ไป๋จิ้งหานคำรามในลำคอเขาปลายตามองไปรอบ ๆ ก็เห็นชาวบ้านเริ่มจับกลุ่มกันพูดคุยทั้งยังจ้องมาที่พวกเขาจึงได้สติ จากนั้นค่อย ๆ คลายมือออกมา เอ่ยเสียงข่มขวัญในลำคอ“เหยียนซือเหยียนเจ้านับว่ายังโชคดีที่เมา มิเช่นนั้นข้าไม่ละเว้นเจ้าแน่ที่บังอาจกับข้าเพียงนี้!”ด้านเซียวยีนางเห็นแล้วว่าเป็นผู้ใดที่ปรากฏกายอ
บทที่ 13 สตรีขี้เมาเซียวยีรีบแก้ต่างแทนคุณหนูของตนเองทันใด“นายท่าน ไม่ใช่เช่นนั้นนะเจ้าคะ นายท่านอย่าได้เข้าใจผิด ชื่อพวกนั้นคุณหนูก็แค่จำเล่น ๆ ไม่ได้สำคัญอันใดจริง ๆ”“จำเล่น ๆ แต่กลับจำได้ แต่นางกลับจำข้าไม่ได้ ดี ดียิ่ง ดีทั้งนายทั้งบ่าว”“ท่านโหว บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ท่านโหวอย่าได้โกรธคุณหนูเ
“เจ้าว่าผู้ใดคออ่อน ข้ายังดื่มได้อีกมาสิเจ้ากับข้ามาดวลสุรากัน ผู้ใดจะเมาก่อนกัน ตาเฒ่าไป๋เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าดวลสุรากับข้าเจ้ายังแพ้และตายก่อนข้าเสียอีก”“เหลวไหล! หากเจ้ายังไม่หยุดเพ้อเจ้าเรียกข้าว่าตาเฒ่าไป๋ข้าจะบีบคอเจ้าให้ตายจริง ๆแล้ว อีกอย่างจะชี้หน้าใครก็ชี้ให้ถูกตัว ไม่ใช่ชี้มั่วซั่ว เหยี
บทที่ 14 สับสนไป๋จิ้งหานตัวแข็งค้าง ราวกับร่างกายของเขาถูกตรึงให้อยู่กับที่สตรีนางนี้รู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังพูดสิ่งใดออกมา!สายตาของนางเต็มไปด้วยบางสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน... ความโหยหาอันลึกล้ำที่ซ่อนเร้นอยู่ในส่วนลึกของจิตใจเขาควรผลักนางออก... ควรดึงสติของนางกลับมา แต่เพียงปลายนิ้วของนางเกลี่ยแ
เซียวยีจัดการเช็ดหน้า เช็ดมือให้นายสาวทั้งยังให้นางบ้วนปากถูฟันจนสะอาดจากนั้นให้นางดื่มน้ำเล็กน้อยเกรงว่าหากมีสิ่งใดตกลงท้องอีกจะทำให้นางอาเจียนออกมาไป๋จิ้งหานจึงนำยาลูกกลอนแก้ปวดศีรษะของตนเองออกมาแล้วยัดใส่ปากให้นางหนึ่งเม็ด โชคดีที่เหยียนซือเหยียนไม่อาเจียนออกมาอีกหลังจากให้นางกินยาและให้เซียวซี
บทที่ 15 หนทางข้างหน้าต้องโรยด้วยกลีบดอกไม้คืนนี้เหยียนซือเหยียนฝันร้าย ในตอนที่ไป๋จิ้งหานยังคงนอนไม่หลับเขาจึงเห็นว่าริมฝีปากเล็ก ๆ พึมพำละเมอออกมาเบา ๆ จากนั้นที่หางตาของนางก็มีน้ำไหลออกมาเป็นสาย เหยียนซือเหยียนส่ายหน้าไปมาทั้ง ๆ ที่ยังหลับตา คล้ายกับว่านางกำลังฝันร้ายคืนนี้เขาไม่ได้ดับตะเกียงเช
แต่แล้วเหยียนซือเหยียนได้ยินเสียงลมหายใจหนัก ๆ และยังมีบางสิ่งที่กระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะมั่นคงอยู่ใต้ฝ่ามือของนางเหยียนซือเหยียนลืมตาช้า ๆ และทันใดนั้นเอง นางก็ต้องตื่นตระหนกแทบสิ้นสติ!สิ่งที่นางกำลังกอดก่ายแนบแน่น… หาใช่เตาอุ่นแต่เป็นร่างของบุรุษผู้หนึ่ง นางลุกพรวดขึ้นมาทันใดและเมื่อเห็นว่าเป็น
จากนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าเอายามาจากที่ใด ยัดใส่ปากของนางแล้วกระแทกแผ่นหลังเล็กน้อยให้นางกลืนลงไปโดยที่นางไม่ทันระวังตัวแต่เหยียนซือเหยียนกลับก่นด่าเขา“ไป๋จิ้งหานเจ้าเอาสิ่งใดให้ข้ากิน”จากนั้นก็พลันลุกพรวดพราดขึ้นมามา จ้องเขาสายตาตื่นตระหนกสองมือกำสาบเสื้อของเขาเอาไว้เอ่ยน้ำเสียงลนลาน“ไป๋จิ้งหานเจ้าใ
แต่เมื่อเขามองไปรอบ ๆ ห้อง กลับไม่พบเหยียนซือเหยียนอยู่เคียงข้าง หัวใจของเขาอดไม่ได้ที่จะเต้นผิดจังหวะ สีหน้าของเขาพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันใด“เหยียนเหยียน...เจ้าอยู่ไหน”ในขณะที่กำลังจะลุกขึ้นจากเตียง เสียงของหลัวเฟิงที่เต็มไปด้วยความดีใจก็ดังขึ้นจากด้านนอกก่อนจะรีบเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
บทที่ 56 ตอนจบหลังจากสงครามที่ดุเดือดกินเวลาหลายวัน ในที่สุดอวิ๋นอ๋องก็ถูกจับกุมและถูกตัดสินประหารชีวิต เมืองหลวงที่เคยลุกเป็นไฟก็กลับสู่ความสงบสุขอีกครั้งเด็กๆ ที่ถูกจับมาฝึกฝนเป็นทหารเดนตายของอวิ๋นอ๋องต่างได้รับการช่วยเหลือและถูกส่งตัวกลับไปยังแดนเหนือ ฝ่าบาททรงพระเมตตาพระราชทานเงินทุนจำนวนหนึ่ง
พี่ชายของอี้ชิงพยายามจะพูดส่งเสียงอื้ออึง ไป๋จิ้งหานจึงสั่งให้หลี่หลงดึงผ้าปิดปากของเขาออกบุรุษผู้นั้นเอ่ยว่า“ท่านโหว ข้าไม่รู้เรื่องอันใด ไว้ชีวิตข้าเถิด พวกนางสองแม่ลูกที่ทำกันเอง ล้วนเป็นพวกนางไม่เกี่ยวกับข้าขอรับ”สองแม่ลูกถึงกับมองบุรุษผู้นั้นดวงตาเบิกกว้าง เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกระทั่งมาถึ
บทที่ 55 แผนการจบสิ้นแสงเทียนอบอุ่นส่องสว่างทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ที่จัดไว้สำหรับงานเลี้ยงค่ำคืนนี้ ธูปกำยานหอมกรุ่นลอยอวลอยู่ในอากาศ ฮูหยินชรานั่งอยู่ที่ตำแหน่งประธาน ดวงหน้ายิ้มแย้มมองไปที่ฮูหยินใหญ่หรงด้วยสายตาอ่อนโยน“ลูกสะใภ้ ข้าต้องขอบใจเจ้าที่คอยดูแลข้าในยามที่ล้มป่วย ลำบากเจ้าแล้ว”ฮูหยินใหญ่
บทที่ 54 หล่อเหลาที่สุดสองสามีภรรยาเดินไปยังโต๊ะที่จัดเตรียมแพะย่างหอมกรุ่นไว้ข้างกองไฟเหยียนซือเหยียนนั่งลงพลางเอ่ยว่า“หานหาน ท่านต้องรู้จักระมัดระวังรักษาร่างกาย อากาศหนาวหากสวมเพียงเสื้อตัวบางเหมือนเมื่อครู่อาจจะล้มป่วยได้”ไปจิ้งหานจับมือนางเอาไว้บีบเบา ๆ เอ่ยเสียงอ่อน“ไม่หนาวเลยสักนิดหรือถ้
“ไม่ต้องรวบผม ข้าจะปล่อยให้แห้งข้างกองไฟ”“ขอรับ”หลัวเฟิงเลือกชุดให้เขาแล้วนำมาให้ ไป๋จิ้งหานกลับเอ่ยว่า“ไม่เอาสีดำ มีสีทีสดใสเข้ากับผิวของข้าหรือไม่”หลัวเฟิงทำสีหน้าประหลาดใจ“นายท่าน อาภรณ์ของท่านมีเพียงสีดำ ชุดตัวในก็มีเพียงสีขาวไม่มีสีอื่นเลยขอรับ สีอื่นที่ท่านกล่าวถึงไม่มีแม้แต่ตัวเดียว”ไป๋
บทที่ 53 หนึ่งแลกหนึ่งร้อยเหยียนซือเหยียนบัดนี้แอบมองอี้ชิงอยู่ที่มุมหนึ่ง นางเองก็ตั้งใจมารอรับไป๋จิ้งหานกลับจวนเช่นกัน ทว่าเมื่อเห็นว่าอี้ชิงรออยู่หน้าประตูใหญ่ก่อนนางแล้วจึงได้ซ่อนตัวในมุมมืดไม่ให้อี้ชิงเห็นภาพที่อี้ชิงโกรธแค้นไป๋จิ้งหานบัดนี้นางจึงมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในใจพลันรู้สึกหนาวสั่นอย
จากนั้นก็ยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาทั้งสองข้าง บอกเขาว่าเขายอดเยี่ยมเพียงใดไป๋จิ้งหานกลับยังเอ่ยถามต่อ“ทรงคิดว่าบุรุษในจวนองค์หญิงใหญ่จะมีผู้ใดทัดเทียมได้หรือไม่”ฝ่าบาทครุ่นคิด เขามอบชายงามให้องค์หญิงใหญ่มากมายทุกคนล้วนโดดเด่นไปคนละแบบ จึงได้ตรัสว่า“อันที่จริง...” ในใจกำลังจะกล่าวว่าทุกคนล้วนดูดีไปคน
บทที่ 52 เรื่องราวหวนกลับอี้ชิงไม่รอช้าวันต่อมานางวางแผนการจากนั้นรีบไปปรึกษากับฮูหยินใหญ่หรง บอกว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับฮูหยินชรากลับจวนแต่ขอให้ฮูหยินใหญ่หรงออกหน้า ด้วยเหยียนซือเหยียนไม่ชอบนางเกรงว่าจะเกิดปัญหากระทบกระทั่งได้ หากว่าจัดในนามของฮูหยินใหญ่หรงเช่นนี้ก็จะปรองดองกันได้ง่ายฮูหยินใหญ่ห