“แก~ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เสียงหวานยานครางตะโกนบอกเพื่อนสนิทแข่งกับเพลงอีดีเอ็มดังกระหึ่มในคลับหรู ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปมากกำลังเล่นงานเธออย่างหนักจนสายตาพร่าเบลอ
“ไปคนเดียวได้มั้ยโม~ฉันเดินไม่ไหวอ่ะแก” นิวพูดเสียงอ้อแอ้ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ นั่งโงนเงนค้ำศอกลงบนพื้นโต๊ะมือทั้งสองข้างประคองใบหน้าตัวเองไว้
“ฉันด้วย~คืนนี้คงต้องโทรให้พี่พายมารับ~อึก” พะแพงเอ่ยบอกเสียงยานไม่ต่างกัน ปรือตามองเพื่อนสาวด้วยสายตาหวานเยิ้ม
“สบายมาก~” จบคำ โมเอิร์นก้าวเดินฝ่าผู้คนแน่นขนัดไปยังห้องน้ำอย่างยากลำบาก หลังจากเสร็จธุระส่วนตัว ร่างบางเดินโซเซเพื่อกลับมายังโต๊ะ ทว่า ด้วยความมึนเมาที่มีมากจึงไม่ทันระวังตัว
ปึก!
“อ๊ะ!” เสียงหวานหลุดร้องด้วยความตกใจ ใบหน้าสวยชนเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคนเข้าอย่างจังจนรู้สึกเจ็บ จมูกโด่งเชิดรั้นแนบชิดเผลอสูดดมกลิ่นหอมของชายหนุ่มปะปนกลิ่นบุหรี่จางๆเข้าลึกสุดปอด ให้ความรู้สึกดีไม่น้อย
“จะดมอีกนานมั้ย?!!”
“ขอโทษค่ะ~ ฉัน…” ใบหน้าสวยเงยขึ้นช้อนมองอีกฝ่าย สายตาคู่สวยเพ่งมองใบหน้าหล่อเหลาราวกับต้องมนต์สะกด จนเผลอคิดดังขยับปากออกเสียงให้เขาได้ยิน“หล่อจัง~”
“เดินไม่ดู!!” ร่างสูงเอ่ยดุ มือหนาดันหญิงสาวออกห่างทำให้เขาเห็นใบหน้าเธอชัดเจนขึ้นและจำได้ดี เธอคือคนๆเดียวกับที่เห็นในกล้องวงจรปิดเมื่อสองชั่วโมงก่อน
“รูปหล่อ อย่าดุสิ~ ไปต่อกับฉันมั้ย?” ด้วยความเมาจึงเอ่ยปากชักชวนชายหนุ่มออกไปโต้งๆอย่างนั้นโดยไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ และนี่ไม่ใช่นิสัยของเธอเช่นกัน
“…”สายตาคมกริบมองจ้องร่างบางตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ด้วยแววตาเรียบนิ่งยากจะคาดเดาความคิด ‘หน้าสวยหุ่นเอ็กซ์ใช้ได้’ ประโยคแรกดังขึ้นในหัวเขา
“ไปมั้ย…ฉันโสด~” เมื่อเห็นเขานิ่งเงียบ ร่างบางไม่วายอวดอ้างสถานะตัวเองให้เขารับรู้เพื่อประกอบการตัดสินใจ
“เธอแน่ใจ?” ร่างสูงเลิกคิ้วถาม
“แน่ใจสิ~ไปเลยมั้ย คลับใกล้ปิดแล้ว”เสียงหวานยานครางฟังแทบไม่ได้ศัพท์เอ่ยบอก มือเล็กคว้าหมับกอดท่อนแขนแกร่งไว้แน่นอย่างถือวิสาสะไม่รอให้อีกฝ่ายตอบตกลง
“เอ่อ..เอายังไงดีครับนาย” จิมมองหญิงสาวสลับกับเจ้านาย รู้สึกร้อนๆหนาวๆแทนผู้หญิงคนนี้ กล้าดียังไงถึงได้เข้าหาเจ้านายเขาอย่างนี้ เดี๋ยวได้ถูกจับโยนออกไปข้างนอก
“ไปเอารถออก…เปิดห้องโรงแรมที่ใกล้ที่สุด”
“อ้าว… ครับๆ” ผิดคาด เขาคิดว่าเธอจะถูกกระทำเหมือนผู้หญิงคนอื่นที่ผ่านมาซะอีก ไหงเป็นอย่างนี้ไปได้ ‘หรือว่านายโดนของวะ’ ไม่มีเวลาคิดอะไรไปมากกว่านั้นจิมรีบวิ่งนำออกไปยังลานจอดรถทำตามคำสั่งเจ้านาย ขืนชักช้าคงเป็นเขาเองที่โดนลงโทษ
ปึง!
ประตูบานใหญ่หน้าห้องปิดสนิทลงและถูกล็อคอย่างแน่นหนาจากด้านใน ร่างสูงดูดีดันคนตัวเล็กกระทั่งแผ่นหลังขาวเนียนแนบชิดผนังห้องเย็นเฉียบไม่ปล่อยให้เธอได้ตั้งตัว
“ฉันกับนาย~แค่วันไนท์เท่านั้น! ตกลงมั้ย” นิ้วเรียวเล็กชี้เข้าหาตัวก่อนจะเปลี่ยนทิศทางจิ้มลงบนแผงอกแกร่งของชายหนุ่ม ซ้ำๆ ย้ำชัดคำพูดให้อีกฝ่ายเข้าใจตรงกัน
“อืม…”
“นายยังไม่มีเมียใช่มั้ย ฉันไม่อยากแย่งของใคร”
“ไม่มี”
“ก็ดี...นายห้ามรุนแรงนะ อ๊ะ!”
สิ้นเสียงหวาน ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซร้ซอกคอขาว มือหนาเอื้อมไปด้านหลังรูดซิบลงปลดชุดเธอออกทีละชิ้นจนหมด และถอดเสื้อผ้าตัวเองออกอย่างเร่งรีบกระทั่งทั้งสองร่างเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน
ท่อนแขนแข็งแรงช้อนอุ้มคนตัวเล็กในท่าเจ้าสาวอย่างที่ไม่เคยทำกับผู้หญิงคนไหน เท้าหนาก้าวเดินไปยังเตียงกว้างขนาดคิงไซส์ก่อนจะโยนร่างบางลงบนเตียงกว้างขนาดคิงไซส์ไม่แรงมากนัก
“อ๊ะ! ห้ามรุนแรงไง อย่ามอง!ฉันอายนะ” ต่อให้เมามากแค่ไหนก็มีสติรับรู้ถึงการกระทำของตัวเองเวลานี้ ไหนๆก็ต้องหมั้นกับคนแปลกหน้าแล้ว งั้นฉันขอมีเซ็กส์ครั้งแรกกับคนที่เลือกเองก็แล้วกัน คิดได้อย่างนั้นร่างบางหลับตาแน่น ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความเร่าร้อนที่เขามอบให้ ร่างสูงเล้าโลมจนเธอควบคุมตัวเองแทบไม่ได้
ทว่า เมื่อปรือตามองไปยังคนบนร่างก็เห็นสายตาคมกริบจับจ้องเรือนร่างเธออย่างหื่นกระหาย ทำโมเอิร์นถึงกับร้อนวูบวาบบริเวณท้องน้อยอย่างบอกไม่ถูก
“ฉันใส่เลยนะ”
“เดี๋ยว!ถุงยางล่ะ ถ้านายไม่มี ฉันมีอยู่ในกระเป๋า”
“...” ร่างสูงดันตัวลุกขึ้นเดินโทงๆออกไปหยิบกระเป๋าที่ว่ากับกางเกงยีนส์ขายาวแล้วเดินกลับมายังเตียงกว้างอีกครั้ง
มือเล็กรับกระเป๋ามาถือไว้ เปิดออกหยิบถุงยางอนามัยไซส์ห้าสิบสองยื่นให้ แต่เขากลับไม่รับไปทำเพียงปรายตามองเท่านั้น
“หึ!เล็กไป ฉันใส่ไม่ได้” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปากด้วยท่าทีเย้ยหยัน มือหนาล้วงหยิบซองฟอยล์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาฉีกออก แล้วสวมเครื่องป้องกันลงบนแก่นกายจนสุดโคน
โมเอิร์นเพิ่งเห็นความเป็นชายชัดๆครั้งแรก ถึงกับเบิกตาโพลงขึ้น แขนเรียวดันตัวถอยหลังด้วยสัญชาตญาณ แต่ขยับได้เพียงน้อยก็ถูกมือหนาคว้าจับลากลงมานอนที่เดิม
“จะไปไหน!”
“นาย ฉะ ฉัน...”
“อ้าขา...จะกลัวอะไร เธอเป็นคนเริ่มไม่ใช่รึไง” น้ำเสียงดุดันบวกกับสายตาแข็งกร้าวของเขาทำให้โมเอิร์นยอมทำตามอย่างว่าง่าย ร่างสูงไม่รอช้าให้เสียเวลา จ่อปลายหัวหยักที่ร่องกุหลาบสีหวานสะโพกหนาออกแรงกดฝังแก่นกายใหญ่โตเข้าไปในตัวเธอ แต่ทว่า กลับไม่เป็นเหมือนทุกครั้ง แท่งร้อนฝ่าเข้าไปได้เพียงนิดเท่านั้นแม้ร่องสวาทจะผลิตน้ำหวานออกมามากก็ตาม
“อ๊ะ! เจ็บ~”
“เข้ายากจังวะ” ความคับตึงทำร่างสูงขบกรามแน่น ก้มหน้ามองจุดเชื่อมสัมพันธ์ยิ่งกระตุ้นอารมณ์กระสันนึกอยากกระแทกตัวตนเข้าไปให้สุดความยาวในคราวเดียว ไวเท่าความคิดมือหนาจับขาเรียวเล็กอ้าออกกว้าง เอวสอบตอกอัดแท่งร้อนเต็มแรงฝ่าความคับแน่นเข้าไปจนสุดทาง
ปึก!
“กรี๊ดด...ฉันเจ็บ~เอาออกไป ไม่เอาแล้ว!” เสียงหวานกรีดร้องออกมาอย่างห้ามไม่ได้ความเจ็บจี๊ดเล่นงานเข้าอย่างจังราวกับว่ากลางกายสาวแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ โมเอิร์นหลับตาแน่นหยดน้ำตาสีใสเอ่อล้นไหลจากหางตาอย่างห้ามไม่อยู่
“เชี่ย!ซิงหรอวะ” กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งเข้าจมูก สายตาคมมองดูเลือดสีแดงสดเปรอะเปื้อนเครื่องป้องกัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองดวงหน้าสวยเหยเกด้วยความเจ็บปวด
“ฉันบอกให้ทำเบาๆไงเล่า!” ร่างบางเอ่ยเสียงเขียวกระนั้นก็ยังไม่ลืมตาขึ้นมามองคนบนร่างเจ้าของผลงาน
“หึ!ไม่เคย....แต่กล้าชวนฉันขึ้นเตียง” แถมแม่คุณยังพกถุงยางอีกจะไม่ให้ผมคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงกร้านโลกเจนจัดเรื่องอย่างว่าได้ยังไงกัน
ร่างสูงกดแช่แก่นกายไว้อย่างนั้นนานหลายนาทีก่อนจะค่อยๆขยับเอวสอบช้าๆเนิบนาบและไต่ระดับรัวเร็วขึ้น
ตับ! ตับ! ตับ!
“อ๊ะ! เบาหน่อย จะจุก” เสียงหวานครางกระเส่ายิ่งปลุกอารมณ์ดิบเถื่อนในกายชายให้ลุกโชนขึ้นจนเขาแทบควบคุมไม่ได้ สะโพกหนาตอกกระแทกเน้นหนักทุกการเข้าออกหลงลืมไปว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอ ร่างเล็กโยกคลอนไปตามแรงเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังก้องทั่วทั้งห้องสี่เหลี่ยม
“ร่องเธอแม่ง!ตอดโคตรดี อ๊าส์” ใบหน้าหล่อเหลาเชิดขึ้นซู้ดปากราวกับกินของเผ็ดร้อน แก่นกายใหญ่เข้าสุดออกสุดเสียดสีกลีบกุหลาบบวมเปร่งสร้างความเสียวซ่านให้คนทั้งสองมากไม่น้อย
พรั่บ! พรั่บ! พรั่บ!
“อ๊ะ! อื้อ ฉันรู้สึกแปลกๆ มัน....”
“ซี๊ด! จะเสร็จแล้วหรอ” เอวสอบตอกสะบัดเร่งจังหวะถี่รัวถาโถมเข้าใส่เพื่อส่งให้เธอกับเขาถึงจุดหมายพร้อมกัน
“ไม่ไหวแล้ว อ๊ายย~” ร่องสวาทตอดรัดถี่ๆแตะขอบสวรรค์ ร่างบางนอนหายใจเหนื่อยหอบหน้าอกอวบใหญ่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะลมหายใจ
“อ๊าสส..” ร่างสูงปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นข้นใส่เครื่องป้องกันทุกหยาดหยดกดแช่ค้างไว้อย่างนั้นนานนับนาทีแล้วทิ้งตัวลงนอนทาบทับบนกายสาว เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นตามกรอบหน้าคม แม้ภายในห้องจะเปิดเครื่องปรับอากาศอุณหภูมิต่ำกว่ายี่สิบสี่องศา แต่กลับกลายเป็นเพียงลมพัดแผ่วเบาไม่สามารถต้านทานไฟสวาทเร่าร้อนในกายชายหนุ่มได้แม้แต่น้อย
“นาย~ฉันหายใจไม่ออก”
ร่างสูงดันตัวลุกขึ้นส่งผลให้แก่นกายหลุดออกรับอากาศภายนอกอีกครั้ง มือหนารูดถุงยางผูกปมแน่นหนาโยนทิ้งลงพื้นห้องอย่างไม่ใยดี
“ไม่เอานะ...พอแล้ว” เสียงหวานเอ่ยห้ามแต่ไม่เป็นผล ร่างบางถูกจับพลิกคว่ำอยู่ในท่าคลานเข่า คนตัวสูงสอดใส่แก่นกายเข้าร่องสวาทจากทางด้านหลังโดยไร้เครื่องป้องกันให้สัมผัสแปลกใหม่ เขาไม่เคยสดกับใครเธอเป็นคนแรกในเมื่อเธอไม่เคยผ่านมือใครมา เขาก็ไม่จำเป็นต้องป้องกันเสร็จกิจค่อยหายาให้กิน
ร่างสูงเริงสวาทอย่างเร่าร้อนกระแทกกระทั้นเข้าใส่ไม่ยั้งส่งเธอถึงจุดหมายครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งคนตัวเล็กหมดเรี่ยวแรงเขาจึงยอมหยุดทิ้งตัวลงนอนผล็อยหลับตามเธอไปด้วยความเหนื่อยล้า
“นายครับ นาย” จิมเอ่ยเรียกคนเป็นเจ้านายนอนหลับสนิทบนเตียงกว้างของโรงแรมหรู หลังจากติดต่อเจ้านายไม่ได้ซึ่งผิดนิสัยเป็นอย่างมากเขาจึงรีบขึ้นมาดูในห้อง“ไอ้จิม...” เซนโซ่รู้สึกตัวตื่นเพราะแรงเขย่า ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองหญิงสาวข้างกายก็พบว่าเธอไม่ได้นอนอยู่ตรงนั้นแล้ว ‘ไปไหนวะ’“ใกล้เช้าแล้วครับ นายไม่รับสายผมเลยขึ้นมาดู”“ผู้หญิงคนนั้น....”“ไม่ทราบครับ ผมเห็นนายนอนอยู่คนเดียวเธอคงกลับไปแล้ว” จิมเอ่ยบอก หลังมาส่งเจ้านายกับหญิงสาวคนนั้น เขากลับไปยังห้องทำงานในคลับเพื่อค้นหาข้อมูลของเธอตามคำสั่ง น่าแปลกที่เขาไม่เจอประวัติส่วนตัวเธอเลย หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงสืบหาได้ไม่ยาก เขาพยายามอย่างสุดความสามารถแต่กลับได้เพียงรูปถ่ายเพียงไปกี่รูปกับชื่อเล่นเท่านั้นไม่ปรากฏชื่อนามสกุลจริง‘ยัยตัวแสบ เธอกล้าหนีฉันอย่างนั้นหรอ’ ร่างสูงเอ่ยคาดโทษในใจ กลับถึงเพนท์เฮาส์เซนโซ่อาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวพับขึ้นถึงข้อศอกกางเกงยีนส์สีเดียวกันเฉกเช่นทุกวัน แล้วเข้ามานั่งในห้องทำงานเปิ
โมเอิร์นกวาดสายตามองทุกคนในห้องกระทั่งสะดุดกับสายตาคมคู่หนึ่งดวงตากลมโตเบิกโพลงขึ้นเท้าเล็กหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเบนหน้าหนีปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แล้วรีบเดินไปนั่งลงข้างผู้เป็นพ่อ“มาแล้วหรอ” แบล็คเอ่ยขึ้นยิ้มๆ พร้อมยกท่อนแขนโอบไหล่ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาไว้ด้วยความรักและเอ็นดู“ฝีมือป๊าใช่มั้ยคะ?” เสียงหวานกระซิบถามในสิ่งที่เธอสงสัย“ลูกดื้อกับป๊าก่อนครับ...สวัสดีปู่ไซซีก่อนสิ”“สวัสดีค่ะปู่ไซซี” โมเอิร์นเอ่ยทักทายตามคำบอกอย่างว่าง่าย ขืนฉันยังดื้อดึงเกิดโดนยึดรถขึ้นมาคืนนี้คงไปเที่ยวลำบาก“ไหว้พระเถอะลูก...นี่ เซนโซ่ว่าที่คู่หมั้นของหนู”“ห๊ะ! อะไรนะคะ” ร่างบางลุกพรวดพราดร้องตะโกนด้วยความตกใจเมื่อได้ยินไซซีพูดแนะนำอย่างนั้น ‘เจอเขาที่นี่ว่าบังเอิญมากแล้ว แต่เขาดันเป็นคู่หมั้นฉันเนี่ยนะ ตายๆๆ'“โมเบาๆสิลูก นั่งลงก่อน” แบล็คหน้าหดเหลือสองนิ้ว มือสากมีริ้วรอยตามวัยรั้งลูกสาวนั่งลงบนโซฟาเช่นเดิม ใบหน้าคมคายเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าล
ก๊อก! ก๊อก!“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มเอ่ยอนุญาต ประตูบานใหญ่หน้าห้องเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของจิม ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมกับเอ่ยรายงานความคืบหน้างานที่ได้รับมอบหมาย“ได้เรื่องแล้วครับนาย”“ว่ามา” เสียงทุ้มต่ำพูดบอกทั้งที่สายตาคมยังคงจับจ้องหน้าจอไอแพดตรงหน้าไม่ละไปไหน“รถคันนั้นเป็นของเพื่อนสนิทคุณโมเอิร์นครับ ตอนนี้พวกเธอนั่งดื่มด้วยกันที่ผับ” จิมยื่นโทรศัพท์ของเขาให้เจ้านายดูภาพถ่ายจากสายลับที่ส่งตามประกบภาพชายคนหนึ่งนั่งดื่มร่วมโต๊ะกับหญิงสาวสามคนท่ามกลางบรรยากาศสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง พูดคุยกันอย่างถูกคอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม โมเอิร์นนั่งข้างชายหนุ่มเพื่อนสาวอีกสองคนนั่งฝั่งตรงข้าม“ไอ้นี่เป็นใคร?”“หมอนี่ชื่อครามเจ้าของผับครับ ผับKหลังมหาลัยชื่อดัง ส่วนเพื่อนสนิทคุณโมเอิร์นชื่อนิว อีกคนชื่อพะแพงครับน้องสาวคุณพาย”“มึงออกไปได้แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงลงไปเตรียมรถ”“ครับนาย”เซนโซ่นั่งทำงานต่อจนเสร็จ มือหนากดปิดหน้าจอไอแพดเอนตัวพิงพนักเก้าอี้หนังตัวใหญ่ขับไล่ความเมื่อยล้า ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นเดินออกจ
“นี่!นาย ฉันเหนื่อยนะ”“ขาสั้นเอง...ช่วยไม่ได้” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ร่างสูงขึ้นไปนั่งบนรถโดยมีลูกน้องคนสนิทเปิดประตูให้“ไอ้...” ไม่ทันได้พ่นคำด่าไปมากกว่านั้น เซนโซ่แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์“ขึ้นรถ!ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งตามเด็กดื้ออย่างเธอกลับบ้านหรอกนะ”“จิ๊!ฝากไว้ก่อนเถอะ” โมเอิร์นพูดเสียงเบาแต่ก็ดังมากพอให้อีกฝ่ายได้ยินรวมทั้งจิมที่ยืนคอยปิดประตูรถให้ ‘งานนี้เจ้านายคงเจอของแข็งเข้าให้แล้ว’รถหรูขับไปบนถนนกลางกรุงด้วยความเร็วสูง ภายในรถเกิดความเงียบขึ้นไม่มีใครพูดอะไรออกมา ร่างบางเมามายนั่งเอนตัวพิงประตูรถ ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์บวกความเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้เธอผล็อยหลับได้ไม่ยาก“เอาไงดีครับนาย?” จิมเอ่ยถามพลางมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง เขาขับรถเข้ามาจอดสนิทในที่ประจำเรียบร้อยแล้ว แต่หญิงสาวยังคงหลับไม่ขยับเขยื้อน แม้ว่าเซนโซ่จะพยายามปลุกเธอหลายครั้งแล้วก็ตาม“ภาระชิบหาย”“ให้ผมช่วยอุ้มเธอมั้ยครับ”“ไม่ต้อง!...มึงไปกดลิฟท์”“ยังไม่ทันไร ก็หวงซะแล้ว” จิมบ่นพึมพำเสียงเบาแต่ก็ดังมากพอให้เซนโซ่ได้ยิน ขณะก้าวเดินนำหน้าเจ้านายเพื่อทำตามคำสั่ง“ไอ้จิม!กูไ
“โมเอิร์น”“อ้าว..เจ นั่งก่อนสิ”“เราซื้อขนมมาฝาก” เจ ชายหนุ่มหน้าตี๋เพื่อนร่วมคลาสเรียนยื่นถุงขนมเจ้าดังให้โมเอิร์นพร้อมกับนั่งลงฝั่งตรงข้ามข้างนิว ใบหน้าหล่อเชื้อสายจีนเผยรอยยิ้มให้ได้เห็น“ขอบใจนะ” โมเอิร์นรับไว้ตามมารยาทไม่อยากหักหารน้ำใจชายหนุ่มถึงแม้เธอจะไม่ชอบกินขนมก็ตามและรู้ดีว่าเจเข้าหาเพราะต้องการจีบ แต่เขาไม่ใช่สเปคผู้ชายที่ชอบเธอจึงรักษาระยะห่างไว้ ไม่ให้ความหวัง“นั่งกันตั้งสามคนซื้อมาฝากโมคนเดียวหรอ นิวกับแพงก็ชอบกินขนมนะ” พะแพงเอ่ยแซว ทำเจถึงกับยิ้มแห้งไปไม่เป็น“นั่นดิ เราก็ชอบ” นิวพูดเสริม พร้อมกับขยับเข้าใกล้เพื่อนชาย“เอ่อ...ระเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันในคลาส” หนุ่มตี๋ขี้อายรีบพาตัวเองออกไปจากตรงนั้น เพราะถูกสาวๆรุกหนักจนไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อทั้งโต๊ะเหลือเพียงสาวๆขนมของฝากก็ถูกวางลงตรงหน้านิวกับพะแพงทันทีเฉกเช่นทุกครั้ง“อิ่มมาก~&r
สามสาวเริ่มมึนเมา แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปหลายต่อหลายแก้วออกฤทธิ์ได้เป็นอย่างดี ดวงหน้าสวยเปลี่ยนสีแดงระเรื่อดวงตาหวานเยิ้มมองเห็นคนรอบข้างไม่ชัดเจน น้ำเสียงยานครางฟังแทบไม่ได้ศัพท์แต่ก็พยายามสื่อสารพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มอย่างออกรสชาติ“วู้วว...ฉันชอบที่นี่จัง”“เราต้องมาบ่อยๆแล้ว”“ฉันเห็นด้วย พวกแกเดี๋ยวฉันมานะ~” โมเอิร์นเอ่ยบอกน้ำเสียงอู้อี้หมุนตัวเตรียมก้าวเดินออกไปจากโต๊ะ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อแขนเรียวของเธอถูกพะแพงรั้งเอาไว้เสียก่อน“จะไปไหน?” เสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหล่อนเมามากไม่ต่างจากโมเอิร์นซักนิด“นั่นดิ คนเยอะแบบนี้แกเดินกลับโต๊ะถูกใช่มั้ย”“กลับถูกสิ ฉันไปตรงนู้นแป๊บเดียว~” มือบางยกขึ้นชี้อย่างไร้ทิศทาง ก่อนจะก้าวเดินออกไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อนทั้งสองคนอีก ร่างบางเมามายก้าวเดินฝ่าผู้คนจำนวนมากสายตาเพ่งมองแผ่นหลังหนาของจิม พลางสาวเท้าตามไปยังชั้นสองเลี้ยวขวาตรงไปตามทางมืดสลัวไร้ผู้คนตึก! ตึก!ทว่า เสียงรองเท้าส้นสูง
ก๊อก! ก๊อก!ร่างสูงดูดีละสายตาจากหน้าจอไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องไปยังประตูบานใหญ่หน้าห้องทำงาน ภายในเพนท์เฮาส์สุดหรูบนตึกสูงระฟ้ากลางเมืองแหล่งธุรกิจ“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มต่ำเอ่ยอนุญาต ประตูถูกเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของ ‘จิม’ มือขวาคนสนิทผู้ติดตามเขาไปทุกที่เพื่อดูแลและช่วยอำนวยความสะดวก ร่างหนาสูงโปร่งสาวเท้าเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานเจ้านาย“มีอะไร”“นายใหญ่โทรมาสั่งให้นายไปพบที่บ้านตอนนี้ครับ”“ทำไม?”“ไม่ทราบครับนาย” จิมตอบกลับ พลางก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด ยอมรับว่าตนเองบกพร่องในหน้าที่แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อคนที่อยู่ปลายสายคือนายใหญ่ผู้มีพระคุณ เขาจึงไม่กล้าซักไซ้ไล่ถาม“จิ๊!...” เสียงจิ๊จ๊ะดังจากปากหนาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นยืนก้าวเดินออกจากห้องไป โดยมีลูกน้องคนสนิทเดินตามมาติดๆ เพื่อทำหน้าที่คนขับรถใช้เวลาไม่นานนัก รถหรูสีดำเงาก็ขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สีขาว ตั้งเด่นตระง่านบนพื้นที่กว่าสี่ไร่กลางกรุงตึก! ตึก!สองเท้าหนักก้าวเดินเข้ามาในคฤหาสน์หรูโอ่อ่า ที่ๆเขาอาศัยอยู่ตั้งแต่จำความได้ ก่อนจะย้ายไปอยู่อังกฤษเพื่อศึกษาเล่าเรียนและเติบโ
ร่างบางระหงในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำตัดผิว ความยาวเหนือเข่าขึ้นมามาก ใบหน้าสวยใสสมวัยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดังส่งให้เธอดูออร่าโดดเด่น เป็นที่หมายตาของชายหลายคน ผมสลวยปล่อยสยายถึงกลางแผ่นหลัง ดวงตากลมโตซุกซนน่าค้นหา ปากนิดจมูกหน่อยรับกับใบหน้า เท้าเล็กบนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วสีเข้ากันกับชุด ก้าวเดินเข้ามาภายในคลับหรู ที่เปิดเพลงเสียงดังกระหึ่ม แสงไฟหลากสีวิบวับท่ามกลางความมืดสลัวของห้องโถงใหญ่ มีผู้เหล่านักท่องราตรีจำนวนมากทั้งชายและหญิง วัยเรียนวัยทำงานปะปนกัน ออกสเต็ปโยกตัวไปตามจังหวะดนตรี บ้างก็นั่งพูดคุยดื่มด่ำบรรยากาศภายในสถานบันเทิง“ยัยโม…ทางนี้” พะแพงตะโกนเรียกแข่งกับเสียงเพลง พลันยกมือขึ้นโบกไปมาส่งสัญญาณให้เพื่อนเห็น‘โมเอิร์น’ หญิงสาวใบหน้าสวยจิ้มลิ้ม วัย21 เรียนปี3คณะธุรกิจการบิน ส่วนสูงร้อยห้าสิบแปดเซนติเมตร เล็กอุ้มง่าย ทว่า หน้าอกหน้าใจกลับไม่เล็กตามตัว ยิ่งใส่ชุดเซ็กซี่ยิ่งเผยให้เห็นความอวบใหญ่ขนาดเกินตัวชวนให้เหลียวมอง“คนเยอะมาก...พี่ครามมารึยัง?” โมเอิร์นเอ่ยถาม สองเท้าหยุดยืนข้างเพื่อนสาว“ยัง...มาถึงก็ถามหาผู้ชายเลยนะ เพื่อนสองคนนั่งหัวโด่งไม่พูดถึงซักคำ”โมเ
สามสาวเริ่มมึนเมา แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปหลายต่อหลายแก้วออกฤทธิ์ได้เป็นอย่างดี ดวงหน้าสวยเปลี่ยนสีแดงระเรื่อดวงตาหวานเยิ้มมองเห็นคนรอบข้างไม่ชัดเจน น้ำเสียงยานครางฟังแทบไม่ได้ศัพท์แต่ก็พยายามสื่อสารพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มอย่างออกรสชาติ“วู้วว...ฉันชอบที่นี่จัง”“เราต้องมาบ่อยๆแล้ว”“ฉันเห็นด้วย พวกแกเดี๋ยวฉันมานะ~” โมเอิร์นเอ่ยบอกน้ำเสียงอู้อี้หมุนตัวเตรียมก้าวเดินออกไปจากโต๊ะ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อแขนเรียวของเธอถูกพะแพงรั้งเอาไว้เสียก่อน“จะไปไหน?” เสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหล่อนเมามากไม่ต่างจากโมเอิร์นซักนิด“นั่นดิ คนเยอะแบบนี้แกเดินกลับโต๊ะถูกใช่มั้ย”“กลับถูกสิ ฉันไปตรงนู้นแป๊บเดียว~” มือบางยกขึ้นชี้อย่างไร้ทิศทาง ก่อนจะก้าวเดินออกไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อนทั้งสองคนอีก ร่างบางเมามายก้าวเดินฝ่าผู้คนจำนวนมากสายตาเพ่งมองแผ่นหลังหนาของจิม พลางสาวเท้าตามไปยังชั้นสองเลี้ยวขวาตรงไปตามทางมืดสลัวไร้ผู้คนตึก! ตึก!ทว่า เสียงรองเท้าส้นสูง
“โมเอิร์น”“อ้าว..เจ นั่งก่อนสิ”“เราซื้อขนมมาฝาก” เจ ชายหนุ่มหน้าตี๋เพื่อนร่วมคลาสเรียนยื่นถุงขนมเจ้าดังให้โมเอิร์นพร้อมกับนั่งลงฝั่งตรงข้ามข้างนิว ใบหน้าหล่อเชื้อสายจีนเผยรอยยิ้มให้ได้เห็น“ขอบใจนะ” โมเอิร์นรับไว้ตามมารยาทไม่อยากหักหารน้ำใจชายหนุ่มถึงแม้เธอจะไม่ชอบกินขนมก็ตามและรู้ดีว่าเจเข้าหาเพราะต้องการจีบ แต่เขาไม่ใช่สเปคผู้ชายที่ชอบเธอจึงรักษาระยะห่างไว้ ไม่ให้ความหวัง“นั่งกันตั้งสามคนซื้อมาฝากโมคนเดียวหรอ นิวกับแพงก็ชอบกินขนมนะ” พะแพงเอ่ยแซว ทำเจถึงกับยิ้มแห้งไปไม่เป็น“นั่นดิ เราก็ชอบ” นิวพูดเสริม พร้อมกับขยับเข้าใกล้เพื่อนชาย“เอ่อ...ระเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันในคลาส” หนุ่มตี๋ขี้อายรีบพาตัวเองออกไปจากตรงนั้น เพราะถูกสาวๆรุกหนักจนไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อทั้งโต๊ะเหลือเพียงสาวๆขนมของฝากก็ถูกวางลงตรงหน้านิวกับพะแพงทันทีเฉกเช่นทุกครั้ง“อิ่มมาก~&r
“นี่!นาย ฉันเหนื่อยนะ”“ขาสั้นเอง...ช่วยไม่ได้” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ร่างสูงขึ้นไปนั่งบนรถโดยมีลูกน้องคนสนิทเปิดประตูให้“ไอ้...” ไม่ทันได้พ่นคำด่าไปมากกว่านั้น เซนโซ่แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์“ขึ้นรถ!ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งตามเด็กดื้ออย่างเธอกลับบ้านหรอกนะ”“จิ๊!ฝากไว้ก่อนเถอะ” โมเอิร์นพูดเสียงเบาแต่ก็ดังมากพอให้อีกฝ่ายได้ยินรวมทั้งจิมที่ยืนคอยปิดประตูรถให้ ‘งานนี้เจ้านายคงเจอของแข็งเข้าให้แล้ว’รถหรูขับไปบนถนนกลางกรุงด้วยความเร็วสูง ภายในรถเกิดความเงียบขึ้นไม่มีใครพูดอะไรออกมา ร่างบางเมามายนั่งเอนตัวพิงประตูรถ ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์บวกความเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้เธอผล็อยหลับได้ไม่ยาก“เอาไงดีครับนาย?” จิมเอ่ยถามพลางมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง เขาขับรถเข้ามาจอดสนิทในที่ประจำเรียบร้อยแล้ว แต่หญิงสาวยังคงหลับไม่ขยับเขยื้อน แม้ว่าเซนโซ่จะพยายามปลุกเธอหลายครั้งแล้วก็ตาม“ภาระชิบหาย”“ให้ผมช่วยอุ้มเธอมั้ยครับ”“ไม่ต้อง!...มึงไปกดลิฟท์”“ยังไม่ทันไร ก็หวงซะแล้ว” จิมบ่นพึมพำเสียงเบาแต่ก็ดังมากพอให้เซนโซ่ได้ยิน ขณะก้าวเดินนำหน้าเจ้านายเพื่อทำตามคำสั่ง“ไอ้จิม!กูไ
ก๊อก! ก๊อก!“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มเอ่ยอนุญาต ประตูบานใหญ่หน้าห้องเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของจิม ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมกับเอ่ยรายงานความคืบหน้างานที่ได้รับมอบหมาย“ได้เรื่องแล้วครับนาย”“ว่ามา” เสียงทุ้มต่ำพูดบอกทั้งที่สายตาคมยังคงจับจ้องหน้าจอไอแพดตรงหน้าไม่ละไปไหน“รถคันนั้นเป็นของเพื่อนสนิทคุณโมเอิร์นครับ ตอนนี้พวกเธอนั่งดื่มด้วยกันที่ผับ” จิมยื่นโทรศัพท์ของเขาให้เจ้านายดูภาพถ่ายจากสายลับที่ส่งตามประกบภาพชายคนหนึ่งนั่งดื่มร่วมโต๊ะกับหญิงสาวสามคนท่ามกลางบรรยากาศสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง พูดคุยกันอย่างถูกคอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม โมเอิร์นนั่งข้างชายหนุ่มเพื่อนสาวอีกสองคนนั่งฝั่งตรงข้าม“ไอ้นี่เป็นใคร?”“หมอนี่ชื่อครามเจ้าของผับครับ ผับKหลังมหาลัยชื่อดัง ส่วนเพื่อนสนิทคุณโมเอิร์นชื่อนิว อีกคนชื่อพะแพงครับน้องสาวคุณพาย”“มึงออกไปได้แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงลงไปเตรียมรถ”“ครับนาย”เซนโซ่นั่งทำงานต่อจนเสร็จ มือหนากดปิดหน้าจอไอแพดเอนตัวพิงพนักเก้าอี้หนังตัวใหญ่ขับไล่ความเมื่อยล้า ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นเดินออกจ
โมเอิร์นกวาดสายตามองทุกคนในห้องกระทั่งสะดุดกับสายตาคมคู่หนึ่งดวงตากลมโตเบิกโพลงขึ้นเท้าเล็กหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเบนหน้าหนีปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แล้วรีบเดินไปนั่งลงข้างผู้เป็นพ่อ“มาแล้วหรอ” แบล็คเอ่ยขึ้นยิ้มๆ พร้อมยกท่อนแขนโอบไหล่ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาไว้ด้วยความรักและเอ็นดู“ฝีมือป๊าใช่มั้ยคะ?” เสียงหวานกระซิบถามในสิ่งที่เธอสงสัย“ลูกดื้อกับป๊าก่อนครับ...สวัสดีปู่ไซซีก่อนสิ”“สวัสดีค่ะปู่ไซซี” โมเอิร์นเอ่ยทักทายตามคำบอกอย่างว่าง่าย ขืนฉันยังดื้อดึงเกิดโดนยึดรถขึ้นมาคืนนี้คงไปเที่ยวลำบาก“ไหว้พระเถอะลูก...นี่ เซนโซ่ว่าที่คู่หมั้นของหนู”“ห๊ะ! อะไรนะคะ” ร่างบางลุกพรวดพราดร้องตะโกนด้วยความตกใจเมื่อได้ยินไซซีพูดแนะนำอย่างนั้น ‘เจอเขาที่นี่ว่าบังเอิญมากแล้ว แต่เขาดันเป็นคู่หมั้นฉันเนี่ยนะ ตายๆๆ'“โมเบาๆสิลูก นั่งลงก่อน” แบล็คหน้าหดเหลือสองนิ้ว มือสากมีริ้วรอยตามวัยรั้งลูกสาวนั่งลงบนโซฟาเช่นเดิม ใบหน้าคมคายเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าล
“นายครับ นาย” จิมเอ่ยเรียกคนเป็นเจ้านายนอนหลับสนิทบนเตียงกว้างของโรงแรมหรู หลังจากติดต่อเจ้านายไม่ได้ซึ่งผิดนิสัยเป็นอย่างมากเขาจึงรีบขึ้นมาดูในห้อง“ไอ้จิม...” เซนโซ่รู้สึกตัวตื่นเพราะแรงเขย่า ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองหญิงสาวข้างกายก็พบว่าเธอไม่ได้นอนอยู่ตรงนั้นแล้ว ‘ไปไหนวะ’“ใกล้เช้าแล้วครับ นายไม่รับสายผมเลยขึ้นมาดู”“ผู้หญิงคนนั้น....”“ไม่ทราบครับ ผมเห็นนายนอนอยู่คนเดียวเธอคงกลับไปแล้ว” จิมเอ่ยบอก หลังมาส่งเจ้านายกับหญิงสาวคนนั้น เขากลับไปยังห้องทำงานในคลับเพื่อค้นหาข้อมูลของเธอตามคำสั่ง น่าแปลกที่เขาไม่เจอประวัติส่วนตัวเธอเลย หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงสืบหาได้ไม่ยาก เขาพยายามอย่างสุดความสามารถแต่กลับได้เพียงรูปถ่ายเพียงไปกี่รูปกับชื่อเล่นเท่านั้นไม่ปรากฏชื่อนามสกุลจริง‘ยัยตัวแสบ เธอกล้าหนีฉันอย่างนั้นหรอ’ ร่างสูงเอ่ยคาดโทษในใจ กลับถึงเพนท์เฮาส์เซนโซ่อาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวพับขึ้นถึงข้อศอกกางเกงยีนส์สีเดียวกันเฉกเช่นทุกวัน แล้วเข้ามานั่งในห้องทำงานเปิ
“แก~ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เสียงหวานยานครางตะโกนบอกเพื่อนสนิทแข่งกับเพลงอีดีเอ็มดังกระหึ่มในคลับหรู ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปมากกำลังเล่นงานเธออย่างหนักจนสายตาพร่าเบลอ“ไปคนเดียวได้มั้ยโม~ฉันเดินไม่ไหวอ่ะแก” นิวพูดเสียงอ้อแอ้ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ นั่งโงนเงนค้ำศอกลงบนพื้นโต๊ะมือทั้งสองข้างประคองใบหน้าตัวเองไว้“ฉันด้วย~คืนนี้คงต้องโทรให้พี่พายมารับ~อึก” พะแพงเอ่ยบอกเสียงยานไม่ต่างกัน ปรือตามองเพื่อนสาวด้วยสายตาหวานเยิ้ม“สบายมาก~” จบคำ โมเอิร์นก้าวเดินฝ่าผู้คนแน่นขนัดไปยังห้องน้ำอย่างยากลำบาก หลังจากเสร็จธุระส่วนตัว ร่างบางเดินโซเซเพื่อกลับมายังโต๊ะ ทว่า ด้วยความมึนเมาที่มีมากจึงไม่ทันระวังตัวปึก!“อ๊ะ!” เสียงหวานหลุดร้องด้วยความตกใจ ใบหน้าสวยชนเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคนเข้าอย่างจังจนรู้สึกเจ็บ จมูกโด่งเชิดรั้นแนบชิดเผลอสูดดมกลิ่นหอมของชายหนุ่มปะปนกลิ่นบุหรี่จางๆเข้าลึกสุดปอด ให้ความรู้สึกดีไม่น้อย“จะดมอีกนานมั้ย?!!”“ขอโทษค่ะ~ ฉัน…” ใบหน้าสวยเงยขึ้นช้อนมองอีกฝ่าย สายตาคู่สวยเพ่งมองใบหน้าหล่อเหลาราวกับต้องมนต์สะกด จนเผลอคิดดังขยับปากออกเสียงให้เขาได้ยิน“หล่อจัง~”“เดินไม่ดู!!” ร่
ร่างบางระหงในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำตัดผิว ความยาวเหนือเข่าขึ้นมามาก ใบหน้าสวยใสสมวัยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดังส่งให้เธอดูออร่าโดดเด่น เป็นที่หมายตาของชายหลายคน ผมสลวยปล่อยสยายถึงกลางแผ่นหลัง ดวงตากลมโตซุกซนน่าค้นหา ปากนิดจมูกหน่อยรับกับใบหน้า เท้าเล็กบนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วสีเข้ากันกับชุด ก้าวเดินเข้ามาภายในคลับหรู ที่เปิดเพลงเสียงดังกระหึ่ม แสงไฟหลากสีวิบวับท่ามกลางความมืดสลัวของห้องโถงใหญ่ มีผู้เหล่านักท่องราตรีจำนวนมากทั้งชายและหญิง วัยเรียนวัยทำงานปะปนกัน ออกสเต็ปโยกตัวไปตามจังหวะดนตรี บ้างก็นั่งพูดคุยดื่มด่ำบรรยากาศภายในสถานบันเทิง“ยัยโม…ทางนี้” พะแพงตะโกนเรียกแข่งกับเสียงเพลง พลันยกมือขึ้นโบกไปมาส่งสัญญาณให้เพื่อนเห็น‘โมเอิร์น’ หญิงสาวใบหน้าสวยจิ้มลิ้ม วัย21 เรียนปี3คณะธุรกิจการบิน ส่วนสูงร้อยห้าสิบแปดเซนติเมตร เล็กอุ้มง่าย ทว่า หน้าอกหน้าใจกลับไม่เล็กตามตัว ยิ่งใส่ชุดเซ็กซี่ยิ่งเผยให้เห็นความอวบใหญ่ขนาดเกินตัวชวนให้เหลียวมอง“คนเยอะมาก...พี่ครามมารึยัง?” โมเอิร์นเอ่ยถาม สองเท้าหยุดยืนข้างเพื่อนสาว“ยัง...มาถึงก็ถามหาผู้ชายเลยนะ เพื่อนสองคนนั่งหัวโด่งไม่พูดถึงซักคำ”โมเ
ก๊อก! ก๊อก!ร่างสูงดูดีละสายตาจากหน้าจอไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องไปยังประตูบานใหญ่หน้าห้องทำงาน ภายในเพนท์เฮาส์สุดหรูบนตึกสูงระฟ้ากลางเมืองแหล่งธุรกิจ“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มต่ำเอ่ยอนุญาต ประตูถูกเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของ ‘จิม’ มือขวาคนสนิทผู้ติดตามเขาไปทุกที่เพื่อดูแลและช่วยอำนวยความสะดวก ร่างหนาสูงโปร่งสาวเท้าเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานเจ้านาย“มีอะไร”“นายใหญ่โทรมาสั่งให้นายไปพบที่บ้านตอนนี้ครับ”“ทำไม?”“ไม่ทราบครับนาย” จิมตอบกลับ พลางก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด ยอมรับว่าตนเองบกพร่องในหน้าที่แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อคนที่อยู่ปลายสายคือนายใหญ่ผู้มีพระคุณ เขาจึงไม่กล้าซักไซ้ไล่ถาม“จิ๊!...” เสียงจิ๊จ๊ะดังจากปากหนาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นยืนก้าวเดินออกจากห้องไป โดยมีลูกน้องคนสนิทเดินตามมาติดๆ เพื่อทำหน้าที่คนขับรถใช้เวลาไม่นานนัก รถหรูสีดำเงาก็ขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สีขาว ตั้งเด่นตระง่านบนพื้นที่กว่าสี่ไร่กลางกรุงตึก! ตึก!สองเท้าหนักก้าวเดินเข้ามาในคฤหาสน์หรูโอ่อ่า ที่ๆเขาอาศัยอยู่ตั้งแต่จำความได้ ก่อนจะย้ายไปอยู่อังกฤษเพื่อศึกษาเล่าเรียนและเติบโ