Share

บทที่ 6 เริ่มมีประโยชน์

last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-08 20:25:00

หลังจากที่หลงเหยาเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปตามหานเจียเจิงผู้เป็นพ่อและหานเจี้ยนหยีพี่ใหญ่ของเขาตัวหลินเฟิงจึงค่อยๆ หยิบดินเผาที่ต้มรากบัวในนั้นมาถ้วยหนึ่งก่อนจะตักขึ้นมาเป่าให้เย็น

"ในนี้คือต้มรากบัวมันมีรสหวานอ่อนๆ เจ้าไม่ควรกินของรสจัดรากบัวนี้ไม่มีพิษเหมือนเห็ดที่เจ้ากินเข้าไปเมื่อเช้าหรอกนะ"

เธอพูดคาดโทษหญิงสาวตัวน้อยที่นั่งเอามือกุมท้องเบาๆแต่อย่างน้อยเด็กสาวก็ไม่ร้องไห้ทุรนทุรายแล้วละ

"รากบัวกินได้ด้วยเหรอพี่สะใภ้ใหญ่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย"

หญิงสาวถามเสียงอ่อนน้ำเสียงของเธอดีขึ้นกว่าตอนที่พูดกับเธอก่อนหน้านี้มากโข จนจางหมิ่นเองยังปรับตัวด้วยไม่ทันเลย

"อืมกินได้สิอร่อยด้วยลองกินดูนะ"

เธอค่อยๆป้อนน้ำซุปของต้มรากบัวเข้าปากเด็กสาวจื่อรุ่ยอย่างอ่อนโยนแววตากลมโตของเด็กสาวก็ลุกเป็นมันวาวอย่างประหลาดใจจากน้ำซุปรสละมุน ที่ออกหวานนิดๆมันเป็นรสชาติที่เธอโหยหามาหลายปีจนแทบจะลืมว่าหวานรสชาติเป็นอย่างไร

"อร่อยจัง ท่านทำอาหารเป็นด้วยหรือข้าไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลยท่านคงไม่ได้คิดจะวางยาข้าใช่มั้ย"

เมื่อจบประโยคของจื่อรุ่ยหลินเฟิงถึงกลับกั้นขำแทบตายเพราะเด็กน้อยคนนี้ไร้เดียงสาเสียจริงแต่ก็คงผ่านมรสุมชีวิตมาเยอะถึงได้หวาดระแวงเช่นนี้ หรือไม่คงจะเป็นตัวของเธอเองที่ไม่เคยประพฤติตัวดีๆกับเด็กสาวคนนี้เลยนั่นทำให้เธอยิ่งหวาดระแวงทุกการกระทำที่จางหมิ่นทำให้เธอ

ไม่นานหรงเหยาก็กลับมาพร้อมชายหน้าตาที่โมโหโกรธาจางหมิ่นก่อนหน้านี้และชายชราหลังค่อมที่สูงเพียงหน้าอกของเจี้ยนหยีเท่านั้น

ก่อนที่ชายทั้งสามคนจะเดินมานั่งล้อมโต๊ะกินข้าวเก่าๆที่หากลมพัดก็คงจะหักพังจนหมดเป็นแน่จางหมิ่นเอาถ้วยดินต้มรากบัวให้จื่อรุ่ยตักกินเองหลังจากที่เห็นว่าอาการของเธอเริ่มดีขึ้นแล้ว

มือเรียวสวยเริ่มจัดแจงถ้วยดินเผาไว้ข้างหน้าชายวัยต่างกันทั้งสามคนอย่างพร้อมเพรียงแม้นจะมีความกังวลอยู่ในใจบ้างว่าอาหารในถ้วยนี้จะมีพิษ

แต่พอมองไปที่สาวน้อยจื่อรุ่ยที่ตักกินอย่างเอร็ดอร่อยก็ทำให้พอจะวางใจได้สักหน่อยว่าอาหารนี้น่าจะปลอดภัย

ชายทั้งสามคนก็ลองกินอาหารในถ้วยดินดูชายแก่ถึงกลับน้ำตาเอ่อไหลลงอาบแก้ม จางหมิ่นเริ่มเป็นกังวลว่าชายชราจะแพ้รากบัวหรือป่าว

แต่เจี้ยนหยีที่ได้กินไปสองถึงสามคำและสังเกตเห็นสีหน้าเป็นกังวลของหลินเฟิงจึงบอกกับเธอเบาๆ

"ท่านพ่อไม่ได้เป็นอะไรเพียงแต่รสชาตินี้คล้ายที่ท่านแม่เคยทำให้กินก่อนจะล่องเรือเพื่อไปทำการค้าแต่พอท่านแม่จากไปก็ไม่เคยได้ลิ้มรสนี้อีกเลย และสระหลังบ้านก็เป็นสระบัวของท่านแม่ ท่านพ่อตัดใจขายไม่ได้จึงต้องขายเรือสินค้าแทนเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้"

ชายหนุ่มเจี้ยนหยีอธิบายหน้าตายแต่น้ำเสียงเขาถึงราบเรียบไม่มีวอนลุ่มจนน่ากลัวเเต่หญิงสาวก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่แฝงในน้ำเสียงของชายหน้าตายผู้นั้น

ตัวเธอเองถึงจะอยากรู้อยากเห็นแต่ก็ไม่กล้าถามอะไรมากเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยจะดี

"พี่สะใภ้ใหญ่หลินเฟิงอาหารยังเหลืออีกรึไม่ขอรับ"

เสียงหรงเหยาถามอย่างกล้าๆกลัวๆ และสัมผัสได้จากแววตาที่หวานเยิ้มและเป็นประกายของหนุ่มน้อย หรงเหยา หลินเฟิงก็เพียงแต่ฉีกยิ้มจางๆบนริมฝีปากให้นาง

"อยู่ในหม้อดินที่ครัวไฟไปตักเอาเถอะน่าจะเหลืออยู่ระวังด้วยนะมันร้อน"

หลงเหยาเมื่อได้ยินแบบนั้นก็รีบวิ่งเข้าครัวไฟทันทีเขาดูมีความสุขมากๆกับรสชาติใหม่ที่ได้รับเขากินแต่เห็ดจืดๆจนลิ้นแทบตายแล้ว

เขาตั้งหน้าตั้งตาตักจนน้ำต้มกระเด็นลวกมือจนร้องลั่นแต่ก็ไม่ได้หยุดความพยายามที่จะได้ลิ้มรสชาติหวานละมุนอีกครั้งพอได้น้ำต้มรากบัวแล้วก็กลับไปที่โต๊ะกินข้าวดังเดิม

ซึ่งตอนนี้การกินกำลังดำเนินต่อไปเงียบๆทุกคนไม่ได้พูดจากันแต่ก็รู้ว่ามีความสุขมากนี่เป็นคืนแรกและมื้อแรกที่ได้อิ่มท้องอย่างสมบูรณ์

สาวน้อยจอมแก่นอย่างจื่อรุ่ยก็รู้สึกรักใคร่หลินเฟิงขึ้นมาเสียแล้วถึงนางจะไม่ได้ไว้ใจอย่างสุดซึ้งก็ตาม แต่อย่างน้อยๆความสัมพันธ์ของเธอและสาวน้อยจื่อรุ่ยคงจะดีขึ้นมาสักหน่อย

หลังจากที่ทุกคนอิ่มดีแล้วน้ำชาดีบัวก็ถูกรินลงใส่แก้วใบเล็กที่ทำจากต้นไผ่ก่อนจะวางไว้ต่อหน้าทุกคน

"ชาดีบัวเจ้าค่ะบำรุงร่างกาย"

หลินเฟิงพูดอย่างอ่อนโยน และเริ่มจิบชาถึงมันจะไม่ขมมากหน้าเธอก็แอบเปลี่ยนเล็กน้อย

"ไม่คิดว่าเจ้าจะทำอาหารเป็น"

ชายสูงวัยเอ่ยปากชมเป็นครั้งแรก หลังจากที่เข้ามาที่นี่เขาพูดอะไรไม่ออกเลยเพราะรสชาติที่ทำให้ความทรงจำต่างๆในอดีตได้หวนคืนกลับมาอีกครั้ง

เธอเพียงยิ้มให้ชายชราจางๆเพียงเท่านั้นและไม่ได้พูดอะไรตอบกลับไป

หลังจากที่ทุกคนอิ่มท้องกันแล้วอีกทั้งเวลาตอนนี้ก็ล่วงเข้ายามห้ายเข้าไปแล้วจึงแยกย้ายกันไปนอน หลินเฟิงต้องนอนกับเจี้ยนหยีตามประเพณีสามีภรรยาปกติทั่วไป

ในห้องที่มืดพอแต่สลัวๆฟางกระจัดกระจายเต็มห้องมีแสงนวลของดวงจันทร์เล็ดเข้ามาในนี้บ้างพอแต่รำไรชายหนุ่มนั่งลงที่มุมห้องหลังพิงฝาและไม่เข้าใกล้เธอเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อหลังถึงฝาดวงตาคู่นุ่มลึกเหมือนทะเลสีเทาอันกว้างใหญ่ของเขาก็ปิดลงอย่างรวดเร็วเหมือนกลัวว่าหลินเฟิงจะทำอะไรไม่ดีไม่งามกับตนอย่างใดอย่างนั้น

"เจ้าจะนอนก็นอนเถอะอีกเพียงไม่กี่เค่อก็คงยามจื่อแล้วดึกมากแล้ว ในเมื่อวันนี้เจ้าสามารถลุกขึ้นมาเด็ดหญ้าได้พรุ่งนี้ข้าก็จะพาเจ้าขึ้นเขา"

เจี้ยนหยีพูดขณะหลับตาแต่มันก็ทำให้สาวน้อยหลินเฟิงใจเต้นตึกตัก เธออยากเห็นว่าป่าที่อยู่หลังต้นไม้ยืนต้นตายไกลๆที่เธอเห็นเมื่อกลางวันจะเป็นอย่างไรคงแห้งแล้งมากแน่ๆ หญิงสาวจินตนาการจนผล็อยหลับไปในที่สุด

รอรุ่งอรุณที่เธอจะได้เดินทางขึ้นเขาอย่างใจจดใจจ่อแม้นในฝันเธอก็ยังเก็บไปนึกคิด แม้นจะมีเสียง"โครม!" ดังแว่วเข้ามาในฝันบ้างตาม ก็มันเป็นดวงจิตสุดท้ายของเธอก่อนจะมาอยู่ที่นี่ก็ไม่แปลกหรอกที่จะมีแว่วมาบ้าง

ภาพเธอที่ค่อยๆ เดินเข้าไปในป่าลึกเริ่มปรากฏบนความคิดของเธอชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

"จางหมิ่นลูกรักลูกอยู่ที่ไหนได้ยินเสียงแม่มั้ยลูก"

เสียงของหญิงวัยกลางคนดังแว่วมาจากในป่าหญิงสาวกระวนกระวายตามหาเสียงนั่นทันทีที่ได้ยินแต่คงไม่ได้ง่ายอย่างที่เธอคิดเพราะเสียงนั้นดังมาจากทุกทิศทุกทางจนเธอไม่สามารถที่จะจับต้นชนปลายได้เลยว่าตรงไหนคือที่มาของเสียง

"จางหมิ่นลูก แม่คิดถึงลูกเหลือเกิน กลับมาหาแม่เถอะนะลูกรัก"

เสียงนั้นยังคงดังอยู่ในห้วงความคิดของหลินเฟิงไม่สิแค่อยู่ในร่างหลินเฟิงแต่นั่นคือความคิดของจางหมิ่นต่างหากเธอกำลังหลงทางในฝัน

ก่อนที่ภาพทุกอย่างในหัวจะมืดและดับไปทิ้งให้จางหมิ่นหลงทางในความฝันอันน่าค้นหานั้นและลึกลับนั้น

ตอนนี้ร่างกายของหลินเฟิงเหงื่อตกเป็นเม็ดลงบนฟางทั่วร่างกายน้ำตาค่อยๆไหลลงจากแก้มนวลราวลูกพลับสุกที่ปิดสนิทของเธอ

Bab terkait

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 7 คุณหนูหลินเฟิง

    ขนตาหนาเป็นแพค่อยๆ ปรือตื่นขึ้นในรุ่งอรุณวันถัดมาดวงตาสีน้ำตาลสวยกวาดไปรอบๆ บริเวณเสียงเเดดเรไรสาดส่องกระทบผิวหน้านวลผ่องของหญิงสาวร่างกายของหลินเฟิงค่อยๆ พยุงตื่นขึ้นพร้อมทั้งบิดขี้เกียจฟังเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วตอนเช้าอย่างสดชื่น แม้ว่าเมื่อคืนจะนอนน้ำตาตกอยู่หมาดๆก็ตาม"ตื่นเถอะยามเหม่าแล้วถ้ายังไม่ตื่นจะทิ้งไว้บ้านอีกวันนะ แต่ก็คงจะดีใจสิท่า"เสียงดังประชดประชันของชายหนุ่มเมื่อคืนดังอยู่อีกฝากของประตูไม้ไผ่บานเก่าดังเข้ามาข้างใน แต่เดี๋ยวก่อนนี่ยามเหม่าแล้วเหรอ.. ว่าแต่ยามเหม่านี่กี่โมงนะ จางหมิ่นใคร่ครวญในใจ'อืม...คงไม่น่าถึง7โมงเช้าหรอกมั้งเเดดยังอ่อนๆอยู่เลย"หญิงสาวร่างบางพึมพำเงียบๆ ก่อนจะรีบลุกขึ้นไปเปิดประตู ด้วยที่เธอติดนิสัยรีบเร่งทำให้สะดุดเกือบหัวคะมำโชคยังดีที่ไม่ทันได้ล้มเพราะมีเจี้ยนหยียืมเฝ้าอยู่หน้าประตูเขารับร่างกายบางๆ ของเธอไว้ได้สบายๆ"เจ้าจะรีบใยกันข้าไม่ได้จักไปเดี๋ยวนี้ ก็รอเจ้าอยู่แต่ท่านพ่อกับน้องรองน้องเล็กขึ้นเขาไปเสียตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง""ในเมื่อตื่นขึ้นมาได้แล้วก็ไปเตรียมตัวตะกร้าอยู่ตรงนั้นสะพายออกมาข้าจะไปรอเจ้าอยู่หน้าบ้าน"หลังจากที่ชายหนุ่มเสียงทุ้

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-08
  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 8 ของล้ำค่า

    ลี่อินพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและหนักแน่นเหมือนกับว่านางจะพร้อมทำทุกอย่างที่ทำได้ถึงทำไม่ได้นางก็จะทำหากคุณหนูของนางถูกเขารังแกก็จริงอยู่ที่ลี่อินกับแม่ของนางไม่ได้ทำงานให้กับตระกูลอ้ายแล้วก็ตามแต่ถึงยังไงกับหลินเฟิงก็ยังใคร่และผูกพันแน่นแฟ้นเจี้ยนหยีทำได้เพียงคำนับกลับเท่านั้นเขาไม่ได้ตอบโต้ใดๆหรือเปล่งเสียงพูดใดๆออกมาเลยแม้แต่คำเดียวก็ตาม"แม่นมข้ากับสามีคงต้องไปก่อน ถนอมตนด้วย"แม่นมกอดคุณหนูอย่างแนบแน่นก่อนจะโบกมือให้อย่างอาลัยอาวรณ์แต่ชีวิตก็ต้องเดินต่อไป นางกับลี่อินลูกสาวก็ค่อยๆก้าวย่างออกไปจากป่าต้นไม้ยืนต้นตายนี้ในทางที่เธอกับเจี้ยนหยีเดินเข้ามาสายตาของหลินเฟิงจับจ้องไปที่หญิงทั้งสองคนที่วัยต่างกันจนพวกเธอหายลับไปจากระยะสายตาสาวน้อยจึงได้ก้มดูกำไรหยกที่ดูล้ำค่ายิ่งในมือเรียวของเธอ"ดูพวกนางคงรักเจ้ามาก"เสียงเจี้ยนหยีดังขึ้นเป็นครั้งแรกในระยะเวลาเกือบสองเค่อที่เขาไม่พูดไม่จาอะไรเลย ที่ทำเพียงแต่ยืนมองเธอคุยกัน"คงอย่างนั้น.. "หลินเฟิงพูดขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่กำไลในมือแต่ไม่ได้ยินเสียงของเจี้ยนหยีตอบกลับมาเธอจึงหันไปมองแต่ก็ไม่พบเขาแล้ว"เจี้ยนหยี! เจ้าอยู่ไหน!"จ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-12
  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 9 บุตรบุญธรรม

    ทั้งสามคนเดินทางออกจากตีนเขาในป่าแห้งเเล้งเพื่อกลับไปยังบ้าน ที่พ่อน้องชายและน้องสาวเจี้ยนหยีรออยู่พอไปถึงก็พบว่าทุกคนกำลังรอกินข้าวพร้อมกัน แต่ที่ยิ่งทำให้สงสัยคือมือของหลินเฟิงมีมือเล็กๆของเด็กน้อยจับอยู่แน่นเขาดูประหม่าแต่พอเห็นจื่อรุ่ยหน้าตาพลันระรื่นขึ้นมาเพราะเขาเห็นจื่อรุ่ยขึ้นเขาบ่อยๆ และชอบขอลูกไม้ป่ากับนางบ้างหากมีเยอะ"พี่หญิงจื่อรุ่ย!"เสียงเจื้อยแว้วดังขึ้นพร้อมความตกตะลึงของคนในครอบครัวมีเพียงหานเจียเจิงที่พอจะเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าเขาไม่ได้ว่าอะไรเพราะครั้งหนึ่งเคยเอ่ยปากชวนเด็กคนนี้กลับบ้านแล้ว แต่เด็กน้อยเกรงใจเกินจะตอบว่าตกลง"หวัง..หวังจิ้ง"จื่อรุ่ยที่เห็นก็โผลเข้ากอดเด็กน้อยอย่างอารมณ์ดีตัวเธอเองก็เคยชวนเด็กน้อยคนนี้กลับบ้านเหมือนกันแต่เขาก็ไม่ยอมแต่แปลกที่เขายอมกลับมากับหลินเฟิง"พี่หญิงจื่อนั่นพี่สาวของข้า!"เสียงเด็กน้อยเจื้อยแจ้วพลันชี้มือไปทางหลินเฟิงโดยที่ไม่รู้เลยว่าหลินเฟิงเป็นอะไรกับครอบครัวนี้"พี่สาวงั้นเหรอ?"เสียงหรงเหยาดังมาจากโต๊ะไม้เก่าๆที่ถัดจากตัวของจื่อรุ่ยไปไม่กี่ก้าว ขาดูสงสัยที่เด็กน้อยพูดมาว่าใช่ความจริงหรือเปล่า? หัวหน้าตระกูลอ้ายมีลูกสาวส

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-12
  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 10 เลิกทำตัวเกียจคร้าน

    จื่อรุ่ยพูดทีเล่นทีจริงอย่างสนุกสนานพลันแกล้งผละตัวออกจากหลินเฟิงไปด้วย ตัวหลินเฟิงถึงกับขำแห้งเลยในทันทีมือเรียวเล็กก็เอื้อมไปตีแขนเด็กสาวเบาๆอย่างอยากล้อหรือทำตัวไม่ถูกอันนี้ก็ชักจะไม่แน่ใจแล้วจริงๆ"นี่เจ้าตีข้าทำไมข้าพูดความจริงนะหลินเฟิง"จื่อรุ่ยโวยวายเล็กน้อยก่อนจะตามมาด้วยเสียงขบขันของสองสาว ไม่นานมากต้มรากบัวก็เสร็จสมบูรณ์แต่วันนี้พิเศษกว่าสักหน่อยเพราะมีเม็ดบัวเชื่อมกับต้มมันม่วงด้วยอาหารถูกจื่อรุ่ยนำมาจัดไว้บนโต๊ะอย่างสวยงามทุกอย่างดำเนินต่อไปเหมือนกับเมื่อวานแต่วันนี้กลับมีเสียงเด็กน้อยเจื้อยแจ้วตัวของจื่อรุ่ยก็ไม่ปวดท้องทุกคนกินอาหารกันอย่างสบายใจมากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลว่าในอาหารจะถูกวางยาพิษแล้ว"เจี้ยนหยีหากแต่จะนับเป็นน้อง เจ้าเองก็รับหวังจิ้งเป็นลูกเถอะ เด็กมันจะได้สมบูรณ์ ซ้ำยังเป็นเด็กชายอีก ชื่อแซ่ก็ไม่มี ช่างอาภัพนัก "ชายวัยย่างหกสิบเสนอพร้อมกับรอยยิ้มกรุ้มกริ่มบนใบหน้า ตัวของหลินเฟิงสังเกตเห็นและรู้ว่านี่คือแผนของหานเจียเจิงเป็นแน่ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรหากเจี้ยนหยีตกลงเธอก็จะทำหน้าที่แม่บุญธรรมของเด็กน้อยคนนี้ให้เป็นอย่างดีเท่าที่จะเป็นไปได้"ถ้าท่านพ่อเห็นสมควรข้า

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-12
  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 11 ออกเดินทาง

    "ร่ำลากันพอแล้วละมั้งออกเดินทางได้แล้ว"เสียงชายชราดังขึ้นมาจากด้านหลัง เด็กน้อยที่นั่งกอดขาอยู่จึงยอมลุกออกไปและเดินไปอยู่ด้านหลังของผู้อาวุโสอย่างรวดเร็วเพราะเดี๋ยวโดนดุจึงรีบไปออดอ้อน"ขอรับท่านพ่อ" เจี้ยนหยีและหลินเฟิงคำนับผู้อาวุโสเจียเจิงก่อนที่เจี้ยนหยีจะเดินนำเหมือนเหาะออกไปตามที่เคยเป็นเขาเดินเร็วมากๆ ส่วนตัวของหลินหยางก็พยายามตามให้ทัน"โม่โฉว"เจี้ยนหยีอ่านป้ายทางเข้าตำบลที่โดนเถาไม้และหญ้าขึ้นรกจนปิดแทบมิดแต่เหมือนกับว่าเธอจะละสายตาไปจ้องมองป้ายนานเสียหน่อย เจี้ยนหยีหายลับสายตาของหลินเฟิงไปอีกครั้งแล้วหลินเฟิงรีบวิ่งไปตามทางหวังว่าอาจจะพบเจี้ยนหยีแต่ก็ไม่เจอหลินเฟิงนั่งย่อลงกับพื้นกับความสิ้นหวังเธอไม่รู้ว่าต้องเดินไปทางไหนต่อดี"หลินเฟิงนั่นเจ้าไปนั่งทำอะไรตรงนั้น"เสียงที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง เขาเดินไปด้านหน้าแล้วมายื่นมือให้กับหลินเฟิงเพื่อจะได้ยืนขึ้นได้แต่หลินเฟิงก็เอาแต่มองเธอกลัวว่าหากจับไปมืออาจจะเย็นจนแข็งหลินเฟิงค่อยๆยืนขึ้นตอนนี้ใบหน้าของเธอก็สีหม่นๆจากการที่เธอคิดไม่ตกเมื่อครู่จนกำลังจจะร้องไห้ออกมาในอีกไม่นานหากเจี้ยนหยียังไม่ปรากฏตัว"เจี้ยนหยีเจ้าหายไปไ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-12
  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 12 เริ่มเป็นห่วง

    "งั้นข้าให้ 20 ตำลึงเงินเจ้ายินดีกับการซื้อขายครั้งนี้หรือไม่"เถ้าแก่เนี้ยในชุดคลุมสีแดงสว่างตาพูดอย่างใจดีและราคานี้ก็สูงไม่ใช่เล่นหากเป็นเห็ดธรรมดาก็คงจะขายได้เพียงสามถึงสี่ตำลึงเงินเพียงเท่านั้น"ยินดีเจ้าค่ะ ให้ข้าเอาเห็ดไปไว้ไหนเจ้าคะ" หลินเฟิงยังคงถามด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะมีคนนำตะกร้าใบใหญ่มาให้หลินเฟิงค่อยๆ บรรจงเทเห็ดลงในตะกร้าเพื่อไม่ให้เห็ดเกิดอาการช้ำพร้อมทั้งเดินออกไปเอาตะกร้าที่เจี้ยนหยีสะพายอยู่ซึ่งเขาขอยืนรออยู่นอกภัตตาคารมาเทด้วยซึ่งเจี้ยนหยีตอนนี้ดูเหมือนไม่มีวิญญาณมากๆเขาแทบเป็นลมเวลาต้องเจอกับคนมากๆ หรือเวลาที่ไปในที่คนแออัดเยอะๆนั่นเป็นเหตุผลที่เขาเลือกจะขึ้นป่าหาของมากินประทังชีวิตไปวันๆ แทนที่จะหาของมีขายลงทุนสร้างกำไรต่อเสริมเติมแต่ง เพราะเขาพูดจาไม่เก่งหากมาขายคงถูกกดกำไรจนไม่เหลือเป็นแน่"เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะเถ้าแก่เนี้ย"หลินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มสดใสระรื่น ตะกร้าถูกเก็บเข้าครัวตามสัญญาเถ้าแก่เนี่ยใจดีมอบเงินให้หลินเฟิง 40 ตำลึงเงิน"เถ้าแก่เนี้ยนี่คือ...""ข้าให้ไว้มีเห็ดมาห้ามไปขายให้เจ้าอื่นที่นี่รับซื้อตลอดถือว่าเป็นค่ามัดจำรับไปเถอะ"หญิงสวยในชุดสีแดงสง่าพูดอ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-12
  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 13 โลกของจางหมิ่น

    "ก็ไม่แย่นะ ข้ามีของมาให้เจ้าด้วยข้าคิดว่าเจ้าคงจะชอบ "หลินเฟิงพูดอย่างล้าๆ แต่พอเห็นท่าทีดีอกดีใจและอยากรู้อยากเห็นของเด็กน้อยหวังจิ้งเธอก็พอจะมีแรงขึ้นมาบ้าง ก่อนจะลุกขึ้นยืน"หวังจิ้งถ้าไม่ว่าอะไรช่วยไปตักน้ำให้ข้าที"เสียงแหบแห้งของหลินเฟิงนั่นทำให้รู้ว่าตอนนี้กระหายน้ำขนาดไหนเธอ บอกให้ลูกชายบุญธรรมไปตักน้ำมาให้เด็กน้อยเองก็เชื่อฟังรีบวิ่งไปตักน้ำให้เธอหลังจากที่เด็กน้อยเข้าไปตักน้ำแล้วเธอก็เดินตามเข้าไปในบ้านเงียบๆ พลางทิ้งตัวนั่งลงบนขอนไม้ท่อนหนึ่ง"ท่านแม่ขอรับมาแล้วๆ"หวังจิ้งเด็กชายแก้มยุ้ยยกแก้วกระบอกไม้ไผ่วิ่งออกมาอย่างทุลักทุเล น้ำหกมาตามทางยาว กว่าจะถึงน้ำก็หกไปจนเกือบหมดแล้ว"หวังจิ้ง ในนั้นไม่มีน้ำเหลือแล้วนะ.."หลินเฟิงพูดพร้อมมองลงไปที่กระบอกน้ำไม้ไผ่ที่ถูกตัดสั้น ที่พอจะถือได้และใส่น้ำได้ไม่มากหากเป็นเวลาปัจจุบันที่เธอจากมาแก้วกระบอกนี้คงจะเท่าๆกับแก้วพลาสติกธรรมดาๆตากลมๆมองลงมาที่กระบอกน้ำไม้ไผ่พลางเหงื่อตกและยิ้มเจื่อนๆซาลาเปาอยู่บนหน้าทั้งสองลูกก็พลอยจะแดงๆไปด้วยอย่างเขินอาย"เดี๋ยวข้าไปตักมาให้ใหม่นะขอรับขออภัยด้วย"เด็กน้อยวิ่งแจ้นออกไปอย่างลุกลี้ลุกลน หลินเฟ

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-12
  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 14 รักแต่ต้องลาจาก

    หลังจากที่ผู่เยว่ได้ยินหนูน้อยซีฮันน้องชายแท้ๆของจางหมิ่นพูดใบหน้าของเขาก็พอจะมาอารมณ์ความรู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง กับคำพูดของเด็กน้อยไร้เดียงสามันพึ่งจะจุดไฟในตัวเขาให้ประทุพลุกพล่านขึ้นมาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู่เยว่ก็แอบมีใจให้จางหมิ่นมานานแล้วแต่ดูเหมือนว่าจางหมิ่นจะวางตนไว้แค่เพื่อนเลยไม่กล้าแม้แต่จะสารภาพและในเร็วๆนี้เขาคิดจะสารภาพรักและขอคบถ้าจางหมิ่นไม่คบก็คิดจะขอโอกาสเธอเพื่อจะขอโอกาสให้ตนได้จีบแต่ไม่คิดว่าจางหมิ่นจะมาด่วนจากไปเร็วขนาดนี้เหมือนกับว่าเธอรู้ว่าเขาวางแผนอนาคตไว้ว่ายังไงบ้างแล้วก็มารีบจากไปโดยที่เขาก็ไม่มีโอกาสจะได้พูดผู่เยว่เลี่ยงตัวออกมาเงียบๆเขาเดินเหมือนคนไร้วิญญาณอย่างไร้จุดหมายจิตใจเขาเคว้งคว้างไปหมดโลกทั้งใบของเขาถูกผูกไว้ที่จางหมิ่นดวงจิตจางหมิ่นที่เห็นว่าผู่เยว่นั้นเดินออกไปก็รีบวิ่งตามออกไปทันที รู้สึกสงสารเขามากตอนนี้ผู่เยว่ขอบตาดำคล้ำจากการไม่ได้นอนที่พยายามจะช่วยชีวิตเธอร่างกายของจางหมิ่นนั้นหยุดหายใจไปแล้วแต่ยังมีชีพจรอ่อนๆ มันจุดความหวังในตัวของชายหนุ่มผู่เยว่เป็นอย่างมากแต่พอไม่สามารถยื้อไว้ได้ โลกทั้งใบก็เหมือนจะถล่มลงมาบัดเดี๋ยวนั้นชายหนุ่มย่างเท้

    Terakhir Diperbarui : 2025-02-12

Bab terbaru

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทส่งท้าย คำมั่นสัญญา

    สี่ผ่านไปตอนนี้หลินเฟิงมีลูกสาวสมใจลูกชายฝาแฝดอายุหกขวบส่วนลูกสาวอยู่ในวัยกำลังอายุสองขวบซึ่งกำลังดื้อจนนางเองก็ปวดหัวไม่น้อย “ท่านแม่” เด็กน้อยซูฮวาวิ่งมาหาท่านแม่ด้วยใบหน้าที่มอมแมมคงจะโดนพี่ชายทั้งสามแกล้งมาอีกจึงรีบวิ่งมาฟ้องนางแบบนี้ “เด็กน้อยของแม่เจ้าไปเล่นซนที่ไหนมา” หลินเฟิงอุ้มลูกขึ้นมานั่งบนตักและเช็ดใบหน้าให้ลูกสาวพร้อมกับหอมแก้มไปหนึ่งที “ท่านพี่แกล้ง” ได้ทีจึงรีบฟ้องท่านแม่แต่เด็กน้อยก็ไม่ร้องไห้งอแงตั้งคลอดจนถึงตอนนี้ซูฮวาเป็นเด็กเลี้ยงง่ายและฉลาดกว่าเด็กในวัยเดียวกัน “น้องหญิงพี่กลับมาแล้ว” เจี้ยนหยีเดินเข้ามาในจวนเห็นนางกำลังเช็ดตัวให้ลูกสาวที่เจี้ยนหยีหวงยิ่งกว่าอะไร “ท่านพี่กลับมาเร็วจังเจ้าค่ะ” หลินเฟิงให้เจี้ยนหยีออกไปซื้อสมุนไพรเพื่อเตรียมไว้สำหรับคนไข้ไม่คิดว่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้เพราะยังไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม “พี่คิดถึงน้องกับลูกๆ ใช่ไหมเด็กน้อย” “ท่านพ่อ อุ้มๆ” เด็กน้อยชูแขนให้เจี้ยนหยีอุ้มเขาไม่รอช้าที่จะอุ้มลูกสาวขึ้นมาแนบอกและหอมแก้มซ้ายขวาจนซูฮวาหัวเราะอย่างชอบใจ “คิก คิก คิก”

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 28 ลูกชายของเรา

    หกเดือนหลังจากนั้นหลินเฟิงก็ได้ให้กำเนิดลูกชายฝาแฝดเจี้ยนหยีดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ตอนนี้ได้แต่นั่งมองลูกชายทั้งสองที่เพิ่งกินนมแล้วหลับไป “เจ้าจะให้ชื่อว่าอะไร” หานเจียเจิงถามลูกชายที่ดูเหมือนจะไม่ได้คิดชื่อนี้ไว้ “ข้ายังไม่ได้คิดเลยท่านพ่อ” เพราะมัวแต่เป็นห่วงหลินเฟิงไปหน่อยจึงไม่ได้คิดชื่อไว้ให้ลูกชายทั้งสอง “นั้นข้าจะให้ชื่อ พี่คนโตชื่อ จางซิงอี ส่วนคนเล็กชื่อ จางซีห่าวเจ้าว่าดีหรือไม่” หานเจียเจิงหันไปถามลูกชายที่พยักหน้ารับหน้าช่างน่าเกลียดน่าชังยิ่งนัก “ซิงอี แปลว่า คนดีและมีความสุข ส่วน ซีห่าว คือเหมือนฮีโร่ โตขึ้นมาให้เจ้าทั้งสองดูแลพ่อและแม่” “ขอบใจท่านพ่อมาก” “พี่สะใภ้ฟื้นแล้ว” จื่อรุ่ยรีบวิ่งมารายงานพี่ชายและท่านพ่อที่รออยู่หลังจากคลอดลูกหลินเฟิงก็สลบไปเพราะเสียเลือดมาก เจี้ยนหยีเมื่อได้ยินอย่างนั้นจึงรีบวิ่งไปหานาง “น้องหญิง น้องฟื้นแล้ว” เจี้ยนเข้ามานั่งข้างกายของนางตอนนี้สีหน้าของนางเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาเล็กน้อยหมอให้ต้มยากินจนกว่าจะแข็งแรง “น้องอยากเห็นหน้าลูกเหลือเกิน” ถึงแม้จะยังเจ็บปวดอยู่แต่ก็อย

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 27 นางมารร้าย

    “ข้าแค่มาเยี่ยมน้องสาวของข้า” ซูหรานมองไปที่หลินเฟิงที่ตอนนี้สวยยิ่งกว่าอะไร ในความคิดหลินเฟิงคงตากแดดจนตัวดำและดูผิวนางสิ ขาวเนียนไม่มีที่ติ “พี่หญิงมาหาข้ามีเรื่องอันใด” “เจ้าได้ดีแล้วไม่หันไปดูแลพ่อที่แก่ชราบ้างเลยหรือตอนนี้ทางบ้านมีหนี้สินไปหมด” ตอนนี้ซูหรานกำลังลำบากเพราะที่บ้านมีหนี้สินรัดตัวจากที่เคยมั่งมีตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว “แล้วตอนที่ไล่ข้าออกมาละพวกท่านคิดอะไรกัน เพราะตระกูลหานยากจนท่านจึงให้ข้าแต่งงานแทนและห้ามให้ข้ากลับไปเหยียบที่นั่น” ไม่รู้ว่าทำไมหลินเฟิงถึงมีความทรงจำนั้นภาพต่างๆ ฉายชัดเข้ามาจนหลินเฟิงเองก็แปลกใจ “เจ้ามันเนรคุณ” “หุบปากซะ! แล้วไสหัวออกไป” เจี้ยนหยีมองใบหน้าที่ซูบผอมของซูหรานครอบครัวเขารู้ดีว่านางนั้นร้ายกาจแค่ไหนและยังเคยมาทำร้ายท่านพ่อของเขาอีก “เจ้าคนชั้นต่ำ! กล้าไล่ข้าหรือ” “เจ้าด่าตัวเองหรือเปล่าดูสภาพเจ้าตอนนี้สิดูไม่ได้เลยคุณผู้สูงศักดิ์ทำไมถึงกลายมาเป็นสภาพนี้” หลินเฟิงไม่รู้เรื่องราวอะไรมากกว่าเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่แต่งงานออกเรือนมาก็ไม่เคยกลับไปพบหน้าท่านพ่อและพี่สาวอีกเลยแ

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 26 อาการแปลกๆ

    ยามเช้าในฤดูวสันต์ตอนนี้ใบไม้ต้นหญ้ากับดูแห้งแล้งเพราะใบไม้ได้ร่วงหล่นลงมากองอยู่เต็มพื้นไปหมดมองไปที่ภูเขาไกลๆ ก็ไม่น่าดูสักเท่าไร อ้วก! “น้องหญิงเป็นอะไร” เจี้ยนหยีได้ยินเสียงเหมือนคนอาเจียนจึงรีบลุกออกจากเตียงและรีบไปหาหลินเฟิงด้วยความห่วงใยไม่รู้ว่านางลุกออกไปจากเตียงตั้งแต่ช่วงเวลาใด “น้องหญิงเกิดอะไรขึ้น!” เจี้ยนหยีเห็นสภาพของนางแล้วจึงรีบเข้ามาดูอาการเพราะใบหน้าที่ซีดไม่มีเลือดฝาดยิ่งทำให้เขาร้อนรนไปหมด “น้องแค่อยากอาเจียน หาเปลือกส้มมาให้น้องหน่อย” ตอนนี้สิ่งที่อยากทำที่สุดคือได้ดมกลิ่นเปลือกส้มช่วงนี้นางมักจะเกลียดกลิ่นอาหารอยู่บ่อยครั้ง “มานั่งรอพี่” เจี้ยนหยีรีบไปหาเปลือกส้มมาให้นางทันทีเพราะกลัวว่านางจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้ “หรือว่าที่เราฝันจะเป็นความจริง” หลินเฟิงนึกคิดถึงเรื่องราวที่ฝันเมื่อคืนหรือว่าที่เด็กน้อยทั้งสองมาขออยู่ด้วยนางจะได้ลูกแฝดกัน “น้องหญิงพี่มาแล้ว” “ขอบคุณท่านพี่มากเจ้าค่ะ” หลินเฟิงหยิบเปลือกส้มขึ้นมาดมกลิ่นทำให้อาการอยากอาเจียนเวียนหัวเริ่มดีขึ้นมา และใช้มือลูบไปที่หน้าท้อ

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 25 เจี้ยนหยีคนคลั่งรัก

    “ท่านพี่อย่านะเจ้าคะ” หลินเฟิงร้องออกมาเมื่อเจี้ยนหยีเริ่มจะไม่นอนอยู่เฉยเฉยๆ มือไม้เลื้อยเหมือนกับเถาวัลย์ไม่มีผิด “พี่คิดถึงน้องหญิงมากขอให้พี่ได้ชื่นใจสักนิดเถอะพี่ทรมานเหลือเกิน” เจี้ยนหยีซุกใบหน้าเข้าไปที่ต้นคอของหลินเฟิงและเริ่มซุกไซร้ไปมาจนนางต้องหดคอหนีเพราะเริ่มจั๊กจี้ ข้างนอกอากาศช่างเย็นนักแต่ทำไมตอนนี้ร่างกายเริ่มร้อนร่มขึ้นมา “อื้อออ ท่านพี่ข้าต้องการท่าน” หลินเฟิงครางออกมาราวกับคนกำลังละเมอใบหน้าที่งดงามจ้องมองตากับเจี้ยนหยีอย่างลึกซึ้งมือบางโอบลำคอของเขาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเจี้ยนหยีจะหายไป “พี่ก็ต้องการน้องหญิง” เจี้ยนหยีสลัดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดสิ้นและจูบปากหลินเฟิงอย่างหิวกระหายมือหนาพยายามที่จะดึงกระชากเสื้อของนางออกจากตัว “อื้อออ อืม ดีเหลือเกินท่านพี่” หลินเฟิงครางออกมาเมื่อเจี้ยนหยีใช้มือกอบกุมกับหน้าอกของนางไว้ส่วนลิ้นหนาก็เลียเข้ากับยอดถันอย่างไม่เกรงกลัวเจ้าของ เจี้ยนหยีก้มตัวลงมาเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่ของสงวนของหลินเฟิงเขาใช้มือแหวกจนเห็นกับกลีบกุหลาบงามที่มีน้ำไหลเยิ้มออกมาอย่างน่าลิ้มลอง และก็ทำอย่างท

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 24 ข้าไม่ใช่นาง

    เจี้ยนหยีลืมตาขึ้นมาในยามเฉิน (07.00-08.59 น.) สายตาทอดมองไปที่หลินเฟิงที่ยังคงหลับใหลอยู่ข้างกายบนร่างกายมีรอยแดงจ้ำโผล่พ้นผ้าห่มออกมา ชายหนุ่มนึกคิดเรื่องที่ผ่านมาทำให้เขามั่นใจว่านางไม่ใช่หลินเฟิงคนเดิมนิสัยใจคอนางเปลี่ยนไปเป็นคนละคน หลินเฟิงผู้นี้ทำให้เจี้ยนหยีตกหลุมรักยิ่งนักแค่เห็นนางยืนคุยกับชายอื่นเขาก็ทนไม่ได้แล้ว “อื้อ!” หลินเฟิงลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่เมื่อยล้าเมื่อนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาก็พานจะร้องไห้ ไหนเจี้ยนหยีบอกว่ารังเกียจนางทำไมถึงทำเช่นนี้ “ตื่นแล้วเหรอน้องหญิง” หลินเฟิงหันไปมองที่ด้านหลังของนางพบว่าเจี้ยนหยีกำลังส่งยิ้มให้ทำให้หลินเฟิงรู้สึกขนลุกขึ้นมา เจี้ยนหยีเมาจนสมองไม่ปกติไปแล้ว “ภรรยาของข้าเป็นใบ้ไปแล้วหรือ” “เจ้ากินย่าลืมเขย่าขวดหรือไง” “น้องว่าอะไรพี่ฟังไม่เข้าใจ” เจี้ยนหยีทำหน้าสงสัยแต่นางก็ไม่ยอมตอบรับลุกออกจากเตียงจนเจี้ยนหยีถามออกมา “เรื่องเมื่อคืน...” “ท่านกับข้าก็ลืมมันไปเสียเถิด” หลินเฟิงไม่รอให้เจี้ยนหยีพูดนางจึงรีบตัดบทหลินเฟิงไม่ใช่นางเอกที่เสียความบริสุทธิ์แล้วต้องม

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 23 เรียกข้าว่าท่านพี่

    ร่างของเขาถึงแม้จะเสร็จไปแล้วแต่ยังกระแทกต่อได้อีกหลายครั้ง นางพยายามที่จะดันเขาแต่ก็ไร้ผลเพราะมันแทบจะไม่มีแรงเลยด้วยซ้ำ ความแข็งแกร่งของเข้ายังวิ่งเข้าออกอย่างไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นฤทธิ์ และแล้วเสียงครางจากปากเขาและพลิกตัวขึ้นนอนหงายโอบกอดนางเอาไว้ นางนอนหอบหายใจอย่างหนักหน่วง นางจ้องมองมาที่เจี้ยนหยีอย่างนิ่งๆก่อนจะเอ่ยปากถาม"เจ้าเมาแล้ว""ข้าเมาหรือ ข้ามีสติเจ้ากับข้าคือสามีภรรยา ร่วมหลับนอนกันคือเรื่องปกติ""เจ้าอยากนอนกับข้าหรือ""ข้า..""มิใช่ว่าข้านั้นทำให้เจ้าหึงหวงข้างหรอกนะ เจ้าถึงมีท่าทีเช่นนี้""เรียกข้าว่าท่านพี่""ข้าไม่อยากเรียกเช่นนั้น""ทำไมกัน""ข้าไม่อยากเรียกเช่นนั้น ข้าเคยเรียกเจ้าว่าเจ้าจะให้เรียกท่านพี่ได้อย่างไรกัน""เจ้าคือภรรยาของข้า เรียกท่านพี่ถึงจะถูก""คนยุคนี้แปลกเสียจริง""เจ้าว่าอันใดนะ ข้าฟังไม่ถนัด""ไม่มีอันใดข้าแค่จะบอกว่าเจ้า...""ท่านพี่""อ่า ท่านพี่ก็ได้""ข้าเหมือนบังคับเจ้า""ใช่ ท่านบังคับข้าให้เรียกท่านเช่นนั้น ข้าไม่อยากเรียกด้วยซ้ำไป" หลินเฟิงจับจ้องไปยังผู้เป็นสามีที่เอาแต่ใจตนเอง เวลาปกติเขาไม่เคยที่จะพูดมากเช่นนี้เลยสักครั้ง แต่ในเวลานี

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 22 เจ้าคือภรรยาของข้า

    ร่างสูงใหญ่ของเจี้ยนหยีเดินซวนเซไปตามแนวทางจับจ้องไปยังประตูบ้านของตน ร่างกายของเขาขยับตามความเคยชินที่ต้องกลับบ้านในทางนี้ ร่างกายของเขาเซไปมาแต่ก็สามารถพยุงตนเองให้ถึงประตูบ้านได้สำเร็จ เมื่อมาถึงเขาผลักประตูบ้านเข้าไป สายตาจับจ้องไปยังภรรยาของเขา แม้ว่านางจะเงียบขรึมไปบ้าง แต่นางก็หาใช่คนที่สงบเสงี่ยมเช่นสตรีทั่วไป ชอบเถียงเขาอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งนางใกล้ชิดกับคนอื่นเขายิ่งไม่พอใจมากขึ้นไปอีก ความหึงหวงก่อเกิดขึ้นมาภายในใจ ภรรยาผู้งดงามของเขานั้นกำลังนั่งพับผ้าโดยเพียงปรายตามองมาที่เขาเพียงนิดและไม่สนใจเขาอีก เขาพุ่งตรงไปหานางอย่างรวดเร็วก่อนที่จะดึงนางเขาห้องในทันที"เจ้าจะทำอันใด เจ้าเมามากแล้วอย่าทำเช่นนี้เลย""เจ้าจะดื้อกับข้าทำไมกันกับคนอื่นเจ้าไม่เห็นจะเป็นเช่นนี้เลยสักนิด""เจ้าหมายความว่าอย่างไร ข้ากับใครเจ้าพูดมาให้ดี ข้าไหนเลยจะไปทำเช่นนี้กับคนอื่น เจ้ากล้าใส่ความข้าหรือ!'"เจ้ากับคนผู้นั้นสนิทกันถึงขั้นใกล้ชิดกันเพียงนั้นเลยหรือ เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าคือสามี!""แล้วเจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าคือภรรยาเจ้า!! อื้อออ!!!"เขาอดทนไม่ไหวปากเล็กๆ นั้นเอาแต่เถียงเขาอยู่อย่างนั้นจนเขาหม

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 22 อาชีพหมอที่รัก

    หลินเฟิงเดินเข้ามาในหมูบ้านพร้อมกับหวังจิ้งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านหลังเก่าเล็กท้ายหมูบ้านได้ยินเสียงร้องไห้ปานจะขาดใจของหญิงชรา“ท่านยายท่านเป็นอะไร” หลินเฟิงเดินเข้าไปใกล้เห็นยายเฒ่ากำลังนั่งกอดร่างของเด็กชายคนหนึ่งไว้“หลานของข้าป่วยกำลังจะสิ้นใจ ช่วยหลานข้าด้วย” ยายเฒ่าร้องไห้ออกมาอีกรอบ“ท่านยาย” หลินเฟิงจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ และจับมือเพื่อดูชีพจรของเด็กชายผู้นั้น ในเมื่อนางเป็นหมอต้องรักษาชีวิตคนได้จะมาทำตัวไร้ค่าแบบนี้ได้อย่างไร“ข้ามีกันแค่สองคน ท่านโปรดเมตตา” ยายเฒ่าอ้อนวอนขอให้หลินเฟิงช่วย“หลานของท่านยายอาการเป็นอย่างไร” หลินเฟิงไม่รอช้าที่จะถามไถ่อาการ หากพูดตามภาษาบ้านเกิดก็คงป่วยเป็นไข่ป่าสมัยนั้นเครื่องมือแพทย์ทันสมัยแต่ในยุคนี้หลินเฟิงเองก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าจะรักษาได้หรือไม่“หลานของข้าป่วยมาหลายวันแล้วอาการไม่สู้ดีเลย”“อาจึ้ง เตรียมขิง ไผ่หยก ชะเอมเทศ เปลือกรากโบตั๋น” หลินเฟิงให้หวังจึ้งเตรียมสมุนไพรที่ต้องการให้พร้อม“เราไม่มีอะไรติดตัวมาเลขอรับ”“บ้านข้ามี”หลินเฟิงไม่รอช้าที่จะเตรียมทุกอย่างให้พร้อมนางหยิบจับทุกอย่างจนดูคล่องแคล่วไปหมดแม่แต่หวังจึ้งยังสงสัยว่าหลินเฟ

Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status