ซาร่าโกรธมากเธอไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่ง ร็อดนีย์ตัวสํารองของเธอจะง่วนประชุมจนลืมเธอ ในอดีตเธออยู่ในใจเขาเสมอ และตราบใดที่เธอเรียกหาก็คือคำไหนคำนั้น เขาจะมาโดยเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ไม่ว่าเขาจะยุ่งหรืออยู่ไกลแค่ไหนก็ตามนับประสาอะไรที่ปล่อยให้เธอทนอยู่โดดเดี่ยวในตอนเย็นเพราะนังเฟรยา ลินช์คนเดียวแต่เธอไม่สามารถพูดแบบนั้นได้ ดังนั้นทั้งหมดที่เธอทําได้คือแสร้งทําเป็นสุภาพและใจกว้าง “ไม่เป็นไรค่ะ การพูดคุยกับเฟรยาเป็นอย่างไรบ้างคะ?”“การเจรจาเรียบร้อยแล้ว แต่เธอขอหุ้นของโอเชอร์คอร์ปอเรชั่น 10 เปอร์เซ็นต์” ร็อดนีย์กล่าวอย่างหมดแรง “ดังนั้นผมจึงกลับไปที่บริษัทเพื่อหารือกับผู้บริหาร ทุกคนคิดว่าแผนนี้เหมาะสมเป็นไปได้ ถ้าเราสามารถผูกมัดเฟรยา ลินช์ ไว้กับโอเชอร์ได้มันก็คุ้มค่า”"10 เปอร์เซ็นต์?" ซาร่าห์ทนไม่ไหวขึ้นเสียงสูง “นั่นมันปล้นกันหน้าด้าน ๆ ว่าแต่พวกคุณตกลงงั้นเหรอ?”“ก็ไม่มีทางเลือกอื่น อย่างไรก็ตามหลังจากที่บริษัทของเราบรรจุบรรดาผลิตภัณฑ์ใหม่ต่าง ๆ ออกไป ผมเชื่อว่ามูลค่าตลาดของโอเชอร์จะเพิ่มขึ้น”ซาร่าอยากเรียกร็อดนีย์ว่าไอ้หมูโง่จริง ๆแต่เธอทําได้เพียงรั้งตัวเองไว้ในขณะที่ในใ
“บ้า ไม่มีทาง ฉันแค่คร่ำครวญไปงั้นเอง ที่จริงซาร่าก็มีชีวิตที่ดีแต่เธอไม่รู้ว่าจะทะนุถนอมมันยังไง ฉันพูดตามตรงอาหารฝีมือร็อดนีย์นั้นสุดยอดจริง ๆ สเต็กและเทมปุระของเขาอร่อยที่สุด” ปากของเฟรยาชุ่มฉ่ำขณะเธอคิดถึงมัน“งั้นเขาก็ไม่ไร้ประโยชน์ไปซะทีเดียว เดี๋ยวนี้มีผู้ชายน้อยคนมาก ๆ ที่ทําอาหารเป็น ต่างจากฌอน...” สีหน้าของแคทเธอรีนน่ากลัว “เขาแค่อยากกินอาหารฝีมือฉันทั้งวัน ฉันไม่อยากได้ใจผู้ชายด้วยทักษะทําอาหารของฉัน ฉันก็อยากให้ผู้ชายทําอาหารให้ฉันด้วยสักวัน”"เวสลีย์ไงล่ะ" เฟรยาขยิบตาแคทเธอรีนเงียบไปทันใด ทุกวันนี้เวสลีย์ไม่ได้ติดต่อกับเธอเลยเพราะแผนของเธอ เธอเป็นหนี้เวสลีย์มากเหลือเกินกินไปได้ครึ่งทาง ฌอนก็โทรมา “ผมทานมื้อเย็นเสร็จแล้วล่ะ คุณอยู่ไหน?"แคทเธอรีนมองดูเวลา เพิ่งหนึ่งทุ่มเอง "เร็วจังเลยคะ?""ครับ ผมเพิ่งทานมื้อเย็นกับกลุ่มหัวหน้ามา ตอนนี้ออกไปกันแล้ว ผมบอกให้เฮดลีย์พาพวกเขาไปสนุกกัน”“ฉันออกมากินข้าวกับเฟรยาค่ะ คุณตรงกลับไปก่อนก็ได้นะคะ” แคทเธอรีนตอบเนือย ๆสีหน้าของฌอนเข้มขึ้นมาทันที “ผมอยากอยู่กับคุณ แต่คุณแค่อยากอยู่กับเพื่อนผู้หญิงอีกคนเหรอ?”“ฉันมีชีวิตด้านอื
ไม่นาน พวกเธอถูกชายทั้งสี่คนจับขึงไว้บนเตียงอย่างรวดเร็ว“เจ้านายคนนี้คือเฟรยา ลินช์” ชายคนหนึ่งดึงรูปถ่ายออกมาและชี้ไปที่เฟรยา"ใช่แล้ว พาเธอไป" ชายที่มีสร้อยโซ่ทองหนาโบกมือ จากนั้นเขาจ้องไปที่แคทเธอรีน “พวกแกไปเลย ฉันจะอยู่นี่ทำอะไรสนุก ๆ ก่อน” “พี่ชาย ฉันก็อยากสนุกเหมือนกัน” คนหนุ่มกว่าที่อยู่ด้านข้างเลียริมฝีปากของเขาขณะจ้องไปที่เฟรยา “เขาไม่ได้บอกว่าห้ามเราแตะต้องเธอ”"เออจริงด้วยว่ะ""ไอ้สารเลว" แคทเธอรีนและเฟรยา ตกใจกลัวมากเมื่อเห็นพวกผู้ชายจู่โจมเข้ามากระชากเสื้อผ้าพวกเธอในขณะนั้นเองประตูถูกเตะเข้ามาฌอนโผล่พรวดเข้ามา เมื่อเขาเห็นเสื้อผ้าของแคทเธอรีนถูกฉีกจนขาดเป็นสองท่อน ดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและเย็นเยียบขึ้นมาทันที "แกกล้าดียังไงถึงมาแตะต้องเธอ""ใคร... แกเป็นใคร?" อันธพาลทั้งสี่ตกใจกับออร่าที่น่าสะพรึงกลัวของเขา"ฉันคือคนที่จะฆ่าแกคืนนี้" ฌอนตรงเข้าทุบตีคนพวกนั้นทันทีจนล้มลงนอนกองและถึงกับขาหักหลังรบจนชนะ เขาก็รีบถอดเสื้อผ้าของเขาออกมาพันรอบตัวแคทเธอรีนไว้ เมื่อเขาเห็นรอยแดงบนผิวขาวน้ำนมของเธอ เขาก็หันกลับไปด้วยความโกรธและหักมือพวกมันเข้าให้อีก“พี่ชายปล
แคทเธอรีนไม่เข้าใจแต่ก็ขำ เธอบอกฌอนว่า “คุณไม่จําเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น ฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยหรอกค่ะ”ฌอนจ้องเธอ “ก็ผมทนแตะต้องผู้หญิงอื่นไม่ได้ยกเว้นคุณคนเดียวเท่านั้น”ใบหน้าของแคทเธอรีนแดงระเรื่อและหัวใจของเธอก็เต้นผิดจังหวะขึ้นมาทันทีถึงแม้เฟรยาผู้น่าสงสารไม่ได้เห็นท่าทางของพวกเขา แต่จู่ ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนเป็นพยานเห็นพวกเขาแสดงความรักต่อสาธารณะเธอรู้สึกเศร้า เห็นชัดว่าแคทเธอรีนมีแผนดำเนินการแก้แค้นอยู่ในมือ แต่ในฐานะผู้ดูทําไมเธอถึงรู้สึกเหมือนพวกเขาอยู่ในซีรีส์คนดังคลั่งรัก?เมื่อเปิดประตูรถแล้ว เฟรยาถูกโยนลงบนเบาะหลังอย่างไร้ความปราณี ส่วนแคทเธอรีนนั้นเขาค่อย ๆ วางลงในที่นั่งผู้โดยสารพร้อมคาดเข็มขัดนิรภัยระหว่างทางฌอนโทรหาเฮดลีย์ “พาคนมาปิดล้อมร้านเสริมสวยเอาไว้ เรียกตํารวจและนักข่าวมาด้วย ฉันมีสกู๊ปอื้อฉาวสําหรับพวกเขา ฉันต้องการให้เอริค แฮทช์จาก SE Group ถูกทําลายภายในวันเดียว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครที่เชื่อมโยงกับร้านเสริมสวยในวันนี้หลุดรอดไปได้”"เข้าใจแล้วครับ"เฮดลีย์ซึ่งออกเดตอยู่กับสาวไม่มีทางเลือกนอกจากออกไปทํางานล่วงเวลาในยามค่ำคืนในรถ ใบหน้าหล่อเหลาของฌ
ร็อดนีย์ไม่รู้จะพูดอะไร“บ้าชิบ ฉันทำกรรมไว้กับคุณเมื่อชาติก่อนหรือไง?” เฟรยาไม่สามารถยั้งและสาปแช่งด้วยเสียงเข้ม “คุณคงทำฉันตายสักวัน”"พวกเขาทําอะไรคุณ?" ร็อดนีย์ยิ่งไม่สบายใจเฟรยากําลังจะพูดแต่แล้วมือใหญ่ ๆ ก็มาฉกโทรศัพท์ของเธอไปฌอนกล่าวว่า “เธออยู่โรงพยาบาล มานี่เลยและส่งเธอกลับบ้านด้วย”"ฌอน..."“ข่าวเชิงลบเกี่ยวกับเอริค แฮทช์กำลังร้อนระอุ นายจะคว้าโอกาสนี้เพื่อกําจัดคู่แข่งก็ขึ้นอยู่กับนายเลย ยิ่งกว่านั้น นายควรให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนว่าหากนายมีคนที่มีประโยชน์สร้างความได้เปรียบให้กับบริษัทได้เป็นอย่างมาก นายควรเฝ้าระวังความปลอดภัยของพวกเขาด้วยล่ะ”ฌอนวางสายและโยนโทรศัพท์ใส่เฟรยาก่อนที่เขาจะหันกลับไปหาแคทเธอรีนอีกครั้ง20 นาทีต่อมา รายงานผลการตรวจเลือดก็ออกมาแพทย์ยืนยันว่าพวกเธอสบายดี แค่ต้องไปพักผ่อนให้เพียงพอเท่านั้น พวกเธอก็จะฟื้นคืนความแข็งแรงได้ในวันพรุ่งนี้เมื่อฌอนได้ยินอย่างนั้น เขาก็อุ้มแคทเธอรีนขึ้นมาทันที "พวกเรากําลังจะกลับ"แคทเธอรีนมองไปที่เฟรยาอย่างเป็นห่วง "แต่เธอ..."“ฉันอยู่ในโรงพยาบาล ฉันไม่เป็นไรหรอก คุณสองคนนำไปก่อนเลย ร็อดนีย์น่าจะมาเร็ว ๆ นี้แ
“หุบปากเถอะ ผมออกกําลังกายเยอะมาก โอเคไหม?” ร็อดนีย์เย้ยระหว่างทางกลับ เพลงเบา ๆ เล่นอยู่ในรถเนื่องจากกำยานที่เธอสูดดมไปก่อนหน้านี้ เฟรยาจึงไม่สามารถฝืนเปลือกตาเธอไว้ได้อีกเมื่อพวกเขามาถึงไบร์ทตันการ์เดนส์ ร็อดนีย์เปิดไฟและหันมาก็พบว่าเธอผล็อยหลับไปแล้ว ผมยาวหนาของเธอปกคลุมใบหน้าเธอครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งที่เหลือเผยให้เห็นผิวขาวผ่องเป็นประกายของเธอภายใต้แสง ปกติเธอมักจะปากจัดกัดเจ็บ แต่ในขณะนั้นเธอเหมือนลูกแมวอ่อนโยนและไม่เป็นอันตราย บอบบางและนุ่มนวลเขาลังเลก่อนที่จะหยิบผ้าห่มออกจากท้ายรถมาห่มคลุมให้เธอ จากนั้นเขาก็นั่งข้างหน้าเพื่ออ่านข่าวในโทรศัพท์เขา… สถาบันเฮกเกตต์ฌอนวางแคทเธอรีนที่กําลังหลับใหลบนเตียงขนาดใหญ่ในห้องนอนเธอเปิดเปลือกตาไม่ไหวและผล็อยหลับไประหว่างทางกลับหลังจากฌอนมองดูเธออย่างเงียบ ๆ สักพัก เขาก็หันไปยังอ่างน้ำและถอดเสื้อผ้าของเธออย่างเบามือ เมื่อเขาเห็นรอยแผลบนร่างกายเธอ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็ถอดสี แต่ยิ่งเขาเปลื้องผ้าเธอไปเรื่อย ๆ ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นแดงระเรื่อจนได้ทุกครั้งที่เขาอยู่กับเธอ เขาจะใจร้อนหุนหันพลันแล่น เขาไม่เคยมองเธออย่างละเอียดถี่
“ฉันไม่ได้...”แคทเธอรีนดิ้นรนอยู่นานแต่ก็ไม่หลุดซะที ตรงกันข้ามเธอกลับรู้สึกได้ว่าสายตาของชายคนนั้นร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆเธอคุ้นชินกับลำดับต่อไปของเหตุการณ์ และทันใดนั้นเธอก็ไม่กล้าหายใจ “ปล่อยฉันนะ อย่าทำอะไรด่วนได้เอาแต่ใจค่ะ”“ผมอยากจะทําอะไรด่วน ๆ ขึ้นมาจริง ๆ คุณอยากจะให้ผมรอไปอีกนานแค่ไหนกัน?” ฌอนพลิกตัวเธอ วงแขนที่แข็งแรงของเขาโอบข้างตัวเธอ ลมหายใจเร่าร้อนของเขาอยู่บนหน้าเธอ“คุณรอมานานแค่ไหนกันคะ? แค่ไม่กี่วันเอง” แคทเธอรีนหันหลังให้อย่างไม่ยอมรับ เธอลำบากใจจนไม่กล้าสบตาเขาอย่างไรก็ตามเธอไม่รู้ว่าท่าทางของเธอเผยให้เห็นคอที่เรียวสวยน่ามองของเธอ“แคธี่ เราเคยเป็นคู่แต่งงานกันนะ”ฌอนหันหน้าเธอมาจูบริมฝีปากสีแดงของเธอได้สำเร็จ"ไม่..."แคทเธอรีนขัดขืนอย่างไรก็ตามชายคนนั้นแข็งแกร่งมาก และเขารู้จักเธอเป็นอย่างดีเมื่อรู้จากยาเอลว่าเขาไม่เคยทําอะไรกับซาร่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอก็เลยเลิกจงเกลียดจงชังเขาแคทเธอรีนซึ่งตอนแรกตั้งใจจะลุกขึ้นถูกบังคับให้ละทิ้งความคิดนั้นเพราะเขา… ในขณะเดียวกันเมื่อเฟรยาลืมตาขึ้นหลังจากนอนหลับเต็มอิ่ม เธอพบว่าตัวเองนอนอยู่ที่เบาะหลังของ
ฌอนร้องซี๊ดอย่างเจ็บปวด แต่ดวงตาและน้ำเสียงขมขื่น "คุณยกย่องผู้ชายอื่น"แคทเธอรีนพูดไม่ออก “ฉันพูดอะไรผิดเหรอ? ฉันเคยคิดว่าร็อดนีย์ไม่มีอะไรดียกเว้นรูปลักษณ์ของเขา แต่กลับเป็นว่าเขาก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน”“เขาเคยตะคอกคุณมาก่อนนะ...” ฌอนกัดฟันและเตือนเธอ อะไรจะน่าหดหู่ไปกว่าการตื่นมาได้ยินผู้หญิงที่เขาชอบยกย่องผู้ชายอื่น?“แล้วคุณตะคอกฉันน้อยกว่าเขาเหรอ?” แคทเธอรีนเตือนเขา “คุณไม่ควรบอกว่าคนอื่นไม่ดี ไม่งั้นฉันจะหยิบยกเรื่องเก่า ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง”“...”ฌอนซุกใบหน้าหล่อเหลาที่คอเธอเงียบ ๆ "ที่รัก ผมหิวแล้วล่ะ"แคทเธอรีนหัวเราะคิกคัก “บังเอิญอะไรยังงี้ ฉันก็หิวเหมือนกัน ฉันยังไม่ได้กินอาหารเช้าเลยและตอนนี้ร่างกายของฉันอ่อนล้าไปหมด”“... ผมจะทําอาหารให้คุณ”ฌอนยอมและลูบหน้าเล็ก ๆ ของเธอ “แต่มันคงไม่อร่อยเท่าของคุณนะ อย่าเทซะล่ะ” “ถ้าคุณทําไม่ได้จริง ๆ ก็ลองเมนูไข่ต่าง ๆ ฉันจะสอนคุณค่ะ” แคทเธอรีนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ภายใต้การกำกับของแคทเธอรีน พวกเขาทานมื้อเช้าง่าย ๆ เนื่องจากเธอหิวจัดจึงรู้สึกว่าการทําอาหารแบบขยะของฌอนแทบไม่อยู่ท้องเมื่อพวกเขากินเสร็จแล้ว เฮดลีย์โทรมาถามเกี่
ขณะฌอนอุ้มซูซี่ขึ้นรถ จู่ ๆ คนขับก็ถามขึ้นว่า “นี่ลูกของคุณหรือเปล่าครับ?”“... อืม” ฌอนตอบไปทั้งอย่างนั้นเนื่องจากเลียมหายตัวไป เขาจึงจะปฏิบัติต่อซูซี่เหมือนลูกสาวแท้ ๆ ของเขาต่อไปในอนาคต"คุณทั้งคู่ดูเหมือนกันมากเลยนะครับ" คนขับยิ้ม"ใช่ครับ เธอดูเหมือนผม" ฌอนเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลายผสมปนเป “คุณเพิ่งย้ายมาที่นี่เมื่อเร็ว ๆ นี้ใช่ไหม? ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลยครับ”"ใช่ครับ" คนขับหันกลับไปขึ้นรถหลังจากที่รถทั้งสองคันขับผ่านกันไป ฌอนก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่รถคันนั้นกําลังมุ่งหน้าไปคฤหาสน์ที่ด้านบนนั้นเคยเป็นคฤหาสน์ของตระกูลฮิลล์ชายผู้นั้นใช่คนที่ซื้อคฤหาสน์ไปหรือเปล่านะ?แต่เขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะรวบรวมความคิดที่เกี่ยวข้องกับคฤหาสน์ เนื่องจากเขาเพิ่งรู้ว่าแคทเธอรีนกําลังจะไปอยู่ด้วยกันกับเวสลีย์เขามั่นใจว่าเวสลีย์คงนอนกับแคทเธอรีนแล้วหัวใจของเขาอัดแน่นเมื่อนึกถึงแคทเธอรีนนอนอยู่ใต้ร่างของเวสลีย์จุดนี้ไม่สำคัญอะไรหรอก สิ่งที่ฌอนกังวลมากกว่าคือความเป็นไปได้ที่แคทเธอรีนจะตั้งครรภ์ลูกของเวสลีย์ เวสลีย์ไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน ฌอนไม่รังเกียจที่แยกทางกับแคทเธอรีนหรอก
“เวสลีย์ ลียงส์ นายก็หยาบคายกับฉันมาตลอดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? น่าเสียดายที่นายซ่อนมันดีเกินไป ไว้มาดูกันตอนที่หน้ากากของนายหลุดเถอะ”ทันทีที่ฌอนพูดจบเขาก็เหลือบมองแคทเธอรีน เมื่อได้เห็นสีหน้าเรียบเฉยของเธอ หัวใจของเขาก็เจ็บปวดอยู่ลึก ๆ ข้างในซูซี่เลื่อนหน้าต่างด้านหลังลงและยื่นศีรษะเธอออกมา จากนั้นเธอก็ถามด้วยน้ำเสียงเร่งเร้าว่า “ลุงฌอนคะ ลุงจะพูดไปอีกนานแค่ไหนคะ?”"ลุงกําลังจะไปเดี๋ยวนี้จ้ะ" ฌอนก้าวขึ้นรถเมื่อเขาขับรถออกไป เขาเห็นเวสลีย์ก้มศีรษะลงจูบปากกับแคทเธอรีนผ่านกระจกมองหลังเขาจับพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดโปนออกมา ขณะเดียวกันเขาก็กดคันเร่งลงไปอย่างดุเดือดรุนแรงยิ่งขึ้นด้วยความโกรธซูซี่เริ่มหวีดร้องด้วยความตกใจ “ลุงฌอน ลุงขับรถเร็วเกินไปแล้ว! หนูกลัวนะคะ"ฌอนกลับมามีสติสัมปชัญญะทันที เขาลดความเร็วลงอย่างว่องไวและยอมรับความผิด "โทษทีนะจ๊ะ"“ลุงฌอน ลุงยังไม่บรรลุนิติภาวะเหรอเนี่ย ไม่น่าแปลกใจเลยที่ภรรยาของลุงทิ้งลุงไป” ซูซี่อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยเขาด้วยมือเธอที่ท้าวสะเอวอยู่“... หนูพูดถูก" ฌอนหลบตาลงอย่างเศร้าซึมซูซี่ถอนหายใจกับพฤติกรรมของเขา เธอรู้ว่าแม่ของเ
แคทเธอรีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอื่นใดเลย ทว่าฌอนรู้สึกอารมณ์ปั่นป่วนกระวนกระวายช่วงสองสามวันมานี้ เขาพบว่าตัวเองอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าจะพบเธอดีหรือไม่ เขาลังเลที่จะพบเธอ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็คิดถึงเธอสุดหัวใจ“แคธี่ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริง ๆ นะ...” ฌอนเริ่มอธิบายเหมือนเด็กหลงทาง “ผมไม่ได้ตั้งใจจะทําตัวแบบนั้น ผมคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องไร้สาระเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับผมด้วย การสะกดจิตของซาร่านั้นแรงกล้ามากจนเขียนทับความทรงจําของผมไปจนหมดและทําให้ผมเกลียดคุณมากเหลือเกิน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่ามัน...” .“แล้วคุณมาขอให้ฉันยกโทษให้คุณเหรอ?” จู่ ๆ แคทเธอรีนก็หันหน้ากลับมาทันที ดวงตาเงียบสงบของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขา“ผม...” ฌอนกระอักกระอ่วนใจจนไม่รู้จะพูดยังไง ดวงตาของเขาแดงก่ำด้วยความทุกข์ระทม “แคธี่ผมรักคุณความรักของผมที่มีต่อคุณไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยนะ...”"ฮะ!"ในที่สุดแคทเธอรีนก็หัวเราะ “ฌอนถึงคุณจะไม่ได้ถูกซาร่าสะกดจิตแต่ป่านนี้เราอาจจะหย่ากันไปแล้วก็ได้นะ”ฌอนอึ้งไปเลย "คงไม่เป็นแบบนั้นหรอก"“ตลกดีที่ฉันเป็นคนเดียวที่จําความสัมพันธ์นั้นของเรา
แคทเธอรีนวางสายเมื่อเธอมาถึงวิลล่าของครอบครัวยูลเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว เวสลีย์กําลังเล่านิทานให้เด็กทั้งสองฟังด้วยท่าทางอ่อนโยนและเสียงทุ้มเบา ๆ เขามองดูเหมือนคุณพ่อใจดีเมื่อเห็นภาพอย่างนี้ ความรู้สึกผิดก็พุ่งปะทะเข้ามาในจิตใจของแคทเธอรีน เธอนี่นะสงสัยเขาได้ลงคอนั่นมันมากไปแล้วจริง ๆหลังจากที่เวสลีย์เล่านิทานจบเขาถึงสังเกตเห็นเธอ "คุณกลับมาแล้ว"โจเอลจ้องแคทเธอรีนเขม็ง “ลูกเป็นแม่ของซูซี่และลูคัสนะแต่ลูกกลับบ้านดึกตลอด แม้แต่เวสลีย์ก็ยังทําหน้าที่เป็นพ่อแม่ได้ดีกว่าลูกอีก”“ลูกจะไตร่ตรองตัวเองและจะไม่ทําอีกค่ะ” แคทเธอรีนขอโทษอย่างจริงใจ“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณทุ่มเททํางานไปเถอะครับผมจะช่วยคุณดูแลลูก ๆ คุณที่บ้านเอง” เวสลีย์กล่าวด้วยรอยยิ้มมองเขาแล้วแคทเธอรีนจึงตัดสินใจบางอย่างอยู่ลึก ๆ ในใจ…ในตอนกลางคืนแคทเธอรีนอยู่เป็นเพื่อนซูซี่และลูคัสจนพวกเขาหลับ จู่ ๆ ซูซี่ก็พูดว่า “แม่ขา คุณย่าโทรหาหนูวันนี้และบอกว่าย่าคิดถึงหนู ปู่ทวดและย่าทวดก็คิดถึงหนูด้วยเช่นกันค่ะ หนูรู้สึกอยากเอ่อ ... อยู่ที่นั่นสักพักค่ะ”"การไปอยู่ที่นั่นดีอะไรนักหนา?" ลูคัสถามอย่างไม่พอใจซูซี่ทําหน้ามุ่ยโดย
"ไม่จําเป็น" เฟรยาส่ายหัว “ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบฉันหรอก แต่เนื่องจากตระกูลสโนว์บังคับให้ฉันให้กําเนิดเด็กคนนี้และถึงกับข่มขู่ฉันด้วยเด็กคนนี้ดังนั้นฉันจะให้กําเนิดเขาแต่ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณหรอกนะ”ร็อดนีย์ไม่เคยคิดเลยว่าเธอเลือกจะให้กําเนิดลูกทั้งที่ยังไม่แต่งงานมากกว่าที่จะแต่งงานกับเขาซะอีกเขาควรจะดีใจสิ ทว่าเขาก็อารมณ์เสียซะอย่างนั้น“เฟรยา ลินช์ คุณไม่ชอบผมมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“...”“ฉันไม่เคยชอบคุณเลยน่ะสิ”เฟรยาเก็บอาการดูถูกเขาไว้ข้างในใจก่อนที่เธอจะเอ่ยอย่างจริงจังว่า “เมื่อสามปีก่อนฉันเคยมีความสัมพันธ์ฉันตกหลุมรักชายคนหนึ่งที่วิทยาลัยและเราอยู่ด้วยกันมาสี่ถึงห้าปี เรายังได้พบกับพ่อแม่ของแต่ละฝ่ายและพร้อมที่จะมีงานแต่งงานของเรา แต่แล้ววันหนึ่งเขาปล่อยให้ครอบครัวของฉันกับฉันต้องรอเก้อเพื่อหวานใจในวัยเด็กของเขา เขาไม่ได้ทําแค่ครั้งเดียวแต่เป็นครั้งแล้วครั้งเล่า เขามักจะยกให้เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาอยู่เหนือสิ่งอื่นใดเสมอ“เมื่อใดก็ตามที่เราไปออกเดทกัน เขาก็จะพาเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาไปด้วย“เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขาป่วยเขาก็จะดูแลเธอ“เขาอ้างว่าเขาปฏิบ
“ฉันไม่สน เนื่องจากคุณโยนผักดองของฉันทิ้งไปแล้ว คุณต้องทําอาหารให้ฉัน ฉันหิวนะ"ร็อดนีย์เหลือบมองท้องของเฟรยา ตอนแรกเขาไม่อยากทําอาหารให้เธอหรอก ทว่าเขากังวลว่าเฟรยาจะนําลูกอ๊อดน้อยในตัวเธอออกไปกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ในที่สุดเขาก็ยอมจํานนต่อโชคชะตาของเขาและตัดสินใจทําอาหารให้เธอแต่เมื่อเขาเปิดตู้เย็นของเธอดู เขาก็ไม่พบส่วนประกอบเครื่องปรุงใด ๆ นอกจากเส้นพาสต้าเขาถอนหายใจออกมา “เฟรยา ลินช์ คุณเป็นผู้หญิงนะ คุณทําตัวเป็นแม่บ้านให้มากกว่านี้ไม่ได้เหรอ? คุณไม่มีไข่ที่บ้านด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากอยู่กับคุณหรอก” “ฉันกินในที่ทำงานทุกวัน ฉันทํางานให้คุณยังกับหมานะ แล้วคุณยังมาคาดหวังให้ฉันกลับมาเข้าครัวทําอาหารหลังจากที่ฉันเพิ่งทํางานล่วงเวลาเสร็จอีกเหรอ? ฉันมีเวลาว่างมากนักเหรอไง?”เฟรยาวิจารณ์เขาอย่างเผ็ดร้อน “อย่ามองฉันแบบนั้นสิ ซาร่าก็ไม่ดีไปกว่าฉันหรอก เธอยังจ้างแม่บ้านมาคนหนึ่งไม่ใช่เหรอไง?” “คุณนี่พล่ามไปใหญ่ บางครั้งเธอก็ทําอาหารด้วยตัวเองแหละน่า”“ฮ่า! คุณหมายถึงสัปดาห์ละครั้งเหรอ? ฉันก็ทําแบบนั้นแหละ”“...”ร็อดนีย์เงียบไปเลยเมื่อเอ่ยเรื่องนั้นขึ้นมาเห็นได้ชัดว่าเขาโน้
เฟรยาขมวดคิ้วย่น ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบกินผักดองและสงสัยว่าทําไมผู้คนมากมายถึงได้ชอบกินอาหารหมักดองอย่างนี้กันนัก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้ตัวว่าติดหนึบมันเข้าแล้วในเดือนนี้ด้วยเหตุนี้เธอถึงได้รู้ว่าเพราะการตั้งครรภ์ของเธอนั่นเองเป็นเหตุ“เข้าใจผิดแล้ว ฉันเพิ่งจะเริ่มชอบผักดองเพราะว่าฉันตั้งครรภ์ เป็นทารกเองที่ต้องการหม่ำของพวกนั้น” เธอตอบด้วยท่าทางว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก“ลูกของผมไม่ชอบกินอาหารหมักดองแบบนี้หรอก” ร็อดนีย์คว้าขวดโหลออกไปและเทผักดองทั้งหมดลงไปในถังขยะโดยไม่ลังเลเฟรยาระเบิดลงทันที “ร็อดนีย์ สโนว์ คุณรู้ไหมว่าผักดองขวดหนึ่งมันแพงขนาดไหน? มันมีราคากว่าสิบดอลลาร์เชียวนะ”“...”ร็อดนีย์อึ้งจนไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูด “นั่นแพงเรอะ ฮึ? คุณกําลังพักอยู่ในอพาร์ตเมนต์แบบดูเพล็กซ์มูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์และได้รับค่าจ้างเดือนละหลายแสนดอลลาร์ คุณยังมีเงิน 100 ล้านดอลลาร์ในบัตรที่โอเชอร์ คอร์ปอเรชั่นมอบให้คุณไปเมื่อวันก่อนด้วย คุณกล้าพูดว่าผักดองมีราคาแพงได้ยังไงกัน?!”“มันก็แพงอยู่ดี ผักดองในถุงเล็ก ๆ ที่ฉันได้มาบ่อย ๆ ราคาเพียงแค่ห้าดอลลาร์เอง”"หุบปากเลย"ร็อดนีย์เบื่อหน่ายกับเธอ
เชสเตอร์ตะคอก “ก็ได้ นายแค่ลําเอียงเข้าข้างซาร่า แต่ขอฉันเตือนนายหน่อยนะว่าหากนายออกจากตระกูลสโนว์ไปแล้ว รับรองว่ายัยซาร่าจะทิ้งนายไปในไม่ช้าก็เร็ว”"นายนี่ตอแหลว่ะ"ร็อดนีย์อดไม่ได้ที่จะโวยวายใส่เขา “เชสเตอร์ จิวเวลนายก็เหมือนกับฌอน! ทําไมพวกนายถึงเป็นแบบนี้กันไปได้? พวกเราทั้งห้าคนโตมาด้วยกัน แต่พวกนายก็ยังมาเลือกปฏิบัติต่อซาร่าอีก”“ใช่ คนทั้งโลกกําลังเลือกปฏิบัติต่อซาร่าและนายเป็นเพียงคนเดียวที่ปกป้องเธอ นายเป็นคนฉลาดหัวใสและคนอื่นมีบางอย่างผิดปกติ งั้นเอาเลยไปสู้โลกเพื่อประโยชน์ของเธอรวมทั้งฆ่าลูกของนายเองด้วย”เชสเตอร์เริ่มรําคาญ “ฉันกําลังจะทําการผ่าตัดตอนนี้ ฉันไม่ว่างที่จะคุยกับนายละนะ”ทันทีที่เขาจบการสนทนา เขาก็เดินดุ่มออกไปด้วยสีหน้าสงบนิ่งอันที่จริงการพูดคุยกับร็อดนีย์ทําให้เลือดของเขาเดือดดาลเชสเตอร์เริ่มรู้สึกเห็นอกเห็นใจเฟรยาขึ้นมาเล็กน้อยจากนั้นร็อดนีย์ก็เดินออกจากสำนักงานแพทย์เขาเดินลงบันไดมาอย่างร่างไร้วิญญาณเมื่อเขาเซล้มลงไปโดยบังเอิญที่หน่วยกุมารเวชศาสตร์คุณพ่อคนหนึ่งในวัย 30 ปีที่กําลังกอดทารกน้อยน่ารักเดินผ่านเขาไปพอดี ทารกขวบเดียวคนนั้นมีดวงตาโ
พ่อ...คํานี้ทําให้ร็อดนีย์อึ้งไปครู่หนึ่งทันทีเวนดี้พูดอย่างตั้งใจว่า “ใช่ ลูกอาจมีส่วนแค่สเปิร์มตัวหนึ่งเท่านั้น แต่ตอนนี้เด็กคนนี้มีความยาวประมาณหนึ่งเซนติเมตรแล้วนะ ลูกอาจเคยคิดที่จะทําให้เธอแท้งเด็ก แต่ลูกเคยคิดบ้างไหมว่าการทําแท้งจะสร้างความเสียหายให้กับร่างกายของผู้หญิงคนหนึ่งได้มากขนาดไหน?“มันง่ายมากเลยที่ลูกจะพูดแบบนั้นเพราะว่าลูกไม่ใช่คนที่ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด ร่างกายของผู้หญิงจะได้รับความเสียหายหลังจากผ่านการทําแท้ง ผู้หญิงบางคนถึงกับประสบกับภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ นานาหรือมีอุปสรรคปัญหาในการตั้งครรภ์อีกครั้ง“นอกจากนี้ลูกคิดว่าถ้าแฟนหรือสามีในอนาคตของเธอรู้ว่าเธอเคยทำแท้งลูกของชายอื่นมาก่อน พวกเขาจะมองเธอยังไง? ลูกลองมองในมุมของเธอบ้าง ถ้าลูกรู้ว่าภรรยาในอนาคตของลูกเคยตั้งท้องลูกของชายอื่นมา ลูกจะผิดหวังไหม?”ร็อดนีย์ยังคงเงียบขณะฟังถ้อยคําเหล่านั้นเขาไม่ได้ใจร้ายโดยสันดาน หลังจากที่เวนดี้ชี้แนะเขาอย่างละเอียด ความสับสนเจ็บแปลบและความรู้สึกผิดก็ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาในจิตใจของเขาในตอนนั้นเขาเคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนก็ได้เพื่อตอบสนองความปรารถนาของพ่อแม่ถ้าหาก