เยี่ยเฟิงหันมองเล็กน้อยฮูหยินผู้นั้นกับลูกชายแท้ๆ ถูกพรากจากกันมานานถึงสิบแปดปี และเขาก็พลัดพรากจากพ่อแม่แท้ๆ มาสิบแปดปี นางอาจเป็นแม่ของเขาใช่หรือไม่?เมื่อมองดูฮูหยินอีกครั้ง ท่าทางสง่างาม พูดจาไพเราะ แม้จะอายุมากแล้ว แต่ใบหน้าก็ดูแลอย่างดี ไม่เหมือนคนยากจนเลยฮูหยินสูงศักดิ์เช่นนี้ จะเป็นแม่แท้ๆ ของเขาได้อย่างไรกันเยี่ยเฟิงหัวเราะเสียงเบาเขาคงคิดถึงพ่อแม่จนเพี้ยนไปแล้วฮองเฮาฉู่ตาแดงก่ำ ความเศร้าโศกแวบผ่านไป "ยามนั้น ลูกชายคนเล็กของข้าหลินเอ๋อร์ถูกขโมยไปที่นอกเมืองชิงหง ราชครูบอกว่า หากอยากจะตามลูกชายคนเล็กกลับมา ก็ต้องมาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋น ราชครูชำชองวิชาห้าธาตุแปดทิศ สามารถมองเห็นอดีตและอนาคตได้ เขาไม่โกหกข้าแน่นอน""แต่ท่านมาไหว้พระที่นี่ทุกปี และเมื่อก่อนก็มาสวดมนต์ที่วัดไป๋อวิ๋นทุกวัน ไม่ใช่ว่ายังหาเด็กชายคนนั้นไม่เจอหรอกหรือ"พอนึกถึงเรื่องในอดีต ซิ่งเอ๋อร์ก็ร้องไห้เมื่อเด็กน้อยถูกขโมยไป ฮองเฮาก็คิดถึงทุกวัน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ในช่วงสิบปีแรก อยู่ที่วัดไป๋อวิ๋นสวดมนต์ทุกวัน เพื่อเพิ่มบุญให้กับท่านชายน้อย หวังว่าจะได้กลับมาเป็นครอบครัวก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 256

    กู้ชูหน่วนพยักหน้าเบาๆ “เช่นนั้นไปพักที่วัดไป๋อวิ๋นก่อนก็แล้วกัน”กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้จะปลอบเยี่ยเฟิงอย่างไรเรื่องแบบนี้ต้องให้เขาคิดเองนางก็ไม่ได้ตั้งใจจะเห็นฉากนั้น เป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆเยี่ยเฟิงแม้จะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่นางก็รู้สึกได้เขามองนางเป็นเพื่อน และเพราะว่ามองนางเป็นเพื่อน จึงไม่อยากให้นางเห็นฉากที่น่าอับอายที่สุดของเขา“ร่างกายยังไหวหรือไม่? ห่กไม่ไหว เราพักที่นี่ก่อนก็ได้”“ไหว ไปกันเถอะ ประเดี๋ยวเหล่าทหารจะไล่ตามมา”เยี่ยเฟิงเดินนำไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่ปรากฏสีหน้าใดๆฝูกวงอธิบาย “วันนั้นในป่าไผ่ที่พลัดหลงกับนายหญิง พวกข้าเจอกับนายท่านของเผ่าหมอหลายคน พวกข้ายืนหยัดต่อสู้ไม่ไหว เยี่ยเฟิงขาช้าก็เลยถูกจับไป ข้าน้อยหานายหญิงไม่เจอ จึงแอบแฝงตัวเข้าไปในเผ่าหมอเพื่อไปช่วยเยี่ยเฟิง แต่ไม่นึกว่าจะเจอนายหญิงในเผ่าหมอ เรื่องต่อจากนั้น นายหญิงก็รู้แล้ว”“อืม ไปกันเถอะ”วัดไป๋อวิ๋น ที่นี่เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของวัดชิงหง มีผู้มาทำกราบไหว้ไม่ขาดสาย ภายในวัดมีสามเณรน้อยเดินไปมาให้เห็นกู้ชูหน่วนประนมมือด้วยท่าทางนอบน้อม "ท่านเณรน้อย ได้ยินมาว่าวัดไป๋อวิ๋นศักดิ์สิทธิ์มาก พ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 255

    เมื่อพลังของค่ายกลลดลง กู้ชูหน่วนจึงพบทางลับเข้าไปได้แต่ทางลับนี้กลับไม่ใช่ทางลับที่เพิ่งแยกจากหัวหน้าเผ่าหมอมานางรู้สึกสงสัยค่ายกลนี้แปลกประหลาดอะไรเช่นนี้?เมื่อครู่ยังป้องกันได้อย่างแน่นหนา ไม่มีที่ให้โจมตี แต่ยามนี้กลับกลายเป็นค่ายกลที่พุพังไปได้?มีใครมาช่วยนางทลายค่ายกลไปครึ่งหนึ่งหรือไม่?มีใครในเผ่าหมอช่วยนางทลายค่ายกลหรือไม่?หรือว่าจะเป็นอาโม่?"นายหญิง เราพบทางลับเข้าไปแล้ว ทำไมยังไม่รีบออกไป หรือว่าจะต้องตามหาอะไรอีกหรือ" ฝูกวงถามด้วยความมึนงงไม่ไกลนัก หัวหน้าเผ่าหมอยกมุมปากด้วยรอยยิ้มที่หยิ่งยโส แล้วยกมือขาวขึ้นเบาๆ ดมกลิ่นดอกไม้ในมือด้วยท่าทางกระหาย และเปล่งเสียงออกมาจากมุมปาก"โง่นัก นางกำลังตามหาข้าอยู่แน่นอน หากหาข้าไม่เจอ นางจะหนีไปได้อย่างไร"กู้ชูหน่วนกวาดตามองไปรอบๆ ที่นี่เงียบสงบ ไม่มีเงาของใครเลย แต่ไกลออกไปมีแสงไฟลุกโชน ไม่รู้ว่ามีทหารจำนวนเท่าใดกำลังตามล่าพวกนางอยู่นางเหลือบมองทางลับ แล้วมองไปยังแสงไฟที่อยู่ไกลออกไป กัดฟันแน่น "ไป"อาโม่เดินเล่นในเขาดูดวิญญาณราวกับเดินเล่นในสวนของตัวเอง คงจะรอนางไม่ไหวแล้วน่าจะจากไปแล้วแล้วนางก็รู้ทางลับหลาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 254

    กู้ชูหน่วนเดินวนกลับมาอีกรอบนางเอามือลูบขมับที่ปวดตุบ แล้วเอ่ยออกมาเสียงเบาว่า "พวกเราติดอยู่ในค่ายกลแล้ว และเป้นค่ายกลที่ทรงพลังมากๆ ด้วย""นายหญิง ท่านมีวิธีทลายค่ายกลนี้หรือไม่"กู้ชูหน่วนส่ายศีรษะนางไม่เคยเห็นค่ายกลที่ซับซ้อนขนาดนี้มาก่อนในชีวิต หากจะให้ทลายคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงห้าปี"หากทางลับออกไปไม่ได้ ข้าขออาสาคุ้มกันให้พวกเจ้าออกทางประตูใหญ่""ข้าจำได้ว่ามีทางลับหลายทาง ไปทางนี้กันก่อนดีกว่า แล้วค่อยออกทางประตูใหญ่""ได้"หัวหน้าเผ่าหมอถูกตบหน้าเข้าอย่างจังเซวี่ยซาก้มศีรษะลงต่ำ แทบอยากหายตัวไปเลยเสียประเดี๋ยวนี้เขาคิดว่าหัวหน้าเผ่าหมอจะโกรธ แต่กลับได้ยินเสียงของหัวหน้าเผ่าหมอที่เรียบเฉยดังขึ้น"ถูกต้องแล้ว ไปทางนี้แหละ เมื่อครู่ข้ารอนางอยู่ที่ทางลับนั่นเอง"เซวี่ยซา "เอิ่ม......""เซวี่ยซา ไปดูกันดีกว่า""ขอรับ"เซวี่ยซาเดินตามหัวหน้าเผ่าหมอ และตามพวกกู้ชูหน่วนติดๆทว่าพวกกู้ชูหน่วนเดินวนไปวนมา ราวกับอยู่ในเขาวงกตขนาดใหญ่ นางทำเครื่องหมายไว้ตลอดทาง แต่ก็ยังวนกลับมาอยู่ดี หากไม่ใช่เพราะพวกเขาเปิดทางให้ คงปะทะกับยามเฝ้าเวรไปแล้วเขาเตือนด้วยความระมัดร

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status