แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: ประดับดิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-17 12:54:58

ตะวันทอแสงอ่อนเข้าผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องนอน

หวังชิงหว่านรู้สึกตัว นางลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ ร่างกายเหมือนสูบเรี่ยวแรง เห็นเซียวอี้หยางเปลือยกายนอนอยู่ด้านข้าง เหม่อมองอีกฝ่ายด้วยความเหนื่อยล้าพลางเอือมมือไปสะกิดอีกฝ่าย

“ท่านพี่” ด้วยเนื้อเสียงของหญิงสาว เสียงที่เปล่งออกมาดูออดอ้อนด้วยความคำหวานทำให้เซียวอี้หยางได้สติลืมตาขึ้นมาทันที เห็นหวังชิงหว่านนอนเปลือยกายอยู่ข้าง ๆ ก็มองด้วยหลงใหล มือยื่นออกไปตั้งใจลูบไล้กายหญิงสาวอย่างห้ามไม่อยู่ หวังชิงหว่านเบี่ยงกายหลบแล้วพูดขึ้น

“ท่านพี่ ตอนนี้ก็สายมากแล้วพวกเราต้องไปยกน้ำชาคารวะผู้อาวุโสนะเจ้าคะ”

เซียวอี้หยางพลันระลึกขึ้นได้ รีบเก็บงำความปรารถนาพูดขึ้น “น้องหญิง...ข้าจะเตรียมน้ำมาให้เจ้าล้างหน้าล้างตานะ รอสักครู่”

พอลุกออกจากเตียงเขาก็มองเห็นเสื้อผ้าถอดทิ้งอยู่ข้างเตียงก็รีบก้มเก็บจากนั้นก็เดินออกไป

หวังชิงหว่านมองตามสามีพลางอมยิ้ม เดิมควรเป็นภรรยาปรนนิบัติสามี ในเมื่อสามีนางไม่ถือ นางก็ไม่ถือ

เซียวอี้หยางกลายร่างเป็นบุรุษสุภาพอ่อนโยนเช่นเดิม แต่ว่าความป่าดิบเถือนของตลอดทั้งคืนของอีกฝ่าย ทำให้หวังชิงหว่านสรุปได้ว่า ไม่อาจมองคนที่ภายนอกจริงๆ

หลังล้างหน้าล้างตาแต่งกายเรียบร้อย เซียวอี้หยางก็จูงมือหวังชิงหว่านไปยังเรือนใหญ่

แม้จะพูดเช่นนั้น ทว่าเรือนใหญ่ก็ยังเล็กกว่าเรือนเดิมของหวังชิงหว่านเมื่อครั้งอยู่ตระกูลหวังอยู่มากและเรือนอยู่ห่างกันไม่กี่สิบก้าวเท่านั้น ด้วยระยะห่างเท่านี้... ใบหน้าของหวังชิงหว่านเห่อร้อนขึ้นมา เสียงกิจกรรมเร่าร้อนเมื่อคืน เป็นไปได้ว่าคนที่นี่คงได้ยินกันหมด

เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็เห็นเด็กสาวกับเด็กชายคู่หนึ่งนั่งอยู่เบื้องหน้าเรือน พวกเขาเห็นทั้งสองคนเดินมาก็ตะโกนทันที

“ท่านพ่อ ท่านแม่ พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้มาแล้วเจ้าคะ”

พูดเสร็จทั้งสองก็หันมาคารวะคนตรงหน้าพลางเอ่ย

“พี่ชายใหญ่ พี่สะใภ้” เซียวอี้หยางเอ่ยแนะนำเด็กทั้งสอง

“นี่น้องชายข้า เซียวลู่อันและน้องสาวข้าเซียวลี่อิน”

หวังชิงหว่านทักทายมารยาทเสร็จเซียวอี้หยางก็พาหวังชิงหว่านเข้าไปในเรือน

พอทั้งสองก้าวเข้าไปในเรือนเสียงที่ดังอยู่ก็พลันเงียบลงจนสงัด หวังชิงหว่านในวันนี้แต่งกายไม่นับว่าหรูหราฉูดฉาด สวมเพียงอาภรณ์สีฟ้าอ่อน ไม่มีลวดลายปัก..แต่นับว่ายิ่งเรียบง่ายยิ่งขับให้เรือนผมและผิวพรรณเปล่งปลั่ง ใบหน้าหวานละมุนสะอาดตา แววตาสดใสริมฝีปากอิ่มรอยยิ้มดูน่าสนิทสนม

พวกเขาต่างจ้องมองมาที่ชิงหว่านอย่างตกตะลึง ภายในใจของแต่ละคนต่างมีความคิดเป็นของตนเอง นัยน์ตาวูบไหวไปมาหลากหลายอารมณ์จนหวังชิงหว่านอมยิ้มในใจ คนเหล่านี้นับว่าเป็นคนปกติต่างจากคนในความจำหวังชิงหว่านเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม

ส่วนเซียวอี้หยางกำลังตกใจกับผู้คนในห้องโถง ชายหนุ่มกวาดตามองรอบหนึ่งจากนั้นก็ส่งสายตาคำถามไปหามารดา

เซียวฮูหยินจึงยิ้มแห้งๆ กล่าวเสียงแผ่วเบา

“วันนี้เป็นวันดี ญาติ ๆ จึงมาแสดงความยินดีอีกครั้ง สกุลเซียวเป็นตระกูลเล็ก ๆ ไม่มีพิธีมากขั้นตอน หวังว่าสะใภ้หวังจะไม่ถือสา”

หวังชิงหว่านปรายตามองดูคนในห้องพลางนึกในใจ คาดว่าพวกเขาจะมาดูเรื่องตลกเสียมากกว่า แต่นางก็โค้งศีรษะแสดงความอ่อนน้อม

ฮูหยินผู้เฒ่าชำเลืองมองหลานชายที่จูงมือภรรยาเข้ามา จากสีหน้าและท่าทางสนิทสนมของพวกเขาเมื่อคืนเข้าหอคงผ่านไปอย่างเรียบร้อย นางถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น

“ในเมื่อมาแล้ว...หลานสะใภ้ก็ยกน้ำชามาเถอะ”

เซียวลี่อินได้ยินคำสั่งก็ถาดน้ำชาเข้ามา เซียวอี้หยางคอยแนะนำคนในตระกูลให้หวังชิงหว่านด้วยความใส่ใจ เดิมทีผู้อาวุโสจะมีเพียงฮูหยินผู้เฒ่า บิดามารดาของเซียวอี้หยางเท่านั้น ท่านอาหลายท่านต่างแยกครอบครัวออกไปแล้ว มีเรือนอยู่ในตรอกซอยเดียวกันบ้าง ต่างจากหมู่บ้านบ้าง แต่ทุกคนเหมือนพร้อมใจกันมาเยี่ยมเยือนในวันนี้

“หลานสะใภ้งดงามสมคำล่ำลือจริง ๆ” อาสะใภ้คนหนึ่งพูดขึ้นพลางพินิจมองหวังชิงหว่านด้วยสายตาชื่นชม

หวังชิงหว่านยิ้มกล่าวขอบคุณ พิธียกน้ำชาผ่านไปอย่างเรียบง่าย เซียวอี้หยางกลัวว่าภรรยาตัวน้อยจะไม่พอใจที่ญาติตนเองทำผิดธรรมเนียมเสร็จพิธีก็รีบพานางกลับเรือน พอทั้งสองคนออกไปภายในห้องโถงก็เริ่มซุบซิบอีกครั้ง

“คำล่ำลือที่ว่านางไม่ยินดีแต่งให้หลานอี้หยาง ข้าว่าไม่มีส่วนจริงสักนิด...”

เซียวฮูหยินพยักหน้าเห็นด้วยกับอาสะใภ้พูดตอบ

“เห็นใบหน้าเปี่ยมสุขของอี้หยางข้าก็สบายใจ...ตอนนั้นได้ยินข่าวว่านางประกาศ ถึงจะตายก็ไม่ยอมเป็นฮูหยินสกุลชาวนาเด็ดขาด ข้าแทบนอนไม่หลับ”

อีกคนกำลังจะเอ่ยเสริมเสียงดุดันหนึ่งดังขึ้น

“พวกเจ้าก็พูดเรื่องนี้ให้น้อยลงเสียบ้าง...ในเมื่อนางแต่งเข้ามาแล้วก็นับเป็นคนในตระกูลเดียวกัน จะเอ่ยวาจาอะไรก็ให้ระวังให้มาก”

“ขอรับ/เจ้าค่ะ ท่านแม่” เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยเตือนทุกคนก็ขานรับทันที

เซียวอี้หยางพาหวังชิงหว่านกลับมาถึงเรือนหลังจัดการมื้อเช้าเสร็จ ปรับเปลี่ยนอาภรณ์เขาก็เอ่ยขึ้น “น้องหญิงพักผ่อนเสีย ข้าจะขึ้นเขาไปตัดฟืนเสียหน่อย”

หวังชิงหว่านขมวดคิ้วมองอย่างประหลาดใจ เชียวอี้หยางกระอักกระอ่วนจะกล่าวแต่ก็เอ่ยออกไป “แม้ว่าข้าจะลาราชการมา 3 วันแต่ตอนนี้ฟนที่บ้านเหลือน้อยแล้ว ข้าจะรีบไปรีบกลับ”

หวังชิงหว่านเห็นสีหน้าอีกฝ่ายเกรงว่าจะเข้าใจผิดจึงพูดขึ้น “ท่านพี่...เช่นนั้นก็ให้ข้าไปด้วยเถอะ”

เซียวอี้หยางรีบส่ายหน้า “ไม่ได้ ๆ การขึ้นเขาไปตัดฟืนไม่ใช่เรื่องง่าย น้องหญิงรอที่เรือนเถอะ”

ใบหน้าหวังชิงหว่านตึงขึ้นมาเอ่ย “ท่านคงเกรงว่าข้าเป็นภาระใช่หรือไม่”

ใบหน้าเซียวอี้หยางเต็มไปด้วยความลำบากใจ ชายหนุ่มกำลังสรรหาถ้อยคำปฏิเสธ แต่พอสบตามุ่งมั่นของหวังชิงหว่านก็ไม่กล้าเอ่ย ได้แต่พยักหน้ายอมรับ

ชิงหว่านยิ้มกว้างแล้วพูดขึ้น “เช่นนั้น ข้าจะไปปรับเปลี่ยนอาภรณ์เสียก่อน” พูดเสร็จนางก็ก้าวเท้าเดินไปหลังฉากกั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าพลางพูดขึ้น

“ต่อไปนี้สิ่งใดที่ต้องทำท่านก็แนะนำข้าด้วย อย่ามองข้าเป็นคนอื่น” เซียวอี้หยางมองเงาหญิงสาวที่หลังฉากกั้นแววตาของเขาประกายอบอุ่นขึ้นมา ตอบ “ได้..ข้าคงต้องรบกวนฮูหยินแล้ว”

หวังชิงหว่านเดินออกมาในชุดของบุรุษสีดำ เซียวอี้หยางจ้องมองด้วยแววตาประหลาดใจ หญิงสาวเลยกล่าว “ข้าว่าชุดของบุรุษน่าจะสะดวกกว่า ท่านคงไม่ถือสากระมัง”

สตรีแต่งกายด้วยชุดของบุรุษไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลก เซียวอี้หยางยิ้มตอบ “ข้าแค่แปลกใจที่เจ้าแต่งกายเช่นนี้...ในเมื่อเรียบร้อยแล้วก็ไปกันเถอะ ยิ่งสายอากาศจะยิ่งร้อน”

เห็นเซียวอี้หยางเดินเคียงคู่ออกมาพร้อมหวังชิงหว่าน

ลู่อันกับลี่อินที่นั่งรอหันมามองตาด้วยแววตาประหลาดใจ

“พี่สะใภ้จะไปด้วยหรือเจ้าคะ” ลี่อินพลันเอ่ยถาม

“อืม...”

“จะดีหรือขอรับ” ลู่อันเอ่ยถามย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล เห็นชิงหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย

ลี่อินเกรงว่าพี่สะใภ้จะเข้าใจผิดจึงอธิบายเพิ่ม “ยามปกติ ท่านแม่ไม่อนุญาตให้พี่ชายขึ้นไปตัดฟืน หากวันนี้พวกข้ายังให้พี่สะใภ้ไปช่วยอีก พวกข้ากลัวจะโดนตำหนิ”

ชิงหว่านหันไปมองเซียวอี้หยาง ชายหนุ่มจึงอธิบาย

“ท่านแม่เห็นว่าเป็นขุนนางแล้วไม่ควรจะทำงานพวกนี้ หากคนในราชสำนักมาเห็นท่านเกรงว่าข้าจะโดนดูหมิ่นดูแคลน ในเมื่อเป็นขุนนางแล้วก็ควรตั้งใจทำงานราชการหวังความก้าวหน้าในการงาน แต่ข้าเกิดในครอบครัวชาวนา ข้าไม่ชินที่จะทำอย่างนั้น พอท่านแม่เผลอข้าก็แอบมาช่วยน้อง ๆ ตลอด”

หวังชิงหว่านพยักหน้าเข้าใจ นางคงต้องทำความเข้าใจครอบครัวเซียวอีกหลายอย่าง จึงพูดขึ้น

“เป็นอย่างนี้ได้หรือไม่...ครั้งนี้ถ้าผู้อาวุโสตำหนิ ข้าจะเป็นคนออกรับหน้าแทนเอง” ลู่อันมองหน้าลี่อินแล้วตอบเสียงแผ่วเบา

“ถ้าเป็นพี่สะใภ้ ท่านแม่คงไม่ตำหนิ” แต่เกรงว่าจะตกใจ

หวังชิงหว่ายยิ้มกว้างขึ้น

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าจะไปตัดฝืน รบกวนพวกเจ้าแล้ว”

อี้หยางเห็นน้องชายและน้องสาวยิ้มพอใจแล้วจึงพูดขึ้น

“ไปกันเถอะ...จะสายแล้ว”

พอเริ่มก้าวออกมาจากบ้าน ชิงหว่านเงยหน้ามองไปยังท้องนาและท้องฟ้าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา นางรู้สึกได้รับพลังมีชีวิตรู้สึกผ่อนคลาย สายลมเย็นรวยรินทุกสิ่งล้วนดีงาม แม้จวนตระกูลหวังจะมีสวนบุปผาเลียนแบบธรรมชาติที่งดงามโดดเด่น แต่นั้นไม่ทำให้รู้สึกสุขใจ นางอยู่ในนั้นแทบจะเป็นบ้า

พอได้มาเจอแสงพระอาทิตย์ตัดกับก้อนเมฆบนท้องฟ้ากว้างใหญ่ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด เห็นท่าทีของคนในสกุลหวังที่มีต่อตนเองคาดว่าพวกเขาน่าจะยำเกรงนางไม่น้อย และยิ่งตระกูลเล็กยิ่งไม่มีกฏเกณฑ์อะไรมากมาย ตอนนี้นางอยากจะไปไหนทำอะไรก็ไม่มีคนห้ามแล้ว

ยิ่งคิด หวังชิงหว่านก็ยิ่งเบิกบานใจ

ฝีเท้าก้าวเดินก็ดูกระตืนรือร้นอย่างมาก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 5

    เส้นทางขึ้นเขาย่อมไม่ใช่เส้นทางที่เดินได้อย่างเรียบง่าย เซียวอี้หยางเดินนำหน้าโดยมีหวังชิงหว่านเดินเคียงข้างไป ส่วนเด็กทั้งสองเดินรั้งท้าย พวกเขามองดูฝีเท้าจังหวะก้าวเดินของพี่สะใภ้ต่างก็ส่งสายตาคำถาม ลี่อินเอนตัวกระซิบ “พี่สะใภ้ดูจะเหมือนไม่ใช่คนขึ้นเขาครั้งแรก” ลู่อินพยักหน้าเห็นด้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 6

    “นะ...นางแต่งงานแล้ว..หรือว่า” เกาเวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก จางเคอหันมามองสหายขมวดคิ้วเล็กน้อยที่สหายไม่รู้เรื่องราว “นางคือคุณหนูเจ็ดจวนเสนาบดีหวัง”เกาเวินเบิกตากว้างอ้าปากค้างก่อนจะเอ่ย “นับว่านางงามสมควรรำลือ... มิน่าคุณชายรองกัวฉู่เหอจึงได้หลงใหล แต่เพราะนางเป็นบุตรสาวอนุจึงยังไม่ตบแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 7

    ในเรือนสกุลเซียวมีเพียงฮูหยินผู้เฒ่าที่อยู่ในเรือน ส่วนบิดาและมารดายังไม่กลับจากทำนา ทั้งลี่อิน ลู่อันและเซียวอี้หยางก็มีหน้าที่ของตนเอง เหลือเพียงหวังชิงหว่านที่นั่งพักเอื่อยเฉื่อยอยู่ในที่นั่งหน้าเรือน นางเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางคิดในใจ “สวรรค์ตอนนี้ข้าเริ่มจับปลาขายแล้วนะ...จากนี้ก็คงจะเป็นปลูก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 8

    ลี่อินลากรถลากตามหลังหวังชิงหว่านที่คล้ายกำลังมองหาบางอย่าง นางจึงเอ่ยถาม “พวกเราจะไปไหนต่อหรือเปล่าเจ้าคะ” “ข้าจำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ ไปดูร้านผ้าตรงหน้าเถอะ” เอ่ยเสร็จนางก็เดินนำหน้าไปร้านแพรพรรณ หลงจู้เห็นคนเดินเข้ามาก็รีบออกมาต้อนรับ แต่ก็ต้องชะงักในความงามของหวังชิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 9

    คนในสกุลเซียวจะรีบทานข้าวเย็นและเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อจะได้ตื่นเช้าไปทำนาแตกต่างจากเซียวอี้หยางที่บางวันจะมีสังสรรค์ข้างนอก บางคืนก็จะอ่านหนังสือจนดึก พวกเขาเลยแยกสำรับมาที่เรือนเซียวอี้หยางต่างหากและเซียวฮูหยินก็ไม่เคยจะลืมแยกอาหารดีๆ ไว้สำหรับลูกชายเป็นพิเศษ เรือนหลักสกุลเซียว ในมื้อ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 10

    ใบหน้าอี้หยางยังคงประดับรอยยิ้มกล่าว “เมื่อก่อน...ท่านแม่ก็ทำขนมหาบเร่ขาย ล้วนเป็นเงินก้อนนั้นที่ส่งข้าเล่าเรียนจนสอบได้เป็นขุนนาง จึงได้หยุดขายไป”หวังชิงหว่านพยักหน้าเข้าใจบางอย่างแล้วเอ่ยถาม “แล้วทำไมถึงได้หยุดขายเล่า” “ท่านแม่อ้างว่าสุขภาพไม่ดีแล้ว”หวังชิงหว่าน กะพริบตานัยน์ตากระจ่างวูบไห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 11

    หวังชิงหว่านนึกว่าเซียวอี้หยางจะหมดแรง ใกล้รุ่งเขาได้สติก็เสียบดันเข้ามาจากข้างหลัง ความใหญ่และยังเข้ามากระทันหันทำให้นางกระตุ้นเฮือกร้องอ๊ะขึ้น ความเสียวซ่าแล่นปราดขึ้นมาทำให้ชายหนุ่มไม่สนใจอันใด เขาเริ่มขยับบดเบียดส่วนนั้นก็เปียกแฉะอย่างเร็วเอวของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นดุดัน ความซาบซ่านทำให้หวังช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 12

    ตอนที่ 12 เป็นข้าที่ผิด เซียวฮูหยินเห็นอี้หยางยกถ้วยออกมาล้างก็เอ่ยขึ้น “แม่สั่งให้ลี่อินกับลู่อันไปรอพวกเจ้าที่เนินเขาแล้ว” เซียวอี้หยางก้มกล่าวขอบคุณอย่างเขินอายพูดขึ้น “ข้าจะพาชิงหว่านไปซื้อทาสสักสองคน ท่านแม่มีสิ่งใดจะกำชับหรือไม่” “ซื้อทาส?” เซียวฮูหยินเอ่ยเสีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26

บทล่าสุด

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 61

    ตอนที่ 52 ช่วงเวลางดงาม กลิ่นอายฤดูหนาวเริ่มมาเยือนอีกครั้ง ไม่เพียงแต่องุ่นของหวังชิงหว่านออกดอกออกผลเต็มสวน มันฝรั่งก็มีเรื่องราวให้ติดตาม ฮ่องเต้ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า อี้โถว หลังจากได้ทดลองปลูกจนมั่นใจแล้วก็นำไปให้เหล่าขุนนางได้ชื่นชมในท้องพระโรง ขันทีหันมันเผาเป็นชิ้นเล็ก ๆ

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 60

    ตอนที่ 51 สวรรค์ประทานพรท้องฟ้าแสงดาวระยิบระยับแสงจันทร์สาดส่อง สายลมราตรีพัดผ่านผ้าม่านปลิวไสว ในช่วงกระพริบตามีเงาดำสายหนึ่งเคลื่อนไหว มือของหลิวซูชะงักเล็กน้อยจากนั้นก็วางผ้าปักลงแล้วเอ่ยกับสาวใช้“พวกเจ้าไปพักเถอะ...ข้าจะเข้านอนแล้ว” สาวใช้ได้ยินเช่นนั้นก็พากันถอยออกไป แต่ไหนแต่ไรมาหลิวซ

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 59

    ตอนที่ 50 ชีวิตเรียบง่าย เซียวอี้หยางเดินเข้ามาในโรงเรือนองุ่น ใช้สายตาสำรวจครู่หนึ่งเมื่อมองเห็นร่างอรชนที่กำลังตัดแต่งกิ่งองุ่นอยู่ ก็เดินตรงเข้าไปหา กล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใย “แสงแดดยังเจิดจ้า...น้องหญิงไม่กลัวผิวแห้งกร้านหรือ” หวังชิงหว่านตัดกิ่งองุ่นแล้ววางลงตะก

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 58

    เมื่อก่อนว่าน้องสาวคนนี้งามแล้วมาตอนนี้แฝงความเย้ายวนกลายเป็นโฉมสะคราญไร้ที่ติ ใบหน้าของหวังชิงหว่านประดับรอยยิ้มน้อย ๆ พอเข้ามาใกล้นางก็เอ่ยทักทายอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงสดใส “คารวะพี่รอง...ได้มีโอกาสต้อนรับท่านข้าดีใจยิ่งนัก” หวังหรูเยว่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย นา

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 57

    ตอนที่ 49 แยกย้ายกันไปเติบโต เซียวอี้หยางตื่นแต่งกายเตรียมไปทำงานตั้งแต่เช้ามืดเช่นเคย ชายหนุ่มจัดแต่งดึงอาภรณ์ให้เรียบร้อยรอบหนึ่งก่อนจะเดินไปหอมแก้มหวังชิงหว่านที่ยังนอนอยู่บนเตียงด้วยความรักใคร่ “อืม” หญิงสาวพึมพำเบาๆ รับทราบว่าชายหนุ่มกำลังจะไปทำงานแล้ว ชายหนุ่มลุกขึ

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 56

    ตอนที่ 48 ไม่เอาได้หรือไม่ หวังหรูเยว่เปิดหนังสือภาพสรุปการปลูกองุ่นด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น หวังชิงหว่านส่งมาให้นางเมื่อเช้านี้พร้อมกับเทียบเชิญให้ไปชมต้นองุ่นที่กำลังออกช่อ แม้ใบหน้าของหวังหรูเยว่จะเรียบเฉยทว่ามือกลับสั่นเทาอย่างห้ามไม่อยู่ สาวใช้ลอบมองแล้วเอ่ยอย่างระมัดระ

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 55

    ตอนที่ 47 มีบางอย่างแฝง เรื่องของกัวฉู่เหอกับซ่งหยวนกลายเป็นเรื่องขบขันพูดคุยสนุกปากของคนในเมืองหลวง ทั้งตระกูลกัว ตระกูลซ่งต่างปิดประตูจวนเงียบไม่ออกมาแก้ต่างหรือให้ข้อมูลอะไร แต่กระนั้นก็ยังมีกระแสข่าวเล็ดรอดออกมา ว่ากัวฉู่เหอถูกส่งไปอยู่ชายแดนให้ท่านแม่ทัพกัวอบรม ส่วนซ่งหยวนก็ถูกส

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 54

    ตอนที่ 46 คิดไม่ถึง เซียวอี้หยางจูงม้าโดยมีหวังชิงหว่านเดินอยู่เคียงข้าง หญิงสาวเอ่ยถาม “เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรคะ” ชายหนุ่มอมยิ้มชำเลืองมอง “นึกว่าน้องหญิงจะยังอยากจะเดาเรื่องราวต่อ” หวังชิงหว่านส่ายหน้า “ท่านพี่เล่ามาเถอะ...แผนซ้อนที่ท่านวางไว้มีอะไรบ้างกั

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    บทที่ 53

    ตอนที่ 45 ผู้ไม่บริสุทธิ์ หวังชิงหว่านหยิบเนื้อหมูตุ๋นเข้าปาก ความนุ่มอร่อยกลิ่นหอมอบอวลทำให้นางแทบลืมหายใจ “อืม...อร่อยแล้ว..ในที่สุดแม่ครัวคนใหม่ของเราก็ทำอาหารได้อร่อยแล้ว” เซียวอี้หยางยิ้มอย่างเอ็นดูแล้วพูด “เจ้าคงสบายใจเสียที” หวังชิงหว่านพยักหน้ากล่าว

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status