ร่างบางระหงในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำตัดผิว ความยาวเหนือเข่าขึ้นมามาก ใบหน้าสวยใสสมวัยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดังส่งให้เธอดูออร่าโดดเด่น เป็นที่หมายตาของชายหลายคน ผมสลวยปล่อยสยายถึงกลางแผ่นหลัง ดวงตากลมโตซุกซนน่าค้นหา ปากนิดจมูกหน่อยรับกับใบหน้า เท้าเล็กบนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วสีเข้ากันกับชุด ก้าวเดินเข้ามาภายในคลับหรู ที่เปิดเพลงเสียงดังกระหึ่ม แสงไฟหลากสีวิบวับท่ามกลางความมืดสลัวของห้องโถงใหญ่ มีผู้เหล่านักท่องราตรีจำนวนมากทั้งชายและหญิง วัยเรียนวัยทำงานปะปนกัน ออกสเต็ปโยกตัวไปตามจังหวะดนตรี บ้างก็นั่งพูดคุยดื่มด่ำบรรยากาศภายในสถานบันเทิง
“ยัยโม…ทางนี้” พะแพงตะโกนเรียกแข่งกับเสียงเพลง พลันยกมือขึ้นโบกไปมาส่งสัญญาณให้เพื่อนเห็น
‘โมเอิร์น’ หญิงสาวใบหน้าสวยจิ้มลิ้ม วัย21 เรียนปี3คณะธุรกิจการบิน ส่วนสูงร้อยห้าสิบแปดเซนติเมตร เล็กอุ้มง่าย ทว่า หน้าอกหน้าใจกลับไม่เล็กตามตัว ยิ่งใส่ชุดเซ็กซี่ยิ่งเผยให้เห็นความอวบใหญ่ขนาดเกินตัวชวนให้เหลียวมอง
“คนเยอะมาก...พี่ครามมารึยัง?” โมเอิร์นเอ่ยถาม สองเท้าหยุดยืนข้างเพื่อนสาว
“ยัง...มาถึงก็ถามหาผู้ชายเลยนะ เพื่อนสองคนนั่งหัวโด่งไม่พูดถึงซักคำ”
โมเอิร์นไหวไหล่เบาๆ ก่อนจะนั่งลงหยิบแก้วชงเหล้าเข้มๆอย่างที่ชอบยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ที่จริงตอนนี้เธอควรอยู่บ้านแต่งตัวสวยๆ นั่งทานข้าวกับผู้ใหญ่และว่าที่คู่หมั้น
‘เหอะ! ฉันยังเรียนไม่จบ ป๊ากับปู่จะบังคับให้หมั้นกับใครก็ไม่รู้ คิดหรอว่าคนอย่างโมเอิร์นจะยอมง่ายๆ ไม่มีทาง!’
“ค่อยๆดื่มสิ หิวน้ำรึไง เดี๋ยวได้เมาไม่รู้เรื่อง”
“ฉันกลัวตามแกสองคนไม่ทันต่างหาก”
“โม..ป๊าแกโทรมา” นิวเพื่อนสนิทอีกคนพูดบอก
โทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดของโมเอิร์นวางบนโต๊ะ หน้าจอสัมผัสสว่างวาบโชว์ชื่อคนโทรเข้าเด่นหราอย่างชัดเจน ทว่า เจ้าของกลับไม่ให้ความสนใจแม้แต่น้อย มิหนำซ้ำยังกดตัดสายทิ้งราวกับว่าไม่อยากพูดคุยกับปลายสายยังไงอย่างงั้น
“อย่าบอกนะ…แกนัดพวกฉันออกมาคืนนี้ เพราะเบี้ยวนัดดูตัวคู่หมั้น” ต้องใช่แน่ๆ พวกเธอสามคนสนิทกันมาก ปรึกษากันทุกเรื่อง ล่าสุดโมเอิร์นเพิ่งปรับทุกข์ เพราะถูกผู้เป็นพ่อกับปู่คลุมถุงชนทั้งที่ไม่เต็มใจ
“อืม...” โมเอิร์นตอบกลับสั้นๆ พลางกวาดสายตามองบรรยากาศโดยรอบ เธอมาเที่ยวที่นี่ครั้งแรกเพราะอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ปกติพวกเราจะไปดื่มที่ผับของ 'พี่คราม' รุ่นพี่คณะวิศวะมหาลัยเดียวกัน เพราะที่นั่นเดินทางสะดวกใกล้คอนโด
“รอนานมั้ยครับ...” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้น เรียกให้สาวๆทั้งโต๊ะหันไปมองคนมาใหม่อย่างให้ความสนใจ
“ไม่นานค่ะ” โมเอิร์นตอบกลับด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มสะกดสายตาคนมองให้หลงใหลในความสวยใสแต่ก็แฝงไปด้วยความเซ็กซี่น่าค้นหา
“พอดีพี่แวะไปอาบน้ำที่บ้านก่อน เลยมาช้า”
“ไม่เป็นไรค่ะ...พี่ครามดื่มเหมือนเดิมนะ” นั่งดื่มด้วยกันบ่อยไม่แปลกที่เธอจะรู้เขาชอบแบบไหน
“ครับ” ครามตอบกลับพร้อมนั่งลงข้างโมเอิร์น ใช้ท่อนแขนแข็งแรงโอบเอวบางไว้หลวมๆ
ลืมแนะนำ...พี่ครามเป็นคนคุยของฉันเอง แค่คุยแก้เหงานะไม่ใช่แฟน หนุ่มฮอตคณะวิศวะฯอย่างเขาคงไม่ได้มีฉันแค่คนเดียว และฉัน โมเอิร์นคนสวยไม่มีทางเอาหัวใจลงไปเล่นเด็ดขาด ถึงแม้พี่ครามจะหล่อมากก็เถอะ
“โมขับรถมาเองรึเปล่าครับ”
“ค่ะ..”
“อย่าดื่มเยอะนะ พี่เป็นห่วง” ไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียว ยังปากหวานพูดเพราะอีกด้วย แบบนี้ไงสาวๆถึงได้ล้อมหน้าล้อมหลัง
นั่งดื่มได้ไม่นานพี่ครามก็ขอตัวกลับก่อน บอกว่าที่ผับมีปัญหา ลูกน้องไม่สามารถจัดการได้ ฉันก็พอเข้าใจแหละ ตอนนี้ทั้งโต๊ะจึงเหลือแค่เราสามคนเพื่อนรัก
“กรี๊ดดด..หล่อ~”
“มีแฟนรึยังคะ…”
“แก~ฉันรักเขา”
เสียงกรี้ดกร๊าดดังขึ้นไม่ขาดจากบริเวณทางเดินไปยังบันไดขึ้นชั้นสอง เรียกความสนใจจากทุกคนที่อยู่ไม่ไกลได้เป็นอย่างดี
“เขากรี๊ดใครอ่ะ?” โมเอิร์นเอ่ยถาม พลางชะเง้อคอมองไปยังทิศทางของเสียง ทว่า ด้วยส่วนสูงเพียงหนึ่งร้อยห้าสิบแปดเซนติเมตรทำให้ไม่สามารถมองผ่านกลุ่มคนแน่นขนัดไปได้
“เจ้าของคลับมั้ง…ได้ยินว่าเจ้าของที่นี่หล่อมาก” นิวอธิบาย
“ฉันเคยได้ยินมาเหมือนกัน” พะแพงพูดเสริม หล่อนเคยได้ยินรุ่นพี่เอ่ยถึงแต่ก็ยังไม่เคยเห็นด้วยตาตัวเองซักครั้ง
“ไหน…ฉันอยากเห็น” ในเมื่อชะเง้อจนคอยาวก็ยังมองไม่เห็นบุคคลที่ว่า โมเอิร์นก้าวเท้าขึ้นยืนบนเก้าอี้ เพ่งมองไปยังทางเดิน เห็นชายชุดดำสามสี่คนเดินตามหลังชายร่างสูงดูดีคนหนึ่ง ซึ่งจากจุดที่เธอยืนเห็นเพียงแผ่นหลังของเขาเท่านั้น แม้บรรยากาศในคลับจะมืดสลัวแต่ก็พอมองเห็นรูปร่างเขาอย่างชัดเจน ‘เห็นหลังแล้วอยากเห็นหน้า’ คำนี้ไม่เกินจริง
“ลงมายัยโมเดี๋ยวตก” พะแพงรีบรั้งเพื่อนลงจากเก้าอี้ ใครจะคิดว่าโมเอิร์นจะกล้าขึ้นไปยืนบนนั้น
ตอนแรกทุกคนให้ความสนใจเจ้าของคลับ ทว่า เวลานี้สายตาหลายคู่กลับจับจ้องมายังหญิงสาวหุ่นเอ็กซ์ยืนเด่นตระหง่านอยู่บนเก้าอี้ เรียกเสียงฮือฮาจากชายหญิงนักดื่มได้ไม่น้อย
“เดี๋ยวสิ…ฉันยังไม่เห็นหน้าเขาเลย”
“ลงมาก่อน…คนมองใหญ่แล้ว” นิวถึงกับยกมือขึ้นกุมขมับให้กับความแสบซนของเพื่อนสาว ยิ่งดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปด้วยแล้วล่ะก็ความดื้อคูณสองไม่เกินจริง
”โอเคๆลงก็ได้” ที่ยอมลงเพราะเขาคนนั้นเดินห่างออกไปไกล ไม่สิ! ต้องบอกว่าหายไปกับความมืดถึงจะถูก ทำให้ไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าอีกฝ่ายอย่างที่ตั้งใจ
การกระทำของเธอตกอยู่ในสายตาคมกริบทั้งหมด ร่างสูงดูดีนั่งบนเก้าอี้หนังตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงานจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ฉายภาพเคลื่อนไหวของหญิงสาวร่างเล็กเพียงหนึ่งเดียวยืนบนเก้าอี้กำลังมองหาบางอย่าง ก่อนจะก้าวลงโดยง่ายอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“มึงไปสืบประวัติผู้หญิงคนนี้เร็วที่สุด”
“ครับนาย”
“แก~ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เสียงหวานยานครางตะโกนบอกเพื่อนสนิทแข่งกับเพลงอีดีเอ็มดังกระหึ่มในคลับหรู ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปมากกำลังเล่นงานเธออย่างหนักจนสายตาพร่าเบลอ“ไปคนเดียวได้มั้ยโม~ฉันเดินไม่ไหวอ่ะแก” นิวพูดเสียงอ้อแอ้ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ นั่งโงนเงนค้ำศอกลงบนพื้นโต๊ะมือทั้งสองข้างประคองใบหน้าตัวเองไว้“ฉันด้วย~คืนนี้คงต้องโทรให้พี่พายมารับ~อึก” พะแพงเอ่ยบอกเสียงยานไม่ต่างกัน ปรือตามองเพื่อนสาวด้วยสายตาหวานเยิ้ม“สบายมาก~” จบคำ โมเอิร์นก้าวเดินฝ่าผู้คนแน่นขนัดไปยังห้องน้ำอย่างยากลำบาก หลังจากเสร็จธุระส่วนตัว ร่างบางเดินโซเซเพื่อกลับมายังโต๊ะ ทว่า ด้วยความมึนเมาที่มีมากจึงไม่ทันระวังตัวปึก!“อ๊ะ!” เสียงหวานหลุดร้องด้วยความตกใจ ใบหน้าสวยชนเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคนเข้าอย่างจังจนรู้สึกเจ็บ จมูกโด่งเชิดรั้นแนบชิดเผลอสูดดมกลิ่นหอมของชายหนุ่มปะปนกลิ่นบุหรี่จางๆเข้าลึกสุดปอด ให้ความรู้สึกดีไม่น้อย“จะดมอีกนานมั้ย?!!”“ขอโทษค่ะ~ ฉัน…” ใบหน้าสวยเงยขึ้นช้อนมองอีกฝ่าย สายตาคู่สวยเพ่งมองใบหน้าหล่อเหลาราวกับต้องมนต์สะกด จนเผลอคิดดังขยับปากออกเสียงให้เขาได้ยิน“หล่อจัง~”“เดินไม่ดู!!” ร่
“นายครับ นาย” จิมเอ่ยเรียกคนเป็นเจ้านายนอนหลับสนิทบนเตียงกว้างของโรงแรมหรู หลังจากติดต่อเจ้านายไม่ได้ซึ่งผิดนิสัยเป็นอย่างมากเขาจึงรีบขึ้นมาดูในห้อง“ไอ้จิม...” เซนโซ่รู้สึกตัวตื่นเพราะแรงเขย่า ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองหญิงสาวข้างกายก็พบว่าเธอไม่ได้นอนอยู่ตรงนั้นแล้ว ‘ไปไหนวะ’“ใกล้เช้าแล้วครับ นายไม่รับสายผมเลยขึ้นมาดู”“ผู้หญิงคนนั้น....”“ไม่ทราบครับ ผมเห็นนายนอนอยู่คนเดียวเธอคงกลับไปแล้ว” จิมเอ่ยบอก หลังมาส่งเจ้านายกับหญิงสาวคนนั้น เขากลับไปยังห้องทำงานในคลับเพื่อค้นหาข้อมูลของเธอตามคำสั่ง น่าแปลกที่เขาไม่เจอประวัติส่วนตัวเธอเลย หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงสืบหาได้ไม่ยาก เขาพยายามอย่างสุดความสามารถแต่กลับได้เพียงรูปถ่ายเพียงไปกี่รูปกับชื่อเล่นเท่านั้นไม่ปรากฏชื่อนามสกุลจริง‘ยัยตัวแสบ เธอกล้าหนีฉันอย่างนั้นหรอ’ ร่างสูงเอ่ยคาดโทษในใจ กลับถึงเพนท์เฮาส์เซนโซ่อาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวพับขึ้นถึงข้อศอกกางเกงยีนส์สีเดียวกันเฉกเช่นทุกวัน แล้วเข้ามานั่งในห้องทำงานเปิ
โมเอิร์นกวาดสายตามองทุกคนในห้องกระทั่งสะดุดกับสายตาคมคู่หนึ่งดวงตากลมโตเบิกโพลงขึ้นเท้าเล็กหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเบนหน้าหนีปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แล้วรีบเดินไปนั่งลงข้างผู้เป็นพ่อ“มาแล้วหรอ” แบล็คเอ่ยขึ้นยิ้มๆ พร้อมยกท่อนแขนโอบไหล่ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาไว้ด้วยความรักและเอ็นดู“ฝีมือป๊าใช่มั้ยคะ?” เสียงหวานกระซิบถามในสิ่งที่เธอสงสัย“ลูกดื้อกับป๊าก่อนครับ...สวัสดีปู่ไซซีก่อนสิ”“สวัสดีค่ะปู่ไซซี” โมเอิร์นเอ่ยทักทายตามคำบอกอย่างว่าง่าย ขืนฉันยังดื้อดึงเกิดโดนยึดรถขึ้นมาคืนนี้คงไปเที่ยวลำบาก“ไหว้พระเถอะลูก...นี่ เซนโซ่ว่าที่คู่หมั้นของหนู”“ห๊ะ! อะไรนะคะ” ร่างบางลุกพรวดพราดร้องตะโกนด้วยความตกใจเมื่อได้ยินไซซีพูดแนะนำอย่างนั้น ‘เจอเขาที่นี่ว่าบังเอิญมากแล้ว แต่เขาดันเป็นคู่หมั้นฉันเนี่ยนะ ตายๆๆ'“โมเบาๆสิลูก นั่งลงก่อน” แบล็คหน้าหดเหลือสองนิ้ว มือสากมีริ้วรอยตามวัยรั้งลูกสาวนั่งลงบนโซฟาเช่นเดิม ใบหน้าคมคายเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าล
ก๊อก! ก๊อก!“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มเอ่ยอนุญาต ประตูบานใหญ่หน้าห้องเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของจิม ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมกับเอ่ยรายงานความคืบหน้างานที่ได้รับมอบหมาย“ได้เรื่องแล้วครับนาย”“ว่ามา” เสียงทุ้มต่ำพูดบอกทั้งที่สายตาคมยังคงจับจ้องหน้าจอไอแพดตรงหน้าไม่ละไปไหน“รถคันนั้นเป็นของเพื่อนสนิทคุณโมเอิร์นครับ ตอนนี้พวกเธอนั่งดื่มด้วยกันที่ผับ” จิมยื่นโทรศัพท์ของเขาให้เจ้านายดูภาพถ่ายจากสายลับที่ส่งตามประกบภาพชายคนหนึ่งนั่งดื่มร่วมโต๊ะกับหญิงสาวสามคนท่ามกลางบรรยากาศสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง พูดคุยกันอย่างถูกคอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม โมเอิร์นนั่งข้างชายหนุ่มเพื่อนสาวอีกสองคนนั่งฝั่งตรงข้าม“ไอ้นี่เป็นใคร?”“หมอนี่ชื่อครามเจ้าของผับครับ ผับKหลังมหาลัยชื่อดัง ส่วนเพื่อนสนิทคุณโมเอิร์นชื่อนิว อีกคนชื่อพะแพงครับน้องสาวคุณพาย”“มึงออกไปได้แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงลงไปเตรียมรถ”“ครับนาย”เซนโซ่นั่งทำงานต่อจนเสร็จ มือหนากดปิดหน้าจอไอแพดเอนตัวพิงพนักเก้าอี้หนังตัวใหญ่ขับไล่ความเมื่อยล้า ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นเดินออกจ
“นี่!นาย ฉันเหนื่อยนะ”“ขาสั้นเอง...ช่วยไม่ได้” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ร่างสูงขึ้นไปนั่งบนรถโดยมีลูกน้องคนสนิทเปิดประตูให้“ไอ้...” ไม่ทันได้พ่นคำด่าไปมากกว่านั้น เซนโซ่แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์“ขึ้นรถ!ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งตามเด็กดื้ออย่างเธอกลับบ้านหรอกนะ”“จิ๊!ฝากไว้ก่อนเถอะ” โมเอิร์นพูดเสียงเบาแต่ก็ดังมากพอให้อีกฝ่ายได้ยินรวมทั้งจิมที่ยืนคอยปิดประตูรถให้ ‘งานนี้เจ้านายคงเจอของแข็งเข้าให้แล้ว’รถหรูขับไปบนถนนกลางกรุงด้วยความเร็วสูง ภายในรถเกิดความเงียบขึ้นไม่มีใครพูดอะไรออกมา ร่างบางเมามายนั่งเอนตัวพิงประตูรถ ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์บวกความเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้เธอผล็อยหลับได้ไม่ยาก“เอาไงดีครับนาย?” จิมเอ่ยถามพลางมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง เขาขับรถเข้ามาจอดสนิทในที่ประจำเรียบร้อยแล้ว แต่หญิงสาวยังคงหลับไม่ขยับเขยื้อน แม้ว่าเซนโซ่จะพยายามปลุกเธอหลายครั้งแล้วก็ตาม“ภาระชิบหาย”“ให้ผมช่วยอุ้มเธอมั้ยครับ”“ไม่ต้อง!...มึงไปกดลิฟท์”“ยังไม่ทันไร ก็หวงซะแล้ว” จิมบ่นพึมพำเสียงเบาแต่ก็ดังมากพอให้เซนโซ่ได้ยิน ขณะก้าวเดินนำหน้าเจ้านายเพื่อทำตามคำสั่ง“ไอ้จิม!กูไ
“โมเอิร์น”“อ้าว..เจ นั่งก่อนสิ”“เราซื้อขนมมาฝาก” เจ ชายหนุ่มหน้าตี๋เพื่อนร่วมคลาสเรียนยื่นถุงขนมเจ้าดังให้โมเอิร์นพร้อมกับนั่งลงฝั่งตรงข้ามข้างนิว ใบหน้าหล่อเชื้อสายจีนเผยรอยยิ้มให้ได้เห็น“ขอบใจนะ” โมเอิร์นรับไว้ตามมารยาทไม่อยากหักหารน้ำใจชายหนุ่มถึงแม้เธอจะไม่ชอบกินขนมก็ตามและรู้ดีว่าเจเข้าหาเพราะต้องการจีบ แต่เขาไม่ใช่สเปคผู้ชายที่ชอบเธอจึงรักษาระยะห่างไว้ ไม่ให้ความหวัง“นั่งกันตั้งสามคนซื้อมาฝากโมคนเดียวหรอ นิวกับแพงก็ชอบกินขนมนะ” พะแพงเอ่ยแซว ทำเจถึงกับยิ้มแห้งไปไม่เป็น“นั่นดิ เราก็ชอบ” นิวพูดเสริม พร้อมกับขยับเข้าใกล้เพื่อนชาย“เอ่อ...ระเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันในคลาส” หนุ่มตี๋ขี้อายรีบพาตัวเองออกไปจากตรงนั้น เพราะถูกสาวๆรุกหนักจนไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อทั้งโต๊ะเหลือเพียงสาวๆขนมของฝากก็ถูกวางลงตรงหน้านิวกับพะแพงทันทีเฉกเช่นทุกครั้ง“อิ่มมาก~&r
สามสาวเริ่มมึนเมา แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปหลายต่อหลายแก้วออกฤทธิ์ได้เป็นอย่างดี ดวงหน้าสวยเปลี่ยนสีแดงระเรื่อดวงตาหวานเยิ้มมองเห็นคนรอบข้างไม่ชัดเจน น้ำเสียงยานครางฟังแทบไม่ได้ศัพท์แต่ก็พยายามสื่อสารพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มอย่างออกรสชาติ“วู้วว...ฉันชอบที่นี่จัง”“เราต้องมาบ่อยๆแล้ว”“ฉันเห็นด้วย พวกแกเดี๋ยวฉันมานะ~” โมเอิร์นเอ่ยบอกน้ำเสียงอู้อี้หมุนตัวเตรียมก้าวเดินออกไปจากโต๊ะ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อแขนเรียวของเธอถูกพะแพงรั้งเอาไว้เสียก่อน“จะไปไหน?” เสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหล่อนเมามากไม่ต่างจากโมเอิร์นซักนิด“นั่นดิ คนเยอะแบบนี้แกเดินกลับโต๊ะถูกใช่มั้ย”“กลับถูกสิ ฉันไปตรงนู้นแป๊บเดียว~” มือบางยกขึ้นชี้อย่างไร้ทิศทาง ก่อนจะก้าวเดินออกไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อนทั้งสองคนอีก ร่างบางเมามายก้าวเดินฝ่าผู้คนจำนวนมากสายตาเพ่งมองแผ่นหลังหนาของจิม พลางสาวเท้าตามไปยังชั้นสองเลี้ยวขวาตรงไปตามทางมืดสลัวไร้ผู้คนตึก! ตึก!ทว่า เสียงรองเท้าส้นสูง
ก๊อก! ก๊อก!ร่างสูงดูดีละสายตาจากหน้าจอไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องไปยังประตูบานใหญ่หน้าห้องทำงาน ภายในเพนท์เฮาส์สุดหรูบนตึกสูงระฟ้ากลางเมืองแหล่งธุรกิจ“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มต่ำเอ่ยอนุญาต ประตูถูกเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของ ‘จิม’ มือขวาคนสนิทผู้ติดตามเขาไปทุกที่เพื่อดูแลและช่วยอำนวยความสะดวก ร่างหนาสูงโปร่งสาวเท้าเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานเจ้านาย“มีอะไร”“นายใหญ่โทรมาสั่งให้นายไปพบที่บ้านตอนนี้ครับ”“ทำไม?”“ไม่ทราบครับนาย” จิมตอบกลับ พลางก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด ยอมรับว่าตนเองบกพร่องในหน้าที่แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อคนที่อยู่ปลายสายคือนายใหญ่ผู้มีพระคุณ เขาจึงไม่กล้าซักไซ้ไล่ถาม“จิ๊!...” เสียงจิ๊จ๊ะดังจากปากหนาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นยืนก้าวเดินออกจากห้องไป โดยมีลูกน้องคนสนิทเดินตามมาติดๆ เพื่อทำหน้าที่คนขับรถใช้เวลาไม่นานนัก รถหรูสีดำเงาก็ขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สีขาว ตั้งเด่นตระง่านบนพื้นที่กว่าสี่ไร่กลางกรุงตึก! ตึก!สองเท้าหนักก้าวเดินเข้ามาในคฤหาสน์หรูโอ่อ่า ที่ๆเขาอาศัยอยู่ตั้งแต่จำความได้ ก่อนจะย้ายไปอยู่อังกฤษเพื่อศึกษาเล่าเรียนและเติบโ
สามสาวเริ่มมึนเมา แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปหลายต่อหลายแก้วออกฤทธิ์ได้เป็นอย่างดี ดวงหน้าสวยเปลี่ยนสีแดงระเรื่อดวงตาหวานเยิ้มมองเห็นคนรอบข้างไม่ชัดเจน น้ำเสียงยานครางฟังแทบไม่ได้ศัพท์แต่ก็พยายามสื่อสารพูดคุยกับเพื่อนในกลุ่มอย่างออกรสชาติ“วู้วว...ฉันชอบที่นี่จัง”“เราต้องมาบ่อยๆแล้ว”“ฉันเห็นด้วย พวกแกเดี๋ยวฉันมานะ~” โมเอิร์นเอ่ยบอกน้ำเสียงอู้อี้หมุนตัวเตรียมก้าวเดินออกไปจากโต๊ะ แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อแขนเรียวของเธอถูกพะแพงรั้งเอาไว้เสียก่อน“จะไปไหน?” เสียงที่เอื้อนเอ่ยออกมาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าหล่อนเมามากไม่ต่างจากโมเอิร์นซักนิด“นั่นดิ คนเยอะแบบนี้แกเดินกลับโต๊ะถูกใช่มั้ย”“กลับถูกสิ ฉันไปตรงนู้นแป๊บเดียว~” มือบางยกขึ้นชี้อย่างไร้ทิศทาง ก่อนจะก้าวเดินออกไปโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเพื่อนทั้งสองคนอีก ร่างบางเมามายก้าวเดินฝ่าผู้คนจำนวนมากสายตาเพ่งมองแผ่นหลังหนาของจิม พลางสาวเท้าตามไปยังชั้นสองเลี้ยวขวาตรงไปตามทางมืดสลัวไร้ผู้คนตึก! ตึก!ทว่า เสียงรองเท้าส้นสูง
“โมเอิร์น”“อ้าว..เจ นั่งก่อนสิ”“เราซื้อขนมมาฝาก” เจ ชายหนุ่มหน้าตี๋เพื่อนร่วมคลาสเรียนยื่นถุงขนมเจ้าดังให้โมเอิร์นพร้อมกับนั่งลงฝั่งตรงข้ามข้างนิว ใบหน้าหล่อเชื้อสายจีนเผยรอยยิ้มให้ได้เห็น“ขอบใจนะ” โมเอิร์นรับไว้ตามมารยาทไม่อยากหักหารน้ำใจชายหนุ่มถึงแม้เธอจะไม่ชอบกินขนมก็ตามและรู้ดีว่าเจเข้าหาเพราะต้องการจีบ แต่เขาไม่ใช่สเปคผู้ชายที่ชอบเธอจึงรักษาระยะห่างไว้ ไม่ให้ความหวัง“นั่งกันตั้งสามคนซื้อมาฝากโมคนเดียวหรอ นิวกับแพงก็ชอบกินขนมนะ” พะแพงเอ่ยแซว ทำเจถึงกับยิ้มแห้งไปไม่เป็น“นั่นดิ เราก็ชอบ” นิวพูดเสริม พร้อมกับขยับเข้าใกล้เพื่อนชาย“เอ่อ...ระเราไปก่อนนะ ไว้เจอกันในคลาส” หนุ่มตี๋ขี้อายรีบพาตัวเองออกไปจากตรงนั้น เพราะถูกสาวๆรุกหนักจนไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อทั้งโต๊ะเหลือเพียงสาวๆขนมของฝากก็ถูกวางลงตรงหน้านิวกับพะแพงทันทีเฉกเช่นทุกครั้ง“อิ่มมาก~&r
“นี่!นาย ฉันเหนื่อยนะ”“ขาสั้นเอง...ช่วยไม่ได้” ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ร่างสูงขึ้นไปนั่งบนรถโดยมีลูกน้องคนสนิทเปิดประตูให้“ไอ้...” ไม่ทันได้พ่นคำด่าไปมากกว่านั้น เซนโซ่แทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์“ขึ้นรถ!ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมานั่งตามเด็กดื้ออย่างเธอกลับบ้านหรอกนะ”“จิ๊!ฝากไว้ก่อนเถอะ” โมเอิร์นพูดเสียงเบาแต่ก็ดังมากพอให้อีกฝ่ายได้ยินรวมทั้งจิมที่ยืนคอยปิดประตูรถให้ ‘งานนี้เจ้านายคงเจอของแข็งเข้าให้แล้ว’รถหรูขับไปบนถนนกลางกรุงด้วยความเร็วสูง ภายในรถเกิดความเงียบขึ้นไม่มีใครพูดอะไรออกมา ร่างบางเมามายนั่งเอนตัวพิงประตูรถ ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์บวกความเย็นของเครื่องปรับอากาศทำให้เธอผล็อยหลับได้ไม่ยาก“เอาไงดีครับนาย?” จิมเอ่ยถามพลางมองเจ้านายผ่านกระจกมองหลัง เขาขับรถเข้ามาจอดสนิทในที่ประจำเรียบร้อยแล้ว แต่หญิงสาวยังคงหลับไม่ขยับเขยื้อน แม้ว่าเซนโซ่จะพยายามปลุกเธอหลายครั้งแล้วก็ตาม“ภาระชิบหาย”“ให้ผมช่วยอุ้มเธอมั้ยครับ”“ไม่ต้อง!...มึงไปกดลิฟท์”“ยังไม่ทันไร ก็หวงซะแล้ว” จิมบ่นพึมพำเสียงเบาแต่ก็ดังมากพอให้เซนโซ่ได้ยิน ขณะก้าวเดินนำหน้าเจ้านายเพื่อทำตามคำสั่ง“ไอ้จิม!กูไ
ก๊อก! ก๊อก!“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มเอ่ยอนุญาต ประตูบานใหญ่หน้าห้องเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของจิม ก่อนจะเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ พร้อมกับเอ่ยรายงานความคืบหน้างานที่ได้รับมอบหมาย“ได้เรื่องแล้วครับนาย”“ว่ามา” เสียงทุ้มต่ำพูดบอกทั้งที่สายตาคมยังคงจับจ้องหน้าจอไอแพดตรงหน้าไม่ละไปไหน“รถคันนั้นเป็นของเพื่อนสนิทคุณโมเอิร์นครับ ตอนนี้พวกเธอนั่งดื่มด้วยกันที่ผับ” จิมยื่นโทรศัพท์ของเขาให้เจ้านายดูภาพถ่ายจากสายลับที่ส่งตามประกบภาพชายคนหนึ่งนั่งดื่มร่วมโต๊ะกับหญิงสาวสามคนท่ามกลางบรรยากาศสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง พูดคุยกันอย่างถูกคอด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม โมเอิร์นนั่งข้างชายหนุ่มเพื่อนสาวอีกสองคนนั่งฝั่งตรงข้าม“ไอ้นี่เป็นใคร?”“หมอนี่ชื่อครามเจ้าของผับครับ ผับKหลังมหาลัยชื่อดัง ส่วนเพื่อนสนิทคุณโมเอิร์นชื่อนิว อีกคนชื่อพะแพงครับน้องสาวคุณพาย”“มึงออกไปได้แล้ว อีกครึ่งชั่วโมงลงไปเตรียมรถ”“ครับนาย”เซนโซ่นั่งทำงานต่อจนเสร็จ มือหนากดปิดหน้าจอไอแพดเอนตัวพิงพนักเก้าอี้หนังตัวใหญ่ขับไล่ความเมื่อยล้า ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นเดินออกจ
โมเอิร์นกวาดสายตามองทุกคนในห้องกระทั่งสะดุดกับสายตาคมคู่หนึ่งดวงตากลมโตเบิกโพลงขึ้นเท้าเล็กหยุดชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเบนหน้าหนีปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แล้วรีบเดินไปนั่งลงข้างผู้เป็นพ่อ“มาแล้วหรอ” แบล็คเอ่ยขึ้นยิ้มๆ พร้อมยกท่อนแขนโอบไหล่ลูกสาวเพียงคนเดียวของเขาไว้ด้วยความรักและเอ็นดู“ฝีมือป๊าใช่มั้ยคะ?” เสียงหวานกระซิบถามในสิ่งที่เธอสงสัย“ลูกดื้อกับป๊าก่อนครับ...สวัสดีปู่ไซซีก่อนสิ”“สวัสดีค่ะปู่ไซซี” โมเอิร์นเอ่ยทักทายตามคำบอกอย่างว่าง่าย ขืนฉันยังดื้อดึงเกิดโดนยึดรถขึ้นมาคืนนี้คงไปเที่ยวลำบาก“ไหว้พระเถอะลูก...นี่ เซนโซ่ว่าที่คู่หมั้นของหนู”“ห๊ะ! อะไรนะคะ” ร่างบางลุกพรวดพราดร้องตะโกนด้วยความตกใจเมื่อได้ยินไซซีพูดแนะนำอย่างนั้น ‘เจอเขาที่นี่ว่าบังเอิญมากแล้ว แต่เขาดันเป็นคู่หมั้นฉันเนี่ยนะ ตายๆๆ'“โมเบาๆสิลูก นั่งลงก่อน” แบล็คหน้าหดเหลือสองนิ้ว มือสากมีริ้วรอยตามวัยรั้งลูกสาวนั่งลงบนโซฟาเช่นเดิม ใบหน้าคมคายเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าล
“นายครับ นาย” จิมเอ่ยเรียกคนเป็นเจ้านายนอนหลับสนิทบนเตียงกว้างของโรงแรมหรู หลังจากติดต่อเจ้านายไม่ได้ซึ่งผิดนิสัยเป็นอย่างมากเขาจึงรีบขึ้นมาดูในห้อง“ไอ้จิม...” เซนโซ่รู้สึกตัวตื่นเพราะแรงเขย่า ใบหน้าหล่อเหลาหันมามองหญิงสาวข้างกายก็พบว่าเธอไม่ได้นอนอยู่ตรงนั้นแล้ว ‘ไปไหนวะ’“ใกล้เช้าแล้วครับ นายไม่รับสายผมเลยขึ้นมาดู”“ผู้หญิงคนนั้น....”“ไม่ทราบครับ ผมเห็นนายนอนอยู่คนเดียวเธอคงกลับไปแล้ว” จิมเอ่ยบอก หลังมาส่งเจ้านายกับหญิงสาวคนนั้น เขากลับไปยังห้องทำงานในคลับเพื่อค้นหาข้อมูลของเธอตามคำสั่ง น่าแปลกที่เขาไม่เจอประวัติส่วนตัวเธอเลย หากเป็นคนธรรมดาทั่วไปคงสืบหาได้ไม่ยาก เขาพยายามอย่างสุดความสามารถแต่กลับได้เพียงรูปถ่ายเพียงไปกี่รูปกับชื่อเล่นเท่านั้นไม่ปรากฏชื่อนามสกุลจริง‘ยัยตัวแสบ เธอกล้าหนีฉันอย่างนั้นหรอ’ ร่างสูงเอ่ยคาดโทษในใจ กลับถึงเพนท์เฮาส์เซนโซ่อาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาวพับขึ้นถึงข้อศอกกางเกงยีนส์สีเดียวกันเฉกเช่นทุกวัน แล้วเข้ามานั่งในห้องทำงานเปิ
“แก~ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” เสียงหวานยานครางตะโกนบอกเพื่อนสนิทแข่งกับเพลงอีดีเอ็มดังกระหึ่มในคลับหรู ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปมากกำลังเล่นงานเธออย่างหนักจนสายตาพร่าเบลอ“ไปคนเดียวได้มั้ยโม~ฉันเดินไม่ไหวอ่ะแก” นิวพูดเสียงอ้อแอ้ฟังแทบไม่ได้ศัพท์ นั่งโงนเงนค้ำศอกลงบนพื้นโต๊ะมือทั้งสองข้างประคองใบหน้าตัวเองไว้“ฉันด้วย~คืนนี้คงต้องโทรให้พี่พายมารับ~อึก” พะแพงเอ่ยบอกเสียงยานไม่ต่างกัน ปรือตามองเพื่อนสาวด้วยสายตาหวานเยิ้ม“สบายมาก~” จบคำ โมเอิร์นก้าวเดินฝ่าผู้คนแน่นขนัดไปยังห้องน้ำอย่างยากลำบาก หลังจากเสร็จธุระส่วนตัว ร่างบางเดินโซเซเพื่อกลับมายังโต๊ะ ทว่า ด้วยความมึนเมาที่มีมากจึงไม่ทันระวังตัวปึก!“อ๊ะ!” เสียงหวานหลุดร้องด้วยความตกใจ ใบหน้าสวยชนเข้ากับแผงอกแกร่งของใครบางคนเข้าอย่างจังจนรู้สึกเจ็บ จมูกโด่งเชิดรั้นแนบชิดเผลอสูดดมกลิ่นหอมของชายหนุ่มปะปนกลิ่นบุหรี่จางๆเข้าลึกสุดปอด ให้ความรู้สึกดีไม่น้อย“จะดมอีกนานมั้ย?!!”“ขอโทษค่ะ~ ฉัน…” ใบหน้าสวยเงยขึ้นช้อนมองอีกฝ่าย สายตาคู่สวยเพ่งมองใบหน้าหล่อเหลาราวกับต้องมนต์สะกด จนเผลอคิดดังขยับปากออกเสียงให้เขาได้ยิน“หล่อจัง~”“เดินไม่ดู!!” ร่
ร่างบางระหงในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปสีดำตัดผิว ความยาวเหนือเข่าขึ้นมามาก ใบหน้าสวยใสสมวัยแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบรนด์ดังส่งให้เธอดูออร่าโดดเด่น เป็นที่หมายตาของชายหลายคน ผมสลวยปล่อยสยายถึงกลางแผ่นหลัง ดวงตากลมโตซุกซนน่าค้นหา ปากนิดจมูกหน่อยรับกับใบหน้า เท้าเล็กบนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วสีเข้ากันกับชุด ก้าวเดินเข้ามาภายในคลับหรู ที่เปิดเพลงเสียงดังกระหึ่ม แสงไฟหลากสีวิบวับท่ามกลางความมืดสลัวของห้องโถงใหญ่ มีผู้เหล่านักท่องราตรีจำนวนมากทั้งชายและหญิง วัยเรียนวัยทำงานปะปนกัน ออกสเต็ปโยกตัวไปตามจังหวะดนตรี บ้างก็นั่งพูดคุยดื่มด่ำบรรยากาศภายในสถานบันเทิง“ยัยโม…ทางนี้” พะแพงตะโกนเรียกแข่งกับเสียงเพลง พลันยกมือขึ้นโบกไปมาส่งสัญญาณให้เพื่อนเห็น‘โมเอิร์น’ หญิงสาวใบหน้าสวยจิ้มลิ้ม วัย21 เรียนปี3คณะธุรกิจการบิน ส่วนสูงร้อยห้าสิบแปดเซนติเมตร เล็กอุ้มง่าย ทว่า หน้าอกหน้าใจกลับไม่เล็กตามตัว ยิ่งใส่ชุดเซ็กซี่ยิ่งเผยให้เห็นความอวบใหญ่ขนาดเกินตัวชวนให้เหลียวมอง“คนเยอะมาก...พี่ครามมารึยัง?” โมเอิร์นเอ่ยถาม สองเท้าหยุดยืนข้างเพื่อนสาว“ยัง...มาถึงก็ถามหาผู้ชายเลยนะ เพื่อนสองคนนั่งหัวโด่งไม่พูดถึงซักคำ”โมเ
ก๊อก! ก๊อก!ร่างสูงดูดีละสายตาจากหน้าจอไอแพดรุ่นใหม่ล่าสุดเงยหน้าขึ้น สายตาจับจ้องไปยังประตูบานใหญ่หน้าห้องทำงาน ภายในเพนท์เฮาส์สุดหรูบนตึกสูงระฟ้ากลางเมืองแหล่งธุรกิจ“เข้ามา” สิ้นเสียงทุ้มต่ำเอ่ยอนุญาต ประตูถูกเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของ ‘จิม’ มือขวาคนสนิทผู้ติดตามเขาไปทุกที่เพื่อดูแลและช่วยอำนวยความสะดวก ร่างหนาสูงโปร่งสาวเท้าเดินเข้ามาหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานเจ้านาย“มีอะไร”“นายใหญ่โทรมาสั่งให้นายไปพบที่บ้านตอนนี้ครับ”“ทำไม?”“ไม่ทราบครับนาย” จิมตอบกลับ พลางก้มหน้าลงเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด ยอมรับว่าตนเองบกพร่องในหน้าที่แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อคนที่อยู่ปลายสายคือนายใหญ่ผู้มีพระคุณ เขาจึงไม่กล้าซักไซ้ไล่ถาม“จิ๊!...” เสียงจิ๊จ๊ะดังจากปากหนาด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นยืนก้าวเดินออกจากห้องไป โดยมีลูกน้องคนสนิทเดินตามมาติดๆ เพื่อทำหน้าที่คนขับรถใช้เวลาไม่นานนัก รถหรูสีดำเงาก็ขับเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์สีขาว ตั้งเด่นตระง่านบนพื้นที่กว่าสี่ไร่กลางกรุงตึก! ตึก!สองเท้าหนักก้าวเดินเข้ามาในคฤหาสน์หรูโอ่อ่า ที่ๆเขาอาศัยอยู่ตั้งแต่จำความได้ ก่อนจะย้ายไปอยู่อังกฤษเพื่อศึกษาเล่าเรียนและเติบโ