Share

บทที่ 124

Author: เย่ชิงขวง
องค์หญิงตังตังสัมผัสได้ว่าทุกคนมองนางด้วยสายตาที่แปลกไป รู้สึกอับอายเหลือทน

"กู้ชูหน่วน พูดจาเพ้อเจ้ออะไรของเจ้า ข้ามีระดูตั้งแต่เมื่อใด"

กู้ชูหน่วนมองด้านหลังนางก่อนจะเอ่ยปากขมุบขมิบ "กระโปรงเปื้อนเลือดขนาดนั้น หรือว่าเจ้าบาดเจ็บล่ะ?"

องค์หญิงตังตังเหลียวไปมองข้างหลัง กระโปรงขาวดุจหิมะของนางเปื้อนหยดเลือดจริงๆ ด้วย แต่ก็แค่หยดเดียว หากไม่เพ่งมองก็แทบจะมองไม่เห็นด้วยซ้ำ

แต่ว่าเลือดหยดนั้น ก็พอที่จะทำให้นางสติแตกได้ บวกกับคำพูดเถรตรงแสลงหูของกู้ชูหน่วน องค์หญิงตังตังทั้งโกรธทั้งอาย แผดเสียงกรีดร้อง "กรี๊ดดด..."

นางหันหลังแล้ววิ่งออกไปอย่างเสียสติ

กู้ชูหน่วนขวางทางนางไว้ได้ทันเวลา หัวเราะคิกคักพลางเอ่ย "เอาล่ะ หนึ่งร้อยแผ่นเสร็จแล้ว ข้าพิมพ์อีกร้อยแผ่นเผื่อให้เจ้า ไม่ต้องขอบคุณหรอก ส่งหยกประดับมาก็พอ"

องค์หญิงตังตังไม่อยากมอบมันให้นาง หยกประดับนี้แม้นางจะไม่ถูกใจ แต่เสด็จแม่เห็นมันประหนึ่งสมบัติล้ำค่า บังคับให้นางห้อยติดตัวทุกวัน ทุกครั้งที่พบเสด็จแม่ นางจะตรวจสอบเสมอว่าหยกประดับยังอยู่หรือไม่

หากเสด็จแม่รู้ว่านางแพ้เดิมพันจนต้องเสียหยกประดับ คงตีนางจนตายแน่ๆ

กู้ชูหน่วนยิ้มร้าย
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 125

    เมื่อซ่างกวานฉู่พูดจบ ก็มีเสียงคนตะโกนจากด้านนอก "เจ้าสำนักมาถึงแล้ว เทพหมากล้อมมาถึงแล้ว อาจารย์สวีมาถึงแล้ว อาจารย์หรงมาถึงแล้ว..."ทุกคนตกตะลึงนี่มันเกิดอะไรขึ้น?เหตุใดแม้แต่เจ้าสำนักก็มาด้วย เป็นที่รู้กันดีว่าน้อยนักที่เจ้าสำนักจะปรากฏตัว"เชิญผู้อาวุโสเทพหมากล้อม" คนในสำนักบัณฑิตต่างต้อนรับเทพหมากล้อมอย่างนอบน้อมแม้แต่เจ้าสำนักยังปฏิบัติกับเขาอย่างให้ความเคารพกู้ชูหน่วนก่ายหน้าผากนางไม่สนใจว่าใครจะมา แต่พอได้ยินคำว่าเทพหมากล้อม นางก็ปวดกระโหลกในทันใด"คำนับท่านเจ้าสำนัก คำนับเทพหมากล้อม..."ทุกคนคำนับ กู้ชูหน่วนก้มหน้าก้มตาทำความเคารพตาม ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้เทพหมากล้อมเห็นนางเลยแต่เทพหมากล้อมดันตาดีอย่างกับโจร พริบตาเดียวก็มองเห็นนางแล้ว แถมยังร้องตะโกนด้วยความดีใจ "อาจารย์ ท่านอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย เมื่อวานข้ารอท่านตั้งนานแต่ก็ไม่เจอ ข้าร้อนใจแทบแย่"เพ้อเจ้อหลังจากงานประลองศิลปะเสร็จสิ้น ก็ตามตอแยให้นางสอนกลโกงอยู่ได้ จะไม่ให้นางหนีได้อย่างไรทุกคนมองกู้ชูหน่วนด้วยความอิจฉาแม้แต่เทพหมากล้อมยังเรียกนางว่าอาจารย์ นางจะดวงดีอะไรปานนั้น"อาจารย์ เมื่อวานท่านตี

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 126

    แล้วครึ่งประโยคหลังของเขาหมายความว่าอย่างไร?กู้ชูหน่วนช้อนตามองขึ้น ครั้งแรกที่ตั้งใจมองเจ้าสำนักหัวจรดเท้า แต่กลับพบร้อยยิ้มอบอุ่นของเขา ไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมเพียงแต่ตอนที่มองเยี่ยเฟิง ดวงตาทั้งคู่ของชายชราแฝงไปด้วยความสงสาร ฝ่ามือเหี่ยวย่นสั่นเครือยื่นออกมา ล้วงมุกอุ่นประภพในอกเสื้อวางลงบนมือของเยี่ยเฟิงทั้งยังลูบหัวเขาอย่างเอ็นดู เอ่นอย่างรักใคร่ "เด็กน่าสงสาร เจ้าลำบากมามาก ไม่ต้องกลัวนะ เข้ามาอยู่ในสำนักบัณฑิตแล้ว เจ้าจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป"กู้ชูหน่วนหรี่ตามองคาดเดาความหมายของเจ้าสำนักคนในสำนักบัณฑิตต่างตกใจเจ้าสำนักให้มุกอุ่นประภพกับเยี่ยเฟิงเชียวหรือ...มุกอุ่นประภพคือของศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง เพียงแค่กลิ้งมุกอุ่นประภพผ่าน ไม่ว่าจะบาดเจ็บสาหัสปาดใด ก็จะหายสนิทภายในเวลาอันรวดเร็วทั่วทั้งแผ่นดินมีมุกอุ่นประภพเพียงแต่สองเม็ดเท่านั้น เม็ดหนึ่งอยู่ในมือฮ่องเต้แคว้นฉู่ อีกเม็ดหนึ่งอยู่ในมือเจ้าสำนักปกติแล้วเจ้าสำนักหวงแหนมุกอุ่นประภพมาก ไม่เคยเอาออกมาง่ายๆ แค่ขอดูยังเป็นเรื่องแสนยากเย็น แต่ตอนนี้กลับส่งมันให้กับคนที่เพิ่งได้พบหน้ากันครั้งแรกนี่มัน...นี่มันใจปล้ำเ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 127

    เยี่ยเฟิงกำมุกอุ่นประภพไว้แน่น ใบหน้าเยือกเย็นนั้นยกยิ้มค้าง ทอดมองแสงประกายบนใบหน้าของเจ้าสำนัก แม้แต่หัวใจอันหนาวเหน็บ ก็อุ่นซ่านขึ้นมา"ขอบคุณขอรับ"ประโยคขอบคุณสั้นๆ ทว่าส่งออกมาจากใจจริงกู้ชูหน่วนเหลียวไปมองเซียวอวี่เชียน เอ่ยกระซิบ "ตาเฒ่านี่ทำไมถึงดูมีพิรุธ? นอกจากเป็นเจ้าสำนักแล้ว เขาเป็นใครมาจากไหน?""แม้แต่เจ้าสำนักเป็นใครมาจากไหนเจ้ายังไม่รู้? เขาเป็นราชครูแห่งแคว้นเย่ของพวกเราไงเล่า คนที่รู้อดีตปัจจุบันและอนาคต เจ้าสำนักพูดออกมาว่าเยี่ยเฟิงลำบากมามากขนาดนั้น อดีตของเขาคงไม่ได้สุขสบายเท่าใดนัก""นี่มันวิชาอาคมอะไร เรื่องจริงรึ?""แน่นอนว่าจริง ยัยขี้เหร่ เจ้ายึดมั่นอะไรอยู่ในใจรึ? เหตุใดเจ้าสำนักถึงพูดเช่นนั้นกับเจ้า"ยึดมั่นอย่างนั้นหรือ?นางจะยึดมั่นถือมั่นเรื่องอะไรกัน?รักษาโฉมรึ?แบบนั้นไม่เรียกว่ายึดมั่นเสียหน่อย"คำพูดลี้ลับเช่นนั้นเจ้าก็เชื่อรึ? หากเขาเก่งปานนั้น เหตุใดเขาถึงไม่รู้ว่าตัวเองจะตายเมื่อไหร่?"เซียวอวี่เชียนอุดปากนางไว้แม่นี่กล้าพูดไปเสียทุกอย่างเลยรึ?เจ้าสำนักเป็นที่รักของชาวเมืองแคว้นเย่มาช้านาน แค่คำพูดของนางเพียงประโยคเดียวก็สามารถทำ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 128

    กู้ชูหน่วนหัวเราะเย็นเยียบไทเฮา เช่นนี้เรียกว่ายิ่งปิดยิ่งโผล่หรือไม่?หากนี่คือหยกธรรมดาจริงๆ เช่นนั้นแล้วนางจะร้อนรนไปใย?ของที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งไว้ให้องค์หญิงตังตังมีชิ้นเดียวเสียที่ไหน นอกจากเงินที่องค์หญิงตังตังใช้คืนนางแล้วล ยังมีของอีกหลายสิ่งที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนมอบให้นางกู้ชูหน่วนไม่พูดอะไรไทเฮาราวกับเข้าใจขึ้นมาบาง นางยิ้มเอ่ย "แน่นอนว่า ข้ามิได้มาเอากลับไปเปล่าๆ ตังตังแพ้เดิมพันเจ้าสิบเอ็ดล้านตำลึงใช่หรือไม่ ข้าจะขอใช้ยี่สิบสี่ล้านตำลึงแลกกับหยกจันทร์เสี้ยว"เฮือก...เสียงลมหายใจกระตุกดังไปทั่วยี่สิบสี่ล้านตำลึง...นี่มันมหาศาลเลยนะ?องค์หญิงตังตังกระทืบเท้าตึงตัง "เสด็จแม่ ก็แค่หยกจันทร์เสี้ยว ราคาถึงยี่สิบสี่ล้านตำลึงเสียที่ไหน"ไทเฮาเอ็ด "เจ้าจะรู้อะไร นั่นคือของขวัญที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนประทานให้""แต่ว่า..."องค์หญิงตังตังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สีหน้าของไทเฮาถมึงทึง ส่งสายตาตักเตือนนางอย่างเห็นได้ชัด ทำเอาองค์หญิงตังตังไม่กล้าพูดนางไม่เข้าใจเลยจริงๆก็แค่หยกอันเดียว ต้องร้อนใจปานนี้เชียวหรือ?หยกบ้านั่น นางอยากจะโยนทิ้งตั้งนานแล้วเซียวอวี่เช

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 129

    แค่หยกธรรมดาอันเดียว กลับให้ราคาสูงขนาดนั้นกู้ชูหน่วนถูกลาเตะกะโหลกมาหรือไร ถึงยังไม่รีบตอบตกลง แถมยังหักนิ้วมือนับเลขอีก?ยามไทเฮาเอ่ยว่าสี่สิบล้านตำลึงออกไป ในใจนั้นสั่นสะท้านสี่สิบล้านตำลึง คงต้องขนของใต้เรือนของนางออกมาขายจนสิ้นเนื้อประดาตัวขณะที่ทุกคนคิดว่ากู้ชูหน่วนจะตกลงแลกเปลี่ยนกับไทเฮา กู้ชูหน่วนกลับเอื้อนเอ่ยประโยคหนึ่งที่ทำให้คนอยากตีปากนางสักที"สี่สิบล้านตำลึง ข้ายังไม่อยากแลกสักเท่าไร แต่หากเป็นห้าสิบล้านตำลึง ข้าอาจจะยอม"แม่เจ้ากู้ชูหน่วนกำลังเอาปืนมาจ่อหัวปล้นกันชัดๆห้าสิบล้านตำลึง เหตุใดถึงไม่ไปปล้นเอาเล่า?ต่อให้ปล้น ก็คงปล้นได้ไม่ถึงห้าสิบล้านตำลึงหรอกน่าไทเฮาแทบจะกระอักเลือดออกมาซ่างกวานฉู่กลับยิ้ม ดวงตาแสนอบอุ่นนั้นสะท้อนภาพแววตาสุกใสดั่งดวงตาวของกู้ชูหน่วน เขาเหมือนจะมองออกว่ากู้ชูหน่วนคงจะขูดรีดไทเฮาต่อ จึงนิ่งเฉยดูฉากเด็ด"กู้ชูหน่วน เจ้าอย่าให้มันมากเกินไป" องค์หญิงตังตังกัดฟันกรอด อยากจะฉีกนางให้เป็นชิ้นๆกู้ชูหน่วนใบหน้าใสซื่อ "ข้าเกินไปตรงไหน? พวกเจ้ามาขอแลกหยกจันทร์เสี้ยวเอง ข้าไม่ตามตื้อให้พวกเจ้ามาแลกเสียหน่อย หากพวกเจ้าไม่อยากแล้ว เ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 130

    กู้ชูหน่วนหัวเราะคิกคัก แถมยังหัวเราะเจ้าเล่ห์อีกด้วย "เช่นนั้นไทเฮา ท่านกล้าเดิมพันกับข้าหรือไม่ หากเซียวอวี่เชียนแพ้เทพหมากล้อม ข้าจะยกหยกจันทร์เสี้ยวให้ท่าน โดยไม่รับเงินแม้แต่ตำลึงเดียว หากเซียวอวี่เชียนชนะเทพหมากล้อม ท่านต้องจ่ายข้าห้าล้านตำลึง"องค์หญิงตังตังถูกกู้ชูหน่วนล่อลวงมาหลายต่อหลายครั้ง เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้นของนาง ก็เริ่มระแวงในทันใด"เสด็จแม่ ท่านห้ามเชื่อคำพูดของกู้ชูหน่วนเด็ดขาด ทุกครั้งนางก็จะหาลู่ทางปลิ้นปล้อนได้เสมอ"เซียวอวี่เชียนกลับถามโดยไม่กลัวเสียหน้า"ยัยขี้เหร่ เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ข้าจะเอาชนะเทพหมากล้อมได้อย่างไร? ข้าฝีมือหมากล้อมข้าแย่อย่างกับอะไรดี นั่นมันเงินห้าสิบล้านตำลึงเชียวนะ ห้าสิบล้านตำลึง เจ้าอย่าทำเป็นเล่น""ข้าบอกว่าเจ้าจะชนะ เจ้าก็ต้องชนะ""แม่เจ้า ข้าสารภาพกับเจ้าเลยก็แล้วดัน ข้าไม่รู้เรื่องหมากล้อมเลยด้วยซ้ำ""จะกลัวอะไรเล่า หลับตาเดินอาจจะชนะก็ได้""…"เซียวอวี่เชียนร้อนรนจนนั่งไม่ติดที่ให้เขาเล่นหมากล้อม เท่ากับปล่อยให้เงินห้าสิบล้านตำลึงหลุดมือต่อให้นางจะได้เงินมาจากงานประลองศิลปะไม่น้อย แต่จะมาสิ้นเปลืองเช่นนี้ไม่ได้เทพหมากล้อ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 131

    เซียวอวี่เชียนสั่นเสียงกลัวว่า "ยัยขี้เหร่ หากมีแค่ข้ากับเทพหมากล้อมสองคนอยู่ในห้อง เจ้าจะช่วยข้าโกงได้อย่างไร?""ข้าแม้แต่ห้องก็เข้าไม่ได้ จะช่วยเจ้าโกงได้อย่างไร ก็วางเองสิ"เซียวอวี่เชียนแทบจะเป็นลมเขาคิดว่ายัยขี้เหร่วางแผนไว้ให้แล้ว จะคอยแอบแนะนำเขา ไม่คิดเลยว่าจะให้เขาวางหมากเองจริงๆเขาไม่รู้เรื่องหมากเลยด้วยซ้ำ จะวางได้อย่างไร"ไทเฮา เซียวอวี่เชียนไม่รู้เรื่องหมากล้อมเลย ขอให้ข้าใช้เวลาหนึ่งถ้วยชาสอนเขาได้หรือไม่เพคะ""ได้"ไทเฮาตอบตกลงอย่างรวดเร็วเพียงแค่หนึ่งถ้วยชา นางไม่เชื่อว่ากู้ชูหน่วนจะสามารถสอนคนผู้หนึ่งที่ไม่รู้เรื่องหมากล้อมเลยให้เก่งกาจกว่าปรมาจารย์ได้ไม่มีใครรู้ว่ากู้ชูหน่วนแอบพูดคุยอะไรกับเซียวอวี่เชียนที่ไกลๆ แต่พอเซียวอวี่เชียนกลับมาก็ทำหน้าเศร้าหลิ่วเยว่รีบถามว่า "พี่ใหญ่ พี่เข้าใจแล้วหรือไม่?"เซียวอวี่เชียนเกาศีรษะ "ซับซ้อนเหลือเกิน ฟังไม่ค่อยเข้าใจ"ทุกคนหัวเราะลั่นแม้แต่เหล่าอาจารย์ในสำนักบัณฑิตที่สอนมาตั้งนาน เซียวอวี่เชียนยังฟังไม่เข้าใจ แล้วกู้ชูหน่วนสอนเพียงชั่วครู่ เขาจะเอาชนะเทพหมากล้อมได้รึเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ไทเฮาและองค์หญิงตังตังก

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 132

    หลิ่วเยว่และอวี๋ฮุยหายใจออกยาวๆยังดี ยังดี น่าจะรักษาเงินห้าสิบล้านตำลึงไว้ได้เยี่ยเฟิงและเจ้าสำนักหันมองตำแหน่งที่กู้ชูหน่วนเคยยืนพร้อมกัน ยามนี้ที่นั่นไม่มีใครอยู่แล้วทั้งสองคนรู้ดีว่ากู้ชูหน่วนคงจะโกงแน่ แต่ก็ไม่รู้ว่านางโกงได้อย่างไร“คุณหนูสามอยู่ที่ใดกัน นางไปห้องส้วมทำไมนานขนาดนั้น”ไทเฮาแม้จะกังวลผลลัพธ์ แต่ก็ยังคงจับตามองกู้ชูหน่วนอยู่ตลอด เกรงว่ากู้ชูหน่วนจะโกงขันทีคนหนึ่งกระซิบข้างๆ ว่า “กราบทูลไทเฮา คุณหนูสามออกมาจากห้องส้วมก็มานั่งรออยู่ที่ประตู บอกว่าในห้องโถงมีคนมากเกินไป นางรู้สึกอึดอัด”“นางมีส่วนช่วยโกงหรือไม่”“น่าจะไม่พ่ะย่ะค่ะ บ่าวได้ทำตามคำสั่งของไทเฮา ไม่ให้คุณหนูสามเข้าใกล้ประตูบานนั้นเกินสองจั้ง และนอกประตูนั้นก็มีคนของเราแฝงตัวอยู่จำนวนมาก คุณหนูสามเข้าไปไม่ได้แน่นอน”“ตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง ดูสิว่านางมีการส่งข่าวอะไรเข้าไปหรือไม่”"พ่ะย่ะค่ะ"จิตใจของไทเฮาเริ่มไม่สงบ เพราะเทพหมากล้อมถอยหนีไม่หยุดและ...จากตำแหน่งของนาง สามารถมองเห็นฉากที่เซียวอวี่เชียนกำลังลงแข่งกับเทพหมากล้อมหมากได้อย่างชัดเจนเซียวอวี่เชียนดูสงบเยือกเย็น ใบหน้าเปี่ยมด้

Latest chapter

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 266

    "เช่นนั้นบ้านเจ้ายังมีผู้ใดอีก""ข้าเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก"เมื่อได้ยินคำว่าเด็กกำพร้า ฮองเฮาฉู่พลันรู้สึกบีบคั้นหัวใจขึ้นมาแวบหนึ่ง"เด็กน้อยน่าสงสาร เช่นนั้นเจ้าเติบโตมาเช่นไร""ข้าดวงดี ได้พบกับคนใจดีมากมาย พวกเขาเลี้ยงข้าจนเติบใหญ่ ข้ายังมีท่านยายอีกคน แม้ดวงตาคู่นั้นของนางจะสูญเสียการมองเห็น แต่นางก็ปฏิบัติต่อข้าราวกับลูกแท้ๆ"เยี่ยเฟิงคลี่ยิ้ม รอยยิ้มฉาบไว้ด้วยหยดน้ำตาเล็กๆ เห็นแล้วสงสารจับใจดวงดีที่ว่า ฮองเฮาฉู่ไม่เชื่อแต่อย่างใดหากดีจริง เช่นนั้นเหตุใดถึงได้มีบาดเจ็บสาหัสเช่นนั้น แผลบนแขนของเขา มีทั้งเก่าและใหม่ แผลเก่าก็ไม่รู้ว่าผ่านมานานเพียงใดแล้วเด็กคนนี้...ตั้งแต่เล็กจนโต คงพบเจอกับความลำบากมาไม่น้อยเป็นแน่"ข้าก็เคยมีลูกชายแท้ๆ คนหนึ่ง น่าเสียดาย วันที่ข้าเกิดเขาออกมา เขาก็ถูกชิงตัวไป ข้ายัง...ไม่เคยได้กอดเขาเลยเสียด้วยซ้ำ ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ น่าจะอายุไล่เรี่ยกับเจ้า" ฮองเฮาฉู่ปาดน้ำตาเบาๆในที่ที่ฮองเฮาฉู่มองไม่เห็น เยี่ยเฟิงกำหมัดทั้งสองข้างไว้แน่น เขาพยายามสงบสติอารมณ์ แต่ฟันกลับสั่นกระทบกันอย่างควบคุมไม่อยู่"เหตุใด...เหตุใดถึงถูกชิงต

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 265

    "เสร็จแล้ว ช่วงสองสามวันนี้อย่าเพิ่งโดนน้ำ อีกไม่กี่วันก็น่าจะหายแล้ว"เยี่ยเฟิงมองดูผ้าพันแผลหนาเตอะบนมือสองข้างของตน หัวใจพลันรู้สึกถูกเติมเต็มเขาอยากจะบอกว่า เทียบกับสิ่งที่เขาเจอมาก่อนหน้า เรื่องพวกนี้ไม่นับอะไรเลย ไม่มีความจำเป็นต้องห่วงแต่เขาไม่กล้าเอ่ยปากพูดออกมา เพียงแค่ขานรับเบาๆ ท่าทางว่าง่ายฮองเฮาฉู่เก็บกล่องยา ไม่ทันระวังขอบกล่องไปเกี่ยวกับแขนเสื้อของเยี่ยเฟิง เผยให้เห็ยรอยแผลทั้งแนวตั้งและแนวขวางพาดสลับกันทั่วทั้งแขนบนแขนของเขามีทั้งรอยไฟนาบ แผลจากแส้ฟาด น้ำร้อนลวก แผลจากดาบ ง้าวและอื่นๆ ปะปนอยู่ด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหลายบริเวณที่ถูกกัดจนเนื้อหายไปหลายส่วน แทบจะหาบริเวณที่ไม่บุบสลายไม่ได้เลยฮองเฮาฉู่และซิ่งเอ๋อร์ต่างก็ตะลึงงัน สีหน้าพลันซีดเผือดในพริบตาเยี่ยเฟิงลนลาน รีบดึงแขนเสื้อของตนลง สายตาเฉยชาคู่นั้นไม่ได้ใจเย็นเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปเขาเองก็ไม่รู้ว่าฮองเฮาฉู่เห็นรอยแผยบนแขนของเขาหรือไม่ ทำได้เพียงแค่อธิบายด้วยความร้อนรน "หนังข้าเหนียว บาดแผลเหล่านี้..."ซิ่งเอ๋อร์พูดแทรกกะทันหัน "พระเจ้าช่วย ท่านเป็นใครกันแน่ เหตุใดบนตัวถึงได้มีแผลเป็นมากมายเพ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 264

    เยี่ยเฟิงพลันใจสั่นระรัว "กับข้าวที่ข้าทำไม่ดีหรอกหรือ""แน่อยู่แล้ว ฮูหยินของข้ากลัวรสชาตินี้ที่สุด ท่านรีบนำอาหารของท่านออกไปเถอะ" ซิ่งเอ๋อร์ถือโอกาสเอ่ย"ซิ่งเอ๋อร์"ฮองเฮาฉู่ดุอีกครั้ง น้ำเสียงจริงจังเข้มงวดกว่าก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด ทำเอาซิ่งเอ๋อร์ตกใจจนเกือบทรุดนางยกแขนเสื้อขึ้นมา แล้วเช็ดหยดน้ำตาที่หางตาเบาๆ พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม "คุณชายอย่าไปฟังที่นางพูดเรื่อยเปื่อย อาหารสามอย่างนี้ ข้าชอบกินที่สุดแล้ว"นางหยิบตะเกียบขึ้นมา คีบรากบัวเข้าปากหนึ่งคำ ราวบัวทั้งกรอบทั้งหอม ให้รสชาติที่กลมกล่อมทันทีที่เข้าไปในปาก เป็นรสชาติในความทรงจำของนาง"อร่อย ข้าไม่ได้กินอาหารที่อร่อยเช่นนี้มานานแล้ว""ฮูหยินชอบ เช่นนั้นก็กินเยอะๆ หน่อยเถิด ท่านวางใจได้ กับข้าวเหล่านี้ล้วนแต่เป็นอาหารมังสวิรัต ไม่ได้ใส่เนื้อสัตว์""คุณชายก็ไม่ชอบกินเนื้อหรอกหรือ""ขอรับ" ด้านหนึ่ง เพราะเขาไม่อยากเห็นสัตว์เหล่านั้นต้องถูกเข่นฆ่าอย่างทรมาน อีกด้านเป็นการสะสมบุญให้ท่านพ่อกับท่านแม่ของเขา เขาจึงไม่กินเนื้อสัตว์มาตั้งแต่เด็ก เว้นเสียแต่...เว้นเสียแต่ถูกนายท่านหลันบังคับกับข้าวเหล่านี้ถูกปากของฮองเฮาฉ

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 263

    ฮองเฮาฉู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม "เพื่อนเจ้าโชคดีนัก""ฮูหยินกินสิ่งใดหรือยัง หากยัง อาหารเหล่านี้จะขอยกให้ฮูหยิน"ไม่รอฮองเฮาฉู่ตอบ ซิ่งเอ๋อร์พลันปฏิเสธเสียงแข็ง "สำรับอาหารเช้าของฮูหยินข้าทำเสร็จแล้ว ไม่รบกวนคุณชายหรอก กับข้าวที่คุณชายทำเก็บไว้กินเองเถอะ"เพียงประโยคเดียว ทำเอาความหวังของเยี่ยเฟิงพังทลาย เขาฝืนยิ้มขมขื่นออกมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ย "ขออภัยด้วย" แล้วถือตระกร้าสำรับเดินออกไปไม่รู้เพราะแผ่นหลังที่ดูโดดเดี่ยวเดียวดายของเขา หรือเพราะใบหน้าที่ดูคุ้นตา ฮองเฮาฉู่ถึงได้รู้สึกปวดใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด"ช้าก่อน"ฮองเฮาฉู่สาวเท้าเข้าไปด้วยความรวดเร็ว ฉายยิ้มบางๆ "กับข้าวที่คุณชายทำชั่งหอมหวนนัก ข้าหิวจนท้องร้องแล้ว หากคุณชายไม่รังเกียจ กับข้าวนี้ข้าขอรับไว้""ฮูหยิน" ซิ่งเอ๋อร์ตะลึงนอกจากสำรับอาหารที่พวกเขาทำเองกับมือ ฮูหยินก็ไม่เคยกินของด้านนอกเลย วันนี้เหตุใดถึงได้ยอมกินกับข้าวของคนแปลกหน้าได้นางกระซิบกระซาบ "ฮูหยิน เด็กหนุ่มผู้นี้เป็นผู้ใดยังไม่ทราบแน่ชัด หากเมื่อวานได้เจอกับพวกเราเพราะความบังเอิญ วันนี้จะบังเอิญได้อีกเช่นไร ทั้งยังนำอาหารมาให้อีก จากที่บ่าวดู เขาจงใจเข้าใกล้ฮู

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 262

    เยี่ยเฟิงจัดใหม่อีกรอบ เพื่อให้ดูเป็นระเบียบมากขึ้น มุมปากยกขึ้นเบาๆ "ข้าก็คิดว่างามเช่นกัน""ที่จริงเจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าผู้นี้นั้นเลี้ยงง่ายนัก ผัดกับข้าวอะไรก็ได้มาอย่างสองอย่างก็พอแล้ว เจ้า..."กู้ชูหน่วนยังไม่ทันพูดจบ เยี่ยเฟิงเหลือบมองดูฟ้า ก่อนจะปิดฝาตระกร้าสำรับ ริมปีากแดงระเรื่องขยับเบาๆ "พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จะไม่ทันกาลแล้ว รบกวนเจ้าหลีกทางหน่อย""ห้ะ..."กู้ชูหน่วนตะลึงงันกับข้าวพวกนี้ไม่ได้ให้นางหรอกหรือหรือว่าเขิน จึงจะส่งไปให้ที่ห้องนางอย่างนั้นหรือท่ามกลางความสงสัย เยี่ยเฟิงกลับมาอีกรอบ ก่อนจะปลดผ้าคลุมบนใบหน้าของตนเอง แล้วเอ่ยถาม "แม่นางกู้ สีหน้าข้าดูแย่หรือไม่""ไม่...ไม่หรอก" ก็แค่ตาบวมไปหน่อยก็เท่านั้น"ขอบใจ"เยี่ยเฟิงกล่าวขอบคุณ ก่อนจะหันหลังเดินออกจากโรงเจไป เหลือเพียงกู้ชูหน่วนและฝูกวงที่กำลังมองหน้ากันตาปริบๆนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือเยี่ยเฟิงไม่เห็นว่านายหญิงอยู่ที่นี่หรอกหรือกู้ชูหน่วนกระแอมสองสามที "เยี่ยเฟิงหน้าบาง พวกเราต้องเข้าใจ ไป กลับห้องไปกินกับข้าวเจที่เยี่ยเฟิงทำกันเถอะ""ขอรับ"ทั้งสองคนเดินตามกันออกไปจากโรงเจ แต่พวกเข

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 261

    "ไม่ใช่ปัญหา จากที่นี่ไปเสี่ยวเหอชุน ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งก็ไม่พอ ไม่สู้อยู่ที่นี่ต่ออีกสักวันสองวัน"เอ๊ะ...ไม่ใช่ว่าเยี่ยเฟิงรีบอยากจะกลับไปที่สุดหรอกหรือเหตุใดถึงจะไม่กลับอีกแล้วล่ะต้องมีลับลมคมในเป็นแน่อีกทั้งต้องเป็นเรื่องใหญ่มากด้วย"เจ้า...คงจะไม่ได้คิดสั้นหรอกนะ..." กู้ชูหน่วนหยั่งเชิงเยี่ยเฟิงชะงัก จากนั้นเมื่อรู้ถึงความเป็นห่วงของกู้ชูหน่วน เขาก็เผยยิ้มอ่อนโยนที่เห็นได้ไม่บ่อยนักออกมา"วางใจเถอะ ข้าไม่ได้อ่อนแอถึงเพียงนั้น อีกอย่าง...ข้ายังมีคนในครอบครัวให้ต้องดูเล" นอกจากท่านยาย ยังมีท่านพ่อท่านแม่ที่ล้วนแต่ต้องการการดูแลจากเขาทั้งสิ้นแม้เขาจะไม่สามารถเปิดเผยตัวคนกับท่านพ่อท่านแม่ได้ แต่เขาจะคอยอธิษฐานให้พวกเขาลับหลังอยู่เงียบๆกู้ชูหน่วนโล่งใจ "รีบบอกแต่แรกสิ เจ้าจะซื้อกับข้าวอะไรบ้าง ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่""ไม่ต้อง ข้าไปคนเดียวก็พอ อย่างไรก็ชินแล้ว""ได้ มีสิ่งใดต้องการให้ช่วยก็บอกได้เลย""อืม"แผ่นหลังผอมบางของเยี่ยเฟิงหายไปจากในวัด กู้ชูหน่วนลูบปลายคางพลางพึมพำกับตัวเอง "เสี่ยวฝูกวง เจ้ารู้สึกบ้างไหมว่าเยี่ยเฟิงมีบางอย่างไม่ปกติ""มีด้วยหรือ ข้าน้อย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 260

    กู้ชูหน่วนถือหญ้าตี้อวี้ไว้ในมือ แต่กลับไม่มีอารมณ์ที่จะฟื้นฟูใบหน้าเลยแม้แต่น้อย จึงโยนหญ้าตี้อวี้กลับเข้าไปในแหวนปริภูมิ แล้วไปที่ศาลาในวัดเพื่อปล่อยใจให้ว่างเปล่าเพียงลำพังฝูกวงไม่รู้ว่าปรากฏตัวข้างกายนางเมื่อใดและปลอบโยนว่า "นายหญิง คุณชายเยี่ยเฟิงจิตใจดี สวรรค์จะไม่ทอดทิ้งเขาแน่นอน"กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะข้ากำหนดชะตาของข้าเอง ไม่ใช่สวรรค์นางไม่เคยเชื่อสวรรค์หากสวรรค์มีตา ก็คงส่งคนที่รังแกเขาลงนรกไปนานแล้ว จะลอยหน้าลอยตาเช่นนี้ได้อย่างไร"ฝูกวง ช่วยข้าทำอะไรสักหน่อยได้หรือไม่""นายหญิงเชิญสั่ง ข้าจะทำทุกอย่าง""ช่วยข้าสืบประวัติของเยี่ยเฟิง ข้าอยากรู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาคือใคร" บางทีการพบพ่อแม่ที่แท้จริงอาจช่วยบรรเทาใจที่ปวดร้าวลงได้บ้าง"ขอรับ ข้าน้อยจะสืบหาประวัติของคุณชายเยี่ยให้ได้ และจะรีบมารายงานข่าวดีให้นายหญิงทราบ""ได้"เวลาผ่านไปหลายถ้วยน้ำชา ประตูห้องของเยี่ยเฟิงก็เปิดออกกู้ชูหน่วนส่งสายตาให้ฝูกวง เป็นสัญญาณให้ตามนางไปโดยเร็ว เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้เยี่ยเฟิงบังเอิญเจอพวกเขา ทำให้ศักดิ์ศรีของเขาถูกทำลายลงไปอีก เพราะตาของเขาบวมแดงมาก พวกเขาพยายามจะทำเป็นไม่ส

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 259

    เยี่ยเฟิงในใจมีความรู้สึกบางอย่างที่ร้องเรียกให้เขาไปปรากฏตัวแม้เขาจะกลัว ก็อยากเปิดเผยตัวตนแต่คำพูดของซิ่งเอ๋อร์ทำให้ขาที่ยกขึ้นมาแล้วก้าวออกไปไม่ได้อีกต่อไปองค์ชาย......องค์ชายแห่งแคว้นฉู่?แล้วนางก็คือ......ฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่?ฮองเฮาฉู่เอ็ดว่า "ระวังจะมีคนได้ยิน""เหนียงเหนียงทรงระแวงมากเกินไป ที่นี่ไม่มีใครหรอก พวกเรามาไหว้พระที่วัดไป๋อวิ๋นทุกปีก็ไม่เคยเห็นคนร้ายเลยสักคน ที่นี่ดูแลดีมากเพคะ""ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรพูดจาไร้สาระ""เพคะๆ ๆ บ่าวพูดผิดไป แต่ฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งพระสนมนับสามพันคนไว้ประดับบารมี แต่ก็ไม่เคยทรงโปรดปรานพระสนมองค์ใดนอกจากพระองค์เลย พระองค์กับฮ่องเต้ทรงมีองค์ชายเพียงองค์เดียว พระองค์มีสถานะสูงส่งมาก สวรรค์จะไม่คุ้มครองพระองค์แล้วจะคุ้มครองใครเล่าเพคะ""ข้าเพียงเขาปลอดภัยและมีสุขภาพดีก็พอแล้ว ส่วนเขาจะเป็นองค์ชายที่สูงส่งที่สุดในแคว้นฉู่หรือไม่ ไม่สำคัญแล้ว" ฮองเฮาฉู่ปักธูปลงกระถาง แล้วถอนหายใจด้วยความโศกเศร้าเยี่ยเฟิงพิงประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง น้ำตาไหลอาบแก้มใบหน้าของเขาซีดเผือกทันทีองค์ชาย......สูงส่งมาก......แต่เขา......เขาก็แค่ของเล่นของนาย

  • ชายาหมอเทวดาตัวแสบ: ดื้อรักท่านอ๋องเทพสงคราม   บทที่ 258

    ขณะที่เยี่ยเฟิงเดินมาถึงประตูวิหารใหญ่ ซิ่งเอ๋อร์และฮองเฮาฉู่ได้พูดคุยกัน ทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ม่านตาหดเล็กลง ราวกับว่าเท้าของเขามีน้ำหนักเป็นพันชั่ง เขาจึงก้าวต่อไปไม่ได้"ฮูหยิน ท่านชายน้อยหายตัวไปนานหลายปีแล้ว แม้ว่ายามนี้เขาจะยืนอยู่ตรงหน้าท่าน ท่านก็อาจจะจำเขาไม่ได้ จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ?""ยามนั้นที่ข้าคลอดบุตรยากและสลบไป ข้าเห็นดอกเหมยที่บริเวณไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา ดอกเหมยที่กำลังเบ่งบาน ข้ายังคิดว่าทำไมเด็กชายถึงมีปานรูปดอกเหมยที่ไหล่ได้"ปาน......ดอกเหมย?เยี่ยเฟิงหายใจเร็วขึ้นเขาใช้ความพยายามอย่างมากจึงสามารถยืนอยู่หลังประตูได้ร่างกายเย็นเฉียบแนบชิดประตู ราวกับว่าหากไม่แนบชิดประตู เขาก็จะยืนไม่ไหวไหล่ซ้ายด้านหลังของเขา......ก็มีปานเป็นรูปดอกเหมยเช่นกัน และยังเป็นดอกที่กำลังเบ่งบาน......แม่เฒ่าบอกว่า ตั้งแต่เขาเกิดก็......มี......"แค่ปานรูปดอกท้อ จะสามารถระบุตัวท่านชายน้อยได้อย่างไร? แล้วหากมีคนปลอมตัวล่ะเจ้าคะ?""เป็นไปไม่ได้ ดอกเหมยดอกนั้นแตกต่างจากดอกเหมยอื่นๆ กลีบดอกน้อยกว่าดอกเหมยทั่วไปหนึ่งกลีบ นอกจากข้าและแม่นมแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องนี้

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status