บทที่ 6
รู้สึกดีไหมเวลาที่โดนฉันจูบ
“บอสครับ มีลูกค้าไม่ยอมจ่ายหนี้เราอยู่สองราย รวมๆ แล้วก็หลายหมื่นดอลลาร์จะให้จัดการยังไงดีครับ” แอนดริวเอ่ยกับผู้เป็นเจ้านาย หลังจากเดินทางมาหาตั้งแต่เช้าตรู่
“จับตัวมันมาซ้อมให้หลาบจำ จากนั้นขังไว้ในคุกใต้ดินสักสองวัน หากยังหาเงินมาไม่ได้ก็จัดการตัดนิ้วมันซะ” เขานั่งไขว้ขาอยู่บนโซฟาสั่งการอย่างสบายๆ
อินทิราเดินเข้ามาได้ยินพอดี เธอถึงกับตกอกตกใจกับคำสั่งของบาสเตียน ไม่นึกว่าเขาจะจิตใจโหดเหี้ยมได้ถึงขนาดนี้ นั่นทำให้เธอต้องระวังตัวมากขึ้นไปอีก
“ครับบอส ถ้างั้นผมจะเข้าไปคาสิโนเดี๋ยวนี้เลย” แอนดริวรับคำสั่งแล้วลุกขึ้นจากโซฟา จากนั้นหันหลังจะเดินออกไปก็เจอกับอินทิราเข้าเสียก่อน
“สวัสดีค่ะคุณแอนดริว” เจ้าหล่อนเอ่ยทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“อ้าว! คุณอินสวัสดีครับ” เมื่อเห็นหญิงสาวแอนดริวก็ยิ้มทักทาย
“จะกลับแล้วเหรอคะ”
“ครับผม เอาไว้ค่อยคุยกันนะครับ วันนี้ผมต้องรีบไปทำธุระให้บอส”
“ค่ะ มาที่นี่บ่อยๆ นะคะฉันจะได้มีเพื่อนคุยบ้าง”
“ครับผม ถ้างั้นขอตัวก่อนนะครับ”
“ค่ะ”
อินทิรารู้สึกถูกชะตากับแอนดริวเป็นพิเศษ เธอสัมผัสได้ถึงมิตรภาพที่จริงใจของชายหนุ่ม แม้ว่าแอนดริวจะเป็นเลขาส่วนตัวของบาสเตียนผู้ชายที่เธอเกลียดเข้าไส้ แต่ก็มั่นใจว่าเขาเป็นคนดีอย่างแน่นอน
เมื่อเห็นอีกฝ่ายมองตามหลังเลขาหนุ่มตาเป็นมัน บาสเตียนก็อดที่จะพูดแขวะเจ้าหล่อนไม่ได้
“ร่าน!”
“นายเป็นผู้ชายจริงๆ รึเปล่า ปากจัดกว่าผู้หญิงซะอีก” อินทิราเอ่ยขณะหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเดิมที่แอนดริวเคยนั่ง
“พรุ่งนี้เธอก็จะได้รู้ว่าฉันเป็นผู้ชายจริงรึเปล่าหึๆ” บาสเตียนแสยะยิ้มร้ายก่อนจะก้มหน้าลงไปสนใจหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือต่อ
“ชิส์!” อินทิราเบ้ปากใส่เขาอย่างไม่ยี่หระ จากนั้นก็ทำทีเป็นหยิบหนังสือพิมพ์อีกฉบับขึ้นมาอ่านบ้าง เธอต้องการกวนให้อีกฝ่ายเสียสมาธิจึงอ่านออกเสียงดัง จนบาสเตียนทนไม่ไหวต้องหันมาตะวาดใส่ทันที
“ไม่มีมารยาท! ที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนส่วนตัวของเธอนะ”
“ก็ฉันอยากจะอ่านนายจะทำไม มีป้ายติดว่าห้ามอ่านหนังสือออกเสียงงั้นเหรอ?” เจ้าหล่อนทำหน้ายียวนกวนประสาทใส่เขา
“เธอตั้งใจจะกวนประสาทฉัน!” บาสเตียนรู้ว่าเจ้าหล่อนตั้งใจทำให้เขาเสียสมาธิ
เก่งนักเหลือเกินเดี๋ยวได้โดนดีแน่
“ฉันเปล่า...ถ้าทนไม่ได้ก็ไปนั่งที่อื่นสิ”
“เธอกล้าดียังไงมาพูดอย่างนี้กับฉัน...ยัยบ้า!”
“ทำไมจะไม่กล้านายไม่ใช่พ่อแม่ฉันสักหน่อย” อินทิราต่อปากต่อคำกับเขาอย่างไม่ยอมแพ้
“อยากลองดีนักใช่ไหม” ว่าแล้วบาสเตียนก็ลุกขึ้นจากโซฟารีบเดินตรงเข้ามาหาอินทิรา แต่เธอไวยิ่งกว่ารีบลุกขึ้นวิ่งหนีไป
บาสเตียนพยายามวิ่งไล่จับหญิงสาววนอยู่บริเวณโซฟานานสองนานจนเริ่มโมโห เพราะเจ้าหล่อนเร็วยิ่งกว่าลิงเสียอีก
“ถ้าฉันจับได้เธอตายแน่อินทิรา”
“ไม่...มี...ทาง”
“โธ่โว้ย! ถ้าวันนี้ไม่ได้ลงโทษเธอฉันไม่มีทางยอมเด็ดขาด!”
“ถ้านายไม่ส่งฉันกลับเมืองไทยฉันจะยั่วโมโหนายทุกวันเลยคอยดู”
“อย่าหวังเลยยัยบ้าเอ๊ย! เธอจะต้องอยู่ที่นี่จนตาย”
“ไอ้บ้า! ไอ้โรคจิต” อินทิราตะโกนด่าพร้อมทั้งหยิบหมอนใบเล็กปาใส่เขา
“เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วโว้ย!!” ใบหน้าของมาเฟียหนุ่มแดงก่ำด้วยความเกรี้ยวกราด เขาอยากจะจับเธอเอาตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดเสียเหลือเกิน
“สมน้ำหน้า นายยังไม่รู้จักฉันดีพอบอกไว้เลย”
“จะเล่นอย่างนี้ใช่ไหม ด้ายยย...”
บาสเตียนยืนนิ่งจ้องเขม็งไปยังดวงหน้าสวยเพื่อตั้งหลัก จากนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหวเพื่อหาทางจับตัวหญิงสาวให้ได้ รอบนี้เขาใช้ความไวกว่ารั้งมืออินทิราเอาไว้ได้ ก่อนจะผลักลงบนพื้นแล้วคร่อมตัวทับทาบไว้
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” อินทิราขำไม่ออกเสียแล้วเมื่อตอนนี้เธออยู่ภายใต้เรือนกายกำยำของชายชายหนุ่ม
“ทำไมไม่ปากเก่งต่อล่ะแม่สาวน้อย” ตอนนี้บาสเตียนเป็นฝ่ายยิ้มเยาะได้บ้างแล้ว เขาตรึงแขนทั้งสองข้างของอินทิราแนบชิดกับพื้นห้องนั่งเล่น ก่อนจะค่อยโน้มใบหน้าคมลงไปจุมพิตที่แก้มขาวทั้งสองข้างสลับไปมาอย่างชื่นใจ
“อื้อ...หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้คนฉวยโอกาส” อินทิราพยายามส่ายหน้าหนีแต่เขากลับยิ่งระดมจูบตามแก้มขาวนวลอย่างบ้าคลั่ง เพื่อตอบแทนที่เธอแกล้งยั่วโมโหเขาก่อนหน้านี้
“ไม่ปล่อย! เก่งนักใช่ไหมเดี๋ยวได้เจอฉัน” ว่าแล้วบาสเตียนก็โน้มใบหน้าคมลงไปประกบจูบคนที่อยู่ใต้ร่าง
เมื่อเห็นเจ้าหล่อนไม่ยอมเปิดปากบาสเตียนก็ละมือข้างหนึ่งมาบีบจมูกหญิงสาว ทำให้อินทิราต้องยอมเผยอปากก่อนที่จะหมดลมหายไปใจเสียก่อน เมื่อทางสะดวกเขาส่งลิ้นเย็นเข้าไปตวัดเลียกับลิ้นของเธออย่างหื่นกระหาย โดยไม่สนว่าใครจะเข้ามาเห็น
ยิ่งได้ลิ้มลองรสชาติของริมฝีปากบาง บาสเตียนยิ่งหยุดตัวเองไม่ได้เลย ราวกับผู้หญิงคนนี้มีมนต์สะกดให้เขาหลงใหลและถอนตัวไม่ขึ้นซะอย่างนั้น
“อืออออ...”
บาสเตียนส่งเสียงฮือในลำคออย่างพอใจ เมื่อหญิงสาวเริ่มอ่อนระทวยยอมให้เขาตักตวงความหอมหวานได้ตามใจ ดวงตาคู่สวยของคนทั้งสองประสานกัน เหมือนมีอะไรบางอย่างสะกดให้ทั้งคู่ไม่อาจละสายตาไปจากกันได้ รสจูบที่ดูดดื่มแฝงไปด้วยความละเมียดละไมทำเอาอินทิราถึงกับเผลอใจไปชั่วขณะ ยอมให้เขาส่งลิ้นเข้ามารุกล้ำในโพรงปากอย่างสนุกสนาน
“ว้ายยย!!! คุณพระช่วย”
ป้าสมัยเดินเข้ามาเจอภาพบาดตาเข้าพอดี เจ้าหล่อนจึงอุทานร้องออกมาเสียงดังพลางยกมือขึ้นทาบอก ทำเอาคนทั้งสองหยุดชะงักหันไปมองหน้าแม่บ้านเก่าแก่พร้อมกัน แต่ทว่าบาสเตียนยังคงทับทาบอยู่บนตัวอินทิราไม่ยอมปล่อยโดยง่าย
“มีอะไรครับป้า” บาสเตียนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งราวกับไม่รู้สึกอายเลยสักนิด
อินทิราได้แต่นอนนิ่งอยู่อย่างนั้นด้วยความอับอายขายขี้หน้า ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้ยอมให้เขาทำตามอำเภอใจอย่างนี้
“เอ่อ...ไม่มีอะไรค่ะ ป้าแค่เดินผ่านมาเฉยๆ งั้นป้าไปแล้วนะคะ” ว่าแล้วป้าสมัยก็รีบเดินออกจากห้องนั่งเล่นไปโดยเร็ว
“นายมันบ้า แล้วอย่างนี้ฉันจะกล้ามองหน้าป้าสมัยได้ยังไงกัน” อินทิราเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเป็นที่สุด แต่กลับแฝงความเขินอายไว้ในนั้นด้วยพอประมาณ
“....”
บาสเตียนไม่มีเวลาตอบเพราะเขาเอาแต่จ้องมองดวงหน้าสวย ราวกับตกอยู่ในห้วงแห่งความเสน่หาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แม้ว่าอินทิราจะหน้าตาคล้ายคลึงกับพลอยดาวคนรักเก่า แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงความแตกต่างโดยสิ้นเชิง อินทิรามีความเป็นตัวเองสูงจนรับรู้ได้ถึงความจริงใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขายังคงต้องการทำให้เธอคนนี้ เป็นตัวแทนเพื่อระบายความแค้นภายในใจเฉกเช่นเดิม
“ปล่อยซะทีฉันอึดอัดจะแย่แล้วเนี่ย”
“ตอบคำถามฉันมาก่อนถึงจะปล่อย”
“ตอบคำถามบ้าบออะไรของนาย” อินทิรายังคงโวยวายใส่เขา เพื่อกลบเกลื่อนความเขินอายของตัวเอง
“รู้สึกดีไหมเวลาที่โดนฉันจูบ” เขากระตุกยิ้มร้าย พลางนึกถึงเมื่อครั้งที่จูบพลอยดาวเป็นครั้งแรก ตอนนั้นเธอบอกเขาว่าเป็นจูบแรกที่น่าประทับใจที่สุด
“กล้าถามเนอะ! ฉันขยะแขยงจนอยากจะอ้วกเต็มทีแล้วต่างหากล่ะ” อินทิราด่าเขาซึ่งๆ หน้า แต่ทว่าบาสเตียนกลับยิ้มอย่างพอใจ
“อย่างนี้สิฉันยิ่งชอบ อะไรที่ได้มาง่ายๆ มันมักไม่เร้าใจ พรุ่งนี้ครางให้ดังๆ ล่ะฉันชอบเวลาที่ผู้หญิงครางใต้ร่างฉันหึๆ” บาสเตียนยอมลุกขึ้นจากตัวอินทิราตามคำร้องขอ ก่อนจะยื่นมือมาให้เธอพยุงตัวลุกขึ้นตามมา แต่อินทิราเลือกที่จะปฏิเสธดันตัวลุกขึ้นมาด้วยตัวเอง
“ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนเลวกว่านายอีกแล้ว ชิส์!” อินทิราสะบัดตูดเดินหนีออกไปโดยเร็ว
บาสเตียนเผลอยิ้มน้อยๆ ออกมาอย่างไม่รู้ตัว พลางยกมือขึ้นมาลูบไล้ริมฝีปากตนเองเบาๆ แต่พอตั้งสติได้ชายหนุ่มก็หุบยิ้มแล้วรีบเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวเดิม หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทางด้านอินทิราก็รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าให้สะอาด ไม่ให้คราบดีเอ็นเอของชายหนุ่มหลงเหลือแม้แต่น้อย โดยเฉพาะริมฝีปากบางที่เธอใช้นิ้วถูไถแรงกว่าที่อื่นๆ ยิ่งถูยิ่งนึกถึงรสจูบที่สุดแสนจะดูดดื่มนั่น ทำเอาเจ้าหล่อนถึงกับรู้สึกหงุดหงิดกับความคิดของตนเองซะเหลือเกิน
“แกเป็นบ้าอะไร ทำไมต้องคิดถึงเรื่องบ้าๆ พวกนั้นด้วยเนี่ย” เจ้าหล่อนบ่นให้ตัวเองก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำไป
บทที่ 7สวยจนฉันทนไม่ไหวแล้วก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นฉุดให้หญิงสาวที่กำลังนั่งกลุ้มใจอยู่บนเตียงหลุดจากภวังค์ วันนี้ครบกำหนดที่บาสเตียนจะเข้ามาทวงสัญญาถึงในห้องแล้ว นั่นทำให้อินทิรานั่งตัวสั่นด้วยความกลัวปนตื่นเต้น เจ้าหล่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินตรงไปยังประตูหน้าห้อง ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปหมุนลูกบิดประตู“อ้าว! ป้าสมัยเองเหรอคะ” อินทิราโล่งใจเป็นที่สุดเมื่อรู้ว่าคนที่มาเคาะประตูห้องคือป้าสมัย“คิดว่าเป็นคุณบาสเตียนเหรอคะ” ป้าสมัยยิ้มให้ราวกับรู้ว่าวันนี้คือวันอะไร“เอ่อ..ค่ะป้า” เจ้าหล่อนหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเมื่อโดนแซว ตั้งแต่เมื่อวานที่ป้าสมัยเห็นบาสเตียนกอดจูบเธอในห้องนั่งเล่น เจ้าหล่อนยังคงอายทุกครั้งที่เห็นหน้าแม่บ้านใจดีคนนี้“คุณบาสเตียนให้ป้าเอาของมาให้ค่ะ” ว่าแล้วป้าสมัยก็ยื่นกล่องสี่เหลี่ยมแบนๆ ให้“ขอบคุณค่ะป้า ว่าแต่มันคืออะไรงั้นเหรอคะ”“ลองเปิดด
บทที่ 8ทำลูก“สะ...สวยเหลือเกิน สวยจนฉันทนไม่ไหวแล้ว” บาสเตียนเอื้อมมือไปลูบไล้เนินหญ้าอย่างละเมียดละไม จ้องมองความงดงามของเนินสาว กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่“อื้อ....”อินทิราร้องครางเมื่อได้รับสัมผัสที่แผ่วเบา เจ้าหล่อนเอียงหน้าหนีพร้อมทั้งหลับตาพริ้ม แถมยังตัวสั่นเทาด้วยความประหม่า เพราะนี่คือครั้งแรกที่โดยผู้ชายรุกล้ำเข้ามาในตัวแบบนี้“จะ...จะทำอะไร”เจ้าหล่อนร้องถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อโดนอีกฝ่ายจับขาเรียวแยกออกจากกันอ้าซ่า แถมยังเข้าไปนั่งยองๆ อยู่ตรงกลางอีกด้วย“เดี๋ยวก็รู้หึๆ”“อ๊ะ!”มาเฟียหน้าหล่อก้มหน้าลงไปที่กลางร่องแฉะ ใช้มือทั้งสองข้างแหวกกลีบแคมอูมทั้งสองออกจากกัน นั่นทำให้อินทิรารู้สึกเสียววาบจนต้องเกร็งท่อนขาวเรียวเข้าหากัน แต่ไม่สามารถหยุดความหื่นกระหายของบาสเตียนได้เลย“อย่าเกร็งสิ...เชื่อใจฉัน”เขาว่าพลางจ้องมองดวงหน้าสวยที่แสดงถึงความประหม่าอ
บทที่ 9แผนลวงใจค่ำคืนแห่งสงครามกามารมณ์อันยาวนานได้ผ่านพ้นมาแล้ว อินทิราแทบไม่กล้าสู้หน้าใครในบ้านหลังนี้เลยสักคน โดยเฉพาะบาสเตียน ผู้ชายที่ทำลายความบริสุทธิ์ของเธอให้ขาดสะบั้นลงไปอย่างหน้าไม่อายตอนนี้อินทิราค่อยๆ ย่องลงมาจากชั้นบนเพื่อรับประทานอาหารเช้า กวาดสายตามองหาคนในบ้าน เจ้าหล่อนแทบอยากเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี เพราะทุกคนในบ้านหลังนี้รู้ดีว่าเมื่อคืนเธอกับบาสเตียนทำอะไรกันในห้องนอน โดยเฉพาะป้าสมัยที่เป็นคนรู้ดีกว่าใครๆ“อ้าว! คุณอินมาทานข้าวเช้าสิคะ ป้าเตรียมสำรับไว้รอตั้งนานแล้ว” เมื่อเห็นหญิงสาวร่างเล็กกำลังเดินเข้ามาอย่างเก้ๆ กังๆ ป้าสมัยก็รีบเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม ทำให้ชายผู้เป็นเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่หัวโต๊ะมองด้วยหางตาก่อนจะกระตุกยิ้มร้าย“ขอบคุณค่ะป้า หนูขอโทษที่ลงมาช้า” เจ้าหล่อนตอบพลางเดินไปนั่งลงข้างโต๊ะ ซึ่งเป็นที่นั่งติดกับบาสเตียนแต่ไม่ยอมสบตาเขาแม้แต่แวบเดียว“ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้ป้าทำอาหารไทยให้คุณด้วยนะคะ ผัดผักรวมมิตรกั
บทที่ 10บอกรักหลังจากอาบน้ำอาบท่าแล้วอินทิราก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ เจ้าหล่อนเดินตรงมาเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดนอนมาสวมใส่ แต่ในขณะนั้นก็สะดุดตากับชุดนอนสายเดี่ยวซีทรูสีขาววางแอ้งแม้งอยู่ ทำให้นึกถึงคำพูดของบาสเตียนเมื่อช่วงเช้า มือเรียวจึงค่อยๆ เอื้อมไปหยิบมันขึ้นมา“ฉันต้องใส่ชุดบ้าบอนี่จริงๆ เหรอเนี่ย” เจ้าหล่อนบ่นกับตัวเองจากนั้นจึงตัดสินใจสวมชุดวาบหวิวนั่น เดินไปยังหน้ากระจกบานใหญ่เพื่อสำรวจความเรียบร้อย เอี้ยวตัวไปมาก่อนจะยิ้มอย่างพอใจกับความสวยของตัวเอง เรือนร่างอันเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าเนื้อบางที่เห็นทุกสัดส่วน เนินอกเต่งตึงชูชันโดดเด้งออกมาให้เห็นถนัดตา หากชายใดได้มาเห็นอย่างบาสเตียนคงไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้เป็นแน่หมับ!!!!“อุ๊ย! ...ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ มาไม่ให้สุ้มให้เสียงรู้ไหมว่าคนตกใจ” อินทิราสะดุ้งโหยงเมื่อโดนกอดจากด้านหลัง แถมมือหนายังวางหมับไว้บนเนินอกพอดิบพอดี มองในกระจกเงาก็เห็นรอยยิ้มกระชากใจสาวบนใบหน้าหล่อที่เกยค
บทที่ 11สวนแห่งรัก“ป้าสมัยคะ หนูขอคุยด้วยสักครู่ได้ไหม” อินทิราเดินมาหาป้าสมัยถึงในครัวเพราะต้องการพูดอะไรบางอย่างที่คิดไตร่ตรองมาทั้งคืน“คุณอินมีอะไรจะคุยกับป้าเหรอคะ” ป้าสมัยที่กำลังนั่งเตรียมของทำมื้อเที่ยงอยู่หันมายิ้มให้“คือ...เรื่องที่ป้าขอร้องให้ช่วย หนูตกลงจะช่วยนะคะ”“จริงเหรอคะคุณอิน! ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะ” ป้าสมัยยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อได้ยินข่าวดี“แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหนนะคะ”“ไม่เป็นไรค่ะป้ามั่นใจว่าคุณอินจะต้องทำได้ อีกอย่างตอนนี้ป้าก็รู้สึกว่าคุณบาสเตียนเริ่มยิ้มบ่อยขึ้น แสดงว่าคุณอินต้องมีของดีอะไรบางอย่างแน่ๆ อีกไม่นานก็จะมีเจ้าตัวเล็กแล้ว คุณอินต้องได้เป็นคุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้แน่นอนค่ะ”“หนูไม่คิดไปไกลถึงขนาดนั้นหรอกค่ะป้า” อินทิรายิ้มแหยๆ เมื่อรู้ว่าป้าสมัยตั้งความหวังกับเธอไว้สูงขนาดนั้น“ไม่ต้องถ่อมตัวหรอกค่ะ ป้ามั่นใจว่าคุณอินต้องทำได้และทำไ
บทที่ 12เพื่อน(สาว)ตั้งแต่แอนดริวย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน อินทิราก็รู้สึกไม่เหงาเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงปรับตัวเข้ากับผู้ชายคนนี้ได้ง่ายดายอย่างนี้ แอนดริวเป็นผู้ชายที่มีนิสัยน่ารัก พูดเก่ง แถมยังคอยแนะนำเรื่องต่างๆ ให้เธอได้เป็นอย่างดี นับเป็นเพื่อนผู้ชายคนแรกที่เธอสนิทใจได้ในระยะเวลาอันสั้นตอนนี้ทั้งสองกำลังนั่งสนทนากันอยู่ในศาลาในสวน ตรงกลางโต๊ะมีจานขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มวางอยู่เสร็จสรรพเมื่อหมดเรื่องคุยกันแล้วแอนดริวก็นั่งพิมพ์งานในแล็ปท็อปอย่างตั้งใจ ส่วนอินทิราก็นั่งอ่านหนังสือนวนิยายรักพร้อมทั้งอมยิ้มอยู่ข้างกันในระหว่างนั้นก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเดินตรงเข้ามาหาคนทั้งสองอย่างเงียบๆ“สวัสดีครับ”เมื่อได้ยินเสียงเอ่ยทักทายคนทั้งสองจึงเงยหน้าขึ้น หันไปมองยังต้นเสียงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย“อ้าว! คุณแม็กซ์เวลล์” แอนดริวยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าเป็นใคร‘แม็กซ์เวลล์’ เป็นเพื่อนรักของบาส
บทที่ 13เมาตกเย็นก็มีงานปาร์ตี้เล็กๆ ภายในห้องคาราโอเกะสุดหรู โซฟาแบรนด์ดังดีไซน์รูปครึ่งวงกลมถูกจับจองไปด้วยคนทั้งสี่ บาสเตียนนั่งตรงกลางโดยมีเพื่อนรักนั่งอยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนทางขวามือก็เป็นอินทิราและเลขาส่วนตัวตามลำดับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกรินใส่แก้วครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้บาสเตียนและแม็กซ์เวลล์เริ่มจะทรงตัวไม่ไหว ส่วนอีกสองคนยังคงนั่งจ้องหน้าจอทีวีขนาดยักษ์อย่างเพลิดเพลิน นั่นเพราะดื่มเพียงน้ำอัดลมธรรมดาเท่านั้น“เอ๊าโชนนน!!!”แกร๊ง!หนุ่มขี้เมาทั้งสองยกแก้วขึ้นชนกันก่อนจะดื่มน้ำสีอำพันลงไปจนหมดแก้ว ในขณะนั้นบาสเตียนก็ยกมืออีกข้างไปวางพาดบนบ่าอินทิราแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ด้วยความรำคาญเจ้าหล่อนจึงปัดมันออกให้พ้นตัวราวกับรำคาญเต็มทน“เมาแล้ววุ่นวายจริงๆ” เจ้าหล่อนบ่นให้คนที่นั่งข้างกัน“สงสัยคืนนี้คุณอินคงจะยุ่งน่าดูนะครับ” แอนดริวยิ้มน้อยๆ หลังจากเอ่ยแซวเจ้าหล่อน“ฉันว่าคุณนั่นล่ะจะยุ่ง” อินทิรายิ้มมุมปากราว
บทที่ 14ทำลูก2ตกเย็นก็มีงานปาร์ตี้เล็กๆ ภายในห้องคาราโอเกะสุดหรู โซฟาแบรนด์ดังดีไซน์รูปครึ่งวงกลมถูกจับจองไปด้วยคนทั้งสี่ บาสเตียนนั่งตรงกลางโดยมีเพื่อนรักนั่งอยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนทางขวามือก็เป็นอินทิราและเลขาส่วนตัวตามลำดับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกรินใส่แก้วครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้บาสเตียนและแม็กซ์เวลล์เริ่มจะทรงตัวไม่ไหว ส่วนอีกสองคนยังคงนั่งจ้องหน้าจอทีวีขนาดยักษ์อย่างเพลิดเพลิน นั่นเพราะดื่มเพียงน้ำอัดลมธรรมดาเท่านั้น“เอ๊าโชนนน!!!”แกร๊ง!หนุ่มขี้เมาทั้งสองยกแก้วขึ้นชนกันก่อนจะดื่มน้ำสีอำพันลงไปจนหมดแก้ว ในขณะนั้นบาสเตียนก็ยกมืออีกข้างไปวางพาดบนบ่าอินทิราแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ด้วยความรำคาญเจ้าหล่อนจึงปัดมันออกให้พ้นตัวราวกับรำคาญเต็มทน“เมาแล้ววุ่นวายจริงๆ” เจ้าหล่อนบ่นให้คนที่นั่งข้างกัน“สงสัยคืนนี้คุณอินคงจะยุ่งน่าดูนะครับ” แอนดริวยิ้มน้อยๆ หลังจากเอ่ยแซวเจ้าหล่อน“ฉันว่าคุณนั่นล่ะจะยุ่ง” อินทิรายิ้มมุมปาก
บทที่ 15ข่าวดีหนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากคืนวันนั้นอินทิราก็รู้สึกผิดกับแอนดริวเป็นที่สุด นั่นเพราะทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดคิดไว้เลยสักนิด แม็กซ์เวลล์ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองได้ร่วมหลับนอนกับเลขาของเพื่อนรัก ซึ่งเป็นผู้ชายด้วยกันทำให้เขารับไม่ได้ ต่อยหน้าแอนดริวไปสองหมัดติดก่อนจะรีบออกจากบ้านไป จากวันนั้นถึงวันนี้ยังไม่มาให้แอนดริวเห็นหนี้อีกเลยสักครั้ง“ฉันขอโทษนะคะ ไม่นึกว่าเรื่องมันจะเป็นอย่างนี้” อินทิราเอ่ยกับแอนดริวเสียงอ่อย ขณะนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น“ไม่เป็นไรครับ ผมต้องขอบคุณคุณอินมากกว่า ที่อย่างน้อยก็ทำให้ผมกล้าทำสิ่งที่ตัวเองไม่เคยกล้า ถึงยังไงเรื่องของผมกับเขามันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นถือเป็นกำไรชีวิตที่มีค่ามาก” แอนดริวยิ้มอย่างสบายใจ สื่อให้อินทิรารู้ว่าเขาเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว“ฉันมั่นใจว่าจะช่วยคุณได้แน่ๆ แต่ขอเวลาอีกแปบนึงนะคะ” อินทิรายังดึงดันที่จะช่วย เธอมั่นใจว่าความดีของแอนดริวจะเอาชนะใจแม็กซ์เวลล์
บทที่ 14ทำลูก2ตกเย็นก็มีงานปาร์ตี้เล็กๆ ภายในห้องคาราโอเกะสุดหรู โซฟาแบรนด์ดังดีไซน์รูปครึ่งวงกลมถูกจับจองไปด้วยคนทั้งสี่ บาสเตียนนั่งตรงกลางโดยมีเพื่อนรักนั่งอยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนทางขวามือก็เป็นอินทิราและเลขาส่วนตัวตามลำดับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกรินใส่แก้วครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้บาสเตียนและแม็กซ์เวลล์เริ่มจะทรงตัวไม่ไหว ส่วนอีกสองคนยังคงนั่งจ้องหน้าจอทีวีขนาดยักษ์อย่างเพลิดเพลิน นั่นเพราะดื่มเพียงน้ำอัดลมธรรมดาเท่านั้น“เอ๊าโชนนน!!!”แกร๊ง!หนุ่มขี้เมาทั้งสองยกแก้วขึ้นชนกันก่อนจะดื่มน้ำสีอำพันลงไปจนหมดแก้ว ในขณะนั้นบาสเตียนก็ยกมืออีกข้างไปวางพาดบนบ่าอินทิราแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ด้วยความรำคาญเจ้าหล่อนจึงปัดมันออกให้พ้นตัวราวกับรำคาญเต็มทน“เมาแล้ววุ่นวายจริงๆ” เจ้าหล่อนบ่นให้คนที่นั่งข้างกัน“สงสัยคืนนี้คุณอินคงจะยุ่งน่าดูนะครับ” แอนดริวยิ้มน้อยๆ หลังจากเอ่ยแซวเจ้าหล่อน“ฉันว่าคุณนั่นล่ะจะยุ่ง” อินทิรายิ้มมุมปาก
บทที่ 13เมาตกเย็นก็มีงานปาร์ตี้เล็กๆ ภายในห้องคาราโอเกะสุดหรู โซฟาแบรนด์ดังดีไซน์รูปครึ่งวงกลมถูกจับจองไปด้วยคนทั้งสี่ บาสเตียนนั่งตรงกลางโดยมีเพื่อนรักนั่งอยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนทางขวามือก็เป็นอินทิราและเลขาส่วนตัวตามลำดับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกรินใส่แก้วครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้บาสเตียนและแม็กซ์เวลล์เริ่มจะทรงตัวไม่ไหว ส่วนอีกสองคนยังคงนั่งจ้องหน้าจอทีวีขนาดยักษ์อย่างเพลิดเพลิน นั่นเพราะดื่มเพียงน้ำอัดลมธรรมดาเท่านั้น“เอ๊าโชนนน!!!”แกร๊ง!หนุ่มขี้เมาทั้งสองยกแก้วขึ้นชนกันก่อนจะดื่มน้ำสีอำพันลงไปจนหมดแก้ว ในขณะนั้นบาสเตียนก็ยกมืออีกข้างไปวางพาดบนบ่าอินทิราแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ด้วยความรำคาญเจ้าหล่อนจึงปัดมันออกให้พ้นตัวราวกับรำคาญเต็มทน“เมาแล้ววุ่นวายจริงๆ” เจ้าหล่อนบ่นให้คนที่นั่งข้างกัน“สงสัยคืนนี้คุณอินคงจะยุ่งน่าดูนะครับ” แอนดริวยิ้มน้อยๆ หลังจากเอ่ยแซวเจ้าหล่อน“ฉันว่าคุณนั่นล่ะจะยุ่ง” อินทิรายิ้มมุมปากราว
บทที่ 12เพื่อน(สาว)ตั้งแต่แอนดริวย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน อินทิราก็รู้สึกไม่เหงาเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงปรับตัวเข้ากับผู้ชายคนนี้ได้ง่ายดายอย่างนี้ แอนดริวเป็นผู้ชายที่มีนิสัยน่ารัก พูดเก่ง แถมยังคอยแนะนำเรื่องต่างๆ ให้เธอได้เป็นอย่างดี นับเป็นเพื่อนผู้ชายคนแรกที่เธอสนิทใจได้ในระยะเวลาอันสั้นตอนนี้ทั้งสองกำลังนั่งสนทนากันอยู่ในศาลาในสวน ตรงกลางโต๊ะมีจานขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มวางอยู่เสร็จสรรพเมื่อหมดเรื่องคุยกันแล้วแอนดริวก็นั่งพิมพ์งานในแล็ปท็อปอย่างตั้งใจ ส่วนอินทิราก็นั่งอ่านหนังสือนวนิยายรักพร้อมทั้งอมยิ้มอยู่ข้างกันในระหว่างนั้นก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเดินตรงเข้ามาหาคนทั้งสองอย่างเงียบๆ“สวัสดีครับ”เมื่อได้ยินเสียงเอ่ยทักทายคนทั้งสองจึงเงยหน้าขึ้น หันไปมองยังต้นเสียงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย“อ้าว! คุณแม็กซ์เวลล์” แอนดริวยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าเป็นใคร‘แม็กซ์เวลล์’ เป็นเพื่อนรักของบาส
บทที่ 11สวนแห่งรัก“ป้าสมัยคะ หนูขอคุยด้วยสักครู่ได้ไหม” อินทิราเดินมาหาป้าสมัยถึงในครัวเพราะต้องการพูดอะไรบางอย่างที่คิดไตร่ตรองมาทั้งคืน“คุณอินมีอะไรจะคุยกับป้าเหรอคะ” ป้าสมัยที่กำลังนั่งเตรียมของทำมื้อเที่ยงอยู่หันมายิ้มให้“คือ...เรื่องที่ป้าขอร้องให้ช่วย หนูตกลงจะช่วยนะคะ”“จริงเหรอคะคุณอิน! ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะ” ป้าสมัยยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อได้ยินข่าวดี“แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหนนะคะ”“ไม่เป็นไรค่ะป้ามั่นใจว่าคุณอินจะต้องทำได้ อีกอย่างตอนนี้ป้าก็รู้สึกว่าคุณบาสเตียนเริ่มยิ้มบ่อยขึ้น แสดงว่าคุณอินต้องมีของดีอะไรบางอย่างแน่ๆ อีกไม่นานก็จะมีเจ้าตัวเล็กแล้ว คุณอินต้องได้เป็นคุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้แน่นอนค่ะ”“หนูไม่คิดไปไกลถึงขนาดนั้นหรอกค่ะป้า” อินทิรายิ้มแหยๆ เมื่อรู้ว่าป้าสมัยตั้งความหวังกับเธอไว้สูงขนาดนั้น“ไม่ต้องถ่อมตัวหรอกค่ะ ป้ามั่นใจว่าคุณอินต้องทำได้และทำไ
บทที่ 10บอกรักหลังจากอาบน้ำอาบท่าแล้วอินทิราก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ เจ้าหล่อนเดินตรงมาเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดนอนมาสวมใส่ แต่ในขณะนั้นก็สะดุดตากับชุดนอนสายเดี่ยวซีทรูสีขาววางแอ้งแม้งอยู่ ทำให้นึกถึงคำพูดของบาสเตียนเมื่อช่วงเช้า มือเรียวจึงค่อยๆ เอื้อมไปหยิบมันขึ้นมา“ฉันต้องใส่ชุดบ้าบอนี่จริงๆ เหรอเนี่ย” เจ้าหล่อนบ่นกับตัวเองจากนั้นจึงตัดสินใจสวมชุดวาบหวิวนั่น เดินไปยังหน้ากระจกบานใหญ่เพื่อสำรวจความเรียบร้อย เอี้ยวตัวไปมาก่อนจะยิ้มอย่างพอใจกับความสวยของตัวเอง เรือนร่างอันเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าเนื้อบางที่เห็นทุกสัดส่วน เนินอกเต่งตึงชูชันโดดเด้งออกมาให้เห็นถนัดตา หากชายใดได้มาเห็นอย่างบาสเตียนคงไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้เป็นแน่หมับ!!!!“อุ๊ย! ...ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ มาไม่ให้สุ้มให้เสียงรู้ไหมว่าคนตกใจ” อินทิราสะดุ้งโหยงเมื่อโดนกอดจากด้านหลัง แถมมือหนายังวางหมับไว้บนเนินอกพอดิบพอดี มองในกระจกเงาก็เห็นรอยยิ้มกระชากใจสาวบนใบหน้าหล่อที่เกยค
บทที่ 9แผนลวงใจค่ำคืนแห่งสงครามกามารมณ์อันยาวนานได้ผ่านพ้นมาแล้ว อินทิราแทบไม่กล้าสู้หน้าใครในบ้านหลังนี้เลยสักคน โดยเฉพาะบาสเตียน ผู้ชายที่ทำลายความบริสุทธิ์ของเธอให้ขาดสะบั้นลงไปอย่างหน้าไม่อายตอนนี้อินทิราค่อยๆ ย่องลงมาจากชั้นบนเพื่อรับประทานอาหารเช้า กวาดสายตามองหาคนในบ้าน เจ้าหล่อนแทบอยากเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี เพราะทุกคนในบ้านหลังนี้รู้ดีว่าเมื่อคืนเธอกับบาสเตียนทำอะไรกันในห้องนอน โดยเฉพาะป้าสมัยที่เป็นคนรู้ดีกว่าใครๆ“อ้าว! คุณอินมาทานข้าวเช้าสิคะ ป้าเตรียมสำรับไว้รอตั้งนานแล้ว” เมื่อเห็นหญิงสาวร่างเล็กกำลังเดินเข้ามาอย่างเก้ๆ กังๆ ป้าสมัยก็รีบเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม ทำให้ชายผู้เป็นเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่หัวโต๊ะมองด้วยหางตาก่อนจะกระตุกยิ้มร้าย“ขอบคุณค่ะป้า หนูขอโทษที่ลงมาช้า” เจ้าหล่อนตอบพลางเดินไปนั่งลงข้างโต๊ะ ซึ่งเป็นที่นั่งติดกับบาสเตียนแต่ไม่ยอมสบตาเขาแม้แต่แวบเดียว“ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้ป้าทำอาหารไทยให้คุณด้วยนะคะ ผัดผักรวมมิตรกั
บทที่ 8ทำลูก“สะ...สวยเหลือเกิน สวยจนฉันทนไม่ไหวแล้ว” บาสเตียนเอื้อมมือไปลูบไล้เนินหญ้าอย่างละเมียดละไม จ้องมองความงดงามของเนินสาว กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่“อื้อ....”อินทิราร้องครางเมื่อได้รับสัมผัสที่แผ่วเบา เจ้าหล่อนเอียงหน้าหนีพร้อมทั้งหลับตาพริ้ม แถมยังตัวสั่นเทาด้วยความประหม่า เพราะนี่คือครั้งแรกที่โดยผู้ชายรุกล้ำเข้ามาในตัวแบบนี้“จะ...จะทำอะไร”เจ้าหล่อนร้องถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อโดนอีกฝ่ายจับขาเรียวแยกออกจากกันอ้าซ่า แถมยังเข้าไปนั่งยองๆ อยู่ตรงกลางอีกด้วย“เดี๋ยวก็รู้หึๆ”“อ๊ะ!”มาเฟียหน้าหล่อก้มหน้าลงไปที่กลางร่องแฉะ ใช้มือทั้งสองข้างแหวกกลีบแคมอูมทั้งสองออกจากกัน นั่นทำให้อินทิรารู้สึกเสียววาบจนต้องเกร็งท่อนขาวเรียวเข้าหากัน แต่ไม่สามารถหยุดความหื่นกระหายของบาสเตียนได้เลย“อย่าเกร็งสิ...เชื่อใจฉัน”เขาว่าพลางจ้องมองดวงหน้าสวยที่แสดงถึงความประหม่าอ
บทที่ 7สวยจนฉันทนไม่ไหวแล้วก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นฉุดให้หญิงสาวที่กำลังนั่งกลุ้มใจอยู่บนเตียงหลุดจากภวังค์ วันนี้ครบกำหนดที่บาสเตียนจะเข้ามาทวงสัญญาถึงในห้องแล้ว นั่นทำให้อินทิรานั่งตัวสั่นด้วยความกลัวปนตื่นเต้น เจ้าหล่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินตรงไปยังประตูหน้าห้อง ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปหมุนลูกบิดประตู“อ้าว! ป้าสมัยเองเหรอคะ” อินทิราโล่งใจเป็นที่สุดเมื่อรู้ว่าคนที่มาเคาะประตูห้องคือป้าสมัย“คิดว่าเป็นคุณบาสเตียนเหรอคะ” ป้าสมัยยิ้มให้ราวกับรู้ว่าวันนี้คือวันอะไร“เอ่อ..ค่ะป้า” เจ้าหล่อนหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเมื่อโดนแซว ตั้งแต่เมื่อวานที่ป้าสมัยเห็นบาสเตียนกอดจูบเธอในห้องนั่งเล่น เจ้าหล่อนยังคงอายทุกครั้งที่เห็นหน้าแม่บ้านใจดีคนนี้“คุณบาสเตียนให้ป้าเอาของมาให้ค่ะ” ว่าแล้วป้าสมัยก็ยื่นกล่องสี่เหลี่ยมแบนๆ ให้“ขอบคุณค่ะป้า ว่าแต่มันคืออะไรงั้นเหรอคะ”“ลองเปิดด