แล้วครึ่งประโยคหลังของเขาหมายความว่าอย่างไร?กู้ชูหน่วนช้อนตามองขึ้น ครั้งแรกที่ตั้งใจมองเจ้าสำนักหัวจรดเท้า แต่กลับพบร้อยยิ้มอบอุ่นของเขา ไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมเพียงแต่ตอนที่มองเยี่ยเฟิง ดวงตาทั้งคู่ของชายชราแฝงไปด้วยความสงสาร ฝ่ามือเหี่ยวย่นสั่นเครือยื่นออกมา ล้วงมุกอุ่นประภพในอกเสื้อวางลงบนมือของเยี่ยเฟิงทั้งยังลูบหัวเขาอย่างเอ็นดู เอ่นอย่างรักใคร่ "เด็กน่าสงสาร เจ้าลำบากมามาก ไม่ต้องกลัวนะ เข้ามาอยู่ในสำนักบัณฑิตแล้ว เจ้าจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป"กู้ชูหน่วนหรี่ตามองคาดเดาความหมายของเจ้าสำนักคนในสำนักบัณฑิตต่างตกใจเจ้าสำนักให้มุกอุ่นประภพกับเยี่ยเฟิงเชียวหรือ...มุกอุ่นประภพคือของศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง เพียงแค่กลิ้งมุกอุ่นประภพผ่าน ไม่ว่าจะบาดเจ็บสาหัสปาดใด ก็จะหายสนิทภายในเวลาอันรวดเร็วทั่วทั้งแผ่นดินมีมุกอุ่นประภพเพียงแต่สองเม็ดเท่านั้น เม็ดหนึ่งอยู่ในมือฮ่องเต้แคว้นฉู่ อีกเม็ดหนึ่งอยู่ในมือเจ้าสำนักปกติแล้วเจ้าสำนักหวงแหนมุกอุ่นประภพมาก ไม่เคยเอาออกมาง่ายๆ แค่ขอดูยังเป็นเรื่องแสนยากเย็น แต่ตอนนี้กลับส่งมันให้กับคนที่เพิ่งได้พบหน้ากันครั้งแรกนี่มัน...นี่มันใจปล้ำเ
เยี่ยเฟิงกำมุกอุ่นประภพไว้แน่น ใบหน้าเยือกเย็นนั้นยกยิ้มค้าง ทอดมองแสงประกายบนใบหน้าของเจ้าสำนัก แม้แต่หัวใจอันหนาวเหน็บ ก็อุ่นซ่านขึ้นมา"ขอบคุณขอรับ"ประโยคขอบคุณสั้นๆ ทว่าส่งออกมาจากใจจริงกู้ชูหน่วนเหลียวไปมองเซียวอวี่เชียน เอ่ยกระซิบ "ตาเฒ่านี่ทำไมถึงดูมีพิรุธ? นอกจากเป็นเจ้าสำนักแล้ว เขาเป็นใครมาจากไหน?""แม้แต่เจ้าสำนักเป็นใครมาจากไหนเจ้ายังไม่รู้? เขาเป็นราชครูแห่งแคว้นเย่ของพวกเราไงเล่า คนที่รู้อดีตปัจจุบันและอนาคต เจ้าสำนักพูดออกมาว่าเยี่ยเฟิงลำบากมามากขนาดนั้น อดีตของเขาคงไม่ได้สุขสบายเท่าใดนัก""นี่มันวิชาอาคมอะไร เรื่องจริงรึ?""แน่นอนว่าจริง ยัยขี้เหร่ เจ้ายึดมั่นอะไรอยู่ในใจรึ? เหตุใดเจ้าสำนักถึงพูดเช่นนั้นกับเจ้า"ยึดมั่นอย่างนั้นหรือ?นางจะยึดมั่นถือมั่นเรื่องอะไรกัน?รักษาโฉมรึ?แบบนั้นไม่เรียกว่ายึดมั่นเสียหน่อย"คำพูดลี้ลับเช่นนั้นเจ้าก็เชื่อรึ? หากเขาเก่งปานนั้น เหตุใดเขาถึงไม่รู้ว่าตัวเองจะตายเมื่อไหร่?"เซียวอวี่เชียนอุดปากนางไว้แม่นี่กล้าพูดไปเสียทุกอย่างเลยรึ?เจ้าสำนักเป็นที่รักของชาวเมืองแคว้นเย่มาช้านาน แค่คำพูดของนางเพียงประโยคเดียวก็สามารถทำ
กู้ชูหน่วนหัวเราะเย็นเยียบไทเฮา เช่นนี้เรียกว่ายิ่งปิดยิ่งโผล่หรือไม่?หากนี่คือหยกธรรมดาจริงๆ เช่นนั้นแล้วนางจะร้อนรนไปใย?ของที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งไว้ให้องค์หญิงตังตังมีชิ้นเดียวเสียที่ไหน นอกจากเงินที่องค์หญิงตังตังใช้คืนนางแล้วล ยังมีของอีกหลายสิ่งที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนมอบให้นางกู้ชูหน่วนไม่พูดอะไรไทเฮาราวกับเข้าใจขึ้นมาบาง นางยิ้มเอ่ย "แน่นอนว่า ข้ามิได้มาเอากลับไปเปล่าๆ ตังตังแพ้เดิมพันเจ้าสิบเอ็ดล้านตำลึงใช่หรือไม่ ข้าจะขอใช้ยี่สิบสี่ล้านตำลึงแลกกับหยกจันทร์เสี้ยว"เฮือก...เสียงลมหายใจกระตุกดังไปทั่วยี่สิบสี่ล้านตำลึง...นี่มันมหาศาลเลยนะ?องค์หญิงตังตังกระทืบเท้าตึงตัง "เสด็จแม่ ก็แค่หยกจันทร์เสี้ยว ราคาถึงยี่สิบสี่ล้านตำลึงเสียที่ไหน"ไทเฮาเอ็ด "เจ้าจะรู้อะไร นั่นคือของขวัญที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนประทานให้""แต่ว่า..."องค์หญิงตังตังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สีหน้าของไทเฮาถมึงทึง ส่งสายตาตักเตือนนางอย่างเห็นได้ชัด ทำเอาองค์หญิงตังตังไม่กล้าพูดนางไม่เข้าใจเลยจริงๆก็แค่หยกอันเดียว ต้องร้อนใจปานนี้เชียวหรือ?หยกบ้านั่น นางอยากจะโยนทิ้งตั้งนานแล้วเซียวอวี่เช
แค่หยกธรรมดาอันเดียว กลับให้ราคาสูงขนาดนั้นกู้ชูหน่วนถูกลาเตะกะโหลกมาหรือไร ถึงยังไม่รีบตอบตกลง แถมยังหักนิ้วมือนับเลขอีก?ยามไทเฮาเอ่ยว่าสี่สิบล้านตำลึงออกไป ในใจนั้นสั่นสะท้านสี่สิบล้านตำลึง คงต้องขนของใต้เรือนของนางออกมาขายจนสิ้นเนื้อประดาตัวขณะที่ทุกคนคิดว่ากู้ชูหน่วนจะตกลงแลกเปลี่ยนกับไทเฮา กู้ชูหน่วนกลับเอื้อนเอ่ยประโยคหนึ่งที่ทำให้คนอยากตีปากนางสักที"สี่สิบล้านตำลึง ข้ายังไม่อยากแลกสักเท่าไร แต่หากเป็นห้าสิบล้านตำลึง ข้าอาจจะยอม"แม่เจ้ากู้ชูหน่วนกำลังเอาปืนมาจ่อหัวปล้นกันชัดๆห้าสิบล้านตำลึง เหตุใดถึงไม่ไปปล้นเอาเล่า?ต่อให้ปล้น ก็คงปล้นได้ไม่ถึงห้าสิบล้านตำลึงหรอกน่าไทเฮาแทบจะกระอักเลือดออกมาซ่างกวานฉู่กลับยิ้ม ดวงตาแสนอบอุ่นนั้นสะท้อนภาพแววตาสุกใสดั่งดวงตาวของกู้ชูหน่วน เขาเหมือนจะมองออกว่ากู้ชูหน่วนคงจะขูดรีดไทเฮาต่อ จึงนิ่งเฉยดูฉากเด็ด"กู้ชูหน่วน เจ้าอย่าให้มันมากเกินไป" องค์หญิงตังตังกัดฟันกรอด อยากจะฉีกนางให้เป็นชิ้นๆกู้ชูหน่วนใบหน้าใสซื่อ "ข้าเกินไปตรงไหน? พวกเจ้ามาขอแลกหยกจันทร์เสี้ยวเอง ข้าไม่ตามตื้อให้พวกเจ้ามาแลกเสียหน่อย หากพวกเจ้าไม่อยากแล้ว เ
กู้ชูหน่วนหัวเราะคิกคัก แถมยังหัวเราะเจ้าเล่ห์อีกด้วย "เช่นนั้นไทเฮา ท่านกล้าเดิมพันกับข้าหรือไม่ หากเซียวอวี่เชียนแพ้เทพหมากล้อม ข้าจะยกหยกจันทร์เสี้ยวให้ท่าน โดยไม่รับเงินแม้แต่ตำลึงเดียว หากเซียวอวี่เชียนชนะเทพหมากล้อม ท่านต้องจ่ายข้าห้าล้านตำลึง"องค์หญิงตังตังถูกกู้ชูหน่วนล่อลวงมาหลายต่อหลายครั้ง เมื่อเห็นรอยยิ้มนั้นของนาง ก็เริ่มระแวงในทันใด"เสด็จแม่ ท่านห้ามเชื่อคำพูดของกู้ชูหน่วนเด็ดขาด ทุกครั้งนางก็จะหาลู่ทางปลิ้นปล้อนได้เสมอ"เซียวอวี่เชียนกลับถามโดยไม่กลัวเสียหน้า"ยัยขี้เหร่ เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ข้าจะเอาชนะเทพหมากล้อมได้อย่างไร? ข้าฝีมือหมากล้อมข้าแย่อย่างกับอะไรดี นั่นมันเงินห้าสิบล้านตำลึงเชียวนะ ห้าสิบล้านตำลึง เจ้าอย่าทำเป็นเล่น""ข้าบอกว่าเจ้าจะชนะ เจ้าก็ต้องชนะ""แม่เจ้า ข้าสารภาพกับเจ้าเลยก็แล้วดัน ข้าไม่รู้เรื่องหมากล้อมเลยด้วยซ้ำ""จะกลัวอะไรเล่า หลับตาเดินอาจจะชนะก็ได้""…"เซียวอวี่เชียนร้อนรนจนนั่งไม่ติดที่ให้เขาเล่นหมากล้อม เท่ากับปล่อยให้เงินห้าสิบล้านตำลึงหลุดมือต่อให้นางจะได้เงินมาจากงานประลองศิลปะไม่น้อย แต่จะมาสิ้นเปลืองเช่นนี้ไม่ได้เทพหมากล้อ
เซียวอวี่เชียนสั่นเสียงกลัวว่า "ยัยขี้เหร่ หากมีแค่ข้ากับเทพหมากล้อมสองคนอยู่ในห้อง เจ้าจะช่วยข้าโกงได้อย่างไร?""ข้าแม้แต่ห้องก็เข้าไม่ได้ จะช่วยเจ้าโกงได้อย่างไร ก็วางเองสิ"เซียวอวี่เชียนแทบจะเป็นลมเขาคิดว่ายัยขี้เหร่วางแผนไว้ให้แล้ว จะคอยแอบแนะนำเขา ไม่คิดเลยว่าจะให้เขาวางหมากเองจริงๆเขาไม่รู้เรื่องหมากเลยด้วยซ้ำ จะวางได้อย่างไร"ไทเฮา เซียวอวี่เชียนไม่รู้เรื่องหมากล้อมเลย ขอให้ข้าใช้เวลาหนึ่งถ้วยชาสอนเขาได้หรือไม่เพคะ""ได้"ไทเฮาตอบตกลงอย่างรวดเร็วเพียงแค่หนึ่งถ้วยชา นางไม่เชื่อว่ากู้ชูหน่วนจะสามารถสอนคนผู้หนึ่งที่ไม่รู้เรื่องหมากล้อมเลยให้เก่งกาจกว่าปรมาจารย์ได้ไม่มีใครรู้ว่ากู้ชูหน่วนแอบพูดคุยอะไรกับเซียวอวี่เชียนที่ไกลๆ แต่พอเซียวอวี่เชียนกลับมาก็ทำหน้าเศร้าหลิ่วเยว่รีบถามว่า "พี่ใหญ่ พี่เข้าใจแล้วหรือไม่?"เซียวอวี่เชียนเกาศีรษะ "ซับซ้อนเหลือเกิน ฟังไม่ค่อยเข้าใจ"ทุกคนหัวเราะลั่นแม้แต่เหล่าอาจารย์ในสำนักบัณฑิตที่สอนมาตั้งนาน เซียวอวี่เชียนยังฟังไม่เข้าใจ แล้วกู้ชูหน่วนสอนเพียงชั่วครู่ เขาจะเอาชนะเทพหมากล้อมได้รึเมื่อได้ยินคำพูดนี้ ไทเฮาและองค์หญิงตังตังก
หลิ่วเยว่และอวี๋ฮุยหายใจออกยาวๆยังดี ยังดี น่าจะรักษาเงินห้าสิบล้านตำลึงไว้ได้เยี่ยเฟิงและเจ้าสำนักหันมองตำแหน่งที่กู้ชูหน่วนเคยยืนพร้อมกัน ยามนี้ที่นั่นไม่มีใครอยู่แล้วทั้งสองคนรู้ดีว่ากู้ชูหน่วนคงจะโกงแน่ แต่ก็ไม่รู้ว่านางโกงได้อย่างไร“คุณหนูสามอยู่ที่ใดกัน นางไปห้องส้วมทำไมนานขนาดนั้น”ไทเฮาแม้จะกังวลผลลัพธ์ แต่ก็ยังคงจับตามองกู้ชูหน่วนอยู่ตลอด เกรงว่ากู้ชูหน่วนจะโกงขันทีคนหนึ่งกระซิบข้างๆ ว่า “กราบทูลไทเฮา คุณหนูสามออกมาจากห้องส้วมก็มานั่งรออยู่ที่ประตู บอกว่าในห้องโถงมีคนมากเกินไป นางรู้สึกอึดอัด”“นางมีส่วนช่วยโกงหรือไม่”“น่าจะไม่พ่ะย่ะค่ะ บ่าวได้ทำตามคำสั่งของไทเฮา ไม่ให้คุณหนูสามเข้าใกล้ประตูบานนั้นเกินสองจั้ง และนอกประตูนั้นก็มีคนของเราแฝงตัวอยู่จำนวนมาก คุณหนูสามเข้าไปไม่ได้แน่นอน”“ตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง ดูสิว่านางมีการส่งข่าวอะไรเข้าไปหรือไม่”"พ่ะย่ะค่ะ"จิตใจของไทเฮาเริ่มไม่สงบ เพราะเทพหมากล้อมถอยหนีไม่หยุดและ...จากตำแหน่งของนาง สามารถมองเห็นฉากที่เซียวอวี่เชียนกำลังลงแข่งกับเทพหมากล้อมหมากได้อย่างชัดเจนเซียวอวี่เชียนดูสงบเยือกเย็น ใบหน้าเปี่ยมด้
ไทเฮาตกใจหน้าซีดเกือบล้มหน้าคว่ำ โชคดีที่มีขันทีคอยประคองไว้ใบหน้าของนางแดงบ้างซีดบ้าง ชั่วครู่ใหญ่ก็พูดไม่ออกสักคำองค์หญิงตังตังโกรธจัดตะโกนว่า “กู้ชูหน่วน เจ้าโกง! ข้าไม่ยอมรับผลการแข่งขันรอบนี้!”กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นงุนงง “ข้าโกงตรงไหน? ห้องนั้นมีคนของพวกท่านเฝ้าอยู่ตั้งหลายชั้น จะให้ข้าบินเข้าไปหรือ นอกจากเข้าห้องส้วม ข้าก็อยู่แต่ลานกว้างมาตลอด มีคนของสำนักบัณฑิตเห็นเต็มไปหมด ท่านคิดว่าข้ามีวิชาแปลงร่างที่จะไปสอนเซียวอวี่เชียนเล่นหมากล้อมได้รึอย่างไร”"เจ้า...""หรือว่าเมื่อพวกท่านแพ้แล้วจึงจะเบี้ยวหนี้? ไทเฮาทรงเป็นแม่ของปวงประชาทั้งแผ่นดิน ทรงเป็นแม่แห่งแคว้น บุคคลสำคัญอย่างท่านจะมาเบี้ยวหนี้ได้อย่างไร องค์หญิงตังตังกำลังใส่ร้ายป้ายสีท่าน มีเจตนาที่จะทำให้ท่านเสื่อมเสียชื่อเสียงนะเพคะ"กู้ชูหน่วนพูดรัวเร็วเป็นชุด คำพูดทุกคำล้วนเกี่ยวข้องกับความเห็นชอบของปวงประชาและแผ่นดิน ถึงแม้ว่าไทเฮาอยากจะกลับคำ แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธได้ จึงจำต้องยอมแพ้ และตกลงที่จะมอบเงินห้าสิบล้านตำลึงให้แก่กู้ชูหน่วนองค์หญิงตังตังโกรธจนแทบหมดสติ "เสด็จแม่ นั่นเงินห้าสิบล้านตำลึงเชียวนะเพคะ เ
ก่อนที่เด็กหนุ่มจะตอบ กู้ชูหน่วนก็ลูบคางพลางเอ่ยอย่างใจเย็นว่า “ด้วยความสามารถของเจ้า เจ้าคงคิดว่าการตัดแขนขา ควักตา และตัดหูของข้าคงง่ายดายราวกับบี้มดตัวหนึ่งใช่หรือไม่? ถ้าเช่นนั้น ทำไมเจ้าถึงต้องลำบากเขาด้วย?”“หรือว่าเขามีเรื่องบาดหมางกับเจ้า เจ้าเลยเกลียดเขา? จุ จุ จุ ดูท่าทางของเขาสิ ช่างน่าสงสารเสียจริงๆ ข้าว่าคงไม่กล้าเป็นศัตรูกับเจ้าหรอก ให้ข้าเดานะ เจ้าคงอิจฉาเขามากกว่า อิจฉาที่เขามีหน้าตาหล่อเหลากว่าเจ้า หรืออาจอิจฉาที่เขาได้ดิบได้ดีในเผ่าหมอมากกว่าเจ้า เลยคิดแผนทรมานเขา”ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนพูดสีหน้าของเจียงซวี่ก็ยิ่งแย่ลงไปเรื่อยๆ แววตาที่โหดเหี้ยมก็ยิ่งรุนแรงขึ้น“ดูเหมือนข้าจะเดาถูกนะ” กู้ชูหน่วนมองเด็กหนุ่มราวกับสงสารเขา“ลองดูตัวเองสิ ติดตามนายอะไรเนี่ย กลับตัวกลับใจเถิด เจ้าปกป้องข้าจนโดนแทงมาขนาดนี้ ข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี”เด็กหนุ่มไม่แม้แต่จะมองกู้ชูหน่วน แค่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆเจียงซวี่หัวเราะลั่นทันที “เดาถูกแล้วจะอย่างไร ข้าแค่ต้องการเห็นเขาทรมาน เขาใจดีนักมิใช่หรือ ข้าอยากจะดูว่า เพื่อให้มีรอดชีวิต เขาจะยอมฆ่าเจ้าหรือไม่”“ข้าขอเดาเพิ่มนะ คงเป็นครั้งแรกที่เจ้
กู้ชูหน่วนกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา "เป็นพวกเจ้าเองที่พาข้าวิ่งมาตลอดทาง และมองข้าเป็นหญิงผู้อ่อนแอที่ไม่มีทางสู้ แล้วข้าจะไม่ตอบสนองความต้องการแบบผู้ชายเป็นใหญ่ของพวกเจ้าได้อย่างไร""…"เซียวอวี่เชียนโกรธจนตัวสั่นเด็กหนุ่มก็สีหน้าไม่สู้ดีมีดาบจำนวนมากขนาดนี้ หมายความว่าพวกเขาโดนฟันอย่างเปล่าประโยน์เมื่อเห็นว่ามีคนกลุ่มใหม่ล้อมพวกเขาเข้ามา กู้ชูหน่วนก็หรี่ตาลง มุมปากยกขึ้นยิ้มเยาะ "ตัวเอกมาแล้ว"ในขณะที่เซียวอวี่เชียนและเด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น ทั้งคู่ก็แข็งทื่อดวงตาเย็นชาของเด็กหนุ่มหรี่ลงทันที หายใจหนักขึ้น ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อยกู้ชูหน่วนมองออกเขากำลังกลัว กลัวคนกลุ่มนี้เซียวอวี่เชียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักอึ้ง "หน้ากากกะโหลก พวกเจ้าเป็นคนของสิบสองกองธงแห่งเผ่าหมอใช่หรือไม่?เผ่าหมอ?เหอะ โลกยุทธภพมีเผ่าหมอด้วยหรือ?กู้ชูหน่วนพิจารณาอีกฝ่ายอย่างละเอียดแต่กลับพบว่าอีกฝ่ายมีเพียงสามสิบหกคนเท่านั้น แต่ละคนถือธงบุปผา และสวมเสื้อคลุมสีดำ ใบหน้าปิดด้วยหน้ากากกะโหลกศีรษะหัวหน้าคือชายหนุ่มวัยยังน้อย ผู้ซึ่งไม่ได้สวมหน้ากาก ใบหน้าดูหล่อเหลา แต่แววตากลับเผยความโหดเหี้ยมเป็นระยะ
"ปัง..."เสียงสนั่นหวั่นไหวราวกับระเบิดกลางอากาศดังขึ้นอีกครั้งหญิงวัยกลางคนงถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าซีดเผือก เด็กหนุ่มกระอักเลือดออกมาหนึ่งอึก อวัยวะภายในปั่นป่วนอย่างรุนแรง หากไม่เกาะผนังไว้ คงล้มลงไปแล้ว“เจ้ากล้าใช้การต่อสู้แบบแลกชีวิตมาสู้กับข้าอย่างนี้หรือ เจ้ารู้หรือไม่ว่า หากสู้กันต่อ ข้าอาจไม่ตาย แต่เจ้าต้องตายแน่”“แค่ชีวิตสกปรกโสโครก ตายไปก็ตายไป” เด็กหนุ่มพยายามกลืนเลือดที่ค้างอยู่ในคอลง ให้ตัวเองดูเป็นปกติมากที่สุดหญิงวัยกลางคนตะคอก “ตกลงนางกับเจ้าเป็นอะไรกันแน่?”“ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น แค่ไม่อยากให้เจ้าได้กระดิ่งภินวิญญาณนั่น”“ดีมาก บัญชีนี้พวกข้าเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานจะจดจำไว้ เจ้าจงรอรับการล้างแค้นอย่างบ้าคลั่งของพวกข้าได้เลย”หญิงวัยกลางคนเบิกตาจ้องกู้ชูหน่วนและเด็กหนุ่ม ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง สุดท้ายก็ไม่รู้ว่านึกถึงอะไรจึงจากไปด้วยความแค้นหลังนางจากไป เด็กหนุ่มก็รีบกุมหน้าอกแน่น กระอักเลือดออกมาอีกหนึ่งอึกใหญ่ ขาของเขาคุกเข่าลงไปโดยไม่รู้ตัว ราวกับกำลังแบกรับความเจ็บปวดอันแสนสาหัส"ไม่เป็นไรใช่หรือไม่"กู้ชูหน่วนทิ้งเมล็ดแตงโม แล้วเดินไปหาเขา"ปัง
หญิงวัยกลางคนเดิมทีตั้งใจจะจัดการกับเด็กหนุ่มก่อน แล้วค่อยกลับมาจัดการกู้ชูหน่วน แต่ปรากฏว่าคำพูดของกู้ชูหน่วนฟังไม่เข้าหู นางจึงเปลี่ยนใจทันที"สาวน้อยปากดีนักนะ เอากระดิ่งภินวิญญาณมาให้ข้า ข้าอาจให้เจ้าตายอย่างสงบ แต่หากไม่ เจ้าจะจมกองเลือด""ข้าเป็นคนที่ใครก็มาข่มขู่ได้อย่างนั้นหรือ?" กู้ชูหน่วนเลิกคิ้วย้อนถาม"เหอะ เด็กน้อยผู้ไร้เดียงสา"หญิงวัยกลางคนส่งเสียงเหยียดหยาม นางเหยียบปลายเท้าเบาๆ แล้วปลดปล่อยหัตถ์โลหิตออกไปโจมตีกู้ชูหน่วนกู้ชูหน่วนพิงกำแพงไว้ กอดอก ยืนสงบนิ่ง ราวกับมั่นใจว่าเด็กหนุ่มต้องมาช่วยนางแน่ๆและก็เป็นอย่างที่นางคิด ขณะที่เด็กหนุ่มกำลังถูกเหล่านักฆ่าล้อมอยู่ เขาก็ยังสามารถเตะหม้อเหล็กจากร้านตีเหล็กไปขวางการโจมตีของหญิงวัยกลางคนได้ทันหม้อเหล็กสัมผัสกับหัตถ์โลหิตแล้วละลายทันทีแม้แต่เหล่านักฆ่าชุดดำก็ตกตะลึงพลังปีศาจโลหิตแข็งแกร่งมากสามารถละลายหม้อเหล็กได้ในพริบตา พลังภายในต้องแข็งแกร่งเพียงใดเด็กหนุ่มเบิกตากว้าง ไม่คาดคิดว่าพลังปีศาจโลหิตของหญิงวัยกลางคนจะร้ายกาจขนาดนี้ เขาอยากจะไปช่วยกู้ชูหน่วน แต่ถูกล้อมไว้ ชายแคระก็พุ่งเข้ามาโจมตีเขาไม่หยุด แทบอ
ชายแคระปากบอกว่าได้ แต่ดาบในมือกลับฟาดแรงขึ้นทุกที ร้องเสียงดังลั่นด้วยน้ำเสียงหยาบกร้าน“หนุ่มน้อย นางผู้นี้มีความสัมพันธ์อะไรกับเจ้าถึงได้ปกป้องนางด้วยชีวิตเช่นนี้?”เด็กหนุ่มไม่ตอบ เพียงแต่ตั้งสมาธิรับมือการต่อสู้แต่หญิงวัยกลางคนกลับหัวเราะคิกคักตอบว่า “เขาเป็นของข้า จะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับยัยขี้เหร่เล่า มากสุดก็แค่อยากได้กระดิ่งภินวิญญาณเท่านั้น”“ของที่พวกข้าเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานต้องการ เจ้าก็กล้าแย่ง? กล้ามากเลยนะ”"ปัง..."ดาบโจมตีไม่โดนเด็กหนุ่ม แต่กลับผ่ากำแพงดินหลังเด็กหนุ่มออกเป็นสองท่อน กำแพงดินที่แข็งแกร่งพังทลายลงจนเสียงดังกึกก้อง“เจ้าห้า หลังจากวันนี้ไป เขาอาจเป็นคนของพวกเราเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน เจ้าลงมือเบาหน่อย อย่าทำร้ายเขาจนพิการ”“รู้แล้ว รำคาญเสียจริง”กู้ชูหน่วนยืนอยู่ข้างๆ มองการต่อสู้ในสนามด้วยท่าทีผ่อนคลายชายแคระมีกำลังมาก มีพลังภายในแก่กล้า และลงมือด้วยกำลังอันป่าเถื่อน ส่วนเด็กหนุ่มกลับมีดวงตาเย็นชาและสงบนิ่ง มือเล็กยกขึ้นเบาๆ เสียงพิณกระทบกับดาบ ทุกครั้งที่พุ่งชนกัน ดาบราวกับวัวตกลงไปในทะเลโคลน อ่อนปวกเปียก ไม่ว่าจะฟาดอย่างไรก็ไม่โดนเด็กหนุ่
กู้ชูหน่วนและเด็กหนุ่มชุดดำถูกกลุ่มคนล้อมไว้ พูดให้ถูกคือ กู้ชูหน่วนถูกพวกเขาล้อมไว้ แต่เนื่องจากเด็กหนุ่มยืนอยู่ข้างๆ นางจึงติดร่างแหไปด้วย พวกที่ล้อมพวกเขามีถึงหลายสิบคน ทุกคนสวมชุดดำปิดบังใบหน้า ถือเคียว และมีสายตาที่ไม่เป็นมิตรหัวหน้าคือชายแคระตัวเตี้ยกับหญิงวัยกลางคนผู้เย้ายวนหญิงวัยกลางคนผู้เย้ายวนส่งสายตามองเด็กหนุ่มอย่างเร้าร้อน "โอ้ หนุ่มน้อย แค่มองรูปร่างของเจ้า ข้าก็น้ำลายไหลแล้ว อยากจะให้เจ้าถอดหน้ากากออก แล้วให้ข้าได้ดูแลเจ้าดีหรือไม่""เจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซาน" เด็กหนุ่มค่อยๆ เอ่ย"เจ้าตาดีไม่เบา พวกเราหลบซ่อนอยู่ในเขาอินซานมานานหลายปี ไม่คิดว่าจะมีใครจำพวกเราได้""แล้วอีกสองคนล่ะ""แค่พวกเจ้าสองคน ไม่จำเป็นต้องใช้พวกเราทั้งสี่คนหรอก" ชายแคระแบกดาบใหญ่ ดาบนั้นสูงกว่าตัวเขา ทำให้ดูไม่สมส่วนเขาเสียงดัง หน้าตาอัปลักษ์ ตาโปน ราวกับเป็นดวงตาของปลาตาย แต่ร่างกายของเขากลับเต็มไปด้วยพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลัวกู้ชูหน่วนพยายามค้นหาความทรงจำในสมองของนาง นางพอจะจำได้เลือนลางเจ็ดปีศาจแห่งเขาอินซานมีเจ็ดคน แต่ละคนวิทยายุทธเก่งกาจและโหดเหี้ยมมาก พวกเขาฆ่าคนเป็นว่าเล่น เมื่อหล
กู้ชูหน่วนเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านตีเหล็กกลางเมืองหลวง ริมฝีปากยกขึ้นยิ้มอย่างเกียจคร้านราวกับกำลังพูดกับตนเอง“คืนนี้มืดมิดเงียบสงบ ไม่มีใครอยู่รอบข้าง ใต้เท้าจะไม่ออกมา หรือว่าจะให้ข้าพากลับบ้านไปต้มหม้อไฟดี?”ในความมืดมิด ปรากฏเด็กหนุ่มสวมหน้ากากดำถือพิณเดินออกมาอย่างช้าๆ ร่างกายเปล่งประกายด้วยความเย็นชาเด็กหนุ่มวัยยังน้อย รูปร่างสูงโปร่งสมส่วน โดยเฉพาะชุดรัดรูปที่สวมใส่ ทำให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาอย่างชัดเจนหลังของเขาแบกพิณสีดำสนิท ดูสะดุดตาเป็นอย่างยิ่งท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมืดออกมาเพื่อลอบสังหาร แล้วยังแบกพิณมาด้วย คนผู้นี้ช่างมีรสนิยมจริงๆกู้ชูหน่วนพิจารณาเขาอย่างละเอียด รู้สึกว่าดูคุ้นตานางกะพริบตาปริบๆ ยิ้มเอ่ยว่า “หนุ่มน้อย รูปร่างดีจริงๆ ไม่รู้ว่าหน้าตาจะหล่อเหลาแค่ไหน หากว่าหล่อจริง ข้าอาจจะยอมให้จีบก็ได้นะ”เด็กหนุ่มหน้าตายเอ่ยเพียงประโยคเดียวว่า “ข้าต้องการเพียงกระดิ่งภินวิญญาณ”“เช่นนั้นเจ้าบอกข้าทีว่า เจ้าต้องการกระดิ่งภินวิญญาณไปทำไม หรือจะตอบว่ากระดิ่งภินวิญญาณนี้มีอะไรซ่อนอยู่ก็ได้นะ หากคำตอบของเจ้าทำให้ข้าพอใจ ข้าจะมอบมันให้เจ้า”“ข้าต้องการเพียงแ
"ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง..."อาวุธลับฝังเข้าไปในผนัง ลึกเข้าไปในเนื้อไม้สามส่วน เซียวอวี่เชียนสะดุ้งจนคอหดอาวุธลับนี้ หากโดนคนเข้าล่ะก็ คงทะลุร่างแน่นอน"ใคร? ใครลอบโจมตี?" เซียวอวี่เชียนตะโกนลั่นสำนักบัณฑิตหลวงมียอดีมือคอยปกป้องจำนวนมากเช่นนี้ ยังมีคนแอบเข้ามาฆ่าคนได้อีกหรือ? ช่างจองหองเกินไปแล้วกู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว กำกระดิ่งภินวิญญาณในมือแน่นโดยไม่รู้ตัวนางแสร้งทำเป็นผ่อนคลายและยิ้มเอ่ยว่า "ก็แค่พวกโจรขโมยชั้นต่ำ พวกเขาคงเห็นว่าข้าชนะการเดิมพันมามาก เลยเกิดความโลภน่ะ"เซียวอวี่เชียนแม้จะเจ้าสำราญไปบ้าง แต่เขาก็ไม่ได้โง่อาวุธลับสามสิบแปดเล่มนั้นมาพร้อมกับกระบวนท่าสังหาร ผู้มาเยือนไม่ได้คิดจะปล่อยให้ยัยขี้เหร่มีชีวิตอยู่และที่นี่คือสำนักบัณฑิตหลวงแม้ว่าโดยทั่วไปแล้วที่นี่จะดูไม่มีอะไรพิเศษ แต่ทุกคนก็รู้ดีว่า รอบๆ สำนักบัณฑิตหลวงมียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่จำนวนมากเมื่อใดก็ตามที่มีคนคุกคามชีวิตนักเรียน เหล่าองครักษ์ลับก็จะออกมาปกป้องทันที"ยัยขี้เหร่ พวกโจรขโมยทั่วไปไม่มีวิทยายุทธตัวเบาที่เก่งกาจเพียงนี้หรอก ข้าว่าพวกเขาต้องการเอาชีวิตเจ้านะ""เอาชีวิตอะไรเล่า ข้าไม่ได้ล่วงเกินใครซัก
ทุกคนต่างถือว่ากระดิ่งภินวิญญาณเป็นสิ่งล้ำค่า ไม่มีใครคิดจะทุบมัน แต่กู้ชูหน่วนกลับคิดนอกกรอบทุบไปหนึ่งทียังไม่แตกกู้ชูหน่วนจึงทุบซ้ำไปซ้ำมาหลายหน แต่ก็ยังไม่แตกจนสุดท้ายนางก็เหนื่อยหอบ"กระดิ่งอะไรเนี่ย แข็งมาก ทุบเท่าไหร่ก็ไม่แตกซักที"เมื่อการทุบกระดิ่งไม่ได้ผล กู้ชูหน่วนก็ลองใช้วิธีอื่นดู เผาด้วยไฟ ลวกด้วยน้ำ แช่ด้วยยา แต่ก็ไม่มีวิธีใดได้ผลกับกระดิ่งภินวิญญาณเลยสักวิธีเดียวไม่รู้ว่ากระดิ่งภินวิญญาณทำมาจากอะไร ถึงได้แข็งแกร่งทนทานขนาดนี้ ไม่ว่าจะใช้ดาบหรือหอกก็ทำอะไรไม่ได้แม้แต่หยกจันทร์เสี้ยว ไม่ว่าจะตรวจสอบอย่างไรก็หาคำตอบไม่ได้กู้ชูหน่วนเริ่มโมโห นางจึงหยิบอิฐขึ้นมา ตั้งใจจะทุบหยกจันทร์เสี้ยวเพื่อดูโครงสร้างภายในแต่หยกชิ้นนี้มีค่าถึงห้าสิบล้านตำลึง นางจึงลังเลใจ ทำให้มือที่ถืออิฐสั่นเทาหากไม่มีสิ่งใดอยู่ภายในหยก หรือหากหยกแตกละเอียดเป็นเสี่ยงๆ เงินห้าสิบล้านตำลึงของนางก็จะสูญเปล่าขณะนี้กู้ชูหน่วนถึงได้เข้าใจว่ายามนั้นไทเฮาต้องรู้สึกเจ็บปวดมากเพียงใด"ตุ้บ..."นางกัดฟัน ก่อนจะเหวี่ยงอิฐก้อนใหญ่ทุบลงไปบนหยกอย่างแรง จนหยกงดงามแตกละเอียดหยกจันทร์เสี้ยวแตกแล้ว