Share

บทที่ 234

Author: เย่ชิงขวง
ฝูกวงสงสารจับใจ วางเยี่ยเฟิงที่แบกอยู่บนหลังลง แล้วพยุงกู้ชูหน่วนให้นั่งลง "นายหญิง แผลของท่านเปิดแล้ว ข้าจะทำแผลให้ท่านใหม่อีกรอบ"

"ได้" กู้ชูหน่วนโยนยาห้ามเลือดขวดสุดท้ายให้ฝูกวง

ฝูกวงนั่งลงไปในท่ากึ่งคุกเข่า ท่าทางอ่อนโยนราวกับกำลังประครองสมบัติล้ำค่า กลัวว่าหากแรงเกินไปเพียงเล็กน้อย ก็จะทำให้นางบาดเจ็บได้

ผ้าพันแผลเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดจนแยกไม่ออก ฝูกวงกลัวว่านางจะเจ็บ แกะอยู่นานก็แกะไม่ออกสักที

กู้ชูหน่วนระอา "สุดหล่อ นี่เจ้ากำลังจักจี้ข้าอยู่หรืออย่างไร"

ระหว่างพูด นางดึงผ้าพันแผลที่พันเอาไว้ก่อนหน้านี้ออกอย่างรวดเร็ว เลือดพลันไหลทะลักออกมา แต่นางก็เพียงแค่ขมวดคิ้วมุ่นเบาๆ

หากไม่ใช่เพราะบนใบหน้าของนางมีเหงื่อไหลซึมออกมา แทบจะทำให้คนเข้าใจผิดคิดว่าแผลของนางไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย

ยิ่งนางเข้มแข็งเช่นนี้ ฝูกวงยิ่งรู้สึกปวดใจ หยาดน้ำตาใสๆ รื้นอยู่ที่ขอบตา

"ร้องทำไม กลัวจะออกไปไม่ได้หรือ"

บรรยากาศค่อนข้างหม่นหมอง กู้ชูหน่วนก้มหน้า ภายใต้แสงไฟสลัว นางเห็นฝูกวงคอยปาดน้ำตาอยู่เป็นระยะ

มองเขาดีๆ อีกที อายุน่าจะราวๆ แค่สิบเจ็ดปี

ในยุคปัจจุบัน อายุสิบเจ็ดยังเป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนค
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
นรารักษ์ หลีสกุล
ตอนนี้สนุกค่ะ รออ่านต่อ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 235

    "ในเมื่อนายคนก่อนของเจ้าดีขนาดนั้น แล้วเหตุใดเจ้าถึงยอมรับข้าเป็นนายหญิงอีกคน ทั้งยังปกป้องข้าด้วยความจงรักภักดีถึงเพียงนี้""ไม่รู้ คงเพราะนายหญิงมีบางอย่างคล้ายคลึงกับนายคนก่อนของข้าน้อยกระมัง"กู้ชูหน่วนอยากจะมะเหงกใส่เขาอีกทีเสียจริง "พูดมาตั้งนาน ที่แท้ข้าก็เป็นเพียงเงาของผู้อื่น ฝูกวงเอ๊ยฝูกวง เจ้าจะทำร้ายจิตใจข้าเกินไปแล้ว""นายหญิงไม่ใช่เงา นายหญิงก็คือนายของข้าน้อย ทั้งชีวิตนี้ของข้าน้อยมีท่านเป็นนายเพียงคนเดียว""พอแล้วพอแล้ว ล้อเจ้าเล่นเฉยๆ จะจริงจังขนาดนี้ทำไม ไม่ว่าเจ้ายอมรับข้าเป็นนายเพราะเหตุใด เจ้าจงจำไว้ อย่าได้หักหลังข้า ชั่วชีวิตนี้ของเขา เกลียดการโดนทรยศที่สุด"พูดถึงประโยคสุดท้าย สีหน้าของกู้ชูหน่วนเคร่งขรึมจริงจัง พลางจ้องฝูกวงด้วยสายตาตักเตือนชาติก่อนของนาง ก็เพราะถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจที่สุด ถึงได้ตายอย่างทุกข์ทรมานแล้วข้ามมิติมาเช่นนี้ฝูกวงคุกเข่าลงด้วยความเคารพ ก่อนจะก้มหัวคำนับอย่างแรงสามที แล้วเอ่ยสาบาน "ไม่ว่าชาติไหนข้าน้อยจะไม่มีทางทรยศหักหลังนายท่าน ไม่เช่นนั้นขอให้ฟ้าผ่าตาย""ลุกขึ้นเถอะ เจ้าเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาขนาดนี้ หากถูกฟ้าผ่าตายไป

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 236

    "โลกใบนี้ ยอดฝีมือที่เก่งกาจไร้เทียมทานมีผู้ใดบ้าง" เยี่ยเฟิงฝูกวงต่างก็มองนางด้วยความสงสัยกู้ชูหน่วนปิดปากกระแอมเบาๆ "ข้าหมายความว่า ที่แห่งนี้ที่พวกเราอยู่ ยอดฝีมือที่เก่งกาจไร้เทียมทานมีผู้ใดบ้าง"เยี่ยเฟิงตอบนิ่งๆ "เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน มีจำนวนเท่าใดกันแน่ เรื่องนี้ไม่อาจรู้ได้จริงๆ แต่หัวหน้าเผ่าหมอ เทพสงครามเย่จิ่งหาน หัวหน้าเผ่าเทียนเฝิน เจ้าสำนักซิวหลัว ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทานที่เลื่องลือไปทั้งใต้หล้า รวมไปถึงเหล่าปรมาจารย์อาวุโสจากตระกูลเก่าแก่""หัวหน้าเผ่าหมอเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย คาดเดาอารมณ์ได้ยาก หากเขาคิดจะชิงกระดิ่งภินวิญญาณ ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากเลยแต่อย่างใด""เทพสงครามเย่จิ่งหานสองขาพิการ คนผู้นั้นสองขายังใช้การได้ดี ไม่น่าเป็นเขาได้""เผ่าเทียนเฝินอยู่อย่างสันโดษมานาน ไม่เคยข้องเกี่ยวโลกีย์ เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะชิงไป""ส่วนเจ้าสำนักซิวหลัว ยิ่งเป็นไปไม่ได้ นางหายตัวไปตั้งนานแล้ว จนถึงตอนนี้เป็นตายเช่นไรก็ไม่รู้"กู้ชูหน่วนลูบคาง พลางพึมพำกับตัวเอง "เผ่าเทียนเฝิน ?"ชื่อนี้เหตุใดถึงได้ฟังดูคุ้นเพียงนี้ทันทีที่พูดถึงเผ่าเทียนเฝิน ภายในถ้ำที่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 237

    กู้ชูหน่วนและพวกเดินตามช่องลมไป เดิมทีคิดไว้อีกไม่นานก็คงจะเจอทางออก คิดไม่ถึงว่าเดินไปหลายชั่วยาม ก็ยังออกไปไม่ได้ในขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังจะสบถออกมา กลับได้ยินเสียงของเยี่ยเฟิง "ข้างหน้ามีแสงสว่าง ปากถ้ำอยู่ด้านหน้า"ทั้งสามคนเดินอยู่ในถ้ำเป็นเวลาสองวันหนึ่งคืนถึงจะออกมาได้แล้วก็เดินวนอยู่ในเขาอีกสองวันกว่าจะออกมาถึงในตัวเมืองนอกประตูเมือง เมื่อทั้งสามคนเงยหน้าขึ้นไปมองตัวอักษรบนกำแพงเมืองต่างก็ตะลึงงันไปตามๆ กัน"ตำบลชิงหง ?"กู้ชูหน่วนไม่เคยได้ยินชื่อสถานที่นี้มาก่อน ในหัวก็ไม่มีความทรงจำ หรือภาพจำใด เมืองเล็กๆ ระแวกเมืองหลวงดูเหมือนจะไม่มีชื่อนี้ส่วนฝูกวงและเยี่ยเฟิงมึนงงตำบลชิงหงจัดเป็นเขตชายแดนของแคว้นเย่ เดินไปทางนอกด่านอีกสักระยะหนึ่ง ก็จะออกนอกเขตแคว้นไป เป็นพื้นที่ที่ไม่มีผู้ใดดูแล เขาดูดวิญญาณเขาดูดวิญญาณและเขาหมายวิญญาณ ต่างกันเพียงคำเดียว ทว่ากลับอยู่ห่างกันหลายพันลี้พวกเขาก็แค่เดินอยู่ในถ้ำไม่กี่วันเองไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงมาถึงที่ตำบลชิงหงได้คงไม่ใช่ว่าถ้ำแห่งนั้น คือการขุดอุโมงค์ระหว่างเขาสองลูกหรอกนะ"พวกเจ้าไปหาโรงเตี๊ยมพักผ่อนก่อนเถอะ ข้าจะกลับไปเสี่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 238

    เยี่ยเฟิงปิดปากกระแอมเบาๆ ใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ที่ติฉายแววกระอักกระอ่วนเห็นสีหน้าของเขา กู้ชูหน่วนแทบจะลมจับ"เจ้าคงไม่ได้ไม่มีเงินด้วยหรอกนะ""เรื่องนี้...ต้องขอโทษด้วย เยี่ยเฟิงยากจน เงินทองขาดมือ"กู้ชูหน่วนหมดคำจะพูดไปชั่วขณะข้างต้นหลิวใกล้โรงเตี๊ยมกู้ชูหน่วนและพวกไม่มีอะไรตกถึงท้องมาหลายวันหลายคืน อีกทั้งยังเดินทางไกลอย่างยากลำบาก ทั้งสามคนเหนื่อยล้าอ่อนแรง จึงหาโขดหินนั่งพักเดิมทีพวกเขาแค่ต้องการจะนั่งพักผ่อนสักเล็กน้อย แล้วค่อยหาทางหาเงินต่อไปคิดไม่ถึงว่า ชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมาเห็นพวกเขาสามคนแล้วต่างพากันส่ายหน้าพลางถอนหายใจ ก่อนจะโยนเงินให้พวกเขาอีแปะสองอีแปะ ด้วยมองว่าพวกเขาเป็นขอทานไปเสียอย่างนั้นกู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ รู้สึกหนังหัวชาดิกอีกครั้งฝูกวงลุกขึ้นยืน แล้วพูดด้วยความร้อนรน "นายหญิง ข้าน้อยจะไปหาอะไรมาให้ท่านกิน"เยี่ยเฟิงเองก็ลุกขึ้นด้วย พูดด้วยท่าทีเก้อเขิน "ข้าจะไปหาดูว่ามีงานรับจ้างใดบ้าง หาเงินก่อนแล้วค่อยหาอะไรรองท้อง"ถูกคนเข้าใจผิดว่าเป็นขอทาน แล้วปล่อยให้คนอื่นมาทำทานให้พวกเขา เรื่องเช่นนี้ พวกเขาทำไม่ลงกู้ชูหน่วนกลับเอื้อมแขนไปดึงพวกเขาไว้ข

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 239

    "ที่นี่มีคนของเผ่าหมออยู่จำนวนมาก ไม่ใช่เรื่องของพวกเรา อย่าไปยุ่งเลย" เยี่ยเฟิงเอ่ย "เจ้าว่า หญ้าตี้อวี้จะอยู่ที่พวกเขาหรือไม่ หรือพวกเขาจะรู้แหล่งของหญ้าตี้อวี้หรือไม่"กู้ชูหน่วนวางมือที่ท้าวคางอยู่ลงมาอย่างกะทันหัน ก่อนจะผิวปากหนึ่งที "ไป พวกเราไปหาอะไรใส่ท้องกัน""นายหญิง มีแค่สิบห้าอีแปะ เกรงว่าไม่เพียงพอจะทำให้อิ่มท้องได้"กู้ชูหน่วนหลับตา ควานหาบางอย่างในแหวนปริภูมิอยู่สักพัก ก่อนจะเจอเศษเบี้ยที่เล็กที่สุด แต่ก็มีมูลค่าถึงสิบตำลึงนางโยนไปให้ฝูกวง "ไปหาร้าน นำเบี้ยสิบตำลึงไปแลกเป็นเศษเบี้ยหนึ่งตำลึง"ฝูกวงอ้าปากกว้างด้วยความตะลึงงันเขาลืมไปได้อย่างไรว่านายหญิงมีแหวนปริภูมิอยู่ นางตุนเงินไว้ด้านในจำนวนไม่น้อยเขาก้มหน้าลงมองเหรียญกษาปณ์สิบห้าเหรียญในมือที่น้อยจนน่าสงสาร เขาพบว่าตนถูกนายหญิงหลอกแล้วด้วยความสามารถทางการเงินของนาง พวกเขาไม่จำเป็นต้องนั่งขอทานเลยแม้แต่น้อย แล้วก็ไม่จำเป็นต้องทำงานรับจ้างหาเงินประทังชีวิตด้วยฝูกวงมองไปยังกู้ชูหน่วนด้วยท่าทางน้อยใจ ก่อนจะมุ่ยปากพูด "นายหญิง ท่านจะใจร้ายเกินไปแล้ว กับข้าก็ยังหลอกได้""สิบห้าอีแปะก็ถือเป็นเงินเหมือนกัน หาเง

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 240

    กู้ชูหน่วนพยายามบีบน้ำตาสุดกำลัง ร้องไห้คร่ำครวญกับเหล่าชาวบ้านที่เข้ามามุง "พวกเราสามพี่น้อง เร่ร่อนขอทาน กว่าจะได้เงินมาหนึ่งตำลึงอย่างยากลำบาก อยากจะเข้าไปกินหมี่หยางชุนสักชาม แต่กลับถูกไล่ตะเพิดออกมา สงสารก็แต่น้องชายข้าที่ป่วยใกล้ตาย อยู่ได้อีกไม่นาน ชั่วชีวิตนี้ของเขา ความหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือได้กินบะหมี่หยางชุนร้อนๆ ของโรงเตี๊ยมผิงอันสักชาม"นางพูดพลางลูบไหล่เยี่ยเฟิงด้วยความสงสารเยี่ยเฟิงเกิดอาการเหวอไปชั่วขณะเหตุใดนางไม่ให้ฝูกวงเล่นกับนาง มาหาเขาทำไม"ดูน้องชายข้าสิ งงงวยไปหมดแล้ว หรือเป็นเพราะพวกเราคือขอทานเลยต้องโดนดูถูกเช่นนี้หรือ พวกเรากินบะหมี่ ใช่ว่าจะไม่จ่ายเงิน"เพราะกลัวว่าคนจะจำได้ เยี่ยเฟิงและฝูกวงรีบหาโคลนมาทาบนหน้า บดบังใบหน้าที่หล่อเหลาชวนตะลึงของพวกเขาเยี่ยเฟิงหน้านิ่งไม่หือไม่อือ ทุกคนต่างก็คิดว่าเขาตกใจกลัวจนนิ่งอึ้งไปแล้วจริงๆต่างพากันด่าทอต่อว่าบริกรร้าน"ปกติแล้วพวกเจ้าก็ยโสโอหัง ดูถูกคนจน ไม่คิดว่าพวกเจ้าจะทำเกินกว่าเหตุถึงเพียงนี้ แม้แต่ผู้ที่ป่วยเกินเยียวยา อยู่ได้อีกไม่นานก็รังแก พวกเจ้าใจดำเกินไปแล้ว"ทันทีที่ได้ยินคำว่าป่วยเกินเยียวย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 241

    ไม่รู้ว่าหมอกเริ่มลงตั้งแต่เมื่อใด ปกคลุมไปทั่วทั้งป่าไผ่ หมอกลงหนักจนแม้แต่ในระยะหนึ่งเมตรก็ไม่อาจเห็นได้ชัดกู้ชูหน่วนออกคำสั่ง "น่าจะเป็นค่ายกลหมอก ทุกคนอยู่ใกล้กันไว้ อย่าแยกไปไหน"ไม่มีเสียงตอบรับจากรอบข้าง กู้ชูหน่วนหันไป กลับพบว่าเยี่ยเฟิงแตกแถวไปตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ แม้แต่ฝูกวงที่ตามนางมาติดๆ ก็หายไปด้วย"เยี่ยเฟิง ฝูกวง..."กู้ชูหน่วนตะโกนเรียกหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับจากพวกเขา ในใจอดระแวงไม่ได้ข้างโสตพลันมีเสียงลมพัดผ่านราวกับเสียงวิญญาณคร่ำครวญ เศร้าสลด ทั้งยังแฝงไว้ด้วยความเย็นยะเยือกต้นไผ่สั่นไหว เงาสีเขียวขจีเอนไปซ้ายทีขวาที ราวกับต้นไผ่มีขาเคลื่อนไหวไปทั่วทุกทิศพื้นดินเปลี่ยนครั้งแล้วครั้งเล่า คล้ายกับว่ากู้ชูหน่วนกำลังอยู่ในเขาวงกดขนาดมหึมา นางไม่ขยับ พื้นดินก็ไม่ขยับ ทันทีที่นางขยับ พื้นดินก็เคลื่อนตามไปด้วยกู้ชูหน่วนหลับตาลง พยายามสัมผัสถึงทิศทางลมและทิศทางการเคลื่อนไหวของค่ายกลอย่างละเอียด ไม่นานนัก นางก็ลืมตาขึ้น นัยน์ตาเย็นยะเยือก มุมปากยกยิ้มมีเลศนัยคิดจะใช้ค่ายกลกับนางหรือคิดว่านางร่ำเรียนวิชาแก้ค่ายกลมาไม่ได้ประโยชน์ใดเลยหรือกู้ชูหน่วนเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 242

    กู้ชูหน่วนใช้วิชาตัวเบา ดีดตัวจากต้นไผ่พุ่งเข้าไปโอบเอวที่แข็งแกร่งของเด็กหนุ่มชุดแดง มืออีกข้างกระหน่ำยิงเข็มเงินออกไปราวกับเม็ดฝนซัดสาด สกัดกั้นเหล่ายอดฝีมือที่กรูกันเข้ามาด้วยความดุดันนางหัวเราะลั่น ภายในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอยากครอบครอง "น้องชายผู้นี้ เป็นของข้าแล้ว"เฮือก...ทุกคนต่างก็ตะลึงงันน้องชาย ?เป็นของนาง ?หญิงผู้นี้ฟั่นเฟือนไปแล้วหรือไรไม่มีกำลังภายในแต่อย่างใด กลับยังกล้าเข้ามาก่อกวนวุ่นวายนางรู้หรือไม่ว่าชายชุดแดงผู้นั้นคือหัวหน้าเผ่าหมอพวกเขาเปลืองแรงไปตั้งมากมาย อีกทั้งยังสละชีวิตคนไปจำนวนไม่น้อย กว่าจะล้อมเขาไว้ในป่าไผ่ได้ยิ่งไปกว่านั้น...นี่ยังเป็นช่วงเวลาสำคัญที่กำลังภายในของเขาแตกซ่าน สูญเสียกำลังภายในไปแทบทั้งหมด พวกเขาถึงทำเช่นนี้ได้เซวี่ยซา ผู้ใต้บัญชาที่โหดเหี้ยมของชายหนุ่มชุดแดงสีหน้าพลันเย็นยะเยือก กำลังจะพุ่งเข้าไปชายชุดแดงกลับโบกมือขาวเนียนของตนเบาๆ เป็นสัญญาณให้เขาอยู่เฉยๆ ผู้ใต้บัญชาผู้นั้นถึงได้หยุดฝีเท้า"น้องชาย เจ้าหน้าตาดียิ่งนัก ไม่ต้องกลัว เจ๊จะปกป้องเจ้าเอง"ตึง...ใครหลายคนตะลึงจนหงายหลังเงิบแม้แต่เซวี่ยซาผู้ใต้บัญชาข

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 464

    เดิมทีคนของเผ่าเทียนเฝินก็สงสัยในตัวนายท่านหลันอยู่แล้ว เมื่อกู้ชูหน่วนพูดเช่นนี้ คนของเผ่าเทียนเฝินก็อดไม่ได้ที่จะมองนายท่านหลันเป็นศัตรูยิ่งกว่าเดิม กู้ชูหน่วนเอ่ยออกมาเบาๆ อีกประโยค "อีกอย่างหินก้อนใหญ่จากยอดเขากลับร่วงมาบนหัวผู้อาวุโสทุกท่านของเผ่าเทียนเฝิน ทว่าพวกเจ้าทั้งหมดกลับอยู่ริม และหลบได้อย่างง่ายดาย" "กู้ชูหน่วน เจ้าหมายความเช่นไร หรือเจ้าสงสัยว่าเป็นแผนของข้ารึ" "ข้าไม่มีความกล้าที่จะพูดเช่นนั้นหรอก ชีวิตน้อยๆ ของข้ายังอยู่ในมือเจ้า" "เช่นนั้นหินก็ไม่ได้ร่วงใส่เจ้าไม่ใช่หรือ" "ข้าไม่โดนหินทับตาย เพราะข้าดวงแข็ง ใครจะรู้ว่าอีกเดี๋ยวทางที่เจ้าพาไป จะหลอกข้าไปตายหรือไม่" "หากวันนี้ข้าไม่ได้ฆ่าเจ้า ข้าจะไม่ใช่นายท่านหลันแห่งกองธงทั้งสิบสองของเผ่าหมออีก" นายท่านหลันเดือดดาล ไม่ลังเลที่จะลงมืออีกต่อไป ทุกกระบวนท่าล้วนแต่ต้องการจะสังหารกู้ชูหน่วนให้ถึงแก่ชีวิต ผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฝินก็มีน้ำโหด้วยเช่นกัน บวกกับกู้ชูหน่วนคอยยุแยงทุกประโยค คนของเผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอจึงแตกหักกันโดยสิ้นเชิง หันมาฆ่าฟันกันเอง ผู้อาวุโสจวินพูดด้วยความฉุนเฉียว "พวกหัวขโมยอ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 463

    ไฟโทสะในใจของนายท่านหลันสุมเป็นกองใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมจะระเบิดได้ทุกเวลา เขาคำรามด้วยความเกรี้ยวกราด “กู้ชูหน่วน เจ้าวกไปวนมา จะวนไปถึงไหนกัน” “พวกเจ้าให้ข้าพาพวกเจ้าไปสุดยอดเขาเพื่อตามหาแก้วมังกรไม่ใช่รึ ข้ากำลังหาทางอยู่นี่อย่างไร” นายท่านหลันโกรธจนอยากจะฟาดฝ่ามือใส่นางให้ตาย กู้ชูหน่วนพูดอย่างน้อยอกน้อยใจ “ที่แห่งนี้มีทางแยกมากมาย ข้าพยายามหาเส้นทางเต็มที่แล้ว อีกอย่างทุกเส้นทางที่ไป ล้วนแต่ผ่านความเห็นชอบของพวกเจ้าแล้ว นายท่านหลัน เจ้าจะใส่ร้ายว่าข้าจงใจพาพวกเจ้าวกไปวนมาได้อย่างไร” นายท่านหลันหงุดหงิด ทั้งๆ ที่กู้ชูหน่วนจงใจหลอกพวกเขา ทว่านางกลับเอาเหตุผลมาอ้างทุกประโยค แสร้งทำเป็นบริสุทธิ์ ทำให้เขาหาข้อกังขาไม่ได้ ทุกครั้งที่นางจะวนอยู่ที่ทางแยก นางถามพวกเขาก่อนแล้ว แต่นางแทบไม่ให้เวลาเขาดูแผนที่ก็มุ่งหน้าเดินต่อไปแล้ว ผู้อาวุโสระดับสูงหวงเริ่มจะหมดความอดทน พวกเขาวนอยู่ในถ้ำมาครึ่งวันแล้ว ขืนวนต่อไป เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่น้อยนิดของพวกเขาก็จะถูกใช้จนหมด ต้องไปถึงยอดเขาให้ได้โดยเร็ว เขาเอ่ยเสียงขรึม พยายามข่มความเหลืออดไว้ในใจ “ยังต้องเดินอีกไกลเพียงใด” “เ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 462

    ครั้งนี้ เหล่าผู้อาวุโสของเผ่าเทียนเฝินเองก็ไม่ใจเย็นอีกต่อไปแล้ว อยากจะแทงกู้ชูหน่วนให้ตายเสียเดี๋ยวนั้น ทว่ากู้ชูหน่วนกลับชิงร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหลออกมาเสียก่อน พลางสะอึกสะอื้น "เหล่าสหายทั้งหลาย เป็นข้าเองที่ทำร้ายพวกเจ้า หากรู้แต่แรกว่าที่นี่อันตรายถึงเพียงนี้ หากรู้แต่แรกว่าถ้าบุกเข้ามาจะทำให้พวกเจ้าตายอย่างทรมานที่นี่ ข้ายอมถูกพวกเจ้าตีตายไปเสีย แต่จะไม่ยอมยกกระดิ่งภินวิญญาณให้เด็ดขาด ข้าผิดต่อพวกเจ้า" "ข้าสมควรตาย ข้าทำผิดต่อพวกเจ้า พวกเจ้าฆ่าข้าเสียเถอะ ชีวิตคนมากมายเช่นนี้ คุณพระช่วย...ข้าควรชดใช้เช่นไร" นางร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหล ปวดใจเป็นที่สุด คนของเผ่าเทียนเฝินพลันใจอ่อนฮวบในทันที คนของเผ่าหมอก็คลายความโกรธลงไปไม่น้อย มีเพียงแค่นายท่านกองธงที่กัดฟันกรอด เส้นเลือดสีเขียวปูดจนจะระเบิดออกมา "ในเมื่อเจ้าอยากตายถึงเพียงนี้ เช่นนี้ข้าจะทำให้เจ้าสมหวัง" หัวหน้ากองธงพูดพลางฟาดฝ่ามือไปที่กะโหลกของนาง คนของเผ่าเทียนเฝินมองดูหน้าตาเฉย อยากเห็นว่ากู้ชูหน่วนคิดจะเล่นพิเรนทร์อะไร คิดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนเพียงแค่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น ไม่ขยับเขยื้อน อีกทั้งยังไม่ตอบโต้ ท่าทางรอคว

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 461

    เหล่าผู้อาวุโสระดับสูงเป็นกังวล ยามนี้พวกเขาต่างก็เจ็บหนัก หากฝืนตามไป ใช่ว่าจะเป็นประโยชน์ เพราะถึงอย่างไรอาการของแต่ละคนก็สาหัสปางตายกันทั้งสิ้น แต่หากไม่ไปแล้วแก้วมังกรถูกชิงไป คิดจะแย่งกลับมา เช่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แล้ว พวกเขาออกตามหามาหลายปี ใช้คนไปตั้งมากมาย จนมาพบที่ตั้งของแก้วมังกรในที่สุด ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรยอมแพ้ กู้ชูหน่วนพิงอยู่ข้างโขดหิน มองดูท่าทีลังเลของพวกเขาอยู่เงียบๆ มุมปากยกยิ้มที่ยากจะสังเกตเห็น แก้วมังกรล่อตาล่อใจเสียขนาดนั้น มีหรือที่พวกเขาจะไม่ติดกับ เป็นอย่างที่นางคิดเอาไว้ คนเหล่านี้กัดฟันเค้นออกมาหนึ่งประโยค "ไป ขึ้นเขาไปดูเสียหน่อย เจ้าก็ไปกับพวกข้าด้วย" กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นตกใจ "เมื่อครู่พวกท่านเพิ่งรับปากว่าจะให้ข้าออกไปอย่างปลอดภัยไม่ใช่หรือ หรือท่านจะกลับคำพูด" "แผนที่ที่เจ้าให้มามีเพียงครึ่งเดียว นอกเสียจากเจ้าช่วยพวกข้าตามหาอีกครึ่งหรือหาแก้วมังกรพบ ไม่เช่นนั้นอย่าหวังว่าจะได้ไปไหน" "ท่านไม่รักษาคำพูดนี่" "เช่นนั้นเจ้าอยากถูกฝังอยู่ที่นี่หรือไม่" คนของเผ่าเทียนเฝินผลักนางไปด้านหน้า กู้ชูหน่วนทำได้เพียงแค่มุ่งหน้า

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 460

    ทุกคนต่างก็จ้องไปที่กู้ชูหน่วนด้วยความโกรธ กู้ชูหน่วนผงะถอยหลังไปหลายก้าว พูดด้วยความระวัง "อีกครึ่งถูกชาวเขาตานหุยชิงไป พวกเจ้าจ้องข้าก็ไม่มีประโยชน์ หากข้ามีแผนที่อีกครึ่ง อย่างไรก็ต้องส่งให้พวกเจ้าอยู่ดี" "ชาวเขาตานหุย ?" นายท่านหลันเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง "ใช่แล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าคิดว่า เหตุใดชาวเขาตานหุยถึงใจเย็นได้ขนาดนั้น รอพวกเจ้าต่อสู้อยู่ด้านนอกตั้งนาน เว้นเสียแต่นอกจากทางลงเขาเส้นนี้ บริเวณปากเขาน้ำเต้ายังมีทางอีกเส้นที่สามารถออกไปจากเขาน้ำเต้าแห่งนี้ได้ หากพวกเขาได้แก้วมังกรแล้ว ก็น่าจะลงเขาไปทางนั้นเลย" นายท่านหลันสงสัยเคลือบแคลงในคำพูดของนางเป็นอย่างยิ่ง"ทุกท่าน สตรีนางนี้ไม่เคยมีความจริงออกจากปากนาง พวกเจ้าอย่าไปเชื่อนางเด็ดขาด" ผู้อาวุโสอวิ๋นสองจิตสองใจ "คนของพวกเราเข้ามาในเขาน้ำเต้า บาดเจ็บเสียหายอย่างหนัก แต่ชาวเขาตานหุยดูเหมือนจะราบรื่นตลอดทาง อีกทั้งยังไม่พบเจออุปสรรคใดๆ เลย" เมื่อผู้อาวุโสอวิ๋นกล่าวเช่นนี้ ผู้อาวุโสจวินก็คิดขึ้นมาได้ "เป็นจริงอย่างที่พูด ตอนนั้นข้ายังสงสัยว่าเหตุใดชาวเขาตานหุยถึงได้โชคดีเพียงนี้ ไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย ยามนี้มาคิด

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 459

    "เยี่ยเฟิงออกไปจากเขาน้ำเต้าแล้ว" "เจ้าซ่อนสิ่งใดเอาไว้" สีหน้าของกู้ชูหน่วนเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนจะกลับมานิ่งสงบอย่างรวดเร็ว นางวางมือทั้งสองข้างลง แสร้งทำเป็นพูดด้วยท่าทางสบายๆ ไม่ใส่ใจ "ข้าสตรีอ่อนแอตัวคนเดียว จะมีสิ่งใดในครอบครองได้ ก็แค่กลัวว่าชายฉกรรจ์อย่างพวกเจ้าจะเสียมารยาทกับข้าก็เท่านั้น" คำพูดนี้ของนี้ ไม่มีผู้ใดเชื่อ เพราะสีหน้าที่แสดงออกมาเล็กๆ น้อยๆ ของนางได้หักหลังนางหมดแล้ว ต่อให้นางจะนิ่งเพียงใด ทุกคนก็จับได้อยู่ดี คนของเผ่าหมอพากันเข้ามาล้อมนางเอาไว้ คนของเผ่าเทียนเฝินแม้จะนิ่งดูดาย แต่ก็ไม่ได้คิดจะปล่อยกู้ชูหน่วนไป "นังหนู ข้าขอเตือนเจ้าให้ส่งของมาดีๆ ไม่เช่นนั้น...เหอะ..." คำพูดของนายท่านหลันเต็มไปด้วยความตักเตือน นายท่านหมู่ตานกลับพูดจีบปากจีบคอ "นังเด็กคนนี้แม้จะสกปรกมอมแมมไปบ้าง แต่รูปร่างดีใช้ได้ เอามาใช้อุ่นเตียงแก้ขัดก็น่าจะไม่เลว" "เจ้า...พวกเจ้าคิดจะทำอะไร..." "ข้าบอกพวกเจ้าไว้ก่อน ข้าเป็นถึงหานอ๋องเฟย ขืนพวกเจ้ากล้าทำอะไรข้า หานอ๋องไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่" "ว่าอย่างไรนะ...เจ้าคือภรรยาของเย่จิ่งหาน เช่นนั้นพวกเราเผ่าเทียนเฝินยิ่

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 458

    ด้านล่างตีนเขาของเขาน้ำเต้า คนของเผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอลงจากเขาด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส และกองทัพที่แพ้จนหมดสภาพ สีหน้าของพวกเขาต่างก็ไม่สู้ดีนัก ข่มความฉุนเฉียวเอาไว้ เลือดสีแดงสดไหลคดเคี้ยวลงมาจากร่างของพวกเขา ผู้อาวุโสจวินแห่งเผ่าเทียนเฝินเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ "หากคนเผ่าหมอของพวกเจ้าลงมือตั้งแต่แรก พวกเราก็คงไม่ต้องพ่ายแพ้จนมีสภาพเช่นนี้ แล้วปล่อยให้พวกชาวเขาตานหุยได้ประโยชน์ไป" นายท่านหลันยิ้มเยาะ "พวกเจ้าเผ่าเทียนเฝินยังเหลือยอดฝีมือจำนวนไม่น้อยไว้ระวังพวกข้า หากร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมต่อสู้ด้วยกัน มังกรอสูรขั้นเจ็ดก็ไม่จำเป็นต้องให้พวกข้าลงมือ พวกเจ้าจัดการเองก็ได้แล้ว สุดท้ายแล้ว พวกเจ้าก็ไม่ไว้ใจพวกข้า" ผู้อาวุโสอวิ๋นเฟยเย่มีนิสัยใจร้อนมาแต่ไหนแต่ไร เขาเดือดดาลขึ้นมาทันที "หากพวกข้าเข้าไปพร้อมกัน ทุกคนต่างก็เจ็บหนักกันหมด หลังจากนั้นพวกเจ้าจะได้ถือโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์ไปได้ง่ายๆ น่ะสิ" ผู้อาวุโสหวงหนึ่งในผู้อาวุโสระดับสูงติเตียน "พอได้แล้ว แทนที่จะมัวมาพูดมากอยู่ตรงนี้ ไม่สู้คิดหาหนทางว่าจะชิงแก้วมังกรมาจากชาวเขาตานหุยอย่างไรจะดีกว่า" ผู้อาวุโสระดับสูงหวงเอ่ย ก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 457

    "โฮ่ว..." "โฮก..." "เฮือก..." นายท่านกองธงเผ่าหมอและมังกรอสูรต่างก็เจ็บหนัก ครั้งนี้ล้วนแต่บาดเจ็บเสียหายกันทั้งคู่ "นายหญิง นายท่านสองคนนั้นเป็นนายท่านจากอีกสองกองธง หนึ่งในนั้นนายท่านเถาฮวาถูกมังกรอสูรโจมตีบาดเจ็บสาหัส อาการปางตาย เกรงว่าคงไม่อาจรอดไปได้แล้ว มังกรอสูรก็เจ็บไม่เบาเช่นกัน กรงเล็บหักไปเล็บหนึ่งแล้ว นายหญิง พวกเราเข้าไปตอนนี้เลยดีหรือไม่" "เจ้าจะรีบไปเกิดใหม่หรืออย่างไร จะร้อนรนกระวนกระวายไปไหน" "แต่ขืนพวกเรายังไม่ไป แล้วแก้วมังกร..." "หากแก้วมังกรชิงไปได้ง่ายเพียงนั้น พวกเจ้าคงได้ไปนานแล้ว ต้องรอถึงตอนนี้อีกรึ เสี่ยวฝูกวง ข้าเห็นปกติเจ้าก็ฉลาดดีอยู่หรอก เหตุใดพอเกี่ยวกับแก้วมังกร เจ้าถึงได้กลายเป็นคนโง่แบบนี้ไปได้" แน่นอนว่าต้องโง่อยู่แล้ว เขาจะไม่กระวนกระวายได้อย่างไร คนทั้งเผ่าต่างก็ตั้งตารอแก้วมังกรเพื่อจะได้ถอนคำสาปเลือด นั่นคือชีวิตนับพันนับหมื่นชีวิต "เจ้ารอดูเถอะ เดี๋ยวพวกเขาก็จะเริ่มการโจมตีครั้งต่อไปแล้ว" ไม่ผิดไปจากที่กู้ชูหน่วนคาดการณ์ไว้ คนของเผ่าหมอและเผ่าเทียนเฝินลงมือโจมตีอีกครั้ง สู้กันสนั่นหวั่นไหว มืดฟ้ามัวดิน

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 456

    ฮองเฮาฉู่และเยี่ยเฟิงไม่ยอมแยกจากัน กู้ชูหน่วนเปลืองแรงไปมากมายกว่าจะส่งพวกเขาสองคนกลับไปได้ บนฟ้ามีเสียงดังอึกทึกครึกโครมดังไม่หยุด ลมฝนโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องราวกับพายุรุนแรง ยอดเขาโลหิตน้ำเต้าสั่นสะเทือนเลือนลั่น เพราะความสั่นไหวอย่างแรงของยอดเขาทำให้ลาวาประทุขึ้นมา ซัดกระเซ็นไปบนโขดหิน ดอกไม้ใบหญ้าบนโขดหินที่แสนน่าสงสารจมอยู่ใต้ลาวา นี่คือศึกใหญ่ที่มีเพียงแค่ยอดฝีมืออันดับต้นๆ เท่านั้นที่จะก่อได้ กู้ชูหน่วนเงยหน้าไปมอง กลับพบว่ากลางอากาศมีมังกรไฟตัวสีทองที่ทั้งตัวโชกไปด้วยเลือดกำลังทะยานโลดแล่นพลางกรีดร้องไม่หยุด มังกรตัวใหญ่ยักษ์เพียงแค่สะบัดปลายหาง ยอดเขาลูกเล็กๆ บริเวณใกล้เคียงก็ราบเป็นหน้ากอง ที่น่าตกตะลึงไปกว่านั้นคือ ลูกไฟที่มันพ่นออกมา มีพื้นที่แผ่ขยายไปถึงครึ่งหนึ่งของเขาโลหิตน้ำเต้า คล้ายจะแผดเผาทำลายเขาโลหิตน้ำเต้าทั้งหมดให้สิ้นซาก นอกจากมังกรไฟ ยังมีผู้อาวุโสผมขาวอีกสี่คน ฝูกวงเอ่ย "นายหญิง สี่สุดยอดผู้อาวุโสระดับสูงแห่งเผาเทียนเฝินวิทยายุทธแก่กล้านัก พวกเขาปลีกวิเวกมานานหลายปี น้อยครั้งที่จะเข้ามาข้องเกี่ยวทางโลก คิดไม่ถึงว่าคราวนี้เผ่าเทียนเฝิน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status