“จี...”
คนร่างบางพึมพำออกมาเบาๆ ในขณะที่รอบๆ ตัวของเธอก็กำลังกลายเป็นสมรภูมิรบขนาดย่อมไปแล้วไม่ปาน ภายนอกถูกแต่งแต้มไปด้วยสถานที่ซึ่งง่ายต่อการทดสอบในทุกรูปแบบด้วยฝีมือของเทพร่างสูงอย่างคาเซอุส
เปรี้ยง!
“มัวยืนทำอะไรของเธอ! หลบเร็ว!”
ยังไม่ทันที่ยูโรจะได้ก้าวขาเข้าไปยังคนร่างบางซึ่งถูกสะกดจิตเอาไว้โดยเทพแห่งปัญญา สายฟ้าฟาดก็พุ่งตรงลงมายังเธอทันที ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนร่วมทีมของคนตรงหน้ารีบวิ่งเข้ามาขวางเธอเอาไว้จนกระเด็นออกไปอีกทาง
ผลั่ก!
“ยัยบ้า! ยืนเหม่ออะไร! เดี๋ยวก็ตายหรอก! ถ้าไม่คิดจะสู้ ก็ไปปกป้องตัวประกันแทนซะ! อย่าทำให้พวกเราต้องลำบากไปมากกว่านี้เลยน่า!”
“มือ..ของนาย”
“ช่างมันเถอะ! รีบลุกขึ้นเร็วเข้า!”
เปรี้ยง!!
I suddenly became a representative of Godจู่ๆ ฉันก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้าไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี เรื่องมันเกิดขึ้นตรงที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัวเลยเรื่องราวที่เหมือนกับความฝันกับความจริงที่ว่าฉันไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้วทุกอย่างถูกรีเซ็ตใหม่ตั้งแต่ต้น ความรัก อำนาจ การแก่งแย่งและก็การชิงดีจะยอมแพ้เพราะว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะหรอ?โลกแห่งการมีชีวิตใหม่ที่ต้องพยายามมากขึ้นเป็นเท่าตัวเพื่อที่จะได้เป็นพระเจ้าในแบบที่ไม่ต้องทำให้ใครผิดหวัง ความรักที่ฉันไม่ต้องการกับความหวังที่ถูกฝากเอาไว้ ชื่อของฉันก็คือ....' ยูโร ชิยูอิน 'ป.ล น้องนางเอกของเรื่องนี้ไปโพล่อยู่ในเรื่องอื่นๆ ของไรท์ด้วยนะถ้าสนใจก็ไปตามอ่านกันได้ ขอบคุณที่สนับสนุนกันจ้าถ้านิยายเรื่องนี้จบสำหรับคนที่ซื้อนิยายเรื่องนี้ไรท์มีของแถมให้นะแบบว่ารอเซอร์ไพรส์ได้เลย คิคิ ตอนที่ 1 แด่แกะน้อยผู้หลงทางชอบอ่านมังงะแนวไลท์โนเวลไปต่างโลกกันไหมคะ ฉันเองก็ชอบมันเช่นเดียวกัน ยิ่งช่วงที่มีแต่เนื้อเรื่องแบบนี้เนี่ย คงจะพลาดไม่ได้เลยล่ะค่ะ ถึงแม้จะคิดว่าดีจังน้า ที่ได้ไปอยู่ต่างโลกและมีพลังสุดแสนจะเวอร์วังขนาดนั้น แต่พอเอาเข้าจริงๆ แล
Godwell โรงเรียนแห่งการศึกษาของระบบพระเจ้าผู้ครองโลก เป็นสถานที่ของผู้ท้าชิงทั้งหลายจากทั่วทุกมุมโลกซึ่งจะต้องมาลงทะเบียนกันที่นี่ เพื่อที่จะได้รับการฝึกอบรมจากพระเจ้าผู้ซึ่งสร้างสรรค์ผลงานเอาไว้มากมายในโลกต่างๆ ศาสตร์ของการเป็นพระเจ้านั้นถูกแบ่งออกเป็น 4 สายด้วยกัน นั่นก็คือ สายของทำลาย สายของการสร้าง สายของรักษา และสายของควบคุม โดยนักเรียนส่วนใหญ่ของที่นี่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท นั่นก็คือ ฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายโจมตี โดยทุกๆ ปี Godwell จะคัดเลือกตัวแทนฝ่ายพระเจ้าออกไป 3คน เพื่อทำสงครามกับโลกปีศาจ และรักษาอำนาจการปกครองในโลกมนุษย์เอาไว้ สรุปง่ายๆ ก็คือหากปีไหนแพ้ เท่ากับว่าปีนั้นโลกมนุษย์ก็จะตกอยู่ในการปกครองของพวกปีศาจต่อไป เพราะเหตุนี้จึงเป็นสาเหตุให้โลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา“แล้วเธอคือคนสุดท้ายของปีนี้สินะ”น้ำเสียงขี้รำคาญออกมาจากปากของผู้ชายผมสีน้ำเงินเข้มซึ่งกำลังจดบันทึกรายชื่อผู้มีสิทธิลงทะเบียนเรียนที่นี่ ชุดสีขาวผูกไทสีดำของเขาค่อยๆ พลิ้วไหวไปตามแรงลมท่ามกลางดอกซากุระบานสะพรั่ง หล่อชะมัด.....จริงสิ เมื่อกี้ไอริสบอกว่าจะพาไปโรงเรียนของพระเจ้า ถ้าอย่างนั้นที่นี่ ก็คือ G
เผลอหลับไปนานน่าดูเลยสินะ พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็มืดซะแล้ว แถมยังมีเจ้าเด็กผมทองท่าทางประหลาดนั่งจ้องหน้าอยู่ด้วยสิ....“นี่-”“ตื่นแล้วหรอ ผมอีเดน!”ไอ้ท่าทีกระตื้อรื้อร้นของเขามันชวนให้ฉันปวดหัวแหะ ตกลงว่าที่นี่มีคนอยู่กี่คนกันแน่ ดวงตาสีทองจับจ้องมาที่ฉันไม่วางตา ผมสีทองงั้นหรอหรือว่าเขาจะเป็นชาวต่างชาติกันนะ?“ไอริสไปไหนแล้วล่ะ แล้วนายคือใคร?”“ผมก็เป็นสัตว์เลี้ยงของยูโรไง ยังไม่ได้อ่านกฎมาเลยใช่ไหม ผู้ท้าชิงทุกคนจะมีสัตว์เลี้ยงประจำตัว”“สัตว์เลี้ยง? แต่เท่าที่เห็น นายก็เป็นคนธรรมดานี่น่า ดะ เดี๋ยวสิ! คิดจะทำอะไรของนายน่ะ น่ะ นกฮูกงั้นหรอ!?”คนร่างบางมองเด็กผู้ชายร่างเล็กเรือนผมสีทองอร่ามค่อยๆเปลี่ยนร่างกายตัวเองให้กลายเป็นนกฮูกสีขาวบริสุทธิ์แล้วก็โบยบินมาเกาะที่แขนเธออย่างตกตะลึง“ก็ใช่น่ะสิ ผมเป็นนกฮูก”จู่ๆเส
ถ้าถามว่าทำไมถึงได้เลือกจำแลงเป็นผู้หญิงร่างสวยนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคนนี้ด้วย นั่นสินะ พอดีมันเดินผ่านหุ่นลองชุดพวกนี้พอดีน่ะสิ ไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่าการที่ต้องนั่งจับคู่รอเวลาให้พวกคนคลั่งรักทั้งหลายมาเจอกันหรอก จะว่าไปแล้วตอนที่ฉันยังเป็นมนุษย์ก็ไม่เคยได้รับความรักอะไรพวกนี้เลยนี่นะ นั่งดูดน้ำส้มไปประมาณครึ่งแก้วได้ ฉันถึงเริ่มมองเห็นเป้าหมายของภารกิจนี้เสียที คนร่างสวยสวมกระเป๋าสะพายสีดำสนิทแบรนด์ชาแนลงั้นหรอ อืม รสนิยมดีนี่ ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดกำลังเดินมาทางนี้แล้ว ส่วนอีกฝ่ายนึงก็นั่นไง คนร่างสูงสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาด เรือนผมสีบรอนด์ทองสะบัดไปมาเล็กน้อย สัญลักษณ์แห่งด้ายแดงที่ผูกโยงกันไว้ไม่ว่าจะใกล้หรือจะไกลแค่ไหนฉันก็สามารถสังเกตเห็นมันได้อยู่ดีหรือว่าฉันคนนี้จะลองใช้แผนเดินชนกันแล้วแกล้งทำน้ำหกใส่พวกเขาเลยดี ทั้งสองคนจะได้รู้จักกันในแบบนิยายรักอะไรพวกนั้น เฮ้อ แต่แบบนั้นมันออกจะเป็นละครน้ำเน่าไปหน่อยรึเปล่านะ แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรมากกว่านี้อยู่ๆ ตัวฉันก็เปียกแทนซะแล้ว“ขอโทษค
รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถลุงเงินเล่นอยู่เลยแฮะ ตั้งแต่มายังโลกมนุษย์ฉันก็เอาแต่ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า ประหนึ่งว่าเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปหลายต่อหลายครั้งในขณะที่ฉันยังคิดไม่ออกเลยว่าจะให้อะไรกับเขาดี หรือบางทีอาจเป็นพวกไวน์องุ่นไม่ก็แซนวิช อืม ฉันเลือกไวน์องุ่นก็แล้วกัน คิดว่ามันคงจะสร้างความประทับใจแรกให้กับฉันมากพอดู“ครับ คุณมีธุระอะไรรึเปล่าครับ”คนร่างสูงโปร่งเปิดประตูออกมาต้อนรับฉันอย่างสับสน เนื่องจากเขาไม่ได้รู้จักคนตรงหน้านี้เลย สีหน้าของเขาจึงบ่งบอกทุกอย่างออกมาหมด“คือฉันเพิ่งย้ายเข้ามาน่ะค่ะ อยู่ห้องถัดจากคุณ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ฉันยูโร ชิยูอิน และนี่ก็ของฝากค่ะ คิดซะว่าเป็นของขวัญจากเพื่อนข้างห้องนะคะ”อทินมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรนอกเสียจากยอมรับขวดไวน์ราคาแพงมาถือเอาไว้เองพลางหลบเลี่ยงสายตาฉันนิดๆ“ขอบคุณครับ”“แค่นี้เองเหรอคะ นึกว่าคุณจะยอมบอกชื่อกับเพื่อนข้างห้องของค
“ยินดีที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ คุณผู้หญิง”รอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความชั่วร้ายแบบนั้นน่ะเป็นเขาไม่ผิดแน่ รันเวย์...เดี๋ยวนี้เจ้าจิ้งจอกเก้าหางแบบเขาหันมาคบค้าสมาคมกับพวกมนุษย์ไร้กำลังแทนแล้วสินะ“รู้จักกันด้วยเหรอครับ”คนร่างสูงโปร่งเอ่ยถามคนร่างบางด้วยความสงสัย แต่ในทางกลับกันฉันกลับเมินคำถามพวกนั้นออกไปโดยสิ้นเชิง“ฉันนึกว่าคุณจะนัดฉันมาคุยเรื่องธุรกิจคนเดียวซะอีก”“อย่าใจร้ายกับผมนักสิครับ อย่างน้อยๆเราก็รู้จักกันแล้วนะ ยูโร และผมก็สนิทกับอทินมากๆเลยล่ะ”รันเวย์ส่งรอยยิ้มอย่างสดใสมาให้กับฉันซึ่งมองข้ามเขาไปอีกครั้ง ปีศาจนิสัยเสีย คิดจะปั่นประสาทฉันงั้นเหรอ มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก“นายก็พูดเกินไป อันที่จริงผมแค่ติดสัญญาจ้างกับเขานิดหน่อยเท่านั้นเอง ถ้ามันทำให้คุณลำบากใจ ผมจะไล่เขากลับไปให้”“เดี๋ยวสิอทิน! นี่นายจะไม่คิดหน่อยรึไง!?&rdquo
ความตายแค่ทำตามหน้าที่ เหมือนที่ฉันควรจะเมินความน่าสงสารของเธอทิ้งไป แต่ถึงอย่างนั้นทำไมฉันถึงไม่ยอมขยับออกไปล่ะ ความตายจะไม่สามารถไล่ตามดวงวิญญาณซึ่งอยู่ใกล้กับพระเจ้าได้ในกรณีของฉันที่เป็นตัวแทนของพระเจ้า ก็ได้รับสิ่งเหล่านั้นมาด้วยเช่นกัน“มีอะไรค้างคาอยู่รึเปล่า”“ฮึก..คะ..”“คุณน่ะมีอะไรค้างคาอยู่รึเปล่า ถ้ามีอะไรที่อยากทำก็บอกฉันมา”คนร่างบางค่อยๆ เช็คน้ำตาลวกๆ ในขณะที่ฉันเองก็ปลายตามองเธอด้วยความรู้สึกที่ไม่เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ“ฉันอยากแต่งงานค่ะ”“แต่งงาน...งั้นใครล่ะที่อยากแต่งงานด้วย”“ไม่รู้ค่ะ”ขอถอนคำพูดที่ว่าจะช่วยมันจะทันรึเปล่านะ...“คุณหนู! ในที่สุดก็เจอตัวซักที หนีออกจากโรงพยาบาลทำไมครับคุณหนู รีบกลับกันเถอะครับ เดี๋ยวคุณหนูจะป่วยซะเปล่าๆนะครับ ”ในขณะที่ฉันกำลัง
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งอาทิตย์ พวกยมทูตก็มารับสัญญาการต่ออายุจากฉันไป ใครบอกว่ายมทูตต้องใส่ผ้าคลุมสีดำถือเคียวมาค๊อกประตูเอาวิญญาณไปกันนะ ที่ฉันเจอมีแต่หนุ่มหล่อมาดธุรกิจมารับสัญญาจากฉันไปโดยที่ไม่ลืมจะแจกนามบัตรยมทูตให้กับฉันอีกด้วย‘สนใจทำสัญญากับยมทูตเขต1 ติดต่อได้ที่เบอร์ xxx และปรโลกสาขา 1 แถมฟรีไก่ทอด 1 ถัง’“ทำงานกันเป็นทีมดีนะ ยมทูตพวกนี้”“ใครมาหรอคะ”จีราญาเอ่ยถามฉันในขณะที่ตัวเธอก็กำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหารเช้าต้อนรับอทินซึ่งกำลังจะไปจัดงานโฆษณารถยนต์ของฉันด้วย ทั้งที่บอกว่าไม่ต้องทำ เธอก็ไม่ยอมฟัง ยัยเด็กเอาแต่ใจเอ้ย“พวกยมทูตน่ะ แต่เธอไม่เห็นพวกเขาหรอก ถ้าตายไปแล้วก็อีกเรื่อง”“นี่ยูโรตายไปแล้วหรอคะเนี่ย”“เธออยากโดนฉันลบความทรงจำมากใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวจัดให้เลย ชักเอาใหญ่แล้วนะ”“อย่านะคะ ความทรงจำที่ไม่มีคุณ ฉันไม่เอาหรอ
“จี...”คนร่างบางพึมพำออกมาเบาๆ ในขณะที่รอบๆ ตัวของเธอก็กำลังกลายเป็นสมรภูมิรบขนาดย่อมไปแล้วไม่ปาน ภายนอกถูกแต่งแต้มไปด้วยสถานที่ซึ่งง่ายต่อการทดสอบในทุกรูปแบบด้วยฝีมือของเทพร่างสูงอย่างคาเซอุสเปรี้ยง!“มัวยืนทำอะไรของเธอ! หลบเร็ว!”ยังไม่ทันที่ยูโรจะได้ก้าวขาเข้าไปยังคนร่างบางซึ่งถูกสะกดจิตเอาไว้โดยเทพแห่งปัญญา สายฟ้าฟาดก็พุ่งตรงลงมายังเธอทันที ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนร่วมทีมของคนตรงหน้ารีบวิ่งเข้ามาขวางเธอเอาไว้จนกระเด็นออกไปอีกทางผลั่ก!“ยัยบ้า! ยืนเหม่ออะไร! เดี๋ยวก็ตายหรอก! ถ้าไม่คิดจะสู้ ก็ไปปกป้องตัวประกันแทนซะ! อย่าทำให้พวกเราต้องลำบากไปมากกว่านี้เลยน่า!”“มือ..ของนาย”“ช่างมันเถอะ! รีบลุกขึ้นเร็วเข้า!”เปรี้ยง!!
พาร์ทยูโรฉันกำลังสับสนกับตัวเองจริงๆ ....แบบว่ามันดันมีความรู้สึกของคนอื่นเข้ามาปนอยู่ด้วยจนฉันแทบจะแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนมันคือเรื่องจริงกันแน่ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ควรจะก้าวเดินต่อไป เพราะไม่ว่าฉันจะเลือกทางเดินแบบไหนมันก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน ...และนั่นมันก็เป็น...ความรู้สึกแรกที่ฉันได้พบกับเธอ...“ ในที่สุดก็มากันครบแล้วสินะ เหล่าตัวแทนทั้งหลายของเทพเจ้า”เสียงเป่าประกาศของชายวัยกลางคนดังขึ้นกึกก้องไปทั่วบริเวณ ทันทีที่พวกเราก้าวเดินไปถึงสนามลานประลองขนาดใหญ่ซึ่งรายล้อมไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตาแต่ทว่าหนึ่งในนั้นสายตาของฉันก็ดันกลับกลายไปสบเข้ากับเรือนร่างอันแสนบอบบางซึ่งฉันคุ้นหน้าคุ้นตาเธอเป็นอย่างดี...ผู้หญิงคนนั้นคืออีเมลไม่ผิดแน่ แต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ในเวลาแบบนี้ได้ล่ะ…ดวงตาสีแดงเข้มแบบนั้น....มันก็เหมือนกับว่าเธอกำลังกลายเป็นคนพวกนั้นไปแล้วไม่ใช่รึไง...มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ...“คุณยูโร...”ร่างผอมบางเอ่ยทักชื่อฉันทันทีที่ได้เห็นคน
หลังจากวันนั้นผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์ของที่นี่ฉันก็ได้รับจดหมายจากอีเดน เจ้านกฮูกตัวสีขาวขนปุยที่ฉันไม่ได้เห็นหน้าของเขามานานมากแล้วจนเกือบลืมไปว่ายังมีเขาที่รอคอยฉันอยู่....“ยูโร !!!!”ทันทีที่เจ้านกฮูกขนปุยสีขาวปรายตาเห็นฉันเข้าเขาก็รีบบินโฉบเข้ามาหาฉันด้วยท่าทีตื่นเต้นจนถูกผู้หญิงร่างสูงจับปีกของเขาไว้ด้วยความหวาดระแวงหมับ!“ยูโรเธอไม่เป็นอะไรนะ ? ย้า ปล่อยฉันเซ่ ยัยผู้หญิงป่าเถื่อน! ปล่อยปีกฉันเดี๋ยวนี้! อะ ยูโรรอเดี๋ยวนะ ฉันจะจัดการผู้หญิงคนนี้แล้วไปช่วยเธอเอง จิ้ก จิ้ก! บอกให้ปล่อยฉันไง ยัยเบือก!”“ปากเก่งแบบนี้ถ้าฉันจับไปทอดกินก็คงได้สินะ”“O [] O ยะ...ยูโร”เจ้านกฮูกตัวอ้วนกลมหน้าถอดสีพลางมองหญิงสาวร่างสวยที่จับเขาเหวี่ยงไปมาอย่างกับของเล่นจนกระทั่งเจ้านายร่างบางของเขาถือวิสาสะเข้ามาแย่งร่างอันสั่นเทาไปกอดเอาไว้เอง“อีเดน นายโอเครึเปล่า ยูแอลค
พาร์ท อีเมล...ฉันเคยคิดมาตลอดว่าสิ่งมีชีวิตอย่างพวกแวมไพร์ อสูรกาย มนุษย์หมาป่า หรือแม้กระทั่งสิ่งมีชีวิตอันน่าอัศจรรย์เหล่านั้นแท้จริงแล้วมันก็แค่เรื่องแต่งขึ้นของใครบางคนเท่านั้นเอง มันไม่มีทางเกิดขึ้นจริงในชีวิตของพวกเราหรอก ใช่ ฉันคิดแบบนั้น....จนกระทั่ง ความหิวกระหาย...ความรู้สึกอยากทำลาย การที่เห็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองเป็นแค่เศษอาหาร มันถาโถมเข้ามาในตัวของฉันตั้งแต่วันนั้น วันที่ฉันวิ่งไล่ตามยูโรไป....ตึก ตึก...“อ้าว คุณเมลนี่เอง มาหาท่านรินคุหรอคะ?”“ท่านรินคุ? ไม่ใช่ค่ะ ฉันมาหาคุณยูโรต่างหาก เธอไม่อยู่หรอคะเลขาชา?”ฉันไล่สายตามองหาเจ้าของเสียงหวานท่ามกลางความสับสนซึ่งปะทุขึ้นมาในใจของฉันตั้งแต่เมื่อคืน ไม่ว่าจะทำยังไงก็นอนไม่หลับเลยตั้งแต่ที่เธอส่งข้อความแบบนั้นมาให้กับฉัน‘ขอโทษงั้นหรอ? คุณยังไม่ได้ลองพยายามเลยแท้ๆ ...อยู่ๆ มาปฏิเสธใส่กันง่ายๆ แบบนี้ได้ยังไง...’“คุณยูโร
พาร์ท จีราญาฉันได้แต่ครุ่นคิดแล้วก็สงสัยในทุกๆครั้ง ว่าทำไมกันนะ ไม่ว่าฉันจะพยายามนึกถึงใบหน้าของใครบางคนอีกสักเท่าไร มันก็ไม่มีทางนึกออกได้เลย....เหมือนกับว่าฉันกำลังจมน้ำโดยที่ไม่มีทางที่จะก้าวขึ้นมาได้ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยัง...อยากที่จะนึกถึงแต่มันอยู่ดี...แปะ...แปะ...“จี แกเป็นอะไรเนี่ย จู่ๆ ก็ร้องไห้อีกแล้ว ยังรักษาไม่หายอีกหรอ”ทันทีที่ฉันหยุดคิด เสียงแหลมๆ ของเพื่อนคนสนิทซึ่งมีเพียงไม่กี่คนของฉันก็เอ่ยทักขึ้นทำให้ต้องละสายตาจากแก้วกาแฟใบโปรดกลับมองเธอที่ทำหน้าตกใจกับรอยแดงจางๆ บนใบหน้าของฉันแทน“อืม ก็นิดหน่อยน่ะ เมื่อคืนฉันฝันร้ายอีกแล้ว”“แบบนี้ก็แย่สิจี ว่างๆ แกควรให้พี่พีเจพาไปตรวจสุขภาพหน่อยก็ดีนะ ฉันเห็นแกชอบร้องไห้ไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาตั้งหลายครั้งแล้ว ”“ไม่เป็นไรหรอกโรส ฉันโอเค แกคิดมากไปแล้ว”“งั้นหรอ ถ้าแกว่า
ฉัน...รู้อยู่แล้ว ว่าความจริงยูกิจังไม่เหมือนเดิม เธอเปลี่ยนไปตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน ทั้งรอยยิ้ม และสายตาแบบนั้น ทำให้ฉันเข้าใจมันได้เป็นอย่างดี….เธอไม่ใช่ชิยูกิของฉันหรอก...แต่ถึงอย่างนั้น..แต่ฉันก็ยังทำใจยอมรับมันไม่ได้...เรื่องที่ว่าไม่มีชิยูกิจังอยู่ต่อไปอีกแล้วน่ะ....ฉันควร...จะทำยังไงดีล่ะ....“นี่มันยังไงกันแน่ ตกลงว่าชิยูกิคนนี้เป็นตัวปลอมอย่างงั้นน่ะหรอ อย่าเอาแต่เงียบสิ ฉันเองก็ปวดใจนะ! อย่าเอาแต่เงียบกันได้ไหม! แล้วตัวจริงล่ะ...ตัวจริงไปอยู่ที่ไหน!”“เรื่องนั้น...”คนร่างบางจับชายเสื้อของชิยูกิเอาไว้แน่นทำให้อีกฝ่ายหยุดชะงักลงก่อนจะแสดงสีหน้าอันขนขื่นออกมา“ฉันคิดว่าเจ้าของร่างนี้อาจจะตายไปแล้ว”คนร่างผอมเพรียวแทบจะล้มไปกองกับพื้นทันทีตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของมีอาเธอเดินเข้ามากระชากคอเสื้อด้านนอกสีน้ำเงินเข้มของยูโรซึ่งไม่มีทีท่าขัดขืนแต่อย่างใด“ตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอรู้เรื่องนี้ตั้งแ
ฉันปรายตามองคนมาใหม่อย่างโกรธเคืองเพราะไม่คิดไม่ฝันเลยว่าเธอจะตามฉันมาถึงที่นี่ ไหนว่าจะขายฉันทิ้งแล้วไงล่ะ ยังจะมาไยดีอะไรกันอีก แค่หน้าก็ไม่อยากจะมองแล้ว ยังจะมาที่นี่อีกทำไม...“หยุดทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าข้าได้แล้ว พี่สาวอย่างข้าอุตส่าห์ทิ้งภาระอันหนักอึ้งมาหาเจ้าเชียวนะ ตอบแทนกันอย่างนี้รึ”ไม่พูดเปล่ายูแอลยังถือวิสาสะดึงแขนของเด็กสาวออกจากการเกาะกุมของเฮร่าพลางดึงคนร่างบางมาไว้ข้างตัวด้วยสีหน้าเรียบเฉยผิดกับสองคนที่เหลือ“ชิยูกิ!”“เอริคนี่เจ้าไม่คิดจะสอนมารยาทน้องสาวของเจ้าหน่อยรึไง”คนร่างสวยหวาดตามองหญิงสาวทั้งสองอย่างเอาเรื่องทำให้เอริคผู้เป็นพี่รีบขอโทษแทนน้องสาวแทบไม่ทัน“ขออภัยขอรับ ท่านหญิง น้องสาวของกระผมเสียมารยาทต่อท่านหญิง ได้โปรดอภัยให้นางด้วย”“พี่ / เอริค ย
ฉันคิดว่ามีอาคงผูกใจเจ็บกับเฮร่าจริงๆ นั่นล่ะ เพราะคิดไม่ถึงเลยว่ายัยนั่นจะตามติดพวกฉันแจขนาดนี้“มีอา”ฉันเหล่ตามองเธออย่างลำบากใจที่เห็นคู่หมั้นของเอริคมายืนส่งยิ้มให้กันตั้งแต่หัววันแบบนี้ แถมยังไม่ยอมปลายตามองคู่หมั้นของตัวเองอีกต่างหาก ถ้าให้ฉันเดาล่ะก็ ก็ถูกคลุมถุงชนแหง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไม่เห็นจะต้องพุ่งสายตากดดันมาทางฉันเลยก็ได้นี่!“ฉันมาชวนเธอไปเที่ยวด้วยกันน่ะ”“ยูกิจังไม่ไปกับเธอหรอก”เฮร่าเดินลงมาจากบันไดพลางปลายตามองผู้มาใหม่อย่างกดดันเธอดูอารมณ์ไม่คงที่สุดๆ“ ชิยูกิต้องได้รับอนุญาตจากเธอก่อนรึไง ถึงจะออกไปข้างนอกกับฉันได้”“ใช่”เหมือนจะไม่ใช่นะ....ทำไมต้องมาทะเลาะกันเรื่องของฉันด้วยล่ะ อีตาเอริคนี่ก็อีกคนช่วยพูดอะไรหน่อยได้ไหม คุณเป็นคนต้นเรื่องไม่ใช่หรอ พวกเค้าทะเลาะกันเพราะคุณนะ“เธอไม่ใช่เจ้าของชิยูกิสักหน่อย ไม่มีสิทธิมาตัดสินใจนะ”“เธอก
ก็ไม่รู้ว่าเฮร่าโกรธฉันเรื่องอะไรหรอกนะ แต่เล่นมาทิ้งกันไปแบบนี้แล้วฉันจะกลับบ้านยังไงได้ล่ะ....ฉันพยายามมองหาเธออีกครั้งแต่ทว่ามันก็ไร้ผล ไม่มีวี่แววของเธอเลย หรือว่าคนร่างบางจะจงใจทิ้งฉันเอาไว้ที่นี่จริงๆ ....“อ้าว ชิยูกิยังไม่กลับบ้านอีกหรอ”“มีอา?”ฉันหันกลับไปมองเธอที่ถือกระเป๋ามารอฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มพลางไม่เข้าใจว่าคนตรงหน้ามายืนรอฉันทำไม เราเพิ่งรู้จักกันวันนี้เองนะ ไม่เห็นจะต้องใส่ใจกันเลย“กลับบ้านด้วยกันไหมล่ะ”“เอ่อ คือว่าฉันต้องรอเฮร่ากลับบ้านด้วยกันน่ะ”“เอ๋ งั้นหรอ แต่ดูท่าทางยัยนั่นจะกลับบ้านไปก่อนแล้วนะ”อ่า...สรุปว่าฉันโดนทิ้งเอาไว้ที่นี่จริงๆ ด้วย...“ทำไมทำหน้าหงอยอย่างนั้นล่ะ เอ้า ยื่นมือมาสิ เธอกลับกับฉันก็ได้”“ไม่เป็นไร ฉันกลับเองดีกว่า”