Share

บทที่ 41

Penulis: เย่ชิงขวง
กู้ชูหลันกำกำปั้นแน่น ดวงตาเรียวยาวดุจตาหงฉายประกายความชั่วร้ายออกมาผาดหนึ่ง สุดท้ายก็กัดฟันกรอดจากไปด้วยความโกรธเกรี้ยว

กู้ชูอวิ๋นและเจ๋ออ๋องแววตาลึกล้ำ มองดูกู้ชูหน่วนที่กำลังเก็บเงินอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะแยกย้ายกันออกไปจากห้องเรียน

ภายในห้องเรียน เหล่าคุณชายตระกูลขุนนางจำนวนไม่น้อยหน้าเจื่อนกันเป็นแถว ปากก็เอาแต่ด่าทอสาปแช่งไม่หยุด

"บ้าไปแล้วแน่ๆ เจ้าว่าไหม สำนักบัณฑิตของพวกเราอยู่ดีไม่ว่าดี จู่ๆ ก็มีที่นั่งว่างเพิ่มขึ้นมาอีกตำแหน่ง ที่น่าโมโหยิ่งกว่านั้นคือตำแหน่งนี้ดันถูกพวกโง่เง่าไม่เอาไหนได้ไปครอง หากไม่มีเรื่องพรรค์นี้ มีหรือที่ข้าจะแพ้"

"นั่นน่ะสิ ข้าลงไปตั้งห้าร้อยตำลึง พนันว่ากู้ชูหน่วนจะแพ้"

"ข้าลงไปตั้งพันห้าร้อยตำลึง"

"ของพวกเจ้าจะไปนับอะไร ข้าลงไปสามพันตำลึงเต็มๆ"

"โชคไม่เข้าข้างเอาเสียเลย ของข้าตั้งห้าพันตำลึงแหน่ะ"

"ไม่จริงน่า เจ้าไปเอาเงินมากมายเช่นนั้นมาจากไหน"

"ก็แอบขโมยพ่อข้ามาเยี่ยงไรเล่า ข้าคิดว่าต้องชนะแน่ ใครจะไปรู้...กลับบ้านข้าต้องโดนพ่อข้าเฆี่ยนตายแน่"

"……"

ทุกคนจากไปด้วยสภาพจิตวิญญาณล่องลอย ส่วนเซียวอวี่เชียนกลับหัวเราะร่า มองไปยังเงินกองโตที่อยู่ตร
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 42

    กู้ชูหน่วนอ้าปากหาวหวอดก่อนจะฟุบลงบนโต๊ะด้วยความเหนื่อยล้า ไม่นานนักเสียงลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอก็ดังขึ้นช้าๆทุกคนต่างนิ่งอึ้งเหตุใดนางถึงได้ใจเย็นเช่นนี้ได้เงินมาตั้งมากมายขนาดนั้น ควรจะไปฉลองสักหน่อยไม่ใช่หรอกหรืออีกอย่าง นางเป็นเทพแห่งการงีบหลับหรืออย่างไร เหตุใดถึงได้เอาแต่งีบตั้งแต่เช้ายันค่ำอยู่เรื่อยหลิ่วเยว่และอวี๋ฮุยมองไปทางเซียวอวี่เชียนเซียวอวี่เชียนกลอกตาใส่ไปทีหนึ่ง "นางให้พวกเจ้ารับไว้ พวกเจ้าก็รับไว้เถอะ แม่นางผู้นี้รักพวกพ้อง ต่อไปหากนางมีเรื่อง พวกเราก็ช่วยนางหน่อยแล้วกัน""ลูกพี่เป็นคนดียิ่งนัก สารภาพตามตรง ครอบครัวข้าเกิดวิกฤต กำลังร้อนเงิน ข้าเองก็ร้อนใจอยู่เหมือนกัน ถึงได้นำเงินเก็บออกมาลงเดิมพัน ใครจะไปคิดว่าจะแพ้ทั้งหมดเสียได้ ยังดีที่ลูกพี่ให้เงินข้าสองแสนตำลึง บ้านข้าต้องพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้แน่""ข้าเองก็เหมือนกัน บ้านข้าแม้ภายนอกจะดูมั่งคั่งมีหน้ามีตา ที่จริงแล้วก็เป็นเพียงเปลือก ยามนี้มีสองแสนตำลึงนี่ พวกเราจะได้กลับไปลืมตาอ้าปากได้ดั่งวันวานอีกครั้ง"สิ่งที่กู้ชูหน่วนไม่รู้ก็คือ เพราะการกระทำโดยไม่ได้ใส่ใจของนางเพียงเรื่องเดียว ทำให้เซียวอว

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 43

    ชิวเอ๋อร์หายใจไม่ทั่วท้อง"ท่านชายเซียว ท่านมีเงิน แต่คุณหนูของข้าไม่มี อาหารที่ท่านสั่งมา ท่านต้องจ่ายเอง""จะกระวนกระวายไปใย คุณหนูของเจ้ามีเงินมากมาย""นี่อาจจะเป็นเพียงทรัพย์สินเดียวที่คุณหนูของข้ามีอยู่" ถ้าหากไม่ใช่เพราะโชคหล่นทับในคราวนี้ คุณหนูของนางหรือจะมีเงินมากมายเพียงนี้ที่น่าหงุดหงิดที่สุดก็คือ คุณหนูกลับแจกไปถึงเก้าแสนห้าหมื่นตำลึงเงินในคราวเดียวเสียง่ายๆนางแทบจะลมจับหลังจากที่ได้รู้"สาวใช้อย่างเจ้าอยู่อย่างสงบสุขไปเถอะ คุณหนูของเจ้าร้ายกาจกว่าสิ่งใด เงินแค่ล้านตำลึงเงิน นางยังไม่เคยเห็นค่า""คุณหนู..."ชิวเอ๋อร์มองดูกู้ชูหน่วนด้วยความร้อนรนนางคบเพื่อนแบบใดกันเนี่ยท่านชายเซียว ท่านชายอวี๋ ท่านชายหลิ่วล้วนแต่เป็นคุณชายเจ้าสำราญผู้ลือชื่อแห่งเมืองหลวง อยู่กับพวกเขา ชื่อเสียงของนางได้เสียหายกันหมดพอดีกู้ชูหน่วนคาบก้านดอกหญ้า สองมือประสานที่ท้ายทอย นั่งไขว้ห้างอย่างเอ้อระเหยลอยชาย ไม่มีท่าทีของความเป็นกุลสตรีเลยแม้แต่น้อยนางหัวเราะด้วยความเหนื่อยหน่าย "ชีวิตคนเรายามสุขให้เต็มที่ อย่าปล่อยจอกทองว่างเปล่าคู่แสงจันทร์"ทันทีที่ประโยคนี้หลุดออกไป เซียวอวี่เชี

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 44

    เยี่ยเฟิงไม่แม้แต่จะสะทกสะท้าน ดวงตาคู่นั้นสงบนิ่งจนมองไม่ออกซึ่งความรู้สึกใดๆ ของเขาเลย"ข้ามีหน้าที่เพียงยกอาหารมาวาง หาใช่สหายสุรา""เหลวไหล เจ้ายังอยากทำงานนี้อยู่หรือไม่ วันนี้หากเจ้าไม่ดื่มกับคุณหนูท่านนี้ ต่อไปหออวิ๋นจุ้ยก็ไม่ต้อนรับเจ้าอีก"เจ้าของร้านเริ่มร้อนรนแค่ดื่มเหล้าด้วยไม่กี่แก้วก็ได้เงินมาถึงพันตำลึง เรื่องดีเช่นนี้จะหาได้จากที่ใดอีกสีหน้าของเยี่ยเฟิงยังคงเฉยชาดังเดิม แต่ทว่ามือที่ซ่อนอยู่ภายใต้แขนเสื้อของเขากำกำปั้นแน่น แสดงออกถึงความไม่สงบภายในใจชิวเอ๋อร์ออกแรงดึงแขนเสื้อกู้ชูหน่วนสุดกำลัง พลางพูดเสียงแผ่วเบาด้วยความร้อนใจ "คุณหนู ท่านเป็นหญิง มีอย่างที่ไหนที่หญิงสาวสั่งบุรุษให้ดื่มเป็นเพื่อนด้วย เกิดเรื่องนี้แพร่ออกไป ท่านจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด""หน้าของข้าก็แขวนอยู่บ้านหน้าข้าตลอดไม่ใช่หรือไง อีกอย่าง ต่อให้ไม่มีเรื่องนี้ ชื่อเสียงข้าก็ไม่ได้ดีเด่ไปสักเท่าใด""คุณหนู..."คุณหนูเฆี่ยนเซี่ยอวี่จนตาย ทั้งยังผิดใจกับคุณหนูห้า อี๋เหนียงห้า หรือแม้กระทั่งกับฮูหยินใหญ่เดิมทีนางก็กระวนกระวายมากแล้ว กลับถึงจวนไม่รู้จะต้องรับโทษหนักเพียงใด ยามนี้ยังสั่งให้ชายหนุ่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 45

    "เอ๊ะ เสี่ยวเชียนเชียนหึงหรอกเหรอ มามามา คุณหนูอย่างข้าจะทะนุถนอมเจ้าเป็นอย่างดีเอง"เซียวอวี่เชียนปัดมือกู้ชูหน่วนออกอย่างไม่เกรงใจ หันไปตวาดใส่เยี่ยเฟิงด้วยความโมโห "อย่างไรเจ้าก็เป็นบัณฑิตผู้มีวิชาความรู้ มาดื่มเหล้าเป็นเพื่อนสตรีมันใช่เรื่องที่ไหน ยังไม่รีบไปอีก"เยี่ยเฟิงมากล้นด้วยสติปัญญา เป็นเพียงบริกรธรรมดา ถูกเซียวอวี่เชียนดุด่าดูถูกเช่นนี้ ผู้คนต่างก็เชื่อว่าเยี่ยเฟิงจะต้องอาละวาดเป็นแน่ คิดไม่ถึงว่าเขาเพียงแค่ลุกขึ้น แล้วยกมือขึ้นมาทำท่าคาราวะเขาด้วยความสุภาพนอบน้อม แล้วถึงจะหันหลังเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงแค่แผ่นหลังที่ดูอาจหาญมาดมั่น"เอ้า อย่าเพิ่งไปสิ ข้ายังไม่ได้ดื่มกับเจ้าดีๆ เลย""ยัยขี้เหร่ เจ้ายังเป็นหญิงอยู่หรือไม่""เสี่ยวเชียนเชียน ข้าว่าเจ้าชักจะไม่น่ารักขึ้นทุกทีแล้ว"เซียวอวี่เชียนพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองอย่างสุดแรงเกิด จะได้ไม่ทำนางโกรธจนอกแตกตายไปเสียก่อนหลังจากที่ผ่านเรื่องของซ่างกวานฉู่และเยี่ยเฟิงมา เขาก็เข้าใจสักทีว่าหญิงผู้นี้บ้ากามเห็นผู้ใดหน้าตาดีหน่อยไม่ได้ เกิดอาการอยากจะห่อกลับบ้านอยู่ร่ำไป"คุณหนู ท่านไปหยามเกียรติบัณฑิตเยี่ยทำไมเจ้าคะ"

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 46

    "นายท่าน เห็นแล้วใช่หรือไม่ คุณหนูสามหยิ่งผยองอวดดี ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง นางไม่เพียงแต่ไม่เห็นอี๋เหนียงอย่างข้าอยู่ในสายตา แม้แต่ท่านก็ไม่อยู่ในสายตานาง"อี๋เหนียงห้ากล่าวฟ้องด้วยความสะอึกสะอื้น ราวกับว่ากู้ชูหน่วนทำความผิดร้ายแรงเกินกว่าจะอภัยได้ก็ไม่ปานอัครเสนาบดีกู้เดิมทีก็อดกลั้นโทสะไว้เต็มอก เวลานี้เห็นลูกสาวที่ขี้ขลาดและอ่อนแอมาโดยตลอดกล้าเพิกเฉยมองข้ามเขา ความโกรธก็เพิ่มเป็นทวีคูณอย่างห้ามไม่อยู่กู้ชูหลันยิ้มได้ใจ ยิ่งอัครเสนาบดีกู้โกรธมากเท่าใดก็ยิ่งดี จะได้ช่วยนางระบายความคับแค้นนี้ได้ด้วยทุกคนในจวนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องของตน จึงไม่มีผู้ใดเป็นเดือดเป็นร้อน รอแต่จะดูเรื่องสนุก"กู้ชูหน่วน เจ้ายังเห็นพ่ออย่างข้าอยู่ในสายตาอยู่หรือไม่"อี๋เหนียงห้าบอกว่านางเฆี่ยนเซี่ยอวี่จนตายอย่างไร้เหตุผล ทั้งยังทุบนางไปหลายที เขาไม่เชื่อหลันเอ๋อร์บอกว่านางไม่เพียงแค่ชกอาจารย์ ทั้งยังตบหน้าองค์หญิงอีกหลายที เขาก็ไม่อยากจะเชื่อยามนี้...บุตรสาวคนที่สามที่อยู่ตรงหน้า หาได้มีท่าทางอ่อนแอบอบบาง ไม่สู้คนอย่างเดิมแล้วเวลานี้นางดูสะดุดตาไม่เหมือนผู้ใด แผ่รังสีความอวดดีโอหังไม่ไว้หน้าใครท

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 47

    "นายท่านได้โปรดเมตตา ท่านจะตีฆ่าตายก็ได้ แต่คุณหนูร่างกายบอบบาง ไม่อาจทนไม้กระบองห้าสิบทีได้ นางจะทนไม่ไหว"กู้ชูหน่วนดึงชิวเอ๋อร์ขึ้นมา พูดด้วยความโกรธเกรี้ยว "ไม่ได้เรื่อง ทำขายขี้หน้าคุณหนูของเจ้าหมด ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือไง นอกจากข้า เจ้าไม่จำเป็นต้องคุกเข่าให้คนอื่น""คุณหนู..."ชิวเอ๋อร์น้ำตาไหล เวลานี้แล้ว เหตุใดคุณหนูยังสติเลอะเลือนอยู่อีก"ยังจะนิ่งอยู่ทำไม จัดการ"อัครเสนาบดีกู้เดือดดาล เขาไม่เชื่อว่าวันนี้เขาจะจัดการลูกสาวตัวเองไม่ได้บนใบหน้าของกู้ชูหลันและคนอื่นๆ สะท้อนให้เห็นสีหน้ามีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่น รอดูกู้ชูหน่วนโดนโบยจนต้องร้องขอชีวิตเหล่าบ่าวรับใช้เข้าไปด้วยความดุดันขึงขัง กู้ชูหน่วนหยิบป้ายอาญาสิทธิ์สีทองป้ายหนึ่งออกมาจากในอ้อมอกอย่างใจเย็น ด้านบนมีตัวอักษรคำว่าอาญาสิทธิ์ตัวโตเขียนเอาไว้ทันทีที่เห็นป้ายอาญาสิทธิ์แผ่นนั้น เหล่าบ่าวรับใช้ก็พากันชะงักงันอัครเสนาบดีกู้หน้าพลันเปลี่ยนสีทันทีป้ายอาญาสิทธิ์นั่นเป็นป้ายอาญาสิทธิ์ที่อดีตฮ่องเต้ทรงพระราชทานให้องค์หญิงเจาหลิงไม่ใช่หรอกหรืออดีตฮ่องเต้ทรงรักใคร่เอ็นดูองค์หญิงเจาหลิงเป็นที่สุด จนอยากจะส่ง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 48

    กู้ชูหน่วนกลับไม่ได้ให้พวกเขาลุกขึ้นในทันที ทว่าเพียงแต่เล่นป้ายอาญาสิทธิ์ด้วยท่าทางเบื่อหน่าย ปากก็พลอยพึมพำบางอย่าง "ป้ายอาญาสิทธิ์นี่สนุกเสียจริง ต่อไปข้าคงต้องเอาออกมาแสดงทุกวันเสียแล้ว"ทุกคนแทบจะกระอักเลือดเอาออกมาแสดงทุกวันเช่นนั้นหรือนางยังพูดออกมาได้อีกผู้ใดเขาหยิบป้ายอาญาสิทธิ์ออกมาใช้เรื่อยเปื่อยกันกู้ชูหลัน อี๋เหนียงห้า และคนอื่นๆ พากันกัดฟันกรอดมีคนตั้งหลายคนคุกเข่าอยู่ตรงนั้น กู้ชูหน่วนตาบอดหรือเป็นใบ้ไปแล้วกันแน่ ยังไม่รีบสั่งให้พวกนางลุกขึ้นอีกรอไปอีกสักพัก กู้ชูหน่วนก็ยังไม่มีท่าทีใดๆ กู้ชูฉิงทนไม่ไหวแล้ว นางพูดด้วยความเดือดดาล "เจ้าจะปล่อยให้พวกเราคุกเข่าไปถึงเมื่อใดกันแน่""ทำไมเหรอ เจ้าไม่เต็มใจจะคุกเข่าให้อดีตฮ่องเต้หรือไง เช่นนั้นพวกเราไปหาฮ่องเต้กันดีไหม ให้ฮ่องเต้พระราชทานสิทธิ์เฉพาะแก่เจ้า""กู้ชูหน่วน เจ้าแกล้งกันใช่ไหม""แปลกเสียจริง ข้าแกล้งอะไรเจ้า คนที่ให้พวกเจ้าคุกเข่าคืออดีตฮ่องเต้ ไม่ใช่ข้าเสียหน่อย"กระอักเลือด...อดีตฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ไปตั้งหลายปีแล้ว เขาจะสั่งให้พวกนางคุกเข่าได้เยี่ยงไรหากไม่ใช่เพราะกู้ชูหน่วนจิ้งจอกเจ้าเล่ห์แอบอ้

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 49

    กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "หนึ่งล้านตำลึงนั่นเป็นเงินที่ข้าชนะมาด้วยความสามารถของข้าเอง เหตุใดต้องให้ท่าน""เหลวไหล เห็นๆ กันอยู่ว่าเจ้าใช้อุบาย" กู้ชูหลันเกรี้ยวกราด ถ้าหากไม่ได้สองแสนตำลึงเงินคืนมา นางก็ไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว"อ่อ...ข้าใช้อุบายอะไรหรือ หรือข้าบังคับให้เจ้าพนันกับข้า หรือข้าสมคบกับอาจารย์ซ่างกวาน ให้อาจารย์ซ่างกวานช่วยข้าทุจริตเช่นนั้นหรือ"กู้ชูหลันอึกอักอยู่นาน พูดอะไรไม่ออกสักคำอาจารย์ซ่างกวานเป็นผู้ใดเขาเป็นถึงหนึ่งในสี่อัจฉริยะของแผ่นดิน เปี่ยมล้นไปด้วยคุณธรรม ซื่อตรงไม่คดโกง ทั้งยังเป็นคนโปรดที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้ จะช่วยนักเรียนทุจริตได้อย่างไรอี๋เหนียงห้าเห็นท่าไม่ดีก็รีบเบี่ยงเบนประเด็นทันที "แม้เงินพวกนั้นจะเป็นเงินที่เจ้าชนะเดินพันมา แต่อย่างไรเจ้าก็เป็นคนของจวนอัครเสนาบดี ที่นี่เลี้ยงดูเจ้ามาตลอดหลายปี เจ้าก็ควรจะตอบแทนอะไรบ้างไม่ใช่หรือ"กู้ชูหลันพลันได้สติ รีบพยักหน้าหงึกๆ "ใช่ เป็นเช่นนี้แหละ"กู้ชูหน่วนกำมือขวา เก็บป้ายอาญาสิทธิ์ไปด้วยท่าทางองอาจ ก่อนจะก้าวเข้าไปประชิดอี๋เหนียงห้าพลางพูดอย่างโอหัง"ตอบแทน ? หากไม่ใช่เพราะแม่ข้า เขาจะได้เป็นอัครเสนาบดี

Bab terbaru

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 444

    เวลาค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ก็ไม่รู้ว่าทนกับคลื่นความร้อนไปเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ พวกเขาทั้งสองเหงื่อโชก ลมหายใจหอบถี่ ล้วนแต่อยู่ในจุดที่กำลังจะทนไม่ไหว ลมอุ่นพัดผ่านไป สติของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋แตกกระเจิงโดยสิ้นเชิง ทนไม่ไหวอีกต่อไป ไม่รู้ว่าใครเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน แต่ทั้งคู่ก็คลอเคลียอยู่ด้วยกันแล้ว ในขณะที่พวกเขากำลังจะพัฒนาไปถึงขั้นสุดท้าย ยอดหน้าผาพลันปรากฏเงาร่างสีครามอาบเลือดมือเกาะเถาวัลย์ที่วางไว้ก่อนหน้านี้แล้วกระโดดลงมาจากยอดของหน้าผาด้วยความรวดเร็ว สายตาของประมุขชิงมองไปรอบๆ ด้วยความร้อนรน พยายามตามหาหญิงในความทรงจำผู้นั้น คลื่นลาวายักษ์ซัดเข้าไปเป็นระยะ ทุกครั้งที่คลื่นซัดสาด คล้ายกับยืนอยู่ใจกลางกองเพลิงแผดเผาร่างของเขาไม่หยุดหย่อน แต่เขาไร้ซึ่งความหวาดกลัว ดวงตาดื้อรั้นคู่นี้ราวกับว่าหากหากู้ชูหน่วนไม่เจอ ก็จะไม่มีทางรามือ ทันใดนั้น เขาเห็นกู้ชูหน่วนบนผาหินที่ยื่นออกไป หัวใจที่บีบรัดอยู่ของประมุขชิงพลันผ่อนคลายลงมาในพริบตา ทว่าไม่ทันไร ใจของเขาพลันตื่นตระหนกขึ้นมาอีกครั้ง เพราะแววตาของนางล่องลอย เสื้อผ้าไม่เป็นระเบียบ กำลั

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 443

    เวินเส้าอี๋ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองกู้ชูหน่วน เขากลัวว่าหากมองแล้วตนจะทนไม่ไหว ตรงกลางหน้าผา ร่างของกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ล้วนแต่ขดตัวเป็นวง ต่างก็พยายามอดกลั้นด้วยชีวิต ลมอ่อนๆ พัดโชยไป เกิดคลื่นลาวาเป็นชั้นๆ ลมที่พัดผ่านไปก็เป็นลมร้อน ไร้ซึ่งความเย็นแต่อย่างใด เจ็บปวดจนเกินจะทน เวินเส้าอี๋พยายามนั่งขัดสมาธิ ปากก็คอยสวดมนต์ไม่หยุด หวังว่าใจจะสงบลงตามธรรมชาติ กู้ชูหน่วนตวาดออกมาอย่างอดไม่ได้ "ให้ตายสิ เวลานี้แล้วยังจะสวดมนต์อะไรอีก หากสวดมนต์ได้ผล แม่หมูคงปีนต้นไม้ได้แล้ว" เขาไม่รู้บ้างเลยหรือ ว่าทันทีที่เขาเอ่ยปาก มีแต่จะกระตุ้นความต้องการที่นางอดกลั้นเอาไว้ด้วยความยากลำบากให้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม คิ้วดกดำดั่งขุนเขาของเวินเส้าอี๋ขมวดเข้าหากัน เขาใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว ความรู้สึกนี้หากจะบอกว่า จะอยู่ก็ไม่ได้ จะตายก็ไม่ดี ไม่เกินจริงเลยสักนิด สวดมนต์ก็ไม่อาจทำให้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านรุนแรงของเขาดีขึ้นได้แต่อย่างใด เวินเส้าอี๋จึงยอมแพ้ไป และยังคงขดตัวเป็นวงอยู่ติดกับผาหินอย่างไร้ที่พึ่ง "แม่เจ้าโว้ย ข้าทนไม่ไหวแล้ว" กู้ชูหน่วนไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเวินเส้าอี๋สมาธิดีเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 442

    อยู่ดีๆ เหตุใดจึงถูกวางยาเสียได้ กู้ชูหน่วนพยายามคิดทบทวน ทันใดนั้นเอง นางก็พลันโมโหจนต้องตบเข่าฉาด บ้าเอ้ย... เมื่อกี้ตอนที่เวินเส้าอี๋เกาะยึดผาพลางกอดนางไว้ บนกำแพงหินมีดอกพันรักขึ้นอยู่เต็มไปหมด ดอกพันรักเป็นดอกไม้ปลุกกำหนัดที่มีฤทธิ์รุนแรงนัก ยามนี้ดอกพันรักบานสะพรั่ง ทุกที่บนกำแพงหินล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ คนธรรมดาเพียงแค่ดมกลิ่นของดอกไม้ชนิดนั้นเข้าไป ก็จะจมดิ่งลงสู่ห้วงทะเลแห่งความปรารถนา ส่วนพวกนาง......เมื่อครู่สูดกลิ่นของดอกพันรักบนกำแพงไปปริมาณมาก โดยเฉพาะมือของเวินเส้าอี๋ที่ชุ่มไปด้วยเลือดแล้วยังไปสัมผัสโดนเกสรของดอกพันรัก จึงโดนพิษเข้าไปลึกกว่านางนัก กู้ชูหน่วนอยากจะเป็นลมตายลงไปเสียตรงนั้นให้รู้แล้วรู้รอด เพิ่งข้ามมิติมาได้ไม่นาน นางก็ถูกวางยาไปแล้วสองหน อีกทั้งสองครั้งนี้ล้วนแต่เป็นยาปลุกกำนัดอานุภาพรุนแรงทั้งสิ้น "ร้อน......" เวินเส้าอี๋ปากลิ้นแห้งผาก ทรมานจนต้องฉีกคอเสื้อของตนออก กู้ชูหน่วนเอ่ยด้วยความลนลาน "เฮ้ย ข้าขอบอกเจ้าไว้ก่อน หญิงชายไม่ควรใกล้ชิดกัน เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามเชียวล่ะ" นางตามหาในแหวนปริภูมิจนทั่วแล้ว ยาส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 441

    นอกเจ้านายท่านหลันและคนอื่นๆ เย่จิ่งหานและพวกต่างก็รู้สึกบีบคั้นหัวใจ เย่จิ่งหานพยายามดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากพันธนาการแล้วออกไปตามหากู้ชูหน่วนด้วยตนเอง เขาไม่อยากจะจินตนาการเอาเองอีกต่อไปว่ากู้ชูหน่วนต้องประสบพบเจอกับเรื่องแบบใดกันแน่ถึงได้กรีดร้องอย่างกับจะขาดใจเช่นนั้น ประมุขชิงตื่นตระหนกยิ่งกว่า ร่างของเขาสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจหยุดได้ ฝีเท้าเร่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ อาหน่วน... เจ้าอย่าเป็นอะไรไปเด็ดขาด จะต้องรอข้าก่อน หากเจ้าตาย ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติใด ข้าไม่มีวันอภัยให้เจ้าเป็นแน่ เสียงร้องที่หดหู่ดังก้องไปเรื่อยๆ ประมุขชิงมาถึงบริวเวณปากคอขวดน้ำเต้าที่กู้ชูหน่วนเพิ่งไปเมื่อครู่แล้ว บนปากคอขวด มีร่องรอยของกรงเล็บมังกรยักษ์หลงเหลืออยู่ รอยเท้าฝังลึกลงไปในพื้นดิน ทุกรอยเท้ามีความลึกหลายสิบเมตร เห็นได้เลยว่าเรี่ยวแรงที่ประทับลงไปนั้นมหาศาลเพียงใด ทอดมองออกไปยังสนามรบที่เละไม่เหลือชิ้นดีหลังจากการสู้ครั้งใหญ่ของยอดฝีมือ ประมุขชิงสั่นสะท้าน ลึกลงไปในใจรู้สึกถึงลางไม่ดีบางอย่าง อาหน่วนเคยบอกไว้ โลกนี้มีมังกรอสูรขั้นเจ็ดทั้งหมดสองตัว ตัวหนึ่งคือมังกรน้ำ อยู่ในสถ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 440

    แม้ว่ากู้ชูหน่วนจะมีชีวิตถึงหมื่นชีวิต ก็คงต้องตายอย่างแน่นอนภารกิจบนบ่าของเขานั้นหนักอึ้งนัก เขาควรจะสลัดออกไปอย่างเต็มกำลัง เพื่อรักษาพลังปราณที่เหลืออยู่ในร่างกาย แต่......ไม่รู้ทำไม เขาถึงลังเลภาพของกู้ชูหน่วนที่ดูมีชีวิตชีวาและฉลาดหลักแหลมค่อยๆ ปรากฏขึ้นในสมองของเขาพร้อมกับใบหน้าเล็กๆ ของนางที่กำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดและอดทนต่อความทุกข์ทรมานอย่างแข็งขัน เวินเส้าอี๋ก็แอบลังเลเวินเส้าอี๋รีบดึงพลังฝ่ามือของเขากลับ เขาพยายามมาหลายวิธีแต่ก็ไม่ได้ผล ทำได้เพียงเฝ้าดูพลังภายในที่เขาฝึกฝนมาหลายปี ค่อยๆ หายไปในชั่วข้ามคืน และกลายเป็นของคนอื่นเมื่อหันมองกู้ชูหน่วนอีกครั้งใบหน้าเล็กๆ ของนางขมวดเป็นปมด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าอันงดงามไร้ที่ติของนางค่อยๆ เปลี่ยนจากซีดขาวเป็นแดงระเรื่อ ในที่สุดร่างกายของนางก็เหมือนถูกไฟไหม้ ร้อนจนคนไม่กล้าสัมผัสร่างกายของนางรับพลังภายในมากเกินไปไม่ได้ พลังปราณในร่างกายของนางพุ่งชนไปมาอย่างต่อเนื่อง ราวกับจะทำลายร่างกายของนาง"วิชาดูดพลังคืออะไร" กู้ชูหน่วนอดทนต่อความเจ็บปวดระลอกแล้วระลอกเล่าอย่างอดทน แล้วกัดฟันถาม"……""เวินเส้าอี๋ รีบถอนมือเร็ว

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 439

    ณ หน้าผาเวินเส้าอี๋ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ภาพที่เห็นคือแผ่นหินที่ยื่นออกมาจากกลางหน้าผา เมื่อมองขึ้นไปด้านบนก็เห็นเมฆสีขาวจำนวนมาก ไม่รู้ว่าสูงเพียงใดเมื่อมองลงไปด้านล่างเป็นทะเลโลหิตที่เดือดพล่าน คลื่นเลือดสาดกระเซ็นเป็นระยะๆ อุณหภูมิสูงจนน่าตกใจเมื่อมองไปด้านข้าง กู้ชูหน่วนหมดสติอยู่ข้างเขา ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรเวินเส้าอี๋พยายามลุกขึ้นยืน เดินโซเซไปหากู้ชูหน่วน มือที่เต็มไปด้วยเลือดของเขาลองแตะที่จมูกของนาง ยังมีลมหายใจอ่อนๆ ทำให้ใจที่ตึงเครียดของเวินเส้าอี๋๋ผ่อนคลายลงโชคดีที่มีแผ่นหินที่ยื่นออกมานี้ มิฉะนั้นพวกเขาคงตายไปแล้วหน้าผาสูงเกินไป เขาถูกมังกรไฟทำร้ายสาหัส หากอยู่คนเดียวอาจจะขึ้นไปได้ แต่การพากู้ชูหน่วนขึ้นไปบนยอดผา ช่างยากยิ่งกว่าการปีนขึ้นสวรรค์เสียอีก"เจ้าขมวดคิ้วดูไม่ดีเลย"กู้ชูหน่วนฟื้นตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ แล้วพึมพำเสียงเบา"แค่ก แค่ก......"นางไอออกมาเป็นชุด ไอออกมาเป็นกองเลือดเวินเส้าอี๋จับชีพจรของนาง มองสีหน้าที่อ่อนแรงและซีดเซียวของนาง น้ำเสียงของเขาค่อนข้างหนักแน่น "เจ้าตกจากที่สูง ปอดและอวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ""ข้าดวงแข็ง พญายมยังกลัวข้า

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 438

    "ปัง......"กู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ตกลงมา เพียงแต่สถานที่ที่ตกลงมาไม่ใช่ทะเลโลหิต แต่ตกลงกระแทกบนแผ่นหินที่ยื่นออกมา"โอ๊ย......"กู้ชูหน่วนส่งเสียงครางเบาๆ เอวของนาง......เกือบหักแล้ว"ฟิ้ว......"เวินเส้าอี๋โยนกู้ชูหน่วนขึ้นไปในอากาศ เพื่อลดแรงกระแทกจากการตกลงมาของนาง ส่วนตัวเองก็ตกลงกระแทกบนแผ่นหินอย่างจัง แรงกระแทกนั้นรุนแรงมาก จนเขาอดไม่ได้ที่จะกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง กระดูกทั่วร่างราวกับแตกกระจาย แม้แต่อวัยวะภายในก็ยังกระเพื่อมอย่างรุนแรงทั้งสองหมดสติไปพร้อมกัน เสียงคำรามของสัตว์อสูรบนยอดผา พร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนยังคงดังต่อเนื่องในหุบเขาทางทิศตะวันตก เย่จิ่งหานและน้องเก้าราวกับรับรู้ได้ว่ากู้ชูหน่วนประสบเคราะห์ร้ายเย่จิ่งหานพยายามลุกขึ้นยืน โดยไม่สนใจสิ่งใดๆ ต้องการออกไปตามหากู้ชูหน่วน แต่ไม่รู้ว่ากู้ชูหน่วนทำอะไรกับเขา ไม่เพียงทำให้เขาทั้งร่างกายอ่อนแรง พลังภายในสูญสิ้น แม้แต่จะขยับตัวก็ทำไม่ได้เลย จึงทำได้เพียงร้อนใจอยู่ภายใน"หลีลั่ว ส่งคนออกไปทั้งหมด ไม่ว่าจะอย่างไรก็ต้องนำพระชายากลับมาอย่างปลอดภัย""นายท่าน หากทำเช่นนั้น สถานะของพวกเราก็จะถูกเปิดเผย ถึงย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 437

    เวินเส้าอี๋ได้รับบาดเจ็บสาหัส......ขณะที่กู้ชูหน่วนลังเลว่าจะย้อนกลับไปช่วยเวินเส้าอี๋หรือไม่ อุณหภูมิในท้องฟ้าก็ลดลงอย่างกะทันหัน และยังมีหิมะโปรยปรายลงมาอย่างช้าๆฤดูนี้มีหิมะได้อย่างไร?ที่นี่มีน้ำไม่มาก แล้วจะรวมตัวกันเป็นหิมะได้อย่างไรกัน?หรือว่าเวินเส้าอี๋ใช้พลังภายในแปลงเป็นหิมะ?ความคิดยังไม่ทันกระจ่าง เวินเส้าอี๋ก็ไม่รู้ว่าใช้วิธีใดสะบัดหลุด และตามนางทันแล้วเขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อนข้างร้อนรน "ไปเร็ว""ข้าใช้พลังทั้งหมดที่มีแล้ว"ทั้งสองเดินเคียงข้างกันด้วยความเร็วราวสายฟ้าทะเลโลหิตทั่วฟ้าโปรยปรายลงมาราวกับฝนเลือด ไม่ว่าจะเป็นหินหรือหญ้าที่โดนฝนเลือด ก็ล้วนละลายหรือลุกไหม้อย่างรวดเร็วเวินเส้าอี๋หลบหนีพลางใช้พลังฝ่ามือปัดป้องฝนเลือดไปด้วยทันใดนั้น ภูเขาหินที่ปกติก็แตกออกเป็นโพรงขนาดใหญ่ทั้งสองพลาดพลั้งเหยียบพลาดไป"อ้าก......"เสียงร้องตกใจดังขึ้นกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋ตกลงไปก้นเหว เสียงร้องหวาดกลัวดังก้องไปทั่วทั้งภูเขาเวินเส้าอี๋สีหน้าเปลี่ยน เขาปลดปล่อยกระบวนท่าพันจินจุ้ย เร่งความเร็วในการตกลง และใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวของกู้ชูหน่วนไว้ ส่วนอีกมือเกาะกำแ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 436

    ในขณะที่ลูกไฟกำลังจะตกลงมาใส่นาง พลังฝ่ามืออันเฉียบคมก็สั่นคลอนลูกไฟออกไปทันทีจากนั้นเวินเส้าอี๋ก็ลอยขึ้นไปกลางอากาศ ประสานมือสร้างสัญลักษณ์ และสร้างเกราะป้องกันแสงสีขาวด้วยพลังภายในของเขาที่เส้นแบ่งระหว่างทะเลโลหิตกับหิน เพื่อป้องกันการโจมตีอย่างต่อเนื่องของมังกรไฟมังกรไฟสะบัดหาง เกราะป้องกันแสงสีขาวสั่นสะเทือนหลายทีตาข่ายขนาดใหญ่ไม่สะทกสะท้าน มังกรไฟว่ายอยู่กลางอากาศ กระแทกตาข่ายขนาดใหญ่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับจะกลืนกินกู้ชูหน่วนและเวินเส้าอี๋เข้าไปในท้อง"ปัง ปัง ปัง......"ทุกครั้งที่กระแทก เกราะป้องกันแสงจะอ่อนแอลงเวินเส้าอี๋กระตุ้นพลังภายในอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับเกราะป้องกันแสง"ปัง......"เกิดการกระแทกครั้งใหญ่อีกครั้ง พร้อมกับลาวาจากทะเลโลหิตที่กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้ามุมปากของเวินเส้าอี๋ปรากฏเลือดไหลซึมออกมาในดวงตาอ่อนโยนและสงบนนิ่งของเขาเผยร่องรอยของความตกใจสัตว์อสูรขั้นเจ็ด......เป็นสัตว์อสูรขั้นเจ็ดจริงๆ ด้วย และเป็นมังกรไฟของทะเลโลหิตที่มีพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมากเขาและเย่จิ่งหาน หัวหน้าเผ่าหมอ อยู่ในระดับเดียวกัน แต่พวกเขาทั้งสาม

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status