บทที่ 7
สวยจนฉันทนไม่ไหวแล้ว
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นฉุดให้หญิงสาวที่กำลังนั่งกลุ้มใจอยู่บนเตียงหลุดจากภวังค์ วันนี้ครบกำหนดที่บาสเตียนจะเข้ามาทวงสัญญาถึงในห้องแล้ว นั่นทำให้อินทิรานั่งตัวสั่นด้วยความกลัวปนตื่นเต้น เจ้าหล่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินตรงไปยังประตูหน้าห้อง ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปหมุนลูกบิดประตู
“อ้าว! ป้าสมัยเองเหรอคะ” อินทิราโล่งใจเป็นที่สุดเมื่อรู้ว่าคนที่มาเคาะประตูห้องคือป้าสมัย
“คิดว่าเป็นคุณบาสเตียนเหรอคะ” ป้าสมัยยิ้มให้ราวกับรู้ว่าวันนี้คือวันอะไร
“เอ่อ..ค่ะป้า” เจ้าหล่อนหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเมื่อโดนแซว ตั้งแต่เมื่อวานที่ป้าสมัยเห็นบาสเตียนกอดจูบเธอในห้องนั่งเล่น เจ้าหล่อนยังคงอายทุกครั้งที่เห็นหน้าแม่บ้านใจดีคนนี้
“คุณบาสเตียนให้ป้าเอาของมาให้ค่ะ” ว่าแล้วป้าสมัยก็ยื่นกล่องสี่เหลี่ยมแบนๆ ให้
“ขอบคุณค่ะป้า ว่าแต่มันคืออะไรงั้นเหรอคะ”
“ลองเปิดดูเองดีกว่าค่ะ ถ้างั้นป้าไปก่อนนะคะ” ป้าสมัยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะเดินลงไปที่ชั้นล่าง
อินทิรามองตามหลังไปด้วยความสงสัย จากนั้นจึงเดินเข้าไปในห้อง นั่งลงข้างเตียงก่อนจะเปิดกล่องหรูนั้นออกมาดูก็พบว่ามันคือชุดนอนสายเดี่ยวซีทรู แถมยังมีโน้ตใบเล็กๆ อยู่ในนั้นด้วยอีกต่างหาก
‘ใส่ชุดนี้ก่อนที่ฉันจะเข้าไปในห้อง ไม่งั้นอย่าหาว่าไม่เตือน’
ได้อ่านแล้วอินทิราก็โยนชุดบ้าบอนั้นลงบนพื้นด้วยความโมโห เธอไม่มีทางใส่ชุดนั้นเด็ดขาด ผู้ชายคนนี้ทำให้เธอโมโหได้ทุกครั้งที่เจอกันเลยจริงๆ
“ให้ตายฉันก็ไม่มีวันใส่ไอ้คนบ้า”
อินทิราพ่นคำก่นด่าลงไปที่ชุดที่กองแอ้งแม้งอยู่บนพื้น
“ทำไมเธอชอบขัดใจฉันอยู่เรื่อยเลย”
เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลัง อินทิราจึงหันขวับไปมองด้วยความตกใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนถอยหลังไปเล็กน้อย
“นายส่งชุดบ้าบออะไรมาให้ฉันใส่ก็ไม่รู้”
“สวยจะตายทำไมเธอไม่ใส่มันล่ะหึๆ”
“นายก็เอาไปใส่เองสิ คงจะสวยพิลึกน่าดู” พูดจบเจ้าหล่อนก็ขำออกมาเล็กน้อยด้วยความสะใจ
“ทำเป็นเก่งไปเถอะ วันนี้ฉันจะทำให้เธอครางทั้งคืนเลยคอยดู”
พูดจบบาสเตียนก็เดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวทันที
“ถ้าเข้ามาฉันจะร้องให้คนช่วย”
“ร้องให้ตายก็ไม่มีใครมาช่วยเธอหรอก เพราะห้องนอนทุกห้องเก็บเสียงได้ดีเลยล่ะ”
“อย่าทำฉันเลยนะ ขอเวลาอีกอาทิตย์นึงไม่ได้เหรอ ฉันยังไม่พร้อมจริงๆ” อินทิราเริ่มใช้บทอ้อน ยกมือขึ้นไหว้ทำหน้าตาน่าสงสาร
“อย่ามาทำเป็นอ้อนวอนขอร้อง แค่ฉันให้เธอใส่ชุดเธอยังไม่ยอมทำตามเลย ฉันไม่หลงกลคนอย่างเธอหรอก” ว่าแล้วบาสเตียนก็เดินย่างสามขุมอ้าแขนต้อนอินทิราไปที่มุมห้อง
“ก็ชุดที่นายให้ใส่มันโป๊ะขนาดนั้นใครใส่ก็บ้าแล้ว” พูดจบอินทิราก็ย่อตัวลงเล็กน้อยเพื่อจะลอดช่องแขนบาสเตียนหนีไป แต่ทว่าเธอกลับถูกชายหนุ่มรั้งตัวไว้ กอดรัดจนแน่นขนัดแล้วลากตัวไปที่เตียงนอน
“ฤทธิ์เยอะเหลือเกินนะ”
“ปล่อยฉันนะไอ้บ้า!”
ตุบ!!!
บาสเตียนโยนตัวหญิงสาวลงบนเตียงนุ่ม จากนั้นก็ตามขึ้นไปคร่อมร่างไว้ ตรึงข้อมือทั้งสองข้างไว้แน่น ส่งสายตาคมโลมเลียบนใบหน้าสวยโดยเฉพาะริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อ ที่ทำให้เขาไม่อาจละสายตาไปได้
เจ้าหล่อนพยายามดิ้นรนเพื่อให้เป็นอิสระ บาสเตียนจึงใช้ความเผด็จการออกคำสั่งเสียงดัง
“อยู่เฉยๆ สิวะ!”
“ไม่!”
“จะดื้อไปถึงไหนในเมื่อเธอก็ต้องเป็นของฉันอยู่ดี นอนนิ่งๆ ให้ความร่วมมือดีกว่าน่า ยิ่งเธอขัดขืนฉันยิ่งจะรุนแรง...เตือนแล้วนะ”
ได้ยินอย่างนั้นอินทิราก็เริ่มอยู่นิ่งๆ ลดความพยศลงในทันที เพราะเธอคิดว่าถึงยังไงวันนี้ก็ต้องตกเป็นของเขาอยู่ดี ยิ่งให้ความร่วมมือสงครามรักครั้งนี้น่าจะจบลงเร็วขึ้น
“จะทำอะไรก็รีบทำสิ ฉันหนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้วนี่” เจ้าหล่อนเอ่ยแต่สายตากลับเสมองไปทางอื่น หยาดน้ำใสๆ ไหลลงจากหางตาด้วยความเสียใจ ก็แน่ล่ะเพราะการเสียตัวครั้งนี้มันเป็นการเสียความบริสุทธิ์ ที่เธอหวงแหนไว้ให้กับชายผู้เป็นที่รักในอนาคตน่ะสิ
“ตอนนี้เธออาจจะร้องไห้เสียใจ แต่อีกไม่นานหรอก...เธอจะเสียวจนต้องร้องครวญครางเลยล่ะ” เขาโน้มใบหน้าลงมาเอ่ยเบาๆ ข้างใบหูสวย จากนั้นก็บรรจงจุมพิตตามดวงหน้าสวยอย่างเสน่หา
ทุกสัมผัสที่เกิดขึ้นทำเอาหญิงสาวที่นอนตัวเกร็งขนลุนเกรียวด้วยความสยิว แม้ว่าเธอจะขยะแขยงไม่เต็มใจกับมันนัก แต่ทว่ากลับรู้สึกปั่นป่วนในร่างกายอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกพวกนั้นมันหายไปและถูกแทนที่ด้วยความต้องการอย่างที่เขาบอกจริงๆ กลิ่นกายของชายหนุ่มช่างยั่วเย้าความต้องการให้เธอได้มากเหลือเกิน
“อือออ...” อินทิราเผลอร้องครางออกมาเบาๆ จนเจ้าหล่อนต้องเม้มปากไว้แน่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายได้ใจ
บาสเตียนยกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าสวยให้หันมามองตนเอง แต่ทว่าอินทิรากลับหลับตาพริ้มไม่อยากเห็นคนตรงหน้าให้เจ็บช้ำใจ
“ลืมตาเดี๋ยวนี้!”
“....”
อีกฝ่ายไม่ตอบและไม่ยอมทำตาม
“ฉันบอกให้ลืมตาเดี๋ยวนี้ไง!”
อินทิราตัดความรำคาญจึงเปิดเปลือกตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก็เห็นดวงหน้าหล่อจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว
“มองทำไม?” เห็นอย่างนั้นอินทิราก็เขินเบอร์แรง สายตาคมคู่นั้นทำให้เธอแทบละลายเสียให้ได้ หากไม่ได้เจอกันที่นี่เธอคงจะมีใจให้ผู้ชายคนนี้ไปแล้วอย่างแน่นอน เพราะเขาหล่อบาดใจแถมยังรวยระดับท็อปของอเมริกาอีกด้วย
“มองเมียตัวเองไม่ได้รึไง” บาสเตียนเอ่ยหยอกหญิงสาว ส่งสายตาเจ้าชู้ยักษ์ใส่แทบไม่กะพริบตา
“ฉันไม่ใช่เมียนายสักหน่อย”
“ก็กำลังจะเป็นอยู่นี่ไงล่ะหึๆ”
“รีบๆ ทำซะสิฉันขยะแขยงนายเต็มทนแล้ว”
“ดี!! ขยะแขยงฉันให้มากๆ เพราะนับจากวันนี้ฉันจะย้ายเข้ามานอนกับเธอที่นี่”
บาสเตียนไม่ยอมให้อีกฝ่ายเอ่ยคำใดประท้วง เขาประกบจูบริมฝีปากบางทันที มือหนาทั้งสองข้างบีบเคล้นเนินอกสาวผ่านเสื้อนอนตัวบาง บดจูบอย่างบ้าคลั่งจนทำให้ร่างบางอ่อนระทวยในพริบตา เขาส่งลิ้นเย็นเข้าไปในโพรงปากตวัดเลียกับลิ้นของอินทิราอย่างสนุกสนาน
ในขณะเดียวกันความเป็นชายก็เริ่มขยายตัวจนคับแน่นเป้ากางเกงดุนที่เนินสาวของอินทิราจนรู้สึกได้
“อืมมมม...”
บาสเตียนส่งเสียงครวญครางในลำคออย่างพอใจกับรสชาติความหอมหวานของริมฝีปากบาง จากนั้นไม่นานเขาก็ค่อยๆ ดึงชายเสื้อของอินทิราขึ้นไปกองไว้บนเนินอกเต่งตึง เลื้อยมือไปด้านหัลงเพื่อปลดตะขอยกทรงสีชมพูพาสเทลออก ไม่นานหลังจากนั้นส่วนบนของหญิงสาวก็เปลือยเปล่าไร้ซึ่งอาภรณ์ปกปิด
ชายหนุ่มยันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะถอดเสื้อผ้าตัวเองออกจนเผยให้เห็นเรือนกายกำยำ เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อบ่งบอกว่าเขาใส่ใจกับสรีระมากขนาดไหน อินทิราเห็นอย่างนั้นก็เอนหน้าหนีด้วยความเขินอาย หัวใจเธอเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเมื่อเขาค่อยๆ ดึงกางเกงเธอลงไปที่ปลายเท้าพร้อมกับแพนตี้ตัวจิ๋ว เผยให้เห็นเนินโหนกนูนที่ปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้าสีดำขลับ ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นก็ทำให้ท่อนเอ็นตัวเขื่องกระดกรับ บ่งบอกว่ามันพร้อมที่จะเข้าไปทักทายกันแล้ว
“สะ...สวยเหลือเกิน สวยจนฉันทนไม่ไหวแล้ว”
บทที่ 8ทำลูก“สะ...สวยเหลือเกิน สวยจนฉันทนไม่ไหวแล้ว” บาสเตียนเอื้อมมือไปลูบไล้เนินหญ้าอย่างละเมียดละไม จ้องมองความงดงามของเนินสาว กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่“อื้อ....”อินทิราร้องครางเมื่อได้รับสัมผัสที่แผ่วเบา เจ้าหล่อนเอียงหน้าหนีพร้อมทั้งหลับตาพริ้ม แถมยังตัวสั่นเทาด้วยความประหม่า เพราะนี่คือครั้งแรกที่โดยผู้ชายรุกล้ำเข้ามาในตัวแบบนี้“จะ...จะทำอะไร”เจ้าหล่อนร้องถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อโดนอีกฝ่ายจับขาเรียวแยกออกจากกันอ้าซ่า แถมยังเข้าไปนั่งยองๆ อยู่ตรงกลางอีกด้วย“เดี๋ยวก็รู้หึๆ”“อ๊ะ!”มาเฟียหน้าหล่อก้มหน้าลงไปที่กลางร่องแฉะ ใช้มือทั้งสองข้างแหวกกลีบแคมอูมทั้งสองออกจากกัน นั่นทำให้อินทิรารู้สึกเสียววาบจนต้องเกร็งท่อนขาวเรียวเข้าหากัน แต่ไม่สามารถหยุดความหื่นกระหายของบาสเตียนได้เลย“อย่าเกร็งสิ...เชื่อใจฉัน”เขาว่าพลางจ้องมองดวงหน้าสวยที่แสดงถึงความประหม่าอ
บทที่ 9แผนลวงใจค่ำคืนแห่งสงครามกามารมณ์อันยาวนานได้ผ่านพ้นมาแล้ว อินทิราแทบไม่กล้าสู้หน้าใครในบ้านหลังนี้เลยสักคน โดยเฉพาะบาสเตียน ผู้ชายที่ทำลายความบริสุทธิ์ของเธอให้ขาดสะบั้นลงไปอย่างหน้าไม่อายตอนนี้อินทิราค่อยๆ ย่องลงมาจากชั้นบนเพื่อรับประทานอาหารเช้า กวาดสายตามองหาคนในบ้าน เจ้าหล่อนแทบอยากเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี เพราะทุกคนในบ้านหลังนี้รู้ดีว่าเมื่อคืนเธอกับบาสเตียนทำอะไรกันในห้องนอน โดยเฉพาะป้าสมัยที่เป็นคนรู้ดีกว่าใครๆ“อ้าว! คุณอินมาทานข้าวเช้าสิคะ ป้าเตรียมสำรับไว้รอตั้งนานแล้ว” เมื่อเห็นหญิงสาวร่างเล็กกำลังเดินเข้ามาอย่างเก้ๆ กังๆ ป้าสมัยก็รีบเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม ทำให้ชายผู้เป็นเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่หัวโต๊ะมองด้วยหางตาก่อนจะกระตุกยิ้มร้าย“ขอบคุณค่ะป้า หนูขอโทษที่ลงมาช้า” เจ้าหล่อนตอบพลางเดินไปนั่งลงข้างโต๊ะ ซึ่งเป็นที่นั่งติดกับบาสเตียนแต่ไม่ยอมสบตาเขาแม้แต่แวบเดียว“ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้ป้าทำอาหารไทยให้คุณด้วยนะคะ ผัดผักรวมมิตรกั
บทที่ 10บอกรักหลังจากอาบน้ำอาบท่าแล้วอินทิราก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ เจ้าหล่อนเดินตรงมาเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดนอนมาสวมใส่ แต่ในขณะนั้นก็สะดุดตากับชุดนอนสายเดี่ยวซีทรูสีขาววางแอ้งแม้งอยู่ ทำให้นึกถึงคำพูดของบาสเตียนเมื่อช่วงเช้า มือเรียวจึงค่อยๆ เอื้อมไปหยิบมันขึ้นมา“ฉันต้องใส่ชุดบ้าบอนี่จริงๆ เหรอเนี่ย” เจ้าหล่อนบ่นกับตัวเองจากนั้นจึงตัดสินใจสวมชุดวาบหวิวนั่น เดินไปยังหน้ากระจกบานใหญ่เพื่อสำรวจความเรียบร้อย เอี้ยวตัวไปมาก่อนจะยิ้มอย่างพอใจกับความสวยของตัวเอง เรือนร่างอันเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าเนื้อบางที่เห็นทุกสัดส่วน เนินอกเต่งตึงชูชันโดดเด้งออกมาให้เห็นถนัดตา หากชายใดได้มาเห็นอย่างบาสเตียนคงไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้เป็นแน่หมับ!!!!“อุ๊ย! ...ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ มาไม่ให้สุ้มให้เสียงรู้ไหมว่าคนตกใจ” อินทิราสะดุ้งโหยงเมื่อโดนกอดจากด้านหลัง แถมมือหนายังวางหมับไว้บนเนินอกพอดิบพอดี มองในกระจกเงาก็เห็นรอยยิ้มกระชากใจสาวบนใบหน้าหล่อที่เกยค
บทที่ 11สวนแห่งรัก“ป้าสมัยคะ หนูขอคุยด้วยสักครู่ได้ไหม” อินทิราเดินมาหาป้าสมัยถึงในครัวเพราะต้องการพูดอะไรบางอย่างที่คิดไตร่ตรองมาทั้งคืน“คุณอินมีอะไรจะคุยกับป้าเหรอคะ” ป้าสมัยที่กำลังนั่งเตรียมของทำมื้อเที่ยงอยู่หันมายิ้มให้“คือ...เรื่องที่ป้าขอร้องให้ช่วย หนูตกลงจะช่วยนะคะ”“จริงเหรอคะคุณอิน! ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะ” ป้าสมัยยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อได้ยินข่าวดี“แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหนนะคะ”“ไม่เป็นไรค่ะป้ามั่นใจว่าคุณอินจะต้องทำได้ อีกอย่างตอนนี้ป้าก็รู้สึกว่าคุณบาสเตียนเริ่มยิ้มบ่อยขึ้น แสดงว่าคุณอินต้องมีของดีอะไรบางอย่างแน่ๆ อีกไม่นานก็จะมีเจ้าตัวเล็กแล้ว คุณอินต้องได้เป็นคุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้แน่นอนค่ะ”“หนูไม่คิดไปไกลถึงขนาดนั้นหรอกค่ะป้า” อินทิรายิ้มแหยๆ เมื่อรู้ว่าป้าสมัยตั้งความหวังกับเธอไว้สูงขนาดนั้น“ไม่ต้องถ่อมตัวหรอกค่ะ ป้ามั่นใจว่าคุณอินต้องทำได้และทำไ
บทที่ 12เพื่อน(สาว)ตั้งแต่แอนดริวย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน อินทิราก็รู้สึกไม่เหงาเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงปรับตัวเข้ากับผู้ชายคนนี้ได้ง่ายดายอย่างนี้ แอนดริวเป็นผู้ชายที่มีนิสัยน่ารัก พูดเก่ง แถมยังคอยแนะนำเรื่องต่างๆ ให้เธอได้เป็นอย่างดี นับเป็นเพื่อนผู้ชายคนแรกที่เธอสนิทใจได้ในระยะเวลาอันสั้นตอนนี้ทั้งสองกำลังนั่งสนทนากันอยู่ในศาลาในสวน ตรงกลางโต๊ะมีจานขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มวางอยู่เสร็จสรรพเมื่อหมดเรื่องคุยกันแล้วแอนดริวก็นั่งพิมพ์งานในแล็ปท็อปอย่างตั้งใจ ส่วนอินทิราก็นั่งอ่านหนังสือนวนิยายรักพร้อมทั้งอมยิ้มอยู่ข้างกันในระหว่างนั้นก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเดินตรงเข้ามาหาคนทั้งสองอย่างเงียบๆ“สวัสดีครับ”เมื่อได้ยินเสียงเอ่ยทักทายคนทั้งสองจึงเงยหน้าขึ้น หันไปมองยังต้นเสียงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย“อ้าว! คุณแม็กซ์เวลล์” แอนดริวยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าเป็นใคร‘แม็กซ์เวลล์’ เป็นเพื่อนรักของบาส
บทที่ 13เมาตกเย็นก็มีงานปาร์ตี้เล็กๆ ภายในห้องคาราโอเกะสุดหรู โซฟาแบรนด์ดังดีไซน์รูปครึ่งวงกลมถูกจับจองไปด้วยคนทั้งสี่ บาสเตียนนั่งตรงกลางโดยมีเพื่อนรักนั่งอยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนทางขวามือก็เป็นอินทิราและเลขาส่วนตัวตามลำดับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกรินใส่แก้วครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้บาสเตียนและแม็กซ์เวลล์เริ่มจะทรงตัวไม่ไหว ส่วนอีกสองคนยังคงนั่งจ้องหน้าจอทีวีขนาดยักษ์อย่างเพลิดเพลิน นั่นเพราะดื่มเพียงน้ำอัดลมธรรมดาเท่านั้น“เอ๊าโชนนน!!!”แกร๊ง!หนุ่มขี้เมาทั้งสองยกแก้วขึ้นชนกันก่อนจะดื่มน้ำสีอำพันลงไปจนหมดแก้ว ในขณะนั้นบาสเตียนก็ยกมืออีกข้างไปวางพาดบนบ่าอินทิราแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ด้วยความรำคาญเจ้าหล่อนจึงปัดมันออกให้พ้นตัวราวกับรำคาญเต็มทน“เมาแล้ววุ่นวายจริงๆ” เจ้าหล่อนบ่นให้คนที่นั่งข้างกัน“สงสัยคืนนี้คุณอินคงจะยุ่งน่าดูนะครับ” แอนดริวยิ้มน้อยๆ หลังจากเอ่ยแซวเจ้าหล่อน“ฉันว่าคุณนั่นล่ะจะยุ่ง” อินทิรายิ้มมุมปากราว
บทที่ 14ทำลูก2ตกเย็นก็มีงานปาร์ตี้เล็กๆ ภายในห้องคาราโอเกะสุดหรู โซฟาแบรนด์ดังดีไซน์รูปครึ่งวงกลมถูกจับจองไปด้วยคนทั้งสี่ บาสเตียนนั่งตรงกลางโดยมีเพื่อนรักนั่งอยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนทางขวามือก็เป็นอินทิราและเลขาส่วนตัวตามลำดับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกรินใส่แก้วครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้บาสเตียนและแม็กซ์เวลล์เริ่มจะทรงตัวไม่ไหว ส่วนอีกสองคนยังคงนั่งจ้องหน้าจอทีวีขนาดยักษ์อย่างเพลิดเพลิน นั่นเพราะดื่มเพียงน้ำอัดลมธรรมดาเท่านั้น“เอ๊าโชนนน!!!”แกร๊ง!หนุ่มขี้เมาทั้งสองยกแก้วขึ้นชนกันก่อนจะดื่มน้ำสีอำพันลงไปจนหมดแก้ว ในขณะนั้นบาสเตียนก็ยกมืออีกข้างไปวางพาดบนบ่าอินทิราแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ด้วยความรำคาญเจ้าหล่อนจึงปัดมันออกให้พ้นตัวราวกับรำคาญเต็มทน“เมาแล้ววุ่นวายจริงๆ” เจ้าหล่อนบ่นให้คนที่นั่งข้างกัน“สงสัยคืนนี้คุณอินคงจะยุ่งน่าดูนะครับ” แอนดริวยิ้มน้อยๆ หลังจากเอ่ยแซวเจ้าหล่อน“ฉันว่าคุณนั่นล่ะจะยุ่ง” อินทิรายิ้มมุมปาก
บทที่ 15ข่าวดีหนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากคืนวันนั้นอินทิราก็รู้สึกผิดกับแอนดริวเป็นที่สุด นั่นเพราะทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดคิดไว้เลยสักนิด แม็กซ์เวลล์ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองได้ร่วมหลับนอนกับเลขาของเพื่อนรัก ซึ่งเป็นผู้ชายด้วยกันทำให้เขารับไม่ได้ ต่อยหน้าแอนดริวไปสองหมัดติดก่อนจะรีบออกจากบ้านไป จากวันนั้นถึงวันนี้ยังไม่มาให้แอนดริวเห็นหนี้อีกเลยสักครั้ง“ฉันขอโทษนะคะ ไม่นึกว่าเรื่องมันจะเป็นอย่างนี้” อินทิราเอ่ยกับแอนดริวเสียงอ่อย ขณะนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น“ไม่เป็นไรครับ ผมต้องขอบคุณคุณอินมากกว่า ที่อย่างน้อยก็ทำให้ผมกล้าทำสิ่งที่ตัวเองไม่เคยกล้า ถึงยังไงเรื่องของผมกับเขามันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นถือเป็นกำไรชีวิตที่มีค่ามาก” แอนดริวยิ้มอย่างสบายใจ สื่อให้อินทิรารู้ว่าเขาเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว“ฉันมั่นใจว่าจะช่วยคุณได้แน่ๆ แต่ขอเวลาอีกแปบนึงนะคะ” อินทิรายังดึงดันที่จะช่วย เธอมั่นใจว่าความดีของแอนดริวจะเอาชนะใจแม็กซ์เวลล์
บทที่ 15ข่าวดีหนึ่งเดือนผ่านไปหลังจากคืนวันนั้นอินทิราก็รู้สึกผิดกับแอนดริวเป็นที่สุด นั่นเพราะทุกอย่างไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคาดคิดไว้เลยสักนิด แม็กซ์เวลล์ตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองได้ร่วมหลับนอนกับเลขาของเพื่อนรัก ซึ่งเป็นผู้ชายด้วยกันทำให้เขารับไม่ได้ ต่อยหน้าแอนดริวไปสองหมัดติดก่อนจะรีบออกจากบ้านไป จากวันนั้นถึงวันนี้ยังไม่มาให้แอนดริวเห็นหนี้อีกเลยสักครั้ง“ฉันขอโทษนะคะ ไม่นึกว่าเรื่องมันจะเป็นอย่างนี้” อินทิราเอ่ยกับแอนดริวเสียงอ่อย ขณะนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น“ไม่เป็นไรครับ ผมต้องขอบคุณคุณอินมากกว่า ที่อย่างน้อยก็ทำให้ผมกล้าทำสิ่งที่ตัวเองไม่เคยกล้า ถึงยังไงเรื่องของผมกับเขามันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นถือเป็นกำไรชีวิตที่มีค่ามาก” แอนดริวยิ้มอย่างสบายใจ สื่อให้อินทิรารู้ว่าเขาเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว“ฉันมั่นใจว่าจะช่วยคุณได้แน่ๆ แต่ขอเวลาอีกแปบนึงนะคะ” อินทิรายังดึงดันที่จะช่วย เธอมั่นใจว่าความดีของแอนดริวจะเอาชนะใจแม็กซ์เวลล์
บทที่ 14ทำลูก2ตกเย็นก็มีงานปาร์ตี้เล็กๆ ภายในห้องคาราโอเกะสุดหรู โซฟาแบรนด์ดังดีไซน์รูปครึ่งวงกลมถูกจับจองไปด้วยคนทั้งสี่ บาสเตียนนั่งตรงกลางโดยมีเพื่อนรักนั่งอยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนทางขวามือก็เป็นอินทิราและเลขาส่วนตัวตามลำดับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกรินใส่แก้วครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้บาสเตียนและแม็กซ์เวลล์เริ่มจะทรงตัวไม่ไหว ส่วนอีกสองคนยังคงนั่งจ้องหน้าจอทีวีขนาดยักษ์อย่างเพลิดเพลิน นั่นเพราะดื่มเพียงน้ำอัดลมธรรมดาเท่านั้น“เอ๊าโชนนน!!!”แกร๊ง!หนุ่มขี้เมาทั้งสองยกแก้วขึ้นชนกันก่อนจะดื่มน้ำสีอำพันลงไปจนหมดแก้ว ในขณะนั้นบาสเตียนก็ยกมืออีกข้างไปวางพาดบนบ่าอินทิราแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ด้วยความรำคาญเจ้าหล่อนจึงปัดมันออกให้พ้นตัวราวกับรำคาญเต็มทน“เมาแล้ววุ่นวายจริงๆ” เจ้าหล่อนบ่นให้คนที่นั่งข้างกัน“สงสัยคืนนี้คุณอินคงจะยุ่งน่าดูนะครับ” แอนดริวยิ้มน้อยๆ หลังจากเอ่ยแซวเจ้าหล่อน“ฉันว่าคุณนั่นล่ะจะยุ่ง” อินทิรายิ้มมุมปาก
บทที่ 13เมาตกเย็นก็มีงานปาร์ตี้เล็กๆ ภายในห้องคาราโอเกะสุดหรู โซฟาแบรนด์ดังดีไซน์รูปครึ่งวงกลมถูกจับจองไปด้วยคนทั้งสี่ บาสเตียนนั่งตรงกลางโดยมีเพื่อนรักนั่งอยู่ฝั่งซ้ายมือ ส่วนทางขวามือก็เป็นอินทิราและเลขาส่วนตัวตามลำดับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถูกรินใส่แก้วครั้งแล้วครั้งเล่า จนตอนนี้บาสเตียนและแม็กซ์เวลล์เริ่มจะทรงตัวไม่ไหว ส่วนอีกสองคนยังคงนั่งจ้องหน้าจอทีวีขนาดยักษ์อย่างเพลิดเพลิน นั่นเพราะดื่มเพียงน้ำอัดลมธรรมดาเท่านั้น“เอ๊าโชนนน!!!”แกร๊ง!หนุ่มขี้เมาทั้งสองยกแก้วขึ้นชนกันก่อนจะดื่มน้ำสีอำพันลงไปจนหมดแก้ว ในขณะนั้นบาสเตียนก็ยกมืออีกข้างไปวางพาดบนบ่าอินทิราแสดงความเป็นเจ้าของ แต่ด้วยความรำคาญเจ้าหล่อนจึงปัดมันออกให้พ้นตัวราวกับรำคาญเต็มทน“เมาแล้ววุ่นวายจริงๆ” เจ้าหล่อนบ่นให้คนที่นั่งข้างกัน“สงสัยคืนนี้คุณอินคงจะยุ่งน่าดูนะครับ” แอนดริวยิ้มน้อยๆ หลังจากเอ่ยแซวเจ้าหล่อน“ฉันว่าคุณนั่นล่ะจะยุ่ง” อินทิรายิ้มมุมปากราว
บทที่ 12เพื่อน(สาว)ตั้งแต่แอนดริวย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน อินทิราก็รู้สึกไม่เหงาเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงปรับตัวเข้ากับผู้ชายคนนี้ได้ง่ายดายอย่างนี้ แอนดริวเป็นผู้ชายที่มีนิสัยน่ารัก พูดเก่ง แถมยังคอยแนะนำเรื่องต่างๆ ให้เธอได้เป็นอย่างดี นับเป็นเพื่อนผู้ชายคนแรกที่เธอสนิทใจได้ในระยะเวลาอันสั้นตอนนี้ทั้งสองกำลังนั่งสนทนากันอยู่ในศาลาในสวน ตรงกลางโต๊ะมีจานขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มวางอยู่เสร็จสรรพเมื่อหมดเรื่องคุยกันแล้วแอนดริวก็นั่งพิมพ์งานในแล็ปท็อปอย่างตั้งใจ ส่วนอินทิราก็นั่งอ่านหนังสือนวนิยายรักพร้อมทั้งอมยิ้มอยู่ข้างกันในระหว่างนั้นก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเดินตรงเข้ามาหาคนทั้งสองอย่างเงียบๆ“สวัสดีครับ”เมื่อได้ยินเสียงเอ่ยทักทายคนทั้งสองจึงเงยหน้าขึ้น หันไปมองยังต้นเสียงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย“อ้าว! คุณแม็กซ์เวลล์” แอนดริวยิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าเป็นใคร‘แม็กซ์เวลล์’ เป็นเพื่อนรักของบาส
บทที่ 11สวนแห่งรัก“ป้าสมัยคะ หนูขอคุยด้วยสักครู่ได้ไหม” อินทิราเดินมาหาป้าสมัยถึงในครัวเพราะต้องการพูดอะไรบางอย่างที่คิดไตร่ตรองมาทั้งคืน“คุณอินมีอะไรจะคุยกับป้าเหรอคะ” ป้าสมัยที่กำลังนั่งเตรียมของทำมื้อเที่ยงอยู่หันมายิ้มให้“คือ...เรื่องที่ป้าขอร้องให้ช่วย หนูตกลงจะช่วยนะคะ”“จริงเหรอคะคุณอิน! ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะ” ป้าสมัยยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อได้ยินข่าวดี“แต่ไม่รู้ว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหนนะคะ”“ไม่เป็นไรค่ะป้ามั่นใจว่าคุณอินจะต้องทำได้ อีกอย่างตอนนี้ป้าก็รู้สึกว่าคุณบาสเตียนเริ่มยิ้มบ่อยขึ้น แสดงว่าคุณอินต้องมีของดีอะไรบางอย่างแน่ๆ อีกไม่นานก็จะมีเจ้าตัวเล็กแล้ว คุณอินต้องได้เป็นคุณผู้หญิงของบ้านหลังนี้แน่นอนค่ะ”“หนูไม่คิดไปไกลถึงขนาดนั้นหรอกค่ะป้า” อินทิรายิ้มแหยๆ เมื่อรู้ว่าป้าสมัยตั้งความหวังกับเธอไว้สูงขนาดนั้น“ไม่ต้องถ่อมตัวหรอกค่ะ ป้ามั่นใจว่าคุณอินต้องทำได้และทำไ
บทที่ 10บอกรักหลังจากอาบน้ำอาบท่าแล้วอินทิราก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ เจ้าหล่อนเดินตรงมาเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดนอนมาสวมใส่ แต่ในขณะนั้นก็สะดุดตากับชุดนอนสายเดี่ยวซีทรูสีขาววางแอ้งแม้งอยู่ ทำให้นึกถึงคำพูดของบาสเตียนเมื่อช่วงเช้า มือเรียวจึงค่อยๆ เอื้อมไปหยิบมันขึ้นมา“ฉันต้องใส่ชุดบ้าบอนี่จริงๆ เหรอเนี่ย” เจ้าหล่อนบ่นกับตัวเองจากนั้นจึงตัดสินใจสวมชุดวาบหวิวนั่น เดินไปยังหน้ากระจกบานใหญ่เพื่อสำรวจความเรียบร้อย เอี้ยวตัวไปมาก่อนจะยิ้มอย่างพอใจกับความสวยของตัวเอง เรือนร่างอันเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าเนื้อบางที่เห็นทุกสัดส่วน เนินอกเต่งตึงชูชันโดดเด้งออกมาให้เห็นถนัดตา หากชายใดได้มาเห็นอย่างบาสเตียนคงไม่สามารถห้ามใจตัวเองได้เป็นแน่หมับ!!!!“อุ๊ย! ...ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ มาไม่ให้สุ้มให้เสียงรู้ไหมว่าคนตกใจ” อินทิราสะดุ้งโหยงเมื่อโดนกอดจากด้านหลัง แถมมือหนายังวางหมับไว้บนเนินอกพอดิบพอดี มองในกระจกเงาก็เห็นรอยยิ้มกระชากใจสาวบนใบหน้าหล่อที่เกยค
บทที่ 9แผนลวงใจค่ำคืนแห่งสงครามกามารมณ์อันยาวนานได้ผ่านพ้นมาแล้ว อินทิราแทบไม่กล้าสู้หน้าใครในบ้านหลังนี้เลยสักคน โดยเฉพาะบาสเตียน ผู้ชายที่ทำลายความบริสุทธิ์ของเธอให้ขาดสะบั้นลงไปอย่างหน้าไม่อายตอนนี้อินทิราค่อยๆ ย่องลงมาจากชั้นบนเพื่อรับประทานอาหารเช้า กวาดสายตามองหาคนในบ้าน เจ้าหล่อนแทบอยากเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนี เพราะทุกคนในบ้านหลังนี้รู้ดีว่าเมื่อคืนเธอกับบาสเตียนทำอะไรกันในห้องนอน โดยเฉพาะป้าสมัยที่เป็นคนรู้ดีกว่าใครๆ“อ้าว! คุณอินมาทานข้าวเช้าสิคะ ป้าเตรียมสำรับไว้รอตั้งนานแล้ว” เมื่อเห็นหญิงสาวร่างเล็กกำลังเดินเข้ามาอย่างเก้ๆ กังๆ ป้าสมัยก็รีบเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม ทำให้ชายผู้เป็นเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่หัวโต๊ะมองด้วยหางตาก่อนจะกระตุกยิ้มร้าย“ขอบคุณค่ะป้า หนูขอโทษที่ลงมาช้า” เจ้าหล่อนตอบพลางเดินไปนั่งลงข้างโต๊ะ ซึ่งเป็นที่นั่งติดกับบาสเตียนแต่ไม่ยอมสบตาเขาแม้แต่แวบเดียว“ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้ป้าทำอาหารไทยให้คุณด้วยนะคะ ผัดผักรวมมิตรกั
บทที่ 8ทำลูก“สะ...สวยเหลือเกิน สวยจนฉันทนไม่ไหวแล้ว” บาสเตียนเอื้อมมือไปลูบไล้เนินหญ้าอย่างละเมียดละไม จ้องมองความงดงามของเนินสาว กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่“อื้อ....”อินทิราร้องครางเมื่อได้รับสัมผัสที่แผ่วเบา เจ้าหล่อนเอียงหน้าหนีพร้อมทั้งหลับตาพริ้ม แถมยังตัวสั่นเทาด้วยความประหม่า เพราะนี่คือครั้งแรกที่โดยผู้ชายรุกล้ำเข้ามาในตัวแบบนี้“จะ...จะทำอะไร”เจ้าหล่อนร้องถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อโดนอีกฝ่ายจับขาเรียวแยกออกจากกันอ้าซ่า แถมยังเข้าไปนั่งยองๆ อยู่ตรงกลางอีกด้วย“เดี๋ยวก็รู้หึๆ”“อ๊ะ!”มาเฟียหน้าหล่อก้มหน้าลงไปที่กลางร่องแฉะ ใช้มือทั้งสองข้างแหวกกลีบแคมอูมทั้งสองออกจากกัน นั่นทำให้อินทิรารู้สึกเสียววาบจนต้องเกร็งท่อนขาวเรียวเข้าหากัน แต่ไม่สามารถหยุดความหื่นกระหายของบาสเตียนได้เลย“อย่าเกร็งสิ...เชื่อใจฉัน”เขาว่าพลางจ้องมองดวงหน้าสวยที่แสดงถึงความประหม่าอ
บทที่ 7สวยจนฉันทนไม่ไหวแล้วก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นฉุดให้หญิงสาวที่กำลังนั่งกลุ้มใจอยู่บนเตียงหลุดจากภวังค์ วันนี้ครบกำหนดที่บาสเตียนจะเข้ามาทวงสัญญาถึงในห้องแล้ว นั่นทำให้อินทิรานั่งตัวสั่นด้วยความกลัวปนตื่นเต้น เจ้าหล่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเดินตรงไปยังประตูหน้าห้อง ก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปหมุนลูกบิดประตู“อ้าว! ป้าสมัยเองเหรอคะ” อินทิราโล่งใจเป็นที่สุดเมื่อรู้ว่าคนที่มาเคาะประตูห้องคือป้าสมัย“คิดว่าเป็นคุณบาสเตียนเหรอคะ” ป้าสมัยยิ้มให้ราวกับรู้ว่าวันนี้คือวันอะไร“เอ่อ..ค่ะป้า” เจ้าหล่อนหน้าแดงก่ำขึ้นมาทันทีเมื่อโดนแซว ตั้งแต่เมื่อวานที่ป้าสมัยเห็นบาสเตียนกอดจูบเธอในห้องนั่งเล่น เจ้าหล่อนยังคงอายทุกครั้งที่เห็นหน้าแม่บ้านใจดีคนนี้“คุณบาสเตียนให้ป้าเอาของมาให้ค่ะ” ว่าแล้วป้าสมัยก็ยื่นกล่องสี่เหลี่ยมแบนๆ ให้“ขอบคุณค่ะป้า ว่าแต่มันคืออะไรงั้นเหรอคะ”“ลองเปิดด