ร่างของมนุษย์นอนตายเกลื่อนพื้น กระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น เลือดสดไหลซึมออกจากร่างของพวกเขาอย่างช้าๆ รวมตัวกันเป็นสายน้ำไหลผ่านเท้าของพวกเขาหมู่บ้านถูกเผาทำลาย มองไปทางไหนก็ไม่พบกระท่อมที่สมบูรณ์สักหลัง อีกาหลายตัวเกาะอยู่บนกระเบื้อง ส่งเสียงร้องกากๆ ดังลั่นกู้ชูหน่วนเจ็บปวดมากศพเหล่านั้นมีเจ้าของร้านขายบะหมี่ มีผู้ใหญ่บ้าน และคนอื่นๆ ที่นางคุ้นเคยรวมอยู่ด้วย ทุกคนถูกฟันด้วยมีดนับสิบครั้ง เลือดไหลหมดตัวจนตาย แม้แต่คนชราอายุแปดสิบปีและทารกในอ้อมอกก็ไม่เว้นนี่เป็นโศกนาฏกรรมของมนุษย์มือของกู้ชูหน่วนกำแน่นจนได้ยินเสียงกระดูกดังกร๊อบแกร๊บใบหน้าของเยี่ยเฟิงซีดขาวจนไม่มีเลือด เขาแทบไม่อยากมองร่างเหล่านั้น ทุกคนที่นี่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนญาติสนิทเขาวิ่งโซเซ กลับไปที่บ้านของตัวเอง พึมพำกับตัวเองด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"แม่เฒ่า......แม่เฒ่า......"ฝ่ามือของกู้ชูหน่วนสั่นเทา ตะโกนเสียงดัง "เซียวอวี่เชียน เซียวอวี่เชียน อยู่ที่ไหน......หากยังไม่ตายก็ส่งเสียงออกมา"กู้ชูหน่วนมองหาร่างของเซียวอวี่เชียนในกองศพ พร้อมกับตะโกนเสียงดัง ขณะนี้ นางไม่เหลือความเย่อหยิ่งในอดีตแล้ว และมีแต่ความกลัว
"กู้ชูหน่วนเอ่ยว่า "ฉะนั้น ตั้งแต่แรกเริ่ม นายท่านหลันก็ต้องการสังหารหมู่ชาวบ้านในเสี่ยวเหอชุน"เยี่ยเฟิงเนื้อตัวสั่นเทา เกือบยืนไม่ไหวเขารู้ดีว่าแม้เขาจะเอากระดิ่งภินวิญญาณกลับคืนมาได้ นายท่านหลันก็คงไม่ปล่อยเขาไปไม่ว่าวันนั้นเขาจะสามารถนำกระดิ่งภินวิญญาณกลับมาได้หรือไม่ นายท่านหลันก็ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะสังหารชาวบ้านทั้งเสี่ยวเหอชุนโทษเขาเอง......โทษเขาเอง เขาไม่ควรพาแม่เฒ่ามาที่เสี่ยวเหอชุนหากเขาไม่มาที่เสี่ยวเหอชุน เสี่ยวเหอชุนก็คงไม่เกิดเรื่องกู้ชูหน่วนมองเย่จิ่งหานที่ทำสีหน้ามืดมน และเอ่ยต่อว่า "ฉะนั้น ตั้งแต่นายท่านหลันปรากฏตัวที่วัดไป๋อวิ๋น เย่จิ่งหานก็ได้สั่งให้คนมาคุ้มครองเสี่ยวเหอชุนอย่างรวดเร็ว แต่ก็ช้าไปหนึ่งก้าว"เซียวอวี่เชียนไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์ จึงเอ่ยว่า "ลูกน้องของเทพสงครามมาถึงเมื่อวาน แต่น่าเสียดายที่สายไป"ตู้ม......ท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆดำสนิท เสียงฟ้าร้องดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับรู้ถึงความรู้สึกของพวกเขา สวรรค์เริ่มร้องไห้ ฝนตกหนักกระหน่ำลงมา กระทบกับเลือดที่นองอยู่เต็มพื้น และก้นบึ้งของหัวใจของพวกเยี่ยเฟิงฝนตกลงมาพร้อมกับเลือด รวมตัวกั
"กู้ชูหน่วนทิ้งร่มกระดาษน้ำมัน นั่งลงข้างกายเยี่ยเฟิงเป็นเพื่อนเขาอย่างเงียบๆ ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนระอุ กู้ชูหน่วนลังเลว่าจะปลอบโยนเขาอย่างไรไม่คาดคิดว่าเยี่ยเฟิงจะเอ่ยปากพูดก่อนเขาไม่ได้พูดมานาน เสียงแหบแห้งของเขาดังขึ้นอย่างช้าๆ"ข้าเป็นตัวซวย ใครก็ตามที่ใกล้ชิดข้าก็จะต้องโชคร้าย ในอดีต ท่านอาและอาสะใภ้ที่สนามทาส องครักษ์พี่ใหญ่ใจดีที่เขาหมายวิญญาณ ครอบครัวของแม่เฒ่าเยี่ยและชาวบ้านทุกคนในเสี่ยวเหอชุน ข้ากลัวว่า......"กลัวว่านางและเซียวอวี่เชียนจะถูกเขาทำให้เดือดร้อนไปด้วยกู้ชูหน่วนรู้ความคิดในใจของเขา จึงพูดแทรกเขาทันที "ใครบอกว่าเจ้าเป็นตัวซวย เจ้าจิตใจดี รักเพื่อนพ้อง ผู้คนจำนวนมากต่อแถวอยากเป็นเพื่อนเจ้า"เยี่ยเฟิงยิ้มขมขื่น นั่งอยู่ใต้แสงแดดอันร้อนระอุ แต่กลับไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นแม้แต่น้อย"ข้าอยู่ในสนามทาสตั้งแต่ข้าจำความได้ แม้ว่ายามนั้นชีวิตจะลำบากไปบ้าง แต่ข้าก็มีความสุขมาก เพราะที่นั่นมีท่านอาและอาสะใภ้จำนวนมากที่ปฏิบัติต่อข้าดีมาก""เจ้ารู้หรือไม่ว่าความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ที่สุดของข้าในยามนั้นคืออะไร"กู้ชูหน่วนถามอย่างไม่แน่ใจ "ตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง กลับไปอยู
"ต่อมา ข้าได้รับเลือกเป็นบ่าวรับใช้ และถูกส่งไปยังเรือนใหญ่ของนายท่านหลัน" เยี่ยเฟิงตัวสั่นเทา กอดตัวเองแน่นขึ้น และคำพูดที่เปล่งออกมาสั่นเครือจนฟันกระทบกัน"ตั้งแต่นั้นมา โลกของข้าก็มืดมิด เขาทารุณและโหดร้ายจนเกินจะบรรยาย""เรื่องพวกนั้นผ่านมาแล้ว อย่าคิดถึงอีกเลย" กู้ชูหน่วนอยากกอดเขา แต่นางก็กลัวกลัวว่าหากนางสัมผัสเขา เขาจะแตกสลาย"สิบสามปีที่ผ่านมา ข้าคิดฆ่าตัวตายทุกวัน ทุกวันทุกคืน ราวกับตายทั้งเป็น"เยี่ยเฟิงเงยหน้ามองกู้ชูหน่วน ในดวงตาเย็นชาของเขาน้ำตาคลอเบ้า "เจ้ารู้หรือไม่ว่าเป็นชีวิตอย่างไร? อยู่ในถ้ำน้ำแข็งมืดมิด แม้แต่ความตายก็ยังเป็นความหรูหรา แม้แต่การหายใจก็ยังเจ็บปวด เจ็บปวดมาก......"กู้ชูหน่วนไม่ค่อยเข้าใจว่าเยี่ยเฟิงบอกเรื่องนี้กับนางทำไม?หรือว่าเขาคิดสั้น อยากฆ่าตัวตาย?"ข้ารู้ว่าข้าตายไม่ได้ หากข้าตาย คนสิบคนที่ผูกติดอยู่กับข้าก็จะตายด้วย คนในสนามทาสก็จะตาย พ่อแม่แท้ๆ ของข้าก็จะตายทั้งเป็น""สิบสามปี ข้าทนมาสิบสามปีเต็ม ข้าพยายามอย่างสุดชีวิตที่จะหนีจากนายท่านหลัน ในเผ่าหมอมีการคัดเลือกผู้มีความสามารถ ตราบใดที่พิณกู่ฉิน หมากล้อม พู่กันจีน ภาพวาดจีน เขียน
กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความโกรธจิตใจดีอะไร? ที่แท้ก็แค่คอยเตือนให้เยี่ยเฟิงเชื่อฟังเขาแต่โดยดีเท่านั้น หากเขาอยากจะทำเมื่อไหร่ ก็สามารถทำให้เขาปางตายได้ทุกเมื่อน่าขยะแขยงน่าขยะแขยงเกินไปแล้วทำไมคนเลวแบบนั้นไม่ตายๆ ไปเสีย"รู้สึกว่าข้าต่ำต้อยและน่าดูถูกมากใช่หรือไม่""ไม่เลย""ข้าเป็นแค่ของเล่นที่คนเอาไว้เล่นสนุก เพื่อความอยู่รอด เพื่อที่จะได้ทรมานน้อยลง ข้าจึงยอมก้มหัว ยอมดูถูกตัวเอง ข้าเป็นคนแบบนี้ ไม่คู่ควรที่จะมีชีวิตอยู่บนโลก ข้าเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของตัวเองจนหมดสิ้น""ไม่ เจ้ากล้าหาญมาก มีความรับผิดชอบมาก หากเป็นคนอื่นคงฆ่าตัวตายไปนานแล้ว การมีชีวิตอยู่ยากกว่าการตายเสมอ ยิ่งไปกว่านั้น......"ยิ่งไปกว่านั้นเขายึดมั่นในศักดิ์ศรีของตัวเองมากเขายึดคำว่าศักดิ์ศรีมากกว่าใครตั้งแต่เกิด เขาก็ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่โหดร้ายตั้งแต่อายุห้าขวบ ปีกทั้งสองข้างของเขาก็ถูกคนหักจนขาดสะบั้นในโลกแคบๆ และทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสการที่เขายังคงรักษาเจตจำนงเดิมไว้ได้นั้น นับว่าเป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว"เรื่องพวกนั้นผ่านมาแล้ว ต่อไปเจ้าจะมีชีวิตที่ดี เรื่องแม่เฒ่าของเจ
คำพูดของกู้ชูหน่วน พวกเขาไม่ค่อยเข้าใจเซียวอวี่เชียนส่ายศีรษะ ไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก "เทพสงครามหลอกไม่ง่าย วันแต่งงาน เจ้าทำเพื่อชายอื่น และหนีไปช่วยคนที่เผ่าหมอ จุๆ ๆ ข้ากลัวว่าเจ้าไม่ทันได้ช่วยคน ก็อาจเอาชีวิตของตัวเองไปทิ้งเสียแล้ว"กู้ชูหน่วนกลอกตา "วางใจได้ ข้าไม่เอาตัวเองไปเสี่ยงแน่ และข้าจะทำให้ เย่จิ่งหานยอมปล่อยข้าออกมาแต่โดยดี พวกเจ้าเลิกเป็นห่วงเรื่องที่ไม่จำเป็นได้แล้ว""พูดซะเสมือนจริง ไหนลองบอกมาซิ คืนส่งตัวเข้าห้องหอ เจ้าจะหนีออกมาอย่างไร""บอกไปก็ไม่ขลังน่ะสิ"เซียวอวี่เชียนคิดว่านางแค่พูดไปเช่นนั้น ไม่คิดว่านางจะคิดหนีงานแต่งจริงๆทว่า......ในใจของเขาหวังว่างานแต่งของนางกับเทพสงครามจะไม่สำเร็จมากกว่ากู้ชูหน่วนหยิบแผนที่ที่วาดไว้ล่วงหน้าออกมา เรียกฝูกวงมาปรึกษากันว่าจะใช้เย่จิ่งหาน บุกเข้าไปในเขาหมายวิญญาณเพื่อช่วยแม่เฒ่าเยี่ยได้อย่างไรเยี่ยเฟิงมองไปที่ท้องฟ้าสีคราม แต่กลับไม่ได้ยินอะไรเลยแม้แต่คำเดียวพวกเขาเคยบุกเข้าไปในเขาหมายวิญญาณมาแล้วครั้งหนึ่ง คราวนี้อยากจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ไม่ง่ายเลยอีกอย่าง......ชีวิตของเขาไม่มีค่าอะไร พวกเขาจะเสี่ยงอันตรายตามเ
เยี่ยเฟิงคุกเข่าอยู่หน้าหลุมศพ โขกศีรษะสามครั้งอย่างหนักแน่น จากนั้นก็มองไปยังเสี่ยวเหอชุนที่ถูกเผาจนพังพินาศด้วยความอาลัยอยู่นาน ก่อนจะก้าวเดินขึ้นสู่เส้นทางของเขาหมายวิญญาณ ทิ้งไว้เพียงเงาอันโดดเดี่ยวและแน่วแน่ไม่มีใครรู้ว่า หลังจากที่เยี่ยเฟิงจากไปแล้ว เด็กสาวในชุดสีอ่อน สวมผ้าคลุมหน้าค่อยๆ เดินออกมาดวงตาสีดำของเด็กสาวจ้องมองไปยังแผ่นหลังและทิศทางที่เยี่ยเฟิงจากไปด้วยความแน่วแน่ ราวกับมองทะลุอะไรบางอย่างณ จวนหานอ๋องกู้ชูหน่วนวางขวดยาเม็ดหนึ่งลงบนโต๊ะให้เย่จิ่งหานที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ พร้อมกับพูดอย่างตรงไปตรงมา"มาทำข้อตกลงกันเถิด ท่านช่วยข้าช่วยแม่เฒ่าเยี่ยและฆ่านายท่านหลัน ข้าจะขับพิษเหมันต์และพิษมารทลโลหิตของท่านภายในครึ่งปี และแต่งงานกับท่าน"ฟิ้ว......เสียงสูดปากดังขึ้น ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยที่อยู่ในห้องโถงใหญ่ไม่คาดคิดว่านางจะพูดเช่นนี้ชิวเอ๋อร์ที่ตามมาติดๆ รีบดึงแขนเสื้อของกู้ชูหน่วนด้วยความตกใจการแต่งงานครั้งนี้เดิมทีฮ่องเต้ได้มีพระราชโองการแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันแต่งงานแล้ว คุณหนูจะกล้าไม่แต่งงานได้อย่างไร?อีกทั้ง......ยังไม่ทันได้แต่งงาน เพื่อชายอื่นกล
"รีบอะไร รอหลังแต่งงานก่อน ข้าจะไปช่วยนางเอง"งานแต่งคือวันพรุ่งนี้แต่เยี่ยเฟิงได้ออกเดินทางไปยังเขาหมายวิญญาณด้วยตัวคนเดียวแล้วหลังจากงานแต่ง จะไปช่วยใครได้อีก คงไปเก็บศพมากกว่า"เย่จิ่งหาน ยามนี้ท่านจะส่งทหารไปช่วยคนหรือไม่?" กู้ชูหน่วนเตือนเย่จิ่งหานไม่สนใจคำเตือนของนาง ยิ้มเยาะเอ่ยว่า "ไม่ส่ง""ได้ ท่านใจร้ายมาก"กู้ชูหน่วนจ้องเขาเขม็ง ก้าวเท้าออกจากห้องโถงทีละก้าวชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยรู้สึกแปลกๆจะไปแล้วรึ?ไม่เหมือนนิสัยของนางเลยไม่รอให้พวกเขาได้ทันตั้งตัว กู้ชูหน่วนก็แหกปากตะโกนเสียงดัง "เย่จิ่งหานเทพสงครามถูกผู้หญิงข่มขืนในพงหญ้า แม่ทัพเย่จิ่งหานถูกข่มขืน!"ฟืด......ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยใบหน้าซีดขาวทันใดนั้น แสงสีขาวก็พุ่งผ่านพวกเขาไป ทำให้ประติมากรรมหินข้างกายกู้ชูหน่วนแตกเป็นผุยผง ส่งเสียงระเบิดดังสนั่น"พระชายาติดโรค สติฟั่นเฟือน พูดจาไร้สาระ นำนางกลับห้อง ไม่มีคำสั่งของข้า ใครก็ห้ามปล่อยนางออกมา"กู้ชูหน่วนกวาดสายตามองประติมากรรมหินที่แตกสลาย รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏที่มุมปากกักบริเวณนางรึ?กู้ชูหน่วนถูกกักบริเวณง่ายดายขนาดนั้นเชียวรึ?กู้ชูหน่วนหยิ
ด้านบนมีค้างคาวกินคน ด้านล่างมีฝูงงูพิษวิธีการเช่นนี้ช่างโหดร้ายเกินไปองครักษ์ลับพากันเลียนแบบฝูกวง ใช้กำลังภายในของตนโจมตีฝูงค้างคาว พยายามปกป้องกู้ชูหน่วนสุดกำลังที่ตนมีกู้ชูหน่วนเอ่ย "เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ ฝูกวง เจ้าคิดหาวิธีตามหาผู้อาวุโสที่แซ่ตงผู้นั้น แล้วคุมตัวนางไว้ ไม่เช่นนั้นพวกเราไม่มีผู้ใดหนีรอดไปได้แน่""แต่หากข้าน้อยไปแล้ว นายหญิงจะทำเช่นไร""ข้ามีวิธีของข้า ข้าจะคุ้มกันเจ้า เจ้ารีบไป ไม่เช่นนั้นรอจนเจ้าใช้กำลังภายในหมด อยากจะจัดการนางก็คงไม่ไหวแล้ว"ฝูกวงกวาดสายตามองดูสถานการณ์การต่อสู้รอบๆสภาพการณ์ตรงหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่นักผู้ใต้บัญชาของเย่จิ่งหานแต่ละรายต่างได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อยเยี่ยเฟิงบาดเจ็บสาหัส ทั้งยังต้องปกป้องแม่เฒ่าเยี่ย ไม่มีความสามารถในการต่อสู้แล้วที่ยังสู้ได้ก็มีเพียงแค่เขากับองครักษ์ลับของเย่จิ่งหานจำนวนไม่กี่คนหากประวิงเวลาต่อไป เกรงว่าพวกเขาจะต้องตายเพราะใช้กำลังภายในจนหมดจริงๆคิดได้เช่นนี้ ฝูกวงจึงทำได้เพียงแค่กัดฟันพูด "ข้าพอจะรู้ตำแหน่งที่นางอยู่ นายหญิง อดทนไว้ ข้าน้อยจะใช้เวลาให้น้อยที่สุดหานางให้เจอ แล้วจะจัดการนางเสีย""ด
ท่ามกลางความมืด มีเสียงซู่ซู่ดังมาจากกอหญ้าทันทีที่กู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ หันไปก็อดตกตะลึงไม่ได้ งูพิษที่กำลังแลบลิ้นขู่ฟ่อๆ หลายตัวกำลังเลื้อยเข้ามาทางพวกเขาจากทุกทิศงูพวกนี้มีหลายสายพันธุ์ หลากสีสันปะปนอยู่ด้วยกัน พุ่งเข้ามาฉกราวกับมีเป้าหมายอยู่แล้วทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็รู้ว่างูทุกตัวล้วนแต่มีพิษร้ายแรง หากทุกฉก ชีวิตพวกเขาก็คงหาไม่"เหตุใดถึงได้มีงูมากมายเพียงนี้" ไม่รู้ว่าใครในกลุ่มตะโกนออกมาฝูกวงเอ่ยเสียงขรึม "นายหญิง คงเป็นผู้อาวุโสตงเผ่าเทียนเฝิน นางสันทัดเรื่องการควบคุมแมลง งูและมดมีพิษ""มีวิธีจัดการหรือไม่""นอกเสียจากฆ่าผู้อาวุโสตง หรือไม่ก็คุมตัวนางไว้ แต่โดยปกติแล้วนางจะควบคุมผ่านการใช้เวทคาถาจากที่ที่อยู่แสนไกล พวกเราไม่รู้ตำแหน่งของนาง"เขาเองก็ไม่กล้าทิ้งนายหญิงไป ด้วยเกรงว่านายหญิงจะมีอันตรายฝูงงูเลื้อยเข้ามาใกล้ องครักษ์ลับห้อมล้อมกู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ ไว้ตรงกลางโดยอัตโนมัติ ทุกคนชักดาบเอามาเล็งไปที่ฝูงงูทว่าฝูงงูมีมากเกินไป ฟันไปตัวหนึ่ง ก็มีอีกตัวเข้ามาอีก เลื้อยกันเข้ามายั้วเยี้ย ไม่มีทางฟันให้หมดไปได้เข็มเงินของกู้ชูหน่วนถูกยิงออกไป ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ
อีกด้าน กู้ชูหน่วนกำลังพาฝูกวงมุ่งหน้าไปยังเขาหมายวิญญาณเขาหมายวิญญาณทั้งลูกสนั่นหวั่นไหว นางซวนเซทรงตัวไม่อยู่ มองดูสิ่งมหึมาที่อยู่กลางฟ้าด้วยความตกตะลึงหากไม่ได้เห็นกับตา นางไม่มีทางเชื่อว่าจะมีคนสามารถเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นมังกร เปลี่ยนใบไม้ให้กลายเป็นเฟิ่งหวงได้ อีกทั้งยังเป็นมังกรและเฟิ่งหวงที่ดูสมจริง ไอสังหารรุนแรงถึงขนาดนี้"ช่างเป็นพละกำลังที่กล้าแกร่งยิ่งนัก" กู้ชูหน่วนตะลึงอยู่ในใจจะต้องเป็นยอดฝีมือที่เก่งกาจเพียงใดถึงได้มีความสามารถเช่นนี้สีหน้าของฝูกวงดูไม่สู้ดี ใบหน้าตุ๊กตาที่ดูจิ้มลิ้มฉายให้เห็นแววความเกลียดชังปราดหนึ่ง"เผ่าเทียนเฝิน คนของเผ่าเทียนเฝินเริ่มต่อสู้กับเทพสงครามแล้ว นั่นคือหนึ่งในกระบวนท่าเด็ดของหัวหน้าเผ่ารุ่นต่อไปของเผ่าเทียนเฝินผลึกวารีหมื่นลี้""ผลึกวารีหมื่นลี้ ?""ขอรับ ในช่วงที่พลังของเขากำลังโชติช่วง เขาสามารถใช้น้ำแข็งผนึกเขาหมายวิญญาณทั้งลูก และช่วงชิงทั้งหมดที่นี่ไปในชั่วพริบตา" แต่หลังจากที่เขาใช้ผลึกวารีแล้ว เขาเองจะเจ็บหนัก เขาจึงไม่ใช้กระบวนท่านี้ง่ายๆตลอดทั้งชีวิตของเขา บางทีอาจจะใช้เพียงครั้งเดียว ครั้งนั้นคือการใช้มาจัดการกับ
เย่จิ่งหานเล่นขลุ่ยหยกขาวในมือด้วยท่าทางหน่ายคร้าน ริมฝีปากเรียวบางเปล่งออกมาหนึ่งประโยค"แค่เขาหมายวิญญาณเล็กๆ ข้าอยากจะตีก็ตี จำเป็นต้องผ่านความเห็นชอบจากเจ้าหรือ"บ้าบ้าคลั่งเกินไปแล้ว...เย่จิ่งหานวิทยายุทธสูงส่ง พลังอำนาจแข็งกล้าวิทยายุทธของหัวหน้าเผ่าหมอไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา พลังอำนาจก็ไม่ได้น้อยไปกว่าเขา ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเผ่าเทียนเฝินที่คอยจ้องตามันเย่จิ่งหานพูดเช่นนี้ เป็นการฉีกหน้าหัวหน้าเผ่าหมออย่างไม่ต้องสงสัยหรือควรจะพูดว่า ตอนที่เขาส่งทหารไปตีเขาหมายวิญญาณ ก็เท่ากับท้าทายอำนาจของหัวหน้าเผ่าหมอ แตกหักกับเขาโดยสิ้นเชิงหัวหน้าเผ่าหมอหัวเราะเจ้าเล่ห์ ดวงตาสีฟ้าอ่อนเผยให้เห็นความเย้ายวนที่ชวนให้คนหวาดกลัวชายชุดขาวยืนอยู่ใต้แสงจันทร์ ลมเย็นพัดเสื้อของเขาไหวสะบัด ราวกับจะติดปีกเป็นเซียนได้ทุกเมื่อภายใต้หน้ากากผีเสื้อ ดวงตาใสเป็นประกายเผยให้เห็นความชอบใจ เหมือนกำลังรอดูฉากเด็ดอยู่ทว่าประโยคต่อไปของหัวหน้าเผ่าหมอกลับทำให้ชายชุดขาวเกิดความสับสนว้าวุ่นเล็กน้อย"พวกเจ้าทั้งสองสู้กันไป หากสู้ไม่ไหว ข้าจะสู้แทนเอง"ทุกคน "..."นี่คือคำพูดที่หัวหน้าเผ่าหมอควรจะพูดเช
"ไม่นาน เพิ่งจะเดือนกว่าเท่านั้น" เย่จิ่งหานแม้จะกำลังยิ้ม แต่รอยยิ้มก็ไม่ได้ส่งไปที่ดวงตาเช่นกันหนึ่งเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา เขาหลงกลแผนของเผ่าเทียนเฝิน ทำให้ถูกพิษ สูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหวไป สุดท้ายก็ถูกนางผู้นั้นลากเข้าไปในกองหญ้า จากนั้น...เมื่อคิดถึงค่ำคืนนั้น ไอความหนาวเหน็บของเย่จิ่งหานก็รุนแรงขึ้นกว่าเดิม"เทพสงครามดูน่าเกรงไม่ลดไปจากตอนนั้นเลย การต่อสู้อย่างดุเดือด สังหารผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฝินของข้าไปถึงสิบหกคน ช่างเก่งกาจยิ่งนัก""ไม่เก่งกาจเท่าเผ่าเทียนเฝินหรอก ที่ทำเป็นแค่เรื่องไร้ศักดิ์ศรีลับหลังผู้อื่นเท่านั้น"ประโยคเดียวของเย่จิ่งหานทำให้ถึงทางตัน บรรยากาศพลันครุกรุ่นความบาดหมางเคียดแค้นของทั้งสอง เกิดขึ้นนานแล้ว ระหว่างนี้ผ่านมาหลายสิบรุ่น ไม่ใช่สิ่งที่จะสะสางได้วันสองวันเชื้อเพลิงสงครามพร้อมจะลุกโชนได้ทุกเมื่อการปะทะกันระหว่างยอดฝีมือเช่นนี้ ผู้อื่นในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าเข้าร่วม เพียงแค่ถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อที่จะได้ไม่ต้องโดนลูกหลงในขณะที่สงครามกำลังจะเริ่มพลันมีเงาร่างสีแดงเพลิงอีกร่างลงมาจากกลางอากาศผู้ที่มาก็เป็นชายหนุ่มวัยเยาว์ เพียงแต่เ
ประโยคเดียว ทำให้บรรยากาศในโรงเตี๊ยมหมองหม่นลงไปอย่างรู้สึกได้หากหัวหน้าเผ่าหมอไม่มา แม้นายท่านหลันจะมีวิทยายุทธที่สูงล้ำ แต่การจะล้มเขาก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วแต่หัวหน้าเผ่าหมอมาด้วยตัวเอง เรื่องก็เริ่มจะตึงมือขึ้นมาเล็กน้อยที่สำคัญที่สุดคือ การสู้กับเขตกองธงหลันในคราวนี้ เผ่าเทียนเฝินจะต้องเข้ามาประสมโรงเป็นแน่ ศัตรูรายใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือเผ่าเทียนเฝิน"รีบสู้รีบจบ เอาหัวของนายท่านหลันมา แล้วค่อยล่อหัวหน้าเผ่าหมอออกมา"ซูมู่พลันเงยหน้า พูดด้วยความตกตะลึง "เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ผู้ที่มาครานี้มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นหัวหน้าเผ่าเทียนเฝินรุ่นต่อไป ด้วยแรงของเจ้าคนเดียวจะสู้เขากับหัวหน้าเผ่าหมอได้หรือ เจ้าคิดว่าเจ้าจะชนะได้หรือ หัวหน้าเผ่าหมอยกให้ข้า เจ้าตั้งใจรับมือกับเผ่าเทียนเฝินไปเถอะ""ไม่ทันแล้ว" ดวงตามืดดำคู่นั้นของเย่จิ่งหานมองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ พลังลมปราณที่แข็งแกร่งจากทางนั้นค่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด้วยความเร็วสูงหากเขาทายไม่ผิด เผ่าเทียนเฝินและหัวหน้าเผ่าหมอกำลังทางนี้เย่จิ่งหานให้คนเข็นเขาออกไปพลางเอ่ย "หากเจ้าอยากช่วยข้า ก็ช่วยข้าตามหาก
ดวงตาที่นิ่งเรียบของเย่จิ่งหานไม่แสดงออกถึงความรู้สึกใดๆชายชุดครามซูมู่ยิ้มเยาะ"สำนักซิวหลัว เผ่าหมอ และเจ้า ต่างฝ่ายต่างอยู่ ไม่ก้าวล้ำซึ่งกันและกัน หากความสัมพันธ์เช่นนี้ถูกทำลาย สองพยัคฆ์ช่วงชิงกัน เผ่าเทียนเฝินจะต้องถือโอกาสเข้ามาผสมโรงเป็นแน่""เผ่าเทียนเฝินเป็นเผ่าเก่าแก่กว่าพันปี แกร่งกล้ามั่นคง วิทยายุทธหัวหน้าเผ่าเกินกว่าจะประเมินได้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าเจ้า ภายในเผ่ายังมีท่านผู้อาวุโสอีกมากมาย หรือแม้กระทั่งปรมาจารย์อาวุโส ได้ยินมาว่า หัวหน้าเผ่าเทียนเฝินรุ่นต่อไปเหนือกว่ารุ่นก่อน วิทยายุทธก็ไม่ได้แย่ไปกว่าหัวหน้าเผ่า ต่อให้ผู้ใต้บัญชาของเจ้าจะเก่งกาจเพียงใด แต่จะเทียบพวกเขาได้อย่างไร""ยิ่งไปกว่านั้นพลังอำนาจของเผ่าเทียนเฝินนั้นสลับซับซ้อนนัก มีคนของพวกเขาอยู่ทั่วทั้งใต้หล้า แคว้นเย่...เหอะ หากไม่มีเจ้า คงถูกแคว้นต่างๆ แบ่งกลืนดินแดนไปนานแล้ว ยามนี้ฮ่องเต้น้อยยังจะใจเย็นอยู่ได้อีก"เย่จิ่งหานเอ่ยเสียงขรึม "ข้าว่าเจ้าคงว่างเกินไป"ซูมู่จัดระเบียบแขนเสื้อที่ใหญ่โคร่งของเขา ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวข้างๆ ด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย ระหว่างที่กินผลไม้อย่างสง่างาม ปากก็พลอยคลี่ยิ้ม
ดวงตาสุกสกาวของกู้ชูหน่วนฉายประกายความเจ้าเล่ห์ผาดหนึ่งจู่ๆ นางก็กุมหัวใจของตัวเองไว้แน่น เลือดพลันพุ่งทะลักออกมา ส่วนร่างของนางก็ล้มลงไปที่พื้น ร่างที่อ่อนแรงพูดด้วยความตกตะลึง "ผู้ใด...ผู้ใดช่างเหี้ยมโหด ถึงกับกล้า...วางยา..."ซืดดด....ทุกคนต่างก็ตกตะลึงพากันมองไปยังกู้ชูหน่วนที่นอนหลับตาปี๋จมกองเลือดอยู่อย่างไม่เชื่อสายตา สายตาเต็มไปด้วยความลนลาน“หมอหลวง รีบตามหมอหลวง”ไม่รู้ผู้ใดในกลุ่มคนตะโกนออกมาด้วยความตื่นตระหนกเหล่าองครักษ์พากันวิ่งออกไปตามหมอหลวงอย่างรีบร้อน“พระชายา ท่านเป็นอะไรไป…”องครักษ์หญิงนางหนึ่งรวบรวมความกล้าเข้าไปจับชีพจรของนาง สีหน้าที่เดิมก็ดูหวาดกลัวอยู่แล้วพลันซีดเผือด“ไม่…ไม่มีชีพจรแล้ว…พระชายาไม่มีชีพจรแล้ว”ฟู่วววร่างของทุกคนสั่นผวาไม่มีชีพจรก็หมายความว่าตายแล้วไม่ใช่หรือคุณพระช่วย หากพระชายาเป็นอะไรไป พวกเขาจะอธิบายกับท่านอ๋องอย่างไรแต่พวกเขาคุ้มกันอย่างหนาแน่น ไม่มีทางที่ผู้ใดจะมีโอกาสวางยาพระชายาได้"ฟึบ ฟึบ ฟึบ..."ร่างที่อยู่ทั้งในที่ลับและที่สว่างต่างพากันออกไป บ้างก็ไปรายงานเย่จิ่งหาน บ้างก็ไปตามหมอ แค่เพียงในระยะเวลาสั้นๆ ผู
หลายวันมานี้อยู่แต่ในจวนหานอ๋องมาตลอด กู้ชูหน่วนคุ้นเคยกับพื้นที่นี้เป็นอย่างดีนางคลำทางไปด้วยความชำนาญ เพิ่งจะออกจากสวนไปได้ก็ถูกผู้อารักขาขวางเอาไว้"พระชายาอยากกินขนมตงฝูดอกกุ้ยฮวา พวกเจ้ารีบหลีกไป""ท่านอ๋องมีรับสั่ง ไม่ว่าผู้ใดก็ห้ามออกจากสวนไปแม้แต่ก้าวเดียว โดยเฉพาะท่าน พระชายา"บ้าเอ้ยนางพรางตัวแล้ว คนพวกนี้ยังจำได้อีกหรือเหมือนจะรู้ว่านางกำลังสงสัย อารักขาจึงอธิบาย"ใต้เท้าชิงเฟิงปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอ๋องอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด เขาไม่มีทางออกไปจากเรือนทอจันทร์ อีกอย่าง ท่านอ๋องก็กำชับไว้แล้วว่าพระชายาเชี่ยวชาญเรื่องค่ายกลปากว้า แปลงกาย และบิดเบือนหลักการ ไม่ว่าผู้ใดคิดจะออกจากเรือนนี้ไปล้วนแต่เป็นไปได้ว่าคือพระชายาปลอมตัวมา""……"กู้ชูหน่วนหน้าเหวอวิเคราะห์นางได้อย่างทะลุปรุโปร่งขนาดนี้เลยหรือ"เช่นนี้หากข้าจะดื้อดึงออกไป พวกเจ้าก็จะตัดขาของข้า หรือจะคร่าชีวิตเด็กในท้องแล้วค่อยสังหารข้า ?""ข้าน้อยไม่บังอาจ แต่ท่านอ๋องรับสั่งไว้แล้ว หากพระชายาออกไปจากเรือนทอจันทร์ ให้ทุบขาของแม่นางชิวเอ๋อร์เสีย"กู้ชูหน่วนแสยะยิ้ม "วันนี้ ข้าขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ ข้าจะต้องออก