Share

บทที่ 219  

Author: มู่อวิ๋นเฉิง
นี่ใช่กำลังเป็นห่วงนางหรือเปล่า?

กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับนาง ฉะนั้นถึงได้มายืนรอนางอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของจวน?

จิตใจของเมิ่งจิ่นเหยาถูกโจมตีอย่างแรง ฉับพลันทันใดนั้นก็เงยหน้าขึ้น มองเขาด้วยความตกใจและงงงัน

ภายใต้แสงอันนุ่มนวล โครงหน้าของบุรุษคมคายชัดเจน คิ้วคางเรียวยาวดูสง่า สีหน้าที่เคยเคร่งขรึมมืดมนบัดนี้กลับมาสงบนิ่งเหมือนเดิมแล้ว

แสงอบอุ่นที่ส่องออกมาจากตะเกียงริมทางเดินทั้งสองข้าง สะท้อนเข้าไปในดวงตาเรียวยาวคู่นั้น เคลือบนัยน์ตาคู่นั้นไว้ด้วยประกายแสนอ่อนโยน แววตาแม้ดูสงบนิ่งแต่ก็มิสูญเสียความอบอุ่น มิหนำซ้ำยังเจือด้วยความเป็นห่วงที่ยากจะจับสังเกต

ขณะที่สบตากับเขา เมิ่งจิ่นเหยาจิตใจหวั่นไหวไปชั่วขณะ ก็หลุบสายตาลงโดยสัญชาตญาณ ลุกลี้ลุกลนเบนสายตามองไปทางอื่น ตอนที่ศีรษะแนบไปบนหน้าอกของเขา และได้ยินเสียงหัวใจเต้นอันทรงพลังนั้นเข้า หัวใจเผลอเต้นผิดไปหนึ่งจังหวะ

เมิ่งจิ่นเหยาพูดตะกุกตะกักออกมาเบา ๆ “เหตุใดท่านพี่จึงดีกับข้าเพียงนี้?”

พวกเขาสองคนเป็นเพียงแค่คู่สามีภรรยากันผิวเผิน อย่างนางมีดีอะไรตรงไหน ถึงคู่ควรให้กู้จิ่งซีต้องมารอนางอยู่หน้าประตูเรือนกลางดึกดื่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 220  

    ...... ณ เรือนเวยหรุยเซวียน เจ้านายทั้งสองท่านยังไม่กลับมา แสงไฟภายในห้องหลักส่องสว่างไสว เซี่ยจู๋รวมถึงสาวใช้ที่เฝ้าเวรกลางคืนเมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวดังมาจากด้านนอก ก็รีบออกไปดูสถานการณ์ ทันทีที่มาถึงประตู ก็เห็นท่านโหวอุ้มฮูหยินกลับมา สาวใช้สองคนต่างตะลึงงัน เซี่ยจู๋มองพวกเขาแล้ว ก็เดินเข้าไปถามไถ่อย่างกังวล “ท่านโหว ฮูหยินเป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ?” กู้จิ่งซีตอบกลับ “ฮูหยินหลับไปแล้ว ไปตักน้ำสักอ่างหนึ่งเข้ามา ให้ฮูหยินล้างหน้าล้างตา” พูดจบ เขาก็กำชับสาวใช้ที่เฝ้าเวรกลางคืนอีกครั้ง “ไปเตรียมน้ำร้อนไว้ให้พร้อม” สาวใช้สองคนรับคำสั่ง และทำตามทันที กู้จิ่งซีอุ้มแม่นางน้อยเข้าไป หลังจากเข้ามาในห้องนอนแล้ว ก็จัดการวางคนลงบนเตียงนอนอย่างนุ่มนวล ก่อนจะไปหายาดองสำหรับรักษาบาดแผลหกล้มฟกช้ำมา และส่งให้ชิงชิว บอกให้นางและหนิงตงทาโอสถให้แม่นางน้อย เมื่อเรียบร้อยตนเองก็ไปชำระร่างกายที่ห้องอาบน้ำ ร่างกายของเมิ่งจิ่นเหยามิได้บาดเจ็บอะไร มีเพียงแขนที่กระแทกพื้นจนเป็นรอยฟกช้ำดำเขียว และข้อเท้าข้างซ้ายที่แพลงเท่านั้น บาดแผลที่แขนยังพอรักษาได้ แค่ไม่กี่วันรอยฟกช้ำจางไปก็นับว่าหายดีแล้ว ปก

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 221

    ทันทีที่เมิ่งจิ่นเหยาได้ยิน ก็จ้องไปที่ชายหนุ่ม กัดฟันกรอด พลางฮึดฮัดเบา ๆ “ท่านคิดว่าข้าเป็นบุตรชายของท่านหรือ? แค่เจ็บปวดก็ร้องไห้แง ๆ น่าขายหน้า!” นางจำตอนนั้นที่กูซิวหมิงโดนตีในโถงบรรพชนได้ เขาเจ็บปวดจนร้องไห้แง ๆ น้ำตาก็ไหลไม่ยอมหยุด แถมยังละทิ้งท่าทีของซื่อจื่อสกุลกู้ที่แสดงออกมาอยู่ตลอดเวลาจนหมดสิ้นอีกกู้จิ่งซีมองดวงตาที่มีหมอปกคลุมบาง ๆ นั้น เห็นได้ชัดว่าเจ็บปวดจนน้ำตาคลอ กลับแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง เขาจึงยิ้มกว้างขึ้น แต่ปากกลับกล่าวเห็นด้วยว่า “ก็จริง ฮูหยินเป็นผู้อาวุโส จะเหมือนกับคนรุ่นหลังได้อย่างไร?”เมิ่งจิ่นเหยาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ และค่อย ๆ พยุงตัวขึ้นมามองเท้าของตนเอง เห็นเพียงมือใหญ่ที่มีข้อต่อชัดเจนคู่นั้น มือหนึ่งจับฝ่าเท้าของนาง เพื่อห้ามนางขยับไปมา ส่วนอีกมือหนึ่งก็นวดข้อเท้าที่บวมแดงของนางขึ้นมาเบา ๆ มือคู่นี้เดิมทีใช้จับพู่กันและถือตำรา แต่บัดนี้กลับคอยปรนนิบัติเท้าของนางสัมผัสที่อุ่นร้อนแนบผิวหนังของนาง ผิวที่ถูกฝ่ามือของเขาทาบทับไว้ค่อย ๆ ร้อนขึ้น ทันใดนั้นนางก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา และความละอายใจก็ก่อตัวขึ้นในใจ จนอยากจะชักเท้าของตนเองกลับมาโดยไม่รู้ตัวอ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 222

    ตอนที่ชิงชิวเตรียมจะช่วยนางสวมเสื้อผ้า ก็ตั้งใจมองข้อเท้าข้างซ้ายของนางโดยเฉพาะ และขมวดคิ้วเล็กน้อยขึ้นมา พลางกล่าว “ฮูหยิน เท้าข้างนี้ของท่านยังบวมอยู่ แต่เมื่อเทียบกับเมื่อคืนถือว่าดีขึ้นมากแล้ว ข้าน้อยจะใส่ยาให้ท่านอีก เพราะเมื่อคืนข้าน้อยเห็นท่านโหวใส่ยาให้ท่าน จนดูและจำวิธีได้ขึ้นใจแล้วเจ้าค่ะ”เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้าติดต่อกัน “ได้”นางไม่อยากรอกู้จิ่งซีกลับมาจากการเลิกงานแล้วค่อยใส่ยาให้นาง เมื่อคืนกู้จิ่งซีใส่ยาให้นาง นางยังรู้สึกไม่สบายใจมาก“ฮูหยิน ข้าน้อยคลายเสื้อผ้าให้ท่านก่อนนะเจ้าคะ” เมื่อชิงชิวพูดจบ ก็ลงมือคลายเสื้อผ้าให้นางเมิ่งจิ่นเหยามึนงง “คลายเสื้อผ้าทำไมหรือ?”ชิงชิวตอบกลับ “เมื่อคืนตอนท่านหกล้ม แขนมันกระแทก และยังฟกช้ำอยู่เลยเจ้าค่ะ”เมื่อได้ยิน ท่าทีของเมิ่งจิ่นเหยาก็เปลี่ยนไปทันที และจู่ ๆ น้ำเสียงก็สูงขึ้น “เมื่อคืนท่านโหวก็ช่วยข้าใส่ยาที่แขนด้วยหรือ?”ทันทีที่ชิงชิวได้ยินน้ำเสียงนี้ ก็รู้ว่านางใส่ใจอะไรอยู่ จึงรีบกล่าวอธิบายว่า “เมื่อคืนข้าน้อยเป็นคนใส่ยาให้เอง เพียงแต่บริเวณข้อเท้าของท่าน ท่านโหวเห็นก็รู้สึกว่าข้าน้อยแค่ลูบยาดองเบา ๆ เท่านั้น ประสิทธิภาพ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 223

    ปลาติดเบ็ดแล้ว?ใบหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาเต็มไปด้วยความยินดี และรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย จนนางเกือบจะลุกขึ้นยืนชิงชิวที่อยู่รับใช้กับนางมาหลายปี และรู้ใจกันเป็นอย่างดี จึงคาดเดาการเคลื่อนไหวขั้นต่อไปของนาง ด้วยการตอบสนองอย่างรวดเร็ว ก็รีบเอื้อมมือไปกดไหล่ห้ามไม่ให้นางลุกพรวดขึ้นมาอย่างกะทันหันเมิ่งจิ่นเหยาไม่ทันรู้สึกตัว จึงเงยหน้ามองนาง และดวงตาก็แฝงไปด้วยความสงสัยชิงชิวยิ้มและอธิบายว่า “ฮูหยิน ระวังอาการบาดเจ็บที่เท้าของท่านด้วยเจ้าค่ะ”เมิ่งจิ่นเหยาตกตะลึง ก้มลงมองเท้าข้างซ้ายของตนเองทันที นี่ถึงนึกได้ในภายหลังว่าอาการบาดเจ็บที่เท้าของตนเองยังไม่หายดี แต่ก็แอบดีใจที่ชิงชิวตอบสนองได้ไว มิเช่นนั้นอีกเดี๋ยวหากนางลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เท้าซ้ายเจ็บลงน้ำหนักไม่ไหว ส่วนอีกข้างหนึ่งก็ยืนไม่มั่นคงแล้วจะล้มลงไปอีกครั้งหนิงตงพยักหน้าอย่างคล้อยตาม “ถูกต้อง ฮูหยินระวังหน่อยนะเจ้าคะ”“ปลาติดเบ็ดไวขนาดนั้นเชียวหรือ?”เมิ่งจิ่นเหยาปรับเสียงให้ร่าเริง ในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความขบขัน มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย และมีประกายเจ้าเล่ห์ในดวงตา ราวกับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่งชิงชิวกล่าว “ฮูหยิน สำหรับนักพนั

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 224

    เมิ่งจิ่นเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย เจ็บมันก็เจ็บ แต่ดีขึ้นกว่าเมื่อคืนมากแล้ว นางจึงยังคงอดทนได้สักพักหนึ่ง เมิ่งจิ่นเหยาก็ถาม “จริงสิ เรื่องของเมื่อคืน ไม่ได้ทำให้เกิดความวุ่นวายอะไรใช่หรือไม่?”ชิงชิวส่ายหน้า “ฮูหยินวางใจ เมื่อคืนท่านโหวแค่ให้คนใกล้ชิดของตนเองออกไปตามหาท่านเท่านั้น ไม่มีใครรู้ แม้แต่เซี่ยจู๋ยังไม่รู้เรื่องที่ท่านโหวรอท่านที่ปากประตูเลย ถึงอย่างไรตอนนั้นก็ดึกมาแล้ว ใครจะสนใจประตูใหญ่เล่าเจ้าคะ?”เมิ่งจิ่นเหยาแอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เป็นเช่นนี้ก็ดี ครั้งหน้านางกลับมาให้เร็วขึ้นจะดีกว่า มิเช่นนั้นเรื่องไปถึงด้านผู้อาวุโส สุดท้ายมันจะไม่ค่อยดีเท่าใดนักไม่นาน เซี่ยจู๋ก็เข้ามา ในมือยังถือไม้เท้าหนึ่งด้ามไว้ด้วยเมิ่งจิ่นเหยาเห็นเช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องเดาเลยว่าไม้เท้าด้ามนี้เอาให้ใคร ในบรรดานาง ชิงชิว และหนิงตงสามคน ก็มีแค่นางคนเดียวที่ขาเป๋ชั่วคราวและสามารถใช้ไม้เท้าได้เซี่ยจู๋ย่อตัวทำความเคารพไปทางนาง จากนั้นก็ส่งไม้เท้ามาให้นาง และกล่าวด้วยเสียงที่ยินดีว่า “ฮูหยิน นี่คือไม้เท้าที่ท่านโหวสั่งให้คนส่งมา บอกว่าท่านข้อเท้าแพลง จะเดินไม่สะดวกเจ้าค่ะ”รอยยิ้มของเมิ่งจิ่นเหย

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 225

    วันต่อมา ตอนช้าตรู่หลังจากที่เมิ่งจิ่นเหยารับประทานอาหารเช้าเสร็จ และกำลังเตรียมจะตามกู้จิ่งซีไปโถงโซ่วอันเพื่อคารวะยามเช้าให้ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ตอนที่นางคิดจะลุกขึ้น กู้จิ่งซีก็ส่งไม้เท้าด้ามหนึ่งมาให้นางเมื่อเห็นเช่นนั้น นางก็แสดงสีหน้าขยะแขยง เพราะใช้ไม้เท้ามาหลายวันแล้ว นางรู้สึกเบื่อหน่าย ในใจปฏิเสธ ตรงปากก็ปฏิเสธ “ไปคารวะยามเช้าให้ผู้อาวุโส และใช้ไม้เท้าเข้าไป จะดูเหมือนอะไรเล่าเจ้าค่ะ?”กู้จิ่งซีเห็นใบหน้าที่ต่อต้านของนาง ก็นึกขึ้นมาได้ว่าปกตินางไม่ชอบใช้ไม้เท้า แต่กลับทำท่าจำเป็นต้องใช้ไม้เท้า ริมฝีปากจึงยกขึ้นเล็กน้อยอย่างยากจะสังเกตเห็น และโน้มน้าวด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “อาการบาดเจ็บที่เท้าของฮูหยินยังไม่หายดี ใช้ไม้เท้าจะดีกว่า”เมิ่งจิ่นเหยาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ยังคงยืนกรานที่จะปฏิเสธ “ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อาการบาดเจ็บที่เท้าใกล้จะหายดีแล้ว ข้าเดินช้าหน่อยก็ได้ และพอเดินไปสองก้าว หากไม่ได้ค่อยใช้ไม้เท้า”เมื่อได้ยิน กู้จิ่งซีก็ไม่บังคับนาง และกล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “ก็ได้ เช่นนั้นก็เอาตามฮูหยินแล้วกัน” พูดจบ เขาก็ส่งไม้เท้าที่อยู่ในมือให้กับสาวใช้ที่อยู่ข้างกายเมิ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 226

    สายตาของคนอื่นก็ตกไปอยู่ที่มือของพวกเขาเช่นกัน ด้วยความประหลาดใจ กู้จิ่งซีมีนิสัยเป็นเช่นไร พวกเขาล้วนรู้จักกันดี เขาดูเหมือนจะอบอุ่น แต่ความเป็นจริงกลับเย็นชา และทำให้คนยากจะเข้าใกล้ เคยใกล้ชิดกับสตรีต่อหน้าผู้คนเช่นนี้เสียเมื่อใดกัน? เห็นทีเมิ่งจิ่นเหยาจะไม่ธรรมดา เพราะถึงกลับสามารถสยบกู้จิ่งซีได้เมิ่งจิ่นเหยารู้สึกถึงสายตาที่มีความนัยของทุกคน สีหน้าของนางก็แข็งทื่อ และรับรู้ในภายหลังว่าตนเองยังใช้ไม้เท้ารูปคนอยู่ จึงปล่อยมือลงอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเดินไปข้างหน้าเพื่อคารวะยามเช้าให้ฮูหยินผู้เฒ่าอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ลูกสะใภ้คารวะท่านแม่เจ้าค่ะ”กู้จิ่งซีก็โค้งคำนับไปทางฮูหยินผู้เฒ่ากู้เช่นกัน “ลูกคารวะท่านแม่ขอรับ”ฮูหยินผู้เฒ่ากู้มีท่าทีที่อ่อนโยน “เด็กดี ทุกคนมานั่งลงแล้วค่อยคุยกันเถอะ”ทันทีที่นางเปร่งเสียง กู้จิ่งซีก็เอื้อมมือไปพยุงแม่นางน้อยให้นั่งลงตรงเก้าอี้ด้านข้าง การกระทำนั้นคล่องแคล่วอย่างมาก ราวกับเคยทำมานับครั้งไม่ถ้วน นี่ถึงกับทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นตกใจกันหมดแม้แต่ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ที่เคยชินกับเหตุการณ์ใหญ่ ๆ ก็ประหลาดใจเล็กน้อย ครั้งก่อนบุตรชายกับลูกสะใภ้เข้ามา

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 227

    ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนที่อยู่รอบข้างต่างตกใจนางจางจิตใจสั่นสะท้าน เมิ่งจิ่นเหยาแต่งเข้ามาก็สักระยะหนึ่งแล้ว แต่มารดาสามียังไม่เคยพูดถึงเรื่องของอำนาจดูแลเรือนเลย นางคิดว่ามารดาสามีรู้สึกว่าเมิ่งจิ่นเหยาอายุยังน้อย และแบกรับความรับผิดชอบใหญ่ๆ ไม่ไหว ดังนั้นจึงไม่พูดถึงมาโดยตลอด คิดไม่ถึงว่าจะพูดในวันนี้นางเฉินกลับไม่ได้ตกใจมากนัก เพราะเรื่องนี้อยู่ในการคาดเดาแล้ว เพียงแค่เป็นเรื่องช้าหรือเร็วเท่านั้น นางหันไปมองนางจาง และเมื่อเห็นสีหน้าของนางจางที่เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก นางก็ยิ้มอย่างยากที่จะสังเกตเห็นเดิมทีนางก็เป็นคนที่มารดาสามีขอให้ช่วยนางจางดูแลอำนาจดูแลเรือน เพื่อรักษาสมดุลระหว่างเรือนใหญ่กับเรือนรอง สามีของตนเองก็ไม่ถือว่าธรรมดาจนเกินไป เขาเป็นถึงจางวางกรมพิธีการขั้นห้าของกรมพิธีการ ซึ่งแตกต่างกับตำแหน่งงานระดับต่ำและไม่มีบทบาทสำคัญของเรือนใหญ่ จึงไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจดูแลเรือนมารักษาหน้าตาของครอบครัวไม่เพียงแค่สีหน้าของนางจางที่เปลี่ยนไปเท่านั้น แม้แต่สีหน้าของกู้จิ่งเซิ่งก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเช่นกัน หลังจากเมิ่งจิ่นเหยาแต่งเข้ามา เขาเคยได้ยินการวิเคราะห์ของนางจาง ว

Latest chapter

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 340

    กู้จิ่งซีค่อนข้างประหลาดใจ “เจ้าใช้วิธีใด ถึงทำให้เขารับสารภาพเร็วขนาดนั้น?”ฉีอวิ้นเหวินหยักไหล่ หัวเราะพลางกล่าว “นั่นไม่ใช่ความดีความชอบของข้า เมื่อวานมีแม่นางคนหนึ่งมาพบเขา ไม่รู้พูดอะไร เขาก็รับสารภาพแล้ว”เมื่อได้ยิน กู้จิ่งซีก็ขมวดคิ้วแน่น และสัมผัสได้ถึงสิ่งผิดปกติบางอย่าง “แม่นางผู้นั้นรู้ได้อย่างไรว่าเขาถูกจับตัว?”ฉีอวิ้นเหวินเหลือบมองเขาด้วยสายตาแปลก ๆ และถามกลับว่า “โจรขโมยหญิงงามที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ และชั่วร้ายถูกจับตัวได้แล้ว เป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เมื่อคืนข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงแล้ว หรือว่าเจ้าไม่รู้หรือ? ก็จริง น้องสะใภ้ป่วยแล้ว เจ้าไม่มีกระจิตกระใจจะสนใจเรื่องอื่นก็ปกติ”กู้จิ่งซีปรากฏสายตาที่รู้ทันออกมาฉีอวิ้นเหวินกล่าวอีกว่า “ข้าเห็นแม่นางผู้นั้นแต่งกายเป็นสาวชาวยุทธจักร ซึ่งน่าจะเป็นชาวยุทธจักร และคาดว่าจะมีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขา แต่ว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญมากนัก เพราะตอนนี้ไขคดีได้ก็พอแล้ว”......จวนฉางซินโหวกู้ซิวหมิงมาคารวะยามเช้าให้เมิ่งจิ่นเหยา เขามาสายก้าวหนึ่ง กู้จิ่งซีเพิ่งออกไป เขาก็เพิ่งจะมาถึงนับตั้งแต่การกักบริเวณสิ้นสุดลง ตราบใดที

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 339

    เมิ่งจิ่นเหยาก็ไม่ปิดบัง และเล่าเรื่องที่พบหญิงวัยกลางคนในวัดหลินอวิ๋นเมื่อวานตอนบ่ายให้ฟังรอบหนึ่งพูดถึงช่วงสุดท้าย นางก็หัวเราะออกมาเบา ๆ “สวรรค์มีตาจริง ๆ จู่ ๆ ข้าก็ฉุกคิดอยากจะไปจุดธูปให้ท่านแม่ที่โถงหว่างเซิงของวัดหลิงอวิ๋น จึงได้พบอดีตบ่าวรับใช้ของท่านแม่ ท่านป้าท่านนั้นป่วยหนักมาก และเหลือเวลาไม่มากแล้ว หากเมื่อวานข้าไม่ได้ไปเจอนางที่วัดหลิงอวิ๋น ความลับนั้นคาดว่าข้าจะไม่มีทางรู้ไปตลอดกาลเจ้าค่ะ”กู้จิ้งซีสีหน้ามืดมนลง พลางละอายใจต่อวิธีที่พ่อตานั้นทำอย่างมาก แม้จะแต่งงานตามคำสั่งของบิดามารดาและการจับคู่ของแม่สื่อ พลางไม่มีความรักระหว่างชายหญิงต่อแม่ยายเขา จะปิดบังความจริงเพราะรู้สึกผิดก็ช่าง ยังปล่อยให้มารดาและแม่เลี้ยงปฏิบัติต่อบุตรสาวที่บริสุทธิ์อย่างรุนแรงอีกเขาเห็นแม่นางน้อยที่โกรธแค้นผสมปนเปกัน ก็ตบหลังมือของแม่นางน้อยเหมือนจะปลอบใจ และกล่าวอย่างเป็นนัยว่า “ฮูหยิน วิญญาณของแม่ยายที่อยู่บนสวรรค์จะไม่ปล่อยพวกเขาไปแน่”เมื่อได้ยิน สีหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาก็ชะงักไป พลางสบตาเข้ากับสายตาที่มีความหมายลึกซึ้งของเขา ก็เข้าใจความหมายของเขา และยกรอยยิ้มที่อันตรายขึ้น “จริงด้วย

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 338

    เมิ่งจิ่นเหยาถามเสียงเบาว่า “ท่านหมอ เป็นอย่างไรบ้าง?”หมอประจำจวนเก็บนิ้วมือทั้งสามข้อที่อยู่บนแขนของเมิ่งจิ่นเหยากลับลงไป พลางตอบกลับ “ฮูหยิน ท่านมีปมในใจจนเกิดอาการซึมเศร้า แถมยังได้รับความเย็นเกินไปอีก จึงทำให้จู่ ๆ ก็ไข้ขึ้นสูง และจำเป็นต้องใช้ยาคลายเครียดเสียหน่อยก็จะดีขึ้นขอรับ”เมิ่งจิ่นเหยาพยักหน้า “รบกวนท่านหมอแล้ว”“ไม่รบกวนขอรับ” หมอประจำจวนรีบส่ายหน้า และกล่าวอีกว่า “แต่ว่า ฮูหยินร่างกายอ่อนแอ ควรจะบำรุงร่างกายให้ดีตั้งแต่ยังสาวถึงจะได้นะขอรับ”มิ่งจิ่นเหยาฟังจบ ก็ไม่แปลกใจแม้แต่น้อย เพราะนางรู้มาโดยตลอดว่าตนเองร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยง่าย โดยเฉพาะช่วงที่อากาศเย็น หากไม่ระวังนิดหน่อยก็จะเป็นหวัด เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านมารดา นางไม่มีความพร้อมที่จะดูแลตนเอง ตอนนี้อยู่บ้านสามี นางใส่ใจเรื่องการกินมากขึ้น และได้ดื่มน้ำแกงบำรุงร่างกายอยู่เป็นประจำ ช่วงนี้นางจึงรู้สึกดีมาก สีหน้าก็ดูดีขึ้นแล้วนางกล่าวเสียงอ่อนโยน “ปกติข้าก็ดูแลตนเองอยู่แล้ว รบกวนท่านหมอจัดยาคลายเครียดให้ข้าก็พอ”หมอประจำจวนฟังจบ ก็จ่ายยาคลายเครียดให้นาง และให้สาวใช้ตามเขาไปเอายากลับมาต้มหลังหมอประจำจวนจากไป

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 337

    บนรถม้าชิงชิวกับหนิงตงที่แทบไม่ได้นอนทั้งคืนนั่งพิงกัน และเผลอหลับไปเมิ่งจิ่นเหยาหายป่วยได้ไม่นาน ยังรู้สึกมึนศีรษะ คนทั้งคนก็หมดเรี่ยวแรง จึงเอนหลังพิงผนังรถม้าและหลับตาพักสมองทันใดนั้น รถม้าก็สั่นสะเทือน ท้ายทอยของนางกระแทกเล็กน้อย จึงรีบนั่งตัวตรง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ศีรษะกระแทกอีกกู้จิ่งซีเห็นแม่นางน้อยขมวดคิ้ว พยายามฝืนให้มีชีวิตชีวาขึ้น นั่งตัวหลังตรง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงยื่นมือโอบนางเข้ามาในอ้อมแขน และให้นางพิงหน้าอกของตนเอง เมื่อสบตาเข้ากับสายตาที่ตกใจของนาง ก็กล่าวด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “หากฮูหยิน อ่อนเพลีย ก็พิงข้าแล้วนอนเสียเถอะ”ตอนนี้เมิ่งจิ่นเหยารู้สึกทั้งตัวไม่มีแรง ศีรษะยังมึน ๆ อยู่ จึงไม่เกรงใจเขา และพิงอยู่บนตัวเขาด้วยความสบายใจอย่าดูถูกแม้กู้จิ่งซีดูจะตัวไม่ใหญ่มาก แต่หน้าอกกว้างใหญ่ พิงอยู่บนตัวเขาอบอุ่นสบายตัว แถมได้กลิ่นดอกกล้วยไม้ที่หอมละมุนจากตัวของเขา ก็รู้สึกสบายใจอย่างอธิบายไม่ถูก แต่กลับไม่มีอาการง่วงเลยบางทีเพราะถูกผู้ชายกอดไว้ในอ้อมแขนเช่นนี้ เลยรู้สึกไม่คุ้นชินหรืออาจเป็นเพราะได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นตึกตักอยู่ข้างหู มันดังก้องอยู่ที่หู

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 336

    ท่าทางที่ดูป่วยเช่นนี้ ดูน่าเป็นห่วงยิ่งนักคนที่มีไข้ขึ้นสูง ไม่ควรห่มผ้าจนอบอ้าว ไม่เช่นนั้นอาการป่วยจะแย่ลง เขาจึงเปิดผ้าห่มบางออกให้แม่นางน้อยผ่านไปไม่นาน หนิงตงก็ยกอ่างน้ำอุ่นมาด้วยความรีบร้อน โชคดีที่วัดหลิงอวิ๋นมีคนเข้ามาสักการะอย่างเนืองแน่น ปกติจะมีผู้แสวงบุญมาค้างคืน และมีผู้แสวงบุญจำนวนไม่น้อยที่มาจากครอบครัวร่ำรวย ดังนั้นเพื่อความสะดวกสบายของแขก ตอนกลางคืนภายในวัดก็มีกักเก็บน้ำร้อนไว้หนิงตงวางอ่างทองแดง พลางถาม “ท่านโหว น้ำอุ่นยกเข้ามาแล้ว ต้องทำอย่างไรหรือเจ้าคะ?”กู้จิ่งซีตอบกลับ “เช็ดหน้าผาก คอ รักแร้ และแขนขาให้ฮูหยินเพื่อระบายความร้อน”หนิงตงตอบรับ ยกอ่างทองแดงมาข้างหน้าทันที พลางวางอ่างน้ำไว้บนเก้าอี้ที่อยู่หน้าเตียง และเตรียมจะถอดเสื้อผ้าให้นายหญิง ก็มองไปทางกู้จิ่งซีโดยไม่รู้ตัว พบว่าเขาหันหลังให้พวกนาง นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างโต๊ะน้ำชาเมื่อเห็นดังนั้น หนิงตงก็ตกตะลึงเล็กน้อย และแอบพูดในใจว่า ท่านโหวเป็นสุภาพบุรุษจริง ๆ แม้จะเป็นสามีภรรยากับฮูหยิน ก็ไม่ได้ฉวยโอกาสเอาเปรียบหนิงตงไม่คิดอะไรมาก ก็ถอดเสื้อผ้าให้เมิ่งจิ่นเหยาด้วยความเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว และเช็ดตั

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 335

    ในวินาทีนั้น เมิ่งจิ่นเหยาทำจิตใจให้สงบ ก้มหน้าลงมอง เห็นว่าบาดแผลที่มือซ้ายใช้ผ้าพันแผลพันไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อมองเพียงแวบแรกดูท่าทางเหมือนว่าบาดเจ็บสาหัส จึงกล่าวออกมาอย่างอดไม่ได้ว่า “ตอนนี้เลือดไม่ซึมออกมาแล้ว อันที่จริงไม่พันแผลก็ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”กู้จิ่งซีเหลือบมองนาง พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ถึงแม้ไม่ใช่บาดแผลสาหัส แต่หากไม่พันแผล เมื่อชนหรือกระแทกเข้าโดยไม่ระวังแล้วเลือดไหลออกมาอีก ไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นตัว โดยเฉพาะบาดแผลที่ข้อศอก เนื้อผ้าเสียดสีก็อาจเจ็บได้เช่นกัน”เมิ่งจิ่นเหยาตะลึงเล็กน้อย แล้วพยักหน้าในทันทีหลังจากนั้นไม่นาน นางก็ถูกมือของกู้จิ่งซีดึงดูดความสนใจไป มือคู่นั้นเรียวยาวและขาวสะอาด ข้อต่อชัดเจน ราวกับหยกขาวที่แกะสลักอย่างประณีต ดูแล้วสบายตาสบายใจนักเมื่อหลุดออกจากความคิด นางก็ใจลอยอีกครั้งผ่านไปเป็นเวลานาน กู้จิ่งซีช่วยนางพันแผลจนเสร็จ และปล่อยมือของนาง เมื่อเห็นว่ามือขวาของนางยังยกอยู่ ก็กล่าวว่า “ฮูหยิน เสร็จแล้ว”แต่เมิ่งจิ่นเหยาดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของเขา เขาจึงเรียกอีกครั้ง “ฮูหยิน?”เวลานี้ เมิ่งจิ่นเหยาถึงค่อย ๆ ได้สติกลับมา และพบกับส

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 334

    เขากำลังเตรียมจะปลอบโยนนางสักหลายประโยค ทำให้อารมณ์ของแม่นางน้อยสงบลง แล้วค่อยถามให้ชัดเจนอีกครั้งว่าเกิดอันใดขึ้นกันแน่ ทว่าเวลานี้ หนิงตงได้ยกอ่างน้ำสะอาดเข้ามา เขาจึงกลืนคำพูดที่ติดอยู่ตรงริมฝีปากกลับเข้าไปหนิงตงนำอ่างน้ำมาวางไว้บนโต๊ะ ถามด้วยน้ำเสียงนอบน้อมว่า “นายท่าน ให้ใช้น้ำในอ่างเช่นไรเจ้าคะ?”กู้จิ่งซีกล่าวกำชับ “ไปหาผ้าสะอาด ๆ มา”หนิงตงรับคำ ไม่นานก็หาผ้าเช็ดหน้าสะอาดที่อยู่ในสัมภาระมาหนึ่งผืน ผ้านี้เตรียมไว้สำหรับให้นายหญิงของนางใช้ล้างหน้ากู้จิ่งซีเหลือบมองไปที่แม่นางน้อย ลังเลอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็รับผ้าเช็ดหน้ามา กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ข้าคนเดียวก็พอแล้ว เจ้าออกไปก่อนเถิด”หนิงตงเหลือบมองนายหญิง เมื่อเห็นว่านายหญิงไม่ได้เอ่ยปากบอกให้นางอยู่ต่อ ก็รับคำแล้วถอยออกไปกู้จิ่งซีกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “มาล้างบาดแผลสักหน่อย ตอนที่เจ้าล้มลงไปเนื้อหนังถลอก แล้วบาดแผลก็เปื้อนฝุ่นด้วย”เมื่อได้ฟังดังนั้น เมิ่งจิ่นเหยาไม่ได้ลังเล ลุกขึ้นแล้วเดินมากู้จิ่งซีดึงมือของนาง ช่วยนางทำความสะอาดบาดแผลที่ฝ่ามือด้วยท่าทีที่อ่อนโยนเมื่อบาดแผลสัมผัสกับน้ำ เมิ่งจิ่นเหยาเจ็บปวดเส

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 333

    กู้จิ่งซีจับจ้องนางอย่างไม่วางตา พลางถามด้วยเสียงอ่อนโยน “ฮูหยิน วันนี้เกิดเรื่องอันใดขึ้นงั้นหรือ?”เมื่อได้ฟังดังนั้น ใบหน้าของเมิ่งจิ่นเหยาก็เต็มไปด้วยความงุนงง พลางถามกลับไปว่า“เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ท่านพี่ก็เห็นหมดแล้วมิใช่หรือเจ้าคะ?”นางกล้าพูดได้เลยว่า นางโตถึงเพียงนี้แล้ว ยังไม่เคยเจอเรื่องที่ตื่นเต้นระทึกขวัญเช่นนี้มาก่อน เพียงชั่วพริบตาเดียวที่รอดพ้นจากความตาย ชีวิตนี้ไม่คิดจะพบเจออีกเป็นครั้งที่สองกู้จิ่งซีเห็นสีหน้าของนางงุนงง ไม่ได้จงใจแสร้งทำเป็นฟังไม่เข้าใจ จึงสัมผัสที่ฝ่ามือของนางอย่างแผ่วเบา พลางถามต่อว่า “เกิดอันใดขึ้นกับมือนี้ของเจ้า? ล้มลงไม่สามารถเกิดบาดแผลเช่นนี้ได้”เมิ่งจิ่นเหยาตกตะลึงไปชั่วขณะ ก้มหน้ามองฝ่ามือของตนเอง บนฝ่ามือยังมีผลงานชิ้นเอกของตนเองเมื่อบ่ายอยู่ เมื่อคิดถึงเรื่องที่พบกับสตรีวัยกลางคนผู้นั้นขึ้นมาได้ ดวงตาของนางก็หม่นลงในฉับพลัน และอยากจะกำมือของตนเองแน่นอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวกู้จิ่งซีที่สายตาเฉียบคมและมือไว รีบกุมมือทั้งสองข้างของนางไว้แน่น ขัดขวางการกระทำของนาง เล็บของนางจะได้ไม่บาดบาดแผลและมีเลือดไหลซึมออกมาอีกเล็บของแม่นางน้อยไ

  • ชายชั่วหนีวิวาห์ ข้าหรือจะยอมเป็นม่ายขันหมาก   บทที่ 332

    เมื่อกู้จิ่งซีได้ฟังก็รู้สึกใจอ่อน พลางกล่าวอย่างอ่อนโยน “ให้ข้าดูหน่อย” เมื่อกล่าวจบ เขาก็ยอบกายลง ยกชายกระโปรงของนางขึ้น เตรียมจะดูอาการบาดเจ็บของนาง เมิ่งจิ่นเหยาสีหน้าชะงักค้าง กำลังจะเอ่ยปากขัดขวาง ทว่าเมื่อกลับมาคิดดูอีกทีแล้ว ต่างก็เป็นสามีภรรยาที่นอนหลับอยู่บนเตียงเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องรักษาขอบเขตระหว่างชายหญิงอันใดหลังจากกู้จิ่งซียกชายกระโปรงของนางขึ้นแล้ว มือหนึ่งก็จับไปที่ข้อเท้าขวาของนาง ส่วนอีกข้างม้วนขากางเกงของนางขึ้น เมื่อม้วนขากางเกงไปจนถึงเหนือหัวเข่า ก็จะเห็นได้ว่าตรงหัวเข่าที่ถูกกระแทกตอนล้ม เป็นรอยฟกช้ำไปเรียบร้อยแล้ว ทว่าไม่ได้ร้ายแรงนักกู้จิ่งซีเห็นว่าบาดแผลไม่หนักมาก จึงวางขานางลง แล้วไปดูบาดแผลที่ข้อศอกของนางนางล้มลงไปข้างหน้า บาดแผลตรงข้อศอกจึงชัดเจนมากนัก เสื้อผ้าในฤดูร้อนจะค่อนข้างบางเบา เสื้อผ้าบริเวณข้อศอกล้วนมีร่องรอยขีดข่วนอย่างชัดเจนพอพับแขนเสื้อของนาง ก็เผยให้เห็นแขนที่ขาวราวกับหิมะ เมื่อพลิกข้อศอกก็สามารถมองเห็นได้ว่าผิวหนังถลอกและมีเลือดออกที่แขนทั้งสองข้างของนาง ผิวหนังโดยรอบบวมแดงเล็กน้อย บาดแผลนี้เมื่ออยู่บนมือที่เดิมทีขาวสะอาดไร้ที่ติรา

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status