เมื่อเธอพูดแบบนี้ออกไป ในใจของกู้หยุนหลานก็สั่นไหว ทำไมเธอถึงคิดแบบนั้นกันนะ?ต่อให้หลี่โม่จะมีอำนาจ แต่เขาจะสามารถทำให้บริษัทหลายแห่งเลือกที่จะตัดความร่วมมือกับบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมได้เลยอย่างนั้นหรือ?ต้องมีอำนาจน่าสะพรึงขาดไหนถึงจะทำอะไรแบบนี้ได้?ดังนั้น กู้หยุนหลานก็คิดได้ว่าคำพูดที่พูดออกไป เธอรู้สึกว่าเธอคงจะคิดมากไปเองส่วนหลี่โม่ ในใจของเขาก็สั่นไหวเหมือนกัน เขาเหลือบไปมองที่ใบหน้าของกู้หยุนหลาน และต้องการอธิบายว่า "หยุนหลาน ที่จริงแล้ว..."“ไม่เป็นไร คุณไม่ต้องอธิบายหรอก ฉันคงคิดมากไปเอง คุณจะมีความสามารถ หรือมีอำนาจมากมายขนาดนั้นได้ยังไงกัน คุณก็เป็นแค่ลูกเขยที่ครอบครัวของเรารับเข้ามา” กู้หยุนหลานหัวเราะเยาะอย่างไม่ยอมรับมีผู้หญิงึนไหนบ้างล่ะ ที่จะไม่อยากให้สามีของตัวเองประสบความสำเร็จ และเป็นที่ชื่นชมนับถือของคนอื่น?แต่ว่า นั่นมันก็แค่เรื่องที่เธอคิดไปเองกู้หยุนหลานรู้ดีว่าหลี่โม่เป็นคนแบบไหน และสถานะของเขาคืออะไรหลี่โม่เหลือบไปมองที่กู้หยุนหลาน เขายิ้มที่มุมปาก และไม่พูดอะไรไม่นานนักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น หลี่โม่บอกกู้หยุนหลานให้กลับไปที่ห้องนอน และไม่ต้
แต่ว่าหลี่โม่เป็นแค่ไอ้คนไร้ประโยชน์ เขามีสิทธิ์อะไรถึงกล้ามาพูดแบบนี้กับพวกเขา?“หุบปาก! แกมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้? พวกเราต้องการพบกู้หยุนหลาน!” กู้เจี้ยนกั๋วตะโกนด้วยเสียงที่หนักแน่น“ทำไมจะไม่มีสิทธิ์? หยุนหลานเป็นภรรยาของผม ธุระของเธอก็เหมือนธุระของผมเหมือนกัน ตอนนี้เธอไม่อยู่ที่นี่ และผมก็เป็นเจ้าของบ้าน” หลี่โม่พูด"แกเป็นเจ้าของเหรอ?"เมื่อได้ยินแบบนี้ กู้เจี้ยนกั๋วและกู้ซิ่งเหว่ยก็หัวเราะเยาะกู้ซิ่งเหว่ยโน้มตัวไปข้างหน้า และเยาะเย้ย "หลี่โม่ แกรู้ไหมว่า แกพูดแบบนี้เหมือนคนโง่เลย? บ้านนี้ มีคนที่ชื่อหลี่โม่เป็นเจ้าของงั้นเหรอ?"“แล้วอีกอย่าง ทุกคนเขาก็รู้กันหมดว่า กู้หยุนหลานได้เซ็นสัญญากับหรงคังกรุ๊ปได้ยังไง! แกคงจะมีความสุขมากที่โดนสวมเขา แล้วยังจะกล้ามาหัวเราะเยาะฉันอีก!” กู้ซิ่งเหว่ยมองหลี่โม่อย่างเย้ยหยันสายตาของหลี่โม่แข็งกร้าว เขากำหมัดแน่น!แน่นอนว่าเขารู้ดีที่สุดว่า กู้หยุนหลานได้สัญญานี้มาได้อย่างไร และเห็นได้ชัดว่าคำพูดของกู้ซิ่งเหว่ยนั้นเป็นการใส่ร้ายเขาก้าวไปข้างหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา และจ้องมองที่กู้ซิ่งเหว่ยระยะใกล้ เหมือนเป็นการบ่งบอกว่าอยากจะฆ่าให้ตา
สองพ่อลูกกู้เจี้ยนกั๋วและกู้ซิ่งเหว่ย ในขณะนี้สีหน้าของดูน่าเกลียดมาก พวกเขาจ้องมองที่หลี่โม่อย่างขมขื่น และตะโกนว่า "ยังไม่ไปอีกเหรอ?"หลี่โม่ยิ้ม และไม่พูดอะไร เขาหันหลังกลับเข้าไปในบ้าน กู้ซิ่งเหว่ยยิ้มอย่างเย็นชา และเดินตามเข้าไปปัง!เสียงประตูปิดกู้ซิ่งเหว่ยยืนอยู่หน้าประตู จมูกของเขามีเลือดออกเพราะชนเข้ากับประตู เขาจึงตะโกนทันทีว่า "หลี่โม่! ไอ้ขยะ แกกล้าทำแบบนี้กับฉัน ฉันจะไม่ยกโทษให้แกแน่!"กู้เจี้ยนกั๋วรู้สึกสงสารลูกชายของเขา หลังจากถามไปสองสามครั้ง เขาก็พูดอย่างโกรธเคือง "หลี่โม่คนนี้ช่างหน้าด้านมากขึ้นเรื่อย ๆ"“พ่อครับ เมื่อกี้พ่อว่าไงนะ? พวกเราจะก้มหน้าขอโทษจริง ๆ เหรอ?”กู้ซิ่งเหว่ยไม่อยากเชื่อ เขาต้องขอโทษยัยตัวแสบอย่างกู้หยุนหลาน เขารู้สึกเหมือนเขากำลังจะตายกู้เจี้ยนกั๋วส่ายหัว และถอนหายใจ แล้วพูดว่า "ตอนนี้เราจะทำอะไรได้อีก? ไม่อย่างนั้น เราก็เข้าไปไม่ได้"ทันใดนั้น กู้ซิ่งเหว่ยก็เงียบลงด้วยสายตาที่เย็นชากู้เจี้ยนกั๋วหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็กดกริ่ง และพูดอย่างจริงใจว่า "เจี้ยนหมิน เปิดประตูหน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก"หลังจากนั้นไม่นาน หลี่โม่ก็เปิดประตู
ส่วนหลี่โม่ก็ยืนดู และฟังอย่างเงียบ ๆดูเหมือนว่า คุณท่านกู้จะกดดันกู้เจี้ยนกั๋วอย่างมาก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ถ่อมาขอร้องแบบนี้“คงจะไม่ได้หรอก เราจะช่วยพวกคุณได้ยังไง? ดูในที่ประชุมสิ พวกคุณทำกับลูกสาวฉันยังไง พวกพี่ไล่เธอออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการ!” หวังฟางพูดอย่างระมัดระวังด้วยสีหน้าเย็นชา และปฏิเสธ“น้องรอง น้องสะใภ้ เรื่องนี้พี่กับซิ่งเหว่ยพิจารณาไม่ดีเอง แต่ไม่ต้องกังวลนะ ตำแหน่งผู้อำนวยการของหยุนหลานยังคงเป็นของเธอ แต่ถ้าบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมล้มละลาย ตำแหน่งผู้อำนวยการก็จะหายไปเหมือนกัน ดังนั้นพี่ก็หวังว่าน้องรองและน้องสะใภ้จะช่วยพูดให้หน่อย เหมือนเป็นการทำบุญทำทาน และยังเป็นการช่วยตัวเองด้วย” กู้เจี้ยนกั๋วพูดหวังฟางหันไป และเหลือบมองที่กู้เจี้ยนหมิน เธอคิดว่ากู้เจี้ยนกั๋วพูดถูกถ้าบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมล้มละลาย แล้วตระกูลกู้จะเหลืออะไร?อย่างนั้นพวกเขาก็คงต้องช่วยจริง ๆหวังฟางเลิกคิ้วมองหลี่โม่อย่างไม่พอใจ และถามว่า "หยุนหลานอยู่ไหน?"“เธอไปเที่ยวกับจินช่านน่าครับ” หลี่โม่พูด“ไปเที่ยวเหรอ? ทำไมจู่ ๆ ถึงไปเที่ยวล่ะ?” หวังฟางขมวดคิ้ว เธอหันหลัง และเดินไปยังห้องนอนของก
“เปลี่ยนอะไร มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรไปได้ล่ะ มันก็แค่คนไร้ประโยชน์ ทำไม แกยังคิดว่ามันจะเป็นลูกเศรษฐีเหรอไง? อย่าฝันไปเลยลูกแม่ นี่มันโลกความเป็นจริง หลี่โม่สามารถให้อะไรแกได้บ้าง? ให้อะไรแม่กับพ่อได้บ้างไหม?” หวังฟางพูดอย่างโกรธเคืองกู้หยุนหลานรู้สึกว่าเธอไม่อยากคุยกับแม่ของเธอแล้ว ดังนั้นเธอจึงนอนลงบนเตียง แล้วพูดว่า "ยังไงหนูก็จะไม่หย่ากับเขาอยู่ดี ถ้าแม่ชอบฉวีเทียนไห่ แม่ก็แต่งงานกับเขาเองสิ"ฮะ...เมื่อได้ยินแบบนี้ หวังฟางก็หงุดหงิด เธอตีก้นกู้หยุนหลานสองที และด่าว่า "นี่แกตั้งใจทำให้ฉันโมโหใช่ไหม? ถ้าฉันยังสาว ฉันคงจะแต่งงานกับฉวีเทียนไห่ไปนานแล้ว!"หลังจากนั้น อารมณ์ของหวังฟางก็ค่อย ๆ อ่อนลง และเธอก็แนะนำด้วยความห่วงใย “หยุนหลาน ไม่ใช่ว่าแม่จะกดดัน หรือบังคับแกนะ แต่แกควรจะคิดถึงอนาคตของตัวแกเอง แกอยากจะใช้ทั้งชีวิตไปกับคนอย่างหลี่โม่เหรอ? ถ้าแกจะไม่นึกถึงตัวเอง แกก็นึกถึงซีซีสิ ถ้าซีซีโตขึ้นมาเห็นว่าพ่อของตัวเองไร้ค่า แล้วเพื่อน ๆ ของหลานล่ะ จะมองหลานยังไง?”กู้หยุนหลานดึงผ้าห่มมาคลุมทั้งตัวทั้งหัวหวังฟางจ้องอย่างโกรธเคือง และพูดว่า “ลองคิดเอาเองแล้วกัน ฉันจะไม่กดดัน หรื
กู้เจี้ยนหมินไม่เคยเห็นหลี่โม่ในด้านที่ดุร้ายมาก่อนเลย ราวกับว่าตอนนี้เขากำลังเปลี่ยนแปลงตัวเองลูกเขยคนนี้ที่อยู่ในครอบครัวของกู้เจี้ยนหมินมาสี่ปีแล้ว เขาทำได้เพียงเชื่อฟังและยอมทุกอย่างเสมอมา แต่ทำไมวันนี้เขาถึงดูเย่อหยิ่งและมีอำนาจขนาดถึงกล้าทำร้ายกู้ซิ่งเหว่ยด้วยซ้ำ แม้แต่กับกู้เจี้ยนกั๋ว เขาก็ยังกล้าที่จะเผชิญหน้าด้วยแล้วคำพูดที่เขาพูดกับกู้เจี้ยนกั๋ว ก็ทำให้กู้เจี้ยนหมินค่อนข้างตะลึง“ผมบอกให้พวกเขากลับไปแล้วครับ ในเมื่อพวกเขามาขอร้องหยุนหลาน พวกเขาก็ควรที่จะแสดงความจริงใจ ที่สำคัญ คุณปู่ก็ไม่ได้มาที่นี่ด้วยตัวเอง ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นตัวต้นเรื่องด้วยซ้ำ” หลี่โม่พูดเบา ๆประโยคนี้เหมือนฟ้าผ่าลงบนกลางหัวของกู้เจี้ยนหมิน และหวังฟาง ทำให้ทั้งสองคนเหมือนวิญญาณหลุดออกไปแล้ว!นี่หมายความว่า เขาต้องการให้ชายชรามาขอร้องหยุนหลานด้วยตัวเองอย่างนั้นเหรอ?นี่มันบ้าไปแล้ว!“หลี่โม่ แกอยากตายนักใช่ไหม!” กู้เจียนหมินลุกขึ้นชี้หน้าด่าหลี่โม่ “แกรู้ไหมว่าผลที่จะตามมาเป็นยังไง? ไอ้โง่!”หวังฟางก็ดูตกใจ และตะโกนว่า "หลี่โม่ ไอ้ขยะไร้ประโยชน์ นี่แกพยายามจะทำลายครอบครัวของเราอยู่ใช่ไหม?! แกเป็นใ
เช้าวันรุ่งขึ้น คุณท่านกู้ออกจากบ้านต้นตระกูลกู้ เตรียมจะไปบ้านของกู้เจี้ยนหมินเมื่อข่าวนี้แพร่กระจายไปในตระกูลกู้ ทุกคนถึงกับตกตะลึง!คุณท่านกู้คนนี้กำลังจะไปที่บ้านลูกชายคนรองของตระกูลกู้จริง ๆ นี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับคนในตระกูลกู้อย่างแน่นอน!บ้านลูกชายคนรองของตระกูลกู้เคยมรสถานะสูงส่งมาก่อน แต่เนื่องจากเหตุการณ์นั้นที่เกิดขึ้นเมื่อสี่ปีก่อน สถานะพวกเขาก็ตกต่ำลง!“เป็นไปไม่หรอก คุณปู่กำลังจะไปบ้านของกู้หยุนหลานจริง ๆ เหรอ?”"ไปทำไม? ใครได้ยินเรื่องนี้มา?"“นี่น่าจะเป็นแค่ข่าวลือนะ คุณปู่จะไปที่นั่นได้ยังไง ไม่ใช่ที่ที่ดีเลย”บรรดาหลานของตระกูลกู้รวมตัวพูดคุยกัน แต่พวกเขาทั้งหมดก็ไม่กล้าที่จะลงรายละเอียดแต่เมื่อพวกเขาเห็นภาพถ่ายของคุณท่านกู้กำลังลงจากรถที่หน้าบ้านของกู้หยุนหลาน ทุกคนต่างก็ตะลึง!คุณท่านกู้ไปที่นั่นจริง ๆ !เขาไปพร้อมกับกู้เจี้ยนกั๋วและกู้ซิ่งเหว่ยในไม่ช้า ทุกคนก็เข้าใจว่าที่คุณท่านกู้ยอมก้มหัวให้ในครั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของบริษัทหยุนเชิงเภสัชกรรมคุณท่านกู้ใช้ชีวิตอย่างหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีมาตลอดหลายปี เขาไม่เคยยอมก้มหัวให้ใครมาก่อน แต่คราวนี้คาดไม่ถึงเล
แววตาของเขาดุร้ายราวกับจะกินหลี่โม่เข้าไปแต่หลี่โม่เพียงแค่หันมามองเล็กน้อย และยิ้มอย่างเย็นชาที่มุมปากของเขา แล้วพูดว่า "กู้ซิ่งเหว่ย ฉันกำลังคุยกับคุณปู่อยู่ ช่วยหุบปากหน่อย"“อะไรนะ? แกบอกให้ฉันหุบปากงั้นเหรอ?! แกยังสติดีอยู่ไหม?!” กู้ซิ่งเหว่ยโกรธมาก เขายกมือขึ้นมาเพื่อจะตบแต่ว่า!หลี่โม่เตะเข้าไปที่ท้องของกู้ซิ่งเหว่ยอย่างจัง เขาส่ายหน้า และพูดอย่างเย็นชาว่า "ที่นี่ไม่ใช่บ้านต้นตระกูลกู้ ถ้านายจะมาที่นี่เพื่อขอร้อง นายก็ควรจะมีมารยาทที่จะขอร้องด้วย!"ฉากนี้ทำให้ทั้งกู้เจี้ยนหมิน และหวังฟางตกใจ!หลี่โม่คนนี้ยิ่งจองหองมากขึ้นเรื่อย ๆ !“คุณปู่ครับ!” กู้ซิ่งเหว่ยโกรธจัดเพียะ!คุณท่านกู้ตบหน้ากู้ซิ่งเหว่ย และตะโกนว่า "น่าอับอาย ออกไป!"กู้ซิ่งเหว่ยตื่นตระหนก เขาลุกขึ้นจ้องมองไปที่หลี่โม่ด้วยสายตาที่ขมขื่น และยืนเงียบอยู่ข้าง ๆหลังจากนั้น คุณท่านกู้ก็ถามว่า “ว่ามา แกกับหยุนหลานต้องการอะไร?”หลี่โม่ยิ้มจาง ๆ “มันง่ายมากครับ ผมจะไม่ทำให้คุณลำบากใจแน่นอน ประการแรก คุณต้องก้มหน้ายอมรับความผิดพลาด ส่วนประการที่สอง คุณต้องให้ตำแหน่งรองประธานบริษัทกับหยุนหลาน และเรื่องความร่วม