Share

บทที่ 69

Penulis: เย่ชิงขวง
"แม่หนู เจ้าช่างบ้าบิ่นนัก"

"ก็ประมาณนั้น"

"ฝ่าบาท คุณหนูสามกู้มาเพื่อสร้างความวุ่นวายโดยแท้ กระหม่อมขอพระองค์ทรงโปรดตัดสิทธิ์การแข่งขันประลองศิลปะของนางด้วยเถิดพะย่ะค่ะ" ขุนนางคนหนึ่งเอ่ย

"เอ๊ะ ท่านพูดเกินไปหรือเปล่า เราเห็นคุณหนูสามกู้มั่นใจเสียปานนั้น ดูท่านางคงมีวิธีเอาชนะยอดฝีมือทั้งหลายได้ เวลาก็ล่วงเลยมามากแล้ว สู้ให้นางลองดูสักตั้งไม่ดีหรือ"

หากเป็นคนมีปัญญาสักนิดคงฟังออก

ฮ่องเต้จงใจให้คุณหนูสามกู้ขายขี้หน้า ถึงได้ไม่ขัดขวางนาง แต่กลับส่งเสริมอีกต่างหาก ดูท่าแล้วฮ่องเต้คงไม่คิดจะไว้หน้าเทพสงครามสักเท่าไร

กู้ชูหน่วนหัวเราะเสียงเย็น ยืดเอวบิดขี้เกียจ "เช่นนั้นพวกเจ้าก็มากันให้หมดเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาข้า รีบหาผู้ชนะ ข้าจะได้กลับไปนอนให้เต็มอิ่ม"

เจ๋ออ๋องสบถด่าอย่างดูแคลน "ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง"

"เหอะ เจ้าเก่งกาจปานนั้น เช่นนั้นก็บอกข้าทีว่าฟ้าสูงเพียงใด แผ่นดินหนาแค่ไหน

"เจ้า..."

"หากเจ้าไม่รู้ก็หุบปากเงียบไปเสีย คิดว่าตัวเองเป็นองค์ชายแล้วสูงส่งนักหรือ ไม่เห็นหัวคนอื่น ก็แค่ชายชั่ววางอำนาจบาตรใหญ่ "

"ฝ่าบาท กู้ชูหน่วนวาจาสามหาว กระหม่อมขอพระองค์ทรงลงโทษนางด้วย" เจ๋อ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 70

    ได้แต่เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก "ใช่ขอรับ คุณชายอี้พูดถูก"ฮ่องเต้ลำพองใจ ราวกับเห็นภาพกู้ชูหน่วนแก้ผ้าวิ่งแล้วอย่างไรอย่างนั้นซ่างกวานฉู่จิบชาอย่างสำราญ ราวกับไม่สนใจกู้ชูหน่วนกับเจ๋ออ๋องแม้แต่นิดแต่อาจารย์สวีกลับยกมือทุบอก เอ่ยคำผรุสวาท "ต่อหน้าฝ่าบาทและเหล่าทูต คุณหนูสามกู้พูดจาโอ้อวดปานนั้น หากแพ้ขึ้นมาจะทำอย่างไร?"นางคือคู่หมั้นของเทพสงครามเชียวนะ เทพสงครามจะยอมให้คู่หมั้นของตัวเองวิ่งแก้ผ้ารอบสำนักบัณฑิตหรืออาจารย์สวีไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเจ๋ออ๋องกัดฟันกรอด "ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายเอง เช่นนั้นข้าก็จะพนันกับเจ้า""เริ่มการแข่งขันได้..."ขันทีหม่ากลัวใจกู้ชูหน่วน แต่ละคำที่นางเอ่ยออกมาหาดีไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าเจ๋ออ๋องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเพียงใดแล้ว จึงทำได้เพียงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาเมื่อได้ยินว่าเริ่มการแข่งขันได้ ทุกคนก็จับพู่กันขึ้นพลางคิดว่าจะวาดสิ่งใดดีกู้ชูหน่วนส่งยิ้มให้เยี่ยเฟิง "เสี่ยวเฟิงเฟิง เช่นนั้น พวกเราก็มาเดิมกันสักตั้ง ดีไหม?"เมื่อได้ยินเสี่ยวเฟิงเฟิงสามพยางค์นั้น ฝ่ามือของเยี่ยเฟิงก็สั่นขึ้นมาโดยไร้สาเหตุปากสีระเรื่อของเขาขยับอ้า "ข้าไม่มีเงิน"

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 71

    หลิ่วเยว่สบตาอวี๋ฮุยวันนี้พี่ใหญ่อาการกำเริบหรือ? เขาจะสู้คุณชายอี้ได้อย่างไร?อาจารย์สวีเดือดดาล "ขุนไม่ขึ้น ขุนไม่ขึ้น อาจารย์ซ่างกวาน ท่านดูคุณหนูสามกู้... ปล่อยให้คนเช่นนี้อยู่ในสำนักบัณฑิต ชื่อเสียงร้อยปีของสำนักบัณฑิตมิป่นปี้เพราะนางหรือ? ไม่ได้ หลังงานประลองศิลปะจบลง ข้าจะขอให้เจ้าสำนักร้องต่อฝ่าบาท สั่งให้คุณหนูสามกู้ออกจากสำนักบัณฑิต""บางที นางอาจจะชนะจริงๆ ก็ได้""นางชนะอย่างนั้นหรือ? คนไม่เอาไหนเช่นนั้นน่ะนะ?"อาจารย์สวีไม่เชื่อเขาสอนหนังสือมาทั้งชีวิต แต่ไม่เคยสอนศิษย์โง่เง่าเช่นนี้มาก่อนเจ๋ออ๋องยิ่งดูแคลนนาง ฝ่ามือชะงักลง ก่อนจะวาดภาพต่อทุกคนคิดว่าอี้เฉินเฟยต้องเดือดดาลเป็นแน่ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะยิ้มเอื้อนเอ่ย "คุณหนูถูกใจข้าน้อยอี้ เป็นเกียรติแก่ข้าน้อยอี้ ในเมื่อคุณหนูสามอยากเดิมพัน เช่นนั้นพวกเรามาเริ่มกันตานี้เลย""คุณชายอี้..." สองยอดฝีมือแคว้นจ้าว ฉางเจิน ฉางผิง ตื่นตกใจหากแพ้ขึ้นมา พวกเขาจะอธิบายกับคุณชายอี้อย่างไร"ไม่เป็นไร พวกเจ้าแข่งอย่างสบายใจเถิด แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดา ต่อให้แพ้ก็มิต้องกังวล"อี้เฉินเฟยใจเย็นเกินไปหรือไม่?ทนฟังคำพูดเช่นนั้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 72

    "เอ่อ..."ขันทีหม่าตั้งตัวไม่ทันเซียวอวี่เชียนปาพัดในมือทิ้ง เอ่ยเสียงขุ่น "ยัยขี้เหร่ จะหมดเวลาหนึ่งก้านธูปแล้ว เจ้าช่วยตั้งใจหน่อยจะได้ไหม?""รู้แล้วน่า เร่งอยู่ได้"กู้ชูหน่วนโบกมือปัด ให้คนใช้ยกอาหารที่เหลือไปในงานนั้นนอกจากซ่างกวานฉู่และอี้เฉินเฟยแล้ว ไม่มีใครเชื่อว่ากู้ชูหน่วนจะชนะ เพราะธูปใกล้จะดับถึงก้านแล้ว ยอดฝีมือต่างวาดกันเสร็จแล้ว รอเพียงแค่กู้ชูหน่วนกู้ชูหน่วนยกพู่กันขึ้นอย่างอ้อยอิ่ง มองกระดาษมองแล้วมองอีก ราวกับลังเลว่าจะลงพู่กันตรงไหนดี ทำเอาเซียวอวี่เชียนร้อนใจจนนั่งไม่ติดที่เสียงหัวเราะดังไปทั่วงาน ประหนึ่งกำลังเยาะเย้ยกู้ชูหน่วนผ่านไปนาน กว่ากู้ชูหน่วนจะยกพู่กันขึ้น วาดดอกไม้ดอกหนึ่งลงบนกระดาษ ดอกโบตั๋นที่บานสะพรั่งดอกโบตั๋นดอกนั้นมิได้พิเศษแต่อย่างใด เรียกได้ว่าแสนธรรมดา เพียงแต่งามกว่าเมื่อเทียบกับตอนวาดหมากดำที่สำนักบัณฑิต"ประหลาดนัก เวลาสั้นๆ เพียงแค่คืนเดียว ฝีมือวาดภาพของกู้ชูหน่วนก้าวหน้าขึ้นเพียงนี้ ถึงกับวาดดอกโบตั๋นสีสันสวยงามได้เพียงนี้เชียว""ก้าวหน้าแล้วอย่างไรเล่า ก็แค่ดอกไม้ธรรมดาดอกหนึ่ง เจ้าคิดว่าจะมีประโยชน์อันใด? เลือกใครสักคนตรง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 73

    "เพ้อเจ้ออะไรของเจ้า""ข้าเพ้อเจ้อเสียที่ไหน? ภาพอธิษฐานขอพรจากสาวทอผ้ามิใช่เจ้าวาดหรอกหรือ""ข้าแค่วาดภาพอธิษฐานขอพรจากสาวทอผ้า ข้าต้องมีคนในใจด้วยหรือ?""หากในหัวเจ้าไม่มีความคิดสกปรก เจ้าจะวาดภาพอธิษฐานขอพรจากสาวทอผ้าหรือ? ที่เรียกว่ายามทิวาคำนึงหา ยามราตรีเฝ้าเพ้อฝัน เจ๋ออ๋องอ่านตำรามากมาย คนไม่เอาไหนอย่างข้ายังเข้าใจ คนอย่างท่านจะไม่เข้าใจหรือ เหอะๆ คนเรามองแต่ภายนอกมิได้จริงๆ คนบางคนภายนอกดูสุขุม แต่ความจริงแล้ว... หึๆๆ.."ทุกคนเข้าใจในทันใด ดูสิสายตาของเจ๋ออ๋องก็เปลี่ยนไปแล้วเจ๋ออ๋องท่าทางสุภาพอ่อนน้อม คิดไม่ถึงเลยว่าในใจจะโสมมเช่นนี้ ไม่รู้ลับหลังแล้วเขาสกปรกเพียงใดเจ๋ออ๋องคิดว่าแค่อยู่กับกู้ชูหน่วน เขาต้องโมโหจนอกแตกตายไปไม่รู้กี่ร้อยหนแค่ภาพอธิษฐานขอพรจากสาวทอผ้า นางกลับปั้นน้ำเป็นตัว จนเขาไม่รู้จะโต้กลับอย่างไรชื่อเสียงของเขา ต้องป่นปี้ไม่เหลือชิ้นดีเพราะประโยคเดียวของนางเจ๋ออ๋องหมายจะระเบิดอารมณ์ แต่ขันทีหม่าชิงพูดขึ้นเสียก่อน"ภาพวาดของเยี่ยเฟิงคือร้อยวิหคโบยบิน"เมื่อภาพวาดคลี่ออก ทั้งงานถึงกลับต้องร้องสูดปาก บางคนถึงขั้นลุกยืนขึ้นด้วยความตกใจความประหล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 74

    ทุกคนตกตะลึงดอกโบตั๋นนั่นคือภาพวาดมิใช่หรือ?เหตุใดถึงดึงดูดผีเสื้อมากมายเช่นนั้น?หากมิได้เห็นด้วยตาของตัวเอง พวกเขาคงคิดว่าดอกโบตั๋นดอกนั้นมีอยู่จริงเอ่อ...เหลือเชื่อไปหน่อยกระมัง...รอยยิ้มบางของฮ่องเต้แคว้นเย่แข็งค้างไป คิดไม่ถึงเลยว่าจะหักมุมเช่นนี้เทพหมากล้อมตั้งสติได้คนแรก เขาเอ่ยอย่างตกตะลึง "ช่างเป็นดอกไม้ที่เหล่าผีเสื้อหลงใหล แม่หนู เจ้าทำได้อย่างไร? ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดสามารถวาดภาพบนกระดาษที่ดึงดูดผีเสื้อได้เช่นนี้ ""เรื่องนั่นน่ะหรือ... เพราะข้าวาดเก่งน่ะสิ" กู้ชูหน่วนขยิบตาเจ้าเล่ห์ ยิ้มอย่างมีเลศนัยซ่างกวานฉู่ อี้เฉินเฟย และเยี่ยเฟิงต่างมองไปยังแท่นฝนหมึกแล้วถึงได้เข้าใจอาจารย์สวีขยี้แล้วขยี้ตาอีก ราวกับไม่เชื่อสองตาของตัวเองภาพ...ภาพของกู้ชูหน่วนสามารถหลอกล่อผีเสื้อได้เชียวหรือ...แม่เจ้า นี่นางเป็นคนไม่เอาไหนหรือเป็นอัจฉริยะกันแน่กู้ชูหน่วนยิ้มเอ่ย "ฝ่าบาท ไม่รู้ว่าภาพผีเสื้ออาลัยบุปผาของข้านี้ พอจะเป็นที่หนึ่งได้หรือไม่"ฮ่องเต้แคว้นเย่นิ่งอึ้งอย่าว่าแต่ภาพวาดเลย ต่อให้มีดอกโบตั๋นจริงๆ อยู่ตรงหน้าก็ใช่ว่าจะดึงดูดผีเสื้อได้มากมายปานนี้หากภา

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 75

    "ฝ่าบาท เจ๋ออ๋องใส่ร้ายข้า น้ำผึ้งเพียงน้อยนิดจะล่อผีเสื้อมามากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? แถมข้าตั้งน้ำผึงไว้บนโต๊ะ แต่ไม่เห็นผีเสื้อมาสักตัว จะบอกข้าทาไว้บนภาพหรือ""เอ่อ...นั่น..." ก็เหมือนจะมีเหตุผล"ผีเสื้อสับสนรูปลักษณ์ภายนอก ก็เพราะถูกดอกไม้ปลอมดึงดูด ถึงได้เข้ามาตอมเกสร"กู้ชูหน่วนผายมือยกไหล่ ท่าทางใสซื่อเหลือหลาย "เจ๋ออ๋องพูดปาวๆ ว่าข้าใช้น้ำผึ้งเป็นกลโกง เช่นนั้นเจ๋ออ๋องลองดูไหมเล่า ดูซิว่าหากผสมน้ำผึ้งลงในน้ำหมึกแล้ว จะล่อผีเสื้อได้หรือไม่""ใช่ เจ๋ออ๋อง เจ้าลองซิ งานประลองศิลปะเช่นนี้จะสะเพร่ามิได้" ฮ่องเต้แคว้นเย่เองก็อยากรู้กู้ชูหน่วนค่อนแคะฮ่องเต้อยู่ในใจเป็นหมื่นเป็นพันหนเจ้าบื้อนี่ต้องถูกเทพสงครามกลั่นแกล้งขนาดไหน ถึงได้อยากใช้เธอหักหน้าเทพสงครามนักทุกคนมองเจ๋ออ๋องที่ผสมน้ำหมึกกับน้ำผึ้งเขาด้วยกันด้วยความสงสัยใคร่รู้ จากนั้นก็วาดดอกโบตั๋นบานสะพรั่ง หวังจะหลอกล่อหมู่ผีเสื้อผ่านไปครู่หนึ่ง แต่กลับไม่มีผีเสื้อแม้สักตัวเข้ามาเชยชมเจ๋ออ๋องไม่ยอมแพ้ ก่อนจะเทน้ำผึ้งลงในน้ำหมึกเพิ่ม แล้ววาดภาพดอกโบตั๋นอีกครั้งกู้ชูหน่วนเห็นดังนั้น ก็พลันถอยห่างจากเจ๋ออ๋องยังมีเยี่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 76

    เหตุการณ์ครั้งนี้ เจ๋ออ๋องเกือบต้องแลกด้วยชีวิตหมอหลวงหิ้วกระเป๋ายาวิ่งเขามาตรวจอาการเซียวอวี่เชียนกลืนน้ำลาย "ยัยขี้เหร่ นี่เจ้าจงใจสาดน้ำผึ้งใส่ตัวเจ๋ออ๋องหรือ""เหลวไหล นั่นเป็นเพราะข้ากลัว ป้องกันตัวเพราะเหตุคับขันต่างหาก"กลัว?นางกลัวเป็นกับเขาด้วยหรือ?เช่นนั้นแม่หมูคงปีนขึ้นต้นไม้ได้แล้วกระมัง"ยัยขี้เหร่ เหตุใดผีเสื้อถึงได้ตอมภาพดอกโบตั๋นของเจ้า? เจ้าไม่ได้ใช้กลโกงน้ำผึ้งหรอกหรือ?"กู้ชูหน่วนยิ้มชอบใจ เอ่ยเสียงยานคาง "เพราะข้าวาดเก่งต่างหาก""เชื่อกับผีน่ะสิ" เซียวอวี่เชียนเลียนน้ำเสียงนาง เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ก็สะใจที่ได้เห็นเจ๋ออ๋องอเนจอนาถเพราะตรวจหาหลักฐานว่าภาพดอกโบตั๋นของกู้ชูหน่วนนั้นใช้กลโกงใดไม่พบ รอบนี้จึงตัดสินให้กู้ชูหน่วนและเยี่ยเฟิงชนะ ครองอันดับหนึ่งร่วมกันกู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นเห็นใจ เอ่ยเสียงน่าสงสาร "เจ๋ออ๋อง ข้าบอกแล้วว่าข้าไม่ได้โกง แต่เจ้าก็ไม่ยอมเชื่อ ดูสิ เหล่าผึ้งถึงได้มาประท้วง""กู้ชูหน่วน ข้าจะฆ่าเจ้า..."เจ๋ออ๋องยืนขึ้นอย่างทุลักทุเล ยากจะบีบกู้ชูหน่วนให้แหลก แต่เพราะถูกผึ้งต่อยสาหัส เขาเพิ่งลุกยืนขึ้นได้ก็ล้มคว่ำคะมำหงายเสียงอย่า

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 77

    ขันทีหม่าเสียงตื่นตระหนก "รอบต่อไปคือการแข่งขันหมากล้อม เทพหมากล้อมตั้งค่ายกลวิจิตร หากผู้ใดแก้กลค่ายนี้ได้ ก็จะเป็นผู้ชนะไป"กู้ชูหน่วนฟังแล้วก็เกาหู เอ่ยอย่างสงวัย "ข้าเป็นเจ้าบ้านมิใช่หรือ? เหตุใดถึงกลายเป็นถึงผู้เฒ่าหลากล้อมไปได้""เอ่อ..."ขันทีหม่าอยากจะเตือนนางหลายสิบปีมานี้ไม่มีผู้ใดแก้ค่ายกลวิจิตรของเทพหมากล้อมได้ คราวนี้เทพหมากล้อมมาถึงสำนักบัณฑิตหลวง คงอยากจะแข่งกับอาจารย์ซ่างกวาน แต่อาจารย์ซ่างกวานกลับไม่ยอมรับคำเชิญ เทพหมากล้อมจึงต้องลงประลองศิลปะ ดูซิว่าจะมีใครล้มค่ายกลนี้ได้หมากกระดานนี้ ต่อให้อาจารย์ซ่างกวานกับคุณชายอี้ช่วยกันก็ใช้ว่าจะแก้ได้ ทางที่ดีคุณหนูสามอย่าบ้าดีเดือดนักเลยเทพหมากล้อมลูบเคราขาวพลางหัวเราะชอบใจ "แม่หนูน้อย ข้าไม่อยากเอารังแกเจ้าหรอกนะ หากเจ้าเดินหมากได้ถึงสามตา ก็ถือว่าเจ้าชนะกระดานนี้แล้ว""ตาเฒ่า เจ้าลืมไปแล้วหรือไร เจ้าแพ้ให้ข้ามาแล้วนะ แล้วหนึ่งแสนตำลึงที่ติดค้างข้าอยู่เมื่อใดจะได้"ผู้เฒ่าเทพหมากล้อมสะอึก ยิ้มเจื่อนพลางล้วงเงินหนึ่งแสนตำลึงออกมาจากอก แล้วโยนให้นาง "เมื่อครู่พลาดพลั้งไปก็เท่านั้น คราวนี้ข้าเองก็อยากเห็นนักว่าเจ้าจะทำ

Bab terbaru

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 446

    เวินเส้าอี๋ยิ้มเยาะกับตัวเอง ด้วยความสัมพันธ์ที่ต้องตายกันไปข้างหนึ่งของสำนักซิวหลัวและเผ่าเทียนเฝิน มีหรือที่ประมุขชิงจะยอมปล่อยเขาไป หากเป็นเขาที่อยู่ในจุดนั้น เขาเองก็ไม่มีทางปล่อยประมุขชิงไปเช่นกัน เวินเส้าอี๋กวาดสายตามองผาหินแวววาวและทะเลโลหิตที่เดือดระอุ เขาเคยคิดว่าจะต้องตายด้วยน้ำมือเจ้าสำนักซิวหลัว เคยคิดว่าต้องตายด้วยน้ำมือหอเลิศหล้า เคยคิดว่าต้องตายด้วยน้ำมือของเย่จิ่งหาน สิ่งเดียวที่ไม่เคยคิดมาก่อนคือต้องมาตายในที่แห่งนี้ "สำนักซิวหลัวและเผ่าเทียนเฝินมีความแค้นอันใดต่อกันกันแน่" กู้ชูหน่วนเอ่ยถาม "เป็นแค้นที่ฝังลึกยิ่งนัก เป้าหมายในการมีชีวิตอยู่ของชาวสำนักซิวหลัวทุกคนก็คือหาแก้วมังกรให้พบ แล้วกำจัดเผ่าเทียนเฝิน อาหน่วน หากเจ้ายังเห็นข้าเป็นสหาย ก็อย่ายุ่งเรื่องนี้เลย" ประมุขชิงไม่ได้อธิบายรายละเอียด แต่จุดยืนของเขาหนักแน่น ไม่เหลือทางให้หันหลังกลับอีกแล้ว เขารวบรวมกำลังภายในไว้ที่ฝ่ามือ ยกมือขึ้นมาตั้งใจจะสะเทือนกระดูกของเวินเส้าอี๋ให้แหลก ไม่พูดถึงเรื่องที่เวินเส้าอี๋ถูกพิษดอกพันรักทำให้ทรมานราวกับตายทั้งเป็น แต่แค่กำลังภายในของเขาที่สูญไปแทบจะหมดสิ้น

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 445

    กู้ชูหน่วนลุกลน อยากจะขวางการถ่ายทอดกำลังภายในให้นางของประมุขชิง ทว่ากลับช้าไปหนึ่งก้าว กำลังภายในของประมุขชิงเหมือนกับเวินเส้าอี๋ ไม่รู้ด้วยเหตุใดถึงได้ถูกนางดูดเข้าไปไม่หยุด "ข้าไม่ต้องการดูดกำลังภายในของเจ้า เจ้ารีบดึงมือออก" "ไม่เป็นไร หากเจ้าต้องการ ข้าให้เจ้าทั้งหมดจะเป็นไรไป" ประมุขชิงคลี่ยิ้ม ภายในดวงตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความทะนุถนอมเอ็นดู เขาไม่ได้ดึงมือออก แต่กลับพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อสยบพิษของดอกพันรัก เมื่อเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความเอ็นดูคู่นั้นและรอยยิ้มที่คุ้นเคย กู้ชูหน่วนก็ยิ่งมั่นใจในความคิดของตน ประมุขชิงก็คืออี้เฉินเฟย กู้ชูหน่วนทั้งร้อนรนทั้งโมโหและทุกข์ทรมาน ที่ร้อนรนเพราะ นางอยากจะเอามือออกแต่กลับทำไม่ได้ ที่โมโหเพราะอี้เฉินเฟยโง่เง่านัก มีผู้ใดบ้างที่จะยอมมอบกำลังภายในที่ตนฝึกฝนมาอย่างยากลำบากให้ผู้อื่น เขาไม่รู้หรือว่านางอาจจะดูดกำลังภายในของเขาจนหมดและตายได้ ที่ทุกข์ทรมานเพราะ พิษของดอกพันรักแล่นไปทั่วทั้งร่างกายของนางยังพอว่า กำลังภายในของประมุขชิงก็หลั่งใหลไปทั่วร่างนางด้วย คล้ายกับร่างของนางถูกดึงให้ฉีกออกจากกันไม่หยุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 444

    เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ก็ไม่รู้ว่าทนกับคลื่นความร้อนไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ พวกเขาทั้งสองเหงื่อโชก ลมหายใจหอบถี่ ล้วนแต่อยู่ในจุดที่กำลังจะทนไม่ไหว ลมอุ่นพัดผ่านไป สติของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋แตกกระเจิงโดยสิ้นเชิง ทนไม่ไหวอีกต่อไป ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน แต่ทั้งคู่ก็คลอเคลียอยู่ด้วยกันแล้ว ในขณะที่พวกเขากำลังจะพัฒนาไปถึงขั้นสุดท้าย ยอดหน้าผาพลันปรากฏเงาร่างสีครามอาบเลือดมือเกาะเถาวัลย์ที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วกระโดดลงมาจากยอดของหน้าผาด้วยความรวดเร็ว สายตาของประมุขชิงมองไปรอบๆ ด้วยความร้อนรน พยายามตามหาหญิงในความทรงจำผู้นั้น คลื่นลาวายักษ์ซัดเข้าไปเป็นระยะ ทุกครั้งที่คลื่นซัดสาด คล้ายกับยืนอยู่ใจกลางกองเพลิงแผดเผาร่างของเขาไม่หยุดหย่อน แต่เขาไร้ซึ่งความหวาดกลัว ดวงตาดื้อรั้นคู่นี้ราวกับว่าหากหากู้ชูหน่วนไม่เจอ ก็จะไม่มีทางรามือ ทันใดนั้น เขาเห็นกู้ชูหน่วนบนผาหินที่ยื่นออกไป หัวใจที่บีบรัดอยู่ของประมุขชิงพลันผ่อนคลายลงมาในพริบตา ทว่าไม่ทันไร ใจของเขาพลันตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง เพราะแววตาของนางล่องลอย เสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบ กำลั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 443

    เวินเส้าอี๋ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองกู้ชูหน่วน เขากลัวว่าหากมองแล้วตนจะทนไม่ไหว ตรงกลางหน้าผา ร่างของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ล้วนแต่ขดตัวเป็นวง ต่างก็พยายามอดกลั้นด้วยชีวิต ลมอ่อนๆ พัดโชยไป เกิดคลื่นลาวาเป็นชั้นๆ ลมที่พัดผ่านไปก็เป็นลมร้อน ไร้ซึ่งความเย็นแต่อย่างใด เจ็บปวดจนเกินจะทน เวินเส้าอี๋พยายามนั่งขัดสมาธิ ปากก็คอยสวดมนต์ไม่หยุด หวังว่าใจจะสงบลงตามธรรมชาติ กู้ชูหน่วนตวาดออกมาอย่างอดไม่ได้ "ให้ตายสิ เวลานี้แล้วยังจะสวดมนต์อะไรอีก หากสวดมนต์ได้ผล แม่หมูคงปีนต้นไม้ได้แล้ว" เขาไม่รู้บ้างเลยหรือ ว่าทันทีที่เขาเอ่ยปาก มีแต่จะกระตุ้นความต้องการที่นางอดกลั้นเอาไว้ด้วยความยากลำบากให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม คิ้วดกดำดั่งขุนเขาของเวินเส้าอี๋ขมวดเข้าหากัน เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว ความรู้สึกนี้หากจะบอกว่า จะอยู่ก็ไม่ได้ จะตายก็ไม่ดี ไม่เกินจริงเลยสักนิด สวดมนต์ก็ไม่อาจทำให้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านรุนแรงของเขาดีขึ้นได้แต่อย่างใด เวินเส้าอี๋จึงยอมแพ้ไป และยังคงขดตัวเป็นวงอยู่ติดกับผาหินอย่างไร้ที่พึ่ง "แม่เจ้าโว้ย ข้าทนไม่ไหวแล้ว" กู้ชูหน่วนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเวินเส้าอี๋สมาธิดีเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 442

    อยู่ดีๆ เหตุใดจึงถูกวางยาเสียได้ กู้ชูหน่วนพยายามคิดทบทวน ทันใดนั้นเอง นางก็พลันโมโหจนต้องตบเข่าฉาด บ้าเอ้ย... เมื่อกี้ตอนที่เวินเส้าอี๋เกาะยึดผาพลางกอดนางไว้ บนกำแพงหินมีดอกพันรักขึ้นอยู่เต็มไปหมด ดอกพันรักเป็นดอกไม้ปลุกกำหนัดที่มีฤทธิ์รุนแรงนัก ยามนี้ดอกพันรักบานสะพรั่ง ทุกที่บนกำแพงหินล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ คนธรรมดาเพียงแค่ดมกลิ่นของดอกไม้ชนิดนั้นเข้าไป ก็จะจมดิ่งลงสู่ห้วงทะเลแห่งความปรารถนา ส่วนพวกนาง......เมื่อครู่สูดกลิ่นของดอกพันรักบนกำแพงไปปริมาณมาก โดยเฉพาะมือของเวินเส้าอี๋ที่ชุ่มไปด้วยเลือดแล้วยังไปสัมผัสโดนเกสรของดอกพันรัก จึงโดนพิษเข้าไปลึกกว่านางนัก กู้ชูหน่วนอยากจะเป็นลมตายลงไปเสียตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด เพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน นางก็ถูกวางยาไปแล้วสองหน อีกทั้งสองครั้งนี้ล้วนแต่เป็นยาปลุกกำนัดอานุภาพรุนแรงทั้งสิ้น "ร้อน......" เวินเส้าอี๋ปากลิ้นแห้งผาก ทรมานจนต้องฉีกคอเสื้อของตนออก กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยความลนลาน "เฮ้ย ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อน หญิงชายไม่ควรใกล้ชิดกัน เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเชียวล่ะ" นางตามหาในแหวนปริภูมิจนทั่วแล้ว ยาส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 441

    นอกเจ้านายท่านหลันและคนอื่นๆ เย่จิ่งหานและพวกต่างก็รู้สึกบีบคั้นหัวใจ เย่จิ่งหานพยายามดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการแล้วออกไปตามหากู้ชูหน่วนด้วยตนเอง เขาไม่อยากจะจินตนาการเอาเองอีกต่อไปว่ากู้ชูหน่วนต้องประสบพบเจอกับเรื่องแบบใดกันแน่ถึงได้กรีดร้องอย่างกับจะขาดใจเช่นนั้น ประมุขชิงตื่นตระหนกยิ่งกว่า ร่างของเขาสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจหยุดได้ ฝีเท้าเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ อาหน่วน... เจ้าอย่าเป็นอะไรไปเด็ดขาด จะต้องรอข้าก่อน หากเจ้าตาย ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติใด ข้าไม่มีวันอภัยให้เจ้าเป็นแน่ เสียงร้องที่หดหู่ดังก้องไปเรื่อยๆ ประมุขชิงมาถึงบริวเวณปากคอขวดน้ำเต้าที่กู้ชูหน่วนเพิ่งไปเมื่อครู่แล้ว บนปากคอขวด มีร่องรอยของกรงเล็บมังกรยักษ์หลงเหลืออยู่ รอยเท้าฝังลึกลงไปในพื้นดิน ทุกรอยเท้ามีความลึกหลายสิบเมตร เห็นได้เลยว่าเรี่ยวแรงที่ประทับลงไปนั้นมหาศาลเพียงใด ทอดมองออกไปยังสนามรบที่เละไม่เหลือชิ้นดีหลังจากการสู้ครั้งใหญ่ของยอดฝีมือ ประมุขชิงสั่นสะท้าน ลึกลงไปในใจรู้สึกถึงลางไม่ดีบางอย่าง อาหน่วนเคยบอกไว้ โลกนี้มีมังกรอสูรขั้นเจ็ดทั้งหมดสองตัว ตัวหนึ่งคือมังกรน้ำ อยู่ในสถ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 440

    แม้ว่ากู้ชูหน่วนจะมีชีวิตถึงหมื่นชีวิต ก็คงต้องตายอย่างแน่นอนภารกิจบนบ่าของเขานั้นหนักอึ้งนัก เขาควรจะสลัดออกไปอย่างเต็มกำลัง เพื่อรักษาพลังปราณที่เหลืออยู่ในร่างกาย แต่......ไม่รู้ทำไม เขาถึงลังเลภาพของกู้ชูหน่วนที่ดูมีชีวิตชีวาและฉลาดหลักแหลมค่อยๆ ปรากฏขึ้นในสมองของเขาพร้อมกับใบหน้าเล็กๆ ของนางที่กำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดและอดทนต่อความทุกข์ทรมานอย่างแข็งขัน เวินเส้าอี๋ก็แอบลังเลเวินเส้าอี๋รีบดึงพลังฝ่ามือของเขากลับ เขาพยายามมาหลายวิธีแต่ก็ไม่ได้ผล ทำได้เพียงเฝ้าดูพลังภายในที่เขาฝึกฝนมาหลายปี ค่อยๆ หายไปในชั่วข้ามคืน และกลายเป็นของคนอื่นเมื่อหันมองกู้ชูหน่วนอีกครั้งใบหน้าเล็กๆ ของนางขมวดเป็นปมด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าอันงดงามไร้ที่ติของนางค่อยๆ เปลี่ยนจากซีดขาวเป็นแดงระเรื่อ ในที่สุดร่างกายของนางก็เหมือนถูกไฟไหม้ ร้อนจนคนไม่กล้าสัมผัสร่างกายของนางรับพลังภายในมากเกินไปไม่ได้ พลังปราณในร่างกายของนางพุ่งชนไปมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับจะทำลายร่างกายของนาง"วิชาดูดพลังคืออะไร" กู้ชูหน่วนอดทนต่อความเจ็บปวดระลอกแล้วระลอกเล่าอย่างอดทน แล้วกัดฟันถาม"……""เวินเส้าอี๋ รีบถอนมือเร็ว

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 439

    ณ หน้าผาเวินเส้าอี๋ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ภาพที่เห็นคือแผ่นหินที่ยื่นออกมาจากกลางหน้าผา เมื่อมองขึ้นไปด้านบนก็เห็นเมฆสีขาวจำนวนมาก ไม่รู้ว่าสูงเพียงใดเมื่อมองลงไปด้านล่างเป็นทะเลโลหิตที่เดือดพล่าน คลื่นเลือดสาดกระเซ็นเป็นระยะๆ อุณหภูมิสูงจนน่าตกใจเมื่อมองไปด้านข้าง กู้ชูหน่วนหมดสติอยู่ข้างเขา ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรเวินเส้าอี๋พยายามลุกขึ้นยืน เดินโซเซไปหากู้ชูหน่วน มือที่เต็มไปด้วยเลือดของเขาลองแตะที่จมูกของนาง ยังมีลมหายใจอ่อนๆ ทำให้ใจที่ตึงเครียดของเวินเส้าอี๋๋ผ่อนคลายลงโชคดีที่มีแผ่นหินที่ยื่นออกมานี้ มิฉะนั้นพวกเขาคงตายไปแล้วหน้าผาสูงเกินไป เขาถูกมังกรไฟทำร้ายสาหัส หากอยู่คนเดียวอาจจะขึ้นไปได้ แต่การพากู้ชูหน่วนขึ้นไปบนยอดผา ช่างยากยิ่งกว่าการปีนขึ้นสวรรค์เสียอีก"เจ้าขมวดคิ้วดูไม่ดีเลย"กู้ชูหน่วนฟื้นตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ แล้วพึมพำเสียงเบา"แค่ก แค่ก......"นางไอออกมาเป็นชุด ไอออกมาเป็นกองเลือดเวินเส้าอี๋จับชีพจรของนาง มองสีหน้าที่อ่อนแรงและซีดเซียวของนาง น้ำเสียงของเขาค่อนข้างหนักแน่น "เจ้าตกจากที่สูง ปอดและอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ""ข้าดวงแข็ง พญายมยังกลัวข้า

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 438

    "ปัง......"กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ตกลงมา เพียงแต่สถานที่ที่ตกลงมาไม่ใช่ทะเลโลหิต แต่ตกลงกระแทกบนแผ่นหินที่ยื่นออกมา"โอ๊ย......"กู้ชูหน่วนส่งเสียงครางเบาๆ เอวของนาง......เกือบหักแล้ว"ฟิ้ว......"เวินเส้าอี๋โยนกู้ชูหน่วนขึ้นไปในอากาศ เพื่อลดแรงกระแทกจากการตกลงมาของนาง ส่วนตัวเองก็ตกลงกระแทกบนแผ่นหินอย่างจัง แรงกระแทกนั้นรุนแรงมาก จนเขาอดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง กระดูกทั่วร่างราวกับแตกกระจาย แม้แต่อวัยวะภายในก็ยังกระเพื่อมอย่างรุนแรงทั้งสองหมดสติไปพร้อมกัน เสียงคำรามของสัตว์อสูรบนยอดผา พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนยังคงดังต่อเนื่องในหุบเขาทางทิศตะวันตก เย่จิ่งหานและน้องเก้าราวกับรับรู้ได้ว่ากู้ชูหน่วนประสบเคราะห์ร้ายเย่จิ่งหานพยายามลุกขึ้นยืน โดยไม่สนใจสิ่งใดๆ ต้องการออกไปตามหากู้ชูหน่วน แต่ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนทำอะไรกับเขา ไม่เพียงทำให้เขาทั้งร่างกายอ่อนแรง พลังภายในสูญสิ้น แม้แต่จะขยับตัวก็ทำไม่ได้เลย จึงทำได้เพียงร้อนใจอยู่ภายใน"หลีลั่ว ส่งคนออกไปทั้งหมด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องนำพระชายากลับมาอย่างปลอดภัย""นายท่าน หากทำเช่นนั้น สถานะของพวกเราก็จะถูกเปิดเผย ถึงย

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status