แชร์

บทที่ 8

ทันทีที่ฉวีเทียนไห่เข้าประตูมา เขาก็เงยหน้าขึ้นและมองหลี่โม่ด้วยสายตาที่ดูถูก

ชายซอมซ่อคนนี้ กล้าเสนอหน้ามาที่สวารอฟสกี้อย่างนั้นเหรอ?

คิ้วของหลี่โม่ขมวดเล็กน้อย และเขาก็เลือกที่จะไม่สนใจฉวีเทียนไห่

ฉวีเทียนไห่เห็นหลี่โม่ไม่สนใจ จึงทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาทันที เขาเดินไปและพูดอย่างเย็นชา “ทำไมล่ะ นายมาดูของหรูหราพวกนี้เหรอ นายคิดว่าตัวเองคู่ควรหรือไง?”

หลี่โม่พูดอย่างเฉยเมย “ก็ร้านเปิดอยู่นี่ แล้วทำไมฉันจะดูไม่ได้?”

หึ

ฉวีเทียนไห่หัวเราเยาะและพูดว่า “เพราะนายจนไงล่ะ ที่นี่สวารอฟสกี้นะ สร้อยคอและแหวนเพชรต่าง ๆ ที่มีราคาหลายแสน นายคิดว่านายจะซื้อมันได้เหรอ?”

คนแบบนี้มันอะไรกัน ชอบฝืนทำสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้

แถมไม่ตักน้ำชะโงกดูเงาตัวเองซะเลย

หลี่โม่ยังคงเงียบ ครุ่นคิดว่าเขาแสดงความแน่ให้ฉวีเทียนไห่ได้เห็นสักหน่อยแล้ว

ในเวลาเดียวกันนั้น พนักงานหญิงที่หยิ่งยโสและดูถูกหลี่โม่ก่อนหน้านี้ก็รีบไปรับฉวีเทียนไห่ด้วยรอยยิ้ม และพูดด้วยเสียงต่ำ “คุณชายฉวีคะ คุณมาที่นี่ ต้องการรับอะไรเพิ่มเหรอคะ?”

เหมยลี่แสดงการต้อนรับที่ยิ่งใหญ่ ฉวีเทียนไห่เป็นเศรษฐีรุ่นที่สองที่ครอบครองทรัพย์สินมูลค่าหลายร้อยล้าน

พนักงานหรือผู้หญิงคนไหนจะไม่ชอบเขาบ้างล่ะ?

นอกจากนี้ฉวีเทียนไห่ยังซื้อสร้อยเพชรดาราสุขาวดีราคา 6 ล้านบาทไปเมื่อเช้านี้ด้วย

เขามองไปที่หลี่โม่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นราวกับท่อนไม้ ซึ่งต่างกันราวฟ้ากับดิน!

ฉวีเทียนไห่ยกนิ้วกลางให้หลี่โม่ แล้วพูดกับเหม่ยลี่ “ผมมาดูสร้อยเพชรร้อยบุหงาอัปสรน่ะ”

เขาไม่เชื่อว่ากู้หยุนหลานจะไม่ชอบสร้อยคอนี้

เพราะนั่นคือความฝันของผู้หญิงทุกคน!

เมื่อฟังเช่นนี้ เหมยลี่และพนักงานหลายคนต่างตกใจ สีหน้าตื่นเต้นและกล่าวว่า “ได้เลยค่ะ คุณชายฉวี รอสักครู่นะคะ สาขานี้ยังไม่มี สินค้าอยู่ที่สำนักงานใหญ่ ดิฉันจะรีบให้คนนำของมาส่งให้เลยค่ะ”

ส่งมาเล้ย ส่งมาเลย!

ฉวีเทียนไห่ต้องการดูสร้อยเพชรร้อยบุหงาอัปสรมีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะซื้อ

หากเธอสามารถขายสร้อยเพชรร้อยบุหงาอัปสรเส้นแรกได้ในเมืองฮั่น ชื่อเสียงเอย ค่าคอมมิชชั่นเอยต้องไม่ต่ำกว่าล้าน!

เหมยลี่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาทันทีและกดหมายเลขสำนักงานใหญ่

ไม่กี่นาทีต่อมา เหมยลี่ก็เชิญฉวีเทียนไห่ให้นั่งในเลานจ์วีไอพีของร้านอย่างกระตือรือร้น พร้อมเสิร์ฟชาชั้นดี “คุณชายฉวี โปรดรอสักครู่นะคะ”

ขณะนี้ หลี่โม่รู้สึกโกรธในใจเล็กน้อย เขาก็ต้องการดูสร้อยเพชรร้อยบุหงาอัปสรเหมือนกัน แต่ไม่มีใครสนใจเขาเลย

ตรงกันข้ามกับ ฉวีเทียนไห่ได้รับการต้อนรับอย่างดี

“ผมก็มาดูสร้อยเพชรร้อยบุหงาอัปสรเหมือนกัน ทำไมไม่มีใครมาดูแลผมเลย” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา

เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยโมโหใครเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เขารู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยแล้วนะ

“ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ทันได้นั้นก็มีเสียงระเบิดหัวเราะแฝงไปด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ย ฉวีเทียนไห่ลุกขึ้นมองหลี่โม่อย่างดูถูก และถามเหมยลี่ที่อยู่ข้าง ๆ เขา “เขาก็มาดูสร้อยเพชรร้อยบุหงาอัปสรเหรอ?”

เหมยลี่สีหน้ารู้สึกผิด เธอพยักหน้าและพูดว่า “ใช่ค่ะ คุณชายฉวี”

ฉวีเทียนไห่ถอนหายใจอย่างเย็นชา พร้อมดึงชุดสูทแล้วพูดว่า “คนอย่างเขาคู่ควรกับการได้ดูสร้อยนั้นเหรอ? คุณรู้เอาไว้ด้วย ผมเป็นลูกค้าวีไอพีที่มีเงินซื้อสร้อยคอนี้ได้ ในเมื่อผมเป็นลูกค้าวีไอพี ผมก็ไม่อยากให้อะไรมารบกวน อย่างเช่น สุนัขน่ะ”

เหมยลี่เข้าใจในทันทีและก้มลงขอโทษ “คุณชายฉวี ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ดิฉันจะไล่เขาออกไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ!”

เมื่อพูดจบ เธอก็จ้องหลี่โม่ด้วยท่าทางเย็นชาไม่เป็นมิตร และพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน “ออกไปค่ะ ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ!”

หากเหมยลี่ทำให้คุณชายฉวีไม่พอใจเพราะไอ้ยาจกนี่ เธอจะต้องเสียใจทีหลังแน่!

ทว่า หลี่โม่ยังยืนนิ่ง

เหม่ยลี่ร้อนรนและกำลังจะเรียกการ์ด แต่ฉวีเทียนไห่กลับยื่นมือออกมาและพูดว่า “ช่างเถอะ ถ้าเขาอยากดูนักก็ให้เขาดูด้วยกันนี่แหละ ผมเดาได้เลย ยาจกอย่างเขา ทั้งชีวิตนี้ก็คงไม่มีโอกาสได้เห็นมันหรอก”

‘ดี ฉันจะให้แกได้ดูเป็นบุญตาว่า สร้อยเพชรร้อยบุหงาอัปสรมันราคาแพงแค่ไหน แกจะได้รู้ว่า ฉัน ฉวีเทียนไห่กับแกมันคนละชั้นกันขนาดไหน แกจะได้รู้ที่ของตัวเองแล้วถอยไปซะ’

หลังจากรอไม่นาน ฉวีเทียนไห่ก็ใจร้อนเล็กน้อยและพูดว่า “ทำไมยังไม่มาอีก ผมไม่มีเวลามากนะ สักพักจะมีการประชุมสำคัญ”

“คุณชายฉวี รออีกสักครู่นะคะ อยู่ระหว่างทางแล้วค่ะ” เหมยลี่ก็กังวลมากเช่นกัน

ในทางกลับกัน หลี่โม่ไม่รีบ เพราะเขาลางานช่วงบ่ายมาแล้ว

หลังจากรออีกสิบนาที ฉวีเทียนไห่ก็ไม่สามารถนั่งนิ่งต่อไปได้ โทรศัพท์ในกระเป๋าของเขาก็ดังขึ้น “ครับ พ่อ เข้าใจแล้ว ผมจะรีบไป”

หลังจากวางสาย ฉวีเทียนไห่ดูแค้นมากและพูดกับเหมยลี่ “เดี๋ยวพรุ่งนี้ ผมจะกลับมาอีกที”

หลังจากนั้น เขาเหลือบมองหลี่โม่อย่างเคร่งขรึมและหันหลังจากไป

เหมยลี่ก็กังวลเช่นกัน ไล่ตามออกไปและตะโกนว่า “คุณชายฉวี ช่วยรออีกห้านาทีเถอะนะคะ”

อย่างไรก็ตาม คุณชายฉวีบเข้าไปในรถแล้ว

บริษัทมีประชุมด่วน เขาจำเป็นต้องรีบกลับ

ตอนนี้เหมยลี่รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก เธอหันหลังกลับไปที่ร้าน และตะโกนใส่หลี่โม่ด้วยความดูถูก

ฉวีเทียนไห่ที่อยู่ในรถบันทึกวิดีโอฉากนี้ไว้

เสียเวลาอยู่กว่าหนึ่งนาที เพื่อถ่ายวิดีโอสุดเด็ดนี้

‘ฮ่าฮ่า หลี่โม่ ดูตัวเองบ้างสิวะ แกนี่มันน่าอายจริง ๆ !’

คิด ๆ ดูแล้ว เขาจึงใช้ความสัมพันธ์ของเขากับบริษัทตระกูลกู้ เพื่อส่งวิดีโอนี้ไปยังกลุ่มแชทของพนักงานให้พวกเขาดูสักหน่อย

ที่ร้านนั้น หลี่โม่ถูกเหมยลี่ดุด่าสารพัด แต่ใบหน้าเขากลับยิ้มอ่อน ๆ

อย่าพาลใส่คนอื่น ควบคุมอารมณ์หน่อย

ในเวลาเดียวกันนั้น ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาที่ประตู ในมือถือกล่องสุดหรูลแะมีค่าอยู่ในมื ตามมาด้วยบอดี้การ์ดสี่คนที่อยู่ข้างหลังเขา

ทันทีที่เขาเข้าประตู เขาตะโกนว่า “พอดีรถติดน่ะ ช้าไปสองสามนาที แล้วลูกค้าล่ะ?”

เหมยลี่ตอบด้วยใบหน้าเย็นชา “ไปแล้วล่ะ”

คนส่งของตกใจ ถือกล่องในมือแล้วถามว่า “อ่าว ทำยังไงดีล่ะ เอากลับไปเหรอ?”

“แล้วจะทำอะๆรๆด้ล่ะ ของมีค่าขนาดนี้ เกิดเสียหายอะไรขึ้นมา เรารับผิดชอบไม่ไหวหรอก” เหมยหลี่กล่าว

ทว่า ตอนนี้เองมีเสียงหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “ผมจะซื้อเอง”

ฮะ!

ทุกคนหันไปตามเสียง สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่หลี่โม่ผู้ต่ำต้อย

“จะซื้องั้นเหรอ? ล้อเล่นอะไรอีก? คุณรู้เงื่อนไขในการซื้อสร้อยคอนี้ไหม? ต้องเป็นสมาชิกระดับซิลเวอร์และมาตรฐานของสมาชิกต้องใช้จ่ายอย่างน้อย 50 ล้านบาท!” เหมยลี่ตวาดอย่างโกรธจัด ทำไมวันนี้ถึงต้องมาเจอคนโง่แบบนี้นะ

“คุณผู้ชายต้องการซื้อจริง ๆ เหรอครับ?” คนส่งของถามด้วยรอยยิ้ม

เหมยลี่พูดอย่างโกรธเคืองทันที “ซื้อบ้าอะไรล่ะ ก็เป็นแค่ไอ้กระจอกที่น่าสมเพช เร็วเข้าเถอะ เอากลับไปได้แล้ว

ชายคนนั้นพยักหน้าไม่พูดอะไร แล้วหันหลังกำลังจะเดินออกไป

ทว่า ตอนนี้เอง ชายร่างกำยำในชุดสูทสีดำก็เดินเข้ามาในร้าน

ทันทีที่เขาผ่านประตูเข้ามาพร้อมสวมถุงมือสีขาว เขายืนอย่างเคารพต่อหน้าหลี่โม่ แล้วยื่นการ์ดสีดำขอบทองให้หลี่โม่!

“นายน้อย นี่ครับ สิ่งที่คุณต้องการ” ชายคนนั้นตอบด้วยความเคารพ

นายน้อยเหรอ?

ฉากตรงหน้านั้น พร้อมกับคำเรียกดังกล่าวทำให้พนักงานหลายคนตกใจ!

คนส่งของก็หยุดก้าวเดินอล้วหันไปมอง เขาาตกใจมากจนแทบยืนไม่ไหว!

“ซู… ซูพรีมแบล็คการ์ด!”

ชายคนนั้นหายใจเข้า ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น!

ขณะที่เขาตะโกน เหมยลี่และพนักงานคนอื่น ๆ ก็ตกใจ!

เพราะว่าในมือของหลี่โม่คือ สุพรีมแบล็คการ์ดของสวารอฟสกี้!

ทั่วโลก มีจำกัดแค่สิบใบเท่านั้น!

เป็นสัญลักษณ์ของสถานะสมาชิกระดับสูงของสวารอฟสกี้เลยทีเดียว!

ผู้ที่มีซูพรีมแบล็คการ์ดนี้สามารถซื้อสินค้าทั้งหมดได้ที่สวารอฟสกี้โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ !

พวกเขาสามารถรับสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 50 ล้านไปได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน!

ใช่แล้ว นี่คือบัตรลิมิเต็ตของโลกที่มีเพียงแค่สิบใบเท่านั้น!

เป็นไปได้อย่างไรกัน?

เหมยลี่รู้สึกประหลาดใจแทบช็อก!

ในทางกลับกัน หลี่โม่โบกมือเบา ๆ ส่งสัญญาณให้คนออกไป แล้วส่งแบล็กการ์ดให้เหมยลี่และถามว่า “รบกวนถามหน่อยครับ ผมมีสิทธิ์ซื้อแล้วหรือยัง?”

เหมยลี่ตัวสั่นขึ้นมาทันทีและก้มตัวตอบว่า “มี… มีค่ะ …”

พระเจ้า!

เธอทำให้ลูกค้าที่มีซูพรีมแบล็คการ์ดไม่พอใจเข้าให้แล้ว!

เธอต้องหาทางกู้สถานการณ์ ไม่ได้การแล้ว!

เหมยลี่รีบเปลี่ยนสีหน้ายิ้มทันที ทักทายเขา แล้วพูดด้วยความกรุณาว่า “คุณผู้ชายคะ เชิญ…”

หลี่โม่ส่ายหัวและขัดจังหวะเธอทันที เขายกมือขึ้นและชี้ไปที่โจวซินอี๋ ซึ่งยังคงสั่นเทาเหมือนทุก ๆ คน เขาพูดว่า “เธอดีกว่า มานี่สิ”

“คะ? คะ...”

โจวซินอี๋เดินเข้ามาอย่างเคอะเขิน แล้วรีบดำเนินการให้แก่หลี่โม่

หากมีแบล็คการ์ดนี้ ก็แทบจะไม่มีขั้นตอนอะไรที่ยุ่งยากเลย

ห้านาทีต่อมา

“ขอแสดงความยินดีกับคุณชายหลี่ สำหรับการซื้อสร้อยเพชรร้อยบุหงาอัปสรเส้นแรกในเมืองนี้นะคะ”

ทั้งร้านแสดงความยินดีอย่างอบอุ่น

หลี่โม่พูดตรง ๆ ว่า “ช่วยส่งไปที่บริษัทหยุนเซิงเภสัชกรรมของตระกูลกู้ให้ผมทีนะ”

โจวซินอี๋พยักหน้าแล้วถามว่า “ให้เขียนชื่อไหมคะ?”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status