Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-02-17 12:54:41

แม้หวังชิงหว่านจะเป็นที่เอ็นดูของบิดาทว่ากลับไร้อิสระอย่างสิ้นเชิง ตอนเช้าต้องไปคารวะฮูหยินที่เรือนใหญ่ ตกบ่ายนั่งปักผ้าอยู่ภายในเรือน ร่างกายของนางอ่อนแอแค่เดินก็เหนื่อยแล้ว อยู่ในจวนใหญ่นางไม่รู้กำลังป้องกันของที่นี่เป็นอย่างไร จึงยังไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม นางทั้งเสแสร้งโง่เขลา เสแสร้างจำใจ เสแสร้งเชื่อฟัง อึดอัดเป็นที่สุด

นางจึงเฝ้ารองานมงคลด้วยใจจดจ่อพร้อมกับบำรุงร่างกายที่บอบบางนี้ไปด้วย

ฉึก!!! ใบมีดถูกเหวี่ยงปักบนต้นไม้ หวังชิงหว่านยิ้มมุมปาก พลังแขนเริ่มฟื้นฟูขึ้นมาได้บ้างแล้ว

และในที่สุด!! ก็มาวันแต่งงานความอดทนนี้ได้สิ้นสุดเสียที

นางเป็นเพียงบุตรอนุ งานแต่งจึงไม่ได้มีพิธีการมากนักทันทีที่นางขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวก็นับว่านางเป็นของตระกูลเซียวแล้ว เสียงประทัดดังขึ้นพร้อมเสียงคนตะโกน “เกี้ยวเจ้าสาวมาถึงแล้ว”

สักพักก็มีคนมาเตะเกี้ยวหลังจากนั้นม่านเกี้ยวก็ปัดออก มือของบุรุษผู้หนึ่งยื่นเข้ามาประครองนางลงจากเกี้ยว หลังพิธีคำนับเสร็จพวกนางก็ถูกพาเข้าไปในห้องหอ ผ้าคลุ่มศีรษะของนางถูกเจ้าบ่าวดึงออกเบื้องหน้าของนางจึงสว่างวาบขึ้นมา มาตอนนี้หวังชิงหว่านพึ่งได้เห็นหน้าเจ้าบ่าวชัด ๆ ครั้งแรก ขณะนั้นก็มีหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งเข้ามาจัดแจงให้นางดื่มสุราคล้องแขน หลังเสร็จพิธีก็เหลือเพียงเจ้าบ่าวกับเจ้าสาว

ชายหนุ่มนั่งเงียบมองหน้านางอยู่ครู่หนึ่งก็ยิ้มพูดเสียงเบา “เจ้าอยากจะล้างหน้าสักหน่อยหรือไม่ หิวหรือเปล่า...”

หวังชิงหว่านก้มหน้าลงกล่าว “ข้ารู้สึกหิวอยู่บ้าง”

เซียวอี้หยางยิ้มกว้าง “เจ้ารอข้าสักครู่” หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ลุกขึ้นพรวดออกไป หวังชิงหว่านหลุดยิ้มกับท่าทีอีกฝ่าย นางยกมือขึ้นปลดเครื่องประดับบนหัวออกขณะนั้นก็ปรายตาสำรวจดูห้องหอ นางอมยิ้มไม่แปลกที่หวังชิงหว่านจะยอมเสี่ยงชีวิตเรียกร้อง เครื่องเรือนห้องนี้ยังเทียบไม่ได้กับเรือนบุตรอนุอย่างนาง หญิงสาวทอดถอนใจ

เซียวอี้หยางกลับมาพร้อมกับโจ๊กถ้วยหนึ่ง เขาวางมันบนโต๊ะแล้วพูดขึ้น “น้องหญิง...เจ้ารีบมาทานเถอะโจ๊กกำลังร้อน ๆ”

หวังชิงหว่านวางของในมือลงแล้วลุกขึ้นเดินมานั่งบนเก้าอี้ พลางชำเลืองมองเซียวอี้หยางที่ดูกำลังประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ชายหนุ่มเห็นสายตาของอีกฝ่ายจึงเอ่ยพูด

“ข้าเห็นว่าน้องหญิงไม่มีสาวใช้มาด้วย อีกอย่างน้องหญิงก็ยังไม่คุ้นเคยกับที่นี่...ข้าคิดว่าข้าไปเอามาให้น่าจะดีกว่า”

หวังชิงหว่านกลืนโจ๊กคำเล็ก ๆ ลงคอแล้วพูดขึ้น “ท่านพี่ไม่ทานด้วยกันหรือเจ้าคะ” น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความอ่อนหวานแววตาที่จ้องมองมางดงามเปี่ยมเสน่ห์แทบจะกระชากวิญญาณเซียวอี้หยางให้หลุดลอย ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอแล้วพูดขึ้นสั้นๆ “น้องหญิงทานเถอะ...ข้าไม่หิว...”

ภายในใจของหวังชิงหว่านสั่นไหวขึ้นมา นางคลี่ยิ้มบางแล้วทานโจ๊กต่อ คืนนี้เป็นคืนเข้าหอ นางไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสา ย่อมรู้ว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น นางไม่คิดจะขัดขืนหรือดึงดันต่อต้านอะไรเพราะอย่างไรนี่ก็เป็นการแต่งงานที่ถูกต้องตามประเพณี ยิ่งในยุคที่นางจากมาความสัมพันธ์ร่างกายไม่สำคัญเท่าชีวิตนางไม่คิดถือสาเรื่องพวกนี้

ตระกูลเซียวเป็นตระกูลเล็ก ๆ แขกส่วนใหญ่กลับไปแล้วตั้งแต่หัวค่ำ เซียวอี้หยางจึงไม่จำเป็นต้องออกไปรับแขกอีกในขณะที่หวังชิงหว่านทานโจ๊กชายหนุ่มก็เดินไปยังฉากกั้นปรับเปลี่ยนเสื้อผ้า

หลังจากทานโจ๊กจนหมดหวังชิงหว่านก็ลุกขึ้นตั้งใจจะเอาถ้วยไปเก็บ เซียวอี้หยางเดินออกมาจากฉากกั้นพอดีก็เอ่ยขึ้น “น้องหญิงปรับเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียเถอะ ข้าจะไปเก็บเอง”

ความเอาใจใส่เอาใจอย่างกระตือรือร้นของอีกฝ่าย สร้างความประทับใจให้หวังชิงหว่านไม่น้อย นางพยักหน้าขอบคุณด้วยแววตาหวานล้ำทำให้เซียวอี้หยางแทบคลั่งกับฮูหยินคนงามของตนเอง

หวังชิงหว่านมองตามหลังชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ จากนั้นก็ไปจัดการข้าวของและสินเดิมของตนเอง นางไม่ใช้สาวใช้ติดตามมาด้วยเพราะอย่างไรสองคนนั้นก็เป็นคนเองของสวีเพ่ยอีกอย่างนางก็ไม่ใช่หวังชิงหว่านตัวจริงจะต้องมีสักวันที่ถูกจับผิดสังเกต

มาที่นี่ นับว่าเป็นการเริ่มต้นชีวิตของนางจริง ๆ เสียที

เซียวอี้หยางกลับมาก็เห็นหวังชิงหว่านนอนเอนกายพิงขอบเตียงภายใต้ชุดอันเบาบางและท่วงท่านั่งของนางเผยให้เห็นเรือนร่างอรชนส่วนเว้าส่วนโค้งเย้ายวน จนเซียวอี้หยางแทบจะกระโจนใส่ภรรยา เขาพยายามรวบรวมสติที่กำลังเลอะเลือนให้กลับคืนมา เพ่งมองหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้งเห็นว่านางกำลังอ่านรายการสินเดิม ชายหนุ่มจึงเดินไปนั่งตรงขอบเตียงแล้วพูดขึ้น

“น้องหญิง...เดิม...ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะยินยอมแต่งให้กับข้า...ข้าสัญญาว่าข้าจะตั้งใจใฝ่ความก้าวหน้า จะไม่ให้น้องหญิงต้องขายหน้าเด็ดขาด”

หวังชิงหว่านเงยขึ้น นางวางสมุดไว้บนโต๊ะข้างเตียงแล้วหันหน้ามองบุรุษตรงหน้าชัด ๆ อีกครั้ง เป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างอ้วนท้วมทำให้ที่เครื่องหน้าทั้งห้าไม่เด่นชัด แต่ดูสบายตาน่ารักน่าเอ็นดู และยังมีเค้าโครงความหล่อเหลาหากควบคุมน้ำหนักออกกำลังกายสักหน่อย นางมั่นใจว่าสามีจะกลายเป็นบุรุษที่รูปงามไม่น้อยไปกว่าใคร ช่วงนี้ยังไม่จำเป็นต้องตัดสินใจเร่งด่วน ลองใช้ชีวิตกับคนผู้นี้สักระยะเพื่อปรับตัวก็ไม่เสียหาย

ทว่า สำหรับนางตอนนี้สิ่งที่ต้องการคงมีเพียงเรื่องเดียว

“ท่านพี่จะรับอนุหรือไม่”

เซียวอี้หยางเบิกตากว้างรีบตอบ “ไม่!! ไม่มีทาง ข้าจะมีทางรับอนุเด็ดขาด มีฮูหยินที่งดงามและดีเช่นเจ้าข้าจะกล้าทำอย่างนั้นได้อย่างไร”

สิ่งที่เชื่อไม่ได้ที่สุดคือวาจาของบุรุษ หวังชิงหว่านแค่ต้องการคำสัญญาเอาไว้ต่อรองเท่านั้น แต่ว่า คำพูดหวานล้ำเช่นนี้ก็น่าฟังไม่น้อย นางจึงคลี่ยิ้มหวานตอบ “ขอบคุณท่านพี่”

เซียวอี้หยางยิ้มแล้วก็นั่งนิ่งอยู่ครู่ใหญ่ด้วยอาการประหม่า หวังชิงหว่านจึงเอ่ยขึ้น “เรานอนกันเถอะเจ้าค่ะ...วันนี้ข้าเหนื่อยมากเหลือเกิน”

เซียวอี้หยางลุกขึ้นพยักหน้าแล้วก็พูด “นั่นสิ”

จากนั้นเขาก็เดินไปดับตะเกียงพร้อมกับปลดผ้าม่านเตียงลง เห็นชายหนุ่มโน้มตัวลงนอนเขาเกร็งตัวไม่ขยับ หวังชิงหว่านคิดถึงฮูหยินสวีและกัวฉู่เหอ นางจะต้องกลายเป็นคนของตระกูลเซียวอย่างสมบูรณ์จึงจะวางใจ จึงพลิกกายมาจ้องมองเซียวอี้หยางแล้วเอ่ยขึ้น

“ท่านพี่รังเกียจข้าหรือ”

น้ำเสียงแฝงความน้อยใจทำให้เซียวอี้หยางพลิกกายหันขวับมารีบปฏิเสธ “ไม่นะ ข้าไม่กล้าที่จะรังเกียจน้องหญิง ข้าเคยแอบมองเจ้าหลายครั้ง...ข้าชอบเจ้ามาตลอด วันนี้ได้แต่งเจ้ามาเป็นฮูหยินข้ารู้สึกเหมือนฝันไป ข้าเลยทำอะไรไม่ค่อยถูกน่ะ ทำให้เจ้าขบขันแล้ว”

เซียวอี้หยางพูดพลางใบหน้าของหญิงสาว ในความมืดมิดเซียวอี้หยางกลับมองเห็นดวงตาประกายวาววับของหวังชิงหว่านชัดเจน ชายหนุ่มอดใจไม่ไหวจึงยื่นมือออกไปลูบดวงตากระจ่างใสนั้นเบา ๆ จากนั้นก็ค่อย ๆ ลูบไล้ไปทั่วหน้าของหญิงสาว เขาคล้ายถูกมนต์สะกดเอ่ยด้วยเสียงแผ่วเบา

“เจ้างดงามยิ่งนัก...”

ใจของเซียวอี้หยางเต้นโครมครามไม่หยุด แม้จะรู้สึกตื่นเต้นกลัวว่าตนเองจะทำไม่ดีพอ แต่ความต้องการในส่วนลึกดันให้ใจของเซียวอี้หยางฮึกเหิมโน้มตัวไปแนบกายกับหญิงสาวเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า “น้องหญิงไม่ต้องกลัวข้าจะระวังให้มาก”

เซียวอี้หยางโน้มตัวทาบลงบนหญิงสาวมือใหญ่ลูบไล้ผิวเนียนผุดผาดของหญิงสาวด้วยหัวใจเต้นระรัว ส่วนล่างเริ่มก่อแรงปรารถนา ชายหนุ่มสอดมือเข้าไปในใต้ร่มผ้าตามสัญชาติญาณอยากจะสัมผัสความงดงามตรงหน้า มือใหญ่นวดคลึงอกอวบอิ่มปลุกเร้าอารมณ์ให้ร่างกายของทั้งสองสั่นสะท้านไปพร้อม ๆ กัน หวังชิงหว่านสะดุ้งนางมองประกายตาของเซียวอี้หยางที่มองเร่าร้อนด้วยความหวั่นไหวใจเต้นไม่เป็นส่ำ แม้ว่านางจะเคยมีประสบการณ์มาบ้างแต่ก็ไม่ได้อ่อนไหวง่ายเช่นนี้

หญิงสาวครุ่นคิด หรือจะเป็นเพราะสุรามงคลผสมกับร่างกายของเด็กสาวแรกแย้มจึงถูกกระตุ้นเร้าอารมณ์โดยง่าย

นางรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นเรื่อย ๆ ความวาบหวามทำให้ใจของนางเริ่มกระเจิงไม่ต่างจากเซียวอี้หยาง ริมฝีปากที่ละเลียดไล่จากต้นคอระหงเลื่อนลงมายังยอดอกเสียงดูดดื่มของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวเผลอปล่อยเสียงครางออกมา “อ่า”

มันยิ่งไปกระตุ้นให้สติของชายหนุ่มขาดสะบั้น เขามือของเขาเลื่อนต่ำลงไปในซอกระหว่างขา ที่นั้นเต็มไปด้วยความเปียกแฉะ ชายหนุ่มทบทวนบทเรียนที่ได้เรียนรู้จากหญิงสาวในโคมเขียวบอกไว้ “ให้ค่อย ๆ สอดนิ้วเข้าไปหนึ่งนิ้วเสียก่อน จากนั้นก็ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนนิ้วเมื่อทุกอย่างพร้อมค่อยเปลี่ยนเป็นแท่งร้อนของท่าน”

นิ้วมือของชายหนุ่มค่อย ๆ คลี่กลีบกุหลาบออกจากนั้นก็สอดนิ้วมือเข้าไปช่องรัก นิ้วค่อนๆ ขยับถูไถยอดติงน้ำรักไหลเยิ้มออกมากลิ่นหอมรัญจวนฟุ้งกระจายไปทั่วห้องกระตุ้นให้ปากของเขาก็ไม่อาจหยุดยังคงดูดดื่มไปทั่วร่างกายของหญิงสาวด้วยความกระหาย

หวังชิงหว่านเอ่ยปากส่งเสียงอย่างอดใจไม่ไหว ร่างกายบิดตอบรับการกระตุ้น ยิ่งทำให้เซียวอี้หยางรู้สึกปวดหนึบตรงนั้นยิ่งขึ้นร่างกายเต็มไปด้วยไฟร้อนระอุ ไม่รู้ว่าตอนนี้หญิงสาวพร้อมหรือยังแต่เขาต้องการแทบจะคลั่ง เขาดึงนิ้วออกมาเลื่อนมาจับขาทั้งสองข้างกางออกอย่างช้า ๆ เอ่ยเสียงแหบแห้ง

“น้องหญิงอดทนสักครู่ แค่แปบเดียวก็จะไม่เจ็บแล้ว”

ความปวดหนึบระหว่างขาของหวังชิงหว่านเร่าร้อนต้องการการเสียดสี ทันทีที่ส่วนหัวดุ้นหลุบเข้าไปในกลีบดอกไม้ปากช่องรัก สะโพกก็กระเด้งตอบรับอย่างไม่รู้ตัว ชายหนุ่มถูกกระตุ้นอารมณ์ให้พวยพุ่งดันกระแทกเข้าไปจนเกือบสุด

“อ่า...” ทั้งสองร้องครางขึ้นมาพร้อมกัน

ความแข็งขืนอุ่นที่สอดเข้ามาทำให้ร่างอรชนสะดุ้งเฮือกขึ้นทันที ช่องทางที่คับแน่นทำให้ชายหนุ่มหยุดการเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ สัญชาตญาณดิบยังกระตุ้นให้เขาค่อย ๆ ขยับเอวความเสียวซ่านแผ่ซานขึ้นมาทำให้ เขาจึงยิ่งเร่งขยับรุนแรง

หวังชิงหว่านบีบแขนชายหนุ่มแน่น เปล่งเสียงครางขึ้นประท้วง “ท่านพี่ข้าเจ็บ”

เสียงแหบหวานล้ำเรียกสติชายหนุ่มคืนมา เขาหยุดการเคลื่อนไหวแล้วโอบกอดหวังชิงหว่านเข้ามา เอ่ยเสียงหวานหยด

“ฮูหยินข้ารักเจ้าเหลือเกิน...ข้าสัญญาจะไม่ผิดต่อเจ้าเด็ดขาด” ด้วยความเป็นห่วงว่าภรรยาตัวน้อยจะเจ็บปวดเขาจึงอดทนค่อย ๆ โยกไหวอย่างเนิบช้า ความเจ็บแปลบค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความเสียวเสียวซ่านแล่นไปทั่วร่างกายของหวังชิงหว่าน

ความแนบแน่นที่พวกเขาใกล้ชิดกันเกิดความหอมรัญจวนขึ้น เซียวอี้หยางดันตัวเองผสานชิดบดเบียดจนสุดทางเข้าออกหลายครั้ง เอวของชายหนุ่มเริ่มเร่งถี่กระชั้นขึ้นเรื่อย ๆ ช่องแคบ ตรงนั้นก็เหมือนมีชีวิตมันกลึงดูดเขาตามจังหวะเกิดเป็นความหฤหรรย์ กระตุ้นความป่าดิบเถือนของชายหนุ่มโหมกระหน่ำขึ้นเกิดเสียงเนื้อกระทบผสานเสียงกับเสียงครางกระเส่าของหญิงสาว

ยิ่งได้ลิ้มลองเสพสุขทำให้เขาสติหลุดลอยกระหน่ำกระแทกไร้ความปราณี ไม่ว่าจะพลิกกายเช่นไรหญิงงามใต้ร่างก็ตอบสนองได้ทุกท่วงท่า

เซียวอี้หยางพลันกระจ่างใจ

คืนเข้าหอมีค่ายิ่งกว่าทองคำหมื่นตำลึง

เป็นเช่นนี้เอง
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 4

    ตะวันทอแสงอ่อนเข้าผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องนอนหวังชิงหว่านรู้สึกตัว นางลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ ร่างกายเหมือนสูบเรี่ยวแรง เห็นเซียวอี้หยางเปลือยกายนอนอยู่ด้านข้าง เหม่อมองอีกฝ่ายด้วยความเหนื่อยล้าพลางเอือมมือไปสะกิดอีกฝ่าย“ท่านพี่” ด้วยเนื้อเสียงของหญิงสาว เสียงที่เปล่งออกมาดูออดอ้อนด้วยความคำหวาน

    Last Updated : 2025-02-17
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 5

    เส้นทางขึ้นเขาย่อมไม่ใช่เส้นทางที่เดินได้อย่างเรียบง่าย เซียวอี้หยางเดินนำหน้าโดยมีหวังชิงหว่านเดินเคียงข้างไป ส่วนเด็กทั้งสองเดินรั้งท้าย พวกเขามองดูฝีเท้าจังหวะก้าวเดินของพี่สะใภ้ต่างก็ส่งสายตาคำถาม ลี่อินเอนตัวกระซิบ “พี่สะใภ้ดูจะเหมือนไม่ใช่คนขึ้นเขาครั้งแรก” ลู่อินพยักหน้าเห็นด้ว

    Last Updated : 2025-02-17
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 6

    “นะ...นางแต่งงานแล้ว..หรือว่า” เกาเวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก จางเคอหันมามองสหายขมวดคิ้วเล็กน้อยที่สหายไม่รู้เรื่องราว “นางคือคุณหนูเจ็ดจวนเสนาบดีหวัง”เกาเวินเบิกตากว้างอ้าปากค้างก่อนจะเอ่ย “นับว่านางงามสมควรรำลือ... มิน่าคุณชายรองกัวฉู่เหอจึงได้หลงใหล แต่เพราะนางเป็นบุตรสาวอนุจึงยังไม่ตบแ

    Last Updated : 2025-02-19
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 7

    ในเรือนสกุลเซียวมีเพียงฮูหยินผู้เฒ่าที่อยู่ในเรือน ส่วนบิดาและมารดายังไม่กลับจากทำนา ทั้งลี่อิน ลู่อันและเซียวอี้หยางก็มีหน้าที่ของตนเอง เหลือเพียงหวังชิงหว่านที่นั่งพักเอื่อยเฉื่อยอยู่ในที่นั่งหน้าเรือน นางเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางคิดในใจ “สวรรค์ตอนนี้ข้าเริ่มจับปลาขายแล้วนะ...จากนี้ก็คงจะเป็นปลูก

    Last Updated : 2025-02-19
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 8

    ลี่อินลากรถลากตามหลังหวังชิงหว่านที่คล้ายกำลังมองหาบางอย่าง นางจึงเอ่ยถาม “พวกเราจะไปไหนต่อหรือเปล่าเจ้าคะ” “ข้าจำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ ไปดูร้านผ้าตรงหน้าเถอะ” เอ่ยเสร็จนางก็เดินนำหน้าไปร้านแพรพรรณ หลงจู้เห็นคนเดินเข้ามาก็รีบออกมาต้อนรับ แต่ก็ต้องชะงักในความงามของหวังชิ

    Last Updated : 2025-02-20
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 9

    คนในสกุลเซียวจะรีบทานข้าวเย็นและเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อจะได้ตื่นเช้าไปทำนาแตกต่างจากเซียวอี้หยางที่บางวันจะมีสังสรรค์ข้างนอก บางคืนก็จะอ่านหนังสือจนดึก พวกเขาเลยแยกสำรับมาที่เรือนเซียวอี้หยางต่างหากและเซียวฮูหยินก็ไม่เคยจะลืมแยกอาหารดีๆ ไว้สำหรับลูกชายเป็นพิเศษ เรือนหลักสกุลเซียว ในมื้อ

    Last Updated : 2025-02-20
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 10

    ใบหน้าอี้หยางยังคงประดับรอยยิ้มกล่าว “เมื่อก่อน...ท่านแม่ก็ทำขนมหาบเร่ขาย ล้วนเป็นเงินก้อนนั้นที่ส่งข้าเล่าเรียนจนสอบได้เป็นขุนนาง จึงได้หยุดขายไป”หวังชิงหว่านพยักหน้าเข้าใจบางอย่างแล้วเอ่ยถาม “แล้วทำไมถึงได้หยุดขายเล่า” “ท่านแม่อ้างว่าสุขภาพไม่ดีแล้ว”หวังชิงหว่าน กะพริบตานัยน์ตากระจ่างวูบไห

    Last Updated : 2025-02-20
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 11

    หวังชิงหว่านนึกว่าเซียวอี้หยางจะหมดแรง ใกล้รุ่งเขาได้สติก็เสียบดันเข้ามาจากข้างหลัง ความใหญ่และยังเข้ามากระทันหันทำให้นางกระตุ้นเฮือกร้องอ๊ะขึ้น ความเสียวซ่าแล่นปราดขึ้นมาทำให้ชายหนุ่มไม่สนใจอันใด เขาเริ่มขยับบดเบียดส่วนนั้นก็เปียกแฉะอย่างเร็วเอวของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นดุดัน ความซาบซ่านทำให้หวังช

    Last Updated : 2025-02-22

Latest chapter

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 105

    หลายวันที่ผ่านมา เสิ่นอินได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นคนผู้มีอำนาจ แม้กระทั่งบิดานางเสนาบดีเสิ่นผู้ยิ่งใหญ่ยังผูกไมตรีองค์รัชทายาท นางเองก็ย่อมมีหนทางของตนเองเช่นเดียวกัน “ดี...หลังจากวันนี้เจ้าจงมาฝึก 4 จรรยาต้องไม่บกพร่อง” ภายในใจเสิ่นอินกำลังเคร่งเครียด พอได้ยินเช่นนี้ก็ผ

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 104

    ชีวิตที่เรียบง่ายหาใช่หาได้ง่าย แม้ในภายในใจผู้คนล้วนหาใช่สงบดั่งสายลมใบไม้ผลิ ตำหนักฮองเฮา กัวฮองเฮาหลุบตาเล็กน้อยก่อนจะตรัสเตือนบุตรชาย “องค์รัชทายาท ช่วงนี้ได้กระทำสิ่งใดที่ไม่ได้บอกกล่าวแม่หรือไม่” จอกชาในมือรัชทายาทหยุดชะงักเล็กน้อย พระองค์ยิ้มละมุมพร้อมตรัสเสียงอ

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 103

    เมื่อทุกคนลงจากรถม้ากำลังจะเตรียมเดินขึ้น วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก จึงมีบรรดาคุณหนูฮูหยินและชาวบ้านมากหน้าหลายตาพากันมากราบไหว้ขอพร จางซูอินมองเห็นกู้ฟางเสียนยืนปะปนอยู่กับชาวบ้านที่ถอยห่างรอให้พวกนางเดินขึ้นไปก่อน ชายหนุ่มประครองสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งอยู่ หญิงสาวคาดว่าจะเป็นมารดา

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 102

    เสิ่นอินมองออกไปเห็นเพียงแผ่นหลังของชายหนุ่ม นางพยักหน้าเห็นด้วยกับเสิ่นอิน อย่างไรก็ควรต้องลงไปคารวะ สวีซื่อมองดูเฉิงอ๋องอย่างตกตะลึง นางจำได้ว่าบุคคลตรงหน้าเป็นแม่ทัพที่นำทัพกลับเมืองหลวงหลังชนะศึก แม้จะมองเห็นไกล ๆ นางก็จำได้ไม่ลืม แม่ทัพปีศาจ เทพสงคราม บุรุษที่ใบหน้าดุจกับเทพบุตรทว

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 101

    ครอบครัวสกุลจางตื่นตั้งแต่เช้า วันนี้เหล่าสตรีตั้งใจจะไปไหว้พระขอพรที่วัดเส้าหลาง “ซูเอ๋อร์ เจ้าบอกแม่ว่าคุณหนูเสิ่นจะไปไหว้พระด้วยใช่หรือไม่” “ท่านแม่ ไม่เพียงคุณหนูเสิ่น องค์หญิงก็จะเสด็จด้วยเจ้าค่ะ” สวีซื่อเอามือทาบอกเล็กน้อย แม้กระทั่งตอนนี้นางก็ยังไม่สามารถทำตั

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 100

    ห้องทรงพระอักษร “เฉิงอ๋อง เข้าวังมาด้วยหรือ” ฮ่องเต้ตรัสเอ่ยด้วยน้ำเสียงระคนแปลกใจ “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทอีกทั้ง...ยังแสดงออกให้ความสำคัญกับจางซูอินด้วยขอรับ” ขันทีคนสนิทของฮ่องเต้กล่าวรายงานด้วยน้ำเสียงระมัดระวัง “อย่างนั้นรึ หากเป็นเรื่องจริงก็น่ายินดียิ่งนัก”

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 99

    เสียงม้าควบตามมาข้างหลังพร้อมเสียงทำความเคารพ ซูอินจึงเลิกผ้าม่านขึ้นมองเห็นชายเสื้อสีม่วงอันคุ้นเคย พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นแววตาอันอับอุ่นผสมรอยยิ้มบางของชายหนุ่มทำให้ความประหม่าของนางคล้ายสลายบางเบาแม้กระทั่งตัวเองก็ไม่รู้ตัวไป หญิงสาวคาดเดาว่าชายหนุ่มคงได้รับคำสั่งเช่นกัน เฉิงอ๋องควบม้าข

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 98

    ทุกคนพยักหน้าด้วยเห็นด้วยกับคำพูดของมารดา “แต่สำนักศึกษาคงไม่สามารถรับเด็ก ๆ ทุกคน ย่อมต้องมีอุปสรรคไม่น้อย ข้าในฐานะบัณฑิตได้รับการช่วยเหลือจากสำนักศึกษามาโดยตลอด ไม่อาจจะนิ่งนอนใจได้เจ้าค่ะ” ตอนแรกซูอินก็หนักใจ คิดไม่ออกว่าจะหาเหตุผลใดมาให้ครอบครัว ทว่าหลังจากได้ยินเฉิงอ๋อ

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 97

    ในมื้อเช้าบ้านสกุลจางยังคงล้อมวงกินข้าวกันเหมือนเช่นเคย ซูอินจึงถือโอกาสเล่าเรื่องราวที่นางจะไปสมัครเป็นซื่อฝูของสำนักศึกษาให้คนในครอบครัวฟัง “เป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งนัก ทว่าด้วยวัยของเจ้า จะเป็นกดดันตนเองเกินไปหรือไม่ และภายหลังหากถอนตัวจะยิ่งทำให้เสียกำลังใจรึเปล่า” ส

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status