Share

บทที่ 48

Penulis: เย่ชิงขวง
กู้ชูหน่วนกลับไม่ได้ให้พวกเขาลุกขึ้นในทันที ทว่าเพียงแต่เล่นป้ายอาญาสิทธิ์ด้วยท่าทางเบื่อหน่าย ปากก็พลอยพึมพำบางอย่าง "ป้ายอาญาสิทธิ์นี่สนุกเสียจริง ต่อไปข้าคงต้องเอาออกมาแสดงทุกวันเสียแล้ว"

ทุกคนแทบจะกระอักเลือด

เอาออกมาแสดงทุกวันเช่นนั้นหรือ

นางยังพูดออกมาได้อีก

ผู้ใดเขาหยิบป้ายอาญาสิทธิ์ออกมาใช้เรื่อยเปื่อยกัน

กู้ชูหลัน อี๋เหนียงห้า และคนอื่นๆ พากันกัดฟันกรอด

มีคนตั้งหลายคนคุกเข่าอยู่ตรงนั้น กู้ชูหน่วนตาบอดหรือเป็นใบ้ไปแล้วกันแน่ ยังไม่รีบสั่งให้พวกนางลุกขึ้นอีก

รอไปอีกสักพัก กู้ชูหน่วนก็ยังไม่มีท่าทีใดๆ กู้ชูฉิงทนไม่ไหวแล้ว นางพูดด้วยความเดือดดาล "เจ้าจะปล่อยให้พวกเราคุกเข่าไปถึงเมื่อใดกันแน่"

"ทำไมเหรอ เจ้าไม่เต็มใจจะคุกเข่าให้อดีตฮ่องเต้หรือไง เช่นนั้นพวกเราไปหาฮ่องเต้กันดีไหม ให้ฮ่องเต้พระราชทานสิทธิ์เฉพาะแก่เจ้า"

"กู้ชูหน่วน เจ้าแกล้งกันใช่ไหม"

"แปลกเสียจริง ข้าแกล้งอะไรเจ้า คนที่ให้พวกเจ้าคุกเข่าคืออดีตฮ่องเต้ ไม่ใช่ข้าเสียหน่อย"

กระอักเลือด...

อดีตฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ไปตั้งหลายปีแล้ว เขาจะสั่งให้พวกนางคุกเข่าได้เยี่ยงไร

หากไม่ใช่เพราะกู้ชูหน่วนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์แอบอ้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 49

    กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "หนึ่งล้านตำลึงนั่นเป็นเงินที่ข้าชนะมาด้วยความสามารถของข้าเอง เหตุใดต้องให้ท่าน""เหลวไหล เห็นๆ กันอยู่ว่าเจ้าใช้อุบาย" กู้ชูหลันเกรี้ยวกราด ถ้าหากไม่ได้สองแสนตำลึงเงินคืนมา นางก็ไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว"อ่อ...ข้าใช้อุบายอะไรหรือ หรือข้าบังคับให้เจ้าพนันกับข้า หรือข้าสมคบกับอาจารย์ซ่างกวาน ให้อาจารย์ซ่างกวานช่วยข้าทุจริตเช่นนั้นหรือ"กู้ชูหลันอึกอักอยู่นาน พูดอะไรไม่ออกสักคำอาจารย์ซ่างกวานเป็นผู้ใดเขาเป็นถึงหนึ่งในสี่อัจฉริยะของแผ่นดิน เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรม ซื่อตรงไม่คดโกง ทั้งยังเป็นคนโปรดที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้ จะช่วยนักเรียนทุจริตได้อย่างไรอี๋เหนียงห้าเห็นท่าไม่ดีก็รีบเบี่ยงเบนประเด็นทันที "แม้เงินพวกนั้นจะเป็นเงินที่เจ้าชนะเดินพันมา แต่อย่างไรเจ้าก็เป็นคนของจวนอัครเสนาบดี ที่นี่เลี้ยงดูเจ้ามาตลอดหลายปี เจ้าก็ควรจะตอบแทนอะไรบ้างไม่ใช่หรือ"กู้ชูหลันพลันได้สติ รีบพยักหน้าหงึกๆ "ใช่ เป็นเช่นนี้แหละ"กู้ชูหน่วนกำมือขวา เก็บป้ายอาญาสิทธิ์ไปด้วยท่าทางองอาจ ก่อนจะก้าวเข้าไปประชิดอี๋เหนียงห้าพลางพูดอย่างโอหัง"ตอบแทน ? หากไม่ใช่เพราะแม่ข้า เขาจะได้เป็นอัครเสนาบดี

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 50

    ตึง...คนในจวนอัครเสนาบดีกู้แทบจะล้มทั้งยืน ทุกสายตามองไปที่กู้ชูหน่วนราวกับเห็นผีผู้ดูแลบ้านวิ่งเข้ามาจากด้านนอกด้วยความกระสับกระส่าย กระซิบข้างหูอัครเสนาบดีกู้สองสามประโยคอัครเสนาบดีกู้เกือบจะเป็นล้มลมพับนังลูกสาวไม่รักดีคนนี้ยกเงินล้านกว่าตำลึงให้คนอื่นไปง่ายๆ เสียได้ นางรู้หรือไม่ว่าเงินล้านกว่าตำลึงมีความหมายเพียงใดนั่นทำให้ตระกูลที่กำลังจะล้มละลายปีนกลับไปยังจุดสูงสุดอีกครั้งได้เลยกู้ชูหลันแหกปากลั่นด้วยความเดือดดาล "แล้วเงินสองแสนตำลึงของข้าล่ะ กู้ชูหน่วน เจ้าเอาเงินสองแสนตำลึงของข้าคืนมาเดี๋ยวนี้""ทำไม เจ้าก็จะเบี้ยวหนี้ด้วยหรือ หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรข้าก็ยังเก็บเอาไว้นะ หากเดิมพันไม่ไหว ต่อไปก็ไม่ต้องเดิมพัน ขี้แพ้ ถุยถุยถุย ดูไม่ได้""นั่นเป็นเงินที่ท่านตาทิ้งไว้ให้ข้า เจ้าจะต้องคืนมาให้ข้า""ได้สิ เจ้าไปฟ้องร้องได้เลย ขอเพียงเจ้าชนะความ ข้าก็จะคืนให้เจ้าทันที""ท่านพ่อ..."กู้ชูหลันมองไปทางอัครเสนาบดีกู้ด้วยท่าทางน้อยอกน้อยใจ สายตาน่าสงสารที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำใสๆ คู่นั้น ราวกับกำลังฟ้องว่ากู้ชูหน่วนทำผิดมหันต์เกินกว่าจะอภัยตั้งแต่กลับมาจากวัดร้าง กู้ชู

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 51

    โธ่เว้ยในสุดยอด36กลยุทธ รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดคน เผ่นดีกว่าระหว่างที่นางกำลังคิดจะหนี คำพูดที่ดังขึ้นอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียงของเย่จิ่งหานทำให้นางไร้หนทางจะหลีกหนี"คุณหนูสาม ไม่เจอกันหลายวัน สบายดีหรือ"ได้ยินประโยคนี้ กู้ชูหน่วนก็รู้สึกชาวูบวาบไปถึงหนังหัวหมอนี่คงไม่ใช่ว่าจำนางได้แล้วหรอกนะนึกถึงครั้งแรกที่เจอกัน นางขืนใจเขาครั้งที่สอง นางล้มทับเขา แล้วยังลูบคลำเขาอีก หากถูกจำได้ขึ้นมาจริงๆ ไม่ต้องโดนสับเป็นชิ้นกันเลยหรือร่างนี้ของนาง นอกจากคล่องแคล่วว่องไวแล้ว ก็ไม่มีกำลังภายในอะไรเลยสักนิดส่วนชายผู้นี้ ไม่ต้องพูดถึงผู้ใต้บัญชาที่เป็นผู้เชี่ยวชาญมือฉมัง ลำพังแค่ฝีมือการต่อสู้ของเขาผู้เดียวก็ลึกล้ำเกินกว่าจะล่วงรู้ได้หากต้องประจันกันซึ่งๆ หน้า นางมีแต่จะเสียเปรียบคิดได้ดังนี้ กู้ชูหน่วนจึงจงใจทำตัวสั่นหงึกๆ แสร้งตกใจกลัวจนฟันขบกันเสียงดัง แม้แต่ประโยคที่สมบูรณ์ประโยคเดียวก็พูดไม่ออก"ท่าน...ท่านก็คือเทพสงคราม...หานอ๋อง...พวก...พวกเราเคยเจอกันหรือ"คนในจวนอัครเสนาบดีพากันกระอักเลือดกู้ชูหน่วนเป็นพวกเก่งแต่กับผู้ที่อ่อนแอกว่าเช่นนั้นหรือท่าทางอวดดีจองหองเมื่อค

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 52

    กู้ชูหน่วนหัวร่อต่อกระซิก "ท่านอ๋อง เช่นนี้คงไม่ค่อยดีนัก หม่อมฉันไม่คู่ควรกับท่านอ๋อง""ฟึบฟึบฟึบ..."องครักษ์หลายสิบคนชักดาบออกมาทีละคน แล้วล้อมกู้ชูหน่วนไว้ตรงกลาง ท่าทางที่น่าเกรงขามนั้น ให้ความรู้สึกที่ว่าหากกู้ชูหน่วนปฏิเสธ ดาบเหล่านั้นก็จะแทงเข้ามาที่ร่างนางทันทีนี่ใช่การเชิญที่ไหนกัน เป็นการบังคับกันชัดๆคนของจวนอัครเสนาบดีกระสับกระส่าย อยู่ไม่เป็นสุข ไม่กล้าปริปากพูดแม้แต่ประโยคเดียวชิวเอ๋อร์ดึงแขนเสื้อกู้ชูหน่วนด้วยความร้อนรน กระซิบเสียงเบา "คุณหนู พวกเราจะทำเช่นไรดี""ในเมื่อท่านอ๋องทรงมีน้ำพระทัยมาเชิญ เช่นนั้นหม่อมฉันก็ทำได้เพียงน้อมรับไว้"พูดจบ องครักษ์ต่างก็พากันเก็บดาบไปทีละคน แล้วกลับไปยืนอยู่ในท่าเป็นระเบียบอีกครั้ง ราวกับเมื่อครู่ไม่เคยมีสิ่งใดเกิดขึ้นมาก่อนทั้งสิ้น"เชิญ"กู้ชูหน่วนแอบยกมุมปากด้วยความถากถางอยู่ในมุมที่ไม่มีผู้ใดมองเห็น ออกไปจากจวนอัครเสนาบดีตามเย่จิ่งหานและคนอื่นๆหลังจากกลุ่มขบวนที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรจากไป คนในจวนอัครเสนาบดีกู้ก็ยังคงหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ดีเขาอยากจะลุกขึ้น แต่ช่วยไม่ได้ที่สองขากลับอ่อนเปลี้ย ไม่ว่าอย่างไรก็ลุกไม่ขึ้น ทำ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 53

    กู้ชูหน่วนกระโดดหลบอย่างรวดเร็ว แต่ฝ่ามือใหญ่คู่หนึ่งก็ตามติดราวกับเงา ไม่ว่านางจะหลบอย่างไรก็หนีไม่พ้นในที่สุดกู้ชูหน่วนก็ต้องกลิ้งไปตามพื้นราวกับปลาไหลอย่างทุลักทุเล จึงหลบการโจมตีไปได้หวุดหวิดเมื่อครู่ นางรู้สึกราวกับความตายอยู่ใกล้แค่เอื้อมชายผู้นี้ หากอยากสังหารนาง ฝ่ามือเดียวของเมื่อครู่ก็เพียงพอที่จะจบชีวิตนางได้แล้วนางยิ้มอย่างอ่อนน้อม "ท่านอ๋องเป็นผู้สูงศักดิ์ มีอำนาจมากมาย ย่อมไม่มาทำร้ายสตรีผู้อ่อนแอตัวเล็กๆ อย่างข้าหรอกใช่หรือไม่?""สตรีผู้อ่อนแอตัวเล็กๆ อย่างนั้นรึ?"เหอะนางคือสตรีผู้อ่อนแอ?แม้แต่ผู้ชายยังกล้าข่มเหง จะเรียกว่าหญิงอ่อนแอได้อย่างไร?"แน่นอน ท่านดูข้าสิ แขนขาข้าเล็กนิดเดียว จะสู้ท่านได้อย่างไร เรื่องที่ผ่านมาข้าผิดไปแล้ว ท่านเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ยกโทษให้ข้าสักครั้งเถิด ข้าสัญญาว่าจะไม่ทำอีกเป็นอันขาด..."เฮือก...อุณหภูมิภายในรถม้าลดลงอย่างรวดเร็วสีหน้าของเย่จิ่งหานดำสนิทราวกับถ่าน กลิ่นสังหารแผ่ซ่านออกมากู้ชูหน่วนรู้สึกไม่สู้ดี รีบพูดออกไปก่อนที่เย่จิ่งหานจะลงมือ"ท่านอ๋อง ข้าเคยช่วยชีวิตท่านไว้ เราถือว่าหายกันได้หรือไม่""เจ้าคิดว่าอย่า

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 54

    กู้ชูหน่วนพอจะเข้าใจแล้วเพียงแต่เมื่อครู่ที่ลูกธนูฝนพรำยิงเข้ามาในรถม้า นางได้พยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อคุ้มกัน แต่ทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงความคิดของนางเอง เพราะนักฆ่าเหล่านั้นจะทำอะไรเย่จิ่งหานได้ไอ้หมอนั่นตั้งใจเยาะเย้ยนางแน่ๆนักฆ่าทั้งหมดถูกสังหาร รถม้าก็ยังคงแล่นไปข้างหน้าด้วยความเร็วเท่าเดิม ราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น หรืออาจเพราะพวกเขาชินชากับเรื่องเช่นนี้ไปแล้วก็เป็นได้ณ จวนหานอ๋องเย่จิ่งหานประทับนั่งอยู่บนบัลลังก์หลัก ดื่มชาอย่างสง่างาม รอบตัวแผ่รัศมีอันเย็นเยือกที่ไม่อาจเพิกเฉยได้กู้ชูหน่วนรู้สึกราวกับเป็นนักโทษที่กำลังรอการไต่สวนนางเม้มปาก หากไม่ใช่นางผิดเอง จะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรนางจึงลากเก้าอี้มาอีกตัวหนึ่ง นั่งไขว่ห้างแล้วตะโกนว่า "ชิวเอ๋อร์ ไปชงชาให้ข้าเร็ว"ชิวเอ๋อร์สะดุดจนเกือบล้มนี่คือจวนหานอ๋อง นางจะกล้าชงชาให้พร่ำเพรื่อได้อย่างไร อีกอย่าง หานอ๋องยังไม่ได้สั่งเลยด้วยซ้ำชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ยต่างมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความประหลาดใจหรือว่าหญิงสาวผู้นี้จะเป็นหญิงสาวที่แตะต้องหานอ๋องของพวกเขาเมื่อวันก่อนกัน?นอกจากนาง พ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 55

    กู้ชูหน่วนโล่งอกคำพูดของเย่จิ่งหานหมายความว่ายังมีช่องทางในการเจรจาต่อรอง“แล้วเวลาล่ะ”“ข้าต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ยามนี้ยังบอกเวลาที่แน่นอนไม่ได้”“หนึ่งปี มากสุดคือหนึ่งปี ภายในหนึ่งปีหากเจ้ารักษาไม่ได้ ข้าเชื่อว่าเจ้าจะตายอย่างน่าอนาถ”กู้ชูหน่วนกัดฟัน “ได้ หนึ่งปีก็หนึ่งปี แต่ฟ้าสางแล้ว ข้าต้องไปเรียนที่สำนักบัณฑิต ช่วงค่ำค่อยมาตรวจได้หรือไม่”ก่อนที่เย่จิ่งหานจะตอบ กู้ชูหน่วนก็ลากชิวเอ๋อร์ที่ยังคงยืนงงอยู่กับที่ออกไป “ยืนนิ่งอยู่ทำไม ไปเรียนกัน”“คุณหนู ท่านอ๋องยังไม่ได้อนุญาตให้เราไป”“ท่านอ๋องงานยุ่งมาก เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้จะให้ท่านมาวุ่นวายทำไม”“แต่ว่า…ยังไม่สว่างเลยนะเจ้าคะ…”“เจ้ารู้เรื่องอะไร วันนี้เป็นรอบชิงของการประลองศิลปะ เราต้องไปเตรียมตัวก่อน”ชิวเอ๋อร์อยากจะพูดอะไรต่อ แต่ก็ถูกดึงออกไปแล้วชิงเฟิงกับเจี้ยงเสวี่ยเบิกตากว้างหญิงสาวผู้นี้ช่างกล้ามาก กล้าที่จะไม่สนใจท่านอ๋องชิงเฟิงรายงานว่า “นายท่าน ข้าจะไปจับตัวพวกนางมา”เจี้ยงเสวี่ยดึงเขาไว้ แล้วกลอกตาใส่ราวกับเขาเป็นคนโง่หากนายท่านอยากให้นางตาย นางจะออกจากประตูบานนี้ไปได้อย่างไรชิงเฟิงใบหน้าเต็ม

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 56

    "ยามนั้นมิใช่เพียงบรรดาอันธพาลห้าหกคนเท่านั้น ยังมีอีกหนึ่งผู้อันหลงทางมาภายหลัง เห็นเหตุการณ์เข้าพอดี อีกทั้งยังมีบ่าวรับใช้ในจวนอัครเสนาบดีแอบกระซิบเล่าลือกันว่า ในห้องของคุณหนูห้าตระกูลกู้มักจะได้ยินเสียงชายหญิงกระซิบกระซาบกันอย่างน่าสงสัย""หน้าด้านเกินไปเสียแล้ว คนเยี่ยงนี้จะมาเรียนที่สำนักบัณฑิตหลวงของเรา ข้าขยะแขยงที่จะเรียนกับนางนัก""ข้าก็ขยะแขยงเหมือนกัน"กู้ชูหน่วนยกนิ้วให้กับหลิ่วเยว่และอวี๋ฮุย"พวกเจ้าทั้งสองก็ใจร้ายเกินไป นางเป็นผู้หญิงนะ ทำลายชื่อเสียงนางเช่นนี้ ต่อไปนางจะอยู่อย่างไร"หลิ่วเยว่และอวี๋ฮุยแทบล้มลง"ลูกพี่ ไม่ใช่พี่บอกให้เรากระจายข่าวหรอกหรือ""พัวะ..."กู้ชูหน่วนดีดหน้าผากพวกเขา"ข้าบริสุทธิ์ใจและใจดีขนาดนี้ จะไปให้พวกเจ้าทำเรื่องเลวทรามเช่นนี้ได้อย่างไร"บริสุทธิ์ใจและใจดี?ไม่ละอายใจบ้างหรือ?หลิ่วเยว่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก "ใช่ ใช่ ใช่ ลูกพี่ใจดีที่สุดแล้ว เรื่องเลวทรามเช่นนี้ ลูกพี่จะทำได้อย่างไร เป็นความผิดของกู้ชูหลันเองชัดๆ กรรมตามสนองไปแล้วด้วย"กู้ชูหน่วนโค้งมุมปากยิ้ม ฟังเสียงซุบซิบนินทา ความรู้สึกหม่นหมองในใจก็ค่อยๆ จางหายไป"ไม่เพีย

Bab terbaru

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 444

    เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ก็ไม่รู้ว่าทนกับคลื่นความร้อนไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ พวกเขาทั้งสองเหงื่อโชก ลมหายใจหอบถี่ ล้วนแต่อยู่ในจุดที่กำลังจะทนไม่ไหว ลมอุ่นพัดผ่านไป สติของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋แตกกระเจิงโดยสิ้นเชิง ทนไม่ไหวอีกต่อไป ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน แต่ทั้งคู่ก็คลอเคลียอยู่ด้วยกันแล้ว ในขณะที่พวกเขากำลังจะพัฒนาไปถึงขั้นสุดท้าย ยอดหน้าผาพลันปรากฏเงาร่างสีครามอาบเลือดมือเกาะเถาวัลย์ที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วกระโดดลงมาจากยอดของหน้าผาด้วยความรวดเร็ว สายตาของประมุขชิงมองไปรอบๆ ด้วยความร้อนรน พยายามตามหาหญิงในความทรงจำผู้นั้น คลื่นลาวายักษ์ซัดเข้าไปเป็นระยะ ทุกครั้งที่คลื่นซัดสาด คล้ายกับยืนอยู่ใจกลางกองเพลิงแผดเผาร่างของเขาไม่หยุดหย่อน แต่เขาไร้ซึ่งความหวาดกลัว ดวงตาดื้อรั้นคู่นี้ราวกับว่าหากหากู้ชูหน่วนไม่เจอ ก็จะไม่มีทางรามือ ทันใดนั้น เขาเห็นกู้ชูหน่วนบนผาหินที่ยื่นออกไป หัวใจที่บีบรัดอยู่ของประมุขชิงพลันผ่อนคลายลงมาในพริบตา ทว่าไม่ทันไร ใจของเขาพลันตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง เพราะแววตาของนางล่องลอย เสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบ กำลั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 443

    เวินเส้าอี๋ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองกู้ชูหน่วน เขากลัวว่าหากมองแล้วตนจะทนไม่ไหว ตรงกลางหน้าผา ร่างของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ล้วนแต่ขดตัวเป็นวง ต่างก็พยายามอดกลั้นด้วยชีวิต ลมอ่อนๆ พัดโชยไป เกิดคลื่นลาวาเป็นชั้นๆ ลมที่พัดผ่านไปก็เป็นลมร้อน ไร้ซึ่งความเย็นแต่อย่างใด เจ็บปวดจนเกินจะทน เวินเส้าอี๋พยายามนั่งขัดสมาธิ ปากก็คอยสวดมนต์ไม่หยุด หวังว่าใจจะสงบลงตามธรรมชาติ กู้ชูหน่วนตวาดออกมาอย่างอดไม่ได้ "ให้ตายสิ เวลานี้แล้วยังจะสวดมนต์อะไรอีก หากสวดมนต์ได้ผล แม่หมูคงปีนต้นไม้ได้แล้ว" เขาไม่รู้บ้างเลยหรือ ว่าทันทีที่เขาเอ่ยปาก มีแต่จะกระตุ้นความต้องการที่นางอดกลั้นเอาไว้ด้วยความยากลำบากให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม คิ้วดกดำดั่งขุนเขาของเวินเส้าอี๋ขมวดเข้าหากัน เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว ความรู้สึกนี้หากจะบอกว่า จะอยู่ก็ไม่ได้ จะตายก็ไม่ดี ไม่เกินจริงเลยสักนิด สวดมนต์ก็ไม่อาจทำให้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านรุนแรงของเขาดีขึ้นได้แต่อย่างใด เวินเส้าอี๋จึงยอมแพ้ไป และยังคงขดตัวเป็นวงอยู่ติดกับผาหินอย่างไร้ที่พึ่ง "แม่เจ้าโว้ย ข้าทนไม่ไหวแล้ว" กู้ชูหน่วนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเวินเส้าอี๋สมาธิดีเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 442

    อยู่ดีๆ เหตุใดจึงถูกวางยาเสียได้ กู้ชูหน่วนพยายามคิดทบทวน ทันใดนั้นเอง นางก็พลันโมโหจนต้องตบเข่าฉาด บ้าเอ้ย... เมื่อกี้ตอนที่เวินเส้าอี๋เกาะยึดผาพลางกอดนางไว้ บนกำแพงหินมีดอกพันรักขึ้นอยู่เต็มไปหมด ดอกพันรักเป็นดอกไม้ปลุกกำหนัดที่มีฤทธิ์รุนแรงนัก ยามนี้ดอกพันรักบานสะพรั่ง ทุกที่บนกำแพงหินล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ คนธรรมดาเพียงแค่ดมกลิ่นของดอกไม้ชนิดนั้นเข้าไป ก็จะจมดิ่งลงสู่ห้วงทะเลแห่งความปรารถนา ส่วนพวกนาง......เมื่อครู่สูดกลิ่นของดอกพันรักบนกำแพงไปปริมาณมาก โดยเฉพาะมือของเวินเส้าอี๋ที่ชุ่มไปด้วยเลือดแล้วยังไปสัมผัสโดนเกสรของดอกพันรัก จึงโดนพิษเข้าไปลึกกว่านางนัก กู้ชูหน่วนอยากจะเป็นลมตายลงไปเสียตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด เพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน นางก็ถูกวางยาไปแล้วสองหน อีกทั้งสองครั้งนี้ล้วนแต่เป็นยาปลุกกำนัดอานุภาพรุนแรงทั้งสิ้น "ร้อน......" เวินเส้าอี๋ปากลิ้นแห้งผาก ทรมานจนต้องฉีกคอเสื้อของตนออก กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยความลนลาน "เฮ้ย ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อน หญิงชายไม่ควรใกล้ชิดกัน เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเชียวล่ะ" นางตามหาในแหวนปริภูมิจนทั่วแล้ว ยาส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 441

    นอกเจ้านายท่านหลันและคนอื่นๆ เย่จิ่งหานและพวกต่างก็รู้สึกบีบคั้นหัวใจ เย่จิ่งหานพยายามดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการแล้วออกไปตามหากู้ชูหน่วนด้วยตนเอง เขาไม่อยากจะจินตนาการเอาเองอีกต่อไปว่ากู้ชูหน่วนต้องประสบพบเจอกับเรื่องแบบใดกันแน่ถึงได้กรีดร้องอย่างกับจะขาดใจเช่นนั้น ประมุขชิงตื่นตระหนกยิ่งกว่า ร่างของเขาสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจหยุดได้ ฝีเท้าเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ อาหน่วน... เจ้าอย่าเป็นอะไรไปเด็ดขาด จะต้องรอข้าก่อน หากเจ้าตาย ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติใด ข้าไม่มีวันอภัยให้เจ้าเป็นแน่ เสียงร้องที่หดหู่ดังก้องไปเรื่อยๆ ประมุขชิงมาถึงบริวเวณปากคอขวดน้ำเต้าที่กู้ชูหน่วนเพิ่งไปเมื่อครู่แล้ว บนปากคอขวด มีร่องรอยของกรงเล็บมังกรยักษ์หลงเหลืออยู่ รอยเท้าฝังลึกลงไปในพื้นดิน ทุกรอยเท้ามีความลึกหลายสิบเมตร เห็นได้เลยว่าเรี่ยวแรงที่ประทับลงไปนั้นมหาศาลเพียงใด ทอดมองออกไปยังสนามรบที่เละไม่เหลือชิ้นดีหลังจากการสู้ครั้งใหญ่ของยอดฝีมือ ประมุขชิงสั่นสะท้าน ลึกลงไปในใจรู้สึกถึงลางไม่ดีบางอย่าง อาหน่วนเคยบอกไว้ โลกนี้มีมังกรอสูรขั้นเจ็ดทั้งหมดสองตัว ตัวหนึ่งคือมังกรน้ำ อยู่ในสถ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 440

    แม้ว่ากู้ชูหน่วนจะมีชีวิตถึงหมื่นชีวิต ก็คงต้องตายอย่างแน่นอนภารกิจบนบ่าของเขานั้นหนักอึ้งนัก เขาควรจะสลัดออกไปอย่างเต็มกำลัง เพื่อรักษาพลังปราณที่เหลืออยู่ในร่างกาย แต่......ไม่รู้ทำไม เขาถึงลังเลภาพของกู้ชูหน่วนที่ดูมีชีวิตชีวาและฉลาดหลักแหลมค่อยๆ ปรากฏขึ้นในสมองของเขาพร้อมกับใบหน้าเล็กๆ ของนางที่กำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดและอดทนต่อความทุกข์ทรมานอย่างแข็งขัน เวินเส้าอี๋ก็แอบลังเลเวินเส้าอี๋รีบดึงพลังฝ่ามือของเขากลับ เขาพยายามมาหลายวิธีแต่ก็ไม่ได้ผล ทำได้เพียงเฝ้าดูพลังภายในที่เขาฝึกฝนมาหลายปี ค่อยๆ หายไปในชั่วข้ามคืน และกลายเป็นของคนอื่นเมื่อหันมองกู้ชูหน่วนอีกครั้งใบหน้าเล็กๆ ของนางขมวดเป็นปมด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าอันงดงามไร้ที่ติของนางค่อยๆ เปลี่ยนจากซีดขาวเป็นแดงระเรื่อ ในที่สุดร่างกายของนางก็เหมือนถูกไฟไหม้ ร้อนจนคนไม่กล้าสัมผัสร่างกายของนางรับพลังภายในมากเกินไปไม่ได้ พลังปราณในร่างกายของนางพุ่งชนไปมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับจะทำลายร่างกายของนาง"วิชาดูดพลังคืออะไร" กู้ชูหน่วนอดทนต่อความเจ็บปวดระลอกแล้วระลอกเล่าอย่างอดทน แล้วกัดฟันถาม"……""เวินเส้าอี๋ รีบถอนมือเร็ว

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 439

    ณ หน้าผาเวินเส้าอี๋ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ภาพที่เห็นคือแผ่นหินที่ยื่นออกมาจากกลางหน้าผา เมื่อมองขึ้นไปด้านบนก็เห็นเมฆสีขาวจำนวนมาก ไม่รู้ว่าสูงเพียงใดเมื่อมองลงไปด้านล่างเป็นทะเลโลหิตที่เดือดพล่าน คลื่นเลือดสาดกระเซ็นเป็นระยะๆ อุณหภูมิสูงจนน่าตกใจเมื่อมองไปด้านข้าง กู้ชูหน่วนหมดสติอยู่ข้างเขา ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรเวินเส้าอี๋พยายามลุกขึ้นยืน เดินโซเซไปหากู้ชูหน่วน มือที่เต็มไปด้วยเลือดของเขาลองแตะที่จมูกของนาง ยังมีลมหายใจอ่อนๆ ทำให้ใจที่ตึงเครียดของเวินเส้าอี๋๋ผ่อนคลายลงโชคดีที่มีแผ่นหินที่ยื่นออกมานี้ มิฉะนั้นพวกเขาคงตายไปแล้วหน้าผาสูงเกินไป เขาถูกมังกรไฟทำร้ายสาหัส หากอยู่คนเดียวอาจจะขึ้นไปได้ แต่การพากู้ชูหน่วนขึ้นไปบนยอดผา ช่างยากยิ่งกว่าการปีนขึ้นสวรรค์เสียอีก"เจ้าขมวดคิ้วดูไม่ดีเลย"กู้ชูหน่วนฟื้นตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ แล้วพึมพำเสียงเบา"แค่ก แค่ก......"นางไอออกมาเป็นชุด ไอออกมาเป็นกองเลือดเวินเส้าอี๋จับชีพจรของนาง มองสีหน้าที่อ่อนแรงและซีดเซียวของนาง น้ำเสียงของเขาค่อนข้างหนักแน่น "เจ้าตกจากที่สูง ปอดและอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ""ข้าดวงแข็ง พญายมยังกลัวข้า

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 438

    "ปัง......"กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ตกลงมา เพียงแต่สถานที่ที่ตกลงมาไม่ใช่ทะเลโลหิต แต่ตกลงกระแทกบนแผ่นหินที่ยื่นออกมา"โอ๊ย......"กู้ชูหน่วนส่งเสียงครางเบาๆ เอวของนาง......เกือบหักแล้ว"ฟิ้ว......"เวินเส้าอี๋โยนกู้ชูหน่วนขึ้นไปในอากาศ เพื่อลดแรงกระแทกจากการตกลงมาของนาง ส่วนตัวเองก็ตกลงกระแทกบนแผ่นหินอย่างจัง แรงกระแทกนั้นรุนแรงมาก จนเขาอดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง กระดูกทั่วร่างราวกับแตกกระจาย แม้แต่อวัยวะภายในก็ยังกระเพื่อมอย่างรุนแรงทั้งสองหมดสติไปพร้อมกัน เสียงคำรามของสัตว์อสูรบนยอดผา พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนยังคงดังต่อเนื่องในหุบเขาทางทิศตะวันตก เย่จิ่งหานและน้องเก้าราวกับรับรู้ได้ว่ากู้ชูหน่วนประสบเคราะห์ร้ายเย่จิ่งหานพยายามลุกขึ้นยืน โดยไม่สนใจสิ่งใดๆ ต้องการออกไปตามหากู้ชูหน่วน แต่ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนทำอะไรกับเขา ไม่เพียงทำให้เขาทั้งร่างกายอ่อนแรง พลังภายในสูญสิ้น แม้แต่จะขยับตัวก็ทำไม่ได้เลย จึงทำได้เพียงร้อนใจอยู่ภายใน"หลีลั่ว ส่งคนออกไปทั้งหมด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องนำพระชายากลับมาอย่างปลอดภัย""นายท่าน หากทำเช่นนั้น สถานะของพวกเราก็จะถูกเปิดเผย ถึงย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 437

    เวินเส้าอี๋ได้รับบาดเจ็บสาหัส......ขณะที่กู้ชูหน่วนลังเลว่าจะย้อนกลับไปช่วยเวินเส้าอี๋หรือไม่ อุณหภูมิในท้องฟ้าก็ลดลงอย่างกะทันหัน และยังมีหิมะโปรยปรายลงมาอย่างช้าๆฤดูนี้มีหิมะได้อย่างไร?ที่นี่มีน้ำไม่มาก แล้วจะรวมตัวกันเป็นหิมะได้อย่างไรกัน?หรือว่าเวินเส้าอี๋ใช้พลังภายในแปลงเป็นหิมะ?ความคิดยังไม่ทันกระจ่าง เวินเส้าอี๋ก็ไม่รู้ว่าใช้วิธีใดสะบัดหลุด และตามนางทันแล้วเขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อนข้างร้อนรน "ไปเร็ว""ข้าใช้พลังทั้งหมดที่มีแล้ว"ทั้งสองเดินเคียงข้างกันด้วยความเร็วราวสายฟ้าทะเลโลหิตทั่วฟ้าโปรยปรายลงมาราวกับฝนเลือด ไม่ว่าจะเป็นหินหรือหญ้าที่โดนฝนเลือด ก็ล้วนละลายหรือลุกไหม้อย่างรวดเร็วเวินเส้าอี๋หลบหนีพลางใช้พลังฝ่ามือปัดป้องฝนเลือดไปด้วยทันใดนั้น ภูเขาหินที่ปกติก็แตกออกเป็นโพรงขนาดใหญ่ทั้งสองพลาดพลั้งเหยียบพลาดไป"อ้าก......"เสียงร้องตกใจดังขึ้นกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ตกลงไปก้นเหว เสียงร้องหวาดกลัวดังก้องไปทั่วทั้งภูเขาเวินเส้าอี๋สีหน้าเปลี่ยน เขาปลดปล่อยกระบวนท่าพันจินจุ้ย เร่งความเร็วในการตกลง และใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวของกู้ชูหน่วนไว้ ส่วนอีกมือเกาะกำแ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 436

    ในขณะที่ลูกไฟกำลังจะตกลงมาใส่นาง พลังฝ่ามืออันเฉียบคมก็สั่นคลอนลูกไฟออกไปทันทีจากนั้นเวินเส้าอี๋ก็ลอยขึ้นไปกลางอากาศ ประสานมือสร้างสัญลักษณ์ และสร้างเกราะป้องกันแสงสีขาวด้วยพลังภายในของเขาที่เส้นแบ่งระหว่างทะเลโลหิตกับหิน เพื่อป้องกันการโจมตีอย่างต่อเนื่องของมังกรไฟมังกรไฟสะบัดหาง เกราะป้องกันแสงสีขาวสั่นสะเทือนหลายทีตาข่ายขนาดใหญ่ไม่สะทกสะท้าน มังกรไฟว่ายอยู่กลางอากาศ กระแทกตาข่ายขนาดใหญ่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับจะกลืนกินกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋เข้าไปในท้อง"ปัง ปัง ปัง......"ทุกครั้งที่กระแทก เกราะป้องกันแสงจะอ่อนแอลงเวินเส้าอี๋กระตุ้นพลังภายในอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับเกราะป้องกันแสง"ปัง......"เกิดการกระแทกครั้งใหญ่อีกครั้ง พร้อมกับลาวาจากทะเลโลหิตที่กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้ามุมปากของเวินเส้าอี๋ปรากฏเลือดไหลซึมออกมาในดวงตาอ่อนโยนและสงบนนิ่งของเขาเผยร่องรอยของความตกใจสัตว์อสูรขั้นเจ็ด......เป็นสัตว์อสูรขั้นเจ็ดจริงๆ ด้วย และเป็นมังกรไฟของทะเลโลหิตที่มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากเขาและเย่จิ่งหาน หัวหน้าเผ่าหมอ อยู่ในระดับเดียวกัน แต่พวกเขาทั้งสาม

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status