“พี่เมฆจ๋า... ขวัญเจ็บตรงนี้จัง ช่วยดูให้ขวัญหน่อย ขวัญยิ่งแหย่มันก็ยิ่งเจ็บ ซี้ด... พี่เมฆ...”
ดวงตาเชิญชวนตวัดมองลึกเข้าไปในแววกร้าวของคนที่กำลังตะลึงมองเธอ ก่อนจะตวัดไล่ต่ำลงไปตามลอนหน้าท้องที่ผลุบหายเข้าไปในปมผ้าขาวม้าที่ขมวดกันเอาไว้ และเมฆที่ก้าวเข้ามาใกล้ดั่งคนละเมอก็ทำให้เธอได้กลิ่นสบู่ราคาสมฐานะเพราะเมฆเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ และมันก็หอมเสียจนเธออยากจะเข้าไปดอมดมให้ใกล้ๆ อยากรู้นักว่าไอ้ตัวใหญ่ที่แข็งเป็นลำโด่อยู่ในผ้าขาวม้านั้นจะมีกลิ่นสบู่ติดอยู่บ้างหรือเปล่า
“ดูสิจ๊ะ มันเจ็บ เจ็บจนแดงไปหมดแล้ว”
ดอกไม้ฉ่ำน้ำที่ถูกขวัญใจใช้นิ้วน้อยๆ แยกกลีบดอกออกจากกันจนกว้าง ทำให้เมฆต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เพราะยากที่จะขับไล่ความอยากให้ออกไปจากตัว เมื่อไอ้ลูกชายตัวโตปวดหนึบและผงกหัวหงึกๆ ว่าพร้อมเต็มที่ มันกำลังเร่งเร้าและสั่งให้เขาทำแบบนี้ ทั้งที่เมื่อครู่เพิ่งจะพ่นพิษไปแท้ๆ
“พี่เมฆแตะดูสิจ๊ะ ขวัญไม่รู้ว่าทำไมมันถึงได้เจ็บๆ แสบๆ เสียวและก็คันแบบนี้ ซี้ด... มันคันจนขวัญอยากได้อะไรมากระทุ้งให้มันหายคันจ้ะ ซี้ด... พี่เมฆจ๋า... ลองแตะดูสิจ้ะ ใช้ลิ้นสิจ๊ะ อูย... ขวัญอยากให้พี่เมฆทำให้มันหายเจ็บ ซี้ด... โอย... พี่เมฆจ๋า...”
และขวัญใจก็ต้องร้องโอยยาวๆ เพราะดอกไม้เบ่งบานเข้าไปอยู่ในปากของเมฆเรียบร้อย และคนสวนคนใหม่ที่ทั้งกล้ามใหญ่และแข็งแรงสุดๆ ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ขุดเจาะเซาะแซะร่องดินในสวนดอกไม้ทันที
“โอย... พี่เมฆจ๋า... อูย... ซี้ด... โอว... ดีอะไรอย่างนี้ เก่งจัง โอว... พี่จ๋า... ขวัญชอบ พี่เมฆจ๋า... อูย... เก่งจังเลย...”
ขวัญใจแหงนหน้ามองฝ้าเพดานร่ำร้องพร้อมแอ่นสะโพกลอยขึ้นไม่ติดอ่าง แต่ไปอยู่ในฝ่ามือของเมฆที่ช้อนให้ก้นเธอลอยขึ้นเพื่อที่จะขุดเอาหยาดน้ำฉ่ำเยิ้มออกมาให้มากที่สุด
ยิ่งกินก็ยิ่งอร่อย ยิ่งแหย่ก็ยิ่งมันลิ้น ยิ่งล้วงก็ยิ่งแข็งไปทั้งลำ และท่อนเอ็นที่กระตุกติดๆ กันอยู่หลายครั้งก็เป็นสัญญาณให้เมฆเริ่มต้นสักที ใบหน้าจึงละออกท่ามกลางเสียงร้องด้วยความขัดใจของขวัญใจที่ใกล้จะไปถึงสวรรค์อยู่รอมร่อ
“พี่เมฆ! ทำไมล่ะ ซี้ด... ขวัญยังไม่ได้เลย อื้อ...”
“พี่ต้องไปหาน้าพิศในครัว สักรอบนึงก่อนนะ พี่รับประกันจะทำให้น้องขวัญได้ แล้วคืนนี้พี่จะเลียให้เกลี้ยง ซี้ด... นะน้องขวัญ นะ...”
เมฆไม่รอให้ขวัญใจตอบรับหรือปฏิเสธเพราะที่พูดที่ถามก็เพื่อประวิงเวลาที่จะเคลื่อนตัวจากนั่งคุกเข่ามาเป็นยืนประจัญหน้าเท่านั้น และร่องสาวอวบอูมที่อ้าออกกว้างจนมองเห็นพื้นที่ด้านในสีแดงหยาดเยิ้มทั้งจากน้ำลายของเขาเองและจากน้ำหยาดเยิ้มของขวัญใจ นั่นก็เพียงพอแล้วที่เมฆจะพาไอ้ลูกชายตัวโตลงไปจ้วงแทงให้ขวัญใจต้องครางระงม
และก็คาดไม่ผิด แค่หัวบานร่าปักลงไป ขวัญใจก็กรีดร้องจนต้องขบกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อเก็บกั้นเสียงนั้นไว้ เพราะไม่อย่างนั้นคงได้เรียกทั้งน้าพิศน้ามิ่ง และอาจรวมถึงคุณนายชวนชมให้มาดูเมฆเล่นปาหี่กับเธอแน่
“โอว... พี่เมฆจ๋า... อูย... อูย... โอว... โอว... ซี้ด... โอว... โอย... ซี้ด... อูย... พี่เมฆจ๋า... อูย... ทำไมใหญ่อย่างนี้ โอว... โอย... มันคับ โอว... ซี้ด... โอย... เสียว... พี่เมฆจ๋า... ขวัญเสียว...”
เสียงขวัญใจที่ร่ำร้องเรียกชื่อเขาสลับกับซู้ดซี้ดริมฝีปากพร้อมร้องโอดโอยยังไม่เท่าเสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ถูกกั้นกลางด้วยน้ำหยาดเยิ้มจนดังฉ่ำแฉะ
แฉะ แฉะ แฉะ...
จังหวะรัวเร็วหนักแน่นและรุนแรงด้วยความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อต้นขาที่ยืนมั่น และกล้ามเนื้อสะโพกสอบที่กดกระหน่ำเข้าใส่ แต่ทั้งหมดนั้นก็ยังไม่แข็งเท่าไอ้ลูกชายตัวโตของเขาที่มันพุ่งทะยานไปข้างหน้า จ้วงแทง ชอนไชส่วนหัวเพื่อแหวกกล้ามเนื้อยืดหยุ่นของขวัญใจเข้าไปข้างในให้ได้ และทุกจังหวะหนักแน่นที่มันพุ่งแทรก ขวัญใจก็ต้องกรีดร้องและผวาแอ่นสะโพกโยกเข้าใส่มันไม่ลดละเช่นเดียวกัน
“อูย... พี่เมฆจ๋า... เก่งที่สุด พี่ต้องเอาขวัญทุกวันนะจ๊ะ ขวัญเป็นเมียพี่เมฆแล้วนะจ๊ะ อูย... ผัวขา... ผัวเก่งที่สุดในโลก อูย... ผัวขา... เมียเสียว... อึ๊ย... อื้อ... ผัวขา... อ๊าย... ผัวขาแรงอีก อูย... เสียว... ผัวขา... เมียเสียว... โอย... ซี้ด... โอย... ซี้ด...”
เมฆยิ้มทั้งที่เหงื่อโทรมกายเพราะจู่ๆ เขาก็มีเมียอย่างไม่ทันตั้งตัว เด็กสาวใบหน้าธรรมดาทว่าอวบอิ่มไปทั้งเนื้อทั้งตัวนี้ เขาเห็นโพรงฉ่ำน้ำของเธอชัดเสียกว่าเห็นใบหน้านี้ซะอีก นี่เป็นครั้งแรกและคงมีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่โชคดีอย่างไม่น่าเชื่อ จู่ๆ ไอ้ลูกชายตัวโตก็ได้ปลดปล่อยกับโพรงชุ่มฉ่ำของจริง ทั้งที่เมื่อกี้มันเพิ่งคิดถึงโพรงในจินตนาการมาแท้ๆ แต่เขาจะมัวมาเสียเวลาไม่ได้ เขาต้องเร่ง เพราะหน้าที่ในวันแรกกำลังรอคอยเขาอยู่ หน้าที่ของคนสวนคนใหม่
ท่อนเนื้อขนาดมหึมาและแข็งแรงจัดเพราะทำงานมาตั้งแต่เด็กจึงกระหน่ำใส่โพรงชุ่มฉ่ำของขวัญใจอย่างไม่ต้องยั้ง เพราะเด็กสาวคนนี้ก็ร้อนแรงแบบหยุดไม่อยู่จริงๆ เพราะถ้าเธอไม่ร้อนและร่านได้มากขนาดนี้ เขาเองก็คงไม่มีหวังที่จะได้มากระทุ้งแปลงดอกไม้ของเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกันหรอก และสาวน้อยขวัญใจก็ตอกย้ำความคิดของเขาเมื่อฝ่ามือที่ยันอ่างปูนไว้นั้นขยับขึ้นมาคล้องรอบลำคอของเขาก่อนจะโหนร่างอวบอิ่มขึ้นมาแนบชิดเป็นสัญญาณให้เขาเปลี่ยนท่วงท่าให้มันยิ่งล้ำลึกและแนบแน่นมากขึ้น แน่นอนว่าแค่เขากระชับร่างอวบขึ้นอุ้มพร้อมกับเขย่าสะโพกของขวัญใจขึ้นลง เธอก็พร้อมที่จะโหนตัวเองโยกขึ้นโยกลงเป็นแตงใบใหญ่ให้ลิงอย่างเขาอุ้มเดิน “โอว... ซี้ด... โอว... พี่เมฆจ๋า... ซี้ด... โอย... ดีจังเลย ดีจัง ซี้ด... โอย... ผัวขา... โอย... ผัวเก่ง ซี้ด... อร่อย... โอย... ผัวเก่ง ซี้ด... เยี่ยม... เยี่ยม... โอว... พี่เมฆจ๋า... ซี้ด... เสียว... เมียเสียว... เสียว... ซี้ด... เมียเสียว...” “ผัวก็เสียว... โอว... ซี้ด... อร่อยเหลือเกินเมียจ๋า... โอว... ซี้ด... เยี่ยม... โอว...” เมฆกัดกร
‘เมฆ’ หนุ่มบ้านนอกวัย 26 ปี เดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าของรั้วอัลลอยด์ขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่กำหนดอาณาเขตของบ้านคนรวย ใบหน้ากร้านไปด้วยแดดลมมีเหงื่อซึมออกมาตามขมับและแนวสันจมูก จนต้องใช้ผ้าขาวม้าที่พาดคอมาด้วยซับออก เพราะกว่า 8 ชั่วโมงที่เดินทางรอนแรมนั่งรถทัวร์มาลงที่หมอชิต ก่อนจะต่อรถเมล์มาลงที่ปากซอยและเดินมาถึงที่นี่ ก็ทำเอาหอบเหมือนกัน เมื่อเช็ดเหงื่อจนหมาดและคิดว่าหน้าตาของตัวเองคงพอดูสะอาดสะอ้านมากพอที่จะเข้าไปสู่ด้านใน ดวงตาโชนแสงของเมฆก็มองลอดผ่านช่องว่างระหว่างรั้วเข้าไปด้านใน ที่เห็นนั้นคือบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ในรูปทรงยุโรปที่ตั้งอยู่ตรงกลางของพื้นที่ ขนาบข้างไปด้วยสวนกว้างใหญ่ซึ่งโอบรอบโดยรั้วอลังการบ่งบอกถึงฐานะของท่านเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะจากสายตาคาดคะเน อาณาเขตนี้คงกว้างกว่า 2 ไร่ เมฆถอยหลังออกมามองดูตำแหน่งของกริ่ง แต่เมื่อคิดอีกทีคงไม่เหมาะสมที่เขาจะทำให้เกิดเสียงในเวลาเช้าตรู่อย่างนี้ สายตาจึงมองลอดเข้าไประหว่างรั้วอีกครั้งเพื่อหวังจะแจ้งใครสักคนที่ผ่านมาว่าเขามาถึงแล้ว และเขาก็พร้อมแล้วสำหรับการเริ่มงานในวันแรก เพียงก้าว
“อยู่ได้มั้ยเมฆ ข้าวของเครื่องใช้พวกนั้นก็เป็นของเก่าของพ่อเรานั่นแหละ ลองดูก่อนละกันว่าอันไหนใช้ได้บ้าง ถ้าอะไรไม่พอก็ไปบอกน้า หรือจะบอกนังขวัญมันก็ได้ ให้มันหาให้ อีกเดี๋ยวก็คงมาแล้วล่ะ” “เดี๋ยวฉันดูก่อนจ้ะ ฉันขอบคุณน้าพิศมากๆ เลยนะจ๊ะ” “ไม่เป็นไร อยู่ที่นี่เจ้านายท่านใจดี ทั้งท่านทั้งคุณนายก็ดีกับคนงานทุกคน ขอเพียงเอ็งซื่อสัตย์เท่านั้น มีอะไรท่านก็ช่วยทุกอย่าง เอาล่ะมาเหนื่อยๆ อาบน้ำอาบท่าซะก่อน เดี๋ยวน้าจะไปเตรียมกับข้าวให้ ออกไปนี่เลี้ยวซ้ายก็เจอห้องครัวนะ” เมฆรับคำพลางพนมมือไหว้พิศอีกครั้ง ก่อนจะสำรวจตรวจตราห้องหับที่พ่อเคยอยู่ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อมากนัก เพราะไปช่วยงานที่บ้านลุงซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนพ่อก็ทำงานอยู่ที่นี่ และจะส่งเงินกลับไปให้แม่ใช้สอยได้ไม่ขาดมือ ทุกครั้งที่พ่อกลับไปเยี่ยมบ้าน หากมีโอกาสได้เจอกัน พ่อก็มักจะเอ่ยชมท่านเจ้าของบ้านให้ฟังอยู่เสมอ แต่ก็ไม่คิดว่าพ่อจะทำบุญมาเพียงเท่านี้ เขาหวังเพียงว่าการตัดสินใจมาทำงานแทนหน้าที่ของพ่อ จะทำให้เขาโชคดีมีความสุขกับหน้าที่การงาน และท่านกับคุณนายก็คงจะเมตต
ขันน้ำจึงถูกทิ้งให้ล่องลอยอยู่ในอ่างปูนสูงเท่าเอว ฝ่ามือข้างหนึ่งจะวางทาบไปที่ขอบอ่างเพื่อยึดให้ร่างกายตั้งมั่น ส่วนอีกข้างก็คว้าหมับไปตามความต้องการ พร้อมๆ กับปล่อยกายปล่อยใจให้ล่องลอยไปตามฝ่ามือที่สาวเจ้าลูกชายตัวใหญ่ให้รูดเข้ารูดออกตามอารมณ์ดิบเถื่อนที่มันอยากจนอดใจไว้ไม่ไหวอีกแล้ว และในความคิดนั้นมันคือตัวเขากำลังซอยบั้นท้ายกระแทกใส่ความงดงามอ่อนหวานของเธอคนนั้น รอยยิ้มอย่างเชิญชวนพร้อมสายตาและน้ำเสียงหวานๆ ที่เรียกเขา ‘เมฆจ๊ะ แรงๆ สิจ๊ะ แรงอีก ซี้ด... แรงอีก ใส่เข้ามาให้มิดเลยจ้ะ ใส่เข้ามาให้มิด โอย... ซี้ด... เมฆจ๋า... แรงกว่านี้อีก โอว... ซี้ด... แรงอีก แรงอีก! ฉันชอบแรงๆ โอว... ซี้ด...’ “อูย... คุณนายครับ... อูย... คุณนายใจดีกับไอ้เมฆเหลือเกิน อูย... โอย... อูย... โอย... อูย... โอย...” ใบหน้าคมคร้ามกร้านแดดกร้านลมแหงนมองขึ้นสูง ดวงตาลอยคว้างเมื่อไอ้ลูกชายคายพิษออกมาอย่างแรง จังหวะกระตุกเฮือกมาพร้อมๆ กับแรงดันพวยพุ่ง จนหยาดน้ำขุ่นคลักพุ่งกระเด็นไปติดอยู่ที่ขอบปูนของอ่าง เพียงแค่นั้นเมฆก็ผ่อนลมหายใจออกเบาๆ เมื่อร่างกายราวล่องลอยอ
ท่อนเนื้อขนาดมหึมาและแข็งแรงจัดเพราะทำงานมาตั้งแต่เด็กจึงกระหน่ำใส่โพรงชุ่มฉ่ำของขวัญใจอย่างไม่ต้องยั้ง เพราะเด็กสาวคนนี้ก็ร้อนแรงแบบหยุดไม่อยู่จริงๆ เพราะถ้าเธอไม่ร้อนและร่านได้มากขนาดนี้ เขาเองก็คงไม่มีหวังที่จะได้มากระทุ้งแปลงดอกไม้ของเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกันหรอก และสาวน้อยขวัญใจก็ตอกย้ำความคิดของเขาเมื่อฝ่ามือที่ยันอ่างปูนไว้นั้นขยับขึ้นมาคล้องรอบลำคอของเขาก่อนจะโหนร่างอวบอิ่มขึ้นมาแนบชิดเป็นสัญญาณให้เขาเปลี่ยนท่วงท่าให้มันยิ่งล้ำลึกและแนบแน่นมากขึ้น แน่นอนว่าแค่เขากระชับร่างอวบขึ้นอุ้มพร้อมกับเขย่าสะโพกของขวัญใจขึ้นลง เธอก็พร้อมที่จะโหนตัวเองโยกขึ้นโยกลงเป็นแตงใบใหญ่ให้ลิงอย่างเขาอุ้มเดิน “โอว... ซี้ด... โอว... พี่เมฆจ๋า... ซี้ด... โอย... ดีจังเลย ดีจัง ซี้ด... โอย... ผัวขา... โอย... ผัวเก่ง ซี้ด... อร่อย... โอย... ผัวเก่ง ซี้ด... เยี่ยม... เยี่ยม... โอว... พี่เมฆจ๋า... ซี้ด... เสียว... เมียเสียว... เสียว... ซี้ด... เมียเสียว...” “ผัวก็เสียว... โอว... ซี้ด... อร่อยเหลือเกินเมียจ๋า... โอว... ซี้ด... เยี่ยม... โอว...” เมฆกัดกร
“พี่เมฆจ๋า... ขวัญเจ็บตรงนี้จัง ช่วยดูให้ขวัญหน่อย ขวัญยิ่งแหย่มันก็ยิ่งเจ็บ ซี้ด... พี่เมฆ...” ดวงตาเชิญชวนตวัดมองลึกเข้าไปในแววกร้าวของคนที่กำลังตะลึงมองเธอ ก่อนจะตวัดไล่ต่ำลงไปตามลอนหน้าท้องที่ผลุบหายเข้าไปในปมผ้าขาวม้าที่ขมวดกันเอาไว้ และเมฆที่ก้าวเข้ามาใกล้ดั่งคนละเมอก็ทำให้เธอได้กลิ่นสบู่ราคาสมฐานะเพราะเมฆเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ และมันก็หอมเสียจนเธออยากจะเข้าไปดอมดมให้ใกล้ๆ อยากรู้นักว่าไอ้ตัวใหญ่ที่แข็งเป็นลำโด่อยู่ในผ้าขาวม้านั้นจะมีกลิ่นสบู่ติดอยู่บ้างหรือเปล่า “ดูสิจ๊ะ มันเจ็บ เจ็บจนแดงไปหมดแล้ว” ดอกไม้ฉ่ำน้ำที่ถูกขวัญใจใช้นิ้วน้อยๆ แยกกลีบดอกออกจากกันจนกว้าง ทำให้เมฆต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เพราะยากที่จะขับไล่ความอยากให้ออกไปจากตัว เมื่อไอ้ลูกชายตัวโตปวดหนึบและผงกหัวหงึกๆ ว่าพร้อมเต็มที่ มันกำลังเร่งเร้าและสั่งให้เขาทำแบบนี้ ทั้งที่เมื่อครู่เพิ่งจะพ่นพิษไปแท้ๆ “พี่เมฆแตะดูสิจ๊ะ ขวัญไม่รู้ว่าทำไมมันถึงได้เจ็บๆ แสบๆ เสียวและก็คันแบบนี้ ซี้ด... มันคันจนขวัญอยากได้อะไรมากระทุ้งให้มันหายคันจ้ะ ซี้ด... พี่เมฆจ๋า... ลองแตะดูสิจ้ะ ใช้ลิ้นสิจ
ขันน้ำจึงถูกทิ้งให้ล่องลอยอยู่ในอ่างปูนสูงเท่าเอว ฝ่ามือข้างหนึ่งจะวางทาบไปที่ขอบอ่างเพื่อยึดให้ร่างกายตั้งมั่น ส่วนอีกข้างก็คว้าหมับไปตามความต้องการ พร้อมๆ กับปล่อยกายปล่อยใจให้ล่องลอยไปตามฝ่ามือที่สาวเจ้าลูกชายตัวใหญ่ให้รูดเข้ารูดออกตามอารมณ์ดิบเถื่อนที่มันอยากจนอดใจไว้ไม่ไหวอีกแล้ว และในความคิดนั้นมันคือตัวเขากำลังซอยบั้นท้ายกระแทกใส่ความงดงามอ่อนหวานของเธอคนนั้น รอยยิ้มอย่างเชิญชวนพร้อมสายตาและน้ำเสียงหวานๆ ที่เรียกเขา ‘เมฆจ๊ะ แรงๆ สิจ๊ะ แรงอีก ซี้ด... แรงอีก ใส่เข้ามาให้มิดเลยจ้ะ ใส่เข้ามาให้มิด โอย... ซี้ด... เมฆจ๋า... แรงกว่านี้อีก โอว... ซี้ด... แรงอีก แรงอีก! ฉันชอบแรงๆ โอว... ซี้ด...’ “อูย... คุณนายครับ... อูย... คุณนายใจดีกับไอ้เมฆเหลือเกิน อูย... โอย... อูย... โอย... อูย... โอย...” ใบหน้าคมคร้ามกร้านแดดกร้านลมแหงนมองขึ้นสูง ดวงตาลอยคว้างเมื่อไอ้ลูกชายคายพิษออกมาอย่างแรง จังหวะกระตุกเฮือกมาพร้อมๆ กับแรงดันพวยพุ่ง จนหยาดน้ำขุ่นคลักพุ่งกระเด็นไปติดอยู่ที่ขอบปูนของอ่าง เพียงแค่นั้นเมฆก็ผ่อนลมหายใจออกเบาๆ เมื่อร่างกายราวล่องลอยอ
“อยู่ได้มั้ยเมฆ ข้าวของเครื่องใช้พวกนั้นก็เป็นของเก่าของพ่อเรานั่นแหละ ลองดูก่อนละกันว่าอันไหนใช้ได้บ้าง ถ้าอะไรไม่พอก็ไปบอกน้า หรือจะบอกนังขวัญมันก็ได้ ให้มันหาให้ อีกเดี๋ยวก็คงมาแล้วล่ะ” “เดี๋ยวฉันดูก่อนจ้ะ ฉันขอบคุณน้าพิศมากๆ เลยนะจ๊ะ” “ไม่เป็นไร อยู่ที่นี่เจ้านายท่านใจดี ทั้งท่านทั้งคุณนายก็ดีกับคนงานทุกคน ขอเพียงเอ็งซื่อสัตย์เท่านั้น มีอะไรท่านก็ช่วยทุกอย่าง เอาล่ะมาเหนื่อยๆ อาบน้ำอาบท่าซะก่อน เดี๋ยวน้าจะไปเตรียมกับข้าวให้ ออกไปนี่เลี้ยวซ้ายก็เจอห้องครัวนะ” เมฆรับคำพลางพนมมือไหว้พิศอีกครั้ง ก่อนจะสำรวจตรวจตราห้องหับที่พ่อเคยอยู่ เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อมากนัก เพราะไปช่วยงานที่บ้านลุงซึ่งเป็นอู่ซ่อมรถตั้งแต่ยังเด็ก ส่วนพ่อก็ทำงานอยู่ที่นี่ และจะส่งเงินกลับไปให้แม่ใช้สอยได้ไม่ขาดมือ ทุกครั้งที่พ่อกลับไปเยี่ยมบ้าน หากมีโอกาสได้เจอกัน พ่อก็มักจะเอ่ยชมท่านเจ้าของบ้านให้ฟังอยู่เสมอ แต่ก็ไม่คิดว่าพ่อจะทำบุญมาเพียงเท่านี้ เขาหวังเพียงว่าการตัดสินใจมาทำงานแทนหน้าที่ของพ่อ จะทำให้เขาโชคดีมีความสุขกับหน้าที่การงาน และท่านกับคุณนายก็คงจะเมตต
‘เมฆ’ หนุ่มบ้านนอกวัย 26 ปี เดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าของรั้วอัลลอยด์ขนาดใหญ่ซึ่งทำหน้าที่กำหนดอาณาเขตของบ้านคนรวย ใบหน้ากร้านไปด้วยแดดลมมีเหงื่อซึมออกมาตามขมับและแนวสันจมูก จนต้องใช้ผ้าขาวม้าที่พาดคอมาด้วยซับออก เพราะกว่า 8 ชั่วโมงที่เดินทางรอนแรมนั่งรถทัวร์มาลงที่หมอชิต ก่อนจะต่อรถเมล์มาลงที่ปากซอยและเดินมาถึงที่นี่ ก็ทำเอาหอบเหมือนกัน เมื่อเช็ดเหงื่อจนหมาดและคิดว่าหน้าตาของตัวเองคงพอดูสะอาดสะอ้านมากพอที่จะเข้าไปสู่ด้านใน ดวงตาโชนแสงของเมฆก็มองลอดผ่านช่องว่างระหว่างรั้วเข้าไปด้านใน ที่เห็นนั้นคือบ้านเดี่ยว 2 ชั้นขนาดใหญ่ในรูปทรงยุโรปที่ตั้งอยู่ตรงกลางของพื้นที่ ขนาบข้างไปด้วยสวนกว้างใหญ่ซึ่งโอบรอบโดยรั้วอลังการบ่งบอกถึงฐานะของท่านเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะจากสายตาคาดคะเน อาณาเขตนี้คงกว้างกว่า 2 ไร่ เมฆถอยหลังออกมามองดูตำแหน่งของกริ่ง แต่เมื่อคิดอีกทีคงไม่เหมาะสมที่เขาจะทำให้เกิดเสียงในเวลาเช้าตรู่อย่างนี้ สายตาจึงมองลอดเข้าไประหว่างรั้วอีกครั้งเพื่อหวังจะแจ้งใครสักคนที่ผ่านมาว่าเขามาถึงแล้ว และเขาก็พร้อมแล้วสำหรับการเริ่มงานในวันแรก เพียงก้าว