Share

บทที่ 95

Penulis: เย่ชิงขวง
"ฮะ? หรือว่าเขาคิดจะข้าเมียกับลูกสาวของตัวเอง?"

"แต่ก่อนที่อี๋เหนียงห้าเป็นคนโปรด ก็เพราะนางหน้าตาเหมือนคนรักเก่าของอัครเสนาบดีกู้ที่ตายจากไปแล้ว เพราะอย่างนั้นอัครเสนาบดีกู้ถึงได้ยอมนาง แต่ต่อให้หน้าตาเหมือนเพียงใดก็มิใช่คนเดียวกันอยู่ดี เมื่ออัครเสนาบดีกู้ตาสว่าง อี๋เหนียงห้าก็ไม่ได้รับความเอ็นดูอีกต่อไป ไร้ซึ่งประโยชน์ เป็นไปได้ว่ายามนี้อัครเสนาบดีกู้หายหน้ามืดตามัวแล้ว"

อัครเสนาบดีกู้กลืนน้ำลาย "เพราะอย่างนั้น...อัครเสนาบดีกู้เลยติดจะฆ่าพวกนาง?"

"ข้าคิดว่าอัครเสนาบดีกู้คงไม่ฆ่าพวกนาง หากฆ่านางแล้ว เขาจะยิ่งถูกตราหน้าว่าฆ่าผู้หญิง"

เซียวอวี่เชียนกลอกตาก่อนจะบ่นพึมพำ "พูดพล่ามตั้งนาน เหมือนกับไม่ได้พูดไม่มีผิด"

"ถึงจะไม่ฆ่าพวกนาง แต่...บางทีอาจจะขังนางไว้ในที่กันดาร หรือแม้กระทั่งขังไว้ตลอดชีวิต"

"พูดเหมือนเจ้าเป็นอัครเสนาบดีกู้อย่างไรอย่างนั้น"

อี้เฉินเฟยยิ้มแต่ไม่พูดคำใด

กู้ชูหน่วนเหลือมอวอี้เฉินเฟย

ข้ากายมีชายหนุ่มที่ทั้งฉลาดทั้งหล่อเหลา ก็เหมือนจะ...ไม่แย่เท่าไร

"ใครอยู่ข้างบนน่ะ?"

ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนตะโกน บ่าวของจวนอัครเสนาบดีจึงล้อมพวกนางไว้

เซียวอวี่เชียนสีหน้าเปล
Bab Terkunci
Lanjutkan Membaca di GoodNovel
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 96

    "หากเจ้าพูดเช่นนั้น ข้าก็ไม่มีความเห็น" กู้ชูหน่วนผายมือ"สามหาว ข้าไม่เชื่อหรอกว่าข้าจะสั่งสอนเจ้าไม่ได้""อัครเสนาบดีกู้ ก่อนที่เจ้าสั่งสอนข้า เขาคิดให้ดีล่ะ หากเจ้าทำอะไรข้า จะเกิดผลตามมาอย่างไร" กู้ชูหน่วนยิ้ม แต่รอยยิ้มนั้นมีแต่คำกล่าวเตือนอี้เฉินเฟยและเซียวอวี่เชียนทะยานตัวลงมาจากขื่อบ้าน ประกบซ้ายขวาอยู่ด้านหลัง เหมือนดั่งองครักษ์ผู้ภักดีอัครเสนาบดีกู้เหลียวไปมองอี้เฉินเฟย มือที่โบกพัดชะงักลง ใบหน้าประเดี่ยวเขียวคล้ำประเดี๋ยวซีดเผือด เอาเป็นว่าไม่สบอารมณ์สักเท่าไร"เจ้ามีเงินมากมายขนาดนั้น ข้าว่าห้าแสนตำลึงนี้ก็ช่างมันเถิด""เจ้าพูดว่าช่างมันก็ช่างมันอย่างนั้นหรือ? สัญญาเขียนไว้ชัดเจน หากวันนี้พวกเจ้าไม่จ่ายเงินห้าแสนตำลึง เชื่อหรือไม่ว่าวันพรุ่งนี้ข้าจะประจานคนทั้งจวนอัครเสนาบดีให้คนทั้งเมืองรู้""กู้ชูหน่วน ฝีมือเจ้าใช่หรือไม่ เจ้าเป็นคนแพร่งพรายเรื่องที่ข้าเสียบริสุทธิ์ หมายให้เข้าเสียหน้ายับเยินใช่หรือไม่?"กู้ชูหลันใบหน้าเหยเก พุ่งตัวเข้าหากู้ชูหน่วนอย่างแค้นเคืองเซียวอวี่เชียนใช้ด้ามพันขวางเอาไว้ จนนางสะดุ้งถอยหลังไป "หมาบ้านี่ กัดคนไปเรื่อย จวนอัครเสนาบดีไม่มี

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 97

    ฝ่ามือนั้นแรงกว่าฝ่ามือของอัครเสนาบดีกู้เล็กน้อยกู้ชูหน่วนเองก็สงสัยกู้ชูหลันด่านาง แล้วอี้เฉินเฟยเกี่ยวอะไรด้วย เขาจะโมโหอะไรปานนั้น?เมื่อเงยหน้าหันไปมองอี้เฉินเฟย ก็เห็นใบหน้าสุขุมอ่อนโยนของอี้เฉินเฟยกำลังคล้ำเครียด น่าสะพรึ่งกลัวเหมือนปีศาจที่ตะกายขึ้นมาจากนรกอย่างไรอย่างนั้น เขาเอ่ยรอดไรฟัน "หากกล้าแช่งนางอีก ข้าจะเอาชีวิตเจ้า"น้ำเสียงของเขาเย็นชาเหมือนทุ่นน้ำแข็งหมื่นปี เย็นชาไร้อุณหภูมิ แม้แต่อากาศรอบกายก็พลันหนาวเหน็บไปด้วยหากไม่ได้เห็นกับตาของตัวเอง คงไม่มีใครเชื่อว่าเป็นคนเดียวกันทุกคนต่างตกตะลึงชายผู้นี้เป็นใครกัน เหตุใดรังสีที่แผ่ซ่านออกมาจากกายถึงได้รุนแรงปานนี้อี๋เหนียงห้าก็ตกตะลึงเช่นกัน ครั้นจะอ้าปากเอ่ย ก็ถูกอี้เฉินเฟยฟาดเข้าที่คาง เจ็บจนนางน้ำตาเล็ด ยังไม่ทันพูดออกมาแม้สักคำก็จำต้องยามให้คนลากตัวออกไปเวลาเพียงชั่วพริบตา รังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านรอบกายของอี้เฉินเฟยก็พลันหายไป แทนที่ด้วยท่าทีสง่างาม อบอุ่น นุ่มนวลดั่งหยกงามเซียวอวี่เชียนกลืนน้ำลาย ยกนิ้วให้ "นี่แหละคนจริง"อี้เฉินเฟยยิ้มเอียงอาย เอ่ยแก้เก้อ "พวกนางเสียงดังยิ่งนัก"ในใจของกู้ชูหน่วนรู้สึ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 98

    อัครเสนาบดีกู้เลือดขึ้นหน้า หากอี้เฉินเฟยและเซียวอวี่เชียนไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาไม่มีทางปล่อยกู้ชูหน่วนไปง่ายๆ แน่นอนกู้ชูหน่วนมองตั๋วเงินสองหีบใหญ่ตรงหน้า เอ่ยเสียงหงอย "เงินเยอะเงินไป ข้าไม่มีที่เก็บแล้ว เช่นนั้นพวกเจ้าสองคน แบกกลับไปกันคนละหีบก็แล้วกัน"ฮูหยินใหญ่แทบจะเป็นลมแพศยาอี๋เหนียงห้ากับกู้ชูหลันสองคนนั้นถูกส่งกลับไปที่บ้านเก่า นางเองก็ดีใจแต่ต้องยกเงินห้าแสนตำลึงให้กู้ชูหน่วน นางเองก็เสียดายและสิ่งที่ให้นางรับไม่ได้ยิ่งกว่าก็คือ เงินห้าแสนตำลึงนั่น นางกลับยกให้คนอื่นง่ายๆ แล้วเซียวอวี่เชียนยังเอ่ยเกี่ยงงอนอีก "ยัยขี้เหร่ เจ้าเลิกยัดเยียดให้ข้าเสียที ข้าเองก็ไม่มีที่เก็บแล้ว"อย่าว่าแต่ฮูหยินใหญ่เลย แม้แต่คนอื่นๆ ในจวนอัครเสนาบดีก็แทบลมจับมีคนไม่พอใจที่เงินเยอะด้วยหรือ?นี่มันจงใจประชดพวกเขาหรือเปล่า?หากไม่มีที่เก็บก็ไม่ต้องเอาไปสิ เอาเงินห้าแสนตำลึงคืนให้กับพวกเขาฮูหยินใหญ่กำลังจะอ้าปากเอ่ย ก็เห็นอี้เฉินเฟยล้วงแหวนวงหนึ่งออกมาจากอกเสื้อแล้วยื่นให้กู้ชูหน่วนกู้ชูหน่วนก้าวถอย "พี่ชาย เจ้าคงไม่ได้ขอข้าแต่งงานหรอกใช่ไหม""พูดอะไรเช่นนั้น นี่คือแหวนปริภูมิ ถึงจะ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 99

    ชายชุดดำสองคนได้ยินดังนั้น ก็ชักมีดชี้ไปทางกันละกันกู้ชูหน่วนส่ายหน้า"เฮ้อ สติปัญญาระดับนี้ ข้าละยอมจริงๆ ไปกันเถิด เราไปหออู๋โยวกันดีกว่า"เซียวอวี่เชียนมองกู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยที่เดินเคียงบ่าเคียงไหล่กันตรงหน้า แล้วเหลียวกลับมามองชายชุดดำสองคนที่กำลังฆ่ากันจะเป็นจะตาย เขาก็ได้แต่มีนงง"เช่นนี้ก็ได้หรือ?" มิน่าเล่ายัยขี้เหร่ถึงได้บอกว่าพวกเขาโง่นัก"เดี๋ยว พวกเจ้ารอข้าด้วยสิ"หออู๋โยวคือสถานเริงรมย์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงที่นี่นอกจากจะรวบรวมยอดสาวงามทั่วแคว้นเอาไว้แล้ว ยังมีชายงามแสนหล่อเหลามากมายฟ้าเพิ่งมืดภายในก็มีคนพลุกพล่าน ค้าคล่องเงินทองไหลมาไม่มีหยุด หน้าประตูหออู๋โยวมีหญิงสาวอ่อนวัยสวมชุดสีสันสดใสยืนอยู่มากมาย กำลังเชิญชวนเรียกลูกค้าเข้าร้านกู้ชูหน่วนและพวกสามคนเดินเข้ามา ก็ทำผู้คนแตกตื่นเหตุผลจะเป็นอะไรไปได้นอกเสียจากชายหนุ่มสองคนข้างกายนางนั้น หล่อเหลากินกันไม่ลงทั้งคู่ บวกกับนางที่สวมผ้าคลุมหน้า แต่แค่เยื้องย่างก็ส่งกลิ่นอายของหญิงสูงศักดิ์พวกเขาสามคน ต่อให้อยู่ท่ามกลางฝูงชนก็ย่อมโดดเด่นกว่าใครยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาต่างสวมใส่ผ้าไหมชั้นดี คนในหออู๋โยวต

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 100

    ภายในห้องส่วนตัวของหออู๋โยว กู้ชูหน่วนนั่งไขว่ห้าง กวาดตามองหญิงงามในสุดสีสันฉูดฉาดที่ยืนเรียงราย ส่ายหน้าอย่างไม่พอใจนักแม่เล้าโบกมือ หญิงงามอีกกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาแทนที่ นางย่นคิ้วยิ้มเอ่ย "คุณหนู พวกนางคือยอดหญิงงามแห่งหออู๋โยว หากคุณชายเซียวไม่ใช่แขกประจำของที่นี่ ข้าไม่มีทางเรียกพวกนางออกมาแน่นอน ท่านลองดูว่านางใดถูกชะตาบ้าง"แม่เล้าแต่งหน้าหนาเตอะ แววตาเจ้าเล่ห์นักหญิงสาวเหล่านี้ต่างเป็นสาวงามที่ผ่านการเลือกเฟ้นมาแล้ว ไม่ว่าชายใดเห็นแล้วก็ใจสั่นทั้งนั้นพวกนางเองก็มีกฎของตัวเอง ใช่ว่าจะรับแขกง่ายๆกู้ชูหน่วนเลิกคิ้วถาม "เจ้าว่า หญิงอย่างข้าจะชอบหญิงแบบใด?"แม่เล้าหันไปมองเซียวอวี่เชียนที่กำลังงุ่นง่าน แล้วหันไปมองอี้เฉินเฟยที่ยิ้มบาง นางชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะตีหัวตัวเอง "ไอ้หยา ข้าช่างโง่นัก ข้าจะเรียกชายงามมาให้ท่าน"แม้ใบหน้านางจะยิ้มแย้ม แต่ในใจนั้นกำลังคาดเดาว่ากู้ชูหน่วนนั้นเป็นใครหญิงนางหนึ่งกล้ามาเที่ยวผู้ชายที่หออู๋โยวอย่างเปิดเผย ใช่ว่าจะพบเจอได้บ่อยๆ แถมยังเป็นอายุน้อยอยู่เลยที่แปลกที่สุดก็คือ คุณชายเซียวลูกชายคนสุดท้องของแม่ทัพเฒ่าเซียว ชาติกำเนิดสูงศักดิ์ ค

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 101

    แต่เขาเหลืออดเกินทนแล้ว จึงตะคอกด้วยความเกรี้ยวกราด "ออกไป ไสหัวออกไปให้หมด"ทุกคนต่างก็มองไปที่เขา ไม่รู้ว่าเขาเกิดบ้าอะไรขึ้นมาแม้เล้าตั้งสติได้ก่อนผู้ใด รีบไกล่เกลี่ย "คุณชายเซียว มีสาวงามเพิ่งมาใหม่หลายคน ข้าให้พวกนางมาอยู่เป็นเพื่อนท่านดีไหม""ไม่จำเป็น เจ้าสั่งให้พวกชายเหล่านั้นไสหัวออกไปให้หมด ห้ามเข้าใกล้นาง"เซียวอวี่เชียนพูดพลางไล่ตะเพิดคนพวกนั้นกู้ชูหน่วนเบะริมฝีปาก "เสี่ยวเชียนเชียน เจ้าทำเช่นนี้จะทำให้หนุ่มรูปงามของข้าตกใจได้""ไปให้พ้น"เหล่าชายนุ่มรูปงามทั้งหลายมองไปทางกู้ชูหน่วน ทั้งยังมีบางคนถึงขั้นน้ำตาเอ่อนองกู้ชูหน่วนให้เงินพวกเขาอีกคนละหนึ่งหมื่นตำลึงด้วยความใจป้ำ แล้วปลอบโยน "เด็กดี ครั้งหน้าข้าจะมาหาพวกเจ้าอีก"คนละหมื่นตำลึงอีกแล้วชายรูปงามเหล่านั้นหน้าระรื่นราวกับดอกไม้ผลิบาน อยากจะเข้าไปกอดขาของกู้ชูหน่วนเอาไว้แน่นๆ ให้รู้แล้วรู้รอด ทว่าก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางและคุณชายเซียวไม่ธรรมดา จึงทำได้เพียงจากไปด้วยความอาลัยแม่นางทั้งหลายในหอต่างก็อิจฉาตาร้อนกันถ้วนหน้าที่ผ่านมา ผู้ที่ได้เงินล้วนแต่เป็นพวกนาง แต่ตอนนี้ พวกเขาเพียงแค่ปรนนิบัติง่าย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 102

    "ใช่อี้เฉินเฟยจริงๆ ข้าเคยเห็นภาพวาดของเขามาก่อน ข้ามั่นใจว่าคือเขา""เซียนกวีคือเทพบุตรของข้า ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจอตัวจริงของเขาในที่แห่งนี้""หญิงสาวข้างกายเขาคือผู้ใด ดูเหมือนชาติตระกูลจะไม่ธรรมดา""พวกเจ้าว่า ถ้าหากคุณหนูสามประชันกับเซียนกวี ใครจะชนะ ผลงานกลอนของคุณหนูสามกู้ในการประลองศิลปะ ยามนี้เป็นที่เลื่องลื่อไปทั่วทั้งใต้หล้า กลายเป็นผลงานอมตะไปแล้ว""เรื่องนี้ก็พูดยาก กลอนของเซียนกวีดี กลอนของคุณหนูสามก็ดีเช่นกัน"มือที่เห็นข้อต่อชัดเจนของกู้ชูหน่วนเคาะลงไปที่โต๊ะครั้งแล้วครั้งเล่า พลางเอียงคอพูดด้วยรอยยิ้ม "มีคนจำได้แล้ว ท่านจะยังดีดอยู่ไหม""นานๆ ทีคุณหนูสามจะมีอารมณ์สุนทรีย์เช่นนี้ ข้าจะขัดอารมณ์ท่านได้เช่นไร"พูดจบ อี้เฉินเฟยก็ลุกขึ้น ยืมฉินจากนักบรรเลงฉินผู้หนึ่ง แล้วอุ้มฉินดำขึ้นไปนั่งบนแท่นบรรเลงสิบนิ้วขาวเนียนวางลงบนฉิน อี้เฉินเฟยเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มเอาใจ ภายในดวงตาที่ใสสะอาดคู่นั้นสะท้อนภาพยิ้มอ้อยอิ่งและเจ้าเล่ห์ของกู้ชูหน่วนคนทั้งหออู๋โยวล้วนแต่ให้ความสนใจ พากันมองไปยังอี้เฉินเฟยที่นั่งอยู่บนแท่นบรรเลงกลับเห็นเพียงแค่อี้เฉินเฟยยกมือที่ขาวเนียนขึ้นมา แ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 103

    "คุณชายเยี่ย ถือว่าทำทาน ช่วยเหลือกันเถอะ แค่ดื่มไม่กี่แก้ว ไม่มีทางให้ท่านทำเรื่องเกินงามเป็นแน่ ท่านดูสิ ข้าเองก็ลำบาก ในหอมีค่าใช้จ่ายมากมาย ไม่ว่าเรื่องใดก็ต้องใช้เงิน ทั้งยังมีสาวน้อยหนุ่มน้อยล้มป่วยจำนวนไม่น้อย ล้วนแต่ไม่สามารถรับแขกได้ นานๆ ทีข้าจะได้เจอลูกค้ารายใหญ่เช่นนี้""ขอโทษด้วย ก่อนหน้าข้าเคยบอกไปแล้ว ว่าไม่รับเป็นเพื่อนดื่ม ไม่รับแขก วันนี้ถึงเวลาแล้ว ข้าต้องกลับก่อน""คุณชายเยี่ย หากท่านไป แล้วข้าจะอธิบายกับแขกเช่นไร ถือว่าข้าขอร้องท่านเถอะ ท่านคิดดูสิ ตอนนั้นที่ยายท่านป่วยหนัก ท่านอับจนหนทางไร้ที่พึ่ง ก็เป็นข้าที่ใจดีเชิญหมอมารักษาอาการป่วยให้ยายของท่านไม่ใช่หรือ เห็นแก่ที่ข้าเคยช่วยท่านเอาไว้ครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ช่วยข้าหน่อยได้หรือไม่"กู้ชูหน่วนหันไปถามเด็กของร้านที่อยู่ข้างๆ"พวกเจ้าสนิทกับเยี่ยเฟิงไหม""เรียนแม่หญิง เยี่ยเฟิงเป็นคนเงียบๆ ยามปกติทั่วไปเขาไม่ค่อยพูด และไม่สุงสิงกับผู้ใด พี่น้องในหอล้วนแต่ไม่สนิทกับเขาทั้งสิ้น รู้เพียงแค่บ้านเขายากจนข้นแค้น อาศัยอยู่กับยายตาบอดผู้หนึ่ง""ตอนนั้น ยายของเขาป่วยหนักอาการร่อแร่ ก็เป็นแม่เล้าที่เมตตาช่วยเชิญท่านหมอมา

Bab terbaru

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 262

    เยี่ยเฟิงจัดใหม่อีกรอบ เพื่อให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น มุมปากยกขึ้นเบาๆ "ข้าก็คิดว่างามเช่นกัน""ที่จริงเจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าผู้นี้นั้นเลี้ยงง่ายนัก ผัดกับข้าวอะไรก็ได้มาอย่างสองอย่างก็พอแล้ว เจ้า..."กู้ชูหน่วนยังไม่ทันพูดจบ เยี่ยเฟิงเหลือบมองดูฟ้า ก่อนจะปิดฝาตระกร้าสำรับ ริมปีากแดงระเรื่องขยับเบาๆ "พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จะไม่ทันกาลแล้ว รบกวนเจ้าหลีกทางหน่อย""ห้ะ..."กู้ชูหน่วนตะลึงงันกับข้าวพวกนี้ไม่ได้ให้นางหรอกหรือหรือว่าเขิน จึงจะส่งไปให้ที่ห้องนางอย่างนั้นหรือท่ามกลางความสงสัย เยี่ยเฟิงกลับมาอีกรอบ ก่อนจะปลดผ้าคลุมบนใบหน้าของตนเอง แล้วเอ่ยถาม "แม่นางกู้ สีหน้าข้าดูแย่หรือไม่""ไม่...ไม่หรอก" ก็แค่ตาบวมไปหน่อยก็เท่านั้น"ขอบใจ"เยี่ยเฟิงกล่าวขอบคุณ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากโรงเจไป เหลือเพียงกู้ชูหน่วนและฝูกวงที่กำลังมองหน้ากันตาปริบๆนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือเยี่ยเฟิงไม่เห็นว่านายหญิงอยู่ที่นี่หรอกหรือกู้ชูหน่วนกระแอมสองสามที "เยี่ยเฟิงหน้าบาง พวกเราต้องเข้าใจ ไป กลับห้องไปกินกับข้าวเจที่เยี่ยเฟิงทำกันเถอะ""ขอรับ"ทั้งสองคนเดินตามกันออกไปจากโรงเจ แต่พวกเข

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 261

    "ไม่ใช่ปัญหา จากที่นี่ไปเสี่ยวเหอชุน ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็ไม่พอ ไม่สู้อยู่ที่นี่ต่ออีกสักวันสองวัน"เอ๊ะ...ไม่ใช่ว่าเยี่ยเฟิงรีบอยากจะกลับไปที่สุดหรอกหรือเหตุใดถึงจะไม่กลับอีกแล้วล่ะต้องมีลับลมคมในเป็นแน่อีกทั้งต้องเป็นเรื่องใหญ่มากด้วย"เจ้า...คงจะไม่ได้คิดสั้นหรอกนะ..." กู้ชูหน่วนหยั่งเชิงเยี่ยเฟิงชะงัก จากนั้นเมื่อรู้ถึงความเป็นห่วงของกู้ชูหน่วน เขาก็เผยยิ้มอ่อนโยนที่เห็นได้ไม่บ่อยนักออกมา"วางใจเถอะ ข้าไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น อีกอย่าง...ข้ายังมีคนในครอบครัวให้ต้องดูเล" นอกจากท่านยาย ยังมีท่านพ่อท่านแม่ที่ล้วนแต่ต้องการการดูแลจากเขาทั้งสิ้นแม้เขาจะไม่สามารถเปิดเผยตัวคนกับท่านพ่อท่านแม่ได้ แต่เขาจะคอยอธิษฐานให้พวกเขาลับหลังอยู่เงียบๆกู้ชูหน่วนโล่งใจ "รีบบอกแต่แรกสิ เจ้าจะซื้อกับข้าวอะไรบ้าง ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่""ไม่ต้อง ข้าไปคนเดียวก็พอ อย่างไรก็ชินแล้ว""ได้ มีสิ่งใดต้องการให้ช่วยก็บอกได้เลย""อืม"แผ่นหลังผอมบางของเยี่ยเฟิงหายไปจากในวัด กู้ชูหน่วนลูบปลายคางพลางพึมพำกับตัวเอง "เสี่ยวฝูกวง เจ้ารู้สึกบ้างไหมว่าเยี่ยเฟิงมีบางอย่างไม่ปกติ""มีด้วยหรือ ข้าน้อย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 260

    กู้ชูหน่วนถือหญ้าตี้อวี้ไว้ในมือ แต่กลับไม่มีอารมณ์ที่จะฟื้นฟูใบหน้าเลยแม้แต่น้อย จึงโยนหญ้าตี้อวี้กลับเข้าไปในแหวนปริภูมิ แล้วไปที่ศาลาในวัดเพื่อปล่อยใจให้ว่างเปล่าเพียงลำพังฝูกวงไม่รู้ว่าปรากฏตัวข้างกายนางเมื่อใดและปลอบโยนว่า "นายหญิง คุณชายเยี่ยเฟิงจิตใจดี สวรรค์จะไม่ทอดทิ้งเขาแน่นอน"กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะข้ากำหนดชะตาของข้าเอง ไม่ใช่สวรรค์นางไม่เคยเชื่อสวรรค์หากสวรรค์มีตา ก็คงส่งคนที่รังแกเขาลงนรกไปนานแล้ว จะลอยหน้าลอยตาเช่นนี้ได้อย่างไร"ฝูกวง ช่วยข้าทำอะไรสักหน่อยได้หรือไม่""นายหญิงเชิญสั่ง ข้าจะทำทุกอย่าง""ช่วยข้าสืบประวัติของเยี่ยเฟิง ข้าอยากรู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาคือใคร" บางทีการพบพ่อแม่ที่แท้จริงอาจช่วยบรรเทาใจที่ปวดร้าวลงได้บ้าง"ขอรับ ข้าน้อยจะสืบหาประวัติของคุณชายเยี่ยให้ได้ และจะรีบมารายงานข่าวดีให้นายหญิงทราบ""ได้"เวลาผ่านไปหลายถ้วยน้ำชา ประตูห้องของเยี่ยเฟิงก็เปิดออกกู้ชูหน่วนส่งสายตาให้ฝูกวง เป็นสัญญาณให้ตามนางไปโดยเร็ว เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้เยี่ยเฟิงบังเอิญเจอพวกเขา ทำให้ศักดิ์ศรีของเขาถูกทำลายลงไปอีก เพราะตาของเขาบวมแดงมาก พวกเขาพยายามจะทำเป็นไม่ส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 259

    เยี่ยเฟิงในใจมีความรู้สึกบางอย่างที่ร้องเรียกให้เขาไปปรากฏตัวแม้เขาจะกลัว ก็อยากเปิดเผยตัวตนแต่คำพูดของซิ่งเอ๋อร์ทำให้ขาที่ยกขึ้นมาแล้วก้าวออกไปไม่ได้อีกต่อไปองค์ชาย......องค์ชายแห่งแคว้นฉู่?แล้วนางก็คือ......ฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่?ฮองเฮาฉู่เอ็ดว่า "ระวังจะมีคนได้ยิน""เหนียงเหนียงทรงระแวงมากเกินไป ที่นี่ไม่มีใครหรอก พวกเรามาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋นทุกปีก็ไม่เคยเห็นคนร้ายเลยสักคน ที่นี่ดูแลดีมากเพคะ""ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรพูดจาไร้สาระ""เพคะๆ ๆ บ่าวพูดผิดไป แต่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งพระสนมนับสามพันคนไว้ประดับบารมี แต่ก็ไม่เคยทรงโปรดปรานพระสนมองค์ใดนอกจากพระองค์เลย พระองค์กับฮ่องเต้ทรงมีองค์ชายเพียงองค์เดียว พระองค์มีสถานะสูงส่งมาก สวรรค์จะไม่คุ้มครองพระองค์แล้วจะคุ้มครองใครเล่าเพคะ""ข้าเพียงเขาปลอดภัยและมีสุขภาพดีก็พอแล้ว ส่วนเขาจะเป็นองค์ชายที่สูงส่งที่สุดในแคว้นฉู่หรือไม่ ไม่สำคัญแล้ว" ฮองเฮาฉู่ปักธูปลงกระถาง แล้วถอนหายใจด้วยความโศกเศร้าเยี่ยเฟิงพิงประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำตาไหลอาบแก้มใบหน้าของเขาซีดเผือกทันทีองค์ชาย......สูงส่งมาก......แต่เขา......เขาก็แค่ของเล่นของนาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 258

    ขณะที่เยี่ยเฟิงเดินมาถึงประตูวิหารใหญ่ ซิ่งเอ๋อร์และฮองเฮาฉู่ได้พูดคุยกัน ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ม่านตาหดเล็กลง ราวกับว่าเท้าของเขามีน้ำหนักเป็นพันชั่ง เขาจึงก้าวต่อไปไม่ได้"ฮูหยิน ท่านชายน้อยหายตัวไปนานหลายปีแล้ว แม้ว่ายามนี้เขาจะยืนอยู่ตรงหน้าท่าน ท่านก็อาจจะจำเขาไม่ได้ จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?""ยามนั้นที่ข้าคลอดบุตรยากและสลบไป ข้าเห็นดอกเหมยที่บริเวณไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา ดอกเหมยที่กำลังเบ่งบาน ข้ายังคิดว่าทำไมเด็กชายถึงมีปานรูปดอกเหมยที่ไหล่ได้"ปาน......ดอกเหมย?เยี่ยเฟิงหายใจเร็วขึ้นเขาใช้ความพยายามอย่างมากจึงสามารถยืนอยู่หลังประตูได้ร่างกายเย็นเฉียบแนบชิดประตู ราวกับว่าหากไม่แนบชิดประตู เขาก็จะยืนไม่ไหวไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา......ก็มีปานเป็นรูปดอกเหมยเช่นกัน และยังเป็นดอกที่กำลังเบ่งบาน......แม่เฒ่าบอกว่า ตั้งแต่เขาเกิดก็......มี......"แค่ปานรูปดอกท้อ จะสามารถระบุตัวท่านชายน้อยได้อย่างไร? แล้วหากมีคนปลอมตัวล่ะเจ้าคะ?""เป็นไปไม่ได้ ดอกเหมยดอกนั้นแตกต่างจากดอกเหมยอื่นๆ กลีบดอกน้อยกว่าดอกเหมยทั่วไปหนึ่งกลีบ นอกจากข้าและแม่นมแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องนี้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 257

    เมื่อได้ยินคำพูดของสาวใช้ เยี่ยเฟิงหันมองเล็กน้อยฮูหยินผู้นั้นกับลูกชายแท้ๆ ถูกพรากจากกันมานานถึงสิบแปดปี และเขาก็พลัดพรากจากพ่อแม่แท้ๆ มาสิบแปดปี นางอาจเป็นแม่ของเขาใช่หรือไม่?เมื่อมองดูฮูหยินอีกครั้ง ท่าทางสง่างาม พูดจาไพเราะ แม้จะอายุมากแล้ว แต่ใบหน้าก็ดูแลอย่างดี ไม่เหมือนคนยากจนเลยฮูหยินสูงศักดิ์เช่นนี้ จะเป็นแม่แท้ๆ ของเขาได้อย่างไรกันเยี่ยเฟิงหัวเราะเสียงเบาเขาคงคิดถึงพ่อแม่จนเพี้ยนไปแล้วฮองเฮาฉู่ตาแดงก่ำ ความเศร้าโศกแวบผ่านไป "ยามนั้น ลูกชายคนเล็กของข้าหลินเอ๋อร์ถูกขโมยไปที่นอกเมืองชิงหง ราชครูบอกว่า หากอยากจะตามลูกชายคนเล็กกลับมา ก็ต้องมาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋น ราชครูชำชองวิชาห้าธาตุแปดทิศ สามารถมองเห็นอดีตและอนาคตได้ เขาไม่โกหกข้าแน่นอน""แต่ท่านมาไหว้พระที่นี่ทุกปี และเมื่อก่อนก็มาสวดมนต์ที่วัดไป๋อวิ๋นทุกวัน ไม่ใช่ว่ายังหาเด็กชายคนนั้นไม่เจอหรอกหรือ"พอนึกถึงเรื่องในอดีต ซิ่งเอ๋อร์ก็ร้องไห้เมื่อเด็กน้อยถูกขโมยไป ฮองเฮาก็คิดถึงทุกวัน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ในช่วงสิบปีแรก อยู่ที่วัดไป๋อวิ๋นสวดมนต์ทุกวัน เพื่อเพิ่มบุญให้กับท่านชายน้อย หวังว่าจะได้กลับมาเป็นครอบครัวก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 256

    กู้ชูหน่วนพยักหน้าเบาๆ “เช่นนั้นไปพักที่วัดไป๋อวิ๋นก่อนก็แล้วกัน”กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้จะปลอบเยี่ยเฟิงอย่างไรเรื่องแบบนี้ต้องให้เขาคิดเองนางก็ไม่ได้ตั้งใจจะเห็นฉากนั้น เป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆเยี่ยเฟิงแม้จะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่นางก็รู้สึกได้เขามองนางเป็นเพื่อน และเพราะว่ามองนางเป็นเพื่อน จึงไม่อยากให้นางเห็นฉากที่น่าอับอายที่สุดของเขา“ร่างกายยังไหวหรือไม่? ห่กไม่ไหว เราพักที่นี่ก่อนก็ได้”“ไหว ไปกันเถอะ ประเดี๋ยวเหล่าทหารจะไล่ตามมา”เยี่ยเฟิงเดินนำไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่ปรากฏสีหน้าใดๆฝูกวงอธิบาย “วันนั้นในป่าไผ่ที่พลัดหลงกับนายหญิง พวกข้าเจอกับนายท่านของเผ่าหมอหลายคน พวกข้ายืนหยัดต่อสู้ไม่ไหว เยี่ยเฟิงขาช้าก็เลยถูกจับไป ข้าน้อยหานายหญิงไม่เจอ จึงแอบแฝงตัวเข้าไปในเผ่าหมอเพื่อไปช่วยเยี่ยเฟิง แต่ไม่นึกว่าจะเจอนายหญิงในเผ่าหมอ เรื่องต่อจากนั้น นายหญิงก็รู้แล้ว”“อืม ไปกันเถอะ”วัดไป๋อวิ๋น ที่นี่เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของวัดชิงหง มีผู้มาทำกราบไหว้ไม่ขาดสาย ภายในวัดมีสามเณรน้อยเดินไปมาให้เห็นกู้ชูหน่วนประนมมือด้วยท่าทางนอบน้อม "ท่านเณรน้อย ได้ยินมาว่าวัดไป๋อวิ๋นศักดิ์สิทธิ์มาก พ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 255

    เมื่อพลังของค่ายกลลดลง กู้ชูหน่วนจึงพบทางลับเข้าไปได้แต่ทางลับนี้กลับไม่ใช่ทางลับที่เพิ่งแยกจากหัวหน้าเผ่าหมอมานางรู้สึกสงสัยค่ายกลนี้แปลกประหลาดอะไรเช่นนี้?เมื่อครู่ยังป้องกันได้อย่างแน่นหนา ไม่มีที่ให้โจมตี แต่ยามนี้กลับกลายเป็นค่ายกลที่พุพังไปได้?มีใครมาช่วยนางทลายค่ายกลไปครึ่งหนึ่งหรือไม่?มีใครในเผ่าหมอช่วยนางทลายค่ายกลหรือไม่?หรือว่าจะเป็นอาโม่?"นายหญิง เราพบทางลับเข้าไปแล้ว ทำไมยังไม่รีบออกไป หรือว่าจะต้องตามหาอะไรอีกหรือ" ฝูกวงถามด้วยความมึนงงไม่ไกลนัก หัวหน้าเผ่าหมอยกมุมปากด้วยรอยยิ้มที่หยิ่งยโส แล้วยกมือขาวขึ้นเบาๆ ดมกลิ่นดอกไม้ในมือด้วยท่าทางกระหาย และเปล่งเสียงออกมาจากมุมปาก"โง่นัก นางกำลังตามหาข้าอยู่แน่นอน หากหาข้าไม่เจอ นางจะหนีไปได้อย่างไร"กู้ชูหน่วนกวาดตามองไปรอบๆ ที่นี่เงียบสงบ ไม่มีเงาของใครเลย แต่ไกลออกไปมีแสงไฟลุกโชน ไม่รู้ว่ามีทหารจำนวนเท่าใดกำลังตามล่าพวกนางอยู่นางเหลือบมองทางลับ แล้วมองไปยังแสงไฟที่อยู่ไกลออกไป กัดฟันแน่น "ไป"อาโม่เดินเล่นในเขาดูดวิญญาณราวกับเดินเล่นในสวนของตัวเอง คงจะรอนางไม่ไหวแล้วน่าจะจากไปแล้วแล้วนางก็รู้ทางลับหลาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 254

    กู้ชูหน่วนเดินวนกลับมาอีกรอบนางเอามือลูบขมับที่ปวดตุบ แล้วเอ่ยออกมาเสียงเบาว่า "พวกเราติดอยู่ในค่ายกลแล้ว และเป้นค่ายกลที่ทรงพลังมากๆ ด้วย""นายหญิง ท่านมีวิธีทลายค่ายกลนี้หรือไม่"กู้ชูหน่วนส่ายศีรษะนางไม่เคยเห็นค่ายกลที่ซับซ้อนขนาดนี้มาก่อนในชีวิต หากจะให้ทลายคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงห้าปี"หากทางลับออกไปไม่ได้ ข้าขออาสาคุ้มกันให้พวกเจ้าออกทางประตูใหญ่""ข้าจำได้ว่ามีทางลับหลายทาง ไปทางนี้กันก่อนดีกว่า แล้วค่อยออกทางประตูใหญ่""ได้"หัวหน้าเผ่าหมอถูกตบหน้าเข้าอย่างจังเซวี่ยซาก้มศีรษะลงต่ำ แทบอยากหายตัวไปเลยเสียประเดี๋ยวนี้เขาคิดว่าหัวหน้าเผ่าหมอจะโกรธ แต่กลับได้ยินเสียงของหัวหน้าเผ่าหมอที่เรียบเฉยดังขึ้น"ถูกต้องแล้ว ไปทางนี้แหละ เมื่อครู่ข้ารอนางอยู่ที่ทางลับนั่นเอง"เซวี่ยซา "เอิ่ม......""เซวี่ยซา ไปดูกันดีกว่า""ขอรับ"เซวี่ยซาเดินตามหัวหน้าเผ่าหมอ และตามพวกกู้ชูหน่วนติดๆทว่าพวกกู้ชูหน่วนเดินวนไปวนมา ราวกับอยู่ในเขาวงกตขนาดใหญ่ นางทำเครื่องหมายไว้ตลอดทาง แต่ก็ยังวนกลับมาอยู่ดี หากไม่ใช่เพราะพวกเขาเปิดทางให้ คงปะทะกับยามเฝ้าเวรไปแล้วเขาเตือนด้วยความระมัดร

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status