แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: อวินจงมี่
เพื่อนร่วมงานสองคนที่ยืนข้างหรงฉือแอบมองหลินอู๋ในขณะเดียวกันก็รีบถอยหลังสองก้าวจนติดกับกําแพง

หลินอู๋ก็มองเห็นหรงฉือเช่นกัน

แต่กลับละสายตาหนีอย่างเย็นชาในทันที เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นเธออยู่ในสายตา จากนั้นเข้าไปในลิฟต์ท่ามกลางการล้อมรอบของผู้จัดการหลายคน

หลังจากประตูลิฟต์ปิดเพื่อนร่วมงานสองคนของหรงฉือก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที แล้วเริ่มซุบซิบกันอย่างตื่นเต้นอีกครั้ง

“เมื่อกี้คนนั้นน่าจะเป็นแฟนของท่านประธานเฟิงใช่ไหม โอ้โห สวยมากเลย เธอใส่แบรนด์เนมทั้งตัว คงจะแพงมากน่าดู? สมกับที่เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย มีความมั่นใจ สุขุม และมีอำนาจ มีออร่าแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างพวกเราจริงๆ ด้วย”

“ใช่ ใช่”

ทั้งสองคนพูดคุยกันเสร็จแล้วก็ถามหรงฉือเสียงเบาๆ ว่า “หรงฉือ เธอคิดว่าไง?”

หรงฉือก้มมองต่ำ และพูดเบาๆ ว่า “ใช่แล้ว”

ความจริงแล้วหลินอู๋เป็นลูกสาวนอกสมรสของพ่อเธอ

แต่จะพูดว่าเป็นลูกนอกสมรสอาจไม่ถูกต้องนัก

เพราะอย่างไรเสีย ตอนเธออายุแปดขวบ พ่อของเธอก็ยืนกรานว่าจะหย่ากับแม่ของเธอเพื่อไม่ให้หลินอู๋และแม่ของเธอน้อยเนื้อต่ำใจ แล้วแต่งงานใหม่กับแม่ของหลินอู๋

หลังจากที่พ่อแม่หย่าร้างกัน เธอได้อาศัยอยู่กับแม่ที่มีอาการทางจิตไม่ปกติ คุณยายและลุงของเธอ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจของลุงเธอแย่ลงเรื่อยๆ ในขณะที่ธุรกิจของตระกูลหลินกลับเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ

ได้ยินมาว่าพ่อของเธอให้สิ่งที่ดีที่สุดทุกอย่างกับหลินอู๋เพื่อชดเชยที่หลินอู๋ได้รับความทุกข์ระทมในวัยเด็ก อีกทั้งยังใช้เงินจำนวนมากในการเลี้ยงดูเธอ

และหลินอู๋ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ได้ยินมาว่าเธอก็ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน

ดังนั้นลูกสาวนอกสมรสอย่างหลินอู๋ในตอนนั้น ตอนนี้กลายเป็นคุณหนูจากตระกูลร่ำรวยมีชื่อเสียงอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

เป็นคุณหนูมาสิบกว่าปี ออร่าคุณหนูของหลินอู๋ในตอนนี้ ยังดูมีเสน่ห์มากกว่าเธอตอนที่เป็นคุณหนูตัวจริงเสียอีก

เดิมทีเธอคิดว่าเธอกับหลินอู๋คงจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้วหลังผ่านชีวิตในวัยเด็ก

แต่ดูเหมือนว่าสวรรค์จะโปรดปรานหลินอู๋เป็นพิเศษ

เธอกับเฟิงถิงเซินถือได้ว่าเป็นคู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน เฟิงถิงเซินก็ไม่เคยเห็นเธอในสายตาเลย แต่กลับรักหลินอู๋อย่างหมดหัวใจตั้งแต่แรกพบ——

“หรงฉือ เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

เมื่อเห็นหรงฉือหน้าซีด เพื่อนร่วมงานทั้งสองคนก็รู้สึกกังวล

หรงฉือได้สติอีกครั้ง “ฉันไม่เป็นไร”

เธอกับเฟิงถิงเซินกำลังจะหย่ากันในเร็วๆ นี้ เฟิงถิงเซินจะรักใครก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธออีกต่อไปแล้ว

วันนั้น หรงฉือไม่ได้สนใจเรื่องระหว่างเฟิงถิงเซินและหลินอู๋อีกเลยหลังจากนั้น

เธอทำโอทีจนเกือบสามทุ่ม ขณะที่ทำงานใกล้จะเสร็จ จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เป็นสายจากฉู่จื่อหลาน ซึ่งเพื่อนสนิทของเธอ

ทันทีที่หรงฉือรับสายก็ได้รับแจ้งว่าฉู่จื่อหลานดื่มหนักจนเมามาก ให้เธอไปที่ร้านอาหารเพื่อไปรับเพื่อนกลับบ้าน

หรงฉือจึงรีบจัดการเอกสารในมือให้เรียบร้อยก่อนจะหยิบกุญแจรถแล้วออกจากบริษัททันที

ยี่สิบนาทีผ่านไป หรงฉือก็มาถึงจุดหมาย

หลังจากลงจากรถ ขณะที่เธอกำลังจะเดินไปที่ประตูทางเข้า ก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากอีกด้านของลานจอดรถ

หรงฉือถึงกับหยุดชะงักไปชั่วขณะเมื่อเห็นใบหน้าด้านข้างของเด็กหญิงตัวน้อยชัดเจน

ซินซิน?

เธอควรไปเข้าเรียนอยู่ที่ประเทศเอนาวาไม่ใช่เหรอ? เป็นไปได้ยังไง... หรือว่าเธอกลับประเทศพร้อมเฟิงถิงเซิน?

แม้ว่าสถานะและตำแหน่งของเธอไม่สามารถเข้าถึงเอกสารลับบางอย่างของบริษัทได้ แต่เธอก็รู้ว่างานขยายตลาดในประเทศเอนาวาของเฟิงถิงเซิน จำเป็นต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งกว่าจะเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ได้

เธอคิดว่าครั้งนี้เฟิงถิงเซินแค่กลับประเทศชั่วคราวเพื่อจัดการเรื่องบางอย่างเท่านั้น

เธอไม่คิดเลยว่าลูกสาวจะกลับมาด้วย...

เธอไม่รู้แน่ชัดว่าพวกเขากลับประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จากที่เธอเจอเฟิงถิงเซินเมื่อเช้านี้ก็สามารถสรุปได้ว่า จนถึงตอนนี้ไม่ว่าพวกเขาจะพูดยังไงก็กลับมาได้หนึ่งวันแล้ว

แต่ลูกสาวกลับไม่เคยโทรหาเพื่อบอกเรื่องที่พวกเขากลับประเทศกับเธอเลย

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หรงฉือก็บีบกระเป๋าในมือแน่นพลางมองไปที่เงาเด็กที่กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขอยู่ข้างหน้า หรงฉือเดินตามไปอย่างเงียบๆ

เมื่อเดินมาถึงทางโค้งของล็อบบี้ เพื่อนๆ ของหลินอู๋และเฟิงถิงเซินก็ปรากฏตัวขึ้นตรงสุดทางเดิน

หรงฉือจึงตะแคงตัวหลบไปข้างๆ ทันที จากนั้นก็ได้ยินเสียงลูกสาวเรียก “น้าอู๋อู๋” อย่างดีใจพร้อมกับวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของหลินอู๋

หรงฉือนั่งลงบนโซฟาข้างๆ โดยหันหลังให้พวกเขา และใช้ต้นไม้เขียวขจีและพนักพิงเก้าอี้ปิดบังร่างกายของเธอ

“ซินซินก็กลับประเทศด้วยเหรอ”

“เพราะว่าน้าอู๋อู๋กลับประเทศแล้ว หนูกับคุณพ่อไม่อยากห่างกับน้า คุณพ่อก็เลยทำงานเสร็จก่อนกำหนด และพาหนูกลับประเทศค่ะ แล้วเราก็ตั้งใจกลับมาล่วงหน้าก่อนวันเกิดคุณน้าหนึ่งวันด้วยนะ จะได้ไม่พลาดวันเกิดของคุณน้าไง”

“นี่คือสร้อยคอที่หนูกับคุณพ่อทำให้น้าเองกับมือ สุขสันต์วันเกิดนะคะน้าอู๋อู๋”

“ว้าว ซินซินกับคุณพ่อทําเองกับมือเลยเหรอ ทำอันนี้ทั้งเปลืองแรงทั้งเหนื่อยมาก ซินซินเก่งมากเลย น้าชอบมาก ขอบใจนะซินซิน”

“น้าอู๋อู๋ชอบก็พอแล้วค่ะ~”

เฟิงจิ่งซินกอดหลินอู๋พร้อมทำเสียงออดอ้อน “ไม่ได้เจอคุณน้ามาหนึ่งสัปดาห์แล้ว หนูคิดถึงมากเลยค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะสามารถโทรหาคุณน้าได้ทุกวัน หลายวันมานี้หนูก็คงอยู่ประเทศเอนาวาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ..."

“น้าก็คิดถึงซินซินเหมือนกันค่ะ”

ในขณะนั้นเองเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากอีกด้าน

หรงฉือถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ

เพราะนั่นคือเฟิงถิงเซิน

ถึงแม้ว่าหรงฉือจะไม่เห็นตัว แต่แค่ได้ยินเสียงฝีเท้าก็แทบจะยืนยันได้เลย

และเหตุผลที่เธอมั่นใจเช่นนั้นก็เพราะเธอแทบจะรอเขาทุกวันในช่วงหกเจ็ดปีหลังแต่งงาน

เสียงฝีเท้าของเฟิงถิงเซินก็เหมือนกับเขา ไม่ช้าไม่เร็ว มั่นคงและสงบเสงี่ยม

เขาสุขุมแม้แต่กับสมาชิกในตระกูลเฟิงที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกับเขามาก เขายังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ดูเหมือนไม่ใส่ใจอะไรเลยแม้ว่าฟ้าจะถล่มลงมา

เธอเคยคิดว่าในโลกนี้ไม่มีใครและไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้จิตใจของเขาวุ่นวายได้

แต่ในเวลานี้ หลินอู๋ปรากฏตัวขึ้น

ทันใดนั้นเรื่องนี้ก็มีข้อยกเว้น——

เมื่อนึกถึงอดีต หรงฉือยังไม่ทันคิดอย่างละเอียด แต่แล้วเธอก็ได้ยินลูกสาวตะโกนว่า “คุณพ่อ”

จากนั้นเพื่อนของเฟิงถิงเซินก็ทักทายเขาทีละคนเช่นกัน

เฟิงถิงเซินตอบอืมคำหนึ่งแล้วพูดกับหลินอู๋ว่า “สุขสันต์วันเกิด”

หลินอู๋ยิ้ม “อืม”

“คุณพ่อเตรียมของขวัญวันเกิดชิ้นอื่นให้น้าอู๋อู๋ด้วยไม่ใช่เหรอคะ รีบเอาให้น้าอู๋อู๋สิค่ะ”

ที่นั่นจู่ๆ ก็เงียบลง จากนั้นเพื่อนคนหนึ่งของเฟิงถิงเซินก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก้มหน้าไปบีบแก้มของเฟิงจิ่งซินแล้วพูดว่า “นั่นเป็นของขวัญที่พ่อหนูเตรียมไว้ให้น้าอู๋อู๋โดยเฉพาะ คาดว่าคงจะมอบให้น้าอู๋อู๋เป็นการส่วนตัว เราอย่าไปยุ่งเลยนะ ฮ่าๆ~”

จากนั้นคนอื่นๆ ก็หัวเราะอย่างมีเลศนัย

ในขณะเดียวกันเฟิงถิงเซินก็พูดว่า “เอาให้แล้ว”

“หา? ตอนไหนคะ” เฟิงจิ่งซินพูด แล้วพูดต่อว่า “คุณพ่อแอบไปหาน้าอู๋อู๋ ไม่พาหนูไปด้วยอีกแล้ว ฮึ!”

เพื่อนของเฟิงถิงเซินยิ่งหัวเราะดังขึ้น

แต่หรงฉือกลับนึกถึงเรื่องที่หลินอู๋ไปเฟิงซื่อกรุ๊ปเมื่อเช้านี้

เดาว่าคงเอาให้ตอนนั้นละมั้ง

หลินอู๋ยิ้มอย่างเขินอายก่อนพูดว่า “เราอย่ายืนอยู่ที่นี่กันเลย รีบขึ้นไปข้างบนกันเถอะ”

จากนั้นเสียงฝีเท้าก็ค่อยๆ ไกลออกไป

ในหัวของหรงฉือกลับมีแต่ความว่างเปล่า

รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วอกอยู่นานหลังจากนั้นถึงมีสติกลับมา แล้วเข้าไปในลิฟต์อย่างเงียบๆ เพื่อขึ้นไปชั้นบนประคองเพื่อนลงมา

จริงๆ แล้วห้องส่วนตัวของฉู่จื่อหลานอยู่ชั้นเดียวกับห้องส่วนตัวที่พวกหลินอู๋นัดรวมตัวกัน

ในขณะที่หรงฉือกำลังประคองฉู่จื่อหลานเข้าไปในลิฟต์ ฉีอวี้หมิง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเฟิงถิงเซิน จู่ๆ ก็หยุดเดินกะทันหัน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 8

    คนที่อยู่ข้างเขาถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”“เหมือนเห็นคนรู้จักคนหนึ่งน่ะ”พวกเขากับเฟิงถิงเซินเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก และก็รู้ว่าหรงฉือชอบเฟิงถิงเซินพูดตามตรง หรงฉือสวยมาก แต่ดูเงียบๆ สวยก็จริง แต่ไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่ใช่สไตล์ที่เฟิงถิงเซินชอบเฟิงถิงเซินจึงรักษาระยะห่างจากอีกฝ่าย และพวกเขาก็ดูจะไม่ค่อยชอบหรงฉือพวกเขาไม่ค่อยได้เจอเธอบ่อยนัก แต่พอเจอกันก็ไม่อยากทักทายเธอพูดตามตรง ภาพของหรงฉือในความทรงจำของเขาเริ่มเลือนรางแล้ว เขาก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองมองผิดหรือเปล่าอย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะเป็นหรงฉือจริงๆ เขาก็ไม่ได้ใส่ใจเขาไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังแล้วกลับเข้าห้องส่วนตัว.......หรงฉือไม่ได้สังเกตเห็นฉีอวี้หมิงหลังจากออกจากโรงแรมเธอก็พาฉู่จื่อหลานกลับที่พัก และคืนนั้นก็ค้างคืนที่นั่นเพื่อดูแลฉู่จื่อหลานเมื่อฉู่จื่อหลานตื่นมาเห็นหรงฉือจึงสวมกอดเธอด้วยความซาบซึ้งใจ “เมื่อคืนลำบากเธอแล้ว วันหลังฉันจะเลี้ยงข้าวนะ!”หรงฉือได้ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว เธอตบหัวฉู่จื่อหลานเบาๆ พร้อมพูดว่า “ลุกขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตา อาหารเช้าใกล้จะเย็นหมดแล้ว”ฉู่จื่อหลานกอดเธอไว้ ซบหน้าที่เอวขอ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 9

    เฉิงหยวนทำหน้าตึง คิดว่าหรงฉือกำลังใช้อภิสิทธิ์ “เลขาหรง ช่วยปรับทัศนคติในการทำงานของคุณด้วย คิดว่าที่นี่คือบ้านของคุณหรือไง”หรงฉือหยิบกระเป๋าขึ้นมา และยังมีท่าทีเหมือนเดิม “ถ้าคุณไม่พอใจอะไร สามารถไล่ฉันออกเดี๋ยวนี้ได้เลย”“นี่คุณ——”ก่อนหน้านี้เขาได้ติดตามเฟิงถิงเซินไปที่ประเทศเอนาวา แต่เขาก็รู้เรื่องที่หรงฉือได้ยื่นใบลาออกแล้วถึงแม้ว่าเขาจะได้รับความไว้วางใจจากเฟิงถิงเซินอย่างมาก แต่บริษัทไม่ใช่ที่ที่เขาจะสั่งอะไรก็ได้ตามใจ และเขาก็ไม่มีสิทธิ์มากพอที่จะสั่งให้หรงฉือไสหัวไปแล้วเธอต้องทำตามยิ่งไปกว่านั้น หรงฉือยังเป็นที่รักใคร่ของคุณหญิงย่าเฟิงอีกด้วย ถ้าเกิดหรงฉือไปฟ้องท่าน ถึงแม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าเฟิงถิงเซินต้องปกป้องเขาอย่างสุดกำลังแน่นอน แต่เขาก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้อยู่ดีหรงฉือไม่ได้สนใจเขา เดินผ่านเขาไปแล้วออกไปทันทีเฉิงหยวนโมโหจนหน้าเขียวปัด แล้วเดินออกไปจากแผนกเลขานุการเจียงเจ๋อเห็นสีหน้าของเขาไม่ดีจึงถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”เฉิงหยวนจึงเล่าเรื่องราวให้เขาฟังเจียงเจ๋อประหลาดใจอย่างมากปกติแล้วเขาจะติดต่อกับหรงฉือค่อนข้างบ่อยและเขาก็พอรู้นิสัยของหรงฉืออ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 10

    แต่เขาไม่ได้คิดมาก คิดเพียงว่าหรงฉืออาจจะกลับบ้านตระกูลหรงก็ได้ขณะที่เขาเข้าไปในห้องอาบน้ำ จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้หรงฉือจะพาเฟิงจิ่งซินไปด้วยทุกครั้งที่กลับบ้านตระกูลหรงแต่วันนี้แปลกที่ไม่ได้พาลูกสาวไปด้วยหรือว่าเธอไม่ได้กลับบ้านตระกูลหรง?แต่ว่า บางทีที่บ้านตระกูลหรงอาจมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ได้ในหัวของเขาผุดคำพูดของเฉิงหยวนเมื่อบ่ายวันนี้ตอนที่เขาออกจากบริษัท เฟิงถิงเซินก็ยืนยันในเรื่องนี้เขาหยุดเดินชั่วขณะ แต่ก็ไม่ได้คิดสนใจเช้าวันรุ่งขึ้น เฟิงถิงเซินพูดกับเฟิงจิ่งซินขณะทานอาหารเช้าว่า “ทำเรื่องเข้าเรียนเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้เช้าไปรายงานตัวที่โรงเรียน”“รู้แล้วค่ะ” เฟิงจิ่งซินย่นจมูกเล็กน้อย “งั้นพรุ่งนี้คุณพ่อไปส่งหนูที่โรงเรียนได้ไหมคะ”“พ่ออาจจะไม่ว่าง”“ก็ได้” เฟิงจิ่งซินกรอกตา แต่จู่ๆ ดวงตาพลันเปล่งประกาย และพูดอย่างดีใจว่า “งั้นเดี๋ยวหนูจะโทรหาน้าอู๋อู๋ ให้น้าอู๋อู๋ไปส่งหนูที่โรงเรียน”เฟิงถิงเซินยังไม่ทันพูด โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นเป็นคนจากบ้านเก่าโทรมาทันทีที่เขารับสาย เสียงของคุณหญิงย่าเฟิงก็ดังมาจากปลายสาย“ได้ยินว่าแกกลับประเทศแล้วเหรอ”

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 11

    หรงฉือฟังแล้วก็เกือบจะหัวเราะออกมาหลินอู๋กับเฟิงถิงเซินรู้จักกันหลังจากที่เธอแต่งงานกับเฟิงถิงเซินหลินอู๋รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเฟิงถิงเซิน เธอจึงไม่เชื่อว่าหลินลี่ไห่จะไม่รู้ว่าเฟิงถิงเซินเป็นสามีของลูกสาวอีกคนของเขา!เขาต้องรู้แน่ๆแต่เขาก็ยังคงจับคู่หลินอู๋และเฟิงถิงเซินอย่างไร้ยางอายเห็นได้ชัดว่าในใจของหลินลี่ไห่ เขาเพิกเฉยต่อลูกสาวคนนี้มากแค่ไหน!เฟิงถิงเซินตอบตกลงแล้วพวกเขาก็ถามไถ่กันต่อสักพัก หรงฉือเฝ้ามองเฟิงถิงเซินที่รอให้หลินลี่ไห่ขึ้นรถและขับรถออกไปแล้ว เขาถึงนั่งรถจากไปด้วยสถานะและตำแหน่งในตอนนี้ของเฟิงถิงเซิน คนที่สามารถทำให้เขาทำถึงขนาดนี้ได้ โดยปกติแล้วจะมีแค่ผู้อาวุโสในตระกูลเฟิงเพียงไม่กี่คนเท่านั้นแต่เห็นได้ชัดว่าเฟิงถิงเซินเคารพหลินลี่ไห่เพียงเพราะเขาเป็นพ่อของหลินอู๋เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็นึกถึงครั้งที่เฟิงถิงเซินได้พบกับคุณยายและลุงกับป้าสะใภ้ของเธอ เขามักจะมีท่าทีเฉยเมยและเย็นชาตลอดเวลายิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าที่ผ่านมาเธอจะพูดกับเขาอย่างระมัดระวัง แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่เต็มใจที่จะช่วยเหลือลุงของเธอเลย...แต่เขากลับไม่ได้มีท่าทีเช่นนั้นกับคน

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 12

    คุณหญิงย่าค่อนข้างจนใจ คิดว่าหรงฉือไม่เข้มแข็งพอ เชื่อฟังและตามใจเฟิงถิงเซินมากเกินไป จนทำให้พลาดโอกาสดีๆ ไปหลายครั้ง ซึ่งทำให้พวกเขาไม่มีความคืบหน้าเลยแม้จะผ่านมาหลายปีแต่หรงฉือพูดไปแบบนั้นแล้ว และเธอก็ไม่ได้บังคับอะไรเมื่อเริ่มทานอาหารอย่างเป็นทางการ ทุกคนต่างพูดคุยไปพลางทานอาหารไปพลาง บรรยากาศดีมากเลยทีเดียวหรงฉือพูดน้อยมาก นั่งก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างเงียบๆ นับตั้งแต่ที่เฟิงถิงเซินเดินเข้ามาในบ้านจนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปสิบกว่านาทีแล้ว แต่สามีภรรยายังไม่ได้พูดคุยกันเลยแม้แต่ประโยคเดียวหรือไม่แม้แต่สื่อสารกันเลยตลอดเวลานี่เป็นเรื่องปกติระหว่างสามีภรรยาคู่นี้ความจริงทุกคนก็ชินกับมันแล้ว จึงไม่ได้สังเกตเห็นอะไรที่ผิดปกติเมื่อใดก็ตามที่เฟิงจิ่งซินคิดอยากจะกินอะไร เมื่อก่อนหรงฉือก็จะดูแลเธอ แต่ตอนนี้เธอชินกับการขอให้เฟิงถิงเซินช่วยตักให้เธอแต่ว่า ตอนเธออยากกินกุ้งตัวใหญ่ เธอกลับหันไปทางหรงฉือเพราะเมื่อก่อนตอนที่เธอกินกุ้ง หรงฉือก็จะเสนอตัวช่วยแกะเปลือกกุ้งให้เธอกับเฟิงถิงเซิน“คุณแม่คะ หนูอยากกินกุ้งตัวใหญ่”หรงฉือต้องการหย่าร้าง และไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับเฟิงถิงเซิน

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 13

    นั่นเป็นเสียงของเฟิงถิงหลินหรงฉือมองไปทางต้นเสียงเมื่อมองเห็นเฟิงถิงหลินและเฟิงถิงเซินเธอก็หยุดชะงักเฟิงถิงเซินกำลังสูบบุหรี่ และไม่ได้ตอบเฟิงถิงหลินเนื่องจากอยู่ไกล และเฟิงถิงเซินก็หันหลังให้แสง หรงฉือจึงมองไม่เห็นสีหน้าของเขาชัดเจนเฟิงถิงหลินพูดว่า “จริงๆ ฉันก็เข้าใจแกได้นะ ฉันเคยเจอกับหลินอู๋ไม่กี่ครั้ง ได้ยินมาว่าตอนนี้เธอเพิ่งอายุ 25 แต่ก็ได้รับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลกแล้ว และดูเหมือนเธอจะจัดการธุรกิจของครอบครัวได้ดีอีกด้วย แถมเธอยังเป็นคนสวย มีนิสัยดุดันและดื้อรั้น——ความเก่งกาจและความโดดเด่นของเธอเหนือกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่จริงๆ และมันก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจแกได้จริงๆ แต่ภูมิหลังของเธอไม่สวยงามนักนะ ถิงเซิน แกคิดดีแล้วใช่ไหม? แก——”เฟิงถิงเซินพูดว่า “ผมรู้ดีว่าผมต้องการผู้หญิงแบบไหน”“แต่ว่า ——” เฟิงถิงหลินขมวดคิ้ว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ชอบหรงฉือ แต่เธอก็ไม่ชอบหลินอู๋เหมือนกัน เธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่พอเห็นสายตาไม่พอใจของเฟิงถิงเซิน เธอก็เลยไม่อยากจะพูดแล้ว “หวงกันซะขนาดนี้ พูดอะไรนิดอะไรหน่อยไม่ได้เลยนะ ฉันไม่พูดแล้วก็ได้ไหม?”หรงฉือฟังแล้วก็กำมือแน่น สาย

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 14

    เมื่อคิดถึงการแข่งขันในคืนนี้และคิดว่าจะได้เห็นน้าอู๋อู๋ในชุดเท่ๆ เธอก็กลับมามีความสุขอีกครั้งเฟิงจิ่งซินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วแต่แล้วเธอก็ขมวดคิ้วน้อยๆ ในทันทีปกติเวลาที่เธอส่งข้อความหาน้าอู๋อู๋ น้าอู๋อู๋ก็จะตอบกลับเธอเร็วมากแต่วันนี้เธอล้างหน้าเสร็จแล้ว แต่น้าอู๋อู๋ก็ยังไม่ตอบข้อความเธอเลยหรือว่าน้าอู๋อู๋จะโกรธ?เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็รีบส่งข้อความหาหลินอู๋ทันที[น้าอู๋อู๋คะ เป็นอะไรเหรอคะ? โกรธหรือเปล่าคะ?][น้าอู๋อู๋ น้าก็รู้ว่าหนูไม่อยากให้แม่ไปส่งที่โรงเรียน น้าก็รู้ว่าหนูชอบน้ามากกว่า น้าอู๋อู๋อย่าโกรธได้ไหมคะ?]ผ่านไปสักพักแล้ว แต่หลินอู๋ก็ยังไม่ตอบกลับเธอเมื่อหรงฉือเก็บของเสร็จแล้วก็เดินมาหาเธอ “ซินซิน เก็บของเสร็จหรือยังจ๊ะ? ควรลงไปทานอาหารเช้าได้แล้วนะ”เฟิงจิ่งซินรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมากที่ไม่ได้รับความตอบกลับจากหลินอู๋ อีกทั้งยังต้องเผชิญกับการเร่งเร้าของหรงฉือ เธอจึงพูดอย่างไม่พอใจว่า “รู้แล้วค่ะ แม่อย่าเอาแต่พูดมากได้ไหม มันน่ารำคาญมากรู้ไหม?”พูดจบ เธอก็หยิบกระเป๋าหนังสือแล้วเดินลงไปชั้นล่างอย่างกระฟัดกระเฟียดหรงฉือมอง

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 15

    เถียนเถียนมีรูปร่างหน้าตาน่ารักและอ่อนหวาน แถมยังแต่งตัวเหมาะสมกับวัย ใครเห็นก็อดไม่ได้ที่จะอยากกอดและหอมสักฟอดไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่ใกล้เคียงกับคำว่าน่าเกลียดหรือน่าขยะแขยงเลยมิหนำซ้ำเธอยังเติบโตมาพร้อมกับการได้รับคำชมเชยนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดแบบนี้กับเธอเถียนเถียนร้องไห้โฮด้วยความเสียใจออกมาทันที และยิ่งกอดหรงฉือแน่นไม่ยอมปล่อยหรงฉือรีบกอดเธอและปลอบว่า “ไม่ใช่เลย เถียนเถียน หนูไม่ได้น่าขยะแขยงเลยสักนิด กลับกัน หนูทั้งสวยทั้งน่ารัก หรือว่าเถียนเถียนไม่คิดแบบนั้นเหรอจ๊ะ?”เถียนเถียนฟังแล้ว ในที่สุดก็อารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เมื่อเฟิงจิ่งซินเห็นหรงฉือยังกอดเถียนเถียนไม่ปล่อย แถมชมว่าเธอสวยและน่ารักอีกต่างหาก ตาของเธอก็แดงก่ำขึ้นมาทันที “คุณ... ฉัน ฉันไม่ชอบคุณแล้ว ฉันไม่ต้องการให้คุณเป็นแม่ฉันอีกต่อไป!”พูดจบก็จะวิ่งหนีไปแต่หรงฉือรีบเอื้อมมือไปโอบกอดเธอไว้หรงฉือไม่คิดเลยว่าเธอจะพูดทำร้ายจิตใจผู้อื่นแม้ว่าเธอจะโกรธ แต่ก็ไม่อยากตำหนิเธอในที่สาธารณะ และทําให้เธออับอายหรงฉือจึงกอดเธอและหอมเธอ “เอาล่ะ อย่าโกรธเลยนะ...”เฟิงจิ่งซินโกรธมาก แต่เมื่อเห็นหร

บทล่าสุด

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 30

    ตอนแรกเธอตกใจจริงๆ แต่ตอนนี้เธอไม่สนใจแล้วแขกเหรื่อหลายคนพาแห่กันไปทางเฟิงถิงเซิน เนื่องจากกลั้นกลางด้วยกำแพงผู้คน พวกเฟิงถิงเซินจึงไม่สังเกตเห็นหรงฉือจริงๆแม้ภายนอกหรงฉือจะดูอ่อนโยนและเรียบร้อย แต่อวี้มั่วซวินรู้ว่าจริงๆ แล้วหรงฉือมีความเด็ดเดี่ยวจากข้างใน และเป็นคนกล้าคิดกล้าทำในเรื่องการงาน เพียงแค่เธอมีความคิดหรือสนใจอะไร เธอจะทุ่มเทความคิดและจิตใจทั้งหมดลงไป แม้ว่าผลลัพธ์ที่วิจัยออกมาจะไม่มีผลกำไรทางการตลาด แต่เธอก็ยังยินดีที่จะทำและสนุกกับมันเพราะสำหรับเธอแล้ว จะมีประโยชน์หรือไม่ ต้องลองทำดูก่อนถึงจะรู้คำตอบในเรื่องความรู้สึกก็เช่นกันเธอรักเฟิงถิงเซินมากถึงขนาดยอมเดิมพันด้วยอนาคต เลือกที่จะละทิ้งโอกาสในการเรียนต่อ แล้วทุ่มเทให้กับครอบครัวอย่างไม่ลังเลตอนนี้เธอได้ลองทำแล้ว แม้ว่าราคาที่จ่ายจะสูงเกินไป แต่อวี้มั่วซวินก็ไม่เคยเห็นความเสียใจในดวงตาของหรงฉือเลยดังนั้น ตอนนี้หรงฉือบอกว่าเธอไม่เป็นไร บอกว่าเธอจะปล่อยวาง อวี้มั่วซวินย่อมเชื่อสนิทใจเขาพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดื่มอะไรหน่อยไหม?”หรงฉือพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เอาสิ”จากนั้นทั้งสองคนก็เดินสวนทางกับฝูงชนไปยังพื้นที่ร

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 29

    ตอนพวกเขามาถึง แขกเหรื่อในงานก็มาถึงกันเกือบหมดแล้วหรงฉือมีรูปลักษณ์และออร่าโดดเด่น ทันทีที่เธอปรากฏตัวในห้องโถงก็ดึงดูดสายตาของแขกจำนวนมากเจ้าภาพงานเลี้ยงรู้จักมักคุ้นกับอวี้มั่วซวิน เมื่อเขาเห็นพวกเขาก็เดินมาทักทายด้วยรอยยิ้มทันทีขณะที่เขากำลังทักทายอวี้มั่วซวินและหรงฉือ ที่บริเวณทางเข้าห้องโถงก็มีแขกมาถึงอีกเมื่อเจ้าภาพงานเลี้ยงเห็นแขกผู้มาเยือนก็อึ้งไปชั่วขณะ ถึงขั้นสงสัยว่าตนเองตาฝาดแขกเหรื่อคนอื่นๆ ในห้องจัดเลี้ยงก็เช่นกัน ต่างรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเมื่อเห็นผู้มาเยือนเนื่องจากหรงฉือและอวี้มั่วซวินหันหลังให้ทางเข้าห้องจัดเลี้ยง พวกเขาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นแขกเหรื่อจำนวนมากจู่ๆ ก็แสดงสีหน้าตกตะลึงปนดีใจออกมา จึงหันกลับไปมองด้วยความสงสัย จากนั้นเจ้าภาพงานเลี้ยงก็ส่งสายตาขอโทษให้พวกเขาก่อนจะผ่านหน้าพวกเขาไปยังประตูทางเข้า“คุณเฟิง คุณเฮ่อ คุณฉี——”หรงฉือได้ยินดังนั้นก็ใจเต้นตุบๆ จู่ๆ ก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจเธอหันไปมอง พอเห็นชัดว่าเป็นใคร รอยยิ้มก็หายไปทันทีคนที่มาคือคนที่เธอคิดไว้ในใจจริงๆ นั่นคือเฟิงถิงเซิน เฮ่อฉางปั่ว และฉีอวี้หมิง สามคนไม่ผิดแต

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 28

    หรงฉือถึงกับอึ้งไปในทันที “หลินอู๋? คุณบอกว่าคนๆ นั้นชื่อหลินอู๋เหรอ? ใช่อู๋ที่มาจากคำว่าฮวงอู๋ไหม? คนที่เพิ่งกลับมาจากประเทศเอนาวาเมื่อไม่นานมานี้ใช่ไหม?”อวี้มั่วซวินพยักหน้าอย่างประหลาดใจมาก “ใช่ คุณรู้จักเหรอ?”“เธอเป็นน้องสาวต่างแม่ของฉัน”อวี้มั่วซวินถึงกับอึ้งไปในทันทีเขาพอรู้เรื่องสถานการณ์ทางบ้านของหรงฉือมาบ้างแต่ไม่คิดว่ามันจะบังเอิญขนาดนี้หรงฉือมีแววตาเย็นชา และพูดเสริมอีกว่า “และเธอยังเป็นชู้ของเฟิงถิงเซินด้วย”ทันใดนั้นรถพลันเบรกกะทันหันอวี้มั่วซวินเบิกตากว้าง “คุณ——”หรงฉือส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไร” เธอพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “เพียงแต่ คุณจะว่าฉันใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อประโยชน์ส่วนตัวก็ได้ แต่ฉันไม่เห็นด้วยที่จะให้เธอเข้ามาทำงานในบริษัทของเรา”อวี้มั่วซวินมีสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที และตอบตกลงโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อยว่า “ไม่มีทาง ผมเห็นด้วยกับการตัดสินใจของคุณ”หรงฉือรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันที “ขอบคุณนะ” จากนั้นพูดอีกว่า “เพียงแต่ แบบนี้ก็เท่ากับว่าคุณเสียอัจฉริยะไปคนหนึ่งเลยนะ”อวี้มั่วซวินส่ายหน้าพลางยิ้ม แล้วมองเธอแวบหนึ่ง “เธอถือว่าเป็นอัจฉริยะด้านอัลกอริธึมจร

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 27

    วันรุ่งขึ้นหรงฉือกลับบ้านหลังจากที่ฉู่จื่อหลานหายไข้แล้ว เนื่องจากเธอยังไม่ได้เตรียมชุดที่จะใส่ไปร่วมงานเลี้ยงในคืนวันพรุ่งนี้เลยตอนบ่ายเธอจึงออกไปข้างนอกเมื่อถึงร้านชุดราตรีหรู ผู้จัดการร้านและพนักงานหลายคนกำลังจัดชุดราตรีชุดหนึ่งอย่างพิถีพิถันจนกระทั่งหรงฉือเดินเข้ามาใกล้ พวกเธาถึงสังเกตเห็นเธอ“ขอโทษนะค่ะ คุณผู้หญิง คุณต้องการอะไรไหมค่ะ?”“ฉันขอดูก่อน”“ได้ค่ะ”แม้ว่าจะเธอแต่งงานเข้าตระกูลเฟิง แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอแทบไม่ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอะไรเลยเพราะถึงแม้เฟิงถิงเซินและซางเชี่ยนต้องไปร่วมงานที่เป็นทางการ ก็ไม่พาเธอไปด้วยอยู่ดีส่วนคุณหญิงย่าเฟิง เธอได้ถอนตัวจากวงการนานหลายปีแล้ว และไม่สนใจเสาะหาผลประโยชน์จากการออกงานมานานแล้วแม้ว่าหรงฉือจะมีความรู้เกี่ยวกับชุดราตรีไม่มากนัก แต่ฉู่จื่อหลานก็ทำธุรกิจเสื้อผ้าหรูหรา เธอจึงได้เห็นและซึมซับมาบ้าง ซึ่งทำให้เธอพอจะมีรสนิยมพื้นฐานอยู่บ้างเพียงแต่ว่า ชุดสวยๆ ในร้านมีเยอะมากจริงๆ เห็นแล้วตาลายหรงฉือก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะเลือกสรรอย่างพิถีพิถัน คิดว่าแค่พอใช้ได้ก็พอแล้วในขณะที่เธอกำลังคิดเช่นนั้น ชุดราตรีที่พนักงาน

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 26

    “คุณ...”หรงฉือยื่นมือออกไป “ขอบคุณสำหรับการดูแลในช่วงหลายปีที่ผ่านมานะคะ”เจียงเจ๋อยังไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ยื่นมือออกไปจับมือกับเธอ “เกรงใจเกินไปแล้วครับ”หรงฉือเก็บข้าวของของตัวเองเสร็จแล้วก็จากไปทันทีเจียงเจ๋อไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหรงฉือจะจากไปแบบนี้จริงๆ“เหม่ออะไรอยู่?” เฉิงหยวนตบไหล่เขาเบาๆ“หรงฉือออกจากบริษัทไปแล้ว”เฉิงหยวนอึ้งไปชั่วขณะ “จริงเหรอ?”เธอยอมออกจากบริษัทจริงหรือ? ทำไมเขาถึงไม่เชื่อเลยล่ะ?เขาหัวเราะเยาะก่อนพูดว่า “ตอนนี้เธอไปแล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่หาทางกลับมา คอยดูเถอะ คาดว่าอีกไม่นาน เธอก็จะกลับมาด้วยความช่วยเหลือของคุณหญิงเฟิงนั่นแหละ”เจียงเจ๋อไม่พูดอะไรแม้ว่าจะดูไม่น่าเชื่อ แต่ช่วงนี้หรงฉือทำให้เขารู้สึกว่าเธอจริงจังหรงฉือตรงกลับบ้านทันทีหลังออกจากเฟิงซื่อกรุ๊ปคาดว่าเฟิงจิ่งซินคงจะเอาใจกลับไปอยู่ที่หลินอู๋อีกแล้ว เพราะสองวันหลังจากนั้น หรงฉือก็ไม่ได้รับโทรศัพท์จากเธออีกเลยกลางดึกคืนวันถัดมา เนื่องจากฉู่จื่อหลานเป็นไข้ หรงฉือจึงรีบปิดหนังสือแล้วหยิบกุญแจขับรถออกไปวันนี้ฝนตกตลอดทั้งวัน จนป่านนี้แล้วฝนก็ยังไม่หยุดตกเลยฉู่จื่อหลานอ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 25

    ในขณะนั้นเอง ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นหรงฉือเผลอหันมาและบังเอิญเห็นสายโทรเข้าที่มีชื่อว่า “ที่รัก” บนจอโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะของเขาพอดีหรงฉือคิดว่าเธอเองไม่รู้สึกอะไรแล้วแต่ยังไงก็รักมาตั้งหลายปี บอกตัดใจ ก็จะตัดใจได้ง่ายๆ ได้เหรอ?เธอถูกสองคำนั้นทิ่มแทงตา จนต้องรีบเบือนหน้าหนีในทันทีเมื่อเฟิงถิงเซินเงยหน้าขึ้นก็สังเกตเห็นความเจ็บปวดอย่างลึกซึ้งในแววตาของเธอ แต่เขากลับรับโทรศัพท์ต่อหน้าเธออย่างไม่สะทกสะท้าน แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “มีอะไรเหรอ?”เฟิงจิ่งซินก็สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวของเฟิงถิงเซินในความทรงจําของเฟิงจิ่งซิน เฟิงถิงเซินจะแสดงด้านที่อ่อนโยนเช่นนี้เฉพาะตอนอยู่ต่อหน้าหลินอู๋เท่านั้นทันใดนั้นเธอก็ลืมไปสนิทเลยว่าหรงฉือก็อยู่ด้วย ถามอย่างดีใจว่า “คุณพ่อคะ น้าอู๋อู๋เหรอคะ?”เฟิงถิงเซินพูดเสียงเบาว่า “อืม”เฟิงจิ่งซินกำลังจะบอกว่าเธอก็อยากคุยกับน้าอู๋อู๋ แต่พอนึกได้ว่าหรงฉืออยู่ด้วย และรู้ว่าหรงฉือก็ไม่ชอบหลินอู๋ เธอก็เลยกลืนคำพูดนั้นกลับไปซึ่งมันส่งผลกระทบต่ออารมณ์ที่ดีของเธอด้วยเธอขมวดคิ้วน้อยๆ และอดคิดไม่ได้ว่าถ้าแม่สามารถเข้ากันได้ด

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 24

    เมื่อคนอื่นๆ ได้ยินดังนั้น ต่างก็มีสีหน้าต่างกันไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีคนพูดกันมาตลอดว่าเฟิงถิงเซินแต่งงานไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าภรรยาของคุณเฟิงคือใครแต่ก็มีบางคนพูดว่าเฟิงถิงเซินยังไม่ได้แต่งงานเลยด้วยซ้ำแต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พวกเขาก็ไม่รู้แน่ชัด และไม่กล้าถามให้มากความตอนนี้เฟิงถิงเซินเริ่มพูดว่าเขามีลูกสาวก่อน ซึ่งทำให้หลายคนตกใจเป็นอย่างมากแต่ที่มากไปกว่านั้นคือพวกเขาก็ไม่กล้าถามอะไรอีก..................หลังทานอาหารเย็นเสร็จ เฟิงจิ่งซินยังคงรอหรงฉืออยู่ตลอดรอเธอกลับบ้านแต่ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว เธออาบน้ำจนเสร็จแล้ว แต่หรงฉือก็ยังไม่กลับมาเธอคอยเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวข้างนอกอยู่ตลอดตอนประมาณสี่ทุ่มกว่า พอเธอได้ยินเสียงรถยนต์ดังมาจากข้างนอกก็ตาลุกวาว แล้วรีบวิ่งลงบันไดพร้อมตะโกนว่า “คุณแม่——”แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียง เมื่อเห็นคนที่ก้าวเข้าประตูมาคือเฟิงถิงเซิน เสียงร้องที่ร่าเริงก็หยุดชะงักลงทันที“คุณพ่อ?”เฟิงถิงเซินยื่นเสื้อคลุมในมือให้พ่อบ้านก่อนจะสังเกตเห็นความผิดหวังบนใบหน้าของลูกสาว “เป็นอะไรเหรอ?”“หนูคิดว่าคุณแม่กลับมาแล้ว..

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 23

    ในขณะนั้นเอง เจียงเจ๋อก็เดินมาถึงห้องพักเบรคพอดี พอได้ยินดังนั้นก็อึ้งไปชั่วขณะเขากับเฉิงหยวนคิดมาตลอดว่าหรงฉือไม่น่าจะยอมออกจากบริษัทจริงๆและพวกเขาก็เชื่อมั่นว่าเธอจะหาโอกาสอยู่ต่ออย่างแน่นอนเมื่อวาน ตอนที่สวีเสว่น่า คนที่จะมาทำหน้าที่แทนเธอมาถึงบริษัท พวกเขายังคิดว่าหรงฉือจะทำอะไรบางอย่างเพราะอย่างไรเสีย สวีเสว่น่าก็มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามและโดดเด่นหรงฉือจะวางใจให้ผู้หญิงแบบนี้อยู่ข้างกายเฟิงถิงเซินได้อย่างไรแต่สองวันที่ผ่านมา หรงฉือไม่เพียงแต่ส่งช่วงต่อให้สวีเสว่น่า แต่ยังเข้ากับเธอได้ดีด้วย ตอนนี้ถึงขนาดจะถ่ายทอดฝีมือการชงกาแฟของเธอให้กับสวีเสว่น่าด้วย?นี่...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?หรงฉือไม่รู้ว่าเจียงเจ๋อคิดอย่างไรเธอตั้งใจทำงานของเธอ และปฏิเสธคำชวนไปเลี้ยงข้าวของสวีเสว่น่า เมื่อถึงเวลาเธอก็วางแผนว่าจะศึกษาเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ AI ต่อหลังจากกลับบ้านและทานข้าวเสร็จเธอเพิ่งออกจากบริษัท โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นซึ่งเป็นสายเรียกเข้าจากเฟิงจิ่งซิน“คุณแม่คะ ทำงานเสร็จหรือยังคะ?”หรงฉือขึ้นรถแล้วถามว่า “มีอะไรเหรอจ๊ะ?”“หนูอยากกินหมูชุปแป้งทอดกับซุปเนื

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 22

    เช้าวันนี้มีการประชุมใหญ่และเฟิงถิงเซินก็เข้าร่วมด้วยหรงฉือและคนอื่นๆ นั่งรออยู่ในห้องประชุมประมาณสิบกว่านาที เฟิงถิงเซินถึงปรากฏตัวทันทีที่เขาปรากฏตัวขึ้น สวีเสว่น่าก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย และไม่อาจละสายตาจากเขาได้เลยหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เมื่อการประชุมเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เธอถึงสะดุ้งตื่นและกลับมามีสติก่อนจะดึงแขนเสื้อของหรงฉือ “ท่านประธานเฟิงหล่อมากจริงๆ ด้วย!”หรงฉือเพียงเงยหน้ามองเฟิงถิงเซินแวบหนึ่งตอนที่เขาเดินเข้ามาเท่านั้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอจึงตอบแบบขอไปทีว่า “อืม” คำหนึ่ง โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเลยเมื่อเห็นว่าหรงฉือดูเหมือนจะไม่สนใจเฟิงถิงเซินเลยสักนิด สวีเสว่น่าก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าหรงฉือแต่งงานแล้ว และลูกก็โตพอสมควร เธอก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติระหว่างการประชุม สวีเสว่น่าใจเต้นแรงตลอดเวลา และเอาแต่จ้องมองเฟิงถิงเซินอย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เธอไม่ได้ฟังเลยว่าในการประชุมพูดถึงเรื่องอะไรส่วนหรงฉือกลับตั้งใจบันทึกวาระการประชุมลงในคอมพิวเตอร์หลังจากประชุมเสร็จ เฟิงถิงเซินก็เดินออกไปก่อน จากนั้

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status