บทที่ 9 ถูกจับไปก็ดีแล้วกลางดึกอันเหน็บหนาว ณ เชิงเขาชีอันเสียงกีบม้ากระทบพื้นหิมะดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ ลมหายใจของฝูงม้าส่งไอสีขาวออกมาท่ามกลางความหนาวเหน็บ ไป๋จิ้งหาน เร่งม้าควบผ่านผืนป่าอย่างเร่งร้อนหลังได้รับข่าวว่าขบวนของเหยียนซือเหยียนถูกซุ่มโจมตี นางยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไป๋จิ้งหานร้อ
เพียงแต่เวลานี้นึกประหลาดใจอยู่บ้าง ว่าไยหัวใจดวงนี้ของเขาจึงได้รู้สึกว่าราวกับมีไฟแผดเผาอยู่เช่นนี้ไป๋จิ้งหานไม่ได้นอนทั้งคืน เขาออกเดินทางขึ้นเขาก่อนจะถึงรุ่งสาง สีหน้าของเขายังคงราบเรียบในขณะที่หลี่หลงมีท่าทางกระวนกระวายเพราะบัดนี้เขาเอาแต่โทษตนเองที่ทำให้เหยียนซือเหยียนถูกจับตัวไปไป๋จิ้งหานจับ
บทที่ 10 สตรีบ้าผู้นี้การเดินทางขึ้นเขาเต็มไปด้วยอุปสรรค หมอกหนาปกคลุมเส้นทาง กิ่งไม้เปียกชื้นบดบังทัศนวิสัย แต่อันตรายที่แท้จริงไม่ได้อยู่ที่อากาศหนาวเย็น แต่เป็นกับดักที่ซุกซ่อนอยู่ตามแนวทางเดิน“หยุด!”เสียงสั่งการของไป๋จิ้งหานดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดหลี่หลงชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นว่า พื้นดินเ
บทที่ 11 พิธีแต่งงานไป๋จิ้งหานเข้าไปในห้องโถงพร้อมกับตาเฒ่าผู้นั้น คงเป็นเพราะมากับคนชราของหมู่บ้านจึงดูเหมือนว่าจะไม่มีผู้ใดสนใจเขานักไป๋จิ้งหานกวาดสายตามองรอบ ๆ โดยที่หลี่หลงยังหอบหิ้วชายชราที่เมามายอยู่ข้าง ๆ ทว่าเขากลับไม่พบแม้แต่เงาของเหยียนซือเหยียน“นางอยู่ที่ใด”หลี่หลงตอบกระซิบ“นายท่าน ห
หลังจากนั้นไป๋จิ้งหานก็นำกำลังล้อมปราบโจรกลุ่มนี้ ผู้ใดจะคาดคิดว่า บนหุบเขาจะเต็มไปด้วยคนแก่และเด็กพิการกลุ่มใหญ่ที่หนีสงครามจากแคว้นที่ล่มสลายและเอาตัวรอดมาที่นี่ อีกทั้งในวันที่ไป๋จิ้งหานมาปราบโจร เขากลับได้ช่วยน้องสาวของโจรที่คลอดก่อนกำหนดเอาไว้ได้ทันทำให้โจรนับถือเขายิ่งนักอีกทั้งยังมีข่าวลือเร
บทที่ 12 อย่าถือสาคนเมาด้านไป๋จิ้งหาน หลังจากบุกเข้าไปในเรือนหอแล้วไม่พบเหยียนซือเหยียน ไป๋จิ้งหานจับตัวหัวหน้าโจรขึ้นมาคาดคั้นจนได้ความจริง นอกจากนั้นคนของเขายังจัดการกลุ่มโจรอย่างเงียบเชียบว่องไวโดยที่ไม่ทำให้ชาวบ้านที่กำลังฉลองรู้ตัวเลยแม้แต่น้อยหัวหน้าโจรที่ถูกจับมัดอยู่ตรงหน้าเงยหน้ามองไป๋จิ้
เหยียนซือเหยียนกระพริบตาปริบ ๆ แล้วจ้องมองเขาด้วยความงุนงง ก่อนยกมือเรียวบางขึ้นแตะใบหน้าของเขา ไล้นิ้วไปตามแนวกรามแกร่ง“หืม... เจ้าช่างรูปงามนัก ทั้งยังดูคุ้นตา” นางกล่าวเสียงยานคาง สายตาพร่าเลือนฉายแววขี้เล่นขึ้นมาโดยพลันไป๋จิ้งหานชะงักกึก เส้นเลือดข้างขมับของเขากระตุก ใบหน้าเคร่งขรึมยิ่งขึ้น ลม
ไป๋จิ้งหานคำรามในลำคอเขาปลายตามองไปรอบ ๆ ก็เห็นชาวบ้านเริ่มจับกลุ่มกันพูดคุยทั้งยังจ้องมาที่พวกเขาจึงได้สติ จากนั้นค่อย ๆ คลายมือออกมา เอ่ยเสียงข่มขวัญในลำคอ“เหยียนซือเหยียนเจ้านับว่ายังโชคดีที่เมา มิเช่นนั้นข้าไม่ละเว้นเจ้าแน่ที่บังอาจกับข้าเพียงนี้!”ด้านเซียวยีนางเห็นแล้วว่าเป็นผู้ใดที่ปรากฏกายอ
แต่เมื่อเขามองไปรอบ ๆ ห้อง กลับไม่พบเหยียนซือเหยียนอยู่เคียงข้าง หัวใจของเขาอดไม่ได้ที่จะเต้นผิดจังหวะ สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันใด“เหยียนเหยียน...เจ้าอยู่ไหน”ในขณะที่กำลังจะลุกขึ้นจากเตียง เสียงของหลัวเฟิงที่เต็มไปด้วยความดีใจก็ดังขึ้นจากด้านนอกก่อนจะรีบเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
บทที่ 56 ตอนจบหลังจากสงครามที่ดุเดือดกินเวลาหลายวัน ในที่สุดอวิ๋นอ๋องก็ถูกจับกุมและถูกตัดสินประหารชีวิต เมืองหลวงที่เคยลุกเป็นไฟก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้งเด็กๆ ที่ถูกจับมาฝึกฝนเป็นทหารเดนตายของอวิ๋นอ๋องต่างได้รับการช่วยเหลือและถูกส่งตัวกลับไปยังแดนเหนือ ฝ่าบาททรงพระเมตตาพระราชทานเงินทุนจำนวนหนึ่ง
พี่ชายของอี้ชิงพยายามจะพูดส่งเสียงอื้ออึง ไป๋จิ้งหานจึงสั่งให้หลี่หลงดึงผ้าปิดปากของเขาออกบุรุษผู้นั้นเอ่ยว่า“ท่านโหว ข้าไม่รู้เรื่องอันใด ไว้ชีวิตข้าเถิด พวกนางสองแม่ลูกที่ทำกันเอง ล้วนเป็นพวกนางไม่เกี่ยวกับข้าขอรับ”สองแม่ลูกถึงกับมองบุรุษผู้นั้นดวงตาเบิกกว้าง เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกระทั่งมาถึ
บทที่ 55 แผนการจบสิ้นแสงเทียนอบอุ่นส่องสว่างทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ที่จัดไว้สำหรับงานเลี้ยงค่ำคืนนี้ ธูปกำยานหอมกรุ่นลอยอวลอยู่ในอากาศ ฮูหยินชรานั่งอยู่ที่ตำแหน่งประธาน ดวงหน้ายิ้มแย้มมองไปที่ฮูหยินใหญ่หรงด้วยสายตาอ่อนโยน“ลูกสะใภ้ ข้าต้องขอบใจเจ้าที่คอยดูแลข้าในยามที่ล้มป่วย ลำบากเจ้าแล้ว”ฮูหยินใหญ่
บทที่ 54 หล่อเหลาที่สุดสองสามีภรรยาเดินไปยังโต๊ะที่จัดเตรียมแพะย่างหอมกรุ่นไว้ข้างกองไฟเหยียนซือเหยียนนั่งลงพลางเอ่ยว่า“หานหาน ท่านต้องรู้จักระมัดระวังรักษาร่างกาย อากาศหนาวหากสวมเพียงเสื้อตัวบางเหมือนเมื่อครู่อาจจะล้มป่วยได้”ไปจิ้งหานจับมือนางเอาไว้บีบเบา ๆ เอ่ยเสียงอ่อน“ไม่หนาวเลยสักนิดหรือถ้
“ไม่ต้องรวบผม ข้าจะปล่อยให้แห้งข้างกองไฟ”“ขอรับ”หลัวเฟิงเลือกชุดให้เขาแล้วนำมาให้ ไป๋จิ้งหานกลับเอ่ยว่า“ไม่เอาสีดำ มีสีทีสดใสเข้ากับผิวของข้าหรือไม่”หลัวเฟิงทำสีหน้าประหลาดใจ“นายท่าน อาภรณ์ของท่านมีเพียงสีดำ ชุดตัวในก็มีเพียงสีขาวไม่มีสีอื่นเลยขอรับ สีอื่นที่ท่านกล่าวถึงไม่มีแม้แต่ตัวเดียว”ไป๋
บทที่ 53 หนึ่งแลกหนึ่งร้อยเหยียนซือเหยียนบัดนี้แอบมองอี้ชิงอยู่ที่มุมหนึ่ง นางเองก็ตั้งใจมารอรับไป๋จิ้งหานกลับจวนเช่นกัน ทว่าเมื่อเห็นว่าอี้ชิงรออยู่หน้าประตูใหญ่ก่อนนางแล้วจึงได้ซ่อนตัวในมุมมืดไม่ให้อี้ชิงเห็นภาพที่อี้ชิงโกรธแค้นไป๋จิ้งหานบัดนี้นางจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในใจพลันรู้สึกหนาวสั่นอย
จากนั้นก็ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาทั้งสองข้าง บอกเขาว่าเขายอดเยี่ยมเพียงใดไป๋จิ้งหานกลับยังเอ่ยถามต่อ“ทรงคิดว่าบุรุษในจวนองค์หญิงใหญ่จะมีผู้ใดทัดเทียมได้หรือไม่”ฝ่าบาทครุ่นคิด เขามอบชายงามให้องค์หญิงใหญ่มากมายทุกคนล้วนโดดเด่นไปคนละแบบ จึงได้ตรัสว่า“อันที่จริง...” ในใจกำลังจะกล่าวว่าทุกคนล้วนดูดีไปคน
บทที่ 52 เรื่องราวหวนกลับอี้ชิงไม่รอช้าวันต่อมานางวางแผนการจากนั้นรีบไปปรึกษากับฮูหยินใหญ่หรง บอกว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับฮูหยินชรากลับจวนแต่ขอให้ฮูหยินใหญ่หรงออกหน้า ด้วยเหยียนซือเหยียนไม่ชอบนางเกรงว่าจะเกิดปัญหากระทบกระทั่งได้ หากว่าจัดในนามของฮูหยินใหญ่หรงเช่นนี้ก็จะปรองดองกันได้ง่ายฮูหยินใหญ่ห