Home / รักโบราณ / ชายาของท่านอ๋องจวนร้าง / บทที่ 4 พระชายากับสาวใช้ก็คนเดียวกัน

Share

บทที่ 4 พระชายากับสาวใช้ก็คนเดียวกัน

Author: Lovedee
last update Last Updated: 2024-12-23 23:45:57

“ ก่อนอื่นข้าจะไปสำรวจในครัวก่อนก็แล้วกันนะว่ามีอะไรกินบ้าง แล้วจะลงมือทำความสะอาดห้องพักของข้าก่อน พวกท่านกินอะไรกันหรือยัง ” ชายร่างผอมส่ายหน้า “ ยัง วันนี้ข้ายังไม่ได้ลงจากเตียงเลย ” เพ่ยอันจ้องมองบนเตียงของเขาพบว่าเขาน่าจะยังไม่ได้อาบน้ำและบุตรสาวของเขาก็มอมแมมพอกัน เพราะคนขาเจ็บคงจะลุกจากเตียงลำบากมาก

“ ข้าจะพยุงท่านไปเข้าห้องน้ำและอาบน้ำให้สะอาดก่อนนะ แล้วจะอาบน้ำให้เด็กน้อยคนนี้  เจ้าชื่อว่าลี่หลิน น้าเรียกเจ้าว่าอาหลินก็แล้วกันนะ จะได้เรียกง่ายๆ ดีไหมจ๊ะ ” นางหันไปพูดกับเด็กน้อยที่ดวงตากลมโตจ้องมองนางตาแป๋วแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ อาหลินจะตามไปด้วยกันก็ได้นะ น้าจะได้อาบน้ำให้เจ้าพร้อมกับท่านพ่อเลย ” 

เพ่ยอันพับแขนเสื้อของตนเองแล้วผูกเอาไว้ วันนี้คงจะเหนื่อยแน่ งานยังมีให้ทำอีกมากมาย  นางเข็นรถเข็นไม้ไปจนชิดกับเตียงหลังใหญ่ของเขา แล้วค่อยๆพยุงเขาขยับมานั่งบนรถเข็นของตนเองจนได้ ขาของเขาน่าจะหักหลายที่ มันคงจะยังไม่สมานกันทั้งหมด “ ท่านยังเจ็บอยู่ไหม ” ชายหนุ่มพยักหน้า

“ เจ็บอยู่ คิดว่ากระดูกคงจะยังไม่สมานกันทั้งหมด แต่แผลนั้นหายแล้ว ไม่ต้องล้างแผลแล้ว ” เขาบอกขณะที่เพ่ยอันจัดท่าทางให้เขานั่งให้ถนัด แล้วค่อยๆเข็นเขาออกไปจากห้อง นางเข็นรถของเขาออกไปจอดไว้หน้าห้องก่อน แล้วเดินกลับมาช่วยหนูน้อยลงจากเตียง แล้วจึงได้ลงมือรวบผ้าผวยของเขาและผ้าปูที่นอนและหมอนออกไปจากห้องทั้งหมดเพราะต้องทำความสะอาดขนาดใหญ่เพราะมีกลิ่นเหม็นมากตั้งแต่นางเดินเข้ามาแล้ว

ขณะที่ทิ้งสองพ่อลูกเอาไว้หน้าห้อง นางก็เดินรวบผ้าผวยมาตากที่ล้านกว้างที่มีไม้ไผ่ผูกเอาไว้เป็นราวตากผ้าไว้หลายราว นางตากหมดทุกผืนแล้วดึงปลอกหมอนออกไปเพื่อจะซัก นางทุบหมอนกับก้อนหินใหญ่ใต้ต้นไม้นั้นเพื่อไล่ฝุ่นแล้วตากเอาไว้บนก้อนหินนั่นแล้วตอนบ่ายค่อยมาเก็บมัน

จากนั้นก็หอบผ้าที่เหลือเดินไปที่โอ่งหน้าครัว แล้ววางเอาไว้ในถังใบใหญ่ข้างโอ่ง แล้วเดินเข้าไปในครัวสำรวจข้าวของในนั้น พบว่ามีข้าวต้มเปล่าๆ  อยู่นิดหน่อย แต่มันเย็นชืดแล้วน่าจะเป็นของจากเมื่อวานและค้นพบข้าวสารอีกไม่มากในถังไม้ใต้โต๊ะ ค้นดูวัตถุดิบที่จะใช้ปรุงอาหารมีเกลือเหลืออยู่นิดหน่อย มีไข่ไก่อยู่ในตระกร้าสาน นางคิดว่าหลังจากอาบน้ำให้สองพ่อลูกแล้วจะเดินไปตลาดก่อน แล้วค่อยหลับมาหุงหาอาหาร แต่ต้องซักผ้าตากเอาไว้ก่อน 

นางเดินออกมากจากห้องครัวแล้วเดินกลับไปหาสองพ่อลูกนั่น แล้วค่อยๆเข็นรถเข็นของเขามาที่ใกล้โอ่งน้ำขนาดใหญ่ “ ท่านจะเข้าห้องน้ำก่อนหรือไม่ ” เขาพยักหน้า “ อาหลิน นั่งรอน้าที่เก้าอี้ตรงนี้ก่อนนะ อย่าไปที่ไหนนะ น้าจะพาพ่อของเจ้าไปอาบน้ำก่อน ” นางค่อยๆเข็นรถเข็นขอบเขาไปที่ห้องน้ำที่เลยจากครัวไปไม่ไกลมาก นางเปิดประตูออกกว้างแล้วเข็นรถเข็นของเขาเข้าไป แล้วพยุงเขานั่งที่โถส้วม “ ถ้าเสร็จแล้ว เรียกข้านะ ” เขาพยักหน้า นางจึงไม่ได้ปิดประตูห้องน้ำ แล้วเดินกลับไปหาเจ้าตัวน้อย แล้วจับนางถอดอาภรณ์ เจ้าตัวน้อยขัดขืนเล็กน้อยเหมือนนางไม่คุ้นเคยกับเพ่ยอัน

“ ไม่ต้องอายหรอก ถ้าเจ้ายอมอาบนำ้เปลี่ยนอาภรณ์ดีๆ ถ้าน้าไปตลาดจะซื้อขนมมาฝากดีไหม ” เด็กหญิงพยักหน้าน้อยๆ แล้วยอมให้เพ่ยอันถอดอาภรณ์ที่เหม็นสาปของนางออกจนหมด แล้วจูงมือเด็กน้อยไปยืนที่ข้างโอ่งดินเผาใบใหญ่แล้วตักน้ำราดตัวของนางแล้วถูไปมาให้สะอาด นางค้นพบเศษสบู่ที่ทำจากมันแพะ แล้วจึงได้ใช้มันฟอกตัวเด็กน้อยจนสะอาดแล้วอาบน้ำให้นางจนเสร็จแล้ว อุ้มนางเดินไปยังห้องที่มีของใช้ของนางอยู่ ในหีบมีเสื้อผ้าของเด็กน้อยมากมาย  เพ่ยอันเช็ดเนื้อตัวของเด็กหญิงจนแห้งดีแล้ว จึงได้สวมอาภรณ์ใหม่ให้นาง แล้วหวีผมให้นางจนเรียบร้อยแล้วดีแล้ว เด็กน้อย หน้าตาน่ารักแจ่มใส่ขึ้นมากเมื่อได้อาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์ใหม่แล้ว เนื้อผ้านี้เป็นเนื้อผ้าอย่างดี คงจะของที่เก็บมาจากจวนเดิมของนางเพ่ยอันครุ่นคิดขณะที่ค้นหาอาภรณ์ที่มีจนเกือบเต็มหีบของเด็กน้อย  นางอุ้มเด็กหญิงมาวางไว้บนเก้าอี้ตัวเดิม

“ อาหลิน เจ้ารอที่นี่ก่อนนะ อย่าไปที่ใด น้าจะไปอาบน้ำให้ท่านพ่อของเจ้าก่อน แล้วทำความสะอาดห้องให้ท่านพ่อของเจ้า เข้าใจหรือไม่ ” เด็กหญิงพยักหน้าอย่างเข้าใจ  อย่างน้อยเด็กน้อยนี่ก็เชื่อฟังและรู้ความมาก เพ่ยอันคิดแล้วก็เดินย้อนกลับไปที่ห้องน้ำ ก่อนเข้าไปนางร้องถามเขา ได้ยินเสียงตอบรับจึงได้เดินไปช่วยพยุงเขานั่งรถเข็น แล้วเข็นออกมาจากห้องน้ำ แล้วเข็นมาที่ตุ้มน้ำใบใหญ๋ 

“ ตุ่มใบไหนเป็นน้ำที่ใช้กิน ” เขาชี้มือไปที่ตุ่มใบเล็กที่สุด “ แล้วท่านเอาน้ำมาจากที่ใด ” เขาชี้มือไปที่ริมกำแพงนั้นมีบ่อน้ำเล็กอยู่ ที่นั่นมีเชือกที่พันกับไม้เหมือนชักรอกถังที่ใช้ตักน้ำจากในบ่อขึ้นมาใช้ เพ่ยอันมองตามมือของเขาแล้วก็ค่อยเบาใจ นางลืมไปเลยว่าต้องตักน้ำใส่โอ่งด้วย ดีแล้วที่ในจวนนี้มีบ่อน้ำด้วย ค่อยโล่งใจไปหน่อยคิดว่าจะต้องไปหาบมาจากที่อื่นเสียอีก  นางเปิดฝาโอ่งอีกครั้ง แล้วลงมือถอดอาภรณ์ของเขา แต่คนร่างผอมยื้อยุดกางเกงเอาไว้มั่น คงจะอายมาก “ ถ้าอย่างนั้น ข้าให้ท่านอาบเองดีไหม ข้าจะไปเอาผ้ามาให้ท่านเช็ดตัว แล้วค่อยไปเปลี่ยนอาภรณ์ในห้องเองดีไหม เขาพยักหน้า  

เพ่ยอันเดินไปหยิบผ้ามาพาดไว้บนราวไม้ใกล้มือของเขา แล้วเดินไปในครัวลงมือหุงข้าวทันที นางนำหม้อดินเผาใบเก่ามาซาวข้าวแล้วก็เดินเข้าไปครัวไปจุดไฟแล้วหุงข้าว นางหันไปเห็นต้นหอมเหลืออยู่จึงได้เดินออกไปล้างต้นหอมแล้วนำมาหั่นใส่ลงในชามแล้วตอกไข่ไปสี่ฟอง นางหยิบเกลือใส่ลงไปนิดหน่อยแล้วใช้ตะเกียบตีไข่จนขึ้นฟู เสร็จแล้วก็คนข้าวในหม้อไปด้วย

เมื่อข้าวใกล้จุะสุกแล้วนางจึงยกหม้อไปซาวน้ำทิ้ง แล้วจึงยกหม้อข้าวมาระอุบนเตาไฟจนข้าวสุกใหม่ส่งกลิ่นหอม แล้วจึงได้ยกระทะดินเผาขึ้นตั้งไฟ แล้วเทน้ำมันที่เหลือติดก้นหม้อเคลือบใบเล็กนั้นลงไปในกระทะรอน้ำมันร้อนจึงได้เทไข่ที่ตีจนขึ้นฟูแล้วลงไปในกระทะหลังจากนั้นก็รอกลับไข่จนมันสุกและกรอบน่ากินมาก ส่งกลิ่นหอมหวลไปทั่วทั้งครัวและคนด้านนอกสองคนก็พากันกลืนน้ำลายกันใหญ่ คนตัวเล็กที่นั่งจุมปุกตามคำสั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่นั้นทนไม่ไหว จึงได้ค่อยลงมาจากเก้าอี้แล้วตามกลิ่นอาหารนั้นเข้าไปในครัวทันที นางกลืนน้ำลายอึกใหญ่ท้องน้อยๆนั้นส่งเสียงประท้วงทันที  มือป้อมๆยกมือลูบท้องของตนเองไปมา จ้องมองคนที่ทำกับข้าวอย่างมีความหวัง

คนที่อยู่หน้าเตาไฟ หันมาเห็นเข้าก็อดยิ้มไม่ได้ อาหลินน้าทำเสร็จแล้วนะ เจ้าไปนั่งรอกินที่เดิมเดี๋ยวน้าจะยกไปให้  นางหันไปบอกเด็กน้อย แล้วก็หันกลับมาทำงานตรงหน้าต่อ  เมื่อไข่สุกแล้วก็ตักออกใส่ลงในจานใบใหญ่ยกกระทะออกวางไว้บนเตาไฟอีกข้างที่เป็นเตาที่ว่างเปล่า แล้วจึงค่อยๆใช้ขี้เถ้าใต้เตานั้นดับไฟลง เพราะต้องประหยัดฟืน นางใช้ชีวิตมัธยัตส์กับมารดามาจนชินแล้ว  จึงทำทุกสิ่งดังเช่นปกติที่เคยทำที่เรือนกับมารดา เมื่อเห็นสองพ่อลูกในห้องนั้น นางอดสงสารไม่ได้ และยิ่งกลิ่นตัวและที่นอนหมอนมุ้งของพวกเข้านั้นส่งกลิ่นอย่างรุนแรง นางจำเป็นต้องลงมือทำงานอย่างรวดเร็ว  อย่างน้อยคืนนี้พวกเขาก็จะนอนสบายกว่าเดิม 

Related chapters

  • ชายาของท่านอ๋องจวนร้าง   บทที่ 5 ท้องอิ่มใจก็อิ่มด้วย

    เมื่อข้าวสุกและอาหารก็เสร็จแล้ว เพ่ยอันก็ตักข้าวใส่ในจานสองจานและถ้วยใบเล็กสำหรับเด็ก แล้วตักไข่เป็นสามส่วน เอาชิ้นใหญ่สุดให้กับพ่อเด็ก แล้วตักชิ้นเล็กใส่ลงมาชามใบเล็กนั้น แล้วเดินถือชามใบเล็กออกไปส่งให้กับเด็กน้อยที่รอคอยอยู่ด้วยความหิว เด็กหญิงรับชามข้าวไปอย่างยินดีแล้วลงมือกินอย่างเอร็ดอร่อยส่วนเพ่ยอันเดินไปหาพ่อเด็กที่บัดนี้ห่มผ้าที่นางพาดเอาไว้ให้แล้ว และกำลังพยายามเข็นรถไปที่ห้องนอนของตนเอง “ ข้าช่วยท่านเข็นดีกว่ามือจะได้ไม่เปื้อน ” แล้วนางก็เดินตรงไปช่วยเข็นรถนั้นตรงไปที่หน้าห้องของเด็กหญิงตอนนี้แดดยังร่มเพราะชายคาของเรือนนี้ก็กว้างพอสมควร กว่าแดดจะส่องมาที่บริเวณระเบียงหน้าเรือนก็คงจะเป็นช่วงบ่ายคล้อยแล้ว “ ท่านนั่งอยู่ที่นี่นะ ข้าจะไปหยิบชามข้าวมาให้ ” แล้วเพ่ยอันก็เดินกลับไปในครัวแล้วยกจานข้าวมาส่งให้เขา อ๋องหนุ่มรับเอาไว้ แล้วจ้องมองใบหน้าหวานของเมียหมาดๆ ที่เพิ่งแต่งงานกันโดยราชโองการที่คนออกคำสั่งนั้นต้องการหยามหน้าเชาโดยการให้แต่งงานกับบุตรีของขุนนางที่ต่ำต้อยและไม่มีความสำคัญใด ไม่มีความสามารถโดดเด่น ที่ขึ้นมาเป็นขุนนางระดับนี้ได้ก็เพราะการหนุนหลังของครอบครัวเ

    Last Updated : 2024-12-23
  • ชายาของท่านอ๋องจวนร้าง   บทที่ 1 ราชโองการบังคับแต่ง

    ตระกูลหยูของหยูหลี่กงขุนนางขั้นสองได้รับราชโองการให้บุตรสาวของเขาแต่งงานกับท่านอ๋องอี้เหวิน แต่แทนที่ตระกูล หยูจะดีใจที่บุตรสาวนั้นจะได้เป็นถึงพระชายาของท่านอ๋อง กลับทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำต้องน้อมรับราชโองการนั้นเอาไว้ หลังจากเฉากงกงเดินออกไปจากจวนตระกูลหยูแล้ว ฮูหยินใหญ่ก็หันไปพูดกับสามี“ ท่านพี่เจ้าคะ ข้าไม่ยอมให้ลูกของเราแต่งงานกับอ๋องนั่นอย่างเด็ดขาด คนไม่มีอนาคตอย่างนั้นใครจะอยากส่งบุตรสาวไปเป็นภรรยาของเขากัน ” นายท่านหยูขุนนางการคลังขั้นสองนิ่งอึ้งไปเช่นกัน “ แล้วจะทำอย่างไรดีเล่า ในเมื่อมันเป็นราชโองการที่ต้องให้บุตรสาวของข้าแต่งงานกับอ๋องผู้นั้นแล้วไปอยู่ที่จวนกับเขา ” ฮูหยินใหญ่ที่ไม่มีทางปล่อยให้บุตรสาวที่นางรักและเลี้ยงดูมาอย่างกับไข่ในหินแต่งงานไปกับคนพิการแถมยังไร้สิ้นยศถาบรรดาศักดิ์และทรัพย์สินเพราะถูกริบไปหมดแล้ว จึงได้ตัดสินใจเอ่ยว่า“ ก็บุตรสาวของท่านพี่ไม่ได้มีแค่ลูกของเรานี่เจ้าคะ ยังมีเพ่ยอันอีกคน ถ้าเช่นนั้นให้นางแต่งงานกับอ๋องนั่นไปก็แล้วกัน ท่านพี่จะขัดข้องไหมเจ้าคะ “ นางหันไปจ้องมองสามี และแน่นอนว่านายท่านหยูหลี่กงที่ไม่เคยมีปากเสียงกับฮูหยินของต

    Last Updated : 2024-12-23
  • ชายาของท่านอ๋องจวนร้าง   บทที่ 2 เจ้าสาวจวนร้าง

    เมื่อถึงเวลาที่จะต้องไปขึ้นเกี้ยวหน้าจวน อนุลิ่วเดินจูงบุตรสาวมาส่งขึ้นเกี้ยวที่หน้าประตูจวนตระกูลหยู โดยมีนายท่านหยูและฮูหยินรวมถึงบุตรสาวและบุตรชายบางคนมายืนอยู่ด้วย ที่จริงแล้วพวกเขามิได้คิดจะมายืนรอส่งเจ้าสาวที่เป็นบุตรสาวตระกูลหยูเช่นกัน แต่พวกเขามายืนรอดูเพื่อให้แน่ใจว่าเพ่ยอันขึ้นไปบนเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว และเกี้ยวนี้ทางวังหลวงส่งมาพร้อมกับสินสอดหนึ่งหีบเล็ก นับเป็นขบวนเจ้าสาวที่น่าอนาถใจไม่่น้อยขบวนเจ้าสาวที่ออกเดินทางมีเพียงเกี้ยวและบ่าวชายที่หาบสินสอดหีบเล็กใส่ตระกร้าสานใบใหญ่และอีกด้านของตระกร้าสานนั้นเป็นหีบใส่ข้าวของๆเจ้าสาว เดินตามขบวนเกี้ยวไปเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่มีคนติดตามเจ้าสาว ไม่มีสาวใช้แม้สักคนเดียวไปกับเกี้ยวด้วย สินเดิมของเจ้าสาวนั้นไม่มี สินสอดนั้นก็มีที่ทางวังหลวงจัดมาให้เพียงหีบเดียว ส่วนสินสอดของเจ้าบ่าวนั้นไม่มี และย่อมไม่มีเจ้าบ่าวมารับเจ้าสาวด้วยเช่นกัน อนุลิ่วจ้องมองเกี้ยวเจ้าสาวอย่างสะท้อนใจ บุตรสาวของตนเป็นบุตรีขุนนาง มีราชโองการได้สมรสกับท่านอ๋องอี้เหวิน แต่ขบวนส่งเจ้าสาวกลับน่าอนาถเพียงนี้ ยิ่งกว่าที่นางเคยเห็นขบวนเจ้าสาวของชาวบ้านธรรมดาทั่วไปในเมือง

    Last Updated : 2024-12-23
  • ชายาของท่านอ๋องจวนร้าง   บทที่ 3 แต่งงานก็มีบุตรเลย

    หลังจากบ่าวชายที่อุตส่าห์มีน้ำใจเอ่ยคำอวยพรให้นางกลับไปพร้อมกับคนหามเกี้ยวที่ก็กลับไปเช่นกัน ที่หน้าประตูจวนนั้นมีเพียงเพ่ยอันยืนอยู่เพียงผู้เดียว ในลานหน้าบ้านนั้นว่างเปล่าไม่มีผู้คนเลยแม้แต่คนเดียว ตรงหน้าของนางคือเรือนขนาดเล็กเป็นเรือนแถวยาวคงจะมีห้องอยู่เพียงไม่กี่ห้องและมองไปเห็นเรือนเล็กที่ปลูกติดกันนั่นน่าจะเป็นโรงครัว เพราะที่ด้านหน้าเรือนมีโอ่งน้ำขนาดใหญ่สามโอ่งตั้งเรียงรายอยู่และมีชั้นวางของอยู่ใกล้ๆกันในลานกว้างมีต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่มากอยู่สามต้นปลูกอยู่ในลานหน้าเรือน และมีกระถางต้นไม้เรียงรายอยู่หลายกระถางแต่ต้นไม้ในนั้นล้วนเหี่ยวแห้งเหมือนไม่มีคนรดน้ำมานานแล้ว มีอ่างบัวขนาดไม่ใหญ่มากสองอ่างที่ใต้ชายคาเรือนแต่ในอ่างบัวไม่มีน้ำสักหยดในอ่างนั้นก็แห้งผากมีแต่ซากต้นไม้แห้งอยู่ในนั้นนางหันไปรอบๆก็ไม่พบใครสักคน จึงได้ตัดสินใจเดินเข้าไปที่ห้องใกล้กับโรงครัวแล้วเปิดประตูออกมองเข้าไปพบว่ามันเป็นห้องว่างเปล่า มีเตียงไม้ขนาดกลางวางอยู่ริมผนัง มีชุดโต๊ะเก้าอี้ไม้เก่าๆ อยู่หนึ่งชุด มีโต๊ะเครื่องแป้งที่เก่าพอๆกับเครื่องเรือนทุกอย่างในห้อง แต่มันก็พอใช้งานได้ ในห้องนี้มีฝุ่นจับหนามาก คง

    Last Updated : 2024-12-23

Latest chapter

  • ชายาของท่านอ๋องจวนร้าง   บทที่ 5 ท้องอิ่มใจก็อิ่มด้วย

    เมื่อข้าวสุกและอาหารก็เสร็จแล้ว เพ่ยอันก็ตักข้าวใส่ในจานสองจานและถ้วยใบเล็กสำหรับเด็ก แล้วตักไข่เป็นสามส่วน เอาชิ้นใหญ่สุดให้กับพ่อเด็ก แล้วตักชิ้นเล็กใส่ลงมาชามใบเล็กนั้น แล้วเดินถือชามใบเล็กออกไปส่งให้กับเด็กน้อยที่รอคอยอยู่ด้วยความหิว เด็กหญิงรับชามข้าวไปอย่างยินดีแล้วลงมือกินอย่างเอร็ดอร่อยส่วนเพ่ยอันเดินไปหาพ่อเด็กที่บัดนี้ห่มผ้าที่นางพาดเอาไว้ให้แล้ว และกำลังพยายามเข็นรถไปที่ห้องนอนของตนเอง “ ข้าช่วยท่านเข็นดีกว่ามือจะได้ไม่เปื้อน ” แล้วนางก็เดินตรงไปช่วยเข็นรถนั้นตรงไปที่หน้าห้องของเด็กหญิงตอนนี้แดดยังร่มเพราะชายคาของเรือนนี้ก็กว้างพอสมควร กว่าแดดจะส่องมาที่บริเวณระเบียงหน้าเรือนก็คงจะเป็นช่วงบ่ายคล้อยแล้ว “ ท่านนั่งอยู่ที่นี่นะ ข้าจะไปหยิบชามข้าวมาให้ ” แล้วเพ่ยอันก็เดินกลับไปในครัวแล้วยกจานข้าวมาส่งให้เขา อ๋องหนุ่มรับเอาไว้ แล้วจ้องมองใบหน้าหวานของเมียหมาดๆ ที่เพิ่งแต่งงานกันโดยราชโองการที่คนออกคำสั่งนั้นต้องการหยามหน้าเชาโดยการให้แต่งงานกับบุตรีของขุนนางที่ต่ำต้อยและไม่มีความสำคัญใด ไม่มีความสามารถโดดเด่น ที่ขึ้นมาเป็นขุนนางระดับนี้ได้ก็เพราะการหนุนหลังของครอบครัวเ

  • ชายาของท่านอ๋องจวนร้าง   บทที่ 4 พระชายากับสาวใช้ก็คนเดียวกัน

    “ ก่อนอื่นข้าจะไปสำรวจในครัวก่อนก็แล้วกันนะว่ามีอะไรกินบ้าง แล้วจะลงมือทำความสะอาดห้องพักของข้าก่อน พวกท่านกินอะไรกันหรือยัง ” ชายร่างผอมส่ายหน้า “ ยัง วันนี้ข้ายังไม่ได้ลงจากเตียงเลย ” เพ่ยอันจ้องมองบนเตียงของเขาพบว่าเขาน่าจะยังไม่ได้อาบน้ำและบุตรสาวของเขาก็มอมแมมพอกัน เพราะคนขาเจ็บคงจะลุกจากเตียงลำบากมาก“ ข้าจะพยุงท่านไปเข้าห้องน้ำและอาบน้ำให้สะอาดก่อนนะ แล้วจะอาบน้ำให้เด็กน้อยคนนี้ เจ้าชื่อว่าลี่หลิน น้าเรียกเจ้าว่าอาหลินก็แล้วกันนะ จะได้เรียกง่ายๆ ดีไหมจ๊ะ ” นางหันไปพูดกับเด็กน้อยที่ดวงตากลมโตจ้องมองนางตาแป๋วแล้วพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ อาหลินจะตามไปด้วยกันก็ได้นะ น้าจะได้อาบน้ำให้เจ้าพร้อมกับท่านพ่อเลย ” เพ่ยอันพับแขนเสื้อของตนเองแล้วผูกเอาไว้ วันนี้คงจะเหนื่อยแน่ งานยังมีให้ทำอีกมากมาย นางเข็นรถเข็นไม้ไปจนชิดกับเตียงหลังใหญ่ของเขา แล้วค่อยๆพยุงเขาขยับมานั่งบนรถเข็นของตนเองจนได้ ขาของเขาน่าจะหักหลายที่ มันคงจะยังไม่สมานกันทั้งหมด “ ท่านยังเจ็บอยู่ไหม ” ชายหนุ่มพยักหน้า“ เจ็บอยู่ คิดว่ากระดูกคงจะยังไม่สมานกันทั้งหมด แต่แผลนั้นหายแล้ว ไม่ต้องล้างแผลแล้ว ” เขาบอกขณะที่เพ่ยอันจัดท่

  • ชายาของท่านอ๋องจวนร้าง   บทที่ 3 แต่งงานก็มีบุตรเลย

    หลังจากบ่าวชายที่อุตส่าห์มีน้ำใจเอ่ยคำอวยพรให้นางกลับไปพร้อมกับคนหามเกี้ยวที่ก็กลับไปเช่นกัน ที่หน้าประตูจวนนั้นมีเพียงเพ่ยอันยืนอยู่เพียงผู้เดียว ในลานหน้าบ้านนั้นว่างเปล่าไม่มีผู้คนเลยแม้แต่คนเดียว ตรงหน้าของนางคือเรือนขนาดเล็กเป็นเรือนแถวยาวคงจะมีห้องอยู่เพียงไม่กี่ห้องและมองไปเห็นเรือนเล็กที่ปลูกติดกันนั่นน่าจะเป็นโรงครัว เพราะที่ด้านหน้าเรือนมีโอ่งน้ำขนาดใหญ่สามโอ่งตั้งเรียงรายอยู่และมีชั้นวางของอยู่ใกล้ๆกันในลานกว้างมีต้นไม้ขนาดไม่ใหญ่มากอยู่สามต้นปลูกอยู่ในลานหน้าเรือน และมีกระถางต้นไม้เรียงรายอยู่หลายกระถางแต่ต้นไม้ในนั้นล้วนเหี่ยวแห้งเหมือนไม่มีคนรดน้ำมานานแล้ว มีอ่างบัวขนาดไม่ใหญ่มากสองอ่างที่ใต้ชายคาเรือนแต่ในอ่างบัวไม่มีน้ำสักหยดในอ่างนั้นก็แห้งผากมีแต่ซากต้นไม้แห้งอยู่ในนั้นนางหันไปรอบๆก็ไม่พบใครสักคน จึงได้ตัดสินใจเดินเข้าไปที่ห้องใกล้กับโรงครัวแล้วเปิดประตูออกมองเข้าไปพบว่ามันเป็นห้องว่างเปล่า มีเตียงไม้ขนาดกลางวางอยู่ริมผนัง มีชุดโต๊ะเก้าอี้ไม้เก่าๆ อยู่หนึ่งชุด มีโต๊ะเครื่องแป้งที่เก่าพอๆกับเครื่องเรือนทุกอย่างในห้อง แต่มันก็พอใช้งานได้ ในห้องนี้มีฝุ่นจับหนามาก คง

  • ชายาของท่านอ๋องจวนร้าง   บทที่ 2 เจ้าสาวจวนร้าง

    เมื่อถึงเวลาที่จะต้องไปขึ้นเกี้ยวหน้าจวน อนุลิ่วเดินจูงบุตรสาวมาส่งขึ้นเกี้ยวที่หน้าประตูจวนตระกูลหยู โดยมีนายท่านหยูและฮูหยินรวมถึงบุตรสาวและบุตรชายบางคนมายืนอยู่ด้วย ที่จริงแล้วพวกเขามิได้คิดจะมายืนรอส่งเจ้าสาวที่เป็นบุตรสาวตระกูลหยูเช่นกัน แต่พวกเขามายืนรอดูเพื่อให้แน่ใจว่าเพ่ยอันขึ้นไปบนเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว และเกี้ยวนี้ทางวังหลวงส่งมาพร้อมกับสินสอดหนึ่งหีบเล็ก นับเป็นขบวนเจ้าสาวที่น่าอนาถใจไม่่น้อยขบวนเจ้าสาวที่ออกเดินทางมีเพียงเกี้ยวและบ่าวชายที่หาบสินสอดหีบเล็กใส่ตระกร้าสานใบใหญ่และอีกด้านของตระกร้าสานนั้นเป็นหีบใส่ข้าวของๆเจ้าสาว เดินตามขบวนเกี้ยวไปเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่มีคนติดตามเจ้าสาว ไม่มีสาวใช้แม้สักคนเดียวไปกับเกี้ยวด้วย สินเดิมของเจ้าสาวนั้นไม่มี สินสอดนั้นก็มีที่ทางวังหลวงจัดมาให้เพียงหีบเดียว ส่วนสินสอดของเจ้าบ่าวนั้นไม่มี และย่อมไม่มีเจ้าบ่าวมารับเจ้าสาวด้วยเช่นกัน อนุลิ่วจ้องมองเกี้ยวเจ้าสาวอย่างสะท้อนใจ บุตรสาวของตนเป็นบุตรีขุนนาง มีราชโองการได้สมรสกับท่านอ๋องอี้เหวิน แต่ขบวนส่งเจ้าสาวกลับน่าอนาถเพียงนี้ ยิ่งกว่าที่นางเคยเห็นขบวนเจ้าสาวของชาวบ้านธรรมดาทั่วไปในเมือง

  • ชายาของท่านอ๋องจวนร้าง   บทที่ 1 ราชโองการบังคับแต่ง

    ตระกูลหยูของหยูหลี่กงขุนนางขั้นสองได้รับราชโองการให้บุตรสาวของเขาแต่งงานกับท่านอ๋องอี้เหวิน แต่แทนที่ตระกูล หยูจะดีใจที่บุตรสาวนั้นจะได้เป็นถึงพระชายาของท่านอ๋อง กลับทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำต้องน้อมรับราชโองการนั้นเอาไว้ หลังจากเฉากงกงเดินออกไปจากจวนตระกูลหยูแล้ว ฮูหยินใหญ่ก็หันไปพูดกับสามี“ ท่านพี่เจ้าคะ ข้าไม่ยอมให้ลูกของเราแต่งงานกับอ๋องนั่นอย่างเด็ดขาด คนไม่มีอนาคตอย่างนั้นใครจะอยากส่งบุตรสาวไปเป็นภรรยาของเขากัน ” นายท่านหยูขุนนางการคลังขั้นสองนิ่งอึ้งไปเช่นกัน “ แล้วจะทำอย่างไรดีเล่า ในเมื่อมันเป็นราชโองการที่ต้องให้บุตรสาวของข้าแต่งงานกับอ๋องผู้นั้นแล้วไปอยู่ที่จวนกับเขา ” ฮูหยินใหญ่ที่ไม่มีทางปล่อยให้บุตรสาวที่นางรักและเลี้ยงดูมาอย่างกับไข่ในหินแต่งงานไปกับคนพิการแถมยังไร้สิ้นยศถาบรรดาศักดิ์และทรัพย์สินเพราะถูกริบไปหมดแล้ว จึงได้ตัดสินใจเอ่ยว่า“ ก็บุตรสาวของท่านพี่ไม่ได้มีแค่ลูกของเรานี่เจ้าคะ ยังมีเพ่ยอันอีกคน ถ้าเช่นนั้นให้นางแต่งงานกับอ๋องนั่นไปก็แล้วกัน ท่านพี่จะขัดข้องไหมเจ้าคะ “ นางหันไปจ้องมองสามี และแน่นอนว่านายท่านหยูหลี่กงที่ไม่เคยมีปากเสียงกับฮูหยินของต

DMCA.com Protection Status