Share

บทที่ 84

Penulis: เย่ชิงขวง
last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-17 10:52:24
"ก็ได้ เช่นนั้นก็เริ่มกันเถอะ"

เจ๋ออ๋องปัดมือหมอหลวงออก อดทนความเจ็บปวดเอาไว้ "กู้ชูหน่วน เจ้ากล้าเดิมพันอีกตาหรือไม่"

"เดิมพันอีกแล้ว? เจ้ามีเงินพอให้แพ้อีกหรือ?"

บ่าวเอ่ยเตือนอย่างกังวลใจ "ท่านอ๋อง จะเดิมพันอีกไม่ได้แล้วนะขอรับ ตอนนี้เราไม่มีเงินแล้ว"

เจ๋ออ๋องแพ้จนคลั่งไปแล้ว สนใจคำเตือนของบ่าวเสียที่ไหน เขาเอ่ยอย่างไม่ลังเล "ข้ามัดจำด้วยจวนเจ๋ออ๋อง และเรือนอีกหกหลังภายใต้ชื่อจวนเจ๋ออ๋อง หากเจ้าแพ้ เจ้าต้องคืนเงินห้าล้านตำลึงให้ข้า รวมกับมือทั้งสองข้างของเจ้าด้วย"

เขาไม่เชื่อหรอกว่านางคนไม่เอาไหนจะแต่งโคลงกลอนได้

กู้ชูหน่วนเอ่ยเสียงเย้ยหยัน "ท่านเจ๋ออ๋อง แต่จวนเจ๋ออ๋องกับเรือนอีกหกหลัง แต่คิดจะแลกกับเงินห้าล้านตำลึงและสองมือของข้า จวนเจ๋ออ๋องของเจ้าทำงานทองหรือไร?"

บางคนเผลอหัวเราะออกมา

เจ๋ออ๋องหน้าเขียวจนม่วง

นอกจากจวนเจ๋ออ๋องและเรือนอื่น เขาก็แพ้จนหมดเนื้อหมดตัวแล้ว

ครั้นคิดจะเอ่ยปากขอยืมเงินจากใครดี กู้ชูหน่วนก็พูดแทรกขึ้น

"เพราะสงสารเจ้าหรอกนะ เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะเดิมพันกับเจ้า แต่ว่านะเจ๋ออ๋อง เจ้าคิดให้ดีละ หากเจ้าแพ้ครั้งนี้ เจ้าคงสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว"

"วางใจเถิด ข
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP

Bab terkait

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 85

    ห้าคนแข่งขัน ฉางเจินและฉางผิงเขียนๆ หยุดๆ ตั้งสมาธิใช้ความคิดเยี่ยเฟิงยังคงนั่งหลังตรงประหนึ่งต้นไผ่ เขาก้มหน้า แพขนตาไม่มีกะพริบ มือจับพู่กันตวัดเขียน ผ่านไปไม่นานก็แต่งกลอนไปเกือบสิบบทแล้วเจ๋ออ๋องแม้จะเขียนไม่หยุด แต่ก็ร้อนรนไม่อาจสงบนิ่ง มือเกาไม่หยุด เรียวคิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันแน่ กลอนที่แต่งเสร็จแล้วเดี๋ยวเดียวก็ถูกขยำทิ้งเมื่อหันไปมองกู้ชูหน่วนที่อ้าปากหาวอย่างเกียจร้าน ทว่ามือเองก็ไม่หยุดเขียน ตวัดแปรงแต่งกลอนบหนึ่งจนเสร็จ แม้จะเสร็จเป็นคนสุดท้าย แต่กลอนที่นางแต่งนั้น เว้นแต่เทียบกับเยี่ยเฟิงแล้ว นางนั้นแต่งได้จำนวนมากที่สุดอาจารย์สวีสบถด่าเหมือนเช่นเคย "จองหอง จองหองเกินไปแล้ว ป่านนี้แล้วนางยังเสแสร้งให้ใครดูอีก"ผู้ชมจากสำนักบัณฑิตหลวงต่างส่ายหน้าถอนหายใจต่อให้ชนะสองรอบแล้วอย่างไรเล่า แต่สามรอบสุดท้ายก็แพ้อยู่ดีเท่าที่พวกเขาคาดการณ์ บัณฑิตยากจนอย่างเยี่ยเฟิงคงเป็นผู้ชนะในครั้งนี้กู้ชูหน่วนเขียนเร็วนัก นางเขียนเสร็จก็เขียนอีกบทต่อ สี่คนที่เหลือถึงกลับเงยหน้าขึ้นมองกู้ชูหน่วนอย่างประหลาดใจไม่รู้ว่านางมีแผนการอะไรอีกกันแน่แม้แต่ฮ่องเต้ยังตกตะลึงกู้ชูหน่วนแต

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 86

    เหล่าทูตจากแคว้นฉู่ แคว้นจ้าว และแคว้นหวาต่างตกตะลึงอ้าปากค้างกลอนที่กู้ชูหน่วนแต่ง กลับเป็นกลอนชั้นดีเสียอย่างนั้นทุกถ้อยคำสามารถกลายเป็นบทกวีดังที่ตกทอดต่อไป ตอนนั้นต่อให้เป็นเซียนกวีก็มิอาจทำได้ นางคือคนธรรมดาจริงๆ หรือ"ยามใดจะคลี่คลาย เหตุทั้งหลายในอดีต คืนวานลมพัดจันทร์ลอยเด่น แต่ใจเจ็บคิดถึงบ้านนั้นเกินต้าน รอบรั้วกระไดงามยังคงอยู่ ทว่าผู้เป็นที่รักนั้นมิอาจสู้อายุขัย หากถามว่าข้าเจ็บเพียงใด คงเหมือนดั่งสายน้ำหลั่งไหลยามวสันตฤดู "เจ๋ออ๋องได้ยินประโยคแรกก็ปาดเหงื่อ ตอนได้ฟังบ่าวอ่านกลอนของนาง เขาก็พยายามเค้นหัวสมอง อยากจะแข่งกับนางสักตั้งแต่พอบ่าวอ่านต่อ ความคิดนั้นของเขาก็ดับมอดลงครั้นยกพู่กันขึ้นจะเขียนต่อ ในหัวก็มีแต่เสียงกลอนตราตรึงใจที่บ่าวอ่านดังก้องซ้ำไปซ้ำมากลอนของกู้ชูหน่วนเอาชนะกลอนเขาขาดลอย ทำเอาเขาคิดอะไรไม่ออก แต่งกลอนแม้แต่บทเดียวยังทำไม่ได้ ทำได้เพียงเหม่อมองปากขันทีที่อ้าๆ หุบยามอ่าน"ยามสุขจงเริงสำราญ ถ้วยทองจอกเหล้าอย่าได้ว่างเปล่า ทุกคนล้วนมีคุณค่า ไม่เหมือนเงินทองใช้แล้วหมดไป""ยามเจอยากพบ จากแล้วได้เจออีกเมื่อใด ลมบูรพาพัดผ่านดอกไม้บานร่วงโรย ห

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 87

    พู่กันในมือเจ๋ออ๋องร่วงตกกระแทกพื้นเสียงดัง ใบหน้าซีดเผือดเสียงของเขาสั่นเครือ "กู้ชูหน่วน เจ้าหลอกข้า"ร่างของกู้ชูหน่วนโงนเงนจนแทบตกเก้าอี้ ความง่วงงุนหายสิ้นเพราะความตกใจ นางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ "เจ้าป่วยก็รีบไปหาหมอ จะมาร้องโวยวายอยู่ที่นี่ให้ได้อะไร? เสียงดังจนข้านอนไม่ได้แล้ว"เจ๋ออ๋องโมโหกลอกตามองบน พยายามพยุงตัวกับโต๊ะ ไม่ให้ตัวเองล้มลงเสียงดังจนนอนไม่ได้อย่างนั้นหรือ?นางนอนหลับแต่ยังสามารถแต่งกลอนที่ไพเราะปานนี้ หมายจะให้เขาทำใจยอมรับไม่ได้แล้วโมโหจนอกแตกตายสินะ?"ศิลปะทั้งสี่แขนง ไม่ว่าจะโคลงกลอนหรือสิ่งใดเจ้าก็ช่ำชองอยู่แล้วใช่หรือไม่? ในเมื่อเจ้าฝีมือดีขนาดนี้ เหตุถึงต้องแสร้งทำเป็นคนไม่เอาไหนด้วย?"กู้ชูหน่วนลูบคาง เอ่ยประโยคที่ทำให้คนล้มหน้าคว่ำจนแว่นแตก"อ๋อ... จู่ๆ หัวสมองมันก็แล่นฉิวขึ้นมา หลังจากเบิกเนตร ข้าก็ลืมไปหมดทุกสิ่ง"เหลวไหลฟังนางเพ้อเจ้อสินางต้องจงใจแกล้งโง่ให้พวกเขาตายใจแน่นอนเซียวอวี่เชียนเอ่ยพึมพำกับตัวเอง "มิน่าละยัยขี้เหร่ถึงได้เที่ยวเดิมพันกับคนไปทั่ว ที่แท้นางจงใจแสร้งว่าตัวเองไม่เอาไหน เพื่อจะได้ชนะเดิมพันเยอะขึ้น"เซียวอวี่เชียนไม

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 88

    ต่างฝ่ายต่างพูด ทั้งงานพากันชื่นชมกู้ชูหน่วน ฮ่องเต้แคว้นเย่ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่พอใจ รีบสั่งให้คนไปดูกลอนของยอดฝีมือคนอื่นบ่าวแสดงผลงานกลอนของฉางเจินและฉางผิง พวกเขาทั้งสองคน คนหนึ่งแต่งกลอนได้แปดบท อีกคนหนึ่งแต่งกลอนได้เก้าบท แม้ว่ากลอนจะไม่เลว แต่หากเทียบกับกู้ชูหน่วนแล้วยังคงห่างชั้นเจ๋ออ๋องนั่นแย่ยิ่งว่า นอกจากจะแต่งกลอนได้เพียงห้าบทแล้ว กลอนของเขานั้นไม่ไพเราะเลยสักนิด ลายมือก็ยิ่งไปกันใหญ่ อักษรหวัดไร้ระเบียบ ประหนึ่งว่าเขาแต่งกลอนพวกนี้ด้วยความร้อนรนสุดขีดกู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ "เจ๋ออ๋อง ฝีมือเช่นเจ้า ยังกล้าเอาจวนเจ๋ออ๋องกับเรือนอีกหกหลังมาเดิมพันกับข้าอีกหรือ เหอะๆๆ หน้าใหญ่เสียจริง เขาเตือนแล้วก็ไม่ฟัง คงต้องยอมเจ้าจริงๆ"เจ๋ออ๋องแน่นหน้าอก เลือดในลำคอตีกลับขึ้นมา จนเขาเกือบกลั้นเอาไว้ไม่อยู่นี่คือฝีมือของเขาเสียที่ไหนเพราะเขาถูกผึ้งต่อยจนทั้งตัวมีแต่แผล ทั้งเจ็บทั้งคันมากจริงๆอีกอย่าง...กู้ชูหน่วนทำเขาตกใจจนสติเตลิดไปหมดทว่าคำพูดเหล่านั้น เขาจะพูดออกไปได้อย่างไร"ที่หนึ่งไม่ได้มีแค่เจ้าเพียงคนเดียว เจ้ายังลำพองใจอยู่อีก""แม้ข้าจะไม่ได้ที่หนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่เจ้าแ

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 89

    ผลการแข่งขันแต่งกลอนและเขียนพู่กันปรากฏว่ากู้ชูหน่วนและเยี่ยเฟิงคนหนึ่งเหนือกว่าเรื่องหนึ่ง เสมอกันในคราวนี้กู้ชูหน่วนแต่งกลอนชนะเยี่ยเฟิงและจำนวนกลอนมากกว่า กู้ชูหน่วนจึงเป็นผู้ชนะไปในการแข่งขันทั้งห้ารอบ กู้ชูหน่วนชนะเดี่ยวไปแล้วสองสนาม และชนะร่วมกับเยี่ยเฟิงอีกสองสนาม ยามนี้คงไม่มีใครกล้าท้าทายนางแล้วเสียงถกเถียงดังเซ็งแซ่ไปทั้งงาน"เดาไปเดามา ใครจะไปเดาถูกว่ากู้ชูหน่วนจะชนะ เสียดายที่ข้าเอาเรือนไปลงเดิมพันข้างเจ๋ออ๋องไปเสียหมด เกรงว่ายามนี้คงต้องสินเนื้อประดาตัว""ข้าเองก็พอกัน ข้าลงเดิมพันข้างเจ๋ออ๋องและกู้ชูอวิ๋น แต่กู้ชูอวิ๋นไม่มีสิทธิแม้แต่จะแข่งรอบคัดเลือก ส่วนเจ๋ออ๋อง...เจ๋ออ๋องก็ถูกจ้องเล่นงาน เหตุใดข้าถึงได้ซวยเช่นนี้ หากลงเดิมพันข้างเยี่ยเฟิงก็คงไม่อนาถปานนี้""จบเห่แล้ว ข้าลงเดิมพันข้างเจ๋ออ๋องหมดหน้าตัก ข้าคิดว่าเจ๋ออ๋องสติปัญญาหลักแหลม อย่างน้อยก็ต้องชนะสักรอบ แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะได้ที่โหล่""ไม่...ไม่มีใครเดิมพันข้างกู้ชูหน่วนเลยหรือ?""เหมือนจะมี อาจารย์ซ่างกวานเดิมพันข้างกู้ชูหน่วนหนึ่งพันตำลึง บอกว่าเป็นกำลังใจให้กับศิษย์""เจ๋ออ๋องกับกู้ชูอวิ๋นก็เป็น

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 90

    เจ๋ออ๋องตวาดลั่น "ไม่จำเป็น" ต่อให้เขาต้องเร่ร่อนริมถนน ก็ไม่ต้องการห้องหับที่เจียดจากนางหรอก"ท่านลุง มอบโฉนดที่ดินให้แก่นาง""เอ่อ... ท่านอ๋อง... ให้จริงหรือ?"ท่านลุงหวังเสียงสั่น นั่นเป็นบ้านหลังเดียวของพวกเขา หากต้องมอบให้นางอีกคนสิ้นเนื้อประดาตัวแล้วจริงๆ"ให้ไป" เจ๋ออ๋องเอ่ยเสียงขุ่น ไม่สนใจว่าฮ่องเต้แคว้นเย่และเหล่าทูตยังอยู่ เดินจ้ำออกไปจากงานประลองศิลปะ หลงเหลือไว้เพียงแผ่นหลังอันเปล่าเปลี่ยวทุกคนมองเจ๋ออ๋องอย่างเห็นใจเจ๋ออ๋องชาติกำเนิดสูงส่ง มีทั้งฝีมือและความสามารถ หน้าตาหล่อเหลา คือองค์ชายขี่ม้าขาวของหญิงสาวแคว้นเย่ทว่างานประลองศิลปะครั้งนี่ นอกจากเจ๋ออ๋องจะพ่ายแพ้จนหมดตัวแล้ว ชื่อเสียงยังบ่นปี้อีกต่างหาก เรียกได้ว่าตกจกสวรรค์ตรงดิ่งสู่นรกมิปานฮ่องเต้แคว้นเย่หมดอารมณ์ จนถึงตอนนี้เขารู้ซึ้งแล้วว่าถ่มน้ำลายรดฟ้าเป็นอย่างไรเสี่ยวหลี่จื่อเอ่ยสุมไฟ "ฝ่าบาท ใครต่างก็รู้ดีว่า คุณหนูสามจวนอัครเสนาบดีไม่รู้หนังสือ แต่เหตุใดจู่ๆ ถึงได้เก่งกาจเพียงนี้? ข้าทาสว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล""เอ่อ... หมายความว่าอย่างไร?" ความหวังอันมืดมนฮ่องเต้แคว้นเย่พลันสว่างรำไรขึ้นมา"กล

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 91

    "คุณหนูกู้กล้าลองหัวข้อดอกเหมยอีกสักสามบทไหม?""ฟังให้ดีมิต้องกลัว เหมยขาวบานบนยอดกิ่งหยง ขึ้นสะพานข้ามห้วยกลับบ้าน มิรู้ดอกไม้บานก่อนหน้า หรือว่าฝ่าลมหนาวรอดชีวิต""ดอกเหมยแลหิมะแข่งรับวสันต์ กวีลังเลจรดหมึก นึกตำหนิฝ่ายใด ดอกเหมยแพ้แก่หิมะขาว หยาดน้ำฟ้าพ่ายแก่สุคนธา""แว่วดอกเหมยบานรับลมวสันต์ ครั้นขุนเขารอบทิศนั้นยังโพลนขาว ต้องมีทรัพย์นับคณาเท่าใดหนอ จึงบันดาลให้เหมยบานตลอดไป"ทั้งงานเงียบสงัด ทุกคนอ้าปากค้างกู้ชูหน่วนกลายเป็นจุดสนใจของดวงตาทุกคู่ นางเองก็ยินดีให้ทุกคนได้มอง มุมปากยกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างห้ามไม่อยู่แต่งกลอนเธอแต่งไม่เป็นหรอก แต่อย่างน้อยก็ท่องกลอนได้ไหมล่ะ?อย่าว่าแต่สามบทเลย สามสิบบท เธอก็เชื่อว่าเอาอยู่แม้ฮ่องเต้น้อยอยากจะเก็บฮุบสมบัติล้ำค่านั้นไว้มากเพียงใด ก็คงไม่มีหวังแล้ว"กงกง ไม่รู้ว่ากลอนสามบทนี้ของข้าเป็นอย่างไรบ้าง? พอใช้ได้หรือไม่?"แม้เสี่ยวหลี่จื่อจะอยากกลั่นแกล้งนางเพียงใด แต่ไม่พูดไม่ออกแล้วผู้ชมที่เพิ่งได้สติกลับมา พากันยกนิ้วให้ แต่ละคนเอ่ยชมไม่หยุดปาก"แม่เจ้า คุณหนูสามตระกูลกู้คือเซียนกวีกลับมาเกิด ไม่สิ นางเก่งยิ่งกว่าเซียนกวี คุณหน

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 92

    เยี่ยเฟิงครุ่นคิด ผ่านไปครู่ใหญ่ก็ยังไม่ได้คำตอบทุกคนอดสงสัยไม่ได้คนมากมายคิดหาวิธีแทบตายเพื่อเข้าเรียนในสำนักบัณฑิตหลวง ฝ่าบาทแหกให้บัณฑิตยากจนอย่างเขาเข้าเรียน เขายังลังเลอะไรอยู่?หรือเขาไม่รู้ว่าคนที่สำเร็จจากสำนักบัณฑิตหลวงนั้นเป็นขุนนางใหญ่โตในราชสำนักขณะที่ทุกคนคิดว่าเขาจะปฏิเสธ เยี่ยเฟิงถึงได้ตอบเสียงเรียบ "ยินดี"เฮ้ย...พูดแค่ว่ายินดีอย่างนั้นหรือไม่มีแม้แต่ความดีอกดีใจเลยหรือ?ผู้ชมถกเถียงกันอย่างอดไม่ได้ บัณฑิตยากจนก็คือบัณฑิตยากจนอยู่วันยังค่ำ เกรงว่าจะไม่รู้จักแม้กระทั่งสำนักบัณฑิตหลวงกู้ชูหน่วนสะกิดศอกเขาพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "จากนี้เราก็เป็นเพื่อนร่วมสำนักกันแล้ว เรียกข้าว่าศิษย์พี่สิ แล้วข้าจะปกป้องเจ้าเอง"เยี่ยเฟิงเหลือบมองนางอย่างเรียบเฉย ไม่เอ่ยคำใดแต่เดินเข้าไปรับรางวัลจากฮ่องเต้แคว้นเย่กู้ชูหน่วนลูบจมูกนี่เธอ...ถูกเมินอย่างนั้นหรือ?การประลองศิลปะปิดฉากลง กู้ชูหน่วนเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ณ ห้องเรียนหนึ่งในสำนักบัณฑิตหลวงกู้ชูหน่วนและเซียวอวี่เชียนมองกระดิ่งภินวิญญาณในกล่องไม้แล้วมองหน้ากันเจ้ากระดิ่งภินวิญญาณนี่สีดำ ไม่ต่างจากกระดิ่งทั่วไป

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-17

Bab terbaru

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 144

    ก่อนที่เด็กหนุ่มจะตอบ กู้ชูหน่วนก็ลูบคางพลางเอ่ยอย่างใจเย็นว่า “ด้วยความสามารถของเจ้า เจ้าคงคิดว่าการตัดแขนขา ควักตา และตัดหูของข้าคงง่ายดายราวกับบี้มดตัวหนึ่งใช่หรือไม่? ถ้าเช่นนั้น ทำไมเจ้าถึงต้องลำบากเขาด้วย?”“หรือว่าเขามีเรื่องบาดหมางกับเจ้า เจ้าเลยเกลียดเขา? จุ จุ จุ ดูท่าทางของเขาสิ ช่างน่าสงสารเสียจริงๆ ข้าว่าคงไม่กล้าเป็นศัตรูกับเจ้าหรอก ให้ข้าเดานะ เจ้าคงอิจฉาเขามากกว่า อิจฉาที่เขามีหน้าตาหล่อเหลากว่าเจ้า หรืออาจอิจฉาที่เขาได้ดิบได้ดีในเผ่าหมอมากกว่าเจ้า เลยคิดแผนทรมานเขา”ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนพูดสีหน้าของเจียงซวี่ก็ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ แววตาที่โหดเหี้ยมก็ยิ่งรุนแรงขึ้น“ดูเหมือนข้าจะเดาถูกนะ” กู้ชูหน่วนมองเด็กหนุ่มราวกับสงสารเขา“ลองดูตัวเองสิ ติดตามนายอะไรเนี่ย กลับตัวกลับใจเถิด เจ้าปกป้องข้าจนโดนแทงมาขนาดนี้ ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี”เด็กหนุ่มไม่แม้แต่จะมองกู้ชูหน่วน แค่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆเจียงซวี่หัวเราะลั่นทันที “เดาถูกแล้วจะอย่างไร ข้าแค่ต้องการเห็นเขาทรมาน เขาใจดีนักมิใช่หรือ ข้าอยากจะดูว่า เพื่อให้มีรอดชีวิต เขาจะยอมฆ่าเจ้าหรือไม่”“ข้าขอเดาเพิ่มนะ คงเป็นครั้งแรกที่เจ้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 143

    กู้ชูหน่วนกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา "เป็นพวกเจ้าเองที่พาข้าวิ่งมาตลอดทาง และมองข้าเป็นหญิงผู้อ่อนแอที่ไม่มีทางสู้ แล้วข้าจะไม่ตอบสนองความต้องการแบบผู้ชายเป็นใหญ่ของพวกเจ้าได้อย่างไร""…"เซียวอวี่เชียนโกรธจนตัวสั่นเด็กหนุ่มก็สีหน้าไม่สู้ดีมีดาบจำนวนมากขนาดนี้ หมายความว่าพวกเขาโดนฟันอย่างเปล่าประโยน์เมื่อเห็นว่ามีคนกลุ่มใหม่ล้อมพวกเขาเข้ามา กู้ชูหน่วนก็หรี่ตาลง มุมปากยกขึ้นยิ้มเยาะ "ตัวเอกมาแล้ว"ในขณะที่เซียวอวี่เชียนและเด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น ทั้งคู่ก็แข็งทื่อดวงตาเย็นชาของเด็กหนุ่มหรี่ลงทันที หายใจหนักขึ้น ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยกู้ชูหน่วนมองออกเขากำลังกลัว กลัวคนกลุ่มนี้เซียวอวี่เชียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง "หน้ากากกะโหลก พวกเจ้าเป็นคนของสิบสองกองธงแห่งเผ่าหมอใช่หรือไม่?เผ่าหมอ?เหอะ โลกยุทธภพมีเผ่าหมอด้วยหรือ?กู้ชูหน่วนพิจารณาอีกฝ่ายอย่างละเอียดแต่กลับพบว่าอีกฝ่ายมีเพียงสามสิบหกคนเท่านั้น แต่ละคนถือธงบุปผา และสวมเสื้อคลุมสีดำ ใบหน้าปิดด้วยหน้ากากกะโหลกศีรษะหัวหน้าคือชายหนุ่มวัยยังน้อย ผู้ซึ่งไม่ได้สวมหน้ากาก ใบหน้าดูหล่อเหลา แต่แววตากลับเผยความโหดเหี้ยมเป็นระยะ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 142

    "ปัง..."เสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับระเบิดกลางอากาศดังขึ้นอีกครั้งหญิงวัยกลางคนงถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าซีดเผือก เด็กหนุ่มกระอักเลือดออกมาหนึ่งอึก อวัยวะภายในปั่นป่วนอย่างรุนแรง หากไม่เกาะผนังไว้ คงล้มลงไปแล้ว“เจ้ากล้าใช้การต่อสู้แบบแลกชีวิตมาสู้กับข้าอย่างนี้หรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากสู้กันต่อ ข้าอาจไม่ตาย แต่เจ้าต้องตายแน่”“แค่ชีวิตสกปรกโสโครก ตายไปก็ตายไป” เด็กหนุ่มพยายามกลืนเลือดที่ค้างอยู่ในคอลง ให้ตัวเองดูเป็นปกติมากที่สุดหญิงวัยกลางคนตะคอก “ตกลงนางกับเจ้าเป็นอะไรกันแน่?”“ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น แค่ไม่อยากให้เจ้าได้กระดิ่งภินวิญญาณนั่น”“ดีมาก บัญชีนี้พวกข้าเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานจะจดจำไว้ เจ้าจงรอรับการล้างแค้นอย่างบ้าคลั่งของพวกข้าได้เลย”หญิงวัยกลางคนเบิกตาจ้องกู้ชูหน่วนและเด็กหนุ่ม ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง สุดท้ายก็ไม่รู้ว่านึกถึงอะไรจึงจากไปด้วยความแค้นหลังนางจากไป เด็กหนุ่มก็รีบกุมหน้าอกแน่น กระอักเลือดออกมาอีกหนึ่งอึกใหญ่ ขาของเขาคุกเข่าลงไปโดยไม่รู้ตัว ราวกับกำลังแบกรับความเจ็บปวดอันแสนสาหัส"ไม่เป็นไรใช่หรือไม่"กู้ชูหน่วนทิ้งเมล็ดแตงโม แล้วเดินไปหาเขา"ปัง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 141

    หญิงวัยกลางคนเดิมทีตั้งใจจะจัดการกับเด็กหนุ่มก่อน แล้วค่อยกลับมาจัดการกู้ชูหน่วน แต่ปรากฏว่าคำพูดของกู้ชูหน่วนฟังไม่เข้าหู นางจึงเปลี่ยนใจทันที"สาวน้อยปากดีนักนะ เอากระดิ่งภินวิญญาณมาให้ข้า ข้าอาจให้เจ้าตายอย่างสงบ แต่หากไม่ เจ้าจะจมกองเลือด""ข้าเป็นคนที่ใครก็มาข่มขู่ได้อย่างนั้นหรือ?" กู้ชูหน่วนเลิกคิ้วย้อนถาม"เหอะ เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา"หญิงวัยกลางคนส่งเสียงเหยียดหยาม นางเหยียบปลายเท้าเบาๆ แล้วปลดปล่อยหัตถ์โลหิตออกไปโจมตีกู้ชูหน่วนกู้ชูหน่วนพิงกำแพงไว้ กอดอก ยืนสงบนิ่ง ราวกับมั่นใจว่าเด็กหนุ่มต้องมาช่วยนางแน่ๆและก็เป็นอย่างที่นางคิด ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังถูกเหล่านักฆ่าล้อมอยู่ เขาก็ยังสามารถเตะหม้อเหล็กจากร้านตีเหล็กไปขวางการโจมตีของหญิงวัยกลางคนได้ทันหม้อเหล็กสัมผัสกับหัตถ์โลหิตแล้วละลายทันทีแม้แต่เหล่านักฆ่าชุดดำก็ตกตะลึงพลังปีศาจโลหิตแข็งแกร่งมากสามารถละลายหม้อเหล็กได้ในพริบตา พลังภายในต้องแข็งแกร่งเพียงใดเด็กหนุ่มเบิกตากว้าง ไม่คาดคิดว่าพลังปีศาจโลหิตของหญิงวัยกลางคนจะร้ายกาจขนาดนี้ เขาอยากจะไปช่วยกู้ชูหน่วน แต่ถูกล้อมไว้ ชายแคระก็พุ่งเข้ามาโจมตีเขาไม่หยุด แทบอ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 140

    ชายแคระปากบอกว่าได้ แต่ดาบในมือกลับฟาดแรงขึ้นทุกที ร้องเสียงดังลั่นด้วยน้ำเสียงหยาบกร้าน“หนุ่มน้อย นางผู้นี้มีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้าถึงได้ปกป้องนางด้วยชีวิตเช่นนี้?”เด็กหนุ่มไม่ตอบ เพียงแต่ตั้งสมาธิรับมือการต่อสู้แต่หญิงวัยกลางคนกลับหัวเราะคิกคักตอบว่า “เขาเป็นของข้า จะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับยัยขี้เหร่เล่า มากสุดก็แค่อยากได้กระดิ่งภินวิญญาณเท่านั้น”“ของที่พวกข้าเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานต้องการ เจ้าก็กล้าแย่ง? กล้ามากเลยนะ”"ปัง..."ดาบโจมตีไม่โดนเด็กหนุ่ม แต่กลับผ่ากำแพงดินหลังเด็กหนุ่มออกเป็นสองท่อน กำแพงดินที่แข็งแกร่งพังทลายลงจนเสียงดังกึกก้อง“เจ้าห้า หลังจากวันนี้ไป เขาอาจเป็นคนของพวกเราเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน เจ้าลงมือเบาหน่อย อย่าทำร้ายเขาจนพิการ”“รู้แล้ว รำคาญเสียจริง”กู้ชูหน่วนยืนอยู่ข้างๆ มองการต่อสู้ในสนามด้วยท่าทีผ่อนคลายชายแคระมีกำลังมาก มีพลังภายในแก่กล้า และลงมือด้วยกำลังอันป่าเถื่อน ส่วนเด็กหนุ่มกลับมีดวงตาเย็นชาและสงบนิ่ง มือเล็กยกขึ้นเบาๆ เสียงพิณกระทบกับดาบ ทุกครั้งที่พุ่งชนกัน ดาบราวกับวัวตกลงไปในทะเลโคลน อ่อนปวกเปียก ไม่ว่าจะฟาดอย่างไรก็ไม่โดนเด็กหนุ่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 139

    กู้ชูหน่วนและเด็กหนุ่มชุดดำถูกกลุ่มคนล้อมไว้ พูดให้ถูกคือ กู้ชูหน่วนถูกพวกเขาล้อมไว้ แต่เนื่องจากเด็กหนุ่มยืนอยู่ข้างๆ นางจึงติดร่างแหไปด้วย พวกที่ล้อมพวกเขามีถึงหลายสิบคน ทุกคนสวมชุดดำปิดบังใบหน้า ถือเคียว และมีสายตาที่ไม่เป็นมิตรหัวหน้าคือชายแคระตัวเตี้ยกับหญิงวัยกลางคนผู้เย้ายวนหญิงวัยกลางคนผู้เย้ายวนส่งสายตามองเด็กหนุ่มอย่างเร้าร้อน "โอ้ หนุ่มน้อย แค่มองรูปร่างของเจ้า ข้าก็น้ำลายไหลแล้ว อยากจะให้เจ้าถอดหน้ากากออก แล้วให้ข้าได้ดูแลเจ้าดีหรือไม่""เจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน" เด็กหนุ่มค่อยๆ เอ่ย"เจ้าตาดีไม่เบา พวกเราหลบซ่อนอยู่ในเขาอินซานมานานหลายปี ไม่คิดว่าจะมีใครจำพวกเราได้""แล้วอีกสองคนล่ะ""แค่พวกเจ้าสองคน ไม่จำเป็นต้องใช้พวกเราทั้งสี่คนหรอก" ชายแคระแบกดาบใหญ่ ดาบนั้นสูงกว่าตัวเขา ทำให้ดูไม่สมส่วนเขาเสียงดัง หน้าตาอัปลักษ์ ตาโปน ราวกับเป็นดวงตาของปลาตาย แต่ร่างกายของเขากลับเต็มไปด้วยพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวกู้ชูหน่วนพยายามค้นหาความทรงจำในสมองของนาง นางพอจะจำได้เลือนลางเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานมีเจ็ดคน แต่ละคนวิทยายุทธเก่งกาจและโหดเหี้ยมมาก พวกเขาฆ่าคนเป็นว่าเล่น เมื่อหล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 138

    กู้ชูหน่วนเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านตีเหล็กกลางเมืองหลวง ริมฝีปากยกขึ้นยิ้มอย่างเกียจคร้านราวกับกำลังพูดกับตนเอง“คืนนี้มืดมิดเงียบสงบ ไม่มีใครอยู่รอบข้าง ใต้เท้าจะไม่ออกมา หรือว่าจะให้ข้าพากลับบ้านไปต้มหม้อไฟดี?”ในความมืดมิด ปรากฏเด็กหนุ่มสวมหน้ากากดำถือพิณเดินออกมาอย่างช้าๆ ร่างกายเปล่งประกายด้วยความเย็นชาเด็กหนุ่มวัยยังน้อย รูปร่างสูงโปร่งสมส่วน โดยเฉพาะชุดรัดรูปที่สวมใส่ ทำให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาอย่างชัดเจนหลังของเขาแบกพิณสีดำสนิท ดูสะดุดตาเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมืดออกมาเพื่อลอบสังหาร แล้วยังแบกพิณมาด้วย คนผู้นี้ช่างมีรสนิยมจริงๆกู้ชูหน่วนพิจารณาเขาอย่างละเอียด รู้สึกว่าดูคุ้นตานางกะพริบตาปริบๆ ยิ้มเอ่ยว่า “หนุ่มน้อย รูปร่างดีจริงๆ ไม่รู้ว่าหน้าตาจะหล่อเหลาแค่ไหน หากว่าหล่อจริง ข้าอาจจะยอมให้จีบก็ได้นะ”เด็กหนุ่มหน้าตายเอ่ยเพียงประโยคเดียวว่า “ข้าต้องการเพียงกระดิ่งภินวิญญาณ”“เช่นนั้นเจ้าบอกข้าทีว่า เจ้าต้องการกระดิ่งภินวิญญาณไปทำไม หรือจะตอบว่ากระดิ่งภินวิญญาณนี้มีอะไรซ่อนอยู่ก็ได้นะ หากคำตอบของเจ้าทำให้ข้าพอใจ ข้าจะมอบมันให้เจ้า”“ข้าต้องการเพียงแ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 137

    "ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง..."อาวุธลับฝังเข้าไปในผนัง ลึกเข้าไปในเนื้อไม้สามส่วน เซียวอวี่เชียนสะดุ้งจนคอหดอาวุธลับนี้ หากโดนคนเข้าล่ะก็ คงทะลุร่างแน่นอน"ใคร? ใครลอบโจมตี?" เซียวอวี่เชียนตะโกนลั่นสำนักบัณฑิตหลวงมียอดีมือคอยปกป้องจำนวนมากเช่นนี้ ยังมีคนแอบเข้ามาฆ่าคนได้อีกหรือ? ช่างจองหองเกินไปแล้วกู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว กำกระดิ่งภินวิญญาณในมือแน่นโดยไม่รู้ตัวนางแสร้งทำเป็นผ่อนคลายและยิ้มเอ่ยว่า "ก็แค่พวกโจรขโมยชั้นต่ำ พวกเขาคงเห็นว่าข้าชนะการเดิมพันมามาก เลยเกิดความโลภน่ะ"เซียวอวี่เชียนแม้จะเจ้าสำราญไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้โง่อาวุธลับสามสิบแปดเล่มนั้นมาพร้อมกับกระบวนท่าสังหาร ผู้มาเยือนไม่ได้คิดจะปล่อยให้ยัยขี้เหร่มีชีวิตอยู่และที่นี่คือสำนักบัณฑิตหลวงแม้ว่าโดยทั่วไปแล้วที่นี่จะดูไม่มีอะไรพิเศษ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่า รอบๆ สำนักบัณฑิตหลวงมียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่จำนวนมากเมื่อใดก็ตามที่มีคนคุกคามชีวิตนักเรียน เหล่าองครักษ์ลับก็จะออกมาปกป้องทันที"ยัยขี้เหร่ พวกโจรขโมยทั่วไปไม่มีวิทยายุทธตัวเบาที่เก่งกาจเพียงนี้หรอก ข้าว่าพวกเขาต้องการเอาชีวิตเจ้านะ""เอาชีวิตอะไรเล่า ข้าไม่ได้ล่วงเกินใครซัก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 136

    ทุกคนต่างถือว่ากระดิ่งภินวิญญาณเป็นสิ่งล้ำค่า ไม่มีใครคิดจะทุบมัน แต่กู้ชูหน่วนกลับคิดนอกกรอบทุบไปหนึ่งทียังไม่แตกกู้ชูหน่วนจึงทุบซ้ำไปซ้ำมาหลายหน แต่ก็ยังไม่แตกจนสุดท้ายนางก็เหนื่อยหอบ"กระดิ่งอะไรเนี่ย แข็งมาก ทุบเท่าไหร่ก็ไม่แตกซักที"เมื่อการทุบกระดิ่งไม่ได้ผล กู้ชูหน่วนก็ลองใช้วิธีอื่นดู เผาด้วยไฟ ลวกด้วยน้ำ แช่ด้วยยา แต่ก็ไม่มีวิธีใดได้ผลกับกระดิ่งภินวิญญาณเลยสักวิธีเดียวไม่รู้ว่ากระดิ่งภินวิญญาณทำมาจากอะไร ถึงได้แข็งแกร่งทนทานขนาดนี้ ไม่ว่าจะใช้ดาบหรือหอกก็ทำอะไรไม่ได้แม้แต่หยกจันทร์เสี้ยว ไม่ว่าจะตรวจสอบอย่างไรก็หาคำตอบไม่ได้กู้ชูหน่วนเริ่มโมโห นางจึงหยิบอิฐขึ้นมา ตั้งใจจะทุบหยกจันทร์เสี้ยวเพื่อดูโครงสร้างภายในแต่หยกชิ้นนี้มีค่าถึงห้าสิบล้านตำลึง นางจึงลังเลใจ ทำให้มือที่ถืออิฐสั่นเทาหากไม่มีสิ่งใดอยู่ภายในหยก หรือหากหยกแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ เงินห้าสิบล้านตำลึงของนางก็จะสูญเปล่าขณะนี้กู้ชูหน่วนถึงได้เข้าใจว่ายามนั้นไทเฮาต้องรู้สึกเจ็บปวดมากเพียงใด"ตุ้บ..."นางกัดฟัน ก่อนจะเหวี่ยงอิฐก้อนใหญ่ทุบลงไปบนหยกอย่างแรง จนหยกงดงามแตกละเอียดหยกจันทร์เสี้ยวแตกแล้ว

DMCA.com Protection Status