“นายครับ นาย” จิมเอ่ยเรียกคนเป็นเจ้านายนอนหลับสนิทบนเตียงกว้างของโรงแรมหรู หลังจากติดต่อเจ้านายไม่ได้ซึ่งผิดนิสัยเป็นอย่างมากเขาจึงรีบขึ้นมาดูในห้อง
“ไอ้จิม...” เซนโซ่รู้สึกตัวตื่นเพราะแรงเขย่า ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองหญิงสาวข้างกายก็พบว่าเธอไม่ได้นอนอยู่ตรงนั้นแล้ว ‘ไปไหนวะ’
“ใกล้เช้าแล้วครับ นายไม่รับสายผมเลยขึ้นมาดู”
“ผู้หญิงคนนั้น....”
“ไม่ทราบครับ ผมเห็นนายนอนอยู่คนเดียวเธอคงกลับไปแล้ว” จิมเอ่ยบอก หลังมาส่งเจ้านายกับหญิงสาวคนนั้น เขากลับไปยังห้องทำงานในคลับเพื่อค้นหาข้อมูลของเธอตามคำสั่ง น่าแปลกที่เขาไม่เจอประวัติส่วนตัวเธอเลย หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงสืบหาได้ไม่ยาก เขาพยายามอย่างสุดความสามารถแต่กลับได้เพียงรูปถ่ายเพียงไปกี่รูปกับชื่อเล่นเท่านั้นไม่ปรากฏชื่อนามสกุลจริง
‘ยัยตัวแสบ เธอกล้าหนีฉันอย่างนั้นหรอ’ ร่างสูงเอ่ยคาดโทษในใจ กลับถึงเพนท์เฮาส์เซนโซ่อาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวพับขึ้นถึงข้อศอกกางเกงยีนส์สีเดียวกันเฉกเช่นทุกวัน แล้วเข้ามานั่งในห้องทำงานเปิดอ่านเมลที่ลูกน้องคนสนิทส่งให้ คิ้วหนาขมวดเป็นปมสายตาคมมองดูข้อมูลหญิงสาวเพียงน้อยนิดจนน่าสงสัย เมื่อลองสืบค้นด้วยตัวเองก็ได้รู้ไม่มากกว่าเดิม
“เธอเป็นใคร” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่สามารถล่วงรู้ตัวตนของคนที่อยากรู้ได้ สร้างความหงุดหงิดให้มากไม่น้อย ร่างสูงเอนตัวไปกับพนักพิงเก้าอี้หัวสมองพลันครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนหากเธอเป็นคนของศัตรูเขาคงตายไปแล้ว
อีกด้าน...
“เมื่อคืนหนีกลับทำไมไม่บอกยะ” ทันทีที่โมเอิร์นก้าวเดินมาถึงโต๊ะหินอ่อนที่นั่งประจำพะแพงพูดขึ้นด้วยท่าทีเง้างอน หล่อนกับนิวเป็นห่วงแทบแย่ตามหาจนทั่วทั้งคลับก็ไม่เจอโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ เธอสองคนร้อนใจจนส่างเมา
“โทษทีฉันเมา” โมเอิร์นนั่งลงบนเก้าอี้ พลางเอื้อมมือคว้าแก้วกาแฟบนโต๊ะขึ้นดื่ม รู้ดีว่ากาแฟแก้วนี้เป็นของเธอเพราะฝากนิวซื้อทุกวัน
“หน้าโทรมเชียวแก ได้นอนรึเปล่า?” ประโยคคำถามของนิวทำโมเอิร์นหยุดชะงักเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าดื่มกาแฟอีกครั้ง หัวสมองพลันนึกถึงฉากเร่าร้อนกับชายหนุ่มแปลกหน้า ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเขาด้วยซ้ำ แต่ช่างเถอะ!ฉันไม่คิดสานต่อหรือเรียกร้องอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างจบแค่บนเตียง
“นอนน้อยมั้ง” โมเอิร์นตอบส่งๆ มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถดูโซเชียล พะแพงกับนิวถึงกับส่ายหน้าให้กับท่าทีไม่สนโลกของเพื่อนแต่ก็ไม่คิดถือสา พวกเธอคบกันมานานรู้จักนิสัยเป็นอย่างดี
“ป๊าแกจะให้หมั้นเมื่อไหร่”
“ไม่รู้สิ เฮ้อ...ฉันจะค้านหลังชนฝาเลยคอยดู”
“อย่าเครียดไปเลย แค่หมั้น…ยังไม่ได้แต่งซักหน่อย” นิวเอ่ยปลอบ เธอเข้าใจความรู้สึกเพื่อนถ้าเราต้องหมั้นกับใครซักคนก็ควรเป็นคนที่เรารักและเขาก็รักเราไม่ใช่คนแปลกหน้าแบบนี้
“ใช่ ยังไม่ได้แต่งอย่าไปใส่ใจนะเพื่อนรัก” พะแพงตบไหล่เพื่อนเบาๆอย่างต้องการให้กำลังใจ
“อืม...เข้าเรียนเถอะได้เวลาแล้ว”
“ป่ะ”
หลังหมดคลาสเรียนโมเอิร์นกับเพื่อนพากันมาเดินช้อปปิ้งที่ห้างดังใจกลางเมือง กระเป๋าแบรนด์เนมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดคือเป้าหมายของพวกเราในวันนี้
“เอ่อ..คุณลูกค้ามีบัตรใบอื่นมั้ยคะใบนี้รูดไม่ผ่านค่ะ” พนักงานเอ่ยถามด้วยท่าทีสุภาพ ก่อนจะยื่นบัตรเครดิตวงเงินเฉียดเจ็ดหลักคืนให้โมเอิร์น
“ห๊ะ!...เป็นไปได้ไง” คิ้วเรียวเล็กขมวดมุ่นเดือนนี้ฉันยังไม่ได้ซื้อของเลยนะจะรูดไม่ผ่านได้ไงหรือว่า.... ไม่ทันได้คิดอะไรไปมากกว่านั้น เสียงขรึมของชายชุดดำเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลังเรียกให้โมเอิร์นกับเพื่อนรวมทั้งพนักงานร้านหันไปมองยังคนมาใหม่
“คุณโมครับ นายให้ผมมารับกลับบ้านครับ” ลูกน้องมือขวาของแบล็คหยุดยืนตรงหน้าหญิงสาวลูกรักเจ้านายเขา พร้อมกับพูดบอกตามคำสั่งเด็ดขาด
“ป๊าระงับบัตรเคดิตฉันใช่มั้ย!” โมเอิร์นเอ่ยเสียงแข็งจ้องมองบอดี้การ์ดด้วยท่าทีเอาเรื่อง ต้องใช่แน่ๆแค่ฉันไม่ไปตามนัดถึงกับต้องทำกันขนาดนี้เลยหรอ ได้!อยากให้หมั้นมากนักใช่มั้ย ฉันจะทำตามที่ป๊ากับปู่ต้องการ หวังว่าไอ้คู่หมั้นคนนั้นจะไม่อกแตกตายไปก่อนนะ
“ครับ คุณโมกลับไปกับผมเถอะนะครับ”
“แพง นิว ฉันกลับก่อนนะ...เจอกัน”
“โมค่อยๆคุยกันนะ ป๊าคงอยากให้แกมีคนคอยดูแล” พะแพงเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วง
“อืม”
“พรุ่งนี้เจอกันที่มอ.”
โมเอิร์นเดินตามชายชุดดำมายังลานจอดรถ ก่อนที่ชายคนนั้นจะเร่งฝีเท้าเดินนำไปเปิดประตูรถให้หญิงสาวขึ้นนั่งบนเบาะด้านหลังและรีบพาตัวเองไปนั่งข้างคนขับพร้อมเอ่ยสั่งให้ออกรถทันที ใช้เวลาไม่นานรถหรูสีดำเงาขับเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่
“ใครมา?” สายตาคู่สวยมองผ่านกระจกหน้าต่างรถ เห็นรถหรูไม่คุ้นตาจอดอยู่ไม่ไกลมากนัก
“ไม่ทราบครับ”
ร่างบางระหงในชุดนักศึกษารัดรูปกระโปรงทรงเอความยาวเหนือเข่า ก้าวเดินไปยังในห้องรับแขกที่มีปู่และผู้เป็นพ่อนั่งอยู่กับผู้ชายอีกสองคนหันหลังมายังทิศทางที่เธอยืน ทว่า เมื่อเดินเข้าใกล้กลับเรียกสายตาของคนทั้งห้องให้หันมามองที่เธอเป็นจุดเดียว
โมเอิร์นกวาดสายตามองทุกคนในห้องกระทั่งสะดุดกับสายตาคมคู่หนึ่งดวงตากลมโตเบิกโพลงขึ้นเท้าเล็กหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเบนหน้าหนีปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แล้วรีบเดินไปนั่งลงข้างผู้เป็นพ่อ“มาแล้วหรอ” แบล็คเอ่ยขึ้นยิ้มๆ พร้อมยกท่อนแขนโอบไหล่ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาไว้ด้วยความรักและเอ็นดู“ฝีมือป๊าใช่มั้ยคะ?” เสียงหวานกระซิบถามในสิ่งที่เธอสงสัย“ลูกดื้อกับป๊าก่อนครับ...สวัสดีปู่ไซซีก่อนสิ”“สวัสดีค่ะปู่ไซซี” โมเอิร์นเอ่ยทักทายตามคำบอกอย่างว่าง่าย ขืนฉันยังดื้อดึงเกิดโดนยึดรถขึ้นมาคืนนี้คงไปเที่ยวลำบาก“ไหว้พระเถอะลูก...นี่ เซนโซ่ว่าที่คู่หมั้นของหนู”“ห๊ะ! อะไรนะคะ” ร่างบางลุกพรวดพราดร้องตะโกนด้วยความตกใจเมื่อได้ยินไซซีพูดแนะนำอย่างนั้น ‘เจอเขาที่นี่ว่าบังเอิญมากแล้ว แต่เขาดันเป็นคู่หมั้นฉันเนี่ยนะ ตายๆๆ'“โมเบาๆสิลูก นั่งลงก่อน” แบล็คหน้าหดเหลือสองนิ้ว มือสากมีริ้วรอยตามวัยรั้งลูกสาวนั่งลงบนโซฟาเช่นเดิม ใบหน้าคมคายเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าล
ก๊อก! ก๊อก!“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มเอ่ยอนุญาต ประตูบานใหญ่หน้าห้องเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของจิม ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมกับเอ่ยรายงานความคืบหน้างานที่ได้รับมอบหมาย“ได้เรื่องแล้วครับนาย”“ว่ามา” เสียงทุ้มต่ำพูดบอกทั้งที่สายตาคมยังคงจับจ้องหน้าจอไอแพดตรงหน้าไม่ละไปไหน“รถคันนั้นเป็นของเพื่อนสนิทคุณโมเอิร์นครับ ตอนนี้พวกเธอนั่งดื่มด้วยกันที่ผับ” จิมยื่นโทรศัพท์ของเขาให้เจ้านายดูภาพถ่ายจากสายลับที่ส่งตามประกบภาพชายคนหนึ่งนั่งดื่มร่วมโต๊ะกับหญิงสาวสามคนท่ามกลางบรรยากาศสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง พูดคุยกันอย่างถูกคอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม โมเอิร์นนั่งข้างชายหนุ่มเพื่อนสาวอีกสองคนนั่งฝั่งตรงข้าม“ไอ้นี่เป็นใคร?”“หมอนี่ชื่อครามเจ้าของผับครับ ผับKหลังมหาลัยชื่อดัง ส่วนเพื่อนสนิทคุณโมเอิร์นชื่อนิว อีกคนชื่อพะแพงครับน้องสาวคุณพาย”“มึงออกไปได้แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงลงไปเตรียมรถ”“ครับนาย”เซนโซ่นั่งทำงานต่อจนเสร็จ มือหนากดปิดหน้าจอไอแพดเอนตัวพิงพนักเก้าอี้หนังตัวใหญ่ขับไล่ความเมื่อยล้า ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นเดินออกจ
“นี่!นาย ฉันเหนื่อยนะ”“ขาสั้นเอง...ช่วยไม่ได้” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ร่างสูงขึ้นไปนั่งบนรถโดยมีลูกน้องคนสนิทเปิดประตูให้“ไอ้...” ไม่ทันได้พ่นคำด่าไปมากกว่านั้น เซนโซ่แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์“ขึ้นรถ!ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งตามเด็กดื้ออย่างเธอกลับบ้านหรอกนะ”“จิ๊!ฝากไว้ก่อนเถอะ” โมเอิร์นพูดเสียงเบาแต่ก็ดังมากพอให้อีกฝ่ายได้ยินรวมทั้งจิมที่ยืนคอยปิดประตูรถให้ ‘งานนี้เจ้านายคงเจอของแข็งเข้าให้แล้ว’รถหรูขับไปบนถนนกลางกรุงด้วยความเร็วสูง ภายในรถเกิดความเงียบขึ้นไม่มีใครพูดอะไรออกมา ร่างบางเมามายนั่งเอนตัวพิงประตูรถ ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์บวกความเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้เธอผล็อยหลับได้ไม่ยาก“เอาไงดีครับนาย?” จิมเอ่ยถามพลางมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง เขาขับรถเข้ามาจอดสนิทในที่ประจำเรียบร้อยแล้ว แต่หญิงสาวยังคงหลับไม่ขยับเขยื้อน แม้ว่าเซนโซ่จะพยายามปลุกเธอหลายครั้งแล้วก็ตาม“ภาระชิบหาย”“ให้ผมช่วยอุ้มเธอมั้ยครับ”“ไม่ต้อง!...มึงไปกดลิฟท์”“ยังไม่ทันไร ก็หวงซะแล้ว” จิมบ่นพึมพำเสียงเบาแต่ก็ดังมากพอให้เซนโซ่ได้ยิน ขณะก้าวเดินนำหน้าเจ้านายเพื่อทำตามคำสั่ง“ไอ้จิม!กูไ
“โมเอิร์น”“อ้าว..เจ นั่งก่อนสิ”“เราซื้อขนมมาฝาก” เจ ชายหนุ่มหน้าตี๋เพื่อนร่วมคลาสเรียนยื่นถุงขนมเจ้าดังให้โมเอิร์นพร้อมกับนั่งลงฝั่งตรงข้ามข้างนิว ใบหน้าหล่อเชื้อสายจีนเผยรอยยิ้มให้ได้เห็น“ขอบใจนะ” โมเอิร์นรับไว้ตามมารยาทไม่อยากหักหารน้ำใจชายหนุ่มถึงแม้เธอจะไม่ชอบกินขนมก็ตามและรู้ดีว่าเจเข้าหาเพราะต้องการจีบ แต่เขาไม่ใช่สเปคผู้ชายที่ชอบเธอจึงรักษาระยะห่างไว้ ไม่ให้ความหวัง“นั่งกันตั้งสามคนซื้อมาฝากโมคนเดียวหรอ นิวกับแพงก็ชอบกินขนมนะ” พะแพงเอ่ยแซว ทำเจถึงกับยิ้มแห้งไปไม่เป็น“นั่นดิ เราก็ชอบ” นิวพูดเสริม พร้อมกับขยับเข้าใกล้เพื่อนชาย“เอ่อ...ระเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันในคลาส” หนุ่มตี๋ขี้อายรีบพาตัวเองออกไปจากตรงนั้น เพราะถูกสาวๆรุกหนักจนไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อทั้งโต๊ะเหลือเพียงสาวๆขนมของฝากก็ถูกวางลงตรงหน้านิวกับพะแพงทันทีเฉกเช่นทุกครั้ง“อิ่มมาก~&r
สามสาวเริ่มมึนเมา แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปหลายต่อหลายแก้วออกฤทธิ์ได้เป็นอย่างดี ดวงหน้าสวยเปลี่ยนสีแดงระเรื่อดวงตาหวานเยิ้มมองเห็นคนรอบข้างไม่ชัดเจน น้ำเสียงยานครางฟังแทบไม่ได้ศัพท์แต่ก็พยายามสื่อสารพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มอย่างออกรสชาติ“วู้วว...ฉันชอบที่นี่จัง”“เราต้องมาบ่อยๆแล้ว”“ฉันเห็นด้วย พวกแกเดี๋ยวฉันมานะ~” โมเอิร์นเอ่ยบอกน้ำเสียงอู้อี้หมุนตัวเตรียมก้าวเดินออกไปจากโต๊ะ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อแขนเรียวของเธอถูกพะแพงรั้งเอาไว้เสียก่อน“จะไปไหน?” เสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหล่อนเมามากไม่ต่างจากโมเอิร์นซักนิด“นั่นดิ คนเยอะแบบนี้แกเดินกลับโต๊ะถูกใช่มั้ย”“กลับถูกสิ ฉันไปตรงนู้นแป๊บเดียว~” มือบางยกขึ้นชี้อย่างไร้ทิศทาง ก่อนจะก้าวเดินออกไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อนทั้งสองคนอีก ร่างบางเมามายก้าวเดินฝ่าผู้คนจำนวนมากสายตาเพ่งมองแผ่นหลังหนาของจิม พลางสาวเท้าตามไปยังชั้นสองเลี้ยวขวาตรงไปตามทางมืดสลัวไร้ผู้คนตึก! ตึก!ทว่า เสียงรองเท้าส้นสูง
ก๊อก! ก๊อก!ร่างสูงดูดีละสายตาจากหน้าจอไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องไปยังประตูบานใหญ่หน้าห้องทำงาน ภายในเพนท์เฮาส์สุดหรูบนตึกสูงระฟ้ากลางเมืองแหล่งธุรกิจ“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มต่ำเอ่ยอนุญาต ประตูถูกเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของ ‘จิม’ มือขวาคนสนิทผู้ติดตามเขาไปทุกที่เพื่อดูแลและช่วยอำนวยความสะดวก ร่างหนาสูงโปร่งสาวเท้าเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานเจ้านาย“มีอะไร”“นายใหญ่โทรมาสั่งให้นายไปพบที่บ้านตอนนี้ครับ”“ทำไม?”“ไม่ทราบครับนาย” จิมตอบกลับ พลางก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด ยอมรับว่าตนเองบกพร่องในหน้าที่แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อคนที่อยู่ปลายสายคือนายใหญ่ผู้มีพระคุณ เขาจึงไม่กล้าซักไซ้ไล่ถาม“จิ๊!...” เสียงจิ๊จ๊ะดังจากปากหนาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นยืนก้าวเดินออกจากห้องไป โดยมีลูกน้องคนสนิทเดินตามมาติดๆ เพื่อทำหน้าที่คนขับรถใช้เวลาไม่นานนัก รถหรูสีดำเงาก็ขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สีขาว ตั้งเด่นตระง่านบนพื้นที่กว่าสี่ไร่กลางกรุงตึก! ตึก!สองเท้าหนักก้าวเดินเข้ามาในคฤหาสน์หรูโอ่อ่า ที่ๆเขาอาศัยอยู่ตั้งแต่จำความได้ ก่อนจะย้ายไปอยู่อังกฤษเพื่อศึกษาเล่าเรียนและเติบโ
ร่างบางระหงในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำตัดผิว ความยาวเหนือเข่าขึ้นมามาก ใบหน้าสวยใสสมวัยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดังส่งให้เธอดูออร่าโดดเด่น เป็นที่หมายตาของชายหลายคน ผมสลวยปล่อยสยายถึงกลางแผ่นหลัง ดวงตากลมโตซุกซนน่าค้นหา ปากนิดจมูกหน่อยรับกับใบหน้า เท้าเล็กบนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วสีเข้ากันกับชุด ก้าวเดินเข้ามาภายในคลับหรู ที่เปิดเพลงเสียงดังกระหึ่ม แสงไฟหลากสีวิบวับท่ามกลางความมืดสลัวของห้องโถงใหญ่ มีผู้เหล่านักท่องราตรีจำนวนมากทั้งชายและหญิง วัยเรียนวัยทำงานปะปนกัน ออกสเต็ปโยกตัวไปตามจังหวะดนตรี บ้างก็นั่งพูดคุยดื่มด่ำบรรยากาศภายในสถานบันเทิง“ยัยโม…ทางนี้” พะแพงตะโกนเรียกแข่งกับเสียงเพลง พลันยกมือขึ้นโบกไปมาส่งสัญญาณให้เพื่อนเห็น‘โมเอิร์น’ หญิงสาวใบหน้าสวยจิ้มลิ้ม วัย21 เรียนปี3คณะธุรกิจการบิน ส่วนสูงร้อยห้าสิบแปดเซนติเมตร เล็กอุ้มง่าย ทว่า หน้าอกหน้าใจกลับไม่เล็กตามตัว ยิ่งใส่ชุดเซ็กซี่ยิ่งเผยให้เห็นความอวบใหญ่ขนาดเกินตัวชวนให้เหลียวมอง“คนเยอะมาก...พี่ครามมารึยัง?” โมเอิร์นเอ่ยถาม สองเท้าหยุดยืนข้างเพื่อนสาว“ยัง...มาถึงก็ถามหาผู้ชายเลยนะ เพื่อนสองคนนั่งหัวโด่งไม่พูดถึงซักคำ”โมเ
“แก~ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เสียงหวานยานครางตะโกนบอกเพื่อนสนิทแข่งกับเพลงอีดีเอ็มดังกระหึ่มในคลับหรู ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปมากกำลังเล่นงานเธออย่างหนักจนสายตาพร่าเบลอ“ไปคนเดียวได้มั้ยโม~ฉันเดินไม่ไหวอ่ะแก” นิวพูดเสียงอ้อแอ้ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ นั่งโงนเงนค้ำศอกลงบนพื้นโต๊ะมือทั้งสองข้างประคองใบหน้าตัวเองไว้“ฉันด้วย~คืนนี้คงต้องโทรให้พี่พายมารับ~อึก” พะแพงเอ่ยบอกเสียงยานไม่ต่างกัน ปรือตามองเพื่อนสาวด้วยสายตาหวานเยิ้ม“สบายมาก~” จบคำ โมเอิร์นก้าวเดินฝ่าผู้คนแน่นขนัดไปยังห้องน้ำอย่างยากลำบาก หลังจากเสร็จธุระส่วนตัว ร่างบางเดินโซเซเพื่อกลับมายังโต๊ะ ทว่า ด้วยความมึนเมาที่มีมากจึงไม่ทันระวังตัวปึก!“อ๊ะ!” เสียงหวานหลุดร้องด้วยความตกใจ ใบหน้าสวยชนเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคนเข้าอย่างจังจนรู้สึกเจ็บ จมูกโด่งเชิดรั้นแนบชิดเผลอสูดดมกลิ่นหอมของชายหนุ่มปะปนกลิ่นบุหรี่จางๆเข้าลึกสุดปอด ให้ความรู้สึกดีไม่น้อย“จะดมอีกนานมั้ย?!!”“ขอโทษค่ะ~ ฉัน…” ใบหน้าสวยเงยขึ้นช้อนมองอีกฝ่าย สายตาคู่สวยเพ่งมองใบหน้าหล่อเหลาราวกับต้องมนต์สะกด จนเผลอคิดดังขยับปากออกเสียงให้เขาได้ยิน“หล่อจัง~”“เดินไม่ดู!!” ร่
สามสาวเริ่มมึนเมา แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปหลายต่อหลายแก้วออกฤทธิ์ได้เป็นอย่างดี ดวงหน้าสวยเปลี่ยนสีแดงระเรื่อดวงตาหวานเยิ้มมองเห็นคนรอบข้างไม่ชัดเจน น้ำเสียงยานครางฟังแทบไม่ได้ศัพท์แต่ก็พยายามสื่อสารพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มอย่างออกรสชาติ“วู้วว...ฉันชอบที่นี่จัง”“เราต้องมาบ่อยๆแล้ว”“ฉันเห็นด้วย พวกแกเดี๋ยวฉันมานะ~” โมเอิร์นเอ่ยบอกน้ำเสียงอู้อี้หมุนตัวเตรียมก้าวเดินออกไปจากโต๊ะ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อแขนเรียวของเธอถูกพะแพงรั้งเอาไว้เสียก่อน“จะไปไหน?” เสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหล่อนเมามากไม่ต่างจากโมเอิร์นซักนิด“นั่นดิ คนเยอะแบบนี้แกเดินกลับโต๊ะถูกใช่มั้ย”“กลับถูกสิ ฉันไปตรงนู้นแป๊บเดียว~” มือบางยกขึ้นชี้อย่างไร้ทิศทาง ก่อนจะก้าวเดินออกไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อนทั้งสองคนอีก ร่างบางเมามายก้าวเดินฝ่าผู้คนจำนวนมากสายตาเพ่งมองแผ่นหลังหนาของจิม พลางสาวเท้าตามไปยังชั้นสองเลี้ยวขวาตรงไปตามทางมืดสลัวไร้ผู้คนตึก! ตึก!ทว่า เสียงรองเท้าส้นสูง
“โมเอิร์น”“อ้าว..เจ นั่งก่อนสิ”“เราซื้อขนมมาฝาก” เจ ชายหนุ่มหน้าตี๋เพื่อนร่วมคลาสเรียนยื่นถุงขนมเจ้าดังให้โมเอิร์นพร้อมกับนั่งลงฝั่งตรงข้ามข้างนิว ใบหน้าหล่อเชื้อสายจีนเผยรอยยิ้มให้ได้เห็น“ขอบใจนะ” โมเอิร์นรับไว้ตามมารยาทไม่อยากหักหารน้ำใจชายหนุ่มถึงแม้เธอจะไม่ชอบกินขนมก็ตามและรู้ดีว่าเจเข้าหาเพราะต้องการจีบ แต่เขาไม่ใช่สเปคผู้ชายที่ชอบเธอจึงรักษาระยะห่างไว้ ไม่ให้ความหวัง“นั่งกันตั้งสามคนซื้อมาฝากโมคนเดียวหรอ นิวกับแพงก็ชอบกินขนมนะ” พะแพงเอ่ยแซว ทำเจถึงกับยิ้มแห้งไปไม่เป็น“นั่นดิ เราก็ชอบ” นิวพูดเสริม พร้อมกับขยับเข้าใกล้เพื่อนชาย“เอ่อ...ระเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันในคลาส” หนุ่มตี๋ขี้อายรีบพาตัวเองออกไปจากตรงนั้น เพราะถูกสาวๆรุกหนักจนไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อทั้งโต๊ะเหลือเพียงสาวๆขนมของฝากก็ถูกวางลงตรงหน้านิวกับพะแพงทันทีเฉกเช่นทุกครั้ง“อิ่มมาก~&r
“นี่!นาย ฉันเหนื่อยนะ”“ขาสั้นเอง...ช่วยไม่ได้” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ร่างสูงขึ้นไปนั่งบนรถโดยมีลูกน้องคนสนิทเปิดประตูให้“ไอ้...” ไม่ทันได้พ่นคำด่าไปมากกว่านั้น เซนโซ่แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์“ขึ้นรถ!ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งตามเด็กดื้ออย่างเธอกลับบ้านหรอกนะ”“จิ๊!ฝากไว้ก่อนเถอะ” โมเอิร์นพูดเสียงเบาแต่ก็ดังมากพอให้อีกฝ่ายได้ยินรวมทั้งจิมที่ยืนคอยปิดประตูรถให้ ‘งานนี้เจ้านายคงเจอของแข็งเข้าให้แล้ว’รถหรูขับไปบนถนนกลางกรุงด้วยความเร็วสูง ภายในรถเกิดความเงียบขึ้นไม่มีใครพูดอะไรออกมา ร่างบางเมามายนั่งเอนตัวพิงประตูรถ ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์บวกความเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้เธอผล็อยหลับได้ไม่ยาก“เอาไงดีครับนาย?” จิมเอ่ยถามพลางมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง เขาขับรถเข้ามาจอดสนิทในที่ประจำเรียบร้อยแล้ว แต่หญิงสาวยังคงหลับไม่ขยับเขยื้อน แม้ว่าเซนโซ่จะพยายามปลุกเธอหลายครั้งแล้วก็ตาม“ภาระชิบหาย”“ให้ผมช่วยอุ้มเธอมั้ยครับ”“ไม่ต้อง!...มึงไปกดลิฟท์”“ยังไม่ทันไร ก็หวงซะแล้ว” จิมบ่นพึมพำเสียงเบาแต่ก็ดังมากพอให้เซนโซ่ได้ยิน ขณะก้าวเดินนำหน้าเจ้านายเพื่อทำตามคำสั่ง“ไอ้จิม!กูไ
ก๊อก! ก๊อก!“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มเอ่ยอนุญาต ประตูบานใหญ่หน้าห้องเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของจิม ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมกับเอ่ยรายงานความคืบหน้างานที่ได้รับมอบหมาย“ได้เรื่องแล้วครับนาย”“ว่ามา” เสียงทุ้มต่ำพูดบอกทั้งที่สายตาคมยังคงจับจ้องหน้าจอไอแพดตรงหน้าไม่ละไปไหน“รถคันนั้นเป็นของเพื่อนสนิทคุณโมเอิร์นครับ ตอนนี้พวกเธอนั่งดื่มด้วยกันที่ผับ” จิมยื่นโทรศัพท์ของเขาให้เจ้านายดูภาพถ่ายจากสายลับที่ส่งตามประกบภาพชายคนหนึ่งนั่งดื่มร่วมโต๊ะกับหญิงสาวสามคนท่ามกลางบรรยากาศสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง พูดคุยกันอย่างถูกคอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม โมเอิร์นนั่งข้างชายหนุ่มเพื่อนสาวอีกสองคนนั่งฝั่งตรงข้าม“ไอ้นี่เป็นใคร?”“หมอนี่ชื่อครามเจ้าของผับครับ ผับKหลังมหาลัยชื่อดัง ส่วนเพื่อนสนิทคุณโมเอิร์นชื่อนิว อีกคนชื่อพะแพงครับน้องสาวคุณพาย”“มึงออกไปได้แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงลงไปเตรียมรถ”“ครับนาย”เซนโซ่นั่งทำงานต่อจนเสร็จ มือหนากดปิดหน้าจอไอแพดเอนตัวพิงพนักเก้าอี้หนังตัวใหญ่ขับไล่ความเมื่อยล้า ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นเดินออกจ
โมเอิร์นกวาดสายตามองทุกคนในห้องกระทั่งสะดุดกับสายตาคมคู่หนึ่งดวงตากลมโตเบิกโพลงขึ้นเท้าเล็กหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเบนหน้าหนีปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แล้วรีบเดินไปนั่งลงข้างผู้เป็นพ่อ“มาแล้วหรอ” แบล็คเอ่ยขึ้นยิ้มๆ พร้อมยกท่อนแขนโอบไหล่ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาไว้ด้วยความรักและเอ็นดู“ฝีมือป๊าใช่มั้ยคะ?” เสียงหวานกระซิบถามในสิ่งที่เธอสงสัย“ลูกดื้อกับป๊าก่อนครับ...สวัสดีปู่ไซซีก่อนสิ”“สวัสดีค่ะปู่ไซซี” โมเอิร์นเอ่ยทักทายตามคำบอกอย่างว่าง่าย ขืนฉันยังดื้อดึงเกิดโดนยึดรถขึ้นมาคืนนี้คงไปเที่ยวลำบาก“ไหว้พระเถอะลูก...นี่ เซนโซ่ว่าที่คู่หมั้นของหนู”“ห๊ะ! อะไรนะคะ” ร่างบางลุกพรวดพราดร้องตะโกนด้วยความตกใจเมื่อได้ยินไซซีพูดแนะนำอย่างนั้น ‘เจอเขาที่นี่ว่าบังเอิญมากแล้ว แต่เขาดันเป็นคู่หมั้นฉันเนี่ยนะ ตายๆๆ'“โมเบาๆสิลูก นั่งลงก่อน” แบล็คหน้าหดเหลือสองนิ้ว มือสากมีริ้วรอยตามวัยรั้งลูกสาวนั่งลงบนโซฟาเช่นเดิม ใบหน้าคมคายเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าล
“นายครับ นาย” จิมเอ่ยเรียกคนเป็นเจ้านายนอนหลับสนิทบนเตียงกว้างของโรงแรมหรู หลังจากติดต่อเจ้านายไม่ได้ซึ่งผิดนิสัยเป็นอย่างมากเขาจึงรีบขึ้นมาดูในห้อง“ไอ้จิม...” เซนโซ่รู้สึกตัวตื่นเพราะแรงเขย่า ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองหญิงสาวข้างกายก็พบว่าเธอไม่ได้นอนอยู่ตรงนั้นแล้ว ‘ไปไหนวะ’“ใกล้เช้าแล้วครับ นายไม่รับสายผมเลยขึ้นมาดู”“ผู้หญิงคนนั้น....”“ไม่ทราบครับ ผมเห็นนายนอนอยู่คนเดียวเธอคงกลับไปแล้ว” จิมเอ่ยบอก หลังมาส่งเจ้านายกับหญิงสาวคนนั้น เขากลับไปยังห้องทำงานในคลับเพื่อค้นหาข้อมูลของเธอตามคำสั่ง น่าแปลกที่เขาไม่เจอประวัติส่วนตัวเธอเลย หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงสืบหาได้ไม่ยาก เขาพยายามอย่างสุดความสามารถแต่กลับได้เพียงรูปถ่ายเพียงไปกี่รูปกับชื่อเล่นเท่านั้นไม่ปรากฏชื่อนามสกุลจริง‘ยัยตัวแสบ เธอกล้าหนีฉันอย่างนั้นหรอ’ ร่างสูงเอ่ยคาดโทษในใจ กลับถึงเพนท์เฮาส์เซนโซ่อาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวพับขึ้นถึงข้อศอกกางเกงยีนส์สีเดียวกันเฉกเช่นทุกวัน แล้วเข้ามานั่งในห้องทำงานเปิ
“แก~ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เสียงหวานยานครางตะโกนบอกเพื่อนสนิทแข่งกับเพลงอีดีเอ็มดังกระหึ่มในคลับหรู ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปมากกำลังเล่นงานเธออย่างหนักจนสายตาพร่าเบลอ“ไปคนเดียวได้มั้ยโม~ฉันเดินไม่ไหวอ่ะแก” นิวพูดเสียงอ้อแอ้ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ นั่งโงนเงนค้ำศอกลงบนพื้นโต๊ะมือทั้งสองข้างประคองใบหน้าตัวเองไว้“ฉันด้วย~คืนนี้คงต้องโทรให้พี่พายมารับ~อึก” พะแพงเอ่ยบอกเสียงยานไม่ต่างกัน ปรือตามองเพื่อนสาวด้วยสายตาหวานเยิ้ม“สบายมาก~” จบคำ โมเอิร์นก้าวเดินฝ่าผู้คนแน่นขนัดไปยังห้องน้ำอย่างยากลำบาก หลังจากเสร็จธุระส่วนตัว ร่างบางเดินโซเซเพื่อกลับมายังโต๊ะ ทว่า ด้วยความมึนเมาที่มีมากจึงไม่ทันระวังตัวปึก!“อ๊ะ!” เสียงหวานหลุดร้องด้วยความตกใจ ใบหน้าสวยชนเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคนเข้าอย่างจังจนรู้สึกเจ็บ จมูกโด่งเชิดรั้นแนบชิดเผลอสูดดมกลิ่นหอมของชายหนุ่มปะปนกลิ่นบุหรี่จางๆเข้าลึกสุดปอด ให้ความรู้สึกดีไม่น้อย“จะดมอีกนานมั้ย?!!”“ขอโทษค่ะ~ ฉัน…” ใบหน้าสวยเงยขึ้นช้อนมองอีกฝ่าย สายตาคู่สวยเพ่งมองใบหน้าหล่อเหลาราวกับต้องมนต์สะกด จนเผลอคิดดังขยับปากออกเสียงให้เขาได้ยิน“หล่อจัง~”“เดินไม่ดู!!” ร่
ร่างบางระหงในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำตัดผิว ความยาวเหนือเข่าขึ้นมามาก ใบหน้าสวยใสสมวัยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดังส่งให้เธอดูออร่าโดดเด่น เป็นที่หมายตาของชายหลายคน ผมสลวยปล่อยสยายถึงกลางแผ่นหลัง ดวงตากลมโตซุกซนน่าค้นหา ปากนิดจมูกหน่อยรับกับใบหน้า เท้าเล็กบนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วสีเข้ากันกับชุด ก้าวเดินเข้ามาภายในคลับหรู ที่เปิดเพลงเสียงดังกระหึ่ม แสงไฟหลากสีวิบวับท่ามกลางความมืดสลัวของห้องโถงใหญ่ มีผู้เหล่านักท่องราตรีจำนวนมากทั้งชายและหญิง วัยเรียนวัยทำงานปะปนกัน ออกสเต็ปโยกตัวไปตามจังหวะดนตรี บ้างก็นั่งพูดคุยดื่มด่ำบรรยากาศภายในสถานบันเทิง“ยัยโม…ทางนี้” พะแพงตะโกนเรียกแข่งกับเสียงเพลง พลันยกมือขึ้นโบกไปมาส่งสัญญาณให้เพื่อนเห็น‘โมเอิร์น’ หญิงสาวใบหน้าสวยจิ้มลิ้ม วัย21 เรียนปี3คณะธุรกิจการบิน ส่วนสูงร้อยห้าสิบแปดเซนติเมตร เล็กอุ้มง่าย ทว่า หน้าอกหน้าใจกลับไม่เล็กตามตัว ยิ่งใส่ชุดเซ็กซี่ยิ่งเผยให้เห็นความอวบใหญ่ขนาดเกินตัวชวนให้เหลียวมอง“คนเยอะมาก...พี่ครามมารึยัง?” โมเอิร์นเอ่ยถาม สองเท้าหยุดยืนข้างเพื่อนสาว“ยัง...มาถึงก็ถามหาผู้ชายเลยนะ เพื่อนสองคนนั่งหัวโด่งไม่พูดถึงซักคำ”โมเ
ก๊อก! ก๊อก!ร่างสูงดูดีละสายตาจากหน้าจอไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องไปยังประตูบานใหญ่หน้าห้องทำงาน ภายในเพนท์เฮาส์สุดหรูบนตึกสูงระฟ้ากลางเมืองแหล่งธุรกิจ“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มต่ำเอ่ยอนุญาต ประตูถูกเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของ ‘จิม’ มือขวาคนสนิทผู้ติดตามเขาไปทุกที่เพื่อดูแลและช่วยอำนวยความสะดวก ร่างหนาสูงโปร่งสาวเท้าเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานเจ้านาย“มีอะไร”“นายใหญ่โทรมาสั่งให้นายไปพบที่บ้านตอนนี้ครับ”“ทำไม?”“ไม่ทราบครับนาย” จิมตอบกลับ พลางก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด ยอมรับว่าตนเองบกพร่องในหน้าที่แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อคนที่อยู่ปลายสายคือนายใหญ่ผู้มีพระคุณ เขาจึงไม่กล้าซักไซ้ไล่ถาม“จิ๊!...” เสียงจิ๊จ๊ะดังจากปากหนาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นยืนก้าวเดินออกจากห้องไป โดยมีลูกน้องคนสนิทเดินตามมาติดๆ เพื่อทำหน้าที่คนขับรถใช้เวลาไม่นานนัก รถหรูสีดำเงาก็ขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สีขาว ตั้งเด่นตระง่านบนพื้นที่กว่าสี่ไร่กลางกรุงตึก! ตึก!สองเท้าหนักก้าวเดินเข้ามาในคฤหาสน์หรูโอ่อ่า ที่ๆเขาอาศัยอยู่ตั้งแต่จำความได้ ก่อนจะย้ายไปอยู่อังกฤษเพื่อศึกษาเล่าเรียนและเติบโ