Share

บทที่ 84

Author: เย่ชิงขวง
"ก็ได้ เช่นนั้นก็เริ่มกันเถอะ"

เจ๋ออ๋องปัดมือหมอหลวงออก อดทนความเจ็บปวดเอาไว้ "กู้ชูหน่วน เจ้ากล้าเดิมพันอีกตาหรือไม่"

"เดิมพันอีกแล้ว? เจ้ามีเงินพอให้แพ้อีกหรือ?"

บ่าวเอ่ยเตือนอย่างกังวลใจ "ท่านอ๋อง จะเดิมพันอีกไม่ได้แล้วนะขอรับ ตอนนี้เราไม่มีเงินแล้ว"

เจ๋ออ๋องแพ้จนคลั่งไปแล้ว สนใจคำเตือนของบ่าวเสียที่ไหน เขาเอ่ยอย่างไม่ลังเล "ข้ามัดจำด้วยจวนเจ๋ออ๋อง และเรือนอีกหกหลังภายใต้ชื่อจวนเจ๋ออ๋อง หากเจ้าแพ้ เจ้าต้องคืนเงินห้าล้านตำลึงให้ข้า รวมกับมือทั้งสองข้างของเจ้าด้วย"

เขาไม่เชื่อหรอกว่านางคนไม่เอาไหนจะแต่งโคลงกลอนได้

กู้ชูหน่วนเอ่ยเสียงเย้ยหยัน "ท่านเจ๋ออ๋อง แต่จวนเจ๋ออ๋องกับเรือนอีกหกหลัง แต่คิดจะแลกกับเงินห้าล้านตำลึงและสองมือของข้า จวนเจ๋ออ๋องของเจ้าทำงานทองหรือไร?"

บางคนเผลอหัวเราะออกมา

เจ๋ออ๋องหน้าเขียวจนม่วง

นอกจากจวนเจ๋ออ๋องและเรือนอื่น เขาก็แพ้จนหมดเนื้อหมดตัวแล้ว

ครั้นคิดจะเอ่ยปากขอยืมเงินจากใครดี กู้ชูหน่วนก็พูดแทรกขึ้น

"เพราะสงสารเจ้าหรอกนะ เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะเดิมพันกับเจ้า แต่ว่านะเจ๋ออ๋อง เจ้าคิดให้ดีละ หากเจ้าแพ้ครั้งนี้ เจ้าคงสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว"

"วางใจเถิด ข
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 85

    ห้าคนแข่งขัน ฉางเจินและฉางผิงเขียนๆ หยุดๆ ตั้งสมาธิใช้ความคิดเยี่ยเฟิงยังคงนั่งหลังตรงประหนึ่งต้นไผ่ เขาก้มหน้า แพขนตาไม่มีกะพริบ มือจับพู่กันตวัดเขียน ผ่านไปไม่นานก็แต่งกลอนไปเกือบสิบบทแล้วเจ๋ออ๋องแม้จะเขียนไม่หยุด แต่ก็ร้อนรนไม่อาจสงบนิ่ง มือเกาไม่หยุด เรียวคิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันแน่ กลอนที่แต่งเสร็จแล้วเดี๋ยวเดียวก็ถูกขยำทิ้งเมื่อหันไปมองกู้ชูหน่วนที่อ้าปากหาวอย่างเกียจร้าน ทว่ามือเองก็ไม่หยุดเขียน ตวัดแปรงแต่งกลอนบหนึ่งจนเสร็จ แม้จะเสร็จเป็นคนสุดท้าย แต่กลอนที่นางแต่งนั้น เว้นแต่เทียบกับเยี่ยเฟิงแล้ว นางนั้นแต่งได้จำนวนมากที่สุดอาจารย์สวีสบถด่าเหมือนเช่นเคย "จองหอง จองหองเกินไปแล้ว ป่านนี้แล้วนางยังเสแสร้งให้ใครดูอีก"ผู้ชมจากสำนักบัณฑิตหลวงต่างส่ายหน้าถอนหายใจต่อให้ชนะสองรอบแล้วอย่างไรเล่า แต่สามรอบสุดท้ายก็แพ้อยู่ดีเท่าที่พวกเขาคาดการณ์ บัณฑิตยากจนอย่างเยี่ยเฟิงคงเป็นผู้ชนะในครั้งนี้กู้ชูหน่วนเขียนเร็วนัก นางเขียนเสร็จก็เขียนอีกบทต่อ สี่คนที่เหลือถึงกลับเงยหน้าขึ้นมองกู้ชูหน่วนอย่างประหลาดใจไม่รู้ว่านางมีแผนการอะไรอีกกันแน่แม้แต่ฮ่องเต้ยังตกตะลึงกู้ชูหน่วนแต

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 86

    เหล่าทูตจากแคว้นฉู่ แคว้นจ้าว และแคว้นหวาต่างตกตะลึงอ้าปากค้างกลอนที่กู้ชูหน่วนแต่ง กลับเป็นกลอนชั้นดีเสียอย่างนั้นทุกถ้อยคำสามารถกลายเป็นบทกวีดังที่ตกทอดต่อไป ตอนนั้นต่อให้เป็นเซียนกวีก็มิอาจทำได้ นางคือคนธรรมดาจริงๆ หรือ"ยามใดจะคลี่คลาย เหตุทั้งหลายในอดีต คืนวานลมพัดจันทร์ลอยเด่น แต่ใจเจ็บคิดถึงบ้านนั้นเกินต้าน รอบรั้วกระไดงามยังคงอยู่ ทว่าผู้เป็นที่รักนั้นมิอาจสู้อายุขัย หากถามว่าข้าเจ็บเพียงใด คงเหมือนดั่งสายน้ำหลั่งไหลยามวสันตฤดู "เจ๋ออ๋องได้ยินประโยคแรกก็ปาดเหงื่อ ตอนได้ฟังบ่าวอ่านกลอนของนาง เขาก็พยายามเค้นหัวสมอง อยากจะแข่งกับนางสักตั้งแต่พอบ่าวอ่านต่อ ความคิดนั้นของเขาก็ดับมอดลงครั้นยกพู่กันขึ้นจะเขียนต่อ ในหัวก็มีแต่เสียงกลอนตราตรึงใจที่บ่าวอ่านดังก้องซ้ำไปซ้ำมากลอนของกู้ชูหน่วนเอาชนะกลอนเขาขาดลอย ทำเอาเขาคิดอะไรไม่ออก แต่งกลอนแม้แต่บทเดียวยังทำไม่ได้ ทำได้เพียงเหม่อมองปากขันทีที่อ้าๆ หุบยามอ่าน"ยามสุขจงเริงสำราญ ถ้วยทองจอกเหล้าอย่าได้ว่างเปล่า ทุกคนล้วนมีคุณค่า ไม่เหมือนเงินทองใช้แล้วหมดไป""ยามเจอยากพบ จากแล้วได้เจออีกเมื่อใด ลมบูรพาพัดผ่านดอกไม้บานร่วงโรย ห

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 87

    พู่กันในมือเจ๋ออ๋องร่วงตกกระแทกพื้นเสียงดัง ใบหน้าซีดเผือดเสียงของเขาสั่นเครือ "กู้ชูหน่วน เจ้าหลอกข้า"ร่างของกู้ชูหน่วนโงนเงนจนแทบตกเก้าอี้ ความง่วงงุนหายสิ้นเพราะความตกใจ นางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ "เจ้าป่วยก็รีบไปหาหมอ จะมาร้องโวยวายอยู่ที่นี่ให้ได้อะไร? เสียงดังจนข้านอนไม่ได้แล้ว"เจ๋ออ๋องโมโหกลอกตามองบน พยายามพยุงตัวกับโต๊ะ ไม่ให้ตัวเองล้มลงเสียงดังจนนอนไม่ได้อย่างนั้นหรือ?นางนอนหลับแต่ยังสามารถแต่งกลอนที่ไพเราะปานนี้ หมายจะให้เขาทำใจยอมรับไม่ได้แล้วโมโหจนอกแตกตายสินะ?"ศิลปะทั้งสี่แขนง ไม่ว่าจะโคลงกลอนหรือสิ่งใดเจ้าก็ช่ำชองอยู่แล้วใช่หรือไม่? ในเมื่อเจ้าฝีมือดีขนาดนี้ เหตุถึงต้องแสร้งทำเป็นคนไม่เอาไหนด้วย?"กู้ชูหน่วนลูบคาง เอ่ยประโยคที่ทำให้คนล้มหน้าคว่ำจนแว่นแตก"อ๋อ... จู่ๆ หัวสมองมันก็แล่นฉิวขึ้นมา หลังจากเบิกเนตร ข้าก็ลืมไปหมดทุกสิ่ง"เหลวไหลฟังนางเพ้อเจ้อสินางต้องจงใจแกล้งโง่ให้พวกเขาตายใจแน่นอนเซียวอวี่เชียนเอ่ยพึมพำกับตัวเอง "มิน่าละยัยขี้เหร่ถึงได้เที่ยวเดิมพันกับคนไปทั่ว ที่แท้นางจงใจแสร้งว่าตัวเองไม่เอาไหน เพื่อจะได้ชนะเดิมพันเยอะขึ้น"เซียวอวี่เชียนไม

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 88

    ต่างฝ่ายต่างพูด ทั้งงานพากันชื่นชมกู้ชูหน่วน ฮ่องเต้แคว้นเย่ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่พอใจ รีบสั่งให้คนไปดูกลอนของยอดฝีมือคนอื่นบ่าวแสดงผลงานกลอนของฉางเจินและฉางผิง พวกเขาทั้งสองคน คนหนึ่งแต่งกลอนได้แปดบท อีกคนหนึ่งแต่งกลอนได้เก้าบท แม้ว่ากลอนจะไม่เลว แต่หากเทียบกับกู้ชูหน่วนแล้วยังคงห่างชั้นเจ๋ออ๋องนั่นแย่ยิ่งว่า นอกจากจะแต่งกลอนได้เพียงห้าบทแล้ว กลอนของเขานั้นไม่ไพเราะเลยสักนิด ลายมือก็ยิ่งไปกันใหญ่ อักษรหวัดไร้ระเบียบ ประหนึ่งว่าเขาแต่งกลอนพวกนี้ด้วยความร้อนรนสุดขีดกู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ "เจ๋ออ๋อง ฝีมือเช่นเจ้า ยังกล้าเอาจวนเจ๋ออ๋องกับเรือนอีกหกหลังมาเดิมพันกับข้าอีกหรือ เหอะๆๆ หน้าใหญ่เสียจริง เขาเตือนแล้วก็ไม่ฟัง คงต้องยอมเจ้าจริงๆ"เจ๋ออ๋องแน่นหน้าอก เลือดในลำคอตีกลับขึ้นมา จนเขาเกือบกลั้นเอาไว้ไม่อยู่นี่คือฝีมือของเขาเสียที่ไหนเพราะเขาถูกผึ้งต่อยจนทั้งตัวมีแต่แผล ทั้งเจ็บทั้งคันมากจริงๆอีกอย่าง...กู้ชูหน่วนทำเขาตกใจจนสติเตลิดไปหมดทว่าคำพูดเหล่านั้น เขาจะพูดออกไปได้อย่างไร"ที่หนึ่งไม่ได้มีแค่เจ้าเพียงคนเดียว เจ้ายังลำพองใจอยู่อีก""แม้ข้าจะไม่ได้ที่หนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่เจ้าแ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 89

    ผลการแข่งขันแต่งกลอนและเขียนพู่กันปรากฏว่ากู้ชูหน่วนและเยี่ยเฟิงคนหนึ่งเหนือกว่าเรื่องหนึ่ง เสมอกันในคราวนี้กู้ชูหน่วนแต่งกลอนชนะเยี่ยเฟิงและจำนวนกลอนมากกว่า กู้ชูหน่วนจึงเป็นผู้ชนะไปในการแข่งขันทั้งห้ารอบ กู้ชูหน่วนชนะเดี่ยวไปแล้วสองสนาม และชนะร่วมกับเยี่ยเฟิงอีกสองสนาม ยามนี้คงไม่มีใครกล้าท้าทายนางแล้วเสียงถกเถียงดังเซ็งแซ่ไปทั้งงาน"เดาไปเดามา ใครจะไปเดาถูกว่ากู้ชูหน่วนจะชนะ เสียดายที่ข้าเอาเรือนไปลงเดิมพันข้างเจ๋ออ๋องไปเสียหมด เกรงว่ายามนี้คงต้องสินเนื้อประดาตัว""ข้าเองก็พอกัน ข้าลงเดิมพันข้างเจ๋ออ๋องและกู้ชูอวิ๋น แต่กู้ชูอวิ๋นไม่มีสิทธิแม้แต่จะแข่งรอบคัดเลือก ส่วนเจ๋ออ๋อง...เจ๋ออ๋องก็ถูกจ้องเล่นงาน เหตุใดข้าถึงได้ซวยเช่นนี้ หากลงเดิมพันข้างเยี่ยเฟิงก็คงไม่อนาถปานนี้""จบเห่แล้ว ข้าลงเดิมพันข้างเจ๋ออ๋องหมดหน้าตัก ข้าคิดว่าเจ๋ออ๋องสติปัญญาหลักแหลม อย่างน้อยก็ต้องชนะสักรอบ แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะได้ที่โหล่""ไม่...ไม่มีใครเดิมพันข้างกู้ชูหน่วนเลยหรือ?""เหมือนจะมี อาจารย์ซ่างกวานเดิมพันข้างกู้ชูหน่วนหนึ่งพันตำลึง บอกว่าเป็นกำลังใจให้กับศิษย์""เจ๋ออ๋องกับกู้ชูอวิ๋นก็เป็น

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 90

    เจ๋ออ๋องตวาดลั่น "ไม่จำเป็น" ต่อให้เขาต้องเร่ร่อนริมถนน ก็ไม่ต้องการห้องหับที่เจียดจากนางหรอก"ท่านลุง มอบโฉนดที่ดินให้แก่นาง""เอ่อ... ท่านอ๋อง... ให้จริงหรือ?"ท่านลุงหวังเสียงสั่น นั่นเป็นบ้านหลังเดียวของพวกเขา หากต้องมอบให้นางอีกคนสิ้นเนื้อประดาตัวแล้วจริงๆ"ให้ไป" เจ๋ออ๋องเอ่ยเสียงขุ่น ไม่สนใจว่าฮ่องเต้แคว้นเย่และเหล่าทูตยังอยู่ เดินจ้ำออกไปจากงานประลองศิลปะ หลงเหลือไว้เพียงแผ่นหลังอันเปล่าเปลี่ยวทุกคนมองเจ๋ออ๋องอย่างเห็นใจเจ๋ออ๋องชาติกำเนิดสูงส่ง มีทั้งฝีมือและความสามารถ หน้าตาหล่อเหลา คือองค์ชายขี่ม้าขาวของหญิงสาวแคว้นเย่ทว่างานประลองศิลปะครั้งนี่ นอกจากเจ๋ออ๋องจะพ่ายแพ้จนหมดตัวแล้ว ชื่อเสียงยังบ่นปี้อีกต่างหาก เรียกได้ว่าตกจกสวรรค์ตรงดิ่งสู่นรกมิปานฮ่องเต้แคว้นเย่หมดอารมณ์ จนถึงตอนนี้เขารู้ซึ้งแล้วว่าถ่มน้ำลายรดฟ้าเป็นอย่างไรเสี่ยวหลี่จื่อเอ่ยสุมไฟ "ฝ่าบาท ใครต่างก็รู้ดีว่า คุณหนูสามจวนอัครเสนาบดีไม่รู้หนังสือ แต่เหตุใดจู่ๆ ถึงได้เก่งกาจเพียงนี้? ข้าทาสว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล""เอ่อ... หมายความว่าอย่างไร?" ความหวังอันมืดมนฮ่องเต้แคว้นเย่พลันสว่างรำไรขึ้นมา"กล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 91

    "คุณหนูกู้กล้าลองหัวข้อดอกเหมยอีกสักสามบทไหม?""ฟังให้ดีมิต้องกลัว เหมยขาวบานบนยอดกิ่งหยง ขึ้นสะพานข้ามห้วยกลับบ้าน มิรู้ดอกไม้บานก่อนหน้า หรือว่าฝ่าลมหนาวรอดชีวิต""ดอกเหมยแลหิมะแข่งรับวสันต์ กวีลังเลจรดหมึก นึกตำหนิฝ่ายใด ดอกเหมยแพ้แก่หิมะขาว หยาดน้ำฟ้าพ่ายแก่สุคนธา""แว่วดอกเหมยบานรับลมวสันต์ ครั้นขุนเขารอบทิศนั้นยังโพลนขาว ต้องมีทรัพย์นับคณาเท่าใดหนอ จึงบันดาลให้เหมยบานตลอดไป"ทั้งงานเงียบสงัด ทุกคนอ้าปากค้างกู้ชูหน่วนกลายเป็นจุดสนใจของดวงตาทุกคู่ นางเองก็ยินดีให้ทุกคนได้มอง มุมปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างห้ามไม่อยู่แต่งกลอนเธอแต่งไม่เป็นหรอก แต่อย่างน้อยก็ท่องกลอนได้ไหมล่ะ?อย่าว่าแต่สามบทเลย สามสิบบท เธอก็เชื่อว่าเอาอยู่แม้ฮ่องเต้น้อยอยากจะเก็บฮุบสมบัติล้ำค่านั้นไว้มากเพียงใด ก็คงไม่มีหวังแล้ว"กงกง ไม่รู้ว่ากลอนสามบทนี้ของข้าเป็นอย่างไรบ้าง? พอใช้ได้หรือไม่?"แม้เสี่ยวหลี่จื่อจะอยากกลั่นแกล้งนางเพียงใด แต่ไม่พูดไม่ออกแล้วผู้ชมที่เพิ่งได้สติกลับมา พากันยกนิ้วให้ แต่ละคนเอ่ยชมไม่หยุดปาก"แม่เจ้า คุณหนูสามตระกูลกู้คือเซียนกวีกลับมาเกิด ไม่สิ นางเก่งยิ่งกว่าเซียนกวี คุณหน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 92

    เยี่ยเฟิงครุ่นคิด ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ยังไม่ได้คำตอบทุกคนอดสงสัยไม่ได้คนมากมายคิดหาวิธีแทบตายเพื่อเข้าเรียนในสำนักบัณฑิตหลวง ฝ่าบาทแหกให้บัณฑิตยากจนอย่างเขาเข้าเรียน เขายังลังเลอะไรอยู่?หรือเขาไม่รู้ว่าคนที่สำเร็จจากสำนักบัณฑิตหลวงนั้นเป็นขุนนางใหญ่โตในราชสำนักขณะที่ทุกคนคิดว่าเขาจะปฏิเสธ เยี่ยเฟิงถึงได้ตอบเสียงเรียบ "ยินดี"เฮ้ย...พูดแค่ว่ายินดีอย่างนั้นหรือไม่มีแม้แต่ความดีอกดีใจเลยหรือ?ผู้ชมถกเถียงกันอย่างอดไม่ได้ บัณฑิตยากจนก็คือบัณฑิตยากจนอยู่วันยังค่ำ เกรงว่าจะไม่รู้จักแม้กระทั่งสำนักบัณฑิตหลวงกู้ชูหน่วนสะกิดศอกเขาพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "จากนี้เราก็เป็นเพื่อนร่วมสำนักกันแล้ว เรียกข้าว่าศิษย์พี่สิ แล้วข้าจะปกป้องเจ้าเอง"เยี่ยเฟิงเหลือบมองนางอย่างเรียบเฉย ไม่เอ่ยคำใดแต่เดินเข้าไปรับรางวัลจากฮ่องเต้แคว้นเย่กู้ชูหน่วนลูบจมูกนี่เธอ...ถูกเมินอย่างนั้นหรือ?การประลองศิลปะปิดฉากลง กู้ชูหน่วนเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ณ ห้องเรียนหนึ่งในสำนักบัณฑิตหลวงกู้ชูหน่วนและเซียวอวี่เชียนมองกระดิ่งภินวิญญาณในกล่องไม้แล้วมองหน้ากันเจ้ากระดิ่งภินวิญญาณนี่สีดำ ไม่ต่างจากกระดิ่งทั่วไป

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 262

    เยี่ยเฟิงจัดใหม่อีกรอบ เพื่อให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น มุมปากยกขึ้นเบาๆ "ข้าก็คิดว่างามเช่นกัน""ที่จริงเจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าผู้นี้นั้นเลี้ยงง่ายนัก ผัดกับข้าวอะไรก็ได้มาอย่างสองอย่างก็พอแล้ว เจ้า..."กู้ชูหน่วนยังไม่ทันพูดจบ เยี่ยเฟิงเหลือบมองดูฟ้า ก่อนจะปิดฝาตระกร้าสำรับ ริมปีากแดงระเรื่องขยับเบาๆ "พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จะไม่ทันกาลแล้ว รบกวนเจ้าหลีกทางหน่อย""ห้ะ..."กู้ชูหน่วนตะลึงงันกับข้าวพวกนี้ไม่ได้ให้นางหรอกหรือหรือว่าเขิน จึงจะส่งไปให้ที่ห้องนางอย่างนั้นหรือท่ามกลางความสงสัย เยี่ยเฟิงกลับมาอีกรอบ ก่อนจะปลดผ้าคลุมบนใบหน้าของตนเอง แล้วเอ่ยถาม "แม่นางกู้ สีหน้าข้าดูแย่หรือไม่""ไม่...ไม่หรอก" ก็แค่ตาบวมไปหน่อยก็เท่านั้น"ขอบใจ"เยี่ยเฟิงกล่าวขอบคุณ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากโรงเจไป เหลือเพียงกู้ชูหน่วนและฝูกวงที่กำลังมองหน้ากันตาปริบๆนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือเยี่ยเฟิงไม่เห็นว่านายหญิงอยู่ที่นี่หรอกหรือกู้ชูหน่วนกระแอมสองสามที "เยี่ยเฟิงหน้าบาง พวกเราต้องเข้าใจ ไป กลับห้องไปกินกับข้าวเจที่เยี่ยเฟิงทำกันเถอะ""ขอรับ"ทั้งสองคนเดินตามกันออกไปจากโรงเจ แต่พวกเข

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 261

    "ไม่ใช่ปัญหา จากที่นี่ไปเสี่ยวเหอชุน ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็ไม่พอ ไม่สู้อยู่ที่นี่ต่ออีกสักวันสองวัน"เอ๊ะ...ไม่ใช่ว่าเยี่ยเฟิงรีบอยากจะกลับไปที่สุดหรอกหรือเหตุใดถึงจะไม่กลับอีกแล้วล่ะต้องมีลับลมคมในเป็นแน่อีกทั้งต้องเป็นเรื่องใหญ่มากด้วย"เจ้า...คงจะไม่ได้คิดสั้นหรอกนะ..." กู้ชูหน่วนหยั่งเชิงเยี่ยเฟิงชะงัก จากนั้นเมื่อรู้ถึงความเป็นห่วงของกู้ชูหน่วน เขาก็เผยยิ้มอ่อนโยนที่เห็นได้ไม่บ่อยนักออกมา"วางใจเถอะ ข้าไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น อีกอย่าง...ข้ายังมีคนในครอบครัวให้ต้องดูเล" นอกจากท่านยาย ยังมีท่านพ่อท่านแม่ที่ล้วนแต่ต้องการการดูแลจากเขาทั้งสิ้นแม้เขาจะไม่สามารถเปิดเผยตัวคนกับท่านพ่อท่านแม่ได้ แต่เขาจะคอยอธิษฐานให้พวกเขาลับหลังอยู่เงียบๆกู้ชูหน่วนโล่งใจ "รีบบอกแต่แรกสิ เจ้าจะซื้อกับข้าวอะไรบ้าง ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่""ไม่ต้อง ข้าไปคนเดียวก็พอ อย่างไรก็ชินแล้ว""ได้ มีสิ่งใดต้องการให้ช่วยก็บอกได้เลย""อืม"แผ่นหลังผอมบางของเยี่ยเฟิงหายไปจากในวัด กู้ชูหน่วนลูบปลายคางพลางพึมพำกับตัวเอง "เสี่ยวฝูกวง เจ้ารู้สึกบ้างไหมว่าเยี่ยเฟิงมีบางอย่างไม่ปกติ""มีด้วยหรือ ข้าน้อย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 260

    กู้ชูหน่วนถือหญ้าตี้อวี้ไว้ในมือ แต่กลับไม่มีอารมณ์ที่จะฟื้นฟูใบหน้าเลยแม้แต่น้อย จึงโยนหญ้าตี้อวี้กลับเข้าไปในแหวนปริภูมิ แล้วไปที่ศาลาในวัดเพื่อปล่อยใจให้ว่างเปล่าเพียงลำพังฝูกวงไม่รู้ว่าปรากฏตัวข้างกายนางเมื่อใดและปลอบโยนว่า "นายหญิง คุณชายเยี่ยเฟิงจิตใจดี สวรรค์จะไม่ทอดทิ้งเขาแน่นอน"กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะข้ากำหนดชะตาของข้าเอง ไม่ใช่สวรรค์นางไม่เคยเชื่อสวรรค์หากสวรรค์มีตา ก็คงส่งคนที่รังแกเขาลงนรกไปนานแล้ว จะลอยหน้าลอยตาเช่นนี้ได้อย่างไร"ฝูกวง ช่วยข้าทำอะไรสักหน่อยได้หรือไม่""นายหญิงเชิญสั่ง ข้าจะทำทุกอย่าง""ช่วยข้าสืบประวัติของเยี่ยเฟิง ข้าอยากรู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาคือใคร" บางทีการพบพ่อแม่ที่แท้จริงอาจช่วยบรรเทาใจที่ปวดร้าวลงได้บ้าง"ขอรับ ข้าน้อยจะสืบหาประวัติของคุณชายเยี่ยให้ได้ และจะรีบมารายงานข่าวดีให้นายหญิงทราบ""ได้"เวลาผ่านไปหลายถ้วยน้ำชา ประตูห้องของเยี่ยเฟิงก็เปิดออกกู้ชูหน่วนส่งสายตาให้ฝูกวง เป็นสัญญาณให้ตามนางไปโดยเร็ว เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้เยี่ยเฟิงบังเอิญเจอพวกเขา ทำให้ศักดิ์ศรีของเขาถูกทำลายลงไปอีก เพราะตาของเขาบวมแดงมาก พวกเขาพยายามจะทำเป็นไม่ส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 259

    เยี่ยเฟิงในใจมีความรู้สึกบางอย่างที่ร้องเรียกให้เขาไปปรากฏตัวแม้เขาจะกลัว ก็อยากเปิดเผยตัวตนแต่คำพูดของซิ่งเอ๋อร์ทำให้ขาที่ยกขึ้นมาแล้วก้าวออกไปไม่ได้อีกต่อไปองค์ชาย......องค์ชายแห่งแคว้นฉู่?แล้วนางก็คือ......ฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่?ฮองเฮาฉู่เอ็ดว่า "ระวังจะมีคนได้ยิน""เหนียงเหนียงทรงระแวงมากเกินไป ที่นี่ไม่มีใครหรอก พวกเรามาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋นทุกปีก็ไม่เคยเห็นคนร้ายเลยสักคน ที่นี่ดูแลดีมากเพคะ""ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรพูดจาไร้สาระ""เพคะๆ ๆ บ่าวพูดผิดไป แต่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งพระสนมนับสามพันคนไว้ประดับบารมี แต่ก็ไม่เคยทรงโปรดปรานพระสนมองค์ใดนอกจากพระองค์เลย พระองค์กับฮ่องเต้ทรงมีองค์ชายเพียงองค์เดียว พระองค์มีสถานะสูงส่งมาก สวรรค์จะไม่คุ้มครองพระองค์แล้วจะคุ้มครองใครเล่าเพคะ""ข้าเพียงเขาปลอดภัยและมีสุขภาพดีก็พอแล้ว ส่วนเขาจะเป็นองค์ชายที่สูงส่งที่สุดในแคว้นฉู่หรือไม่ ไม่สำคัญแล้ว" ฮองเฮาฉู่ปักธูปลงกระถาง แล้วถอนหายใจด้วยความโศกเศร้าเยี่ยเฟิงพิงประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำตาไหลอาบแก้มใบหน้าของเขาซีดเผือกทันทีองค์ชาย......สูงส่งมาก......แต่เขา......เขาก็แค่ของเล่นของนาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 258

    ขณะที่เยี่ยเฟิงเดินมาถึงประตูวิหารใหญ่ ซิ่งเอ๋อร์และฮองเฮาฉู่ได้พูดคุยกัน ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ม่านตาหดเล็กลง ราวกับว่าเท้าของเขามีน้ำหนักเป็นพันชั่ง เขาจึงก้าวต่อไปไม่ได้"ฮูหยิน ท่านชายน้อยหายตัวไปนานหลายปีแล้ว แม้ว่ายามนี้เขาจะยืนอยู่ตรงหน้าท่าน ท่านก็อาจจะจำเขาไม่ได้ จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?""ยามนั้นที่ข้าคลอดบุตรยากและสลบไป ข้าเห็นดอกเหมยที่บริเวณไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา ดอกเหมยที่กำลังเบ่งบาน ข้ายังคิดว่าทำไมเด็กชายถึงมีปานรูปดอกเหมยที่ไหล่ได้"ปาน......ดอกเหมย?เยี่ยเฟิงหายใจเร็วขึ้นเขาใช้ความพยายามอย่างมากจึงสามารถยืนอยู่หลังประตูได้ร่างกายเย็นเฉียบแนบชิดประตู ราวกับว่าหากไม่แนบชิดประตู เขาก็จะยืนไม่ไหวไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา......ก็มีปานเป็นรูปดอกเหมยเช่นกัน และยังเป็นดอกที่กำลังเบ่งบาน......แม่เฒ่าบอกว่า ตั้งแต่เขาเกิดก็......มี......"แค่ปานรูปดอกท้อ จะสามารถระบุตัวท่านชายน้อยได้อย่างไร? แล้วหากมีคนปลอมตัวล่ะเจ้าคะ?""เป็นไปไม่ได้ ดอกเหมยดอกนั้นแตกต่างจากดอกเหมยอื่นๆ กลีบดอกน้อยกว่าดอกเหมยทั่วไปหนึ่งกลีบ นอกจากข้าและแม่นมแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องนี้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 257

    เมื่อได้ยินคำพูดของสาวใช้ เยี่ยเฟิงหันมองเล็กน้อยฮูหยินผู้นั้นกับลูกชายแท้ๆ ถูกพรากจากกันมานานถึงสิบแปดปี และเขาก็พลัดพรากจากพ่อแม่แท้ๆ มาสิบแปดปี นางอาจเป็นแม่ของเขาใช่หรือไม่?เมื่อมองดูฮูหยินอีกครั้ง ท่าทางสง่างาม พูดจาไพเราะ แม้จะอายุมากแล้ว แต่ใบหน้าก็ดูแลอย่างดี ไม่เหมือนคนยากจนเลยฮูหยินสูงศักดิ์เช่นนี้ จะเป็นแม่แท้ๆ ของเขาได้อย่างไรกันเยี่ยเฟิงหัวเราะเสียงเบาเขาคงคิดถึงพ่อแม่จนเพี้ยนไปแล้วฮองเฮาฉู่ตาแดงก่ำ ความเศร้าโศกแวบผ่านไป "ยามนั้น ลูกชายคนเล็กของข้าหลินเอ๋อร์ถูกขโมยไปที่นอกเมืองชิงหง ราชครูบอกว่า หากอยากจะตามลูกชายคนเล็กกลับมา ก็ต้องมาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋น ราชครูชำชองวิชาห้าธาตุแปดทิศ สามารถมองเห็นอดีตและอนาคตได้ เขาไม่โกหกข้าแน่นอน""แต่ท่านมาไหว้พระที่นี่ทุกปี และเมื่อก่อนก็มาสวดมนต์ที่วัดไป๋อวิ๋นทุกวัน ไม่ใช่ว่ายังหาเด็กชายคนนั้นไม่เจอหรอกหรือ"พอนึกถึงเรื่องในอดีต ซิ่งเอ๋อร์ก็ร้องไห้เมื่อเด็กน้อยถูกขโมยไป ฮองเฮาก็คิดถึงทุกวัน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ในช่วงสิบปีแรก อยู่ที่วัดไป๋อวิ๋นสวดมนต์ทุกวัน เพื่อเพิ่มบุญให้กับท่านชายน้อย หวังว่าจะได้กลับมาเป็นครอบครัวก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 256

    กู้ชูหน่วนพยักหน้าเบาๆ “เช่นนั้นไปพักที่วัดไป๋อวิ๋นก่อนก็แล้วกัน”กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้จะปลอบเยี่ยเฟิงอย่างไรเรื่องแบบนี้ต้องให้เขาคิดเองนางก็ไม่ได้ตั้งใจจะเห็นฉากนั้น เป็นเรื่องบังเอิญล้วนๆเยี่ยเฟิงแม้จะไม่ได้พูดอะไรสักคำ แต่นางก็รู้สึกได้เขามองนางเป็นเพื่อน และเพราะว่ามองนางเป็นเพื่อน จึงไม่อยากให้นางเห็นฉากที่น่าอับอายที่สุดของเขา“ร่างกายยังไหวหรือไม่? ห่กไม่ไหว เราพักที่นี่ก่อนก็ได้”“ไหว ไปกันเถอะ ประเดี๋ยวเหล่าทหารจะไล่ตามมา”เยี่ยเฟิงเดินนำไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่ปรากฏสีหน้าใดๆฝูกวงอธิบาย “วันนั้นในป่าไผ่ที่พลัดหลงกับนายหญิง พวกข้าเจอกับนายท่านของเผ่าหมอหลายคน พวกข้ายืนหยัดต่อสู้ไม่ไหว เยี่ยเฟิงขาช้าก็เลยถูกจับไป ข้าน้อยหานายหญิงไม่เจอ จึงแอบแฝงตัวเข้าไปในเผ่าหมอเพื่อไปช่วยเยี่ยเฟิง แต่ไม่นึกว่าจะเจอนายหญิงในเผ่าหมอ เรื่องต่อจากนั้น นายหญิงก็รู้แล้ว”“อืม ไปกันเถอะ”วัดไป๋อวิ๋น ที่นี่เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดของวัดชิงหง มีผู้มาทำกราบไหว้ไม่ขาดสาย ภายในวัดมีสามเณรน้อยเดินไปมาให้เห็นกู้ชูหน่วนประนมมือด้วยท่าทางนอบน้อม "ท่านเณรน้อย ได้ยินมาว่าวัดไป๋อวิ๋นศักดิ์สิทธิ์มาก พ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 255

    เมื่อพลังของค่ายกลลดลง กู้ชูหน่วนจึงพบทางลับเข้าไปได้แต่ทางลับนี้กลับไม่ใช่ทางลับที่เพิ่งแยกจากหัวหน้าเผ่าหมอมานางรู้สึกสงสัยค่ายกลนี้แปลกประหลาดอะไรเช่นนี้?เมื่อครู่ยังป้องกันได้อย่างแน่นหนา ไม่มีที่ให้โจมตี แต่ยามนี้กลับกลายเป็นค่ายกลที่พุพังไปได้?มีใครมาช่วยนางทลายค่ายกลไปครึ่งหนึ่งหรือไม่?มีใครในเผ่าหมอช่วยนางทลายค่ายกลหรือไม่?หรือว่าจะเป็นอาโม่?"นายหญิง เราพบทางลับเข้าไปแล้ว ทำไมยังไม่รีบออกไป หรือว่าจะต้องตามหาอะไรอีกหรือ" ฝูกวงถามด้วยความมึนงงไม่ไกลนัก หัวหน้าเผ่าหมอยกมุมปากด้วยรอยยิ้มที่หยิ่งยโส แล้วยกมือขาวขึ้นเบาๆ ดมกลิ่นดอกไม้ในมือด้วยท่าทางกระหาย และเปล่งเสียงออกมาจากมุมปาก"โง่นัก นางกำลังตามหาข้าอยู่แน่นอน หากหาข้าไม่เจอ นางจะหนีไปได้อย่างไร"กู้ชูหน่วนกวาดตามองไปรอบๆ ที่นี่เงียบสงบ ไม่มีเงาของใครเลย แต่ไกลออกไปมีแสงไฟลุกโชน ไม่รู้ว่ามีทหารจำนวนเท่าใดกำลังตามล่าพวกนางอยู่นางเหลือบมองทางลับ แล้วมองไปยังแสงไฟที่อยู่ไกลออกไป กัดฟันแน่น "ไป"อาโม่เดินเล่นในเขาดูดวิญญาณราวกับเดินเล่นในสวนของตัวเอง คงจะรอนางไม่ไหวแล้วน่าจะจากไปแล้วแล้วนางก็รู้ทางลับหลาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 254

    กู้ชูหน่วนเดินวนกลับมาอีกรอบนางเอามือลูบขมับที่ปวดตุบ แล้วเอ่ยออกมาเสียงเบาว่า "พวกเราติดอยู่ในค่ายกลแล้ว และเป้นค่ายกลที่ทรงพลังมากๆ ด้วย""นายหญิง ท่านมีวิธีทลายค่ายกลนี้หรือไม่"กู้ชูหน่วนส่ายศีรษะนางไม่เคยเห็นค่ายกลที่ซับซ้อนขนาดนี้มาก่อนในชีวิต หากจะให้ทลายคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามถึงห้าปี"หากทางลับออกไปไม่ได้ ข้าขออาสาคุ้มกันให้พวกเจ้าออกทางประตูใหญ่""ข้าจำได้ว่ามีทางลับหลายทาง ไปทางนี้กันก่อนดีกว่า แล้วค่อยออกทางประตูใหญ่""ได้"หัวหน้าเผ่าหมอถูกตบหน้าเข้าอย่างจังเซวี่ยซาก้มศีรษะลงต่ำ แทบอยากหายตัวไปเลยเสียประเดี๋ยวนี้เขาคิดว่าหัวหน้าเผ่าหมอจะโกรธ แต่กลับได้ยินเสียงของหัวหน้าเผ่าหมอที่เรียบเฉยดังขึ้น"ถูกต้องแล้ว ไปทางนี้แหละ เมื่อครู่ข้ารอนางอยู่ที่ทางลับนั่นเอง"เซวี่ยซา "เอิ่ม......""เซวี่ยซา ไปดูกันดีกว่า""ขอรับ"เซวี่ยซาเดินตามหัวหน้าเผ่าหมอ และตามพวกกู้ชูหน่วนติดๆทว่าพวกกู้ชูหน่วนเดินวนไปวนมา ราวกับอยู่ในเขาวงกตขนาดใหญ่ นางทำเครื่องหมายไว้ตลอดทาง แต่ก็ยังวนกลับมาอยู่ดี หากไม่ใช่เพราะพวกเขาเปิดทางให้ คงปะทะกับยามเฝ้าเวรไปแล้วเขาเตือนด้วยความระมัดร

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status