แชร์

บทที่ 49

ผู้เขียน: เย่ชิงขวง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 10:52:23
กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "หนึ่งล้านตำลึงนั่นเป็นเงินที่ข้าชนะมาด้วยความสามารถของข้าเอง เหตุใดต้องให้ท่าน"

"เหลวไหล เห็นๆ กันอยู่ว่าเจ้าใช้อุบาย" กู้ชูหลันเกรี้ยวกราด ถ้าหากไม่ได้สองแสนตำลึงเงินคืนมา นางก็ไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว

"อ่อ...ข้าใช้อุบายอะไรหรือ หรือข้าบังคับให้เจ้าพนันกับข้า หรือข้าสมคบกับอาจารย์ซ่างกวาน ให้อาจารย์ซ่างกวานช่วยข้าทุจริตเช่นนั้นหรือ"

กู้ชูหลันอึกอักอยู่นาน พูดอะไรไม่ออกสักคำ

อาจารย์ซ่างกวานเป็นผู้ใด

เขาเป็นถึงหนึ่งในสี่อัจฉริยะของแผ่นดิน เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรม ซื่อตรงไม่คดโกง ทั้งยังเป็นคนโปรดที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้ จะช่วยนักเรียนทุจริตได้อย่างไร

อี๋เหนียงห้าเห็นท่าไม่ดีก็รีบเบี่ยงเบนประเด็นทันที "แม้เงินพวกนั้นจะเป็นเงินที่เจ้าชนะเดินพันมา แต่อย่างไรเจ้าก็เป็นคนของจวนอัครเสนาบดี ที่นี่เลี้ยงดูเจ้ามาตลอดหลายปี เจ้าก็ควรจะตอบแทนอะไรบ้างไม่ใช่หรือ"

กู้ชูหลันพลันได้สติ รีบพยักหน้าหงึกๆ "ใช่ เป็นเช่นนี้แหละ"

กู้ชูหน่วนกำมือขวา เก็บป้ายอาญาสิทธิ์ไปด้วยท่าทางองอาจ ก่อนจะก้าวเข้าไปประชิดอี๋เหนียงห้าพลางพูดอย่างโอหัง

"ตอบแทน ? หากไม่ใช่เพราะแม่ข้า เขาจะได้เป็นอัครเสนาบดี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 50

    ตึง...คนในจวนอัครเสนาบดีกู้แทบจะล้มทั้งยืน ทุกสายตามองไปที่กู้ชูหน่วนราวกับเห็นผีผู้ดูแลบ้านวิ่งเข้ามาจากด้านนอกด้วยความกระสับกระส่าย กระซิบข้างหูอัครเสนาบดีกู้สองสามประโยคอัครเสนาบดีกู้เกือบจะเป็นล้มลมพับนังลูกสาวไม่รักดีคนนี้ยกเงินล้านกว่าตำลึงให้คนอื่นไปง่ายๆ เสียได้ นางรู้หรือไม่ว่าเงินล้านกว่าตำลึงมีความหมายเพียงใดนั่นทำให้ตระกูลที่กำลังจะล้มละลายปีนกลับไปยังจุดสูงสุดอีกครั้งได้เลยกู้ชูหลันแหกปากลั่นด้วยความเดือดดาล "แล้วเงินสองแสนตำลึงของข้าล่ะ กู้ชูหน่วน เจ้าเอาเงินสองแสนตำลึงของข้าคืนมาเดี๋ยวนี้""ทำไม เจ้าก็จะเบี้ยวหนี้ด้วยหรือ หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรข้าก็ยังเก็บเอาไว้นะ หากเดิมพันไม่ไหว ต่อไปก็ไม่ต้องเดิมพัน ขี้แพ้ ถุยถุยถุย ดูไม่ได้""นั่นเป็นเงินที่ท่านตาทิ้งไว้ให้ข้า เจ้าจะต้องคืนมาให้ข้า""ได้สิ เจ้าไปฟ้องร้องได้เลย ขอเพียงเจ้าชนะความ ข้าก็จะคืนให้เจ้าทันที""ท่านพ่อ..."กู้ชูหลันมองไปทางอัครเสนาบดีกู้ด้วยท่าทางน้อยอกน้อยใจ สายตาน่าสงสารที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำใสๆ คู่นั้น ราวกับกำลังฟ้องว่ากู้ชูหน่วนทำผิดมหันต์เกินกว่าจะอภัยตั้งแต่กลับมาจากวัดร้าง กู้ชู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 51

    โธ่เว้ยในสุดยอด36กลยุทธ รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดคน เผ่นดีกว่าระหว่างที่นางกำลังคิดจะหนี คำพูดที่ดังขึ้นอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียงของเย่จิ่งหานทำให้นางไร้หนทางจะหลีกหนี"คุณหนูสาม ไม่เจอกันหลายวัน สบายดีหรือ"ได้ยินประโยคนี้ กู้ชูหน่วนก็รู้สึกชาวูบวาบไปถึงหนังหัวหมอนี่คงไม่ใช่ว่าจำนางได้แล้วหรอกนะนึกถึงครั้งแรกที่เจอกัน นางขืนใจเขาครั้งที่สอง นางล้มทับเขา แล้วยังลูบคลำเขาอีก หากถูกจำได้ขึ้นมาจริงๆ ไม่ต้องโดนสับเป็นชิ้นกันเลยหรือร่างนี้ของนาง นอกจากคล่องแคล่วว่องไวแล้ว ก็ไม่มีกำลังภายในอะไรเลยสักนิดส่วนชายผู้นี้ ไม่ต้องพูดถึงผู้ใต้บัญชาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญมือฉมัง ลำพังแค่ฝีมือการต่อสู้ของเขาผู้เดียวก็ลึกล้ำเกินกว่าจะล่วงรู้ได้หากต้องประจันกันซึ่งๆ หน้า นางมีแต่จะเสียเปรียบคิดได้ดังนี้ กู้ชูหน่วนจึงจงใจทำตัวสั่นหงึกๆ แสร้งตกใจกลัวจนฟันขบกันเสียงดัง แม้แต่ประโยคที่สมบูรณ์ประโยคเดียวก็พูดไม่ออก"ท่าน...ท่านก็คือเทพสงคราม...หานอ๋อง...พวก...พวกเราเคยเจอกันหรือ"คนในจวนอัครเสนาบดีพากันกระอักเลือดกู้ชูหน่วนเป็นพวกเก่งแต่กับผู้ที่อ่อนแอกว่าเช่นนั้นหรือท่าทางอวดดีจองหองเมื่อค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 52

    กู้ชูหน่วนหัวร่อต่อกระซิก "ท่านอ๋อง เช่นนี้คงไม่ค่อยดีนัก หม่อมฉันไม่คู่ควรกับท่านอ๋อง""ฟึบฟึบฟึบ..."องครักษ์หลายสิบคนชักดาบออกมาทีละคน แล้วล้อมกู้ชูหน่วนไว้ตรงกลาง ท่าทางที่น่าเกรงขามนั้น ให้ความรู้สึกที่ว่าหากกู้ชูหน่วนปฏิเสธ ดาบเหล่านั้นก็จะแทงเข้ามาที่ร่างนางทันทีนี่ใช่การเชิญที่ไหนกัน เป็นการบังคับกันชัดๆคนของจวนอัครเสนาบดีกระสับกระส่าย อยู่ไม่เป็นสุข ไม่กล้าปริปากพูดแม้แต่ประโยคเดียวชิวเอ๋อร์ดึงแขนเสื้อกู้ชูหน่วนด้วยความร้อนรน กระซิบเสียงเบา "คุณหนู พวกเราจะทำเช่นไรดี""ในเมื่อท่านอ๋องทรงมีน้ำพระทัยมาเชิญ เช่นนั้นหม่อมฉันก็ทำได้เพียงน้อมรับไว้"พูดจบ องครักษ์ต่างก็พากันเก็บดาบไปทีละคน แล้วกลับไปยืนอยู่ในท่าเป็นระเบียบอีกครั้ง ราวกับเมื่อครู่ไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้นมาก่อนทั้งสิ้น"เชิญ"กู้ชูหน่วนแอบยกมุมปากด้วยความถากถางอยู่ในมุมที่ไม่มีผู้ใดมองเห็น ออกไปจากจวนอัครเสนาบดีตามเย่จิ่งหานและคนอื่นๆหลังจากกลุ่มขบวนที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรจากไป คนในจวนอัครเสนาบดีกู้ก็ยังคงหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ดีเขาอยากจะลุกขึ้น แต่ช่วยไม่ได้ที่สองขากลับอ่อนเปลี้ย ไม่ว่าอย่างไรก็ลุกไม่ขึ้น ทำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 53

    กู้ชูหน่วนกระโดดหลบอย่างรวดเร็ว แต่ฝ่ามือใหญ่คู่หนึ่งก็ตามติดราวกับเงา ไม่ว่านางจะหลบอย่างไรก็หนีไม่พ้นในที่สุดกู้ชูหน่วนก็ต้องกลิ้งไปตามพื้นราวกับปลาไหลอย่างทุลักทุเล จึงหลบการโจมตีไปได้หวุดหวิดเมื่อครู่ นางรู้สึกราวกับความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อมชายผู้นี้ หากอยากสังหารนาง ฝ่ามือเดียวของเมื่อครู่ก็เพียงพอที่จะจบชีวิตนางได้แล้วนางยิ้มอย่างอ่อนน้อม "ท่านอ๋องเป็นผู้สูงศักดิ์ มีอำนาจมากมาย ย่อมไม่มาทำร้ายสตรีผู้อ่อนแอตัวเล็กๆ อย่างข้าหรอกใช่หรือไม่?""สตรีผู้อ่อนแอตัวเล็กๆ อย่างนั้นรึ?"เหอะนางคือสตรีผู้อ่อนแอ?แม้แต่ผู้ชายยังกล้าข่มเหง จะเรียกว่าหญิงอ่อนแอได้อย่างไร?"แน่นอน ท่านดูข้าสิ แขนขาข้าเล็กนิดเดียว จะสู้ท่านได้อย่างไร เรื่องที่ผ่านมาข้าผิดไปแล้ว ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ยกโทษให้ข้าสักครั้งเถิด ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำอีกเป็นอันขาด..."เฮือก...อุณหภูมิภายในรถม้าลดลงอย่างรวดเร็วสีหน้าของเย่จิ่งหานดำสนิทราวกับถ่าน กลิ่นสังหารแผ่ซ่านออกมากู้ชูหน่วนรู้สึกไม่สู้ดี รีบพูดออกไปก่อนที่เย่จิ่งหานจะลงมือ"ท่านอ๋อง ข้าเคยช่วยชีวิตท่านไว้ เราถือว่าหายกันได้หรือไม่""เจ้าคิดว่าอย่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 54

    กู้ชูหน่วนพอจะเข้าใจแล้วเพียงแต่เมื่อครู่ที่ลูกธนูฝนพรำยิงเข้ามาในรถม้า นางได้พยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อคุ้มกัน แต่ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงความคิดของนางเอง เพราะนักฆ่าเหล่านั้นจะทำอะไรเย่จิ่งหานได้ไอ้หมอนั่นตั้งใจเยาะเย้ยนางแน่ๆนักฆ่าทั้งหมดถูกสังหาร รถม้าก็ยังคงแล่นไปข้างหน้าด้วยความเร็วเท่าเดิม ราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น หรืออาจเพราะพวกเขาชินชากับเรื่องเช่นนี้ไปแล้วก็เป็นได้ณ จวนหานอ๋องเย่จิ่งหานประทับนั่งอยู่บนบัลลังก์หลัก ดื่มชาอย่างสง่างาม รอบตัวแผ่รัศมีอันเย็นเยือกที่ไม่อาจเพิกเฉยได้กู้ชูหน่วนรู้สึกราวกับเป็นนักโทษที่กำลังรอการไต่สวนนางเม้มปาก หากไม่ใช่นางผิดเอง จะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรนางจึงลากเก้าอี้มาอีกตัวหนึ่ง นั่งไขว่ห้างแล้วตะโกนว่า "ชิวเอ๋อร์ ไปชงชาให้ข้าเร็ว"ชิวเอ๋อร์สะดุดจนเกือบล้มนี่คือจวนหานอ๋อง นางจะกล้าชงชาให้พร่ำเพรื่อได้อย่างไร อีกอย่าง หานอ๋องยังไม่ได้สั่งเลยด้วยซ้ำชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ยต่างมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความประหลาดใจหรือว่าหญิงสาวผู้นี้จะเป็นหญิงสาวที่แตะต้องหานอ๋องของพวกเขาเมื่อวันก่อนกัน?นอกจากนาง พ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 55

    กู้ชูหน่วนโล่งอกคำพูดของเย่จิ่งหานหมายความว่ายังมีช่องทางในการเจรจาต่อรอง“แล้วเวลาล่ะ”“ข้าต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ยามนี้ยังบอกเวลาที่แน่นอนไม่ได้”“หนึ่งปี มากสุดคือหนึ่งปี ภายในหนึ่งปีหากเจ้ารักษาไม่ได้ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะตายอย่างน่าอนาถ”กู้ชูหน่วนกัดฟัน “ได้ หนึ่งปีก็หนึ่งปี แต่ฟ้าสางแล้ว ข้าต้องไปเรียนที่สำนักบัณฑิต ช่วงค่ำค่อยมาตรวจได้หรือไม่”ก่อนที่เย่จิ่งหานจะตอบ กู้ชูหน่วนก็ลากชิวเอ๋อร์ที่ยังคงยืนงงอยู่กับที่ออกไป “ยืนนิ่งอยู่ทำไม ไปเรียนกัน”“คุณหนู ท่านอ๋องยังไม่ได้อนุญาตให้เราไป”“ท่านอ๋องงานยุ่งมาก เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้จะให้ท่านมาวุ่นวายทำไม”“แต่ว่า…ยังไม่สว่างเลยนะเจ้าคะ…”“เจ้ารู้เรื่องอะไร วันนี้เป็นรอบชิงของการประลองศิลปะ เราต้องไปเตรียมตัวก่อน”ชิวเอ๋อร์อยากจะพูดอะไรต่อ แต่ก็ถูกดึงออกไปแล้วชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ยเบิกตากว้างหญิงสาวผู้นี้ช่างกล้ามาก กล้าที่จะไม่สนใจท่านอ๋องชิงเฟิงรายงานว่า “นายท่าน ข้าจะไปจับตัวพวกนางมา”เจี้ยงเสวี่ยดึงเขาไว้ แล้วกลอกตาใส่ราวกับเขาเป็นคนโง่หากนายท่านอยากให้นางตาย นางจะออกจากประตูบานนี้ไปได้อย่างไรชิงเฟิงใบหน้าเต็ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 56

    "ยามนั้นมิใช่เพียงบรรดาอันธพาลห้าหกคนเท่านั้น ยังมีอีกหนึ่งผู้อันหลงทางมาภายหลัง เห็นเหตุการณ์เข้าพอดี อีกทั้งยังมีบ่าวรับใช้ในจวนอัครเสนาบดีแอบกระซิบเล่าลือกันว่า ในห้องของคุณหนูห้าตระกูลกู้มักจะได้ยินเสียงชายหญิงกระซิบกระซาบกันอย่างน่าสงสัย""หน้าด้านเกินไปเสียแล้ว คนเยี่ยงนี้จะมาเรียนที่สำนักบัณฑิตหลวงของเรา ข้าขยะแขยงที่จะเรียนกับนางนัก""ข้าก็ขยะแขยงเหมือนกัน"กู้ชูหน่วนยกนิ้วให้กับหลิ่วเยว่และอวี๋ฮุย"พวกเจ้าทั้งสองก็ใจร้ายเกินไป นางเป็นผู้หญิงนะ ทำลายชื่อเสียงนางเช่นนี้ ต่อไปนางจะอยู่อย่างไร"หลิ่วเยว่และอวี๋ฮุยแทบล้มลง"ลูกพี่ ไม่ใช่พี่บอกให้เรากระจายข่าวหรอกหรือ""พัวะ..."กู้ชูหน่วนดีดหน้าผากพวกเขา"ข้าบริสุทธิ์ใจและใจดีขนาดนี้ จะไปให้พวกเจ้าทำเรื่องเลวทรามเช่นนี้ได้อย่างไร"บริสุทธิ์ใจและใจดี?ไม่ละอายใจบ้างหรือ?หลิ่วเยว่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก "ใช่ ใช่ ใช่ ลูกพี่ใจดีที่สุดแล้ว เรื่องเลวทรามเช่นนี้ ลูกพี่จะทำได้อย่างไร เป็นความผิดของกู้ชูหลันเองชัดๆ กรรมตามสนองไปแล้วด้วย"กู้ชูหน่วนโค้งมุมปากยิ้ม ฟังเสียงซุบซิบนินทา ความรู้สึกหม่นหมองในใจก็ค่อยๆ จางหายไป"ไม่เพีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 57

    กู้ชูหลันฟังเสียงเหยียดหยามของผู้คนในสำนักบัณฑิตหลวง นางแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี"ข้าไม่ได้ทำอะไรผิดจริงๆ""หากเจ้าบริสุทธิ์จริงก็ให้แสดงรอยประทับพรหมจรรย์ออกมาสิ"กู้ชูหลันเม้มริมฝีปาก แต่ก็ตอบอะไรไม่ออกรอยประทับพรหมจรรย์ของนางหายไปนานแล้ว หากนางเปิดแขนออก ก็เท่ากับยอมรับผิดผู้คนในสำนักบัณฑิตหลวงหัวเราะเยาะ "ข้าบอกแล้วอย่างไรว่านางไม่กล้าเปิดเผยรอยประทับพรหมจรรย์หรอก เพราะนางเป็นนางโลม""เมื่อครู่ข้ายังคิดว่าเป็นข่าวลือ แต่ยามนี้คุณหนูห้าตระกูลกู้ก็ยังไม่กล้าเปิดเผยรอยประทับพรหมจรรย์ แสดงว่าทำจริง ถุย คนอย่างนางมีหน้ามาเรียนในสำนักบัณฑิตหลวงด้วยหรือ รีบไสหัวกลับจวนอัครเสนาบดีเถอะ อย่ามาทำให้ที่นี่เสื่อมเสียชื่อเสียงเลย""ข้าไม่ได้ทำจริงๆ"กู้ชูหลันปิดบังใบหน้าที่ร้อนผ่าวทำไม...ทำไมเพียงแค่ข้ามคืน คนทั้งเมืองหลวงถึงรู้เรื่องของนางได้?ใครแพร่งพรายกัน?ตกลงใครแพร่งพรายเนี่ยนางเงยหน้าขึ้น ก็พบกับกู้ชูหน่วนที่กำลังยิ้มมุมปากพริบตาเดียว ไฟในทรวงของกู้ชูหลันก็ลุกโชนขึ้นมา นางรีบวิ่งเข้าไปหา และด่าทอด้วยความโกรธ“กู้ชูหน่วน เจ้าเป็นคนทำใช่หรือไม่? เจ้าจงใจใส่ร้ายป้ายสีข้า เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17

บทล่าสุด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 144

    ก่อนที่เด็กหนุ่มจะตอบ กู้ชูหน่วนก็ลูบคางพลางเอ่ยอย่างใจเย็นว่า “ด้วยความสามารถของเจ้า เจ้าคงคิดว่าการตัดแขนขา ควักตา และตัดหูของข้าคงง่ายดายราวกับบี้มดตัวหนึ่งใช่หรือไม่? ถ้าเช่นนั้น ทำไมเจ้าถึงต้องลำบากเขาด้วย?”“หรือว่าเขามีเรื่องบาดหมางกับเจ้า เจ้าเลยเกลียดเขา? จุ จุ จุ ดูท่าทางของเขาสิ ช่างน่าสงสารเสียจริงๆ ข้าว่าคงไม่กล้าเป็นศัตรูกับเจ้าหรอก ให้ข้าเดานะ เจ้าคงอิจฉาเขามากกว่า อิจฉาที่เขามีหน้าตาหล่อเหลากว่าเจ้า หรืออาจอิจฉาที่เขาได้ดิบได้ดีในเผ่าหมอมากกว่าเจ้า เลยคิดแผนทรมานเขา”ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนพูดสีหน้าของเจียงซวี่ก็ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ แววตาที่โหดเหี้ยมก็ยิ่งรุนแรงขึ้น“ดูเหมือนข้าจะเดาถูกนะ” กู้ชูหน่วนมองเด็กหนุ่มราวกับสงสารเขา“ลองดูตัวเองสิ ติดตามนายอะไรเนี่ย กลับตัวกลับใจเถิด เจ้าปกป้องข้าจนโดนแทงมาขนาดนี้ ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี”เด็กหนุ่มไม่แม้แต่จะมองกู้ชูหน่วน แค่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆเจียงซวี่หัวเราะลั่นทันที “เดาถูกแล้วจะอย่างไร ข้าแค่ต้องการเห็นเขาทรมาน เขาใจดีนักมิใช่หรือ ข้าอยากจะดูว่า เพื่อให้มีรอดชีวิต เขาจะยอมฆ่าเจ้าหรือไม่”“ข้าขอเดาเพิ่มนะ คงเป็นครั้งแรกที่เจ้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 143

    กู้ชูหน่วนกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา "เป็นพวกเจ้าเองที่พาข้าวิ่งมาตลอดทาง และมองข้าเป็นหญิงผู้อ่อนแอที่ไม่มีทางสู้ แล้วข้าจะไม่ตอบสนองความต้องการแบบผู้ชายเป็นใหญ่ของพวกเจ้าได้อย่างไร""…"เซียวอวี่เชียนโกรธจนตัวสั่นเด็กหนุ่มก็สีหน้าไม่สู้ดีมีดาบจำนวนมากขนาดนี้ หมายความว่าพวกเขาโดนฟันอย่างเปล่าประโยน์เมื่อเห็นว่ามีคนกลุ่มใหม่ล้อมพวกเขาเข้ามา กู้ชูหน่วนก็หรี่ตาลง มุมปากยกขึ้นยิ้มเยาะ "ตัวเอกมาแล้ว"ในขณะที่เซียวอวี่เชียนและเด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น ทั้งคู่ก็แข็งทื่อดวงตาเย็นชาของเด็กหนุ่มหรี่ลงทันที หายใจหนักขึ้น ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยกู้ชูหน่วนมองออกเขากำลังกลัว กลัวคนกลุ่มนี้เซียวอวี่เชียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง "หน้ากากกะโหลก พวกเจ้าเป็นคนของสิบสองกองธงแห่งเผ่าหมอใช่หรือไม่?เผ่าหมอ?เหอะ โลกยุทธภพมีเผ่าหมอด้วยหรือ?กู้ชูหน่วนพิจารณาอีกฝ่ายอย่างละเอียดแต่กลับพบว่าอีกฝ่ายมีเพียงสามสิบหกคนเท่านั้น แต่ละคนถือธงบุปผา และสวมเสื้อคลุมสีดำ ใบหน้าปิดด้วยหน้ากากกะโหลกศีรษะหัวหน้าคือชายหนุ่มวัยยังน้อย ผู้ซึ่งไม่ได้สวมหน้ากาก ใบหน้าดูหล่อเหลา แต่แววตากลับเผยความโหดเหี้ยมเป็นระยะ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 142

    "ปัง..."เสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับระเบิดกลางอากาศดังขึ้นอีกครั้งหญิงวัยกลางคนงถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าซีดเผือก เด็กหนุ่มกระอักเลือดออกมาหนึ่งอึก อวัยวะภายในปั่นป่วนอย่างรุนแรง หากไม่เกาะผนังไว้ คงล้มลงไปแล้ว“เจ้ากล้าใช้การต่อสู้แบบแลกชีวิตมาสู้กับข้าอย่างนี้หรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากสู้กันต่อ ข้าอาจไม่ตาย แต่เจ้าต้องตายแน่”“แค่ชีวิตสกปรกโสโครก ตายไปก็ตายไป” เด็กหนุ่มพยายามกลืนเลือดที่ค้างอยู่ในคอลง ให้ตัวเองดูเป็นปกติมากที่สุดหญิงวัยกลางคนตะคอก “ตกลงนางกับเจ้าเป็นอะไรกันแน่?”“ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น แค่ไม่อยากให้เจ้าได้กระดิ่งภินวิญญาณนั่น”“ดีมาก บัญชีนี้พวกข้าเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานจะจดจำไว้ เจ้าจงรอรับการล้างแค้นอย่างบ้าคลั่งของพวกข้าได้เลย”หญิงวัยกลางคนเบิกตาจ้องกู้ชูหน่วนและเด็กหนุ่ม ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง สุดท้ายก็ไม่รู้ว่านึกถึงอะไรจึงจากไปด้วยความแค้นหลังนางจากไป เด็กหนุ่มก็รีบกุมหน้าอกแน่น กระอักเลือดออกมาอีกหนึ่งอึกใหญ่ ขาของเขาคุกเข่าลงไปโดยไม่รู้ตัว ราวกับกำลังแบกรับความเจ็บปวดอันแสนสาหัส"ไม่เป็นไรใช่หรือไม่"กู้ชูหน่วนทิ้งเมล็ดแตงโม แล้วเดินไปหาเขา"ปัง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 141

    หญิงวัยกลางคนเดิมทีตั้งใจจะจัดการกับเด็กหนุ่มก่อน แล้วค่อยกลับมาจัดการกู้ชูหน่วน แต่ปรากฏว่าคำพูดของกู้ชูหน่วนฟังไม่เข้าหู นางจึงเปลี่ยนใจทันที"สาวน้อยปากดีนักนะ เอากระดิ่งภินวิญญาณมาให้ข้า ข้าอาจให้เจ้าตายอย่างสงบ แต่หากไม่ เจ้าจะจมกองเลือด""ข้าเป็นคนที่ใครก็มาข่มขู่ได้อย่างนั้นหรือ?" กู้ชูหน่วนเลิกคิ้วย้อนถาม"เหอะ เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา"หญิงวัยกลางคนส่งเสียงเหยียดหยาม นางเหยียบปลายเท้าเบาๆ แล้วปลดปล่อยหัตถ์โลหิตออกไปโจมตีกู้ชูหน่วนกู้ชูหน่วนพิงกำแพงไว้ กอดอก ยืนสงบนิ่ง ราวกับมั่นใจว่าเด็กหนุ่มต้องมาช่วยนางแน่ๆและก็เป็นอย่างที่นางคิด ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังถูกเหล่านักฆ่าล้อมอยู่ เขาก็ยังสามารถเตะหม้อเหล็กจากร้านตีเหล็กไปขวางการโจมตีของหญิงวัยกลางคนได้ทันหม้อเหล็กสัมผัสกับหัตถ์โลหิตแล้วละลายทันทีแม้แต่เหล่านักฆ่าชุดดำก็ตกตะลึงพลังปีศาจโลหิตแข็งแกร่งมากสามารถละลายหม้อเหล็กได้ในพริบตา พลังภายในต้องแข็งแกร่งเพียงใดเด็กหนุ่มเบิกตากว้าง ไม่คาดคิดว่าพลังปีศาจโลหิตของหญิงวัยกลางคนจะร้ายกาจขนาดนี้ เขาอยากจะไปช่วยกู้ชูหน่วน แต่ถูกล้อมไว้ ชายแคระก็พุ่งเข้ามาโจมตีเขาไม่หยุด แทบอ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 140

    ชายแคระปากบอกว่าได้ แต่ดาบในมือกลับฟาดแรงขึ้นทุกที ร้องเสียงดังลั่นด้วยน้ำเสียงหยาบกร้าน“หนุ่มน้อย นางผู้นี้มีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้าถึงได้ปกป้องนางด้วยชีวิตเช่นนี้?”เด็กหนุ่มไม่ตอบ เพียงแต่ตั้งสมาธิรับมือการต่อสู้แต่หญิงวัยกลางคนกลับหัวเราะคิกคักตอบว่า “เขาเป็นของข้า จะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับยัยขี้เหร่เล่า มากสุดก็แค่อยากได้กระดิ่งภินวิญญาณเท่านั้น”“ของที่พวกข้าเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานต้องการ เจ้าก็กล้าแย่ง? กล้ามากเลยนะ”"ปัง..."ดาบโจมตีไม่โดนเด็กหนุ่ม แต่กลับผ่ากำแพงดินหลังเด็กหนุ่มออกเป็นสองท่อน กำแพงดินที่แข็งแกร่งพังทลายลงจนเสียงดังกึกก้อง“เจ้าห้า หลังจากวันนี้ไป เขาอาจเป็นคนของพวกเราเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน เจ้าลงมือเบาหน่อย อย่าทำร้ายเขาจนพิการ”“รู้แล้ว รำคาญเสียจริง”กู้ชูหน่วนยืนอยู่ข้างๆ มองการต่อสู้ในสนามด้วยท่าทีผ่อนคลายชายแคระมีกำลังมาก มีพลังภายในแก่กล้า และลงมือด้วยกำลังอันป่าเถื่อน ส่วนเด็กหนุ่มกลับมีดวงตาเย็นชาและสงบนิ่ง มือเล็กยกขึ้นเบาๆ เสียงพิณกระทบกับดาบ ทุกครั้งที่พุ่งชนกัน ดาบราวกับวัวตกลงไปในทะเลโคลน อ่อนปวกเปียก ไม่ว่าจะฟาดอย่างไรก็ไม่โดนเด็กหนุ่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 139

    กู้ชูหน่วนและเด็กหนุ่มชุดดำถูกกลุ่มคนล้อมไว้ พูดให้ถูกคือ กู้ชูหน่วนถูกพวกเขาล้อมไว้ แต่เนื่องจากเด็กหนุ่มยืนอยู่ข้างๆ นางจึงติดร่างแหไปด้วย พวกที่ล้อมพวกเขามีถึงหลายสิบคน ทุกคนสวมชุดดำปิดบังใบหน้า ถือเคียว และมีสายตาที่ไม่เป็นมิตรหัวหน้าคือชายแคระตัวเตี้ยกับหญิงวัยกลางคนผู้เย้ายวนหญิงวัยกลางคนผู้เย้ายวนส่งสายตามองเด็กหนุ่มอย่างเร้าร้อน "โอ้ หนุ่มน้อย แค่มองรูปร่างของเจ้า ข้าก็น้ำลายไหลแล้ว อยากจะให้เจ้าถอดหน้ากากออก แล้วให้ข้าได้ดูแลเจ้าดีหรือไม่""เจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน" เด็กหนุ่มค่อยๆ เอ่ย"เจ้าตาดีไม่เบา พวกเราหลบซ่อนอยู่ในเขาอินซานมานานหลายปี ไม่คิดว่าจะมีใครจำพวกเราได้""แล้วอีกสองคนล่ะ""แค่พวกเจ้าสองคน ไม่จำเป็นต้องใช้พวกเราทั้งสี่คนหรอก" ชายแคระแบกดาบใหญ่ ดาบนั้นสูงกว่าตัวเขา ทำให้ดูไม่สมส่วนเขาเสียงดัง หน้าตาอัปลักษ์ ตาโปน ราวกับเป็นดวงตาของปลาตาย แต่ร่างกายของเขากลับเต็มไปด้วยพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวกู้ชูหน่วนพยายามค้นหาความทรงจำในสมองของนาง นางพอจะจำได้เลือนลางเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานมีเจ็ดคน แต่ละคนวิทยายุทธเก่งกาจและโหดเหี้ยมมาก พวกเขาฆ่าคนเป็นว่าเล่น เมื่อหล

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 138

    กู้ชูหน่วนเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านตีเหล็กกลางเมืองหลวง ริมฝีปากยกขึ้นยิ้มอย่างเกียจคร้านราวกับกำลังพูดกับตนเอง“คืนนี้มืดมิดเงียบสงบ ไม่มีใครอยู่รอบข้าง ใต้เท้าจะไม่ออกมา หรือว่าจะให้ข้าพากลับบ้านไปต้มหม้อไฟดี?”ในความมืดมิด ปรากฏเด็กหนุ่มสวมหน้ากากดำถือพิณเดินออกมาอย่างช้าๆ ร่างกายเปล่งประกายด้วยความเย็นชาเด็กหนุ่มวัยยังน้อย รูปร่างสูงโปร่งสมส่วน โดยเฉพาะชุดรัดรูปที่สวมใส่ ทำให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาอย่างชัดเจนหลังของเขาแบกพิณสีดำสนิท ดูสะดุดตาเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมืดออกมาเพื่อลอบสังหาร แล้วยังแบกพิณมาด้วย คนผู้นี้ช่างมีรสนิยมจริงๆกู้ชูหน่วนพิจารณาเขาอย่างละเอียด รู้สึกว่าดูคุ้นตานางกะพริบตาปริบๆ ยิ้มเอ่ยว่า “หนุ่มน้อย รูปร่างดีจริงๆ ไม่รู้ว่าหน้าตาจะหล่อเหลาแค่ไหน หากว่าหล่อจริง ข้าอาจจะยอมให้จีบก็ได้นะ”เด็กหนุ่มหน้าตายเอ่ยเพียงประโยคเดียวว่า “ข้าต้องการเพียงกระดิ่งภินวิญญาณ”“เช่นนั้นเจ้าบอกข้าทีว่า เจ้าต้องการกระดิ่งภินวิญญาณไปทำไม หรือจะตอบว่ากระดิ่งภินวิญญาณนี้มีอะไรซ่อนอยู่ก็ได้นะ หากคำตอบของเจ้าทำให้ข้าพอใจ ข้าจะมอบมันให้เจ้า”“ข้าต้องการเพียงแ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 137

    "ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง..."อาวุธลับฝังเข้าไปในผนัง ลึกเข้าไปในเนื้อไม้สามส่วน เซียวอวี่เชียนสะดุ้งจนคอหดอาวุธลับนี้ หากโดนคนเข้าล่ะก็ คงทะลุร่างแน่นอน"ใคร? ใครลอบโจมตี?" เซียวอวี่เชียนตะโกนลั่นสำนักบัณฑิตหลวงมียอดีมือคอยปกป้องจำนวนมากเช่นนี้ ยังมีคนแอบเข้ามาฆ่าคนได้อีกหรือ? ช่างจองหองเกินไปแล้วกู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว กำกระดิ่งภินวิญญาณในมือแน่นโดยไม่รู้ตัวนางแสร้งทำเป็นผ่อนคลายและยิ้มเอ่ยว่า "ก็แค่พวกโจรขโมยชั้นต่ำ พวกเขาคงเห็นว่าข้าชนะการเดิมพันมามาก เลยเกิดความโลภน่ะ"เซียวอวี่เชียนแม้จะเจ้าสำราญไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้โง่อาวุธลับสามสิบแปดเล่มนั้นมาพร้อมกับกระบวนท่าสังหาร ผู้มาเยือนไม่ได้คิดจะปล่อยให้ยัยขี้เหร่มีชีวิตอยู่และที่นี่คือสำนักบัณฑิตหลวงแม้ว่าโดยทั่วไปแล้วที่นี่จะดูไม่มีอะไรพิเศษ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่า รอบๆ สำนักบัณฑิตหลวงมียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่จำนวนมากเมื่อใดก็ตามที่มีคนคุกคามชีวิตนักเรียน เหล่าองครักษ์ลับก็จะออกมาปกป้องทันที"ยัยขี้เหร่ พวกโจรขโมยทั่วไปไม่มีวิทยายุทธตัวเบาที่เก่งกาจเพียงนี้หรอก ข้าว่าพวกเขาต้องการเอาชีวิตเจ้านะ""เอาชีวิตอะไรเล่า ข้าไม่ได้ล่วงเกินใครซัก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 136

    ทุกคนต่างถือว่ากระดิ่งภินวิญญาณเป็นสิ่งล้ำค่า ไม่มีใครคิดจะทุบมัน แต่กู้ชูหน่วนกลับคิดนอกกรอบทุบไปหนึ่งทียังไม่แตกกู้ชูหน่วนจึงทุบซ้ำไปซ้ำมาหลายหน แต่ก็ยังไม่แตกจนสุดท้ายนางก็เหนื่อยหอบ"กระดิ่งอะไรเนี่ย แข็งมาก ทุบเท่าไหร่ก็ไม่แตกซักที"เมื่อการทุบกระดิ่งไม่ได้ผล กู้ชูหน่วนก็ลองใช้วิธีอื่นดู เผาด้วยไฟ ลวกด้วยน้ำ แช่ด้วยยา แต่ก็ไม่มีวิธีใดได้ผลกับกระดิ่งภินวิญญาณเลยสักวิธีเดียวไม่รู้ว่ากระดิ่งภินวิญญาณทำมาจากอะไร ถึงได้แข็งแกร่งทนทานขนาดนี้ ไม่ว่าจะใช้ดาบหรือหอกก็ทำอะไรไม่ได้แม้แต่หยกจันทร์เสี้ยว ไม่ว่าจะตรวจสอบอย่างไรก็หาคำตอบไม่ได้กู้ชูหน่วนเริ่มโมโห นางจึงหยิบอิฐขึ้นมา ตั้งใจจะทุบหยกจันทร์เสี้ยวเพื่อดูโครงสร้างภายในแต่หยกชิ้นนี้มีค่าถึงห้าสิบล้านตำลึง นางจึงลังเลใจ ทำให้มือที่ถืออิฐสั่นเทาหากไม่มีสิ่งใดอยู่ภายในหยก หรือหากหยกแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ เงินห้าสิบล้านตำลึงของนางก็จะสูญเปล่าขณะนี้กู้ชูหน่วนถึงได้เข้าใจว่ายามนั้นไทเฮาต้องรู้สึกเจ็บปวดมากเพียงใด"ตุ้บ..."นางกัดฟัน ก่อนจะเหวี่ยงอิฐก้อนใหญ่ทุบลงไปบนหยกอย่างแรง จนหยกงดงามแตกละเอียดหยกจันทร์เสี้ยวแตกแล้ว

DMCA.com Protection Status